โคราช เปิดเวทีสาวพลัสไซซ์ แถลงข่าวการจัดการประกวด “ธิดาช้างไทยแลนด์ 2025“ จัดยิ่งใหญ่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 จัด 6 เวที 6 ภูมิภาค คว้ามงกุฎพร้อมชิงเงินรางวัลกว่าแสนบาท

วันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ลานมอลล์พาร์ค ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช มีการแถลงข่าวการประกวด “ธิดาช้างไทยแลนด์ 2025 ” โดยมีนายคณัสชนม์ ศรีเจริญ ปลัดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนง.นครราชสีมา, น.ส.ปาริชาติ อยู่หมื่นไวย ประธานกู้ภัยหมาแมวโคราช,นางสมพร สร้อยคำ ผจก.ฝ่ายอาวุโสปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด นางสาวจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์และผู้สนับสนุนการประกวดเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

กองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์, เดอะมอลล์โคราช และพันธมิตร ได้ร่วมกันจัดเวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2025 ขึ้น โดยจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมาให้คนทั้งประเทศรับรู้ถึงความเป็นจังหวัดนครราชสีมา และยังกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้มีสีสัน ทั้งนี้กองประกวดธิดาช้างยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตร อาทิ Giant Petshop ,บริษัท ศุภกิจโฮม จำกัด ร้านขนมไทยไพจิตร , Vasana Clinic มอบเงินสนับสนุนการทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้กับกองประกวดธิดาช้างอีกด้วย

การประกวดธิดาช้างไทยแลนด์จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาธิดาช้าง ตัวแทนของแต่ละภูมิภาคเข้ามาประกวดรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 15 พ.ย.68 ที่เดอะมอลล์โคราช ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้ารับตำแหน่งธิดาช้างและธิดาช้างควีนเมืองย่าไทยแลนด์ 2025 ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่าแสนบาท และเป็นตัวแทนทำกิจกรรมด้านต่างๆ

โดยเปิดโอกาสให้สาวแท้และสาวประเภทสองที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 80 กิโลกรัม ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเอง ซึ่งปี 2025 ได้จัดประกวด 6 เวที 6 ภูมิภาค ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รักษ์ช้าง รักษ์ไทย รักษ์โลก” ช่วยเหลือช้าง ช่วยเหลือหมา แมวจร และทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม ปีนี้พิเศษมากขึ้นเพราะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานกู้ภัยหมาแมวโคราช และกองประกวดธิดาช้างได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือเกื้อกูลเมตตา หมา แมวจรในจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ร่วมมือกันในการทำกิจกรรมจิตอาสาสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคม และจังหวัดนครราชสีมา

ซึ่งนางสาวจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ เปิดเผยว่า “จะทำกิจกรรมระหว่างการประกวดเพื่อหาเงินสมทบทุน สนับสนุนโครงการ “กู้ภัยหมาแมวโคราช” และสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระราชูปถัมภ์และจัดเลี้ยงบุฟเฟต์อาหารช้างให้กับศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปางเนื่องในวันอนุรักษ์ช้างไทย อีกทั้งยังช่วยเหลือช้าง หมา แมวจรที่ประสบปัญหา”

“ส่วนการเก็บตัวของธิดาช้างในรอบชิงชนะเลิศ ทางกองประกวดได้รับความร่วมมือจาก ททท.จังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนสถานที่เก็บตัวเพื่อให้ผู้เข้าประกวดได้รับรู้ถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ชาวโคราชภูมิใจและสืบทอดกันต่อมาอันเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัด อาทิ ผ้าไหมปักธงชัย ชิมขนมจีนประโดก เป็นต้น”

และสำหรับชุดในรอบชิงฯ จะประกวดในธีมชุด “Animal Fantasy” โดยนำสัตว์ประจำถิ่นเป็นอัตลักษณ์ของชุดมาประกวด เช่น โคราชอาจเป็นชุดแมวมาประกวดบนเวทีธิดาช้างไทยแลนด์


ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าประกวด สามารถติดต่อขอรับรายละเอียดและซื้อใบสมัครได้ที่ กองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์หรือดาวน์โหลดใบสมัครและระเบียบการได้ที่ Facebook Fanpage : ธิดาช้างไทยแลนด์

ผู้ว่า ฯ โคราช มอบโล่ผู้สนับสนุนเงินรางวัลการจัดงานวันนักข่าว

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ณ ห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มอบโล่ผู้สนับสนุนเงินรางวัลการจัดงานวันนักข่าว ในงาน”วันนักข่าว” โดยสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา
1.นางเข็มทอง เรืองกฤตยา ประธานชมรมผู้ค้ารถยนต์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา 10,000 บาท
2.ผู้บริหาร บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน) สำนักงานนครราชสีมา (มอบในวันงาน) 10,000 บาท
3.ผู้บริหาร บริษัท สงวนวงษ์อุตสาหกรรม จำกัด 10,000 บาท
4.นางสาวนลิน โรจนวัทธิกร ผู้ก่อตั้งเพจห้วยแถลง 10,000 บาท
5.บริษัท วัทธิกร กฎหมายและธุรกิจ จำกัด 10,000 บาท
6.พล.ต.ท. วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 จำนวน 10,000 บาท

และผู้สนับสนุนเงินรางวัลที่ได้รับมอบประกาศณียบัตร มีดังนี้คือ
พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จำนวน 2,000 บาท
ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา 2,000 บาท
นายสุวัฒน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี 5,000 บาท
นายศรรบ หล่อธราประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสงวนโภชนา จำกัด และบริษัท ไทยสงวน จำนวน 5,000 บาท
นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัทเดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด จำนวน 5,000 บาท

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวัฒม์ วงษ์ชวลิตกุล อธิการบดี มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล พล.ต.ต. ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์สุผล ตติยะนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา นายพิทยา แสงรุ่ง ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา
หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางสาวอรวรรณ มีใหม่ นายอำเภอเมืองนครราชสีมา คุณกัญญารัตน์ – คุณจิราพร ทัศนานุกุลกิจ ที่ปรึกษาและรองนายกกิ่งกาชาดอำเภอปากช่อง ร้านกาแฟโบราณคุณแต๋ว หนองไผ่ล้อม

งานดังกล่าวถือเป็นเวทีสำคัญในการส่งเสริมความรู้ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และสร้างจิตสำนึกในการใช้สื่อดิจิทัลอย่างมีสติและปลอดภัย

วันนักข่าว” จัดโดย สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ เดอะมอลล์นครราชสีมา
ในงาน นอกจากจะมีการมอบโล่เกียรติยศแด่บุคคลดีเด่น ประจำปี ๒๕๖๘ แล้ว ยังมีการเสวนาหัวข้อ”รู้ทันภัยไซเบอร์” และการประกวดเต้น cover dance

กันตินันท์ เรืองประโคน/รายงาน #Thainews7

พบร่องรอยมนุษย์​ก่อนประวัติศาสตร์​โคราชอายุกว่า 2,400​ ปี กลางเมืองโคราช

พบร่องรอยมนุษย์​ก่อนประวัติศาสตร์​โคราชอายุกว่า2, 400​ ปีกลางเมืองโคราช
โดยประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรมจริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ลงพื้นที่แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน

วันนี้ (7ก.พ.68) เวลา15.30น. นางเอมอร ศรีกงพาน สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครราชสีมา ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรมจริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม ลงพื้นที่ติดตามผลดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี ภายใต้โครงการศึกษาร่องรอยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองเก่านครราชสีมา ณ แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยนายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ,ผศ.ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโลก ,นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ ,นางประกายมาศ กิริวัฒนศักดิ์ ร่วมเยี่ยมชม
สำหรับการขุดค้นทางโบราณคดี ภายใต้โครงการศึกษาร่องรอยมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในพื้นที่เมืองเก่านครราชสีมา ณ แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.–12 ก.พ. 2568 บริเวณเดียวกับที่ได้ทำการขุดค้นครั้งแรกเมื่อปี 2567 โดยพบโครงกระดูกมนุษย์ทั้งหมด 6 โครง อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 2 โครง และพบโบราณวัตถุ ภาชนะดินเผาแบบที่มีชื่อทางวิชาการว่า “พิมายดำ” เครื่องมือเหล็ก กระสุนดินเผา ชิ้นส่วนสำริดและอุปกรณ์สำหรับทอผ้า ได้แก่ แวดินเผา ขณะที่การขุดค้นที่ระดับความลึก 100-180 เซนติเมตรจากผิวดินพบการฝังศพของมนุษย์ในลักษณะนอนหงาย เหยียดยาว จำนวน 6 โครง ถูกฝังร่วมกับของอุทิศให้กับผู้ตาย ซึ่งความพิเศษอยู่ที่โครงกระดูกมนุษย์ หมายเลข 1 พบการฝังภาชนะดินเผาแบบพิมายดำ สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานที่ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วว่า แหล่งโบราณคดีโนนพลล้าน เป็นแหล่งฝังศพของวัฒนธรรมยุคก่อนประวัติศาสตร์ สมัยเหล็ก ซึ่งมีอายุสมัยอยู่ในช่วง 2,400-1,500 ปีมาแล้ว

การดำเนินงานทางโบราณคดีในครั้งนี้ นอกจากนักโบราณคดีของกรมศิลปากรแล้ว ยังมีอาสาสมัครโบราณคดีราชสีมา จากนักศึกษาสาขาวิชาสังคมศึกษา และสาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เข้ามาเป็นผู้ช่วยขุดค้นทางโบราณคดี ตลอดจนใช้กระบวนการทางชีววิทยาเพื่อศึกษาวิเคราะห์สภาพแวดล้อมโบราณของพื้นที่บริเวณนี้ต่อไป นับเป็นการบูรณาการความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นอกจากนี้ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมายังเปิดนิทรรศการข้างหลุมขุดค้น เรื่อง “สืบร่องรอยมนุษย์โบราณ เมืองเก่านครราชสีมา จากหลักฐานทางโบราณคดี” ให้ประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนผู้สนใจเดินทางเข้ามาศึกษาเรียนรู้ควบคู่ไปพร้อมกับการเยี่ยมชมการขุดค้นในช่วงเวลา 09.30 น ถึง 16.00 น. ไปจนถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะมีนักโบราณคดีคอยบริการให้ความรู้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความรัก และหวงแหน มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย

โคราช เปิดงาน AgroFEX 2024 ส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน

โคราช เปิดงาน AgroFEX 2024 ส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเงินสะพัดภายในงานทะลุกว่า 1,250 ล้านบาท

      วันนี้ ( 14 พฤศจิกายน 2567 ) เวลา 15.30 น. นายเทวัญ  ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงาน Agro FEX 2024 มหกรรมแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรม BCG เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมอาหาร ณ Korat Hall ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช

           นายเทวัญ  ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า BCG Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

          โดยเปลี่ยนข้อได้เปรียบที่ไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม ให้เป็นความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจ BCG ที่เติบโต แข่งขันได้ในระดับโลก เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ ชุมชนเข้มแข็ง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน  ขอชื่นชมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย หรือจุดมุ่งหมายในการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรม BCG เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมอาหาร จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมในหลายๆ ด้าน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญด้านต่างๆ ของภาคอีสาน ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง หรือสายการบิน ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะทำให้เมืองโคราชเติบโต และพัฒนาอย่างรวดเร็ว เกิดความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และยังส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 อย่างยั่งยืนอีกด้วย

      นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต  รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ  กล่าวว่า งานแสดงสินค้า เป็น Platform ทางการตลาดที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่การจัดงาน และแน่นอนว่าจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสานนั้น อุตสาหกรรมเกษตรเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ การที่มีงานแสดงสินค้าในรูปแบบ B2B

       จะยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตพืชผลทางการเกษตรของภาคอีสานอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งจังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดเมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีศักยภาพความพร้อมในการรองรับการจัดงานแสดงสินค้าอย่างมีมาตรฐาน มีสถานที่จัดงาน มีผู้จัดงาน และมีฐานการเกษตรทั้งในฝั่ง Supply และ Demand ที่ครบองค์ประกอบ งาน AgroFEX 2024 จะยิ่งเสริมเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและต่อยอดทางธุรกิจ การค้า การลงทุน และองค์ความรู้ระยะยาว

        เป็นงานแสดงสินค้าที่มุ่งเน้นศักยภาพของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมด้านการเกษตรแปรรูป ส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือ BCG ที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีเส็บสนับสนุน งาน AgroFEX 2024 ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Empower Thailand Exhibition (EMTEX) โดยโครงการนี้มุ่งยกระดับงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพขึ้นระดับภูมิภาค จากการที่ทีเส็บได้ร่วมทำงานกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เราเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมด้านการเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหาร ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีแนวโน้มเติบโต ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยทีเส็บสนับสนุนและร่วมยกระดับการจัดงานเป็นปีที่ 4 โดยเข้ามามีบทบาทให้การสนับสนุนงบประมาณโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเป็นตัวนำ และร่วมเป็นที่ปรึกษาร่วมวางกลยุทธ์การขยายตลาด ขยายกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย (Target Buyer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้มากที่สุด เพื่อให้งานแสดงสินค้านี้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอนาคต ซึ่งตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย Business Matching ในงานไม่น้อยกว่า 1,250 ล้านบาท พร้อมทั้งร่วมเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าในประเทศ หรือ EMTEX อีกทั้งทีเส็บยังช่วยสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยี Bizconnect ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนในการเข้าร่วมงานอีกด้วย

            นางธิดารัตน์ รอดอนันต์  ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “AgroFEX 2024” จัดโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) (TCEB) องค์กรภาครัฐและเอกชน มีโครงการจัดงานแสดงสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร ที่เน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่อุปทาน (BCG model–Bio,Circular,Green Economy&Supply Chain) ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้ชื่องาน “AgroFEX 2024” กำหนดจัดงานครั้งที่ 4 ขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2567 ณ Korat Hall  ชั้น 4  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราชเพื่อส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand Carbon Neutrality

           ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ลดการใช้ทรัพยากรและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเป็นความร่วมมือบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานกว่า 130 ราย ที่มาจัดแสดงนิทรรศการในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอด้าน BCG (Bio-Circular-Green Economy) อุตสาหกรรม SME ด้านการเกษตรและอาหาร การเลี้ยงสัตว์ เทคโนโลยีด้านการเกษตร รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็งและยั่งยืน การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทยให้ก้าวหน้า ซึ่งปีนี้มีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำคัญได้แก่ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งในและต่างประเทศ คูหาแสดงสินค้าจากต่างประเทศ (International Pavilion) เช่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม เป็นต้น

พิธีอัญเชิญเทพเจ้าประทับทรงแห่รอบเมืองโคราช ( อิ้วเก้ง)

เริ่มแล้ว! ” พิธีอัญเชิญเทพเจ้าประทับทรงแห่รอบเมืองโคราช ( อิ้วเก้ง) ” 5 ตุลาคม 2567 ณ บริเวณลานย่าโม เวลา 08.29 น. 

 โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธี ฯ

การเตรียมความพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพ งานมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572

 วันที่ 19 สิงหาคม 2567 จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. และหน่วยงานภาคีภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรม “เตรียมความพร้อม ร่วมเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572”

เพื่อร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การเตรียมความพร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพงานมหกรรมพืชสวนโลก หรือ โคราช เอ็กซ์โป 2029 แสดงศักยภาพในการเปิดบ้านต้อนรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ร่วมด้วย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา พูดคุยถึงแนวทางการการเตรียมการของภาครัฐและเอกชน

บทบาทของแต่ละภาคส่วนในการดำเนินการนับจากนี้เป็นต้นไป จนถึงวันจัดวานในอีก 5 ปีข้างหน้าทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมซึ่งทุกภาคส่วนล้วนมีแนวทางการดำเนินงานและเป้าหมายเดียวกัน คือ การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก“โคราช เอ็กซ์โป 2029” ให้ประสบความสำเร็จ ดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลกมายังจังหวัดนครราชสีมา และประเทศไทย และผลในระยะยาวคือการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

มทส. ร่วมกับ ภาคีเครือข่าย จัด “มวยโคราชประกาศศักดา”สืบสานและยกระดับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ต่อยอด Soft Power โคราช

     มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) โดย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านความเป็นผู้ประกอบการ ร่วมกับ หน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม “มวยโคราชประกาศศักดา” เผยแพร่ศิลปะการต่อสู้ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาวโคราช ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เครือข่ายธุรกิจและเครือข่ายด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ สร้างสำนึกท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ต่อยอดให้เป็น Soft Power ของจังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ณ โคราช ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช จังหวัดนครราชสีมา

นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิด และ รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นายไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นางสาวอารีรัตน์ มนตรีปรีชาชัย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TCEB) ร่วมกล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายสวัสดิ์ มังกรวัฒน์ นายกสมาคมโรงแรมจังหวัดนคราชสีมา ดร.เช้า วาทะโยธา นายกสมาคมมวยโคราช นายสุริยา ปิ่นรัตน์ ผู้อำนวยการงานปฏิบัติการสาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นางสาวนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช และผู้มีเกียรติร่วมงาน โดยมี อาจารย์ ดร.มัลลิกา สังข์สนิท รองอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ นวัตกรรม

และความเป็นผู้ประกอบการ มทส. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านความเป็นผู้ประกอบการ และหัวหน้าโครงการวิจัย เรื่อง “การจัดการวัฒนธรรมสร้างสรรค์จากมวยโคราช เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น” กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานกิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ได้แก่ เสวนาเม้าท์มอยเมืองมวย

“โอกาสในการเป็นผู้ฝึกสอนมวยไทยในต่างประเทศ” โดย ดร.เช้า วาทโยธา “เส้นทาง บาดแผล และรอยยิ้มของนักสู้” โดย พันโทสมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2008 “จากสังเวียนสู่ธุรกิจ” โดย ค่าย ช.ชนะมวยไทย และนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา การแสดงสาธิตและการแข่งขันคีตะมวยโคราช ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ศึกชิงชัย Korat Fight ของนักมวยมืออาชีพ รวมทั้งนิทรรศการสืบตำนานมวยโคราช และบูทกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ เกมส์มวยโคราช Art Toy มวยโคราช ฝึกท่ามวยโคราชกับผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมมวยโคราช เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้และสัมผัสกับศิลปะมวยโคราชอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ “มวยโคราชประกาศศักดา” เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการวิจัย เรื่อง “การจัดการวัฒนธรรมสร้างสรรค์จากมวยโคราช เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสำนึกท้องถิ่น” โดย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านความเป็นผู้ประกอบการ (Center of Excellence for Entrepreneurship) มทส. หรือ SUT Entrepreneurship

     ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริม ววน. และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ดำเนินการวิจัยและพัฒนาศิลปะการต่อสู้นี้ให้สามารถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นในทุกมิติ มุ่งเน้นการใช้มวยโคราชเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่จะเชื่อมโยงและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการนำเสนอวัฒนธรรมในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การจัดทำแผนที่วัฒนธรรม (Cultural Map) การพัฒนามวยโคราชให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการในพื้นที่ และการฝึกอบรมครูผู้สอนมวยโคราช โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการจัดกิจกรรมพัฒนาครูผู้สอนมวยโคราชและกิจกรรม MuayKorat GameHack สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรและภาคีต่าง ๆ ได้แก่ สมาคมมวยโคราช สมาคมโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB) และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช

พิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้นน้ำลำตะคอง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

     จังหวัดนครราชสีมา จัดพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้นน้ำลำตะคอง  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

     วันนี้ (4กค.67) ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำคณะส่วนราชการ  เดินเท้าเข้าไปภายในต้นน้ำลำตะคอง บริเวณเหนือฐานปฎิบัติการเฉพาะกิจคลองอิเฒ่า  อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระยะทาง 3 กม.เพื่อประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์

     งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยภายหลังจากการประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เชิญขันสาครและที่ตักน้ำขึ้นเสลี่ยงเดินเท้าออกจากป่าเขาใหญ่ระยะทาง 3 กม.ก่อนเชิญขึ้นรถบุษบกแห่ไปยังอำเภอปากช่อง  อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ มุ่งหน้าสู่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา  และเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่ลอดซุ้มประตูชุมพล ไปยังวัดพระนาราย์มหาราชวรวิหาร

      ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมา กำหนดประกอบพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฏาคม 2567 ณ ต้นน้ำลำตะคอง บริเวณเหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลองอิเฒ่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฏาคม 2567 เวลา 17.09 น. ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร

        พิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ วันจันทร์ที่ 8 กรกฏาคม 2567 เวลา 12.00 น ณ พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และพิธีเชิญคนโทน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดไปเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงมหาดไทย ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฏาคม 2567

วันบุพการีวัดบึง ประจำปี 2567 ฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 77 ปี

        วันนี้ (30มิ.ย.67) เวลา10.00น. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในงานวันบุพการีวัดบึง ประจำปี 2567 ฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 77 ปี

         พระเทพสีมาภรณ์ (วันชัย กนฺตจารี ป.ธ.7) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ฉลองพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งรองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พระครูปริยัติสีมาภรณ์ (สมคิด ปคุโณ ป.ธ.4) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึง พระอารามหลวง ,เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาฉลองสัญญาบัตรพัดยศพระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง พระครูสุตวัชรธรรมากร (มหาจ่อย) ผู้ช่วยเจ้าวาสวัดบึง พระอารามหลวง ณ วัดบึง พระอารามหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมยุวพุทธิ​กวิสาขบูชา​และเวียนเทียนพร้อมมอบใบประกาศเกียรติคุณผู้ส่งเสริมกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญพุทธศาสนา

          วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ณ. พระอุโบถสวัดสุทธจินดา ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา  โดยเจ้าอาวาส พระอุดมธีรคุณ (ภาวัต วิสุทฺเธสโก) เจ้าอาวาส วัดสุทธจินดาดา ประธานสงฆ์ และมอบใบประกาศเกียรติจำนวน 20 คน พร้อมด้วยนายชนันท์ชัย ธงธรรมรัตน์ นายกยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวการดำเนินงานและกิจกรรมคฌะกรรมการและสมาชิกนักเรียนเข้าร่วมจำนวน 300 คน และประชาชนทั่ว ๆ ไป

        ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดนครราชสีมาได้จัดกิจกรรมเนื่องจากวันพุธ 22 พฤษภาคม เป็นวันวิสาขบูชา  ก่อนที่จะเริ่มทำการเวียนเทียน พุทธศาสนิกชนควรร่วมกันกล่าวบทสวดมนต์และคำบูชาในวันวิสาขบูชา ซึ่งโดยปกติตามวัดต่าง ๆ จะจัดให้มีการทำวัตรสวดมนต์ก่อนที่จะเริ่มเวียนเทียน ส่วนใหญ่นิยมปฏิบัติพิธีการเวียนเทียนกันอย่างเป็นทางการ มีพระสงฆ์เป็นผู้นำเวียนเทียน

       ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดนครราชสีมามีวัตถุประสงค์ดังนี้

๑. เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณธรรมจริยธรรม

๒. เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีทักษะและนิสัยในการสร้างความดี

๓. เพื่อให้เด็กและเยาวชนใช้คุณธรรมเป็นต้นทุนสำหรับสร้างทักษะชีวิต สร้างภูมิคุ้มกันปัญหาและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี

        ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัดนครราชสีมาได้ตระหนักถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา เนื่องจากมีเหตุการฌ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดพระพุทธศาสนาคือวันที่พระศาสดาประสูติตรัสรู้และปรินิพาน และเล็งเห็นความสำคัญที่จะเกิดแก่เด็กและเยาวชนของชาติและสาธุชน จึงได้จัดให้มีกรรมส่งเสริมพระพุทธคาสนาขึ้น คือกิจกรรมวียเทียนวันวิสาบูชา โดยมีวัตถุประสงค์รณรงค์ ปลูกจิตสำนึก ให้เด็ก เยาวชน ประชาชน ตระหนักถึงความสำคัญในวันวิสาขบูชาสร้าง ปลูกฝั่งคุณธรรมจริยธรรมแก่เด็ก เยาวชน ประชาชนได้นำไปใช้ในชีวิตประจำวันจรรโลงสังคมไทยให้เป็นสังคมดีมีคุณธรรมจริยธรรมอย่างยั่งยืน โดยใช้มิติทางศาสนา  ในขณะเดียวกันเป็นการน้อมกราบปฏิบัฐชาองค์พระศาสดา โดยนำโครงการกองทุนอบรมคุณธรรมเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ปี พ.ศ.๒๕๖๗ และปีต่อๆไป เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน โดยการอบรมคุณธรรมเด็กและเยาวชนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

        แต่ทั้งนี้โครงการจะสำเสร็จได้และก้าวเดินต่อไปจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยแรงศรัทธาจากสาธุชนทุกภาคส่วนมาร่วมด้วยช่วยกัน เป็นการน้อมกราบบูชาองค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อันจักเป็นมงคลแห่งชีวิต คือความสุข สงบ ร่มเย็นทั้งส่วนตนและสังคมอีกต่อไป