แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ
จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 5 คน ของกลางยาบ้า 402,000 เม็ด
ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. ๒๕๓๔
รถยนต์ จำนวน ๕ คัน และอาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. (ปป) , พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป ๖) ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปราม ยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่
ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.ปส), พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส ๑), พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รอง ผบช.ภ.3 (ผช.ปส ๒) และ นายณรงค์ วรหาญ ผอ.สำนักงาน ปปส.ภาค ๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ
การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น ยาเสพติดตาม ยุทธการ “ พิฆาตทรชน คนค้ายาอีสานใต้ ”
เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สส.ภ.๓ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา ๒ คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน ๒,๐๐๐ เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยขะยุง อ.วารินชำราบ จว.อุบลราชธานี ต่อจากนั้นได้สืบสวนขยายผลทำการตรวจยึดยาบ้าจำนวน ๓๓๔,๐๐๐ เม็ด ที่บริเวณถนนซอยแยกจากถนนหลัก ถนนท่าบ่อ-หนองแก ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วยของกลางรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน ๑ คัน นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.๓, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.๓ , พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.๓ , พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รอง ผบช.ภ.๓ , พล.ต.ต.ภาณุ บุรณะศิริ รอง ผบช.ภ.๓ , พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.๓ , พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผบก.ภ.จว. ศรีสะเกษ , พล.ต.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ ผบ.กกล.สุรนารี , พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช รอง ผบก.สส.ภ.๓ , พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ,พ.ต.อ.หัสพงศ์ เติมศิริตังคโณบล รอง ผบก.ภ.จว. ศรีสะเกษ, พ.อ.ไมตรี สุวไกร รอง ผบ.ทก.กกล.สุรนารี,พ.อ.ภาคภูมิ นภากาศ รอง ผบ.ฉก ๒ กกล.สุรนารี, พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.สิทธิชัย ธัญญาบาล ผกก.สืบสวน ๒ บก.สส.ภ.๓ , พ.ต.อ.นิลกาฬ พรศักดิ์ ผกก.สภ.กันทรารมย์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.สุรนารี ร่วมกันสืบสวนขยายผลเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว จากการสืบสวนทราบว่าเป็นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน จะลักลอบนำยาบ้าเข้ามาจำหน่ายให้กับผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 3 หลายจังหวัด
จากการสืบสวนขยายผลต่อมา วันที่ 24 ก.ค. 64 ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายนพิพัฒน์ หรือบุ๊ก หรือเบิก กิ่งแก้ว อายุ ๓๓ ปี ที่อยู่ ๖๓/๑ หมู่ที่ ๑๐ ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยของกลาง
๑.อาวุธปืน AK47 (อาร์ก้า) จำนวน 3 กระบอก ประกอบด้วย
-กระบอกที่ ๑ อาวุธปืน AK47 มีหมายเลขประจำปืน ๑๙๗๓๔๗๐๓๒๔ จำนวน ๑ กระบอก
- กระบอกที่ ๒ อาวุธปืน AK47 (พานท้ายแยกยังไม่ได้ประกอบ) จำนวน ๑ กระบอก
- กระบอกที่ ๓ อาวุธปืน AK47 จำนวน 1 กระบอก
๒.อาวุธปืนลูกซองสั้น (ไทยประดิษฐ์) จำนวน ๑ กระบอก
๓.เครื่องกระสุนปืน AK47 ขนาด ๗.๖๒ จำนวน 20 นัด
๔.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ ๑๒ จำนวน ๑๔ นัด
๕.เครื่องกระสุนปืนขนาด .357 MAGNUM จำนวน ๒๙ นัด
๖.เครื่องกระสุนปืนขนาด ๙ มม. จำนวน ๑๕ นัด
๗.แมกกาซีน AK47 จำนวน ๓ อัน
สถานที่ตรวจยึด/จับกุม บริเวณห้องพักเลขที่ ๗๗/๕ หมู่ ๑๐ ชุมชนโนนเปื่อย ต.ดูน อ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ
บก.สส.ภ.๓
จากผลการจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลางคดียาเสพติด เมื่อวันที่ 16 ก.ค.64 ชุดจับกุมได้ สืบสวนติดตามเครือข่ายนี้อย่างต่อเนื่อง และต่อมาทางการสืบสวนเชื่อว่าเป็นเครือข่ายของนายนพิพัฒน์ หรือเบิก กิ่งแก้ว ซึ่งเป็นเครือข่ายใหญ่จะรับยาบ้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทางด้าน อ.โพนพิสัย จว. หนองคาย และลำเลียงมาส่งพื้นที่ตอนในในเขต ภ.3 และ ภ.4 ครั้งละหลายล้านเม็ดโดยใช้รถยนต์ 3 คัน เป็นขบวนลำเลียงยาเสพติดและมีอาวุธสงครามคุ้มกัน ต่อมาวันที่ 24 ก.ค.64 ชุดจับกุมสามารถควบคุมตัวนายนพิพัฒน์ หรือเบิก กิ่งแก้ว ได้และให้การรับว่ากระทำผิดจริง โดยได้ลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านตรงข้าม อ.โพนพิสัย จว.หนองคาย เข้ามาส่งให้เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน ในเขต ภ.3 และ ภ.4 หลายครั้ง ๆ ละหลายล้านเม็ดโดยส่งตามจุดต่าง ๆ ครั้งละ 100-200 มัด ในเขต จว.ขอนแก่น ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี โดยมีผู้กระทำผิดร่วมจำนวน 4 คน สำหรับค่าจ้างในการลำเลียงจะได้รับเป็นยาบ้าตามมูลค่าของค่าจ้างที่ได้รับครั้งหนึ่งประมาณ 200,000 – 250,000 บาท และรับว่ายังมีอาวุธปืนอาร์ก้า ซุกซ่อนอยู่บนเพดานในห้องเช่าใกล้บ้านเขต อ. กันทรารมย์ จว. ศรีสะเกษ ชุดจับกุมจึงได้ไปตรวจสอบและทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากการสืบสวนขยายผลต่อมาได้ทำการติดตามตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้กระทำผิด เป็นรถยนต์เก๋ง 2 คัน รถยนต์กระบะ 2 คัน รวม 4 คัน ซึ่งใช้ในการลำเลียงยาเสพติด จึงได้ควบคุมตัวนายนพิพัฒน์ หรือเบิกฯ พร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรารมย์ จว. ศรีสะเกษ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และชุดจับกุมอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผลการสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ 200,000 เม็ด ของ สภ.กันทรารมย์ จว.ศรีสะเกษ โดย พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3. , พ.ต.ท.วรวรรธน์ ขันเครือ รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 สามารถสืบสวนขยายผลจับกุมคดียาเสพติดได้ เพิ่มเติม จำนวน 2 ราย ผู้ต้อง 2 คน ตรวจยึดของกลางยาบ้า จำนวน 66,000 เม็ด ดังนี้
วันที่ 25 ก.ค.64 เวลาประมาณ 18.00 น. ชุดจับกุมตรวจยึดยาบ้า จำนวน 16 มัด จำนวน 32,000 เม็ด สถานที่ตรวจยึด ริมถนนในไร่อ้อยทางด้านทิศใต้บ้านกระเดื่อง ม.12 ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่อเนื่องเวลา 21.00 น. จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 17 มัด จำนวน 34,000 เม็ด โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.3 ได้จับกุม นายเชาวลิช หรือหนุ่ม คอแก้ว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 200,000 เม็ด จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ามีการส่งยาบ้ามาจำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีชายชาวลาว ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ใช้การติดต่อสื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก และใช้โทรศัพท์เบอร์ประเทศ สปป. ลาว เป็นนักค้ายาเสพติด ผู้มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้าในลูกค้าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อมาวันที่ 24 ก.ค.64 ชุดจับกุมได้วางแผนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว ต่อมาคนลาวได้ติดต่อมายังสายลับแจ้งว่า ทีมรับจ้างส่งยาเสพติดได้นำยาบ้า จำนวน 16 มัด มาวางไว้กองใบอ้อยที่ริมถนนในไร่อ้อยทางด้านทิศใต้บ้านกระเดื่อง ม.12 ต.สองห้อง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบและตรวจยึดยาบ้าดังกล่าว และได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อมา เวลาประมาณ 21.00 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือนายศุภกิจหรือก้อง พรามนิล อายุ 16 ปี ที่อยู่ 127 ม.9 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จว.บุรีรัมย์ และนายอดิเทพหรือกาน กิจประเสริฐ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 23 ม.15 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จว.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด จากการซักถามขยายผล นายอดิเทพหรือกานฯ รับว่ายังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่บ้านพัก วันที่ 26 ก.ค.64 เวลาประมาณ 08.00 น. ชุดจับกุมจึงได้ไปทำการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 11 มัด จำนวน 22,000 เม็ด ที่บ้านเลขที่ 23 ม.15 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ รวมของกลางยาบ้าทั้งหมด 34,000 เม็ด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนสุวรรณ จว.บุรีรัมย์ โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย