โคราช เปิดงาน AgroFEX 2024 ส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน

โคราช เปิดงาน AgroFEX 2024 ส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดเงินสะพัดภายในงานทะลุกว่า 1,250 ล้านบาท

      วันนี้ ( 14 พฤศจิกายน 2567 ) เวลา 15.30 น. นายเทวัญ  ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการเปิดงาน Agro FEX 2024 มหกรรมแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรม BCG เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมอาหาร ณ Korat Hall ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช

           นายเทวัญ  ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า BCG Model เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุล ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน

          โดยเปลี่ยนข้อได้เปรียบที่ไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม ให้เป็นความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจ BCG ที่เติบโต แข่งขันได้ในระดับโลก เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ ชุมชนเข้มแข็ง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน  ขอชื่นชมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในการจัดงานครั้งนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย หรือจุดมุ่งหมายในการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรม BCG เพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอนของอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมอาหาร จังหวัดนครราชสีมา นับเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพและความพร้อมในหลายๆ ด้าน ถือเป็นศูนย์กลางความเจริญด้านต่างๆ ของภาคอีสาน ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆ อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง หรือสายการบิน ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะทำให้เมืองโคราชเติบโต และพัฒนาอย่างรวดเร็ว เกิดความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น และยังส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Thailand 4.0 อย่างยั่งยืนอีกด้วย

      นายสราญโรจน์ สุทัศน์ชูโต  รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ  กล่าวว่า งานแสดงสินค้า เป็น Platform ทางการตลาดที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่การจัดงาน และแน่นอนว่าจังหวัดนครราชสีมาและภาคอีสานนั้น อุตสาหกรรมเกษตรเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ การที่มีงานแสดงสินค้าในรูปแบบ B2B

       จะยิ่งเป็นเครื่องตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางการผลิตพืชผลทางการเกษตรของภาคอีสานอย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งจังหวัดนครราชสีมาเป็นหนึ่งในจังหวัดเมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีศักยภาพความพร้อมในการรองรับการจัดงานแสดงสินค้าอย่างมีมาตรฐาน มีสถานที่จัดงาน มีผู้จัดงาน และมีฐานการเกษตรทั้งในฝั่ง Supply และ Demand ที่ครบองค์ประกอบ งาน AgroFEX 2024 จะยิ่งเสริมเรื่องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและต่อยอดทางธุรกิจ การค้า การลงทุน และองค์ความรู้ระยะยาว

        เป็นงานแสดงสินค้าที่มุ่งเน้นศักยภาพของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมด้านการเกษตรแปรรูป ส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ตลอดห่วงโซ่อุปทาน หรือ BCG ที่เน้นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทีเส็บสนับสนุน งาน AgroFEX 2024 ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า Empower Thailand Exhibition (EMTEX) โดยโครงการนี้มุ่งยกระดับงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพขึ้นระดับภูมิภาค จากการที่ทีเส็บได้ร่วมทำงานกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เราเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมด้านการเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมอาหาร ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีแนวโน้มเติบโต ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยทีเส็บสนับสนุนและร่วมยกระดับการจัดงานเป็นปีที่ 4 โดยเข้ามามีบทบาทให้การสนับสนุนงบประมาณโดยใช้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเป็นตัวนำ และร่วมเป็นที่ปรึกษาร่วมวางกลยุทธ์การขยายตลาด ขยายกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business Matching) โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย (Target Buyer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้มากที่สุด เพื่อให้งานแสดงสินค้านี้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอนาคต ซึ่งตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย Business Matching ในงานไม่น้อยกว่า 1,250 ล้านบาท พร้อมทั้งร่วมเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายเพื่อการพัฒนาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมงานแสดงสินค้าในประเทศ หรือ EMTEX อีกทั้งทีเส็บยังช่วยสนับสนุนนวัตกรรมเทคโนโลยี Bizconnect ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนในการเข้าร่วมงานอีกด้วย

            นางธิดารัตน์ รอดอนันต์  ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “AgroFEX 2024” จัดโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน) (TCEB) องค์กรภาครัฐและเอกชน มีโครงการจัดงานแสดงสินค้าเกษตรแปรรูปและอาหาร ที่เน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียวตลอดห่วงโซ่อุปทาน (BCG model–Bio,Circular,Green Economy&Supply Chain) ตามนโยบายรัฐบาลภายใต้ชื่องาน “AgroFEX 2024” กำหนดจัดงานครั้งที่ 4 ขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 16 พฤศจิกายน 2567 ณ Korat Hall  ชั้น 4  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราชเพื่อส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand Carbon Neutrality

           ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ลดการใช้ทรัพยากรและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยเป็นความร่วมมือบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานกว่า 130 ราย ที่มาจัดแสดงนิทรรศการในหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอด้าน BCG (Bio-Circular-Green Economy) อุตสาหกรรม SME ด้านการเกษตรและอาหาร การเลี้ยงสัตว์ เทคโนโลยีด้านการเกษตร รวมถึงนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เข้มแข็งและยั่งยืน การจัดงานในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างเวทีให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกษตรของประเทศไทยให้ก้าวหน้า ซึ่งปีนี้มีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์สำคัญได้แก่ กิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ทั้งในและต่างประเทศ คูหาแสดงสินค้าจากต่างประเทศ (International Pavilion) เช่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม เป็นต้น

สภาอุตสาหกรรมโคราช เตรียมจัดงานใหญ่ AgroFEX 2024 เน้น BCG model คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 1,250 ล้านบาท

       สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา  ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา , สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEB) , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี , สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา และองค์กรภาครัฐและเอกชน จัดงานแสดงสินค้า ที่เน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ตลอดห่วงโซ่อุปทาน (BCG model – Bio,Circular,Green Economy & Supply Chain) ตามนโยบายรัฐบาล ภายใต้ชื่องาน “Agro FEX 2024” ในระหว่างวันที่  14 – 16 พฤศจิกายน 2567  ณ Korat Hall  ชั้น 4  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เพื่อส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมในภาคอีสาน สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร ลดการใช้ทรัพยากร และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีกิจกรรมหลักคืองานแสดงสินค้า จับคู่ธุรกิจ และสัมมนาวิชาการให้ความรู้กับผู้เข้าชมงาน

       นายสุรพันธ์  ศิลปสุวรรณ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า  จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ เป็นศูนย์กลางความเจริญด้านต่าง ๆ ของภาคอีสาน ซึ่งอีกมานานจะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆ ครบถ้วนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น มอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่  รถไฟความเร็วสูง และสายการบิน ซึ่งจะทำให้เมืองโคราชมีธุรกิจ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่เติบโต และพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้จังหวัดเกิดความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากความพร้อมในทุกๆ ด้านนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา จะจัดงาน “Agro FEX 2024” เทคโนโลยีเกษตรและอาหารแปรรูป รวมไปถึงเพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย

       ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อีกทางหนึ่ง อีสาน ได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ Thailand Carbon Neutrality ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรและอาหาร ลดการใช้ทรัพยากร และส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งก็จะตอบโจทย์ในเรื่องของการพัฒนาผู้ประกอบการ รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดในเชิงธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

        นางธิดารัตน์ รอดอนันต์  ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “Agro FEX 2024” จัดขึ้นใน วันที่  14 – 16 พฤศจิกายน 2567  ณ Korat Hall  ชั้น 4  ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช เป็นความร่วมมือของ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน ในกิจกรรม แสดงนิทรรศการ การบรรยายให้ความรู้ การจับคู่ธุรกิจ การเซ็น MOU ซึ่งมีความร่วมมือ จากหลายฝ่าย เช่น จังหวัดนครราชสีมา สนับสนุนการจัดงานอันเป็นกิจกรรม Mice city , สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ TCEB, กระทรวงพาณิชย์ ได้จัด business matching ผ่านสำนักงาน ฑูตพาณิชย์ในตปท. , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.), BOI ให้ความรู้ เรื่องส่งเสริมการลงทุนตามนโยบาย BCG รวมทั้งการจับคู่ธุรกิจ ,ศูนย์เซ็นทรัลโคราช, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา จัดการบรรยายให้ความรู้เรื่องการจัดการสิ่งแวดล้อม งานนิทรรศการ และ คลีนิกให้คำปรึกษา , สำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา นำผู้ประกอบการ เกษตรกร ที่มีผลผลิตด้าน BCG มาจัดแสดงสินค้านอกจากนี้ ยังมีการประกวดสุดยอดนักออกแบบชุดจากวัสดุเหลือใช้  FTI Zero waste TheIdol 2024 ประดิษฐ์ชุดจากขยะ  โดยได้เชิญชวน  นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป  ที่มีความสามารถ มีความคิดริเริ่มในการออกแบบ และประดิษฐ์ชุดแฟชั่นที่ทำจากวัสดุเหลือใช้ เพื่อลดขยะ เพิ่มมูลค่า ของวัสดุเหลือใช้ มาเป็นชุดที่สวยงาม ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท  อีกด้วย

สุดยิ่งใหญ่ คนนับพัน ร่วมพลังคนรักษ์โลก เขาใหญ่ คาร์ ฟรี เดย์ 2024 วันปลอดรถ

        สุดยิ่งใหญ่ คนนับพัน ร่วมพลังคนรักษ์โลก 22 กันยายน เขาใหญ่ คาร์ ฟรี เดย์ 2024 วันปลอดรถ ฮือฮา นางสาวไทยร่วมสร้างปรากฏการณ์ ตื่นตาขบวนแฟนซีรักษ์โลกสร้างสีสัน

         วันที่ 22 กันยายน 2567 เวลา 06.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าด่านเก็บเงินอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นายวีระ ขุนไชยรักษ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับ นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดกิจกรรม เขาใหญ่ คาร์ ฟรี เดย์ 2024 วันปลอดรถ

         โดยมี นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายพฤฒิ เกิดชูชื่น คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.ททท.สำนักงานนครราชสีมา นางสาวประไพพักตร์ พุทธิโยธิน ผู้จัดการ สนง.ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และนางสาววสุมน เนตรกิจเจริญ นายกสมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย หรือ TEATA

         โดยร่วมกับประชาชน และนักท่องเที่ยว กว่า 1,500 คน ผู้มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ร่วมงานวิ่งแบบวิถี “Low Carbon” เดินชิล วิ่งชิล ปั่นชิล Eco – Friendly สร้างสุขที่ยั่งยืน มาร่วมกันสร้างปรากฏการณ์ เดิน วิ่ง ปั่น สร้างจิตสำนึกสัมผัสความแตกต่าง เปิดงาน “เขาใหญ่ คาร์ ฟรี เดย์ 2024” ภายใต้ Project Slogan  “Low Carbon Khao Yai For All”

         สำหรับงานปีนี้ ที่สร้างสีสันไฮไลท์ของงาน คือ เหล่านางสาวไทย ประจำปี 2567 ร่วมสร้างปรากฏการณ์ และขบวนแฟนซีรักษ์โลกสร้างสีสัน นำวัสดุเหลือใช้จากครัวเรือนมาทำชุด แสดงพลังลดคาร์บอนไดออกไซด์ จำนวน 6 ทีม ซึ่งประกอบไปด้วย โรงเรียนบ้านปรางคล้า โรงเรียนบ้านหมูสี โรงเรียนบ้านคลองเดื่อ กลุ่มเยาวชนเรารักษ์ปากช่อง โรงเรียนปากช่อง โรงเรียนบ้านวังไทร และทีมจิตอาสาพาเพลิน อสม.หมูสี

            ซึ่งวันที่ 22 กันยายน ของทุกปีตรงกับ คาร์ฟรีเดย์ วันปลอดรถโลก วันปลอดมลพิษทางอากาศ (WORLD CAR FREE DAY) เดินรณรงค์กิจกรรมงดใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ลดมลพิษทางอากาศ

            สำหรับกิจกรรมมีการแข่งขัน ขบวนแฟนซีรักษ์โลก ชิงรางวัล 40,000 บาท ใน 2 ประเภท คือ ประเภททีมเด็กเยาวชน สถาบันการศึกษา ชนะเลิศได้แก่ กลุ่มเยาวชนเรารักษ์ปากช่อง โรงเรียนปากช่อง และประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่ ทีมจิตอาสาพาเพลิน อสม.หมูสี

            นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วน จัดกิจกรรมคาร์ฟรีเดย์ วันปลอดรถโลก วันปลอดมลพิษทางอากาศ (WORLD CAR FREE DAY) ซึ่งเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy or Eco-friendly Economy) คาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เพื่อความยั่งยืน ปรับกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม และภาคธุรกิจบริการให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

            นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ปีนี้กิจกรรม “เขาใหญ่ คาร์ ฟรี เดย์ 2024” ได้รับความนิมียมจากนักท่องเที่ยว และประชาชน เป็นจำนวนมากกว่า 1,500 คน แยกเป็นนักปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เพราะเขาใหญ่ เป็นดินแดนมรดกโลกทางธรรมชาติ เป็นมุดหมายของการท่องเที่ยวด้านสิ่งแวดล้อมที่ยังยืน รวมถึงเป็นการสร้างความรับรู้งานมหกรรมพืชสวนโลก โคราช 2572 โดยกิจกรรมสามารถคัดแยกขยะได้ 93.95 กิโลกรัม

มูลนิธิพุทธบารมีร่วมกับเดอะมอลล์โคราชจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชา ประเพณีกวนข้าวมธุปายาส (ข้าวทิพย์)

                         ในงานวิสาขบูชา พุทธบารมี ปีที่ 14 ตามแนวคิด พุทธบริษัท ศรัทธา ศึกษา สืบสาน ปกป้อง

         วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.09 น. ณ มณฑลพิธีลานมอลล์พาร์ค บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จัดพิธีส่งเสริมทางพระพุทธศาสนา ตามแนวคิดพุทธบริษัท ศรัทธา ศึกษา สืบสาน ปกป้อง เนื่องในวันวิสาขบูชากับประเพณีกวนข้าวมธุปายาส(ข้าวทิพย์) (อาหารที่นางสุชาดาจัดปรุงขึ้นและนำถวายพระพุทธเจ้าก่อนการตรัสรู้ในวันเพ็ญเดือนหก)

        โดยมีเหล่าพุทธศาสนิกชนชาวโคราชกว่า 500 คนร่วมพิธี  ซึ่งได้รับเมตตาจากพระครูปลัดสุวัฒน ปริยัตคุณ เจ้าอาวาสวัดเขาคอกช้าง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้เกียรติเป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธี พร้อมด้วยนายปรีชา ลิ้มอั่ว กรรมการและเลขานุการมูลนิธิพุทธบารมี และเจ้าภาพกวนข้าวทิพย์ทั้ง 9 คณะร่วมประกอบพิธี

       โดยพระสงฆ์จำนวน 9 รูปสวดมนต์กระทำพิธีทางพุทธศาสนา ก่อนนำหญิงพรหมจรรย์นุ่งขาวห่มขาว จำนวน 27 คน กวนข้าวมธุปายาส (ข้าวทิพย์) จำนวน 9 กระทะ

       สำหรับวัตถุดิบที่นำมาปรุงข้าวทิพย์มีทั้งสิ้น 18 อย่าง 5 ประเภท รวมใช้วัตถุดิบทั้งสิ้น 300 กก. ซึ่งข้าวมธุปายาสสามารถบรรจุลงถ้วยได้ 7,200 ถ้วย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ (72 พรรษา)

       ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ทั้งนี้ข้าวทิพย์ทั้งหมดจะนำไปทำบุญตักบาตรในวันวิสาขบูชา 22 พ.ค.2567 เวลา 09.09 น. จึงเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวมธุปายาส ในงาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี ปีที่ 14 ประจำปี 2567” ที่มณฑลพิธีห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยภายในงานพุทธศาสนิกชนสามารถจัดส่งข้าวมธุปายาสให้บุคคลที่คุณรักทั่วประเทศไทย โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ด้วย

        ทั้งนี้กิจกรรมพิธีกวนข้าวมธุปายาสจัดงานโดยมูลนิธิพุทธบารมี, กองทัพภาคที่ 2, จังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน คณะสงฆ์ และเดอะมอลล์โคราชจัดขึ้น เพื่อร่วมทำบุญตักบาตรมหากุศลในวันวิสาขบูชา ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาปรุงข้าวทิพย์นั้น แบ่งเป็น 5 ประเภท ดังนี้ 1. ประเภทถั่ว เช่น ถั่วทอง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วลิสง ถั่วแม่ตาย  , 2. ประเภทข้าว พืชเป็นหัว เมล็ดธัญพืช เช่น ข้าวเม่า ข้าวฟ่าง ข้าวตอก เมล็ดงา งาขาว งาดำ ลูกเดือย ฟักทอง เผือก  , 3. ประเภทน้ำตาล เช่น น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำตาลแดง น้ำตาลทราย น้ำตาลหม้อ  , 4. ประเภทไขมัน เช่น เนย น้ำนมโค มะพร้าวอ่อน มะพร้าวแก่  และ 5. ประเภทผลไม้ เช่น ผลไม้สด ได้แก่ เงาะ กล้วย ข้าวโพด อ้อย มะม่วง ผลไม้คั้นน้ำ ผลไม้แห้ง ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม พร้อมทั้งสมุนไพรปรุงรส ได้แก่ ชะเอมสด ชะเอมเทศ รวมถึงเม็ดสาคู

        วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เวลา 17.00 น. ณ มณฑลพิธีห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติบูชาเนื่องในวันอัฏฐมีบูชา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันถวายพระเพลิงพุทธสรีระ องค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า โดยได้อัญเชิญพระธาตุ 72 พระองค์ จากชมรมรักพระธาตุ ให้สาธุชนได้มีส่วนร่วมทำบุญเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ (72 พรรษา) ในวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ร่วมถวายคณะสงฆ์ในพิธี

       จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสร้างทานบารมี ในงาน “วิสาขบูชา พุทธบารมี ปีที่ 14  ตามแนวคิด พุทธบริษัท ศรัทธา ศึกษา สืบสาน ปกป้อง ระหว่างวันที่ 18-30 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป ณ มณฑลพิธี ห้องเอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราช หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage: วิสาขบูชา พุทธบารมี

                           ตารางวัตถุดิบแนบท้าย/กระทะ

1. น้ำผึ้ง 2. นมสดคาร์เนชั่น 3. กะทิสด (ใช้หัวกะทิ) 4. เนยสดแท้ 5. นมข้นหวาน 6. ไมโล 7.น้ำตาลปี๊บ

8. ฟักทอง (นึ่งบด) 9. เผือก (นึ่งบด) 10. ถั่วแดง (ต้มบด)11. ลูกเดือย (นึ่งบด) 12. งาดำ (คั่วบดละเอียด)

13. งาขาว (คั่วบดละเอียด) 14. แป้งข้าวเหนียวดำ 15. ข้าวตอก 16. ถั่วลิสง (คั่วบดละเอียด) 17. กล้วยน้ำว้า 18. บะแซ

Appropriate Technology Matching Day 2024

กระทรวง อว. หนุน บพท. ร่วมกับเครือข่าย มรภ.และ มทร.ทั่วประเทศ จัดแสดงผลงานเทคโนโลยีพร้อมใช้ เกือบ 2,300 ผลงาน จากภูมิปัญญานักวิจัยไทย ในงาน“Appropriate Technology Matching Day 2024” 4 ภูมิภาค ปูรากฐานสำคัญของการพึ่งพาตัวเองด้านเทคโนโลยี และขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวข้ามกับดักความยากจน ไปสู่ความมั่นคง-มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน 

       กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย น.ส. ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวง อว. มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดนำเทคโนโลยีพร้อมใช้ จำนวน 2,289 ผลงาน ไปช่วยชุมชน โดยให้หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ขับเคลื่อนงานดังกล่าว โดยมีเป้าหมายในระยะถัดไปที่จะเปิดตัว Technology and Innovation Library ซึ่งจะเป็นระบบรวบรวมข้อมูลฝั่งชุมชนกับข้อมูลเทคโนโลยีพร้อมใช้ รวมทั้งข้อมูลนวัตกรชุมชนให้เกิดการขยายผลไปทั่วประเทศ

     ดร.กิตติ  สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 9-24 พฤษภาคมนี้ บพท.จะร่วมกับเครือข่าย มรภ. 38 แห่งและเครือข่าย มทร. 9 แห่งทั่วประเทศ จัดแสดงผลงานการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมใช้ ใน 4 ภูมิภาค ภายใต้ชื่องาน “เทคโนโลยีพร้อมใช้ เพื่อชุมชนไทยยั่งยืน” หรือ “Appropriate Technology Matching Day 2024” ครอบคลุมทั้งภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลาง เพื่อให้ผู้สนใจทุกภาคส่วนได้รับชมและนำไปต่อยอดขยายผลการใช้ประโยชน์ในวงกว้าง

       โดยกำหนดจัดขึ้นครั้งแรกที่ภาคใต้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับครั้งที่ 2 โซนพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดขึ้นที่โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ มุ่งเน้นการถ่ายทอดและจับคู่นวัตกรรมพร้อมใช้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นผลงานวิจัยคัดสรรมาจัดแสดงและเปิดพื้นที่การเรียนรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มคนจนฐานราก เกษตรกร กลุ่มอาชีพ และผู้ประกอบในพื้นที่ ได้พบปะกับนักวิจัยของ 2 เครือข่ายมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย มรภ.ในภาคอีสาน ทั้ง 11 แห่ง ได้แก่  มรภ.มหาสารคาม สุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครราชสีมา สกลนคร อุบลราชธานี  เลย อุดรธานี ศรีษะเกษ ร้อยเอ็ด และเครือข่าย มทร. 5 แห่ง ได้แก่        วิทยาเขต นครราชสีมา ขอนแก่น สุรินทร์ สกลนคร และร้อยเอ็ด

        ภายในงานมีการแสดงเทคโนโลยีพร้อมใช้ 70 ผลงาน จากเครือข่ายมหาวิทยาลัยมทร.และมรภ. ซึ่งมีการเชื่อมโยงการใช้งานจริงกับ 13 กลุ่มวิสาหกิจชุมชมและผู้ประกอบการในชุมชน ขณะที่มีผู้เข้าร่วมงานในวันนี้ที่มีส่วนร่วมกันคิดค้นและประมวลองค์ความรู้ให้ตรงกับโจทย์ปัญหาและความต้องการที่เหมาะสมกับภูมิสังคมเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมจำนวนกว่า 400 คน  โดยประเภทของเทคโนโลยีพร้อมใช้ มีด้วยกันหลายประเภท อาทิ นวัตกรรมอาหารสัตว์ชุมชน จากเศษวัสดุการเกษตรที่เป็นฐานทรัพยากรในท้องถิ่น ระบบการนึ่งข้าวฮางประสิทธิภาพสูงด้วยไอน้ำจากเชื้อเพลิงชีวมวลเครื่องคัดแยกเมล็ดพันธุ์ข้าวเปลือกคุณภาพสูง เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับการผลิตเส้นไหมและการเตรียมเส้นไหม เครื่องผลิตเส้นไหมพุ่งแบบครบวงจร ระบบการบริหารจัดการน้ำแบบอัตโนมัติ ตู้ควบคุมอัตโนมัติสำหรับเกษตรแปลงใหญ่ รวมไปถึงกระบวนการบริหารจัดการเกษตรแปลงใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ฯลฯ ซึ่งจะกระตุ้นและจุดประกายความคิดให้เกิดธุรกิจใหม่ ๆ รวมทั้งเกิดการจับคู่นำเทคโนโลยีพร้อมใช้กว่า 200 คู่นวัตกรรม ที่สามารถนำไปต่อยอด ตอบสนองความต้องการของชุมชน นำมาใช้จัดการปัญหาสำคัญในชุมชน หรือการสร้างโอกาสใหม่ในชุมชนหรือพื้นที่

         “งานเทคโนโลยีพร้อมใช้ เพื่อชุมชนไทยยั่งยืน นอกเหนือจะมีขึ้นที่ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ยังจะมีขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือ ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติดิเอ็มเพรส จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 21 พฤษภาคม และในพื้นที่ภาคกลาง ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้” 

          ผู้อำนวยการ บพท.กล่าวว่า งานแสดงเทคโนโลยีพร้อมใช้ เพื่อชุมชนไทยยั่งยืน จะเป็นรากฐานสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และพึ่งพาตัวเองด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย จากภูมิปัญญาการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาของนักวิจัยในสถาบันอุดมศึกษา โดยมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมพร้อมใช้ที่เหมาะสมเป็นเครื่องมือ และมีกลไกกระบวนการความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่เป็นพลังขับเคลื่อน เพื่อนำสู่เป้าหมายการพัฒนาคน พัฒนาพื้นที่ ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความอยู่ดีกินดีแก่ประชาชน และสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนในแต่ละพื้นที่ ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ

งานแถลงข่าวเศรษฐกิจอีสานสัญจร ณ จ.นครราชสีมา ปี 2567

      วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมโคราช 2 โรงแรมเซ็นทารา จังหวัดนครราชสีมา ดร.ทรงธรรม ปิ่นโต ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.) ได้จัดงานแถลงข่าวเศรษฐกิจภาคอีสาน ประจำไตรมาส 1 ปี 2567 หัวข้อ เหลียวหลัง…แลหน้า…เศรษฐกิจการเงินอีสาน

โดยเป็นการแถลงข่าวสัญจรครั้งแรก สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ บทบาทหน้าที่ของ ธปท. ภาคอีสาน ได้แก่

1) จับชีพจรเศรษฐกิจการเงินในพื้นที่ รับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน 

2) สร้างองค์ความรู้วิชาการเพื่อตอบโจทย์ในพื้นที่

3) ผลักดันนโยบาย ธปท. ให้กับพื้นที่

4) เป็นตัวกลางความร่วมมือกับทุกภาคส่วน

5) สนับสนุนให้คนอีสานมีความรู้ทางด้านการเงินและเท่าทันภัยการเงิน โครงสร้างเศรษฐกิจภาคอีสาน

 

1) ภาคเกษตรเป็นเส้นเลือดหลักของคนอีสาน มีแรงงานในภาคนี้ถึงร้อยละ 53 ของผู้มีงานทำในภาคอีสาน ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีแรงงานเพียงร้อยละ 7

2) ภาคเกษตรส่วนใหญ่พึ่งฟ้าพึ่งฝน และความสามารถในการทำเกษตรลดลง 

3) รายได้ไม่เพียงพอรายจ่ายในภาคครัวเรือน นำไปสู่ปัญหาหนี้ จากโครงสร้างดังกล่าวจึงทำให้เศรษฐกิจภาคอีสานต่างจากประเทศ 

 

         ปี 2566 เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวจากการบริโภคและท่องเที่ยว ขณะที่เศรษฐกิจภาคอีสานหดตัว ตามการบริโภคจากรายได้ที่ลดลงทั้งในและนอกภาคเกษตร หมดมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และค่าครองชีพยังอยู่ในระดับสูง แม้การท่องเที่ยวฟื้นตัวแต่ช่วยสนับสนุนได้น้อยเพราะมีเพียงไม่เกินร้อยละ 3 ของเศรษฐกิจ เศรษฐกิจภาคอีสาน โดยภาพรวมเศรษฐกิจ ไตรมาส 1 ปี 2567 อ่อนแรงต่อเนื่องจากปี 2566 จากการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐลดลง ค่าครองชีพในสินค้าหมวดอุปโภคบริโภคยังอยู่ในระดับสูง และตลาดแรงงานอ่อนแอลงจากผู้มีงานทำนอกภาคเกษตรลดลง 

         นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณเปราะบางต่อเนื่องจากปี 2566 และกำลังซื้อมีความเปราะบางมากขึ้น ในหมวดสินค้าคงทนโดยเฉพาะรถกระบะหดตัวสูง และยอดขายบ้านในระดับกลางและล่างลดลงต่อเนื่อง จากรายได้ที่ลดลง รวมทั้งความระมัดระวังในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงิน อย่างไรก็ดี มีปัจจัยช่วยพยุงการบริโภคได้บ้างจากผลของราคาผลผลิตเกษตรที่ดี และการท่องเที่ยวที่มีผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2566

         ระยะถัดไป เศรษฐกิจภาคอีสานคาดว่าจะค่อย ๆ ฟื้นตัว จากงบประมาณภาครัฐปี 2567 ที่เพิ่มมากขึ้นซึ่งคาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้หลังไตรมาส 2 ทำให้ภาคการค้า การก่อสร้างตามการลงทุนของรัฐเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 รายได้เกษตรกระจายตัวมากขึ้นจากผลดีของภัยแล้งที่คลี่คลายในช่วงหลังของปี 2567 คาดว่าจะส่งผลดีต่อผลผลิตข้าว การผลิตเพื่อการส่งออกในหมวดอาหารแปรรูปและเครื่องแต่งกายมีแนวโน้มฟื้นตัวดี และการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหม่ ๆ เข้ามากระจายหลายจังหวัดเพิ่มมากขึ้น

คว้าแชมป์ไทยลีก2​ สวาทแคท นครราชสีมา

#คว้าแชมป์ไทยลีก2 #สวาทแคท  #กลับขึ้นสู่ลีกสูงสุด “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เปิดบ้านชนะ หนองบัว พิชญ พร้อมคว้าแชมป์ไทยลีก 2 และกลับสู่ลีกสูงสุดโดยใช้เวลาเพียงซีซั่นเดียว

วันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 18.30 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2 ฤดูกาล 2023/24 นัดรองสุดท้ายของฤดูกาล  “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทำศึกอีสานดาร์บี้ เปิดบ้านพบ “พญาไก่ชน”หนองบัว พิชญ เอฟซี 

ท่ามกลางแฟนบอลที่มาเชียร์เต็มความจุสนามกว่า 24,500 คน ซึ่งคู่นี้นั้นจับมือกันเลื่อนชั้นแบบอัตโนมัติสู่ไทยลีกไปแล้ว โดยเป็นการแย่งแชมป์ ปรากฏว่า นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี โชว์ฟอร์มได้เหนือกว่า ชนะไป 3-0  โดยได้ประตูจาก เดย์วิสัน เฟอร์นานเดส 2 ประตู และณัฐวุธ เจริญบุตร 

ส่งผลให้คว้าแชมป์ไทยลีก 2 ฤดูกาลนี้ไปครองแม้จะเหลือการแข่งขันนัดสุดท้ายในการไปเยือน จันทบุรี เอฟซี ก็ตามเนื่องจาก นครราชสีมา มีผล Head To Head ที่ดีกว่า หนองบัว พิชญ และถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 10 ปี สำหรับ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และหนองบัว พิชญ เอฟซี  เพิ่งตกชั้นจากไทยลีก 1 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

โดยหลังจบเกม “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นผู้มอบถ้วยรางวัล พร้อมเงินรางวัล 5 ล้านบาท.

พิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้เรื่องพิษภัยของกระท่อม ในเขตเทศบาลนครบครราชสีมา

พิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างการรับรู้เรื่องพิษภัยของกระท่อมในเขตเทศบาลนครบครราชสีมา

วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗ ณ โรงแรมโคราชโฮเต็ล โดย นายประเสริฐ บุญขัยสุข นายกเทศมนตรีนครบครราชสีมา 

เรียน ท่านเทวัญ ลิปดพัลลก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และผู้มีเกียรติทุกท่าน ในนามผู้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการสร้างการรับรู้เรื่องพิษภัยของกระท่อม ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา กระผมขอขอบพระคุณท่านที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเป็นอย่างสูงที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมฯ ในวันนี้

    จากพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ได้มีการยกเลิกการกำหนดให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่  โดยสามารถนำมาเป็นพืชเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ทำให้มีการประกอบการด้านพืชกระท่อมอย่างแพร่หลาย กอปรกับปัจจุบันการเข้าถึงกระท่อมของเด็ก เยาวชน และประชาชนมีแนโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมีการใช้น้ำต้มใบกระท่อมที่ไม่เหมาะสม มีการผสมสารต่างๆ เข้าไป ทำให้เกิดอาการหลอนทางจิตประสาท เกิดปัญหาต่างๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางสุขภาพ ปัญทาทางสังคม สาเหตุหนึ่งเกิดจากการขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องพืชกระท่อม เช่น กรณีน้ำต้มใบกระท่อมสามารถต้มดื่มทานเองที่บ้านได้แค่ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกให้กับบุคคลอื่น และผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร หรือการใช้น้ำต้มใบกระท่อม/ใบกระท่อมที่ไม่ถูกวิธี คือ การไม่เอาก้านออกแล้วนำไปต้มในอัตราส่วนที่ไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดพิษภัยจากกระท่อมตามมา

สำหรับเทศบาลนครนครราชสีมาได้ร่วมกับทีมบูรณาการของจังหวัดนครราชสีมาออกตรวจสถานประกอบจำหน่ายน้ำต้มใบกระท่อม เพื่อสร้างการรับรู้แก่ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และในวันนี้สำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครนครราชสีมา ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างการรับรู้ที่ถูกต้องให้แก่แกนนำชุมชน และประชาชน จึงจัดการอบรมฯ ครั้งนี้ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้แกนนำด้านสุขภาพได้รับรู้และเข้าใจถึง พ.ร.บ.พืซกระท่อม รวมทั้งโทษพิษภัยจากการใช้กระท่อมที่ไม่เหมาะสม เพื่อที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเฝ้าระวังและจัดการสุขภาพภาคประชาชนในชุมชนต่อไป

โคราชประกอบพิธีตักบาตรพระสงฆ์10,000 รูป ทำบุญเมืองครบรอบ 556 ปี

โคราชประกอบพิธีตักบาตรพระสงฆ์10,000 รูป ทำบุญเมืองครบรอบ 556 ปี

วันนี้ (2 มี.ค.67) เวลา 06.00 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา  พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสบึง พระอารามหลวง ประธานสงฆ์ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาสและพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา นับหมื่นคน  ร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 10,000 รูป สมโภชเมืองนครราชสีมา 556 ปี

ถวายเป็นพุทธบูชา น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้สถาปนาเมืองนครราชสีมา และอุทิศส่วนกุศลแด่ท้าวสุรนารี วีรสตรีเมืองโคราช 

ภายในงานพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาราธนาศีล 5 บำเพ็ญทักษิณานุปทาน ทอดผ้าบังสุกุล คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สมโภชเมืองนครราชสีมา จากนั้นเป็นพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 10,000 รูป

เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการบิณฑบาตในครั้งนี้ไปบรรเทาความเดือดร้อนของคณะสงฆ์ 323 วัดใน 4 จังหวัดภาคใต้ พร้อมทั้งช่วยเหลือครูและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้ และมอบช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยต่างๆ เป็นสาธารณะสงเคราะห์ 

นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยว่า งานตักบาตรพระหมื่นรูป ทำบุญเมืองนครราชสีมา เป็นการปลูกฝังคุณธรรม ความกตัญญูแก่เยาวชนลูกหลานชาวโคราช เป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา รักษาประเพณีอันดีงามของชาวพุทธ

อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา ผมขอกราบขอบพระคุณคณะสงฆ์ทุกรูปที่เมตตามาเป็นเนื้อนาบุญ ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ภาคีเครือข่าย เจ้าหน้าที่ อาสาสมัครทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนในการจัดงานครั้งนี้ ขออนุโมทนาบุญกับผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่ทำให้เกิดภาพประวัติศาสตร์ที่งดงามของจังหวัดนครราชสีมาในวันนี้

เดิน วิ่ง ปั่น ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี 2567 TOUR OF KORAT #9

เดิน วิ่ง ปั่น ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี 2567 TOUR OF KORAT #9

เดิน วิ่ง ปั่น ฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี 2567 TOUR OF KORAT #9

                             เดิน วิ่ง ปั่น ฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี 2567 TOUR OF KORAT #9  

                                          วัน อาทิตย์ ที่ 31 มีนาคม 2567

ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาร่วมกิจกรรมงานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารีประจำปี 2567 ด้วยกีฬาเดิน วิ่ง ปั่น รำลึกวีรสตรีอันยิ่งใหญ่ของคนโคราช เตรียมพบกับเส้นทางวิ่ง – จักรยานสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมแข่งขันจากทั่วประเทศ พบกับการบริการจากบูธส่งเสริมสุขภาพกว่า 40 บูธ จากภาครัฐและภาคเอกชน

                 ณ ตลาดน้ำบึงหัวทะเล ( เทศบาลตำบลหัวทะเล ) ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา

                      🚩 ประเภทที่เปิดรับสมัคร
🧡 ระยะทาง 5 กิโลเมตร 499 บาท / ปล่อยตัว 05.00 น. / คัตออฟ 2 ชั่วโมง
🧡 ระยะทาง 10 กิโลเมตร 499 บาท / ปล่อยตัว 05.00 น. / คัตออฟ 2 ชั่วโมง

💚 จักรยานใจเกินร้อย ระยะทาง 14 กิโลเมตร 499 บาท / ปล่อยตัว 07.30 น.
💚 จักรยานใจเกินร้อย ระยะทาง 60 กิโลเมตร 499 บาท / ปล่อยตัว 07.15 น.

🚩สมัครออนไลน์ได้ที่ : เพจเดินวิ่งปั่นฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี2567
Line ID : 064-5905878
< ปิดรับสมัคร : วันที่ 5 มีนาคม 2567 หรือจนกว่าจะครบ 1,000 คนแรก >เดินวิ่งปั่นฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี2567

        🏆 รางวัล
กลุ่มอายุ แบ่งประเภทชาย/หญิง
– Over All ไม่จำกัดอายุ , ไม่เกิน 19 ปี , 20-29 ปี , 30-39 ปี , 40-49 ปี , 50-59 ปี , อายุ 60 ปี ขึ้นไป.
ผู้ชนะในกลุ่มอายุ อันดับ 1-3 ชายและหญิง จะได้รับถ้วยรางวัล , เหรียญรางวัลชนะเลิศ 1-5 และเงินรางวัล 500,300,200 บาท 3 อันดับแรกตามลำดับรุ่นทุกรุ่น
– ผู้ชนะในรุ่น Over All ( ไม่จำกัดอายุ ) ชาย/หญิง อย่างละ 1 รางวัล

🏆 ถ้วยรางวัลประเภททีมปั่นอันดับ 1 – 30 ( ประเภททีม 10 คนขึ้นไป )
สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา โทร : 082-7987891

🏆 ถ้วยรางวัล แฟนซีประเภทบุคคล อันดับที่ 1 – 10 และประเภททีม อันดับที่ 1 – 10
***ผู้ที่ได้รับรางวัลประเภททั่วไปแล้ว จะไม่ได้รับสิทธิ์ในการรับรางวัลของประเภทรุ่นอายุ

   สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
☎️ เบอร์โทร : 064-5905878 , 044-266667

เพจFACEBOOK : เดินวิ่งปั่นฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุรนารี2567