จับกุมเครือข่าย ขบวนการดาวน์รถแลกเงินส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

จับกุมเครือข่ายขบวนการดาวน์รถแลกเงิน ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน

ตามบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มายัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปจร.ตร. และ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตำรวจ ภูธรภาค 3 ปราบปรามจับกุมการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ โดยเฉพาะเรื่องการนำรถไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน

ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.3/ผอ.ศปจร.ภ.3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.ฯ ปรก.รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา

ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.พรเทพ ทุ้ยแป รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.มณฑล หงษ์กลาง รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ท.วิชานนท์ บ่อพิมาย สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ต.ชัยพล คงขุนทด สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ต.เกรียงศักดิ์ สุดจิตจูล สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.ต.ณัฐพล เฉลิมนพกุล สว.กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา สืบสวนจับกุมคดีดังกล่าว

คดีนี้สืบเนื่องจาก นโยบายของสำนักงานงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปราบปรามจับกุมการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และนโยบายของ พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ให้กวดขันจับกุม รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นประจำทุกเดือนนั้น เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดอนแสนสุข จ.นครราชสีมา ได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 6 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถจักรยานยนต์ใหม่ ได้ที่ริมถนนท้ายหมู่บ้านปรางค์ครบุรี ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ไว้ทำการตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่าเป็นรถที่ถูกลำเลียงมาจาก จ.ชลบุรี จากการสืบสวนขยายผลร่วมกับ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา สามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้เพิ่มเติมในพื้นที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ 4 คัน และ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 4 คัน รวม 14 คัน ซึ่งทั้งหมดเป็นรถที่กำลังลำเลียงจะนำไปส่งยังประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว

กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค 3

จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเรื่อยมาจนกระทั่งนำไปสู่การขออนุมัติศาลออกหมายจับ และเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน ภ.จว.นครราชสีมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 6 ราย ดังต่อไปนี้

1. นายเสกสรรค์ พันธ์ดี อายุ 39 ปี 13 ม.5 ต.คลองดำหรุ อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี (ตัวแทนนายทุนต่างชาติ)

2. น.ส.สรยา โต๊ะยีหวัง อายุ 34 ปี 29/2 ม.14 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา (นายหน้า)

3. น.ส.ลำไพร มั่นคง อายุ 45 ปี 344 ม.9 ต.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น (ผู้เช่าซื้อ)

4. น.ส.ศุภิสรา สอนเจริญ อายุ 26 ปี 178 ม.12 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (ว่าจ้าง/จัดหาทีมขน)

5. นายสุทัศน์ สร้อยดั้น อายุ 18 ปี 178 ม.12 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (หัวหน้าทีมขน)

6. นายพงศ์พัทธ์ ศรีมาตร อายุ 25 ปี 14 ม.8 ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว (ทีมขน)

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป, สมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิด อันเป็นความผิดฐานซ่องโจร, หรือร่วมกันรับของโจร”

โดยพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะของขบวนการดาวน์รถแลกเงิน ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันทำดังนี้ (1) นายทุนต่างชาติ(ประเทศเพื่อนบ้าน) แจ้งยี่ห้อ/รุ่น รถจักรยานยนต์ที่ต้องการ (2) ตัวแทนนายทุนต่างชาติประกาศในสื่อสังคมออนไลน์ รับซื้อ/ดาวน์รถจักรยานยนต์มาแลกเงิน (3) กลุ่มนายหน้าติดต่อกับผู้ที่ต้องการเงินให้มาดาวน์รถฯ (เช่าซื้อ) เพื่อแลกเงิน (4) ผู้เช่าซื้อนำรถฯ ส่งมอบให้กับนายหน้าเพื่อแลกกับเงินที่ต้องการ (5)นายหน้ารวบรวบรถส่งให้กับตัวแทนนายทุนต่างชาติ (6) นายทุนต่างชาติ (ประเทศเพื่อนบ้าน) สั่งการให้ทีมขนดำเนินการนำรถที่รวบรวมมาได้ไปส่งมอบ ณ จุดนัดหมายเพื่อนำข้ามพรมแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการสืบสวนเส้นทางการเงิน พบว่าขบวนดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท

จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังอย่าหลงผิดเป็นเหยื่อของขบวนการดังกล่าว โดยไปดาวน์รถให้ผู้อื่นเพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อย แล้วมาแจ้งความว่ารถหายเพื่อเอาประกัน นอกจากจะถูกดำเนินคดีในฐานะผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิดแล้ว ท่านจะต้องถูกดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จฯ อีกด้วย สำหรับบริษัทประกันภัย หรือผู้ให้บริการสินเชื่อ (ลิสซิ่ง/ไฟแนนซ์) หากพบว่าได้รับความเสียหายในลักษณะดังกล่าว ขอให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

บุญกฐินสามัคคี วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี

บุญกฐินสามัคคี วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี วันที่ 6 พย.2564 พระครูปลัดภูมิปัญญาญาณสัมปันโนเจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี นิมนต์พระราชภาวนาวชิรคุณ(หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต) วัดเขาตาเงาะ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระครูปลัดภูมิ ปัญญา ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสีและคณะสงฆ์ ร่วมทอดผ้ากฐินได้รับเกียรติประธานสายบุญ พล.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม รองเสนาธิการทหารบก(อดีตแม่ทัพภาค 2 )ประธานฆราวาส ร่วมกับคณะ ศิษย์ยานุศิษย์ วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ที่มาร่วมงานจำนวนมาก ได้ปฏิบัติตามมาตรกา ป้องกันโควิด 19 กฐินสามัคคี รวมยอดบุญรวมถวายวัด 671,345.50 บาท ในโอกาสบุญนี้ ท่านเจ้าอาวาสได้ให้พรและขอให้ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้รับพรจากพระคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยอวยพร ผู้จิตศรัทธาและครอบครัว มีความสุขความเจริญด้วยอายุวรรณะธนสารสมบัติ สืบไป

เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวหนาวนี้…ที่โคราช…

#หนาวนี้ที่…#โคราช

#ท่องเที่ยวโคราชฤดูหนาว

#Amazingวิถีใหม่เที่ยวไทยไม่ตกTrend

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานแถลงข่าว “หนาวนี้ที่….โคราช” ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564  ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2564 – เดือน กุมภาพันธ์ 2565

นางภาวนา  ประจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงาน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา กล่าวว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา ได้ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ที่มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงฤดูหนาว โดยการรวบรวมกิจกรรมทางการท่องเที่ยว จัดทำเป็นปฏิทินการท่องเที่ยวในแต่ละเดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 – เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปได้รับทราบข้อมูล เพื่อจะได้วางแผนในการเดินทางท่องเที่ยวและไม่พลาดที่จะไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ตามปฏิทินการท่องเที่ยวตลอด 4 เดือนนี้ ตามปฏิทินแนบ

และนอกจากนี้ ททท. ยังได้เตรียมของขวัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้ด้วย โดยมีโปรโมชั่นท่องเที่ยวฤดูหนาว ตามโครงการ Amazing วิถีใหม่ เที่ยวไทยไม่ตก Trend เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Gen-y เพียงจองที่พักกับโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA (ที่เข้าร่วมโครงการกับ ททท.) จะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 300 บาท ไปใช้เดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดเดือน พฤศจิกายน 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 โดยเลือกเส้นทางใดเส้นทางหนึ่งใน 4 เส้นทาง ดังนี้

1. ชมเมืองลอยฟ้ากับชุมชนเขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

2. เส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตรอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

3. เส้นทางชวนเธอไปชมดาว สัมผัสหนาวที่เขาใหญ่ @ เดอะเปียโน รีสอร์ท

4. เส้นทางทัวร์ท่องไพร เขาใหญ่มรดกโลก

และโครงการเปิดประสบการณ์ใหม่ เที่ยวเมืองไทย ไม่รู้ลืม @ นครราชสีมา  เป็นโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Millennial Family (ครอบครัวคนรุ่นใหม่ที่เดินทางพัฒนาทักษะของลูก) เพื่อเปิดโลกทัศน์และส่งมอบประสบการณ์ชีวิตด้วยกิจกรรม Event อาหารถิ่น ชุมชนท่องเที่ยว หรือแหล่งท่องเที่ยว หากจองเข้าพักกับโรงแรมที่ได้มาตรฐาน SHA (ที่เข้าร่วมโครงการกับ ททท.) จะได้รับ Gift Voucher มูลค่า 300 บาท ไปใช้ในแหล่งท่องเที่ยว เช่น พิพิธภัณฑ์ไม้กลายเป็นหิน / ชุมชนบ้านใหม่ ต.ท่าช้าง / กรีนมีออร์แกนิคฟาร์ม / ทองสมบูรณ์คลับ / งาน Forest of Illumination ที่คีรีมายาเขาใหญ่  ระยะเวลาการใช้ Gift Voucher ตลอดเดือนธันวาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 Gift Voucher มีจำนวนจำกัด จองก่อนได้สิทธิ์ก่อน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาท่องเที่ยวยังจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งชาวโคราชได้พร้อมใจกันจัดกิจกรรมขึ้นและมีมาตรการความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนมั่นใจได้ว่ามาโคราชแล้วปลอดภัย แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีความสวยงามในช่วงฤดูหนาวพร้อมต้อนรับทุกท่านมาเยี่ยมชมความงดงาม และมาสัมผัสอากาศดีๆ ในช่วงฤดูหนาวนี้…ที่โคราช

สุขภาพจิตแห่งชาติ “สุขภาพจิตไทย วัดใจไปด้วยกัน”

สัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ “สุขภาพจิตไทย วัดใจไปด้วยกัน”

       นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีเปิดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ

  ระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน 2365  “สุขภาพจิตไทย..วัดใจไปพร้อมกัน” www.วัดใจ. com

      จากสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ COVID-19 การทำงาน การเรียน และการใช้ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพัน หลายคนประสบกับปัญหาธุรกิจ ตกงาน และอื่นๆ อีกมากมาย สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อสุขภาพจิตของประชาชนไทย โดยอัตราการฆ่าตัวตายจากเดิม 6.64 ต่อแสนประชากร ในปี 2562 เพิ่มขึ้นเป็น 7.66 ต่อแส

น ประชากร ในปี 2563 ในจังหวัดนครราชสีมา เพิ่มขึ้นจาก 7.66.ต่อแสนประชากร เป็น 8.28 ต่อแสนประชากร

 

ช่วงปีที่ผ่านมา กรมสุขภาพจิต ได้ดำเนินการวัดใจของประชาชนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป ผ่านแอปพลิเคชั่น Mental Health Check in พบพาวะเสี่ยงด้านสุขภาพจิตประชาชนไทยด้วยหลักการ 4 สร้าง 2 ใช้ โดยสร้างความปลอดภัย สร้างความสงบ สร้างความหวัง สร้างการดูแล โดยใช้ศักยภาพและใช้ความสัมพันธ์ เพื่อส่งเสริมให้ชุมชน สถานประกอบการ โรงเรียนมีความเข้มแข็งทางจิตใจ มีพลังใจที่จะตอสู้กับปัญหาที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

  ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น หลายคนล้ม หลายคนลุก หลายคนจบชีวิต หลายคนสร้างชีวิต สามารถพลืกวิกฤตให้เป็นโอกาส เห็นได้ว่า “วิธีคิดและจัดการกับปัญหา” รวมถึง “พลังใจ”ของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรา “อยู่กับปัญหา” หรือ “ก้าวปัญหา”ได้อย่างมีความสุข

  ร.พ.จิตเวชนครราชสีมาและศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 จึงขอเชิญชวนมาร่วม “วัดใจไปพร้อมกัน”กับนิทรรศการทางด้านสุขภาพจิต กิจกรรม “วัดใจ” การให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิต กิจกรรมเสริมสร้าวพลังใจพร้อมรับของที่ระลึกเพื่อการดูแลจิตใจในช่วง COVID-19 ในงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ณ ห้องโคราขฮอลล์ ชั้น 4   ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา 08.30 น เป็นต้นไป

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้สรรหาคณะกรรมการและประธานสภาวัฒนธรรมท่านใหม่

วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 นาย วิจิตร กิจวิรัตน์นายอำเภอรักษาการแทนปลัดจังหวัดนครราชสีมา ประธานในพิธีเปิดการประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาโดยนายไชยนันท์ แสงทองวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการประชุมสรรหาได้กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา

แนวคิดการจัดตั้งสภาวัฒนธรรม วัฒนธรรมเป็นของประชาชนประชาชนคือเจ้าของวัฒนธรรม  การดำเนินงานวัฒนธรรมจะบรรลุผลได้ดียิ่ง ต้องให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบดำเนินการวัฒนธรรม อย่างมีบทบาทสำคัญ วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสภาวัฒนธรรม ดังนี้

1. เพื่อให้เกิดการรวมตัวจัดตั้งองค์กรชุมชนของประชาชนในท้องถิ่น เพื่อดำเนินกิจกรรมทางวัฒนธรรม นำไปสู่การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง

2. เพื่อให้เกิดการรวมพลังระหว่างองค์กรต่างๆ ในท้องถิ่นเป็นเครือข่ายเครือญาติ ทางวัฒนธรรมที่มีการติดต่อสื่อสารพบปะข้อมูลแลกเปลี่ยนข่าวสารตลอดจนแลกเปลี่ยนทรัพยากรต่างๆ ซึ่งกันและกัน

3. เพื่อให้เกิดหน่วยงานด้านวัฒนธรรมของประชาชนในท้องถิ่น ที่เชื่อมประสานหน่วยงานภาครัฐได้อย่างใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพ

สภาวัฒนธรรมมีสถานภาพเป็นองค์กรเอกชน ที่ดำเนินงานวัฒนธรรม ภายใต้การกำกับดูแลของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีบทบาทหน้าที่เสนอข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายและแผนแม่บทวัฒนธรรมแห่งชาติ เป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดในการดำเนินงานวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายวัฒนธรรม ในการระดมทรัพยากร บุคลากร และสรรพกำลังต่างๆ จากหน่วยงานและองค์กรต่างๆในการส่งเสริม สนับสนุน และร่วมกิจกรรมเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา สร้างสรรค์  แลกเปลี่ยน สืบทอด และเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม เผยแพร่ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ได้ดำเนินการปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแต่ละระดับ ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ 2553 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

– สภาวัฒนธรรมตำบล จำนวน 258 แห่ง

– สภาวัฒนธรรมเทศบาล จำนวน 11 แห่ง

– สภาวัฒนธรรมอำเภอ จำวน 32 หาง

และกำหนดการประชุมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย เครือข่ายสภาวัฒนธรรมอำเภอ 32 อำเภอ ๆ ละ 1 คน รวม 32 คน เครือข่ายวัฒนธรรมที่จดแจ้งในระดับจังหวัด 30เครือข่าย ๆ ละ 1 คน รวม 30 คน และผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ ได้แก่ นักวิชาการวัฒนธรรม และผู้แทนจากเครือข่าย อื่นๆรวมทั้งสิน 90 คน เพื่อดำเนินการให้ได้มาซึ่งคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมชุดใหม่แทนคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมชุดเก่า ที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระที่กำหนดในกฎกระทรวงจำนวนไม่น้อยกว่า 19 คน และไม่เกิน 51 คน โดยได้รับความเมตตานุเคราห์สถานที่จัดประชุมจากพระเดชพระคุณ พระศรีวงศาจารย์ เจ้าอาวาสวัดป่าศรัทธาราม

 ในการสรรหาครั้งนี้ได้ท่าน เอมอร  ศรีกงพาน ดำรงตำแหน่งประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาอีกวาระ3ปี และได้คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดรวม 51 คนและจะประกาศรับรองเพื่อทำงานการส่งเสริมด้านวัฒนธรรมจังหวัดต่อไป

พุทธาภิเษกปู่ทวด-พ่อพัฒน์ ร่วมกฐินมหากุศลหมากปริญ วัดพระยาสุเรนทร์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สืบสานบุญกฐินมหามงคล… พิธีพุทธาภิเษกหลวงปู่ทวด-หลวงพ่อพัฒน์ ณ วัดพระยาสุเรนทร์…กับหมากปริญไหว้หลวงปู่ทวดใหญ่ในสุดกรุงเทพ

วัดพระยาสุเรนทร์สร้างราว พ.ศ.2425 โดยพันตรี พระยาสุเรนทร์ราชเสนา (พึ่ง สิงหเสนี) ได้จัดสรรที่ดินส่วนหนึ่งประมาณ 48 ไร่ สร้างวัดขึ้น และได้ทำพิธีวางศิลาประจำวัดในวันอังคารขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ร.ศ. 101 ต่อมาทำหนังสือทูลเก้าถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันพุธ แรม 1 ค่ำเดือน 11 พ.ศ.2431 ถึงปัจจุบันวัดมีอายุยาวนาน 139 ปี

ปัจจุบันพระสิทธิสิงหเสนีเจ้าอาวาสวัดพระยาสุเรนทร์สืบเชื้อสาย สิงหเสนีโดยมารดา พระนักพัฒนาที่เสื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้านคลองสามวา,พัฒนาชุมชน,สังคมสิ่งแวดล้อม การศึกษาร่วมชุมชนและพัฒนาพื้นที่วัดสร้างอุทยานหลวงปู่ทวดยิ่งใหญ่มีลักษณะ”หลวงปู่ทวดนั่งบนเรือกอ” มีความกว้างหน้าตัก 16 เมตร สูง 32 เมตร

   ในปี 2564เทศกาลบุญกฐินทานวาระมหามงคล,ทางคณะกรรมการวัดพระยาสุเรนทร์กำหนดพิธีมหามงคล 2 วาระ วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม 2564 เวลา 13.24 นาทีเริ่มพิธี พลตรีหม่อมราชวงศ์วัยวัฒน์ จักรพันธุ์ ประธานคณะศิษย์วัดพระยาสุเรนทร์ประธานจุดเทียนถวายพระพุทธ

  พิธีพุทธาภิกเษกวัตถุมงคลพระผงหลวงปู่ทวด – หลวงพ่อพัฒน์

“รุ่นเจ้าพระยานาหมื่น” ณ อุทยานหลวงปู่ทวด ได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญากาโม (พระราชมงคลวัชราจารย์) เจ้าอาวาสวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) จังหวัดนครสวรรค์ ประธานอุปถัมภ์ฝ่ายสงฆ์ในพิธีคุณเบลล่า ราณีศิลปินดาราชื่อดังละครออเจ้าและคุณแม่ปราณี แคมเปน ประธานจุดเทียนชัยถวายหลวงพ่อพัฒน์ในการนั่งอธิษฐานจิตร่วมคณะพระสงฆ์ 9 รูปร่วมพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลหลวงปู่ทวด – หลวงพ่อพัฒน์ การจัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อสมทบทุนสร้างสาธารณะประโยชน์บำรุงเสนาสนะพระภิกษุสงฆ์ พร้อมทั้งนำวัตถุมงคลมอบแก่ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาธรรมบุญกฐินวัดพระยาสุเรนทร์

 และวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564 เวลา 13.09 นาที พิธีทอดกฐินทานประจำปี ของคุณหมากปริญ สุภารัตน์ประธานทอดกฐินโดยคุณพรีม รณิดา เตชสิทธิ์ ผู้จัดการส่วนตัวหมากปริญและคุณแพร ภรณีมณี เมษสิทธิ์สิริ ศิลปินดาราละครพร้อมคุณ คิมหันต์ ตลับนาค เลขานุการประจำคณะธรรมาธิการฝ่ายพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนประจำรัฐสภา และเจ้าภาพกองกฐินที่ร่วมบุญกฐินทุกท่าน ได้ปัจจัยยอดกฐินวัดพระยาสุเรนทร์ปี 2564 รวม 711,326 บาท ท่านที่มาเยี่ยมชมภายในวัดพระยาสุเรนทร์ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ 5 ประเทศจากศรีลังกา อินเดีย เนปาล พม่า และ ไทย ชมบรรยากาศกลิ่นอายท่าน้ำชุมชนและตลาดน้ำวัดพร้อม ขอพรไอ้ไข่ วัดพระยาสุเรนทร์ รับบุญรับโชคเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวต่อไป

กฐินมหากุศล ณวัดเขาหมาก ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดบึงพระอารามหลวง

กฐินมหากุศล ณวัดเขาหมาก ศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดบึงพระอารามหลวง บ้านดงมะไฟหมู่ 8 ตำบลมะเกลือใหม่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา


วันที่ 31 ตุลาคม 2560 4 เวลา 10:30 น ประธานฝ่ายสงฆ์พระมหานคร จินวฑฒโน ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบึงพระอารามหลวง ,ผอ.ศูนย์ปฏิบัติธรรมเขาหมาก และคณะกรรมการวัดงานบุญกฐินสามัคคี โดยมี ทันตแพทย์อนุภาส,ทันตแพทย์หญิงเพ็ญศรี, คุณภาสศิริ,คุณชนก จริยะธีรวงศ์ สลางสิงห์ และคุณวิศิษฐ์ จริยะธีรวงศ์ ผู้อุปถัมภ์กฐินสามัคคี และคณะกรรมการสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมออกโรงทานร่วมถวายกฐินสามัคคีประจำปี 2564 พุทธศาสนิกชนที่ร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีเพื่อเป็นปัจจัย ทะนุบํารุงเสนาสนะและ ส่งเสริมสนับสนุนพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ต้องอาศัยพุทธบริษัท 4 ช่วยกันทำนุบำรุง เพื่อเป็น พระสมบัติ สวรรค์สมบัติ นิพพานสมบัติสืบต่อไป

ปปช .โคราช ลงตรวจพื้นที่งาน ถนนคอนกรีต เทศบาลตำบลหัวทะเล

“ป.ป.ช. โคราช ลงพื้นที่ด่วน กรณีได้รับเบาะแส โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมรางระบายน้ำของเทศบาลตำบลหัวทะเล”

วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๕.๐๐ น. นายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่บ้านหนองสองห้อง หมู่ ๑๐ ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา กรณีได้รับเบาะแสโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมรางระบายน้ำ ที่อาจไม่ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และอาจทำให้น้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นได้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ประสานเทศบาลตำบลหัวทะเล ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเป็นโครงการปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระยะทางประมาณ ๕๐ เมตร งบประมาณ ๑๓๒,๐๐๐ บาท โดยช่างควบคุมงานของเทศบาลฯ กล่าวว่า “โครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างถนนพัฒนาในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลหัวทะเล สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้าน พร้อมกับการสร้างรางระบายน้ำเชื่อมต่อจากถนนหลักเพื่อช่วยระบายน้ำในช่วงหน้าฝน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จตามกระบวนการ และต้องวางแผนปรับแบบแปลนให้เหมาะกับสภาพพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการมากที่สุด

ทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา จะติดตามผลการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะแล้วเสร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

รองนายกรัฐมนตรี เตรียมจัดงาน กระตุ้นเศรษฐกิจโคราช

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ณ ห้องประชุม คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมกรีนเนอรี่
ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานการประชุมร่วม นาย วิเชียร์ จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด นครราชสีมา, หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา,พาณิชย์จังหวัด นครราชสีมาและ จังทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา ได้มีผู้ประกอบการต่างๆเข้าร่วมต้อนรับและนำสินค้าดี เด่น ดัง เพื่อต่อยอดการตลาดต่อไป

  ในการนี้ทางองค์กรเอกชนต่างๆ ได้นำเสนอ เรื่องต่างๆ อาทิ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สมาคมมันสำปะหลังและหน่วยงานอื่นๆ โดยมีฑูตพาณิชย์24ประเทศเข้าร่วมทางออนไลน์ด้วย ได้นำเสนอเรื่องต่างๆ ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา  โดยทางหอการค้าได้นำเสนอ

1.ขอให้มีการจัดงาน “International trade fair” ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ปี2022

ผลการประชุม ท่านรองนายกสั่งการ ให้ทีมกระทรวงจัดหางบประมาณ และให้ประสานฑูตพาณิชย์ในทุกประเทศ ในการสนับสนุนการจัดงาน และท่านผู้ว่าฯจ.นม จะสนับสนุนงบจังหวัดภายใต้ Korat Mice 

2.ขอให้ท่านรองนายก ช่วยจัดหา ชุดตรวจ ATK ในราคา40บาท เหมือนที่ กทม เพื่อให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ท่องเที่ยว ภายใต้โครงการเปิดเมืองโคราช Korat Green Box โดยมีพื้นที่นำร่อง 5อำเภอ อ.เมือง อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว อ.พิมาย อ.สีคิ้ว จำนวน 200,000ชุด

ผลการประชุม ท่านรองนายกสั่งการ ประสานกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดหา ATK ในราคา40บาท ผ่านองค์การเภสัชกรรม(GPO) ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งกลับมาว่า ให้ทางหอการค้าเป็นตัวแทนในการประสานความต้องการมาได้เลย และจะจัดให้ตามที่ความต้องการที่เสนอมา

3.จะมีการจัดงานมันสำปะหลังโลก ในจังหวัดนครราชสีมา เร็วๆนี้

 และมีการมอบใบสิทธิบัตรให้กับสวนทุเรียนGIปากช่อง ได้แก่ สวนทุเรียนวงศ์สมิตกุล สวนทุเรียน อัมพร  เป็นต้นและ สรุปข้อหาในการแก้ปัญหา ผู้ประกอบการด้านต่างๆ ประกอบ

“มวลน้ำทะลัก 4 อำเภอ รอบนอกโคราช”

#น้ำท่วมโคราช #มวลน้ำทะลัก 4 อำเภอ รอบนอกโคราช

      วันนี้ (25 ต.ค.2564) ปภ.สาขาชุมพวง จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากลำน้ำมาศล้นตลิ่ง

ได้แก่

    – อ.พิมาย มวลน้ำได้เอ่อล้นเข้าไร่นาและบ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน

พื้นที่ ม.8 บ้านตะคร้อ

และเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว บ้านโนนทะยอม ม.26 ต.โบสถ์

   – อ.ห้วยแถลง มวลน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมถนน บ้านเรือนประชาชน ไร่นา พื้นที่ ม.10 บ้านโนนเพ็ด ต.หลุ่งตะเคียน

   – อ.ชุมพวง มวลน้ำได้ล้นตลิ่ง เข้าท่วมไร่นา ถนน

วัด และบ้านเรือนประชาชน จำนวน 3 หลังคาเรือน พื้นที่บ้านสาหร่าย ม.1 ต.โนนตูม

   ศบก.พิมาย จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์ น้ำท่วมตำบลชีวาน อำเภอพิมาย ว่า ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้

    -บริเวณบ้านดอนเขว้า หมู่ที่ 2 ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน ประมาณ 20 ซม.น้ำลำสะแทด เอ่อเข้าชุมชนถนนในชุมชน

     -บริเวณ ฝายบ้านดอนน้ำซับ หมู่ที่ 8 ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 20 ซม. น้ำลำสะแทดเอ่อเข้าชุมชน ทางเข้าหมู่บ้านระดับน้ำสูงจากถนน 30-50 ซม.

ถนนระหว่าง ดอนน้ำซับ – คุ้มโนนทอง ระดับน้ำสูงจากถนน 40-60 ซม. ระดับใกล้เคียงกับการท่วมครั้งแรก สัญจรทางเรือและรถทางการเกษตร

     -ลำสะแทดเอ่อล้นโอบล้อมพื้นที่และดันเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ระดับน้ำพื้นที่การเกษตรโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

     -ระดับน้ำบริเวณ คลอง เหมือง สูงขึ้นทุกแห่ง