โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยคว้ารางวัลชนะเลิศ  European Open Champion 2019 ในการประกวด Rasteder Musiktage ครั้งที่ 64

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกลุ่มนักเรียนของไทยไปสร้างชื่อในต่างประเทศอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งได้แก่วงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ  European Open Champion 2019 ในการประกวด Rasteder Musiktage ครั้งที่ 64 ที่เมือง Rasteder ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ประเภท show band ในจำนวนทีมที่เข้าแข่งขันทั้งหมด 21 ทีม จาก 9 ประเทศ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้วงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยรางวัลยูโรเปี้ยน โอเพ่น แชมเปี้ยนชิฟ2019 ด้วยคะแนนรวม 90.50 และรางวัลชนะเลิศ การแสดงประเภท VIII B ด้วยคะแนนรวม89.67 โดยวงโยธวาทิตโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2562 นี้.

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดการแข่งขันระดับภาคคัดยอดฝีมือมือสู่สากล

วันที่ 4 กรกฎาคม 2562 นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ได้ ให้สัมภาษณ์ความเป็นมาของการจัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่  28 ระดับภาค จะจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-5 กรกฎาคม 2562  ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งจะมีการแข่งขันใน 6 กลุ่มสาขาอาชีพ  จำนวน 25 สาขา  โดยมี นายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการแข่งขัน  ในการจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถ ด้านทักษะฝีมือในการประกอบอาชีพ ได้ฝึกฝนอบรมในแขนงต่าง ๆ จากหลากหลายสังกัด จำนวน  256 คน   ที่เข้าแข่งขันเพื่อคัดเลือกให้เป็นตัวแทนระดับภาคเข้าไปแข่งขันในระดับชาติในปี พ.ศ. 2563 ต่อไป

นายวิรัช  คันศร  ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า  สืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานแนะแนวอาชีพ และการแข่งขันฝีมือช่างแห่งชาติ ครั้งที่ ๑  เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๓  ณ ลุมพินีสถาน กรุงเทพฯ และทรงมีพระราชดำรัสในพิธีเปิดงาน โดยทรงกล่าวถึงปัญหาเรื่องช่างฝีมือ ซึ่งต้องปรับปรุงให้มีความประณีต และมีประสิทธิภาพได้มาตรฐาน จากพระราชดำรัสของพระองค์ ทรงแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีความห่วงใยต่อกำลังแรงงานของไทย และทรงให้ความสำคัญกับมาตรฐานงานช่างของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง

ในช่วงกว่า ๔๙ ปีที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงได้จัดการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติอย่างต่อเนื่องตลอดมา รวม ๒๗ ครั้ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ นี้ จะเป็นการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๘ ระดับภาค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีสำหรับเยาวชนได้แสดงความสามารถด้านทักษะฝีมือในการประกอบวิชาชีพ ที่ได้ฝึกฝนอบรมมาในแขนงต่างๆ กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นเยาวชนมาจากหลากหลายสังกัด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา  สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย (ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และนครยก) และเยาวชนผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการเป็นต้น เข้าร่วมการแข่งขันใน ๖ กลุ่มสาขาอาชีพ จำนวนรวม ๒๕ สาขา มีผู้สมัครจำนวน 406 คน ผ่านการคัดกรองเข้าแข่งขัน จำนวน 256 คน  จำแนกเป็น

๑. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีก่อสร้างและอาคาร จำนวน ๖ สาขา ได้แก่สาขาก่ออิฐ    ปูกระเบื้อง ไม้เครื่องเรือน  ต่อประกอบมุมไม้  เทคโนโลยีระบบทำความเย็น และเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร

๒. กลุ่มสาขาอาชีพแฟชั่นและครีเอทีฟ จำนวน ๓ สาขา ได้แก่สาขาจัดดอกไม้ แฟชั่นเทคโนโลยี และกราฟิกดีไซน์

๓. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีการสื่อสาร จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ และเว็บดีไซน์

๔. กลุ่มสาขาอาชีพเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิต จำนวน ๙ สาขา ได้แก่ สาขาเขียนแบบวิศวกรรมเครื่องกลด้วยคอมพิวเตอร์ เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกลึง) เครื่องจักรกล CNC (เครื่องกัด) เทคโนโลยีงานเชื่อม อิเล็กทรอนิกส์ และสาขาแมคคาทรอนิกส์ หุ่นยนต์เคลื่อนที่ มาตรวิทยาด้านมิติ ระบบอัตโนมัติทางอุตสาหกรรม จำนวน ๔ สาขา ซึ่งเป็นการแข่งขันประเภททีมเยาวชน

๕. กลุ่มสาขาบริการส่วนบุคคลและสังคม จำนวน  ๓  สาขา  ได้แก่สาขาแต่งผม ประกอบอาหาร และบริการอาหารและเครื่องดื่ม

๖. กลุ่มสาขาอาชีพขนส่งและโลจิสติกส์ จำนวน ๒ สาขา ได้แก่สาขาเทคโนโลยียานยนต์ และสีรถยนต์

การแข่งขันในแต่ละสาขาใช้เวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง  หรือ 2 วัน สามารถปรับเพิ่ม – ลดได้ โดยคำนึงถึงความเหมาะสม  ซึ่งผู้ที่ชนะจะได้รับเงินรางวัลจากการแข่งขัน ดังนี้

  1. การแข่งขันประเภททีมเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   20,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ   12,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     6,000 บาท

  1. การแข่งขันประเภทเยาวชน

-เหรียญทอง                        รางวัลละ   10,000 บาท

-เหรียญเงิน                        รางวัลละ     6,000 บาท

-เหรียญทองแดง                    รางวัลละ     3,000 บาท

การแข่งขันจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓ – ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕ นครราชสีมา และบุญถาวร สาขาโคราช  ซึ่งจัดการแข่งขันในสาขาปูกระเบื้อง และสาขาก่ออิฐ โดย   ผู้ชนะการแข่งขันจะได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนระดับภาค เข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓

อนึ่ง การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ได้มีสถานประกอบการที่เห็นความสำคัญด้านการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย ผ่านกิจกรรมการแข่งขัน ได้ให้การสนับสนุน เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์การแข่งขันสาขาต่างๆ จำนวน ๑๐ ราย ได้แก่ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน), บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด,บริษัทนิปปอนเพนต์ (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัท อาร์.พี.เอส.ซัพพลาย จำกัด,         บริษัทพรภัทร เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด, บริษัทสยามนิสสันนครราชสีมา จำกัด สาขาปากช่อง, บริษัทมิตซูปฐพีทอง จำกัด สาขาปากช่อง,บริษัท ตังปักโคราช จำกัด สาขาสีคิ้ว, ห้างหุ้นส่วนจำกัด โตโยต้าโคราช ๑๙๘๘ และบริษัท โคราชฮอนด้าออโตโมบิล จำกัด เป็นต้น  นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสาธิตอาชีพของสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดในเครือข่าย อาทิเช่น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร การสาธิตอาชีพการทำปลาท่องโก๋และสังขยา สาธิตอาชีพการทำเกี๊ยวซ่า สาธิตอาชีพการทำข้าวเหนียวหมูฝอย สาธิตอาชีพการทำน้ำสมุนไพร สาธิตอาชีพการทำเฉาก๊วยโบราณ  สาธิตอาชีพการทำขนมกุยช่ายทอด  สาธิตอาชีพการทำขนมไทย สำหรับผู้ที่สนใจจะเข้าชมการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 28 ระดับภาค สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา กม. 99 ถนนมิตรภาพ  อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ 044 416947

โคราชจัดประชุมเตรียมความพร้อม “งานธอส. เอ็กซ์โปนครราชสีมา” ปี 2562

ที่โรงแรมราชพฤกษฟร์จูนนครราชสีมา  เมื่อวันที่  3  กรกฎาคม  2562 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดงาน  “งานธอส. เอ็กซ์โปนครราชสีมา” ปี 2562

โดยคุณดนัย แสงศรีจันทร์ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสาขาภูมิภาค 2นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าประชาชนโอกาสที่ธนาคารจะครบรอบ 66 ปี ของการดำเนินงานในวันที่ 24 กันยายน 2562 พร้อมสนับสนุนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยของรัฐบาลที่ต้องการให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคง และยกระดับคุณภาพชีวิต ธอส.ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” จึงได้จัด “งานบ้าน ธอส. เอ็กซ์โป” ปี 2562 มหกรรมด้านที่อยู่อาศัยครบวงจรที่ธนาคารจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ในพื้นที่ภูมิภาครวม 6 จังหวัด ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2562 ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสงขลา จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดขอนแก่น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่ออีกว่าวัตถุประสงค์ในการจัดงาน

ㆍ เพื่อตอบแหลูกคำประชาชนในโอกาสที่รอสจะครบรบปีของการดำนินงานในวันที่2กันยายน256

ㆍ พร้อมสนับสนุนยุทธศาสตร์ที่อยู่อาศัยของรัฐบาลที่ต้องการห้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

เพื่อสร้างความมั่นคง และยกระดับคุณภาพชีวิต

ธอส.ในฐานะสถาบันกรเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีพันธกิจ”ทำให้คนไทยมีบ้าน”

ㆍ จึงได้กำหนดจัด”งานบ้าน ธอส เอ็กซ์โป”ปี 2562

มหกรรมดันที่อยู่อาศัยครบวงจรที่ธนาคารจัดขึ้นต่อนื่องเป็นปีที่ติดต่อกัน

ㆍ ในพื้นที่ภูมิภาค6จังหวัดระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2562

ㆍ โดยจังหวัดนครราชสีมาถือเป็นจังหวัดแรกที่ธนาคารจัดงานในปี2ระหว่งวันที่12-14กรกฎาคม2562

ณศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาชานครราชสีมา

ㆍ ซึ่งธอส ได้ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำโปรโมชั่นพิเศษขึ้นนำโดย3 โชนหลัก

ประกอบด้วยด้วย

ผลิตภัณฑ์ : โปรโมชั่นกิจกรรม

1) โซนสินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบียดำ

ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยเ ท่ากับ2.85% ต่อปื

ปีที่ 2อัตราดอกเบี้ย เท่ากับMRR350% ต่อปี(3.25%)

ปีที่3อัตราดอกเบี้ยเ ท่ากับ MRR3.00%ต่อปี (3.75%)

-ปีที่4จนถึงตลอดอายุสัญญากู้

กรณีลูกค้าสวัสติการ MRR-1% ต่อปี

กรณีลูกครายย่อยทั่วไป เท่กับ MRR-050% ต่อปี

กรณีชื่ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความละควกเทำกับ MRR

ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยMRRธอส.เท่กับ675% ต่อปี)

และยื่นกู้ทันทีสามารผ่อนตัวยมาตรกรสินชื่ออัตรดอกบี้ยต่อปีนานปีแรกหรือเลือกชำระเงินดาวนั 20%

ของราคาซื้อขายและยื่นกู้ทันทีมีสิทยื่นกู้ด้วยมาตการสินชื่ออัตรดอกเบี้ยดต่อปีนานถึง2 ปีแรกและให้ฝอน

ชำระได้นานสุดถึง 40 ปี

“นอกจากโซนหลักแล้วภายในงานยังมีโชนอื่นๆที่นำและสนใจทั้งผู้ประกอบอสังหาริมทรัพยั

ที่ร่วมกันนำโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จัดทำโปโมชั่นทั้งลดหรือแจกของสมนาคุณลดพิเศษให้แก่ลูกค้า

ที่จองซื้อภายในงานท่านั้นโครงอาคัยของการเคหะแห่งขาติเพื่อผู้มีรายได้น้อยบริการตรวจข้อมูลเครดิต

ให้แก่ประขาชน

ทั้งนี้ “งานบ้าน ธอส. เอ็กซ์โป” ปี 2562 จะจัดขึ้นในพื้นที่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จังหวัดพิษณุโลก ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2562 ณ ลานโปรโมชั่นชั้น 1 ศูนย์การค้าเฟสติวัล หาดใหญ่ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2562 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

พิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562

ที่ผ่านมา อำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมาได้จัดให้มีพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562 ในวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ณ เวทีกิ่งกาชาดอำเภอปากช่องสนามข้างโรงทอกระสอบ  อำเภอปากช่อง  จังหวัดนครราชสีมา

โดยนายสุรพันธ์  ศิลปสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง  ได้กล่าวรายงานต่อ  นายจรัสชัยโชคเรืองสกุล  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานน้อยหน่าและของดีเมืองปากช่องประจำปี 2562  โดยงานนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีระหว่างวันที่ 1 – 12 กรกฎาคม  ของทุกปี  โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร มาสู่การปฏิบัติ  เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยจัดสถานที่จำหน่ายสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในลักษณะของตลาดนัดประชารัฐให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะผลไม้ชนิดต่างๆ  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพทางด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรที่มีการพัฒนาสายพันธุ์และคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง  เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ของตำบล  ตลอดจนการจัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางเกษตร และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในอำเภอปากช่องเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในฐานะประตูสู่อีสาน

ซึ่ง ในงานนี้ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนและการสนับสนุนจากองค์กรภาคเอกชนหลายหน่วยงาน  มีการออกร้านและหน่วยงานต่างๆเพื่อให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้ที่มาเที่ยวชมงาน และมีการประกวดผลไม้รวมทั้งการจัดกระเช้าผลไม้ของเกษตรกรชาวอำเภอปากช่อง  นอกจากนี้ยังได้มีการประกวดธิดาน้อยหน่าประจำปี 2562 อีกด้วย

ส.เครือข่ายสื่อฯ ภาคอีสาน เปิดเวทีเสวนาวิชาการ “กัญชา ทองคำเขียว”

ส.เครือข่ายสื่อฯ ภาคอีสาน เปิดเวทีเสวนาวิชาการ “กัญชา ทองคำเขียว”

 ระดมผู้รู้จริงเรื่องกัญชา ด้านแพทย์แผนไทย นักวิชาการ ปราชญ์ชาวบ้าน และนักกฎหมาย จากทุกภาคส่วน มาสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อการรักษาโรค ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ ที่ขอนแก่น

พันโท ดร.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า สมาคมเครือข่าย นสพ. วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กำหนดจัดโครงการ“นักสื่อสารสร้างสรรค์” ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.2562 ที่ห้องมงกุฎเพชร  โรงแรมโฆษะ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย เรื่องใกล้ตัว” โดย ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และเรื่อง “กัญชาไทย เป็นไปได้แค่ไหน” โดย ดร.ชนิญญา ชัยสุวรรณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุด /แพทย์แผนไทย /กรรมการควบคุมยาเสพติด /ผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดของสหประชาชาติ ปี 2561 และปี 2562

นอกจากนี้ ในวันที่ 28 มิ.ย.62 ยังได้เปิดเวทีเสวนาหัวข้อ “ชี้ชะตา อนาคตกัญชาไทย” โดยวิทยากร ประกอบด้วย นายวชิระ อำพนธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา / อนุกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ,นายนิวัติ แก้วล้วน อดีตเลขาธิการ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ / ทนายความวิทยากร รายการสายด่วนรัฐสภา สถานีวิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา ,เภสัชกร คมสัน ธีรานุรักษ์ กรรมการสภาการแพทย์แผนไทย / ผู้อำนวยการ ศูนย์เรียนรู้สุขภาพองค์รวมเวชรักษ์ วิสาหกิจเพื่อสังคม และนายมานพ วงศ์ไทย (อ.เชน เชิงดอย) วิทยากรโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสิรินธร / ผู้ชี้แนะการใช้สารสกัดกัญชารักษาโรค ดำเนินรายการโดย คุณปภินพิทย์ พัวโสพิศ หน.ฝ่ายรายการ สทท.11 ขอนแก่น

ส่วนในวันที่ 29 มิ.ย.62 เวทีเสวนาหัวข้อ “กัญชาไทย ใครได้ประโยชน์” โดยวิทยากร ประกอบด้วย นายชวาลุตม์  ทองเจียว ผู้อำนวยการส่วนประสานพื้นที่ สำนักงาน ปปส.ภาค 4 ,ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ,แพทย์แผนไทย กฤตนัน พันธุอุดม กรรมการสภาแพทย์แผนไทย และครูวิทยากรอบรมกัญชา (ก) และ นางสาวอัมพร ยลดาธนะโชค ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ปลูกและสกัดน้ำมันกัญชาและชากัญชา ใช้รักษาโรค ดำเนินรายการโดย ว่าที่ร้อยโท ดร.อิสเรศณุชิตภ์ จันทร์ศรี ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาศักยภาพมนุษย์อาเซียน

การจัดเสวนาในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อการรักษาโรคแล้ว ยังเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐส่วนต่างๆ ในการดำเนินการเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นจริง เนื่องจากพืชกัญชายังเป็นยาเสพติดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวทั้งภาครัฐและเอกชน ในการศึกษาหาข้อมูลนำกัญชาไปใช้ในทางการแพทย์อย่างถูกต้อง ผู้สนใจเข้าร่วมงานเสวนาครั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุพัตราฯ โทร. 08-15455594 งานนี้ฟรี ไม่มีค่าลงทะเบียน

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา  ส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562

วันนี้ที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต 3  จังหวัดนครราชสีมาได้จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562  โดย ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ในนามคณะทำงานจัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพภายใต้โครงการคืนคนดีสู่สังคมประจำปีงบประมาณ 2562 ได้กล่าวรายงานต่อ  คุณณัฐภัสสร  สุนทรฐณะวัฒน์  รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนที่ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ   ซึ่งเด็กและเยาวชนที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนที่มีฐานะครอบครัวยากจน ,ครอบครัวไม่มีความพร้อม  และไม่สามารถสนับสนุนหรือส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาทั้งสายสามัญและสายอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนได้   ทำให้เด็กและเยาวชนขาดความรู้ความสามารถและทักษะที่จะสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพ  เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตและรายได้ให้กับตนเอง

โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน   เขต  3  จังหวัดนครราชสีมา   ได้รับมอบหมายจากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนให้ดำเนินการจัดกิจกรรมสำหรับหน่วยงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   โดยมีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพอิสระพร้อมการสาธิตจากเรือนจำกลางนครราชสีมาร่วมกับวิทยาลัยการบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวนครราชสีมา  วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทยเยอรมันสระบุรี ,บ้านขนมไทย ,ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านมะค่า ,สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับร้านพร้อมสวยชาย – หญิง(บริการตัดผมฟรี) สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกับโรงเรียนสอนธัชพลตัดผมสตรีและบุรุษและหน่วยงานอื่นๆอีกมากมาย  ที่ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายในการให้การสนับสนุนด้านวิชาชีพให้กับเด็กภายในศูนย์ฝึก ฯ แห่งนี้

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

ป.ป.ส.ภาค 3 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565

สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) อันมีสาระสำคัญเกี่ยวกับ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ จำนวน 23 ประเด็น โดยในประเด็นที่ 1 ประเด็นความมั่นคง ได้กำหนดแผนย่อยเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง โดยมีเป้าหมายสำคัญเกี่ยวกับการแก้ปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและการพัฒนาประเทศ และมีการกำหนดตัวชี้วัด คือ ระดับความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในปัจจุบันดีขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 50 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจหลักในการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการยกร่างแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อวางกรอบ ทิศทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ในระดับประเทศ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และกำหนดจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค ระยะ 3 ปี (พ.ศ. 2563-2565) เพื่อวางแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในพื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้


ผู้สื่อข่าวรางานว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2562 นายวีรวัฒน์ เต็งอำนวย รองเลขาธิการ ป.ป.ส ประธานประชุม
นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าวรายงาน
ในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 20 มิถุนายน 2562 ณ ห้องสีมาธานีบอลรูม บี ชั้น L โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยการประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานภาคี และเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม บึงกาฬ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เลย สกลนคร หนองคายหนองบัวลำภู และอุดรธานี ผู้แทนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาคี ระดับภาค
โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จำนวน 170 คน ประกอบด้วย
1. กองทัพภาคที่ 2
2. ตำรวจภูธรภาค 3 / ตำรวจภูธรภาค 4
3. ตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2
4. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดน
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
5. หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง
6. ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด
7. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
8. ตำรวจภูธรจังหวัด
9. ศึกษาธิการจังหวัด
10. เครือข่ายภาคประชาชน
11. เจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง / ภาค 3 / ภาค 4
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผน ปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้น


นายอดุล ประยูรสิทธิ (ผอ.ปปส.ภาค 3)กล่าว กระผม หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดประชุมในครั้งนี้ ทุกหน่วยงานภาคีในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ การทำงานด้านยาเสพติดในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ให้สำเร็จลุล่วงและบรรลุตามวัตถุประสงค์ต่อไป สำนักงาน ปปส.ภ.3 และ ปปส.ภ.4 ในฐานะเป็นหน่วยรับผิดชอบอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เพื่อบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ด้านยาเสพติด
ในพื้นที่ พร้อมทั้งร่วมกันระดมความคิดเห็นในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระดับภาค พ.ศ. 2563-2565 รองรับยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง และแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพ.ศ. 2563 ให้สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ในระดับพื้นที่

 

พิธีเททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี

วันนี้ 17 มิ.ย.62 เวลา 15.00 น.ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ในพิธี ได้นำหลอมรวมเททองนำฤกษ์และ พระสังฆาธิการ 9รูป ได้สวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อปรกอธิษฐานจิตเจริญ พระเกจินั่งปรก 4 รูปสี่ทิศนามมงคล 1 พระครูศาลาธรรมพินิจ หลวงพ่อเงิน วัดบ้านอ้อ อำเภอโนนไทย 2 พระครูวิสุทธิ์วิทยาคม หลวงพ่อทองสุทธสีโล วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด 3 พระครูประโชติติปัญญากร หลวงพ่อคูณวรปญโญวัดบัลลังค์ อำเภอโนนไทย 4 พระครูสุนทรคุณวัตร วัดหลวงพ่อทวีปัญญาธโร วัดประมวลราษฎร์ จังหวัดนครราชสีมา ใน โดยมีพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธาน นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาร่วมพิธี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)และ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ พรรคชาติพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดปัจจุบัน (ชุดที่ 23)พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาและเหล่าข้าราชการ ประชาชน300กว่าคน


สำหรับพิธี เททองนำฤกษ์ พระชัยเมืองนครราชสีมา รุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปี ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีมีวัตถุประสงค์การจัดสร้างพระชัยเมืองเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการบูรณะศาลหลักเมืองจังหวัดนครราชสีมากิจการสาธารณะประโยชน์การกุศลในจังหวัดนครราชสีมาและในปีพศ 2562 นี้ถือว่าเป็นวาระมงคลจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปีโดยจากเดิมตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอำเภอสูงเนินในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงมีรับสั่งให้ย้ายเมืองนครราชสีมาเมื่อปีพ. ศ. 2217ผู้สื่อข่าวรายงาน ใน มวลสารศักดิ์สิทธิ์นำมาหลอมร่วมจัดสร้างพระชัยเมืองนครราชสีมามวลสารจากเจ้าคณะอำเภอ 32 อำเภอในจังหวัดนครราชสีมาแผ่นจารทองเงินจากเจ้าคุณธงชัยวัดไตรมิตรแผ่นจารและวัตถุมงคลเก่าของหลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่หลวงปู่นิลและอาจารย์ฟั่นตะกรุดและพระเครื่องเก่าของหลวงพ่อจงหลวงปู่สีหลวงปู่ดุล ฯลฯแผ่นจารอักขระและมวลสารเก่าครูบาบุญชุ่มครูบาแบ่งและครูบากฤษณะและพระธรรมวรนายกที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 เจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวัดมหาวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ นำพระเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมารุ่น ฉลองจังหวัดนครราชสีมา ครบ 345 ปีแจกให้เหล่าข้าราชการ ประชาชนทั่วไปคนละ1เหรียญโดยทีด้านหน้าซองเขียนว่า (นำฤกษ์)จนแจกไม่พอ บางเจ้าหน้าที่นำไปเป็นจำนวนมากทำให้แจกไม่ถ้วนหน้า ในเวลาต่อมาช่างหลอมก็ได้ทุบเป้าหลอมพระชัยเมืองให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีดูรูปลักษณะของพระชัยเมือง


สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดสั่งจองได้ที่ทำการปกครองจังหวัดจังหวัดนครราชสีมาศาลากลางชั้น 2 โทร 0 4 4- 2 5 2 8 2 0 โทร 0 6 3 -9 0 1 2 8 4 8, 089- 8 3 8 8 5 7 7ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook พระชัยเมืองนครราชสีมารุ่นฉลองจังหวัดนครราชสีมาครบรอบ 345 ปี


ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าโดยมีรายละเอียดการจัดสร้างพระชัยเมืองดังนี้รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 9 นิ้วรุ่นนำโชคประกอบด้วยพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วปิดทองแท้ 1 องค์พระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วนำฤกษ์ 1องค์จัดสร้าง 99 ชุดบูชาชุดละ19,999 บาท2 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท3 รูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 9 นิ้วเนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 3,999 บาท4 รูปหล่อพระชัยเมืองขนาด 5.9″เนื้อทองเหลืองรมดำจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1,999 บาทรูปหล่อพระชัยเมืองนครราชสีมาขนาด 5.9 เนื้อทองเหลืองรมดำปัดทองจัดสร้าง 999 องค์บูชา 1999 บาทเหรียญพระชัยเมืองนครราชสีมาเนื้อชนวนมวลสาร 9999เหรียญ อีกด้วย

นายกสมาคมนักข่าว ร่วมลงนามข้อตกลงร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน

ผู้แทนสื่อมวลชนนายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมาลงนามร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน ที่ห้องประชุม สถานแรกรับเด็กและเยาวชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา นายรัตนะ วรบัณฑิต ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 พร้อมด้วย นายบุญธรรม รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จ.นครราชสีมา ได้เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถานพินิจ และเครือข่ายในโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายด้านการศึกษา, อาชีพ และ การกำกับติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนปีงบประมาณ 2562 โดยเครือข่ายจากสถานศึกษา ได้แก่ อาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง วิทยาลัยสารพัดช่าง การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และ วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชม ไทย – เยอรมัน สระบุรี เครือข่ายด้านอาชีพ ได้แก่ บริษัทเทสโก้โลตัว และ เซ็นทรัลพลาซ่า เครือข่ายด้านให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ได้แก่ กองทัพภาคที่ 2 เทศบาล กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน


ทั้งนี้ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้มีตัวแทนจากสื่อมวลชน โดยได้รับเกียรติจาก นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงนาม เพื่อเป็นประบอกเสียงในการช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสถานพินิจ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนของภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ได้ให้การสนับสนุนรับบุคลากรเข้าไปให้ความรู้ ไปฝึกอบรม ให้กับเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการติดตามกลุ่มเยาวชนที่ออกจากสถานพินิจแล้วได้ต่อยอดด้านอาชีพ ซึ่งสถานพินิจมีบทบาทในการพัฒนาการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ให้เด็ก และเยาวชนกลับคืนสู่สังคม ส่งเสริมบทบาทและสนับสนุนเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในเด็กและเยาวชน ขยายดูแลสิทธิเด็กและสวัสดิภาพของเยาวขนในกระบวนการยุติธรรมเต็มรูป และเสริมสร้างและพัฒนาบุคคลากรและระบบงาน


และที่ผ่านมาจากสถิติของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ใน 1 เดือน จะมีคดีของเด็กและเยาวชนเฉลี่ย 80 คดี สัปดาห์ละ 20 คดี เยาวชนผู้กระทำผิดที่เข้ามาวันละ 3 คน โดยปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาเป็นปัญหาอันดับ 1 ถึง 50% รองลงมาคือ ปัญหาในเรื่องเพศ ปัญหาการลักทรัพย์ และปัญหาเกี่ยวกับชีวิต เช่น การทะเลาะวิวาท และเมื่อเยาวชนเข้ามาอยู่ภายในสถานพินิจแล้ว จึงจำเป็นต้องจัดหาเครือข่ายมาร่วมให้ความรู้และจัดกิจกรรม เพื่อที่จะให้เยาวชนเมื่อออกไปแล้วได้มีความรู้และทักษะอาชีพติดตัวออกไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ฯ รอง ผบ.ตร.เดินทางถวายเทียนพรรษาวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และกราบขอพรหลวงพ่อขาว พระประธานประจำวัด

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ฯ รอง ผบ.ตร.เดินทางถวายเทียนพรรษาวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และกราบขอพรหลวงพ่อขาว พระประธานประจำวัด

เมื่อวันที่  11  มิถุนายน  2562 เวลา 18.00 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ากราบนมัสการพระครูปลัดภูมิปัญญา  ญาณสัมปัณโณ  เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  พร้อมคณะนายตำรวจ  ภายหลังจากเดินทางมาตรวจติดตามเร่งรัดการสืบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่  ภาค 3 จึงได้แวะเข้ามากราบขอพรพระประธานวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  และถวายเทียนพรรษาพร้อมด้วยสังฆทาน ก่อนที่จะถึงวันพระใหญ่ หรือวันเข้าพรรษา ประจำปี 2562 นี้

อีกทั้งยังได้ถือโอกาสเข้ากราบเยี่ยมเยือน พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ พระครูปลัดภูมิปัญญา  (หลวงพ่อเสือ) ญาณสัมปัณโณ  เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  ซึ่งหากเว้นว่างจากการเดินทางมายังพื้นที่ภาค 3 แห่งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  จะแวะเข้ามาเยี่ยมเยือนหลวงพ่อเสือเป็นประจำ

ทั้งนี้ทางด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล  รอง ผบ.ตร.ยังได้กล่าวว่า ยินดีที่จะสนับสนุนกิจกรรมของทางวัด  หากขาดแคลนในส่วนใดที่จะเป็นการช่วยบำรุงวัดและพุทธศาสนา ก็จะช่วยอย่างเต็มที่  รวมถึง จะมาร่วมในงานกฐิน ประจำปี  2562  ของวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี  ในวันที่  3  พฤศจิกายน 2562 นี้อีกด้วย