นายกร  จาติกวณิช  หัวหน้ากลุ่ม  “กล้า”  พร้อมทีมงาน  ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบปะพี่น้องประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อน


นายกรณ์  จาติกวณิช  หัวหน้ากลุ่ม  “กล้า”  พร้อมคณะทีมงาน  ได้ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา   พบปะพี่น้องประชาชน ให้กำลังใจในการต่อสู้กับสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด 19  พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่เดือดร้อน  โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้ไปเยี่ยมชม บริษัท ณรงค์โลหะกิจ 1995 จำกัด  ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.มะเกลือใหม่  อ.สูงเนิน
จ.นครราชสีมา  ซึ่งเป็นโรงงานรับซื้อ  ขายเศษเหล็ก  โดยเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่ให้การสนับสนุนกลุ่มกล้า ในการรับบริจาคสิ่งของจากผู้ใจบุญ  เพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

จากนั้น  นายกรณ์  จาติกวณิช  พร้อมคณะ  ได้เดินทางไปลงพื้นที่ที่บ้านโนน
สระสามัคคี  ม.15  ต.หนองหญ้าขาว  อ.สีคิ้ว  จ.นครราชสีมา  เพื่อลงพบปะพูดคุยปัญหากับชาวบ้าน  กลุ่ม อสม.  โดยมี  นายอรรถพล  ศรีโสภา  ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนสระสามัคคี ม.15  พูดคุยเสนอแนะถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่  อาทิ  สถานการณ์ของการระบาดของไวรัสโควิด 19 ที่สร้างความลำบากให้กับชาวบ้านในเรื่องการหากิน  โดยเฉพาะปัญหาการลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาจำนวน 5 พันบาท  จากทางรัฐบาล  ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ได้ลงทะเบียนไปกลับปรากฏว่าไม่ผ่านเกณฑ์ในการได้รับเงินดังกล่าว  รวมไปถึงปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่  และการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ของทางโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลในพื้นที่

นายกรณ์  จาติกวณิช  หัวหน้ากลุ่ม “กล้า”  กล่าวว่า  ในการลงพื้นที่ในครั้งนี้
ได้มีโอกาสพบกับผู้นำท้องถิ่น  รวมไปถึงพี่น้องประชาชนในการรับฟังปัญหาความเดือดร้อน  ถึงมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล  ว่าจะมาถึงชาวบ้าน และสามารถช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านได้จริงหรือไม่  ซึ่งวันนี้ก็ต้องสะท้อนข้อเท็จจริงกลับไปว่ามาตรการต่างๆ ยังมาไม่ถึงเต็มรูปแบบ
ซึ่งที่ดีที่สุดตอนนี้คือสถานการณ์ทางด้านรับมือกับไวรัสโควิดที่ถือว่าประสบความสำเร็จ  มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขผ่านมายัง รพ.สต. รวมไปถึงการทำงานของ อสม.
มีประสิทธิภาพอย่างมาก  ถึงแม้ว่ามีลูกบ้านที่เป็นผู้ใช้แรงงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร
และเมืองใหญ่อื่นๆ ที่ได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนา  ก็มีระบบในการจัดการ การกักตัว
มีวินัยในการดูแลที่ดี  ทำให้ในพื้นที่นี่ ณ วันนี้ ยังไม่มีผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด  ซึ่งหากภาพนี้สะท้อนไปทั่วประเทศเราจะเห็นถึงระบบสาธารณสุขที่มีความเข้มแข็งของไทยในระดับหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ยังขาดอุปกรณ์ในการทำงาน  ขาดงบประมาณในการบริหารจัดการอยู่หลายจุด
ก็เชื่อว่ารัฐบาลก็คงรับรู้  แต่ประเด็นเฉพาะหน้าที่ยังเป็นปัญหา  คือเรื่องความเดือดร้อนจากการขาดรายได้  ซึ่งช่วงนี้ชาวบ้านไม่มีโอกาสในการทำมาหากินซึ่งสร้างความเดือดร้อนอย่างมาก  โดยเฉพาะเรื่องของการลงทะเบียนเพื่อรับเงินเยียวยาจำนวน 5 พันบาท  อยากให้รัฐบาลได้ทบทวนกลั่นกรองด้วยเม็ดเงินที่รัฐบาลกำลังจะมีในมือในการออก พ.ร.ก. ที่จะสามารถดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง  ส่วนปัญหาภัยแล้ง  และแหล่งน้ำ  ซึ่งตรงนี้จะมีปัญหาต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว  ตนก็ได้รับฟังข้อเสนอของทางผู้นำท้องถิ่น รวมไปถึงชาวบ้าน
ที่มีความชัดเจนว่าการแก้ปัญหาน้ำในระยะยาวจะดำเนินการอย่างไร  การเสนอแผนผ่านกรมชลประทานไปก็ได้ดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว  ตนคิดว่าเมื่อพ้นสถานการณ์โควิดไปแล้วรัฐบาลก็ควรจะหันมาให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเรื่องของภัยแล้งอย่างยั่งยืนและถาวรให้กับพี่น้องชาวอีสานต่อไป

 

หลังจากนั้น นายกรณ์ฯ  พร้อมคณะ  ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 2/3  บ้านโนนสระสามัคคี  ม.15  ต.หนองหญ้าขาว  เพื่อมอบถุงยังชีพ  สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับ
นายอุดม  จันทร์เจริญ  ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง  อาศัยอยู่กับภรรยา  และบิดาที่ชราภาพ  ไม่มีรายได้  มีเพียงเบี้ยผู้พิการกับเบี้ยผู้สูงอายุในการดำรงชีพเท่านั้น

จากนั้นไปต่อที่บ้านเลขที่ 47  ม.6  บ้านหนองหัววัว  ต.กฤษณา  อ.สีคิ้ว  เพื่อมอบถุง
ยังชีพ  สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับ นางสมบัติ  บัวสระ  ผู้ป่วยติดเตียง  ที่อาศัยอยู่กับสามี

หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ไปที่  ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน  ม.1  ต.ตะเคียน  อ.ด่านขุนทด
จ.นครราชสีมา  เพื่อพบปะกับผู้นำท้องถิ่น  ชาวบ้าน  อสม. ในพื้นที่  โดยมี  นางสุนิษา
เทียนขุนทด  ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.เคียน  ให้การต้อนรับ  พร้อมเสนอแนะถึงปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ถึงปัญหาต่างๆ อาทิ  ผลกระทบจากไวรัสโควิด 19 , สถานการณ์การณ์ภัยแล้ง พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย , ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ  เช่น  ข้าว  อ้อย  และข้าวโพด  รวมไปถึงปัญหาหนี้สินของเกษตรกร  ก่อนที่ทางคณะกลุ่มกล้าจะได้ไปมอบถุงยังชีพ สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้กับชาวบ้าน  เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้นต่อไป