พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานเททองหล่อพระประธานวัดวัดประมวลราษฎร์ จ.นครราชสีมา

วันที่ 30 สิงหาคม 2563  ได้มีพิธีเททองหล่อพระสมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานประจำอุโบสถหลังใหม่ ขนาดหน้าตัก 79 นิ้ว  ณ วัดประมวลราษฎร์ (ระกาย) ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยได้รับเมตตาจาก พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) วัดทองนพคุณ เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจากนายวิสูตร ชัชวาลวงศ์  ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยเวลา 09.29 น. มีพิธีบวงสรวง เวลา 13.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และในเวลา 14.29 น. เป็นพิธีเททองหล่อพระประธาน และหากพุทธศาสนิกชนท่านใดที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมต่อบุญครั้งนี้ได้

รถไฟฟ้ารางเบาLRT Korat ทุกภาคส่วนเห็นด้วยคาดว่าได้ใช้ปี 2568

L R Tรถไฟฟ้าโคราชผ่านฉลุย!!! ทุกภาคส่วนร่วมใจ ได้เห็นแน่ปี 2568 #รถไฟฟ้ารางเบาโคราช


รฟม. จัดประชุมรับฟัดวามคิดเห็นของประชาชนออก ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ)งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว
(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์)

วันนี้ (26 สิงหาคม พ.ศ. 2563) เวลา 09.00 น. นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ ผู้ช่วยผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) งานศึกษารายละเอียดความเหมาะสม ออกแบบ และจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน -สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) โดยภายในงานมีผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรอิสระ สถาบันการศึกษา และผู้สนใจรวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วมการประชุมกว่า 250 คน ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาทั้งนี้ ได้รับเกียรติจกนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นประธานพิธีเปิด

พร้อมด้วยนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาและคณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลฯ โดยการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้


เป็นการนำเสนอผลการศึกษาแนวเส้นทาง สถานีรูปแบบโครงกร และผลกระทบสิ่แวดล้อม รวมทั้งมาตรการป้องกัน แก้ไข และลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับทราบผลการศึกษา พร้อมทั้งรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อนำไปพิจารณาปรับปรุงผลการศึกษาให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ในลำดับต่อไปสำหรับผลการศึกษาโดยสรุปคือ โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว(ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์) เป็นประเภทระบบรถรางไฟฟ้า (Tram)มีลักษณะเป็นระบบรถไฟฟ้าที่วิ่งไปตามทางวิ่งหรือรางบนถนน มีรูปแบบที่คล้ายกับรถไฟฟ้า MRT แต่มีขนาดเล็กกว่า รวมระยะทางประมาณ 11.15 กิโลเมตร มีสถานีรับ-ส่ง ผู้โดยสาร 21 สถานี ได้แก่ สถานีมิตรภาพ 1สถานีสามแยกปักธงชัย สถานีมิตรภาพ 2 สถานีองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สถานีสวนภูมิรักษ์ สถานีหัวรถไฟสถานีเทศบาลนคร สถานีศาลเจ้าวัดแจ้ง สถานีโพธิ์กลาง สถานีอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สถานีแยกประปาสถานีโรงเรียนสุรนารีวิทยา สถานีราชภัฏฯ สถานีราชมงคล สถานีบ้านเมตตา สถานีบ้านนารีสวัสดิ์สถานีชุมผลสถานีศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา สถานีไปรษณีย์จอมสุรางค์ สถานีวัดแจ้งในและสถานีดับเพลิง
ในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นกรณีมีการพัฒนาโครงการ ได้แก่ ผลกระทบด้านคุณภาพอากาศ เสียงและความสั่นสะเทือน จกกิจกรรมในระยะก่อสร้างของโครงการ รวมทั้งปัญหาด้านการจราจรที่มีการรบกวนผิวจราจรปัจจุบัน ซึ่งโครงการได้มีการพิจารณาและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยจัดให้มีมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบอย่างเต็มที่ อาทิ ฉีดพรมน้ำในบริเวณที่อาจเกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย กำหนดช่วงเวลาที่อนุญาตให้มีกิจกรมก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงดังผิดปกติเฉพาะช่วงเวลา 08.00 -17.00 น. ทั้งนี้ หากมีกิกรรมกรก่อสร้างที่ก่อให้เกิดเสียงที่มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการนอกช่วงเวลาดังกล่าว จะต้องมีการประกาศแจ้งให้สรรณชนทราบล่วงหน้า รวมถึงควบคุม/จำกัดความเร็ว และตรวจสอบน้ำหนักบรรทุกของรถบรรทุกให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และมีการจัดเตรียมแผนการจัดการจราจรให้สอดคล้องกับแผนงานก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนฯ นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาและเผยแพร่แผนการจัดการจราจรให้ประชาชนทั่วไปและผู้ใช้เส้นทางที่เกี่ยวข้องทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงอีกทั้งกำหนดช่วงเวลาในการขนส่งวัสดุอุปกรณ์ของโครงการ นอกช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นทั้งนี้ รฟม, ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้เป็นผู้ดำเนินโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัด

นครราชสีมา ในรูปแบบการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) โดยให้ดำเนินกรก่อสร้าง ครั้งละ 1 เส้นทาง เริ่มจากสายสีเขียว (ตลาดเซฟวัน – สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านนารีสวัสดิ์ เป็นลำดับแรก ซึ่งจะดำเนินการต่อเนื่องจากจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (สรุปผลการศึกษาของโครงการ) โดย รฟม, จะจัดการประชุมเพื่อทดสอบความสนใจของภาคเอกชน และ/หรือ องค์กรครองส่วนท้องถิ่น (Market Sounding) ครั้งที่ 1 ในวันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ.2563 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ ห้องสีมาธานี แกรนด์ บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา และครั้งที่ 2 ในวันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เวลา 08.30 – 12.00 น.ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร เพื่อทดสอบความสนใจจากภาคเอกชน นักลงทุน ตัวแทนผู้ผลิต/จำหน่ายรถไฟฟ้าและงานระบบที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนจกสถานทูตประเทศต่างๆ ตลอดจนหน่วยงานราชการส่วนกลาง และสถานบันการเงิน ซึ่งจะนำไปประกอบในการจัดทำแนวทางการร่วมลงทุนของโครงการต่อไป
สำหรับโครงการระบุบขนส่งมวลชนจังหวัดนครราชสีมา สายสีเขียว นับเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายแรกของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 4 ปี โดยเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2565 และสมารถเปิดให้บริการ พ.ศ. 2568 ทั้งนี้เมื่อโครงการแล้วเสร็จสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐาน รวมถึงมีความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงสามารถลดการใช้รถยนต์โดยรวมบนท้องถนนจึงช่วยลดปริมาณมลพิษในอากาศที่เกิดจกการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์ได้อีกด้วย

เสริมเขี้ยวเล็บตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภาค3จัดเสริมเขียวเล็บให้ทัพตำรวจด้านการสืบสวนโดยใช้เทคโนโลยี


วันที่ 23-29 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น.ณ โรงแรมแคนทารี โดราช อ.เมืองจังหวัด.นครราชสีมาพิธีเปิดการอบรมโครงการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวนโดยใช้เทคโนโลยีของข้าราชการตำรวจสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3และผู้เข้ารับการฝึกอบรมทุกนาย

ตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับอนุติงบประมาณ โครงการพัฒนาบุคลากรด้านการสืบสวน โดยใช้เทคโนโลยีของข้าราชการตำรวจ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดฝึกอบรมให้กับข้าราชการตำรวจ ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสายงานสืบสวน โดยมอบหมายให้ ตำรวจภูธรภาค3 ดำเนินการฝึกอบรมตามโครงการฯ ดังกล่าว ในห้วงระหว่างวันที่ 23 – 29 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมแคนทารี โคราช อ.เมืองจังหวัดนครราชสมา รวมผู้เข้ารับการอบรม 150. นาย

ประกอบด้วย ข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรสืบสวน ของตำรวจภูธรจังหวัด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ถึง ภาค 9 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 1-5กองบังคับการในสังกัด กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังตับการตำรวจท่องเที่ยว 1- กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1-4 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1-4 และ ข้าราชการตำรวจระดับสารวัตรผู้รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1-4ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มพูนความรู้เทคนิค และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงามสืบสรม ให้มีความรู้ความสามารถในการนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ที่ทันสมัย มาใช้ในการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิด ซึ่งการพัฒนางานสืบสวน จะต้องพัฒนาบุคลากรให้มีองค์ความรู้และมีความรอบรู้ ที่ทันสมัยอยู่เสมอ อีกทั้ง ยังจำเป็นต้องพัฒนาให้เกิดทักษะ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้ทันที รวมไปถึงเพื่อฝึกบทวน แลกเปลี่ยนความรู้ เทคนิคการสืบสวน และการทำงานเป็นทีม ทำให้สามารถติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว

ด้านพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3กล่าวจากการรายงาน ท่านทั้งหลายคงทราบแล้วว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนดำเนินการ ยกระดับขีดความสมารถในการปฏิบัติภารกิจหลัก เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลเพื่อลดความหวาดกลัวภัยอาชญากรรมของประชาชน โดยมีระบบกระบวนงาน ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังต้องการพัฒนาบุคคลกรขององค์กร ให้มีความรู้ความสามารถและทักษะในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้สนับสนุนการสืบสวนและสามารถติดตามตัว จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว/กั้งนี้ ก็เพื่อความสงบสุขของ ประชาชนชุมชน สังคม ประเทศชาติ

สพร.5 จัดทบทวนและทำแผนพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

ที่ผ่านมา  ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์  พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมาได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2563 โดยได้รับเกียรติจาก  อ.รามณรงค์ นิลกำแหง  อ.อธิต ทิวศะศิธร์  อ.อรรถพงษ์ โภชน์เกาะ  อ.ดร.วันเกษม สัตยานุชิต  เป็นผู้ที่ให้ความรู้  ณ โรงแรมเดอะวินเทจ โฮเทล  ต.หมูสี  อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา

โดยโครงการนี้อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนากำลังคน การพัฒนาผลิตภาพแรงงาน เพื่อรองรับการเข้าสู่ Thailand 4.0 โดยจังหวัดนครราชสีมาได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการในคณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.) ขับเคลื่อนแผนพัฒนากำลังคนของจังหวัดผ่านกลไกของจังหวัด

ซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ ตามแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่สำคัญของจังหวัด โดยนำแผนพัฒนากำลังคนจังหวัด พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ ซึ่งได้จัดทำร่างขึ้นในปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมา ขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติและเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาจังหวัด ตลอดจนสร้างการรับรู้ข้อมูลแรงงานด้านต่างๆ ให้กับองค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและแรงงานในพื้นที่ได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจการพัฒนากำลังคนในพื้นที่ในรูปแบบประชารัฐ และการบูรณาการความร่วมมือสามารถพัฒนาทักษะความรู้ให้แก่กำลังคนในพื้นที่ได้ตามยุทธศาสตร์ในแต่ละระดับต่อไป

บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ส่งมอบเงิน 1,390,000 บ. สนับสนุนอาหารกลางวัน

บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ( ผู้ผลิตและส่งออกไก่ปรุงสุกทั่วโลก สำนักงานตั้งอยู่ที่อำเภอโชคชัย) ส่งมอบเงินจำนวน 1,390,000 บาท เพื่อสนับสนุนโครงการเกษตรอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นโครงการที่ทางบริษัทดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อพัฒนาโภชนาการของน้องๆ ในโรงเรียนที่ขาดแคลนทั้ง 22 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4,500 คน

โครงการเกษตรอาหารกลางวันมี วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโภชนาการของน้อง ๆ ในชุมชนแบบบูรณาการ ปลูกฝังเรื่องโภชนาการที่ดี สร้างกระบวนการเรียนรู้สอดแทรกนวัตกรรมใหม่ ๆ และเป็นการเสริมสร้างทักษะให้กับยุวเกษตรตัวน้อย ๆ โดยมีกิจกรรมภายใต้โครงการ อาทิ เช่น การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ การเพาะเลี้ยงเห็ด การเลี้ยงปลา และการเลี้ยงไก่ไข่ โดยผลผลิตที่ได้จะถูกนำไปประกอบอาหารกลางวันในโรงเรียน และบางส่วนนอกเหนือจากนี้ยังสามารถจำหน่ายให้กับชุมชนโดยรอบ ก่อให้เกิดรายได้หมุนกลับเข้ามาในโครงการ ฯ จึงทำให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืน

สสว. จัดสัมมนากระตุ้น SMEs โคราช หลังวิกฤตโควิด-19

สสว. จัดสัมมนากระตุ้น SMEs โคราช หลังวิกฤตโควิด-19

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จัดสัมมนาพิเศษ  หัวข้อ “การพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs  หลังวิกฤตการณ์ Covid-19” ณ ห้องประชุมตะโกราย 3 อาคารสำนักงานส่งเสริมวิชาการและงานลงทะเบียน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา แนะพัฒนา 4 ด้านภายหลังพ้นวิกฤตโควิด-19

          ดร.เพชรมณี ดาวเวียง รองผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ปฏิบัติงานช่วยควบคุม กำกับ ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร(OSS) ได้ให้แนวคิดกับผู้ประกอบการที่กำลังต่อสู้กับความท้าทายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติจาก โควิด-19 หรือการทำธุรกิจแบบ New Normal ว่า “ผู้ประกอบการต้องเร่งทำ 4 อย่างด้วยกันคือ สร้างทักษะใหม่ๆ หรือ New Skill Set การพัฒนาคนในองค์กร (Retraining) การพัฒนาทักษะเดิม ๆ ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น (Reskilling แบบรอบด้าน) และต้องเข้าสู่โลกออนไลน์อย่างเต็มตัว (Digitalization) รวมทั้งต้องพยายามหาโอกาสในทุกวิกฤต หากผู้ประกอบการ SMEs ยังไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน อาจเข้ามาหาความรู้จากคลังความรู้ที่ สสว.ได้เตรียมไว้ทั้งในแพลตฟอร์มออนไลน์  www.smeknowledgecenter.com และสัมมนาที่น่าสนใจอีกหลากหลาย

          เนื้อหาของหัวข้อการสัมมนาในครั้งนี้ ทางสสว.มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการ SMEs ของภาคอีสานเตรียมความพร้อมสำหรับก้าวต่อไปเมื่อผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 บรรยายโดย อาจารย์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานถึง 4 ท่านในประเด็นต่างๆ ดังนี้ การจัดการภาวะวิกฤตสำหรับ SMEs โดย ดร.อนิรุธ พิพัฒน์ประภา ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะบริหารธุรกิจ, สร้าง Content ดียอดขายปัง โดย ดร.ณพรรณ สินธุศิริ รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา คณะบริหารธุรกิจ, การตลาดออนไลน์ กับ SME ไทย ในยุค 4.0 โดย นายปุริม หนุนนัด อาจารย์ประจำสาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ และสร้างแบรนด์ง่าย ๆ ด้วย Infographic โดย นางสาวศศิวิมล กอบัว อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ

          สำหรับวิกฤตโควิด-19 ในครั้งนี้ ทาง ดร.เพชรมณี ดาวเวียง รองผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ปฏิบัติงานช่วยควบคุม กำกับ ศูนย์ให้บริการ SMEs ครบวงจร(OSS) แนะนำผู้ประกอบการ SMEs ว่า “หลังจากวิกฤตครั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs จะต้องพัฒนาธุรกิจของตัวเองทุกวัน หยุดไม่ได้ ต้องปรับธุรกิจให้เหมาะกับยุค New Normal จัดการแก้ปัญหาที่เผชิญอยู่ เช่น ปรับลดขนาดองค์กร ค้นหากลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ กระโจนสู่ตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัว เพราะจากวิกฤตโควิด-19 เชื่อว่า ผู้ประกอบการ SMEs ได้เห็นศักยภาพของตลาดออนไลน์แล้วว่า สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนั้นยังต้องศึกษาเรื่องการสร้าง content ให้แบรนด์มากยิ่งขึ้น เพราะ Content Marketing เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับธุรกิจ เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างสิ่งที่ต้องการนำเสนอไปถึงลูกค้าได้อย่างแนบเนียนโดยลูกค้าจะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกขายของ รวมถึงปรับรูปแบบการนำเสนอสินค้าด้วยคลิปวิดีโอหรือภาพที่เข้าใจง่ายและดึงดูดความสนใจอย่างอินโฟกราฟฟิกให้มากยิ่งขึ้น”

          สัมมนาครั้งต่อไปของโครงการ SME Knowledge Center   ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ที่จังหวัดเชียงราย กับหัวข้อ “อัพเกรดแฟรนไชส์ไทยเปิดตลาดสู่สากล” สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.smeknowledgecenter.com

กิจกรรมในเดือนวันแม่แห่งชาติ กองพลพัฒนาที่ 2

อีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ในเดือนแห่งวันแม่ #ทำดีด้วยหัวใจ

กองพลพัฒนาที่ 2 (ช.2 พัน.201) ได้ส่งทีม “ขุนค้อน 201 hammer” เป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2 โดยได้ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงฯ โดยได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น ทาสีโรงเรียน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ยากไร้และผู้ป่วยติดเตียง และทำความสะอาด ขุดลอกคูคลอง

 โดยกิจกรรมนี้  มีน้องๆ นักศึกษา และประชาชนที่สนใจมีจิตอาสาเข้าร่วม โดยวัตถุประสงค์ต้องการมุ่งเน้นให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ในทีม รำลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ รักสถาบัน รักชาติ รักแผ่นดิน และทำความดีเพื่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม

มุ่งมั่นพัฒนาประเทศช่วยเหตุภัยพิบัติเสริมชาติมั่นคง_ดำรงสถาบัน

กองพันทหารช่างที่201

กองพลพัฒนาที่2

กองทัพภาคที่2

ตลาดนัด CEO พร้อมเปิดให้บริการชาวโคราช 9 กันยายนนี้

ตลาดนัด CEO พร้อมเปิดให้บริการชาวโคราช 9 กันยายนนี้

9-12 ก.ย.63 เปิดแน่นอน ตลาดนัดแห่งใหม่ของคนโคราช #ตลาดนั้ดCEOโคราช ถนนสุระ2 ใกล้สี่แยกย้ายหนองโพธิ์และโรงแรมอยู่สบาย ตลาดเปิดใหม่ติดถนนสี่เลน มีทั้งโซนอาหารปรุงสำเร็จและโซนของสดไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลร้านใหญ่ หมูสด เนื้อสด ผักสดและอื่นๆอีกมากมาย มาก 350 ร้านค้า พร้อมที่จอดรถสะดวกสบายมากกว่า 500 คัน

#กิจกรรม วันที่ 9 กย เย็นละแบน & น้องโชค ไทรถแห่เต็มวงวันที่ 10 กย วงฮาโมนี่ ปะทะ ค่ายมักเด้อ มิวสิควันที่ 11 กย วงพลังหนุ่ม & วงหม้อดิน โคราชปิดท้ายวันที่ 12 กย รำวงย้อนยุ้ค มะละกอ โคราชระบบเสียงงานนี้ เบียร์ ไลค์ แอนซาวย์ ปิติพัฒน์ เตชะสุระประเสริฐ มะเหมี่ยว วงดนตรีมะละกอ โคราชมะปราง พิยดา อารมณ์ โปรดักส์ชั่น วันชัย ปักกาเวเฮีย เม้งกี้ หม้อดิน วง พลังหนุ่มแบนด์ เย็นละแบนด์ โคราช ทุ่งนาเรคคอร์ด Aphisit Arjhan ทศพร พ่วงพงษ์ นอ น๊อต บ่องตง สนใจติดต่อขายของที่ผู้บริหารเสี่ยเอ็ม 093554 4147

ดูดินด่านเกวียน#1 กระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจโคราช

กระตุ้นท่องเที่ยว”ดูดินด่านเกวียน”ภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal #ดูดินด่านเกวียน #การท่องเที่ยว


วันเสาร์ที่15 สิงหาคม 2563ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมานำโดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจัหวัดนครราชสีมา , นายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรี. . เทศบาลตำบลด่านเกวียนได้จัดพิธีเปิดงาน “ดูดินด่านเกวียน” ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวีศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมเป็นประธานเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่พร้อมด้วยนางประนอม คลังทอง ผู้ตรวจราชการกระวัฒนธรรมแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนทุกท่าน


ซึ่งภายในงานเป็นรูปแบบของถนนคนเดิน ตลอดทาง200 เมตร ตกแต่งด้วยไฟสวยงาม ทางชุมชนได้เปิดบ้านเข้าเยี่ยมชมการทำงานของศิลปินดินด่านเกวียนทั้งรูปแบบการปั้น การเผา และการลงสี ผู้ที่มาร่วมงานจะได้ทั้ง ชิมอาหารพื้นบ้านของทางตำบลด่านเกวียน และของขึ้นชื่อภายในจังหวัดนครราชสีมา ชมการแสดงพื้นบ้าน เดินเลือกซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ดินเผาราคาพิเศษ และร่วมเวิร์คชอปปั้นดินฟรีกิจกรรมพิเศษ การแข่งขันประกวดปั้นโคมไฟแกะลายวิจิตร , การแข่งขันประกวดเข็นลวดลายบนภาชนะดินผาด่านเกวียน ในโครงการ “อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น วิถีชาวดิน ถิ่นงาน หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา” รวมมูลค่ารางวัลกว่า13,000 บาท
นายวิเซียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าการจัดงานดูดินด่านเกวียน ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวภายใต้การท่องเที่ยวในวิถีแบบใหม่ New Normal ทำให้เกิดกิจกรรมและรายได้เข้าสู่ชุมชนเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวและสร้างความชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว และผลักดันการท่องเที่ยวในวิถีชุมชน ส่งเสริมเสน่ห์และเอกลักษณ์ของชุมชนด่านเกวียนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณคำทางศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมานับเป็นความกรุณาของทนอย่างยิ่ง ทาง ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา


ต่อมานายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีพาจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า การจัดงานทั้งหมดมีระยะเวลา 2 วัน โดยมีวัตถุประสงค์ ในการจัดงาน ดังนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมและยกระดับการท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มเป้าหมายของการจัดในครั้งนี้ คือประชาชนทั่วไป ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้ จะได้พบกับ การเปิดบ้านให้เยี่ยมชมการปั้น การลงสี การเผา ของศิลปินดินด่านเกวียน
จากนั้น นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ นับว่ามีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งในการส่งเสริมให้ ตำบลด่านกวียน อำเภอโชคชัย ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เดินทางมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืนซึ่งก็ต้องขอชมเชยทางจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,สำนักงานเทศบาลด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย และคณะผู้ร่วมจัดงานทุกท่านที่ได้ร่วมมือกันจัดงานดีๆ แบบนี้ขึ้นมา
สำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมเครื่องปั้นดินผา สามารถข้าชมงานได้ในวันเสาร์ที่15 สิงหาคม2563 และ วันเสาร์ที่ 22 สิหาคม 2563 เวลา 16.00 – 20.00 น.ณ ถนนสายวัฒนธรรม ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ นครราชสีมา

บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จัดงานบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จัดงานบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น.ณ อาการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา การบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดย นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานพิธีอ่านคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิทธวัช โมฬีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโน โลยี่สุรนารี กล่าวต้อนรับ นายณัฎฐ์เอก เมืองไทธัช ผู้บริหารอาวุโสด้านมวลชนสัมพันธ์ บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทยกล่าวรายงาน ท่านรองอธิการบดี/ผู้บัญชาการ/เสนาธิการผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร/ ตำรวจ/ สถานศึกษา/ผู้นำชุมชน ท่านผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกกลุ่มธุรกิจท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และผู้บริจาคโลหิตทุกท่านผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์มอบของที่ระลึกแก่ประธานพิธีและผู้บริหารทุกหน่วยงานและร่วมจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ


นางปียะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า กิจกรรมบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง ในวันนี้การบริจาคโลหิต นับว่าเป็นความดีที่ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ สามารถปฏิบัติได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นความดีที่มีความสำคัญ มีความหมายต่อการมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยของผู้เจ็บป่วย ที่มีความจำเป็นต้องรับโลหิตในการรักษาพยาบาล แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าเพียงใด แต่ก็ยังไม่สามารถผลิตโลหิตเทียม หรือคิดค้นสารอื่นใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้ ในแต่ละปี่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจึงทำให้ความต้องการใช้โลหิตเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึงแม้เหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมด้วยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ


สภากาชาดไทย พยายามรณรงค์สงเสริมให้มีการบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จากสถิติการบริจาคโลหิต 1 ครั้งต่อปี มีมากถึง 60เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่เป็นจิตอาสา มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง บริจาคโลหิตให้เป็นประจำสม่ำเสมอต่อเนื่องเพื่อให้มีโลหิตเพียงพอต่อความต้องการใช้ของผู้เจ็บป่วยอยู่รอดต่อไปได้อย่างมีความสุขดังนั้น ความสำเร็จของการจัดหาโลหิตจะเกิดขึ้นได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมให้หน่วยงานจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องการจัดกิจกรรมในวันนี้ นับว่าเป็นต้นแบบที่ดีในการสงเสริมการบริจาคโลหิตในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียง ดิฉันขอชื่นชมและขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทหาร ตำรวจ สถานศึกษามหาวิทยาลัย ชุมชน และประชาชนชาวนครราชสีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้ประสานความร่วมมือสนับสนุนการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ต่อมานายณัฎฐ์เอก เมืองไทธัช ผู้บริหารอาวุโสด้านมวลชนสัมพันธ์ บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย ผู้แทนนายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การบริจาคโลหิต เป็นความดีหนึ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ส่งเสริมให้หน่วยงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั่วประเทศ และบุคลากรได้ถือปฏิบัติเป็นประจามาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2534 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 29 ปีมีปริมาณโลหิตบริจาคสะสมมอบให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ เพื่อนาไปช่วยชีวิตผู้เจ็บป่วย รวมจานวนทั้งสิ้น “หนึ่งร้อย แปดสิบแปดล้าน เจ็ดแสน สองหมื่น สามพัน สองร้อยซีซี” หรือ สี่แสน เจ็ดหมื่น หนึ่งพัน เจ็ดร้อย แปดสิบเอ็ดยูนิต กิจกรรมบริจาคโลหิตในวันนี้ กลุ่มธุรกิจต่างๆของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ประสานความร่วมมือ กับเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทหาร ตำรวจ และสถานศึกษา ร่วมดาเนินกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ด้วยการเชิญชวนบุคลากร พร้อมด้วยประชาชนทั่วไป ร่วมทาความดีด้วยการบริจาคโลหิต และเป็นการสารองโลหิตไว้ให้บริการแก่ผู้ป่วย กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การบริจาคโลหิต การจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ การแสดงบนเวที การมอบของที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต เป็นต้น โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ คาดว่าจะมีผู้บริจาคโลหิตไม่ต่ำกว่า 500 คน