ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวั ดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร (วัดกลางนคร) พร้อมนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ผู้แทนส่วนราชการและภาคเอกชนที่ เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือการจั ดสร้างอนุสาวรีย์สมเด็ จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 1/2561 ในวาระนำเสนอรายละเอียด รูปแบบการดำเนินการจัดสร้ างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์ มหาราชและแนวทางปรับปรุงภูมิทั ศน์พื้นที่ภายในวัดพระนารายณ์ ฯ เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็ จพระนารายณ์มหาราช ผู้สร้างวัดพระนารายณ์ ฯ เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2199 สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองโคราช
นายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเสนอค่าใช้ จ่ายการดำเนินการจัดสร้างปฏิ มากรรมพระนารายณ์มหาราช ซึ่งมีขนาดความสูง 4 เมตร พร้อมแท่นวางประติมากรรมสูง 3.7 เมตร รวมทั้งแนวทางปรับปรุงตกแต่งภู มิทัศน์ ทางเดินเท้าพื้นที่ขนาด 1,200 ตร.ม. การติดตั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้ าส่องสว่างรวมทั้งการรื้ อถอนอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 10 คูหา บริเวณทางเข้าวัด ฯ ด้านถนนประจักษ์ เพื่อเชื่อมต่อศาลหลักเมือง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ ายพร้อมศึกษาผลกระทบ
จากการดำเนินงาน เพื่อให้การออกแบบและการจัดสร้ างฯ มีความเหมาะสมที่สุด สอดรับกับแผนพัฒนาผังเมือง นำไปสู่การจัดทำหนังสือขออนุ ญาตกรมศิลปากรพิ จารณาความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ได้พิจารณาจัดทำรูปหล่ อและเหรียญให้เช่าบูชาเพื่ อหารายได้สมทบทุนการจัดสร้างฯ รวมทั้งกำหนดปฏิทินดำเนินงานให้ ทุกฝ่ายทราบภาระหน้าที่ และประสานงานทุกภาคส่วนอย่างมี ประสิทธิภาพ
ด้านพระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยแนวทางการพัฒนาศาลหลั กเมืองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วั ดพระนารายณ์ ว่า สืบเนื่องจากจากโยมผู้เช่าที่ดิ นของวัดได้คืนสิทธิ์ การครอบครองที่หมดสัญญาในปี 2564 โดยมีความต้องการให้เกิดพื้นที่ เพิ่มเติมบริเวณด้านทิศเหนื อของศาลหลักเมือง คณะกรรมการวัดฯ ได้ปรึกษาหารือร่ วมคณะกรรมการศาลหลักเมื องและนายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา รวมทั้งหัวหนาส่วนราชการที่เกี่ ยวข้อง เพื่อตรวจสอบทางด้านวิ ศวกรรมสภาพอาคาร ในการเตรียมรื้อถอนอาคาร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้ เดินทางมากราบไหว้ สักการะศาลหลักเมืองได้สะดวกยิ่ งขึ้น โดยเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่วั ดพระนารายณ์ ฯ สามารถประกอบกิจกรรมระหว่างวั ดและศาลหลักเมืองได้สะดวกคล่ องตัวกว่าเดิมที่ต้องเดินอ้ อมไปทางด้านหลัง
อาตมาขอแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่วั ด ฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ หากรายใดครบกำหนดสัญญาเช่ าตามกฎหมาย โปรดคืนพื้นที่ให้วัด โดยเฉพาะบริเวณถนนประจักษ์หรื อด้านทิศตะวันตก เพื่อก่อสร้างกำแพงวัดฯ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ สวยงามรองรับการก่อสร้ างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็ จพระนารายณ์มหาราช ให้สมเกียรติและเป็นแลนด์มาร์ คของโคราช
นอกจากนี้ยังจัดสร้างพื้นที่ บรรจุอัฐิธาตุของท้าวสุรนารี (ย่าโม) ตรงมุมทิศพายัพหรือทิศตะวั นตกเฉียงเหนือ จากประวัติที่สืบค้น เมื่อปี พ.ศ. 2477 ได้ย้ายอัฐิธาตุย่าโมออกจากวั ดไปประดิษฐานที่ประตูชุมพลจนทุ กวันนี้ กรรมการวัด ฯ จึงขอคืนพื้นที่เพื่อบูรณะรั กษาพื้นที่ประวัติศาสตร์ไว้ให้ คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้เห็ นความสำคัญของย่าโม วีรสตรีกู้ชาติ หากเปิดพื้นที่ตามแผนที่ กำหนดไว้ จะเห็นความงดงามของศาลหลักเมือง เจดีย์วัด ฯ และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็ จพระนารายณ์มหาราชรวมทั้งพื้นที่ ประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารี เชื่อจะเกิดความแตกต่างไปจากเดิ มซึ่งที่ผ่านมามีอาคารพาณิชย์ บดบังทัศนียภาพ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์ ฯ กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวั ดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมื องติดกลับศาลหลักเมือง สมัยโบราณเรียกว่า “ วัดกลาง ” หรือ “ วัดกลางนครโคราช วรวิหาร ” โดยถือเอาวัดพระนารายณ์ ฯ เป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยวัดอื่น ๆ ตามที่ตั้งอยู่ทิศต่าง ๆ ตามชื่อทิศ เช่น วัดบูรพ์ (บูรพา) วัดอิสาน วัดพายัพและวัดบึง วัดสระแก้ว รวม 6 วัด ที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมื องโคราช วัดกลางนคร จัดเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมื องที่ประชาชนให้ความเคารพนับถื อในสมัยก่อนมีพิธีที่ข้ าราชการทุกแผนกจะต้องสาบานตนว่ าจะต้องรั บราชการสนองพระเดชพระคุณด้ วยความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พิธีนี้เรียกว่า พิธีถือน้ำพิพัฒน์สั ตยาทางราชการได้ใช้วั ดพระนารายณ์มหาราช ฯ เป็นสถานที่ในการประกอบพิธี รวมทั้งให้เป็นสถานที่ทำพิธี สวดเสกน้ำพระพุทธมนต์ ถวายในงานพระราชพิธีเสวยราชสมบั ติ ปัจจุบันวัดพระนารยณ์ ยังมีศิลปะวัตถุพร้อมทั้ งแบบสถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรี อยุธยาและปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระอุโบสถที่ตั้งอยู่ เกาะกลางสระบัวทิศตะวันออกของวั ด พระวิหารหลวงและเทวรู ปพระนารายณ์สี่กร จำหลักด้วยหินทรายฝีมื อขอมโบราณอันเป็นสัญลักษณ์ แสดงพระนามผู้สร้างวัด