ไทรถแห่นำขบวนศิลปินมากมาย ร่วมเปิดตลาด CEO กลางเมืองโคราช

ไทรถแห่นำขบวนศิลปินอีกมากมายเปิดตลาดนัดแห่งใหม่ของเมืองโคราช #ตลาดนัดCEO


นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ ประธานกรรมการ ตลาดนัด CEO นำคณะบริหาร ถือฤกษ์งามยามดี วันที่ 9 เดือน 9 ปี 63 เปิดตลาดนัดแห่งใหม่อย่างไม่เป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก นางสุทิน ชาติพุดซา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม ร่วมแสดงความยินดี พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมแสดงความยินดีด้านบนเวที


โดยตลาดนัด CEO ตั้งอยู่บนถนนสุระ 2 ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นตลาดแบบครบวงจร มีทั้งของสด และอาหารทั่วไป รวมเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่


ทางด้าน นายวัฒนะชัย สืบศิริบุษย์ ประธานกรรมการ ตลาดนัด CEO ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตลาดนี้เป็นตลาดนัดแห่งใหม่ของเมืองโคราช ที่อาจจะไม่ใช่เพียงแค่สาขาเดียว โดยคณะบริหารอาจมีการมุ่งหวังสร้างสาขาไปอีกหลายพื้นที่ เช่น ตลาด CEO ขอนแก่น CEO กรุงเทพ เป็นต้น และการเปิดตลาดในห้วงเวลาที่เศรษฐกิจเงียบเหงาเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้มีการสร้างรายได้และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีให้กับเมืองโคราช โดยเฉพาะ ถนนเส้นสุระ 2 ที่กำลังได้รับการพัฒนา และจะเป็นพื้นที่ความเจริญในอนาคต
นอกจากนี้ ด้านนางสุทิน ชาติพุดซา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระทุ่ม ได้กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารพื้นที่ ต.หนองกระทุ่ม ตลาดแห่งนี้ เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ยังสามารถมาซื้อสินค้าสดได้ตั้งแต่ตี 5 หรือตลาดช่วงเย็น เทียบเท่าตลาดอื่น ๆ ได้ และยังมีความเชื่อมั่นว่า ตลาดนัด CEO จะสามารถทำให้เกิดความเจริญยิ่งขึ้นไปได้อย่างแน่นอน


สำหรับกิจกรรมในวันเปิดเอาฤกษ์ของตลาดนัด CEO โคราช ประกอบด้วย การออกร้านของเหล่าพ่อค้าแม่ขาย ทั้งอาหารทานเล่น กับข้าว ของหวาน ผลไม้ และอื่นๆ รวมถึงบูธของเล่น ที่มาสร้างสีสันภายในงาน และที่ขาดไม่ได้ คือการแสดงดนตรีของนักร้อง ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อาทิ ดรีม บงกช ปะทะ ไทยรถแห่ ศิลปินวงมะละกอ เพิ่มสีสันด้วยนักร้องก็อปปี้โชว์ ทั้งพี่เสกและแบงค์ (2) เรียกได้ว่าถูกอกถูกใจของผู้ที่ชมเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ตลาดนัด CEO ยังอยู่ในระหว่างการจัดร้าน ตกแต่งสถานที่ อาจมีบางส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย แต่คาดว่าอีกไม่นาน ตลาดแห่งนี้จะพร้อมเปิดบริการอย่างเป็นทางการ และมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยทางคณะผู้บริหารได้เผยว่า เตรียมจัดความสนุก ความบันเทิงให้กับพี่อย่างอย่างดีทีเดียว

รถไฟฟ้ารางเบาLRT Korat ทุกภาคส่วนเห็นด้วยคาดว่าได้ใช้ปี 2568

L R Tรถไฟฟ้าโคราชผ่านฉลุย!!! ทุกภาคส่วนร่วมใจ ได้เห็นแน่ปี 2568 #รถไฟฟ้ารางเบาโคราช


รฟม. จัดประชุมรับฟัดวามคิดเห็นของประชาชนออก ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ)งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว
(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์)

วันนี้ (26 สิงหาคม พ.ศ. 2563) เวลา 09.00 น. นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน -สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) โดยภายในงานมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา และผู้สนใจรวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วมการประชุมกว่า 250 คน ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาทั้งนี้ ได้รับเกียรติจกนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นประธานพิธีเปิด

พร้อมด้วยนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและคณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลฯ โดยการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้


เป็นการนำเสนอผลการศึกษาแนวเส้นทาง สถานีรูปแบบโครงกร และผลกระทบสิ่แวดล้อม รวมทั้งมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบผลการศึกษา พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงผลการศึกษาให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในลำดับต่อไปสำหรับผลการศึกษาโดยสรุปคือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) เป็นประเภทระบบรถรางไฟฟ้า (Tram)มีลักษณะเป็นระบบรถไฟฟ้าที่วิ่งไปตามทางวิ่งหรือรางบนถนน มีรูปแบบที่คล้ายกับรถไฟฟ้า MRT แต่มีขนาดเล็กกว่า รวมระยะทางประมาณ 11.15 กิโลเมตร มีสถานีรับ-ส่ง ผู้โดยสาร 21 สถานี ได้แก่ สถานีมิตรภาพ 1สถานีสามแยกปักธงชัย สถานีมิตรภาพ 2 สถานีองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สถานีสวนภูมิรักษ์ สถานีหัวรถไฟสถานีเทศบาลนคร สถานีศาลเจ้าวัดแจ้ง สถานีโพธิ์กลาง สถานีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สถานีแยกประปาสถานีโรงเรียนสุรนารีวิทยา สถานีราชภัฏฯ สถานีราชมงคล สถานีบ้านเมตตา สถานีบ้านนารีสวัสดิ์สถานีชุมผลสถานีศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สถานีไปรษณีย์จอมสุรางค์ สถานีวัดแจ้งในและสถานีดับเพลิง
ในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นกรณีมีการพัฒนาโครงการ ได้แก่ ผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ เสียงและความสั่นสะเทือน จกกิจกรรมในระยะก่อสร้างของโครงการ รวมทั้งปัญหาด้านการจราจรที่มีการรบกวนผิวจราจรปัจจุบัน ซึ่งโครงการได้มีการพิจารณาและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบอย่างเต็มที่ อาทิ ฉีดพรมน้ำในบริเวณที่อาจเกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย กำหนดช่วงเวลาที่อนุญาตให้มีกิจกรมก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงดังผิดปกติเฉพาะช่วงเวลา 08.00 -17.00 น. ทั้งนี้ หากมีกิกรรมกรก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงที่มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการนอกช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องมีการประกาศแจ้งให้สรรณชนทราบล่วงหน้า รวมถึงควบคุม/จำกัดความเร็ว และตรวจสอบน้ำหนักบรรทุกของรถบรรทุกให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และมีการจัดเตรียมแผนการจัดการจราจรให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนฯ นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและเผยแพร่แผนการจัดการจราจรให้ประชาชนทั่วไปและผู้ใช้เส้นทางที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงอีกทั้งกำหนดช่วงเวลาในการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ของโครงการ นอกช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นทั้งนี้ รฟม, ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัด

นครราชสีมา ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) โดยให้ดำเนินกรก่อสร้าง ครั้งละ 1 เส้นทาง เริ่มจากสายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ เป็นลำดับแรก ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องจากจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) โดย รฟม, จะจัดการประชุมเพื่อทดสอบความสนใจของภาคเอกชน และ/หรือ องค์กรครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา และครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08.30 – 12.00 น.ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อทดสอบความสนใจจากภาคเอกชน นักลงทุน ตัวแทนผู้ผลิต/จำหน่ายรถไฟฟ้าและงานระบบที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจกสถานทูตประเทศต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานราชการส่วนกลาง และสถานบันการเงิน ซึ่งจะนำไปประกอบในการจัดทำแนวทางการร่วมลงทุนของโครงการต่อไป
สำหรับโครงการระบุบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว นับเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี โดยเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2565 และสมารถเปิดให้บริการ พ.ศ. 2568 ทั้งนี้เมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน รวมถึงมีความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสามารถลดการใช้รถยนต์โดยรวมบนท้องถนนจึงช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศที่เกิดจกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้อีกด้วย

ดูดินด่านเกวียน#1 กระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจโคราช

กระตุ้นท่องเที่ยว”ดูดินด่านเกวียน”ภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal #ดูดินด่านเกวียน #การท่องเที่ยว


วันเสาร์ที่15 สิงหาคม 2563ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมานำโดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจัหวัดนครราชสีมา , นายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรี. . เทศบาลตำบลด่านเกวียนได้จัดพิธีเปิดงาน “ดูดินด่านเกวียน” ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่พร้อมด้วยนางประนอม คลังทอง ผู้ตรวจราชการกระวัฒนธรรมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกท่าน


ซึ่งภายในงานเป็นรูปแบบของถนนคนเดิน ตลอดทาง200 เมตร ตกแต่งด้วยไฟสวยงาม ทางชุมชนได้เปิดบ้านเข้าเยี่ยมชมการทำงานของศิลปินดินด่านเกวียนทั้งรูปแบบการปั้น การเผา และการลงสี ผู้ที่มาร่วมงานจะได้ทั้ง ชิมอาหารพื้นบ้านของทางตำบลด่านเกวียน และของขึ้นชื่อภายในจังหวัดนครราชสีมา ชมการแสดงพื้นบ้าน เดินเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ดินเผาราคาพิเศษ และร่วมเวิร์คชอปปั้นดินฟรีกิจกรรมพิเศษ การแข่งขันประกวดปั้นโคมไฟแกะลายวิจิตร , การแข่งขันประกวดเข็นลวดลายบนภาชนะดินผาด่านเกวียน ในโครงการ “อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชาวดิน ถิ่นงาน หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา” รวมมูลค่ารางวัลกว่า13,000 บาท
นายวิเซียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าการจัดงานดูดินด่านเกวียน ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal ทำให้เกิดกิจกรรมและรายได้เข้าสู่ชุมชนเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและสร้างความชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และผลักดันการท่องเที่ยวในวิถีชุมชน ส่งเสริมเสน่ห์และเอกลักษณ์ของชุมชนด่านเกวียนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณคำทางศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมานับเป็นความกรุณาของทนอย่างยิ่ง ทาง ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา


ต่อมานายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีพาจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า การจัดงานทั้งหมดมีระยะเวลา 2 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ ในการจัดงาน ดังนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มเป้าหมายของการจัดในครั้งนี้ คือประชาชนทั่วไป ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้ จะได้พบกับ การเปิดบ้านให้เยี่ยมชมการปั้น การลงสี การเผา ของศิลปินดินด่านเกวียน
จากนั้น นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ นับว่ามีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ ตำบลด่านกวียน อำเภอโชคชัย ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เดินทางมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนซึ่งก็ต้องขอชมเชยทางจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานเทศบาลด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย และคณะผู้ร่วมจัดงานทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันจัดงานดีๆ แบบนี้ขึ้นมา
สำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินผา สามารถข้าชมงานได้ในวันเสาร์ที่15 สิงหาคม2563 และ วันเสาร์ที่ 22 สิหาคม 2563 เวลา 16.00 – 20.00 น.ณ ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ นครราชสีมา

สสว. CONNEXT >> 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์

แถลงข่าว สสว. connext 40ปีหอการค้าโคราช แฟร์ #หอการค้าโคราช #กระตุ้นเศรษฐกิจ #Terminal21


​หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการค้าสู้ COVID-19 จับมือ สสว. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงานแสดงสินค้า สสว. Connext 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์ พบกับสินค้า อาหาร ของดีเมืองโคราชมากกว่า 150 บูธ พบกับกิจกรรมเสวนาและอบรม China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน พร้อมกับกิจกรรม Business Matching เพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจ ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท


​นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าภาคเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระบบเงินหมุนเวียนในพื้นที่หายไปมากกว่า 70-80% คงมีเพียงงบประมาณจากภาครัฐ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้หารือและทำงานร่วมกับทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชนที่พร้อมผลักดันทำให้ภาคการเศรษฐกิจของนครราชสีมาทั้งระบบมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวมีความเกี่ยวโยงไปถึงภาคประชาชน ภาคประชาสังคม รวมถึงเกษตรกร ถ้าภาคการท่องเที่ยวบริการหยุดชะงัก เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัด
.
​การปรับตัวในช่วงต่อไปของจังหวัดนครราชสีมาก็จะเน้นเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย และสุขภาพควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การค้า รวมถึงภาคเกษตรกรรรม ดังนั้นจึงขอให้ภาคเศรษฐกิจการค้าได้มีการปรับตัว ประคองตัวและนำเสนอประเด็นปัญหาที่เผชิญผ่านหอการค้า นอกจากนั้นหอการค้ายังได้รณรงค์และสนับสนุนให้สถานประกอบการต่าง ๆ ได้เข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์แล้วกว่า 40 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีความมั่นใจและมาโคราชเพิ่มมากขึ้น


.
นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและประธานโครงการ 40 ปีหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง หอการค้าจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายขึ้น ซึ่งกิจกรรมที่จัดไปแล้ว ได้แก่ งานทำบุญครบรอบ 40 ปีหอการค้าฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563, โครงการ 40 ปีหอการค้าเปิดประตูเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งร้านอาหาร และนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้เมืองโคราชมีชื่อเสียง
.
สำหรับกิจกรรม สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ ก็เป็นอีก 1 กิจกรรมใหญ่ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของหอการค้าโคราชเช่นกัน ถือเป็นงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการศูนย์การค้า Terminal 21 โคราชหลังจากประสบเหตุกราดยิง และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักโดยเร็ว
​นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมครบรอบ 40 ปี หอการค้าโคราช ที่จะเกิดขึ้นอีก 2 กิจกรรมใหญ่คือ การแข่งขันกอล์ฟ 40 ปี หอการค้า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามกอล์ฟ พานอรามา กอล์ฟ แอนด์คันทรี คลับ และงานเทศกาลประจำปี BBQ FESTIVAL@KORAT 2020 หรืองานเทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 14
.


นายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า โครงการสสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการ MSME สมาชิกหอการค้า และผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดการซื้อขาย เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา หลังสถานการณ์โควิด -19 และเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยเฉพาะ SME ที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ใหม่ ๆ การสร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ในการเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และกระจายรายได้ในจังหวัดนครราชสีมาจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวของนครราชสีมาได้รับผลกระทบอย่างสูง และทำให้ผู้ประกอบการในระดับ SMEs และรายย่อยขาดรายได้หมุนเวียน หอการค้าฯ จึงประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและฟื้นบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ให้เกิดขึ้นนำร่องขึ้น จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงาน สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทโดยเน้นผู้ประกอบการการค้า SMEs ในพื้นที่จำนวน 150 กิจการมาออกบูธในงาน
.
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาอย่างเคร่งครัด
.
​นอกจากนั้นภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ 50 คู่ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช รวมถึงมีการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในหัวข้อ China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน เพิ่มความรู้บ่มเพาะหลานย่า สู่ตลาดจีน และการประกวดเขียนแผนธุรกิจระดับอุดมศึกษาชิงทุนการศึกษาและโล่เกียรติคุณ ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช โดยหอการค้าฯ ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในระหว่างการจัดงานและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
.


​ประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ให้กลับมาฟื้นตัว และกระตุ้นการซื้อขายภายใน หลังประสบเหตุการณ์กราดยิง และสถานการณ์โควิด 19 อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดมีการแจกสินค้านาทีทองทุกวันจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรายการ และแจกคูปองให้กับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานวันละ 1,000 ใบ ใบละ 40 บาทเพื่อใช้จับจ่ายสินค้าภายในงานทุกวัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมกิจกรรมการแสดงสินค้าได้ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โทร. 044-296121-3 หรือ คุณหนึ่งนภา 086-4617730 Email: infoncc.or@gmail.com.

รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ลุยกระตุ้นเศรษฐกิจเปิดตลาดชุมชนโคราช Korat Green Market

รัฐมนตรีช่วย ลุยเปิดตลาดชุมชน คนโคราช Korat Green Market

“เซ็นทรัลโคราช” ผนึกกำลังหน่วยงานระดับประเทศ เปิดตลาดเพิ่มช่องทางเกษตรกร “KORAT GREEN MARKET” มหกรรมรวมผัก ผลไม้ สินค้าชุมชนสดๆจากไร่ เดินหน้าช่วยเหลือพี่น้องคนไทยอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี2563 บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โครงการร่วมค้าประชารัฐชุมชน จัดงาน “KORAT GREEN MARKET ตลาดชุมชนคนโคราช ครั้งที่ 1

วันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ที่ ศูนย์เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จำหน่ายสินค้าผัก ผลไม้ สดๆจากไร่ คัดเกรดราคาพิเศษ อาทิ น้อยหน่าเพชรปากช่อง เกรดส่งออก, อโวคาโด้, เมล่อน, ผักออกานิคปลอดสารพิษ ฯลฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน แบ่งเป็น 3โซน ได้แก่ โซนคาราวานสินค้าสภาอุตสาหกรรม, โซนผลไม้ท้องถิ่น และ โซนผู้ประกอบการทั่วไป กว่า50ร้านค้า

งานครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ใหม่ หรือ Covid-19 ได้มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า หารายได้ให้กับครอบครัว อีกทั้งยังทำให้ประชาชนคนไทยเกิดการกระตุ้นหันมาบริโภคผลไม้ไทยที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้งานจัดขึ้นทั้งสิ้น 5 ครั้ง ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา โดยแบ่งเป็นช่วงเวลาดังนี้

ครั้งที่ 1 วันที่ 3-5 กรกฎาคม 2563

ครั้งที่ 2 วันที่ 28-30 สิงหาคม 2563

ครั้งที่ 3 วันที่ 25-27 กันยายน 2563

ครั้งที่ 4 วันที่ 30 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563

ครั้งที่ 5 วันที่ 25-27 ธันวาคม 2563

สำหรับพิธีเปิดงาน KORAT GREEN MARKET ได้รับเกียรติจาก ท่านวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยท่านอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, คุณทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา, นางสาวนุสรา กาญจนกูล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ,นายชัยทัต สมิตินนท์ อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา , คุณศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชยจังหวัดนครราชสีมา, คุณรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์และสรรหาที่ดิน(สถาบัน) บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ คุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ร่วมงาน บริเวณ ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา


#ตลาดชุมชนคนโคราช #โคราชกรีนมาร์เก็ต #เซ็นทรัลโคราช

เพิ่มศักยภาพ นักข่าวรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา จัดอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์สื่อออนไลน์ หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน

วันนี้คุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะผู้จัดและผู้เข้าร่วมอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน โดยได้รับเกียรติจากนายธนิต จิตละมัน ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดร่วมนายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผอ.กลุ่มงานพัฒนาฝีมือแรงงานสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา


ทั้งนี้ นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมครั้งนี้ เพื่อ สร้างนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้สามารถเป็นนักข่าวมืออาชีพได้ และเพื่อเพิ่มทักษะ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพให้กับนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2563 และในการอบรมครั้งนี้จะได้มีการฝึกปฏิบัติ ณ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เพื่อให้ผู้อบรมได้ต่อยอดการนำเสนอข่าวในรูปแบบที่ได้อบรมมา คือ การเขียนข่าวเป็น ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และสามารถตัดต่อให้เป็นภาพข่าวได้ และสามารถผลิตรายงานพิเศษได้ ให้หัวข้อ การท่องเที่ยววังน้ำเขียวโคราช

จิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ…โคราชร่วมใจบูรณาการป้องกันภัย3โรคร้ายแรง

จังหวัดนครราชสีมาเร่งบูรณาการโรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้า ร่วมกิจกรรมสำรวจและทำลายแหล่ง เพาะพันธุ์ยุงลาย 3 แห่ง

วันนี้(5 มิ.ย.63) ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โรคไข้เลือดออก
และโรคพิษสุนัขบ้า จังหวัดนครราชสีมา ปี 2563 พร้อมเปิดกิจกรรมจิตอาสา“เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” และนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัยนายกเทศบาลนครนครราชสีมากล่าว
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

กล่าวว่า จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ทั่วโลกและประเทศไทย ดังนั้นเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19ระลอก2 จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมความตระหนักรู้เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 โดยบูรณาการโรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้าด้วยพบว่าเป็นโรคติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขสำคัญของพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมครั้งนี้ประกอบด้วย นิทรรศการโรคโควิด-19 โรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้า บริการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัขและแมว โดยความร่วมมือของจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาและเทศบาลนครนครราชสีมา ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ


ภาคเอกชนและจิตอาสาพระราชทาน 904 “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ร่วมกิจกรรมสำรวจและทำลายแหล่ง เพาะพันธุ์ยุงลาย 3 แห่ง ได้แก่ บริเวณหน่วยงานรอบๆศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา, วัดสุทธจินดาวรวิหาร
และวัดบึงอารามหลวง ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคไข้เเลือดออก พร้อมโรคโควิด-19 และโรคพิษสุนัขบ้า โดยขอให้ประชาชนร่วมมือป้องกันทั้ง 3โรคและติดตามสถานการณ์จากจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าต่อจากนั้นนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยนพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาและนายสุรวุฒิ เชิดชัยนายกเทศบาลนครนครราชสีมาจึงได้ชมนิทรรศการโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2519 โรคไข้เลือดออกและโรคพิษสุนัขบ้าและชมการให้บริการทำหมัน และฉีดวัดชีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สุนัขและแมว ประธานในพิธีร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” แบ่งกลุ่มจิตอาสา สำรวจและทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3 จุดอีกด้วย
ทางด้าน นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่าเพื่อให้ชาวโคราชร่วมมือป้องกันการระบาดระลอก 2 ของวิกฤตโรคโควิด-19 อีกทั้งมีรายงานทางระบาดวิทยาของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 มิถุนายน 2563พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จำนวนทั้งสิ้น 1,118 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 42.3 ต่อประชากรแสนคน มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย อัตราตายต่อประชากรแสนคน เท่ากับ 0.08 อัตราป่วยตายเท่ากับร้อยละ 0.14 พบผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง อัตราส่วนพศชาย ต่อ เพศหญิง เท่ากับ 1.1 : 1 กลุ่มอายุที่พบสูงสุดได้แก่กลุ่มเด็กวัยเรียน คือกลุ่มอายุ 10-14 ปี 326 ราย รองลงมาคือ 5-9(265ราย ), 15-19(253ราย), 20-24(128ราย),0-4(96,ราย),25-29(86ราย),30-34(62ราย),35-39(45ราย),45-49(27ราย),40-45(22ราย), 70+,(19ราย), 50-54(18ราย), 55-59(17,ราย), 65-69(12 ราย) และ 60-64 (8 ราย)ตามลำดับ โดยขณะนี้(ณ 2 มิ.ย.63)จังหวัดนครราชสีมามีการระบาดของโรคไข้เลือดออกอยู่ในลำดับที่ 4 ของประเทศ รองจาก 1) ระยอง 2) ชัยภูมิ 3)ขอนแก่น 4)นครราชสีมา และ 5)แม่ฮ่องสอน อีกทั้งพบว่า ทั้ง 32 อำเภอที่พบอัตราป่วยสูงสุด 10 ลำดับแรก คือ 1.เฉลิมพระเกียรติ 2.โนนไทย 3.สูงเนิน 4.โชคชัย 5.บัวใหญ่ 6.ประทาย 7.ขามทะเลสอ 8.เมือง 9.พิมาย และ 10.โนนสุง ตามลำดับ ดังนั้นขอให้ทุกพื้นที่เร่งสร้างความร่วมมืออย่างเข้มข้นในการรณรงค์ให้ประชาชน ร่วมมือกับผู้นำชุมชน หมู่บ้าน องค์กรปกรองส่วนท้องถิ่น และ อสม. เพื่อชาวโคราชรวมพลังตั้งการ์ดสู้ภัยโรคไข้เลือดออก ควบคู่ไปพร้อมๆกับโควิด-19 รณรงค์สื่อสารลดความเสี่ยงโรคไข้เลือดออก รณรงค์ 3 เก็บ “เก็บบ้าน เก็บน้ำ เก็บขยะ” และปฏิบัติตาม 5 ป. 2ข. ได้แก่ ป.ปิดภาชนะน้ำกินน้ำใช้ให้มิดชิดหลังการตักน้ำใช้ทุกครั้ง เพื่อป้องกันยุงลายลงไปวางไข่ , ป.เปลี่ยนน้ำในแจกัน ถังเก็บน้ำทุก 7 วัน เพื่อตัดวงจรลูกน้ำยุงลายที่จะกลายเป็นยุง , ป.ปล่อยปลากินลูกน้ำ ในภาชนะใส่น้ำถาวร เช่น อ่างบัว ถังซีเมนต์เก็บน้ำขนาดใหญ่ , ป.ปรับปรุงสิ่งแวดล้อม ให้ปลอดโปร่ง โล่ง สะอาด ลมพัดผ่าน ไม่เป็นที่เกาะพักของยุงลาย และ ป.ปฏิบัติเป็นประจำทุกๆสัปดาห์จนเป็นนิสัย สำหรับ 2ข.ได้แก่ ข.ขัดไข่ยุงที่ขอบด้านในของภาชนะเก็บกักน้ำ และ ข.ขยะกำจัดให้เกลี้ยงไม่เลี้ยงยุงลาย ทั้งที่บ้าน วัด โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก ทำงาน ศาสนาสถาน อีกทั้งป้องกันยุงลายกัดในช่วงกลางวันโดยการนอนกางมุ้งหรือทายากันยุง รวมทั้งใช้นวัตกรรมใหม่ๆในการป้องกันควบคุมโรคเพื่อให้โคราชปลอดภัยจากโรคไข้เลือดออกต่อไป ทั้งนี้โรคไข้เลือดออกป้องกันได้ แต่มีอันตรายรุนแรงถึงเสียชีวิต โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเด็งกี ที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค หากมีไข้สูงลอยเกิน 38 องศาเซลเซียสประมาณ 2-7 วัน ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหารหน้าแดง ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้านด่วนเพื่อป้องกันการเสียชีวิต ขณะที่โรคพิษสุนัขบ้า ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทำให้มีผู้เสียชีวิตทุกปี โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 2 มิถุนายน 2563 ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ยังพบโรคในสัตว์พาหะอย่างต่อเนื่องทุกปีโดยในปี 2563 ข้อมูลจาก website thairabies.com ของกรมปศุสัตว์ พบว่า มีตัวอย่างสัตว์ที่มีเชื้อพิษสุนัขบ้า จำนวน 1 ตัวอย่าง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายังมีความเสี่ยงต่อการระบาด ของโรคพิษสุนัขบ้า จากการเฝ้าระวังของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตามผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้าเข้ารับวัคซีน 100 % ดังนั้นการบูรณาการร่วมกันเพื่อประชาสัมพันธ์เชิงรุกสร้างการรับรู้ ความเข้าใจเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติ และมีความตระหนักในเชิงป้องกัน โดยการเน้นย้ำว่าผู้ที่สัมผัสหรือถูกสุนัข/แมวกัด ข่วน ต้องเข้าทำการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันและรับการ
รักษาอย่างถูกวิธีตามหลักสาธารณสุขหากไม่เข้าสู่กระบวนการรักษา หากป่วย“ตายอย่างเดียว” จึงขอความร่วมมือประชาชนเจ้าของสุนัข/แมว ให้มีความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูโดยนำสัตว์เลี้ยงของตนมาขึ้นทะเบียนเพื่อรับวัคซีนหรือทำหมัน และกำหนดมาตรการในการลดจำนวนสุนัข-แมวจรจัดอย่างต่อเนื่องและจริงจัง รวมทั้งส่งเสริมให้เทศบาล/องค์การบริหารส่วนตำบล/ปศุสัตว์/ผู้นำชุมชน/อาสาสมัครสาธารณสุข/อาสาสมัครพัฒนาปศุสัตว์ประจำ หมู่บ้าน ดำเนินการสำรวจจำนวนสุนัขและแมวทุกพื้นที่และให้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยเน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเอง โดยยึดหลัก “คาถา 5 ย” 1) อย่าแหย่ ให้สุนัขโมโห โกรธ 2) อย่าเหยียบ หาง หัว ตัว ขา หรือทำให้สุนัขหรือสัตว์ต่างๆตกใจ 3) อย่าแยก สุนัขที่กำลังกัดกัน ด้วยมือเปล่า 4) อย่าหยิบ ชามข้าวหรือเคลื่อนย้ายอาหารขณะที่สุนัขกำลังกิน 5) อย่ายุ่ง หรือเข้าใกล้กับสุนัขหรือสัตว์ต่างๆ นอกบ้านที่ไม่มีเจ้าของ หรือไม่ทราบประวัติ

RISE CONDO  คอนโดฯใจกลางเมืองโคราช พร้อมเปิด Sales Gallery  @  The Mall Korat ชั้น 1

RISE CONDO  คอนโดฯใจกลางเมืองโคราช พร้อมเปิด Sales Gallery  @  The Mall Korat ชั้น 1

วันที่  29 กุมภาพันธ์ 2563  ณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด  Sales Gallery  ณ ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์โคราช  บริเวณ ชั้น 1 โดยมีทีมผู้บริหาร RISE CONDO   นำโดย นายนราทร ธานินพิทักษ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ จังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ  โดยมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน พร้อมเข้าชมตัวอย่าง RISE CONDO  ที่ได้มีการจัดสร้างเสมือนห้องจริง ให้ผู้ที่สนใจได้ชม  และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

RISE CONDO คอนโดแห่งใหม่ที่อยู่กลางใจเมืองโคราชนั้น เกิดจากแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดคอนโดแนวความคิดใหม่นี้ขึ้นมาให้กับชาวจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียงเข่ามามีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของคอนโด และยังได้พบกับผู้บริหารทั้ง 4 ท่านร่วมพูดคุย สไตล์การออกแบบที่ไม่เหมือนใครในโคราช พร้อมทั้งระบบสาธารณูประโภคครบครัน โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยกับการตอบโจทย์ที่ไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมืองให้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นแอปพิเคชั่นช่วยแจ้งเตือนค่าน้ำค่าไฟ การสั่งอาหาร รวมถึงรถ Shutter bus มีไว้บริการผู้ที่อาศัยอยู่ในคอนโดนำไปยังสถานที่ต่างๆในโคราช ไม่ว่าจะเป็น ศูนการค้า โรงเรียน โรงพยาบาลและสถานีขนส่ง ทาง RISE CONDO ได้จัดเตรียม Shutter bus ไว้สำหรับผู้ที่มาเป็นเจ้าของห้องคอนโด  สำหรับทำเลที่ก่อตั้ง RISE CONDO ที่อยู่ใจกลางเมืองโคราช บรรยากาศสงบเงียบ ธรรมชาติที่ลงตัว ใกล้ศูนย์การค้า โรงพยาบาล สถานศึกษาและ สถานีขนส่ง โดยเชื่อมต่อถนนสายหลัก ไปยังบายพาสและมอเตอร์เวย์ได้สะดวก สนนราคาเริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท   สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0815475325      Line@:@RISECONDO       FB:RISECONDOKORAT

 

การขับเคลื่อนแรงานนอกระบบสู่ท้องถิ่นInformal Labour Fair 2020 “แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ”

การขับเคลื่อนแรงานนอกระบบสู่ท้องถิ่นInformal Labour Fair 2020 “แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ”

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 10.00 น.ณ Terminal HALL ชั้น4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 นครราชสีมาอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดย เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์)ประธาน พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา(นายจรัสชัย โชคเรื่องสกุล)คำกล่าวต้อนรับ ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(นางอุดมลักษณ์ สอนสารี)กล่าวรายงานพิธีเปิดงาน การขับเคลื่อนแรงานนอกระบบสู่ท้องถิ่นInformal Labour Fair 2020 “แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ”ท่านผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานท่านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงงานหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมาเครือข่ายแรงงานนอกระบบ และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน


พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานเปิดงาน InformalFair2020 “แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ” ในวันน Labour Fair 2020กระทรวงแรงงานได้ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบ จึงกำหนดเป็นวิสัยทัศน์ ขึ้นว่า “แรงงานนอกระบบ ต้องมีความมั่นคงทางรายได้ และได้รับการคุ้มครองทางสังคมอย่างเท่าเทียม” โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงงานนอกระบบให้มีมาตรฐานในการดำรงชีวิตที่ดี เท่าเทียมกับแรงงงานในระบบ เพื่อให้ได้รับการส่งเสริมคุ้มครอง และพัฒนาให้มีความมั่นคงด้านรายได้ อาชีพอย่างทั่วถึง นำสู่คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนกระทรวงแรงงาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของแรงงานนอกระบบจึงได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบพ.ศ. 2560 – 2564 เพื่อเป็นกรอบในการกำหนดทิศทางการดำเนินงานของกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย 3ยุทธศาสตร์


ด้านนายจรัสชัย โชคเรื่องสกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าจังหวัดนครราชสีมาเป็นสถานที่จัดงานการขับเคลื่อนแรงานนอกระบบสู่ท้องถิ่น InformalLabour Fair 2020 “แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ”จังหวัดนครราชสีมา เป็นหนึ่งในเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมในภูมิภาค9จังหวัด เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านโครงสร้งพื้นฐาน มีศักยภาพในด้นทำเลที่เหมาะสม ทั้งในแง่ที่เป็นประตูสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความพร้อมที่จะเป็นประตูสู่ภาคอินโดจีน ในด้านการลงทุน การค้า การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม โดยเชื่อมโยงกับจังหวัดชายแดนต่างๆ และประเทศเพื่อนบ้าน มีเขตประกอบการอุตสาหกรรมที่รวบรวมนักลงทุนได้อย่างเพียงพอ มีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ก่อให้เกิดธุรกิจภาคการบริการขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนอย่างดียิ่ง


ทั้งนี้นางอุดมลักษณ์ สอนสารีผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้กล่าวในนามของผู้จัดงาน Informal Labour Fair 2020 แรงงานนอกระบบ สร้างโอกาส สร้างอาชีพ และผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานในวันนี้ขอขอบคุณท่านเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างสูงที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานในครั้งนี้กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นหน่วยงานหลักที่มีภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาการคุ้มครองแรงงานนอกระบบให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย เข้าถึงบริการของรัฐ อย่างเท่าเทียมเสมอภาคโดยไม่เลือกปฏิบัติ ควบคู่กับการส่งเสริมการรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองในเบื้องต้นได้ ในการดำเนินการตามภารกิจดังกล่าว กำหนดการ


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยาศกาศกิจกรรมเวลา09.00น.มีการแสดงวงดนตรีของบริษัท แป้งมันเอี่ยมเฮง อุตสาหกรรม จำกัดและนำเสนอวีดีทัศน์ของแรงงานนอกระบุบ 6 นาที การเสวนาหัวข้อ “การสร้างและพัฒนาเครีอข่ายแรงงานนอกระบบ”โดย ผู้อำนวยการกองคุ้มครองแรงงงานนอกระบบ (นางนนทลี วงษ์เดี่ยม) ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา(นางสาวสุภาพรณ์ งาจันทึก)ผู้แทนจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา(แพทย์หญิงนภัค ด้วงจุมพล ตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการ)- เครือข่ายแรงงานนอกระบบ(นางนวล เชิดชู) ประธานกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าบ้านหนองกกผู้ดำเนินรายการเสวนา(นางสาวสกายจิต เกิดศักดิ์ ณ แวงน้อย) สำนักงานจัดหางานจังหวัดต่อมาเวลา13.00น. การบรรยายหัวข้อ “องค์ความรู้และการสริตช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน CPR”โดย ทีมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยบริษัท ซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด มหาชนผู้เข้าร่วมได้แก่ แรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และผู้สูงอายุ จากกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมาบุรีรัมย์ สุรินทร์ และชัยภูมิ จำนวน 500 คน และจากภาครัฐและเอกชนที่เป็นเครือข่าย จำนวน 100 คน

โรงแรมแคนทารี โคราช เชิญชวน พาคุณแม่มาฉลอง “เทศกาลวันแม่” 12 สิงหา วันเดียวเท่านั้น

โรงแรมแคนทารี โคราช เชิญชวน พาคุณแม่มาฉลอง “เทศกาลวันแม่” 12 สิงหา วันเดียวเท่านั้น

12 สิงหาคม 2562 ณ ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด โรงแรมแคนทารี โคราช ขอเชิญพาคุณแม่และครอบครัวมาฉลอง “เทศกาลวันแม่”อบอวลกับช่วงเวลาแห่งความสุข ในบรรยากาศอันแสนอบอุ่น กับแกรนด์บุฟเฟ่ต์นานาชาติเลิศรส ที่คัดสรรวัตถุดิบชั้นดีนำมาปรุงเป็นคาราวานอาหารนานาชาติเพื่อให้คุณแม่ได้ฉลองกับครอบครัวในวันพิเศษ ในราคาเพียง 690 บาท(สุทธิ)/ท่าน *พิเศษ มา 4 จ่าย 3! เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา เปิดให้บริการมื้อกลางวัน (11.30-14.30 น.) และ มื้อค่ำ (18.00 – 22.00 น.) เฉพาะวันที่ 12 สิงหาคม 2562 นี้เท่านั้น

สำรองที่นั่งล่วงหน้าหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงแรมแคนทารี โคราช โทร.044-353-011-2