“พิธีเปิดโครงการการผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหาร โคราชบ้านเอง”


วันเสาร์ที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๑๕ น.พิธีเปิดโครงการการผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหาร โคราชบ้านเองณ ห้อง Studio ชั้น ๕ (NRRU Library) สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาโดยนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ ประธานดำเนินการโครงการผลิตสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าและท่านวิทยากร  คณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการ  และผู้เข้าร่วมการอบรมทุกท่าน

โครงการผลิตสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์ผ้าและอาหารการส่งเสริมต่อยอดสร้างสรรค์ ด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมดำเนินการโดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม,พัฒนาการชุมชนจังหวัดนครราชสีมา , มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา , มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลและสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นองค์กรภาคประชาสังคม ภายใต้การกำกับของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มีบทบาทหน้าที่ในการส่งเสริม รักษา สืบสาน อนุรักษ์ ฟื้นฟู ต่อยอด ด้วยศิลปะวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม และมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น ของชาติ ให้คงอยู่สืบไป

ในส่วนการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ.2559 ได้กำหนดให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มีบทบาทในการส่งเสริม รักษา หรือ พัฒนา ให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ครอบคลุม เนื้อหาสาระ ของการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ๗ ด้าน ได้แก่ (๑) วรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา (๒) ศิลปะการแสดง (๓) แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล (๔) ความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล (๕) งานช่างฝีมือดั้งเดิม (๖) การเล่นพื้นบ้าน กีฬา พื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว (7) ลักษณะอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงวัฒนธรรม

โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เห็นความสำคัญของการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม  ได้จัดทำโครงการ การผลิตสื่อออนไลน์เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้า และอาหารโคราชบ้านเอง ขึ้นมา จึงถือว่าเป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น จะได้เผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ ผลิตภัณฑ์ด้านอาหารพื้นถิ่น และผ้าพื้นเมือง ของจังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  โดยจัดอบรมผู้ที่สนใจผลิตสื่อสารสนเทศ ก่อนไปจัดทำคลิปวิดีโอการประกวด และจัดให้มีการคัดเลือกผลงานที่มีความเหมาะสม  ที่จะนำไปเผยแพร่ต่อไป  การอบรมครั้งนี้ ผู้เข้ารับการอบรมได้รับทั้งความรู้ และวัฒนธรรมด้านผ้าและอาหารของจังหวัดนครราชสีมา

การจัดทำโครงการครั้งนี้ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับ องค์กรภาครัฐและเอกชน อาทิ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา พัฒนาการชุมชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา จึงถือเป็นการบูรณาการ การทำงานร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

1. เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชรูปแบบออนไลน์ ให้แก่เยาวชนและประชาชนของจังหวัดนครราชสีมา

2. เพื่อฝืกอบรมผลิตสื่อสารสนทศรูปแบบออนไลน์ โดยการมีส่วนร่วมของเยาวซนและประชาชนให้สามารถผลิตสื่อด้านวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราช อย่างสร้างสรรค์

3. เพื่อพิจารณาคัดเลือกสื่อสารสนทศดีเด่นเกี่ยวกับวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชที่เยาวชนและประชาชนได้ผลิต เผยแพร่ และมอบรางวัล

การดำเนินกิจกรรมโครงการนี้แบ่ง 2 ลักษณะ

1. การอบรมสร้างเสริมความรู้ด้านวัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชบ้านเองและความรู้การเขียนเนื้อหาประกอบบทวีดีทัศน์ ระยะเวลา 1 วัน

2. จัดทำวีดีทัศน์การประกวดขนาดความยาว 3 5 นาที/เรื่อง เพื่อชิงโล่รางวัลแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ต้านผ้าและอาหารโคราชมีโล่และเงินรางวัลชนะเลิศจากท่านอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและเงินรางวัลรวมกว่า 50,000 บาท

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ขอขอบคุณท่านวิทยากร    หัวหน้าโครงการ  หน่วยงาน  องค์กร ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งหลาย และหวังว่าผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประโยชน์จากการอบรมครั้งนี้เป็นอย่างดี แนะนำความรู้ประสบการณ์ที่ได้จากคณะวิทยากรผู้ทรงภูมิรู้ในแต่ละด้าน ไปผลิตสื่อดิจิตอล มาเผยแพร่ ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโคราช ตามวัตถุประสงค์โครงการ เพื่อสืบสานมรดกภูมิปัญญาของคนโคราช ให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนทั่วโลกสืบไป




ร่วมใจสู้น้ำท่วม “พินิจด้วยรัก พิทักษ์ด้วยใจช่วยชัยภูมิ”

“ ร่วมใจสู้ ภัยน้ำท่วม ช่วยสถานพินิจฯ ชัยภูมิ เพื่อเด็กและเยาวชน ”
จากสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ “ อ่วมรอบ 50 ปี เจอวิกฤตหนักสุด ”
จากพื้นที่รับอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมครั้งใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน สร้างความเสียหายบ้านเรือนประชาชนและส่วนราชการชัยภูมิเดิอดร้อนหนักอันรวมสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิเป็นหน่วยงานช่วยเหลือ,คุ้มครองสวัสดิ์ภาพเด็กและเยาวชนที่ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตขณะนี้

วันที่ 28 กันยายน 2564 ดร.รัตนะ วรบัณฑิต ผอ.ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 พร้อม นาย คมกฤษณ์ แสงจันทร์ ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา และ นายฐิติรรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ รองประธานสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา และ เจ้าหน้าที่สถานพินิจฯ
นครราชสีมา ร่วมมอบสิ่งของกำลังใจโดย นางสาว สุมณฑา เกตุมณี ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดชัยภูมิต้อนรับพร้อมคณะเยี่ยมชมดูสถานที่และการเตรียมการรองรับสถานการณ์น้ำท่วมภายในหน่วยงานด้านต่างๆ อาทิ ห้องพิจารณาคดี , แก้มลิงพื้นที่สถานพินิจเด็กและเยาวชนที่กำกับดูแล พร้อมคณะนำสิ่งของอาหารแห้ง , ข้าวสาร , เวชภัณฑ์ยา และ ผลไม้ต่างๆ

ดร. รัตนะ วรบัณฑิต กล่าวการมาเยี่ยมครั้งนี้ด้วยความรู้สึกเห็นใจในความเดือดร้อนของน้องๆเสมือนญาติพี่น้องครอบครัวเดียวกันจึงนำความช่วยเหลือเบื้องต้นมาดูแลความเป็นอยู่ช่วยเหลือกัน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและกล่าวแนะนำการทำงานสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมยินดีช่วยเหลือคณะเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ด้วยรักและห่วงใย เราจะสู้วิกฤตนี้ผ่านไปด้วยกันแม้จะเจอวิกฤตหนัก 2 ด้าน สถานการณ์ติดเชื้อโควิด19 และภัยพิบัติทางน้ำก็ตาม

ฤกษ์ดีวันมงคล วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ทำพิธีบุญตั้งศาลเทพชัยมงคลใหม่ และทำบุญสำนักงานประจำปี

ฤกษ์ดีวันมงคล วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ทำพิธีบุญตั้งศาลเทพชัยมงคลใหม่ และทำบุญสำนักงานประจำปี
วันที่ 24 กันยายน 2564 ณ. สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึงพระอารามหลวง ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ นายคุณไชยนันท์ แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ประธานในพิธีร่วมกับ นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา , คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อม เจ้าหน้าที่ ข้าราชการวัฒนธรรมจังหวัดร่วมผู้เกี่ยวข้องได้ร่วมพิธีทำบุญตั้งศาลพระภูมิชัยมงคล , ศาลตายายใหม่ทดแทนศาลเดิมที่ชำรุด และจัดทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ งานทำบุญสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ภายในพิธีได้มีพระสงฆ์ 9 รูป สวดพระพุทธมนต์

พิธีถวายสังฆทาน ทำบุญเลี้ยงพระใหญ่ และรดน้ำมนต์ให้พรแก่ผู้มาร่วมงานกิจกรรมครั้งนี้ ได้ทำบุญเพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่บุคลากรที่ทำงานส่งเสริมวัฒนธรรมชาติ
โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมีภาระกิจอันสำคัญเพื่อปลูกสร้างจิตสํานึกความเป็นไทยสร้างค่านิยมและวิถีชีวิตที่ดีงาม ,ส่งเสริมสนับสนุนการนำทุนทางวัฒนธรรม มาต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ และ ส่งเสริมและพัฒนาความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกับต่างประเทศ เพื่อนำไทยสู่สากล เป็นหน่วยงานที่สำคัญของชาติ ในสังกัด กระทรวงวัฒนธรรม

งานแถลงข่าวและเปิดตัวนักกีฬา นครราชสีมา คิวมินซี วีซี

งานแถลงข่าวและเปิดตัวนักกีฬา นครราชสีมา คิวมินซี วีซี Nakhonratchasima QminC VC ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1 – 15 ตุลาคม 2564 ส่งแรงใจเชียร์ผ่านหน้าจอทีวี ถ่ายทอดสดช่อง 36 PPVT HD
นายวัชรพงษ์ โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน ว่า ด้วยผู้ใหญ่ใจดีที่ปรึกษาอย่างเช่น ท่านวิเชียร จันทรโณทัย นายกสมาคมแห่งจังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วน รวมไปถึงสปอนเซอร์ทุกท่าน ในการแข่งขันครั้งนี้เป้าหมายคือ “เชียร์โคราช เพื่อชาติไทย” นั่นคือสัญลักษณ์ที่เราจะประกาศว่า เราอยากมอบความสุขในการแข่งขันครั้งนี้ โดยจะทำลำดับการแข่งขันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทีมชายและทีมหญิง ขณะที่ทุกคนหวาดพวากับเรื่องโควิด-19 ทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านไปไหนมาไหนลำบาก แต่ถ้ามีวอลเลย์บอลที่แข่งขันในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้ใหญ่ใจดี มีสปอนเซอร์หลายท่านให้การสนับสนุนช่วยกัน ผมบอกกับนักกีฬาของเราและคุณแม่ปทุมว่า การแข่งขันครั้งนี้จะไม่มีคนดูในสนาม

แต่นอกสนามจะมีคนไทยและคนโคราชที่ได้เชียร์และชมผ่านพีพีทีวี 36 สิ่งที่เราทำได้ในวันนี้ก็คือมอบความสุข ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยได้ดึงเอานุศรา มือเซ็ตมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมหญิง ทั้งๆ ที่ทีมเราก็พร้อมอยู่แล้ว และเช่นเดียวกับนักกีฬาทีมชายที่เราก็ได้ดึงเอานักกีฬาทีมชาติที่มีความสามารถในทีมต่างๆ เข้ามาร่วมเสริมทีมเพิ่มความแข็งแกร่ง เป้าหมายหลักคือ แชมป์ เพื่อให้ความสุขกับทุกๆ ท่าน
นายวิเชียร จันทรโณทัย นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาและที่ปรึกษาสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว กล่าวเสริมว่า ในอดีตที่ท่านมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เราก็ร่วมกับสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ว่าเราอยากเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรแห่งเอเชียขึ้นมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา และก็เป็นการเปิดจังหวัดนครราชสีมา สร้างฐานะให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองกีฬา ครบถ้วน สมบูรณ์ เราต้องการให้มีแมทช์กีฬาต่างๆ ในทุกระดับ เพื่อให้สมเป็นเมืองแห่งกีฬา หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวัดชัยภูมิ ในระหว่างที่เราดีลงานกับสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา เราอาจจะขายบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ร้อยละ 25 แต่สถานการณ์โควิด-19 เรายังเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ดังนั้นค่าเข้าชมจากการจำหน่ายบัตรจึงเป็นไปไม่ได้เลย แต่ด้วยความกรุณาจากท่านผู้ว่ากอบชัย ท่านรองชรินทร์ และท่านสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงท่านประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมาที่ไม่ถอดใจเลย ไม่ถอย หลายปัญหาผมคิดว่าขอยกเลิกได้ไหม ขอไม่เอาได้ไหม ผมกลัวจะพูดตรงนั้นออกมาหลายครั้งเวลารับโทรศัพท์ เวลาพูดคุยเพราะว่าปัจจุบันมันเกิดปัญหาหลายประการมาตลอด จนมาถึงวันนี้ผมเห็นถึงความเหน็ดเหนื่อย ความต่อสู้และความตั้งใจของทุกฝ่าย ผมยังคิดว่าถ้าทางท่านประธานจัดงานบอกว่าไม่เอาแล้ว ผมก็คงจะถอดใจ ถอดผ้า ยกผ้าขาว ไม่เอาแล้วเช่นกัน ผมคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมาอยากให้เกิดการแข่งขันครั้งนี้จริงๆ ทุกภาคส่วน ในนามนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรแห่งเอเชียขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ถ้าพูดถึงกีฬาวอลเลย์บอลแล้ว จังหวัดของเราก็เป็นเมืองแห่งกีฬาวอลเลย์บอลของประเทศไทยอยู่แล้ว เราเคยจัดกีฬาวอลเลย์บอลระดับประเทศ ระดับเอเชีย เรามีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่เป็นลูกหลานชาวโคราช ติดทีมชาติก็หลายคน เรามีเกียรติประวัติมาแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้จังหวัดนครราชสีมา ทีมงานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เราจะสามารถจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลครั้งนี้ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง บับเบิลไม่แตก ขอให้ทุกท่านมั่นใจ เราพูดคุยรายละเอียดทุกเรื่องเพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นักกีฬา คณะเจ้าหน้าที่ทุกท่านปลอดภัย การถ่ายทอดทางทีวีเป็นไปอย่างราบรื่น เราพร้อมจะจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์แห่งเอเชียไปด้วยกัน ในทุกๆ ระดับ
นายฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ ประธานกรรมการบริษัท เทรา ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีความสัมพันธ์กับนักกีฬาวอลเลย์บอลและคณะกรรมการสโมสรมานานกว่า 15 ปี ปีนี้ผมเชื่อว่าทางสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ซึ่งมีศักยภาพเยอะ แบรนด์ของเราเป็นแบรนด์น้องใหม่ แลผมหวังว่าปีนี้สโมสรเราคงจะได้แชมป์

ข่าวประชาสัมพันธ์ “งานแถลงข่าวโคราชกรีนบ็อกซ์” วันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 16.00-17.00 น. ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

“ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจับมือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดจังหวัดนครราชสีมา องค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนชวนนับถอยหลังกับมาตรการเปิดเมืองด้วยแนวคิด “โคราชกรีนบ็อกซ์”
วันนี้(10 กันยายน 2564) เวลา 16.00 น. นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในงานแถลงข่าวเผยแนวทางดำเนินการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” กับมาตรการเปิดเมือง120วันของรัฐบาลพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัดแล้ว เชื่อมั่นว่าชาวโคราชพร้อมร่วมใจ
เพราะจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นในทรัพยากรทางการท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนปีละ 9 ล้านกว่าคนในปี 2562 เห็นใจว่าผู้ประกอบการทุกคนล้วนได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นาน เป็นสิ่งที่เราทุกคนเผชิญอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งยังส่งผลอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจ และสังคม

ตลอดจนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาอยากให้ทุกคนกลับมาต่อวงจรเศรษฐกิจให้ได้ ที่ผ่านมาจังหวัดนครราชสีมามีมาตรการในการบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตามด้วยความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายภาคเอกชนของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความตั้งใจในการกำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับพนักงานในสถานประกอบการ รวมถึงการกำหนดให้มีโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์”ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางไมซ์ที่จะเดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากอำเภอปากช่องก่อนแล้วค่อยขยายไปยังอำเภออื่นๆ จังหวัดนครราชสีมาก็ต้องขอขอบคุณและความร่วมมือของภาคเอกชน จังหวัดนครราชสีมาก็มีความยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมนี้ ที่ตั้งอยู่บนมาตรการที่รัฐบาลกำหนด
นอกจากนี้ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดนครราชสีมาเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือในการวางแผนโครงการเป็นอย่างดี ซึ่ง “โคราชกรีนบ็อกซ์” หมายถึง พื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความปลอดภัยและคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม หวังช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องฟื้นตัวโดยเร็วจากการท่องเที่ยว มั่นใจสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวในโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” มีมาตรการหลายชั้นรัดกุม เน้นทั้งผู้ให้บริการที่ต้องมีการตรวจATKทุก7วัน เพื่อความปลอดภัยในด้านการท่องเที่ยว ป้องกันการติดเชื้อ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมั่นใจได้ว่า มาเที่ยวในโครงการโคราชกรีนบ็อกซ์แล้วจะได้รับความปลอดภัยจากการเดินทาง”

“จับกุมแก๊ง ตำรวจปลอม ตระเวนชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”

“จับกุมแก๊ง ตำรวจปลอม ตระเวนชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ”
ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน มีเหตุประทุษร้ายเกี่ยวกับทรัพย์ ในพื้นที่ ภ.3 เกิดขึ้นบ่อยครั้ง มีหลายคดีเป็นการประกอบเหตุ โดยคนร้ายได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ข่มขู่ จะทำร้ายผู้เสียหายก่อน เอาทรัพย์สิน แล้วหลบหนีไป
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้กำชับให้ทุก ภ.จว.หามาตรการในการระวังป้องกัน และเร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ประกอบเหตุให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมาย พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 ควบคุมการปฏิบัติ
ต่อมาวันที่ 6 กันยายน 2564 อำนวยการโดย พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา , พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง, พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย, พ.ต.อ.เดชพล เปรมศิริ รอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3
จับกุมตัว นายเจษฎา ชิตประเสริฐ อายุ 31 ปี หมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว ที่ 81/2564 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2564

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันชิงทรัพย์(ลักทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์นั้นไป) โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน”
พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย
1.รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 2 สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน
2.ทะเบียนรถยนต์ กฉ 2435 สุรินทร์ จำนวน 2 แผ่น
3.เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด
จากการซักถาม นายเจษฎา ชิตประเสริฐ รับว่า ตนพร้อมพวกที่หลบหนี เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดย ครั้งที่ 1 ชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.จอหอ ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 20,000 บาท ครั้งที่ 2 ชิงทรัพย์ในพื้นที่ สภ.หนองสาหร่าย ได้ทรัพย์สินไปประมาณ 108,000 บาท และครั้งที่ 3 บุกรุกเข้าไปในบ้านเพื่อชิงทรัพย์ ในพื้นที่ สภ.จอหอ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไป โดยวิธีการของคนร้าย จะสะกดรอยติดตามเหยื่อ ที่ดูภูมิฐาน มีฐานะ มีการเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง หรือผู้ชายตัวเล็ก เมื่อสบโอกาส ก็จะแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ เรียกรถยนต์ให้จอด หรือขับรถยนต์ปาดหน้าให้จอด ทำท่าทีตรวจสอบความผิด และใช้อาวุธข่มขู่ เอาทรัพย์สิน จากนั้นใช้ยานพาหนะติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมหลบหนีไป
เหตุเกิดที่ หมู่บ้านบ่อทอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น.

จับกุมตัวได้ที่ บริเวณบ้านเลขที่ 110 ม.6 ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา
จากการสืบสวน เชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้ นอกจากที่รับสารภาพแล้ว น่าจะเคยกระทำผิดหลายครั้ง ในหลายพื้นที่ หากประชาชนท่านใด ได้รับความเสียหาย ถูกคนร้ายกลุ่มนี้ชิงทรัพย์ สามารถร้องทุกข์เพิ่มเติม โดยประสานข้อมูลได้ที่ พ.ต.ต.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์ สว.ฯ โทร.093-4647453 (ชุดจับกุม) และ ร.ต.อ.ปรีชา มีผิว พงส.สภ.หนองสาหร่าย โทร.089-8617967 และ (044)938794 – 5

ผอ.ชป.8 สั่งการ จนท. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง)

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเกรียงไกร ภาคพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 กรมชลประทาน สั่งการให้นายพิศิษฐศักดิ์ โชตะมังสะ รองผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 8 พร้อมด้วยนายวชิรพงษ์ เพ็งแก้ว หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ และ คณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำของอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ( ตอนล่าง ) ตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับนายชนก ขุนเพชรวรรณ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 4 และ นายอนุศิษฏ์ วางขุนทด หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 5 ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำ จำนวน 26.66 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 96.25 ของความจุอ่างเก็บน้ำ มีน้ำท่าไหลลงอ่างเก็บน้ำ จำนวน 2.685 ล้านลูกบาศก์เมตร และ ระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ จำนวน 16.946 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทั้งนี้โครงการชลประทานนครราชสีมา สำนักงานชลประทานที่ 8 ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนการระบายน้ำ ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดนครราชสีมา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และ ประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับทราบสถานการณ์และแผนบริหารจัดการน้ำ อีกทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องจักร-เครื่องมือ เพื่อเตรียมรับมือและป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ชุมชน ตามมาตราการป้องกันเหตุที่ได้กำหนดไว้ เพื่อให้สามารถเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย ได้อย่างรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร มอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร มอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ณ ศูนย์เรียนรู้ ๑๙ บ้านโนนสวรรค์ ตำบลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ,นายพิเย็น ภักดีสุวรรณ หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ. ,ดร.อำไพพรรณ สิงห์สกุล ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระเครื่อง จ.ขอนแก่น ,นายสุขุม กาญจนกัณโห ที่ปรึกษานักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน , นายพีรพล แสงสุนีย์ ที่ปรึกษาสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี) ,นางสาวพิมพ์ธนัญญา ธนาพัชร์จิรกุล ผู้บริหารโรงแรมอัญชันลากูน่า ขอนแก่น พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน และทีมนักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น ร่วมมอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ตำบลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายวินัย ทองทัพ กำนันตำบลพระลับ พร้อมทีมบริหาร และฝ่ายปกครองตำบลพระลับ เป็นตัวแทนรับมอบ

นโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน กล่าวว่า สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และทีมนักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตร ได้ร่วมกันรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ ได้แก่ พัดลมติดผนัง หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ กระเป๋าผ้า หมวก และน้ำดื่ม มามอบให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ตำบลพระลับ เพื่อนำไปใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลพระลับ ในการปฏิบัติหน้าที่ทุ่มเท เสียสละ และทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จากนั้น นายวินัย ทองทัพ กำนันตำบลพระลับ ได้นำคณะเยี่ยมชม Food Bank การก่อสร้างน้ำตก เพื่อบำบัดน้ำเสีย ตามแนวความคิดทำน้ำเสียให้เป็นเงิน โดยได้รับความอนุเคราะห์ และความร่วมมือจากหน่วยงาน ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เข้ามาให้คำแนะนำ คำปรึกษา ในการปรับปรุงพื้นที่หนองอีเลิง ซึ่งเป็นแหล่งรับน้ำทิ้ง น้ำเสีย ของเมืองขอนแก่น ให้เป็นน้ำดี ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำชี โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ท่านได้พระราชทาน เป็นกรอบแนวคิด ซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความยั่งยืน

วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2564 (เวลา 10:00 น.) ต้อนรับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา ในการลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีรชัย อาจหาญ รองอธิการบดีฝ่ายทรัพย์สินและวิสาหกิจ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปภากร พิทยชวาล ผู้อำนวยการเทคโนธานี ต้อนรับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา ในการลงพื้นที่สอดส่องโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัด และกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมี นายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน ณ ห้องประชุมสารนิเทศ อาคารบริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 มทส. ได้รับงบประมาณ 2,430,800 บาท โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการสถาบันเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมา ด้าน Smart City โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพื่อสร้างความรับรู้และประชาสัมพันธ์โครงการ Korat Smart City สร้างความตระหนักและตื่นตัวถึงการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม เพื่อยกระดับการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาให้กับทุกภาคส่วน และพัฒนาระบบด้าน Smart City ทั้งนี้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมาจึงได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการ

เวลา 14.00 น. ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การสอดส่องโครงการ ตามแผนปฏิบัติการราชการประจำปีงบประมาณ 2564 คณะกรรมการธรรมภิบาล จังหวัดนครราชสีมา (กธจ.นม.) นำโดยนายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการธรรมาภิบาล ลงพื้นปฏิบัติหน้าที่ สอดส่อง ,แนะนำโครงการ บริหารจัดการ สถาบันเครือข่าย พี่ ขับเคลื่อนจังหวัดนครราชสีมาด้านMICE City ในพื้นที่ตามปีงบประมาณ กลุ่มจังหวัดพ.ศ. 2564 ของมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา โดยมี ผศ.ดร.ณัฏฐินี ทองดี ผู้อำนวยการ NCEC ให้การต้อนรับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา ได้รับงบประมาณโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา ยอด1,440,200บาทเพื่อดำเนินโครงการ MICE City เพื่อยกระดับอุสาหกรรม MICE ของจังหวัดนครราชสีมาให้กับทุกภาคส่วน และพัฒนาระบบด้าน MICE City ทั้งนี้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ลงพื้นที่สอดส่องโครงการดังกล่าวว่ามีการปฏิบัติและการส่งเสริมตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ให้เกิดผลประโยชน์แก่ประชาชน

กิจกรรมหารายได้ โดยการออกรางวัสสลากกาชาดเพื่อการกุศล ประจำปี ๒๕๖๔

วันที่30 มิถุนายน พ.ศ.2564เวลา08.30 น.ณ หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สลากกาชาดเพื่อการกุศล จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี ๒๕๖๔โดยนายกอบชัย บุญอรณะผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางสายชล บุญอรณะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ด้วยเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดจัดกิจกรรมหารายได้ โดยการออกรางวัสสลากกาชาดเพื่อการกุศล ประจำปี ๒๕๖๔ จำนวนทั้งสิ้น ๕๙,๙๙๙ ฉบับ จำหน่ายฉบับละ ๑๐๐ บาทเพื่อนำรายได้สนับสนุนกิจกรรมเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาและกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์จังหวัดนครราชสีมา โดยออกรางวัลโดยการหมุนวงล้อ เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๐๐ นณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น ๔ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล ๒๑ โคราช อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวันครราชสีมา

๑ รางวัลที่ ๑ มี ๑ รางวัล รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda City hatchback ๑.oo turbo แบบ RS
๒ รางวัลที่ ๒ มี ๑ รางวัล รถยนต์กระบะแค็ปยี่ห้อ Toyota hilux revo ๒.๔ Entry
ต รางวัลที่ ๆ มี ๑๐ รางวัล
หมุนครั้งที่ ๑ รถจักรยานยนต์ Yamaha finn ๑๑๕ i จำนวน ๑ รางวัล
หมุนครั้งที่ ๒ รถจักรยานยนต์ Honda wave i จำนวน ๙ รางวัล
๔ รางวัลที่ ๔ มี ๑๐ รางวัล ไอแพด รุ่น Features Apple ipad Air b๔ GB ๑๐.G
๕ รางวัลที่ ๕ มี ๓๐ รางวัล ตู้เย็น ขนาดไม่น้อยกว่า ๔.๕ คิว
๖ รางวัลเลขท้าย ๓ ตัว หมุน ๒ ครั้ง รวม ๑๒๐ รางวัล รถจักรยาน ๒ ล้อ
๗ รางวัลเลขท้าย ๒ ตัว หมุน ๑ ครั้ง รวม ๖0๐ รางวัล หม้อสุกี้
ผู้โชคดี

รางวัลที่ 1 สลากหมายเลข 5 4 4 2 3รถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda City hatchback 1.00 turbo แบบ RS- ผู้โชคดี นาง เสน่ห์ ภูพันดุง- อายุ 49 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 281 หมู่ที่ 7 ตำบลพันดุง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา
รางวัลที่ 2 สลากหมายเลข 3 5 8 6 0- รถยนต์กระบะแค็บยี่ห้อ Toyota hilux revo 2.4 Entry MT Z-edition- ผู้โชคดี นายโสภณ ภักดิ์สินเทียะ- อายุ 58 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านวัง อำเภอโนนไทยจังหวัดนครราชสีมา
รางวัลที่ 3 รถจักรยานยนต์ จำนวน 10 รางวัลมีผู้โชคดีที่ติดต่อขอรับรางวัลแล้ว 8 ท่าน
คันที่ 1 รถจักรยานยนต์ Yamaha finn 115 i หมายเลขสลาก 1 5 0 3 0- ผู้โชคดี นาย วินัย สุขกำเนิด- อายุ 55 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 41 หมู่ที่ 12 ตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมายจังหวัดนครราชสีมา
คันที่ 2 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 02 98 8- ผู้โชคดี นางสาว ชุฎารัตน์ ภูมิจันทึก- อายุ 34 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 9 ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา
คันที่ 3 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 0 7 5 3 6- ผู้โชคดี นางสาว จีราพร ชัยประภา สมาชิกกิ่งกาชาดอำเภอปากช่อง- อายุ 47 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 259 ซอยรังสิต-นครนายก 52 ตำบลประชาธิปัตย์อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
คันที่ 4 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 18 5 6 0เชิญ คุณศิริพงย์ รุ่งโรจน์กิติยศ เป็นผู้มอบ ผู้โชคดี นาย สุรพล กอคานกลาง- อายุ 52 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 230 หมู่ที่ 2 ตำบลจันอัด อำเภอโนนสูงจังหวัดนครราชสีมา
คันที่ 5 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 5 7 18 6- ผู้โชคดี นาย อำพล จันทะราช- อายุ 56 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 14 ตำบลโคกกระเบื้อง อำเภอบ้านเหลื่อมจังหวัดนครราชสีมา
คันที่ 6 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 44 6 44- ผู้โชคดี นาย ประสิทธิ์ ศรีภิรมย์- อายุ 60 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 1620/7 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมืองอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
คันที่ 7 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสถาก 13 2 89- ผู้โชคดี นาง กฤษณา ศรีบุญมา- อายุ 65 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 44/1 ถนนมิตรภาพ ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

คันที่ 8 รถจักรยานยนต์ Honda wave i หมายเลขสลาก 27 3 77

  • ผู้โชคดี นาย วิศรุต หนูนอก- อายุ 29 ปี- ที่อยู่ บ้านเลขที่ 173 หมู่ที่ 3 ตำบลตาจั่น
    อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา