ม..เทคโนฯโคราช จับมือกับเครือข่ายวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย เปิดโอกาสให้ทางสภาแพทย์แผนไทยร่วมวิจัย”กัญชาเป็นยา”

ม..เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา จับมือกับเครือข่ายวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย เปิดโอกาสให้ทางสภาแพทย์แผนไทยร่วมวิจัย”กัญชาเป็นยา”


วันที่ 23 เมษายน 2562 ที่ห้องประชุมคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.ชาคริต นวลฉิมพลี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ผศ.ดร.นิภาพร อามัสสา หัวหน้าโครงการวิจัยกัญชาเป็นยา สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและสิ่งแวดล้อม และ คณะอาจารย์ฝ่ายวิจัยของคณะฯ ได้ร่วมประชุมปรึกษาหากับ ดร.องอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ไทย พ.ท.ดร.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่ออออนไลน์ภาคอีสาน ในฐานะรองประธานเครือข่ายฯ นายกฤตนัน พันธุ์อุดม กรรมการสภาแพทย์แผนไทย อุปนายกสมาคมชะมดไทย รองประธานเครือข่ายฯ นายประดิษฐ์ บุญเชิด ผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะปลูกกัญชาไทย เลขานุการเครือข่ายฯ นางวดี พันธุ์อุดม แพทย์แผนไทยผดุงครรภ์ไทย กรรมการเครือข่ายฯ ผศ.ดร.อานนท์ แสนน่าน ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ไทย นายสมชัย แสงทอง รอง ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ไทย ภาคเหนือ นางนิตยา นาโล รอง ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ไทย ภาคอีสาน นายศักดิ์ชาย พรหมโท ประธานผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.) นางธนภัทร พันธวาส ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนภาคอีสาน และ ตัวแทนประธานวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือและอีสาน 29 จังหวัด เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อวางกรอบนโยบายในการวิจัยกัญชามาเป็นยาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แพทย์แผนไทย และ หมอชาวบ้าน ตาม พ.ร.บ.กัญชา
จากการที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ประกาศชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้มีสิทธิ์ขออนุญาตผลิต นำเข้า และส่งออก “กัญชา” ซึ่งกฎหมายอนุญาตไว้ 7 กลุ่ม ดังนี้ 1. หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย หรือจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์ เภสัชกรรม วิทยาศาสตร์ เกษตรศาสตร์ หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด สภากาชาด 2. ผู้ประกอบการวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ หรือแพทย์แผนไทย หมอพื้นบ้าน ตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำหนด 3. สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัย และจัดการเรียนการสอนด้านการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ 4. เกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตรซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายและร่วมกันดำเนินการกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา 5. ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ 6. ผู้ป่วยเดินทางระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นต้องพกพาติดตัวเพื่อใช้รักษาโรค 7. ผู้ขออนุญาตอื่นๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตที่ไม่ใช่หน่วยงานรัฐ เป็นบุคคลธรรมดาต้องมีสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย กรณีเป็นนิติบุคคลต้องจดทะเบียนตามกฎหมายไทย และกรรมการ หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 ใน 3 ต้องมีสัญชาติไทยและมีสำนักงานในประเทศไทย


ด้วยเหตุนี้เองทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สภาแพทย์แผนไทย องค์กรภาคประชาชนกลุ่มต่าง ๆ จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง “เครือข่ายวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์แผนไทย” ที่ผ่านมาประสานงานดำเนินงานตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.กัญชา ที่จะสามารถทำให้ “กลุ่มเกษตรกรปลูกกัญชา”ได้และ “แพทย์แผนไทยทำตำรับยา” ได้อย่างถูกต้องไม่ผิดกฎหมาย ตามประกาศ พ.ร.บ.กัญชาในข้อ 4.ว่า “เกษตรกรที่รวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์การเกษตรซึ่งจดทะเบียนตามกฎหมายและร่วมกันดำเนินการกับหน่วยงานรัฐ หรือสถาบันอุดมศึกษา” ทาง “เครือข่ายวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์แพทย์ไทย จึงขอความร่วมมือและร่วมประสานงานกับทาง “คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานนคราชสีมา” ได้เปิดดำเนินการจัดสรรงบประมาณวิจัย “กัญชาเป็นยาตามตำรับแพทย์แผนไทย”
ผศ.ดร.นิภาพร อามัสสา หัวหน้าโครงการวิจัยกัญชาเป็นยา สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ทางภาคประชาชนตื่นตัวกับการนำเอากัญชามาเป็นยา เพื่อรักษาตัวเองและผู้อื่น ทางเราก็พร้อมและยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่จึงได้เข้าร่วมประชุมปรึกษาหารือพร้อมกับเชิญ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ และอาจารย์ฝ่ายวิจัยเรื่องนี้มาร่วมประชุมด้วย เพราะที่ผ่านมาตนเองได้เดินทางหาความรู้ไปตามจุดต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนทราบว่า กัญชา”เป็นพืชในตระกูล Cannabis ที่สามารถจำแนกออกมาได้อีก 3 ชนิด ได้แก่ 1.Cannabis Indica : มีลักษณะเป็นพุ่มเตี้ย สูงไม่เกิน 2 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม มีลักษณะสั้นและกว้าง เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น หรือการปลูกในร่ม นิยมปลูกเพื่อนำดอกมาใช้สกัดเป็นน้ำมันทางด้านการแพทย์ และนำมาใช้เพื่อการผ่อนคลาย 2.Cannabis Sativa : ลำต้นใหญ่ หนา และแข็งแรง อาจสูงได้มากถึง 6 เมตร ใบมีลักษณะเรียวยาว สีเขียวอ่อน เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศร้อน นิยมปลูกเพื่อเอาใยมาใช้ทางด้านอุตสาหกรรม และนำเมล็ดมาสกัดน้ำมัน และ 3.Cannabis Ruderalis : ต้นเล็กคล้ายวัชพืช ใบมีลักษณะกว้างและเล็กผสมกัน เติบโตได้ดีทั้งในอากาศร้อนและเย็น พบได้มากในทวีปยุโรป ในอนาคตในการวิจัยเราจะต้องนำเอา “ต้นกัญชาทั้งต้น” มาทำการวิจัยว่าส่วนไหนเป็นยาด้านไหนบ้างตามตำรับแพทย์ปัจจุบันและแพทย์แผนไทย เราจึงอยากจะเชิญคณะแพทย์จากสภาแพทย์แผนไทยเข้าร่วมการวิจัยในครั้งนี้ด้วย


ขณะที่ทาง อาจารย์ ดร.ชาคริต นวลฉิมพลี คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดีทางภาคประชาชนได้ขอเสนอให้ทางคณะฯ ได้เป็นตัวแทนในการวิจัยความเป็นไปได้ของการนำเอากัญชามาเป็นยา อย่างถูกกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.กัญชา และ ทางเราพร้อมสนับสนุนโดยจะมอบหมายให้ทาง ผศ.ดร.นิภาพร อามัสสา ได้เป็นหัวหน้าคณะวิจัยและศึกษาข้อกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา เพราะถือได้ว่าเป็นเรื่องดีและละเอียดอ่อนพร้อมกับทำข้อมูลนำเสนอไปทางท่านอธิการฯ และ สภามหาวิทยาลัยฯ ต่อไป
ทางด้าน ดร.องอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายวิจัยและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ไทย ได้กล่าวว่า วันนี้ถือได้ว่าพวกเราได้รับข่าวดีที่ทาง “คณะวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา” พร้อมทำวิจัยกัญชาให้กับทางเครือข่ายฯ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และที่สำคัญ “เพื่อประโยชน์ของประชาชน” และยังเปิดโอกาสให้ทางคณะแพทย์แผนไทยเข้าร่วมวิจัยกัญชาตามตำรับยาแพทย์แผนไทยอีกด้วย ในส่วนของภาคประชาชนตนเองก็จะได้ประสานงานไปยัง “สหกรณ์” และ “วิสาหกิจชุมชน” ที่อยู่ภายใต้เครือข่ายเตรียมความพร้อมและแจ้งไปยังประชาชนที่ต้องการจะเข้าร่วมโครงการรีบดำเนินการจัดตั้งกลุ่มไปขออนุญาตจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนกับทางสำนักงานเกษตรแต่ละอำเภอให้ถูกต้องตามกฎหมาย

สีสัน…งานป้ายเมืองโคราช ห้างดังขึ้นป้ายบอกทางบนดึก ที่อยู่หน้าอีกห้างหนึ่ง เรียกรอยยิ้มให้กับผู้พบเห็นทั่วเมือง

สีสันงานป้าย ‘เซ็นทรัล’ ผงาดป้ายหน้าห้างคู่แข่งหลังกวาดซื้อที่ดินด้านหน้า ‘เทอร์มินอลโคราช’

‘เซ็นทรัลพลาซาโคราช’ ไล่กวาดซื้อที่ดินหน้า ‘ห้างเทอร์มินอลโคราช’ เกือบหมด พร้อมขึ้นป้ายบอกทางด้านหน้าห้างเทอร์มินอลอีกด้วย ล่าสุด เซ็นทรัลทุ่มงบทำป้ายบอกทางใหม่ที่ใหญ่และไฉไลกว่าเดิม แบบไม่เกรงใจห้างคู่แข่งเอาซ่ะเลย ถ้าหากใครไปห้างเซ็นทรัลไม่ถูกก็มาดูป้ายได้ที่ด้านหน้าห้างเทอร์มินอลโคราชได้นะเจ้านาย


และไม่รู้ว่าที่ดินที่ซื้อไปจะทำการก่อสร้างอะไรอันที่จะทำการตลาดข่มคู่แข่งอย่างเทอร์มินอลห้างน้องใหม่ก็คอยติดตามดูเอาเองว่าสงครามห้างยักษ์จะต้องสู้ฟาดฟันกันอีกยาวนานแน่นอน
งานนี้ ถือว่าเป็นสีส้นงานป้ายเมืองโคราช และยังเป็นการสร้างรายยิ้มให้กับผู้ที่พบเห็นอีกด้วย

ท่องเที่ยวและกีฬาโคราช…จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ Mobile Application สื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ นักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่น 7 กลุ่มลิธัวเนีย ได้จัดการอบรมโครงการ “อบรมเชิงปฏิบัติการ Mobile Application สื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP ในจังหวัดนครราชสีมา ที่โรงแรมโคราชโฮเท็ล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมี ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์ ดุจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุรสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดนครราชสีมา มีผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาในแต่ละอำเภอ และ นักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่น 7


โดย Mobile Application คือสื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP ในจังหวัดนครราชสีมา” ที่จะได้ร่วมกันพัฒนาโดยการนำแหล่งท่องเที่ยว ของดี ของขึ้นชื่อ สินค้าโอท็อปจากทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา รวบรวมไว้ในแอฟพลิเคชั่นเดียว ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำ และอบรมผู้หาข้อมูล โดยได้จัดอบรมเพื่อให้ผู้แทนของแต่ละอำเภอได้นำสิ่งเหล่านี้มารวบรวมและจัดทำ เพื่อเป็นคู่มือสำหรับการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้ Mobile Application คือผลงานที่ทางนักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ ได้ประยุกต์ความรู้ ความสามารถ ทรัพยากรที่มี สร้างโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้นำเสนอแนวคิดใหม่ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศ หรือองค์กรในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเจาะจง เป็นเรื่องที่มีผลเพื่อส่วนรวม และสามารถนำไป ปฏิบัติได้จริง

>เสียงสัมภาษณ์<<

โคราชเชิญชวนประชาชน ร่วมประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์

โคราชเชิญชวนประชาชน ร่วมประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เทศบาลนครนครราชสีมา  ได้ฟื้นประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์ หลังจากประเพณีนี้ได้ห่างหายไปตั้งแต่ปี 2522 หรือ 40  ปีก่อน หลังจากเมื่อวันสงกรานต์ปี 2560 ที่ผ่านมาได้รื้อฟื้นประเพณีอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ และสรงน้ำพระ และในวันสงกรานต์ 13 เมษายน 2562 ที่จะถึงนี้ วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ได้เตรียมอัญเชิญพระคันธารราษฎร์ แห่ลอดประตูชุมพล อีกครั้ง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยขบวนจะเริ่มจากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร แห่องค์พระไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผ่านถนนจอมพล ถนนประจักษ์ ถนนมหาดไทย และถนนราชดำเนิน เพื่อประกอบพิธีลอดซุ้มประตูชุมพล ก่อนขบวนองค์พระคันธารราษฎร์ จะวกกลับไปยังวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร

โดยมีกำหนดการตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 06.30 น.  มีพิธีตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง  ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี   และเวลา 15.00 น. อัญเชิญพระคันธารราฐ หรือ พระปางขอฝน เป็นพระพุทธรูปสำคัญจากวัดพระนารายณ์ ขึ้นสู่ราชรถจัดขบวนแห่ให้ผู้ร่วมงานเดินตาม รอบเมืองตามเส้นทางที่กำหนดลอดซุ้มประตูเมืองให้ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ถวายสรงน้ำ กราบไหว้สักการะ บูชา โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้จับชายผ้าพระ เดินตามขบวนกลับไปยังวัด จากนั้นจะมีการประกอบพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และผู้สูงอายุ มีการก่อเจดีย์ทราย ซึ่งถือเป็นประเพณีสงกรานต์ดั่งเดิม ที่ประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ควรสืบสานและอนุรักษ์ไว้

โคราช ต้อนรับผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทย์ฯ ในพิธีเปิดจุดบริการพักรถ สงกรานต์

นายจรัสชัย โชคเรืองสกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้รับมอบหมายจาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ต้อนรับหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในพิธีเปิดจุดบริการพักรถช่วงสงกรานต์ และร่วมปล่อยขบวนรถรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ 2562  ณ สถานีวิจัยลำตะคอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา เปิดงาน Flora Tale @ วว.ลำตะคอง ร่วมรณรงค์ขับขี่อย่างปลอดภัย ลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ บริการจุดพักรถ 24 ชั่วโมง

. นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เป็นประธานเปิดงานจุดบริการพักรถช่วงสงกรานต์ Flora Tale @ วว.ลำตะคอง ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2562 บริการจุดพักรถ 24 ชั่วโมง เชิญชวน เลือกซื้อผลิตภัณฑ์งานวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เพื่อทดลองตลาด บริการนวดฟรี บริการสุขาเพื่อประชาชน จำหน่ายอาหารสินค้าโอทอปกว่า 30 ร้านค้า พร้อมจุดเช็คอินถ่ายภาพทุ่งปอเทือง พร้อมทั้งวิทยาลัยการอาชีพปากช่อง ได้จัดโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ จิตอาสาอาชีวะ บริการตรวจซ่อม รถฟรี เพื่อให้คนและรถได้พัก และร่วมรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมี ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยผู้บริหารจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานในจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นเกียรติ ณ สถานีวิจัยลำตะคอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยุคใหม่ มุ่งเน้นสร้างผลงาน และทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากยิ่งขึ้น เพื่อนำงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน นอกจากนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 นี้
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ได้ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรม Flora Tale @วว.ลำตะคอง ในครั้งนี้ เพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนที่สัญจรผ่านถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นจุดร่วมบริการต่างๆ ประชาชนสามารถหยุดแวะพัก เพื่อผ่อนคลายก่อนเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สำคัญที่จะช่วยลดรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2562
นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปี 2560-61 ที่ผ่านมา หนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิต บาดเจ็บ ลำดับต้นๆ เกิดจากเมาแล้วขับ การขับรถเร็วเกินมาตรฐานกำหนด รวมถึงการฝ่าฝืนสัญญาณจราจร แนวทางการดำเนินงานที่จังหวัดนครราชสีมาวางไว้ เพื่อป้องกันปัญหาคือ การอำนวยความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง รวมถึงการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน บังคับใช้กฎหมาย 3 ม 2 ข 1 ร อย่างเข้มข้น เน้น ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงเมาสุราห้ามขับขี่ยานพาหนะโดยเด็ดขาด มอบขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการตรวจความพร้อมของรถและพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะที่ประจำทาง และไม่ประจำทาง ประชาสัมพันธ์รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 “งดสุรา พาครอบครัวทำบุญ”
โดยในโอกาสนี้ จังหวัดนครราชสีมา ได้ปล่อยขบวนรถรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 โดยมีภาคส่วนต่างๆ ได้ร่วมรณรงค์ และขอเชิญชวนผู้ใช้รถใช้ถนนที่เดินทางผ่านจังหวัดนครราชสีมา สามารถแวะที่จุดบริการพักรถช่วงสงกรานต์ Flora Tale @ วว.ลำตะคอง”ระหว่างวันที่ 10-16 เมษายน 2562 ณ สถานีวิจัยลำตะคอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

cr.ภาพ  ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา / สวท.นม

โคราชจัดพิธีทำน้ำอภิเษก  ณ  วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โคราชจัดพิธีทำน้ำอภิเษก  ณ  วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา

วันที่ 8 เม.ย. 2562 จังหวัดนครราชสีมาจัดพิธีทำน้ำอภิเษก โดยนิมนต์ 4 เกจิอาจารย์ ชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา  นั่งเจริญจิตภาวนา  อธิษฐานจิต  และสวดภาวนาที่บริเวณด้านหน้าวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา


นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวง ฯ รัชกาลที่ 10 โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา   ได้เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาฤกษ์   พราหมณ์อ่านโองการบูชาฤกษ์ จากนั้นคณะผู้ว่าราชการจังหวัด  ได้เข้าสู่วิหารหลวง สถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก ซึ่งได้กำหนดฤกษ์เวลา 17.00 น.  โดยพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค  11  เป็นประธานพร้อมพระสังฆาธิการ  จำนวน  30 รูป เจริญพระพุทธมนต์คาถาจุดเทียนชัย เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย วงปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์

             จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์  พระเกจิ และพระเถราจารย์   เจริญจิตภาวนาอธิษฐานและสวดภาณวารประกอบด้วย    พระครูอนุวัฒน์ ชินวงศ์ หรือหลวงพ่อจอย วัดโนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา   ,พระครูประโชติปัญญากรหรือหลวงพ่อคูณ วรปญุโญ วัดบัลลังก์ อ.โนนไทย   , พระครูสังฑรักษ์สุรเดช   อินทวัณโณ  วัดพระนารายณ์มหาราช  ,พระครูประโชติบุญญาภรณ์หรือพระอาจารย์ประทวน  ประธานสงฆ์วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ได้ผลัดเปลี่ยนนั่งเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิตและสวดภาณวารจนถึงเวลาอันควร

   

           อนึ่งน้ำที่ใช้ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกได้มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครราชสีมา อยู่ที่ต้นน้ำลำตะคอง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดกำเนิดสาขาลุ่มน้ำมูล แหล่งน้ำอุปโภคบริโภคของชาวโคราช โดยเป็นน้ำผุดกลางผืนป่ามรดกโลกแห่งที่ 5 ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่มีตำนานเล่าขานมากมายทั้งยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้เดินเท้าจากหอดูสัตว์หนองผักชี ลัดเลาะไปตามทางเดินป่าและข้ามคลองน้ำธรรมชาติไปที่เหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลองอีเฒ่า ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี ฯ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง ก่อนจะเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปวางบนเสลี่ยงก่อนจะตั้งขบวนเดินเท้าออกมาที่ตั้งขบวนรถ บริเวณถนนธนรัชต์ ทางเข้าหนองดูสัตว์หนองผักชี เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นรถแล้ววางบนมลฑป ขบวนรถได้เคลื่อนออกมาจากถนนธนรัชต์ โดยมีนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั่งอยู่บนรถเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นรถบรรทุกหกล้อขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ขบวนรถได้เคลื่อนมาที่หน้าว่าการอำเภอปากช่องและทำพิธีส่งมอบและรับมอบ พานธูป เทียนแพจากนายครรชิต ฯ หน.เขาใหญ่ ให้นายอำเภอปากช่อง ขบวนรถได้เคลื่อนมาตามเส้นทางมาที่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน เข้าสู่ลานกิจกรรม อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและทุกภาคส่วนได้ร่วมจัดกิจกรรมสมโภช เทิดทูนสถาบันและความรักความรักสามัคคีอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ จากนั้นได้เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นวางบนเสลี่ยง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หามลอดเข้าเมืองทางประตูชุมพลไปที่พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกและทำพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เมษายน 2562  และวันที่ 10-11 เมษายน  2562 นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  จะเชิญคนโทน้ำที่ได้ทำพิธีอภิเษก  นำไปส่งมอบให้ที่กระทรวงมหาดไทยต่อไป

 

โคราช…ต้อนรับแม่ทัพภาค 2 คนใหม่ โดยมีพิธี ส่ง และมอบตำแหน่งอย่างสมเกียรติ


‘ร.10’ มีพระราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ ‘พลโท ธัญญา เกียรติสาร’ เข้ารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ขณะที่ ‘พลเอกธรากร ธรรมวินทร’ อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้ารับตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิของกองทัพบก บรรดาข้าราชการทหารต่างร่วมแสดงความยินดีและจัดพิธีส่งและมอบยิ่งใหญ่สมเกียรติ
วันที่ 3 เมษายน 2562 เวลา 11.09 น. ที่ ลานหน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ พลโทธัญญา เกียรติสาร เข้าดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป ขณะที่ พลเอกธรากร ธรรมวินทร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้ารับตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิประจำกองทัพบก ข้าราชการทหารต่างร่วมแสดงความยินดีและจัดพิธีส่งและมอบยิ่งใหญ่สมเกียรติ
พลเอกธรากร ธรรมวินทร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตามที่ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลโทธัญญา เกียรติสาร เข้าดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ตนเองรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจและขอแสดงความยินดีมา ณ โอกาสนี้ นับเป็นเกียรติประวัติสูงสุดของวิชาชีพ ที่มีโอกาสได้รับใช้ชาติ รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และประชาชน และขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังและความสามารถ เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยของเราเพื่อสถาบันอันเป็นที่เทิดทูลและประชาชนทุกคน ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตภายใต้จิตสำนึกและอุดมการณ์ของชายชาติทหารสืบไป


ทางด้าน พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวเสริมว่า รู้สึกภูมิใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้าดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ข้าพเจ้าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ภายใต้จิตสำนึกและอุดมการณ์ของชายชาติทหาร รับใช้ชาติ รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท และรับใช้ประชาชนตลอดจนบ้านเมืองให้ผาสุกร่มเย็น
ขณะที่ พลเอกธรากร ธรรมวินทร เมื่อครั้งท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านก็ได้ปกครองบังคับบัญชาบริหารงานราชการอย่างดียิ่งทำให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยที่มีประสิทธิภาพสูงหน่วยหนึ่งของประเทศไทย ได้รับคำยกย่องชมเชยและเชื่อมั่นอย่างมากมายของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และผมจะปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติและสำคัญยิ่งนี้นี้ให้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติเพื่อบ้านเมืองเพื่อสถาบันและเพื่อประชาชนทุกคนสืบไป

พ่อเมืองโคราชร่วมพิธีเปิดกิจกรรม…ปั่นจักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุระนารี ประจำปี 2562 อย่างยิ่งใหญ่

โคราชจัดปั่นจักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุระนารี ประจำปี 2562 อย่างยิ่งใหญ่

 

 

ที่ผ่านมา  นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจัดหวัดนครราชสีมา    ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยานฉลองวันแห่ชัยชนะท้าวสุรนารี  ครั้งที่ 6   ประจำปี 2562  ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรารี   โดยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา, เทศบาลนครนครราชสีมา, สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ,สโมสรจักรยานนครราชสีมา และหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสรนารีประจำปี 2562 เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเพื่อจัดหารายได้ส่วนหนึ่ง มอบให้กับ โครงการมือเทียม 3 มิติ เพื่อผู้พิการ ,โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ,มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา และโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา


โดยกิจกรรม Tour Of Korat 2019 ครั้งที่ 6 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรประจำปี 2562   ได้เริ่มให้มีการลงทะเบียนเวลา 05.30 น. และปล่อยตัวเวลา 07.30 น.นักกีฬาจักรยานจะได้รับถ้วยเกียรติยศรางวัลชนะเลิศ จาก พณฯ ท่าน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ จาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 รุ่น คือ 1.เสือหมอบชาย      70 กิโลเมตร 2.เสือหมอบหญิง 70 กิโลเมตร 3.เสือภูเขาชาย 70 กิโลเมตร 4.เสือภูเขาหญิง   70กิโลเมตร และประเภททีม รวมทั้งรุ่นในเกินร้อย 19 กิโลเมตร

ละ รุ่น VIP ในปีนี้ พิเศษสุด ทางคณะจัดการแข่งขัน จะมีการประกวดประเภทแฟนซี โดยผู้เข้าประกวดจะต้องเป็นผู้สมัครปั่นจักรยานในโครงการ และลงทะเบียนหน้างาน เพื่อเข้ารับการคัดเลือกจากคระกรรม รับรางวัลที่ 1-5 เพื่อเป็นการสร้างสีสันในการแข่งขัน

 

โดยผลการแข่งขันในรุ่นเสือหมอบชาย ชนะเลิศได้แก่  หมายเลข A472 จากทีมโชคชัย  รางวัลรองชนะเลิศอันอับ 1 หมายเลข A337 คุณวิสิทธิ์ คล้ายเมืองปัก จากทีมเส็งสั่งลุย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข A473 จากทีม โชคชัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ A597 จากทีม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 ได้แก่ A 551  นายภูริเดช  พ่อค้า

รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันรุ่น เสือหมอบหญิง  ได้แก่  B046 คุณโบตั๋น  วิโซ  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ B031 คุณปราณี  นานสิน  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ B039 คุณ ธิษตยา  ผลประดิษฐ์  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ B 010 คุณชารียา  พงษ์สว่าง  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่  4  ได้แก่ B 017 คุณวัฒนีย์  เจริญวานิช

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทเสือภูเขาชาย  ได้แก่ C 154 คุณอนอรุต  ค้าขาย  จากทีมนิภาพืชผล  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 C 100 จากทีมโชคชัย  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ C120 Mr.Hans Bartkyndt รางวัลรองชนะเลศอันดับที่ 3 ได้แก่ C153 คุณเกียรติศักดิ์  เวชสูงเนิน  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 ได้แก่  C 155  คุณธเนศ  ทองท่อ จากทีม MTB

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภท เสือภูเขาหญิง  ได้แก่  D 022 คุณอัฉรา  แสงสูงเนิน จากทีม เสิงสางไบท์  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่  D 031 คุณสุนารี  การินทร์  จากทีม BMC Asia Bike รางวัลรองชนะเลิศอันอับ 2 ได้แก่ D 030 คุณกวินนาฏ  บัวสรวง  จากทีม แชมป์สปอร์ต สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ D 050 คุณทองมี  ขวดพุทธา  จากทีม  มทส.  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 ได้แก่ D 025 คุณกันทิชา  สินสวัสดิ์ จากทีม พิมาย MTB

 

รางวัลชนะเลิศในประเภททีม  ได้แก่  8AM จำนวน  70 คน

และรางวัล  แฟนซี 5 รางวัล

ภาพบรรยากาศ  Tour of Korat 2019 >>>>

 

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัดส่งเสริมการเกษตรสู่ปุ๋ยมาตราฐานประเทศ

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัดส่งเสริมการเกษตรสู่ปุ๋ยมาตราฐานประเทศ


บุญนภา 60-1 ก่อตั้งปี 2544 จำหน่ายสารปรับปรุงดิน ตราช้าง ให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
บุญนภา 2555 ก่อตั้งปี 2555 ผลิตและจำหน่าย ปุ๋ยเคมี ตราช้าง โดยมีบริษัทบุญนภา เคมีคอลเป็นผู้ผลิต จัดจำหน่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ทั่วประเทศ
บุญนภา พัฒนาการเกษตร ก่อตั้งปี 2559 จำหน่ายสารปรับปรุงดิน ตราหมี ได้ทำโครงการ 3 โครงการ ซึ่งยังไม่มี ภาคธุระกิจการเกษตรใดๆ ในตลาดที่จะส่งเสริมเกษตรกร ในการ เตรียมการเพาะปลูก ให้เหมาะสมกับพืชเศรษฐกิจที่ตนเองปลูกให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ในการเพาะปลูก เพื่อลดต้นทุน และได้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น
1. โครงการตรวจดินฟรี
2. โครงการปรับปรุงดินหลังการเก็บเกี่ยว
3. โครงการปุ๋ยดีราคาถูก
1. บุญนภาพัฒนาการเกษตร ได้ทำโครงการตรวจดินฟรี ร่วมกับ ธกส. สกต.และหน่ายงานราชการเช่น เกษตรอำเภอ เพื่อรณงรงค์ให้เกษตรกร ตรวจดิน ก่อนการเพาะปลูกโดยไม่มีค่าบริการ เพื่อให้ทราบสภาพดินในพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรเอง ว่าเป็นอย่างไร และนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องอย่างยั่งยืน โดยบริษัทจะมีทีมงานมืออาชีพลงแปลงเกษตรกร ทำการวัดค่าดินด้วยเครื่องมือตรวจวัดดินที่ทันสมัย สามารถอ่านค่าการตรวจวัดดินและแปรผลออกมา ได้ถูกต้องแม่นยำ เมื่อได้ค่าหลังการตรวจวัดดินเรียบร้อยแล้ว เช่น ค่าPh 4.5 แสดงว่า ดินมีความเป็นกรดจัด ควรต้องมีการปรับสภาพดินแล้วไถกลบ ก่อนการเพาะปลูก
ปัจจุบันบริหารงานโดย ผู้จัดการประจำอำเภอ มีระบบServey สำหรับบริการตรวจดินฟรี เพื่อให้สามารถบริการเกษตรกรได้อย่างเพียงพอ โดยปัจจุบัน มีผู้จัดการประจำอำเภอ รวม 35 คนในพื้นที่ดูแล ประมาณ 80 อำเภอ ใน 11 จังหวัดซึ่งได้รับการตอบรับจากเกษตรกร และหน่ายงานราชการได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี
2.โครงการปรับปรุงดินเพื่อการเก็บเกี่ยว ได้ใช้นวัตกรรม การบริหารจัดการจากประเทศออสเตเรีย โดยใช้ ”เครื่องโรยสารปรับสภาพดิน” ซึ่งเป็นระบบการจัดการแปลงใหญ่ที่มีประสิทธิภาพ สูงที่สุดในโลก โดยบริษัท จะทำการปรับปรุงดินหลังการตรวจดิน ซึ่งเป็นการบริหารจัดการที่ทำให้ได้ผลผลิตสูง โดยการใช้สารปรับปรุงดินตราหมี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสารปรับปรุงดิน แหล่งกันกับกรมพัฒนาที่ดินใช้และนำมาส่งเสริมเกษตรกรในปัจจุบัน ที่มีคุณภาพสูง ในการปรับสภาพดิน จึงทำให้มั่นใจและสามารถใช้ได้ผลจริง โดยบริษัทได้ทำการ ร่วมพัฒนาโครงการปรับปรุงดิน ร่วมกับภาคเอกชน มาเป็นระยะเวลา 5 ปี จำนวนพื้นที่มากกว่า 50,000ไร่ ในระหว่างดำเนินโครงการ บริษัทได้ให้บริการ,ติดตามและประเมินผลของสารปรับปรุงดินตราหมี จนบริษัทเชื่อมั่นยินดีรับประกันคุณภาพ สารปรับปรุงดินตราหมี ใช้ไม่ได้ผล ยินดีคืนเงิน 100%
โดยปัจจุบันมีผู้รับเหมา 194 รายซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการของเกษตรกร ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อ ข้อมูลผู้รับเหมาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่ Line@ บริษัท
โดยบริษัทตั้งเป้าหมาย สร้างเครือข่ายผู้รับเหมา อยู่ที่ 1,000 เครื่องในปีแรก โดยบริษัทมีมูลค่าการลงทุนในโครงการผู้รับเหมา 100-150 ล้านบาท ในปีที่ 1 ณ ปัจจุบัน มีผู้รับเหมาที่สมัครลงทะเบียน รอการพิจารณาจากบริษัทเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเกษตรกรสนใจโครงการ เนื่องจากบริษัท เป็นบริษัทเดียวที่นำนวัตกรรมการปรับปรุงดินแบบเบ็ดเสร็จ ครบวงจร และสามารถพิสูจน์ และได้รับการรับรองจาก กรมพัฒนาที่ดิน และกรมวิชาการเกษตร
3.โครงการปุ๋ยดี ราคาถูก เป็นโครงการ ขายปุ๋ยผ่านตัวแทนจำหน่าย ในระดับหมู่บ้าน โดยเน้นต้นทุนต่ำ และการใช้เทคโนโลยีระบบไลน์สร้างเครือข่าย สั่งสินค้า และระบบบริหารจัดการ Logistic ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกษตรกรได้รับ ผลประโยชน์สูงสุด โดยมีบริการสั่งซื้อ 20 กระสอบ ส่งฟรีถึงหมู่บ้าน ปัจจุบัน มีตัวแทนจำหน่าย ระดับหมู่บ้านดังนี้
1. ตัวแทน กองทุนหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 538 ราย
2. นายหน้ารถไถรับจ้าง จำนวน 1,044 ราย
ตัวแทนจำหน่าย ณ ปัจจุบัน 1,521 ราย ซึ่งเป้าหมายบริษัท คาดว่าต้องมีตัวแทนจำหน่าย 8,000 – 10,000 ราย ปัจจุบันโดยบริษัทได้จัดมีการสร้างระบบการสั่งซื้อผ่านและการประชาสัมพันธ์ผ่านLine เพื่อความสะดวกของลูกค้า โดยได้ทำแผนพัฒนาการซื้อขายผ่านระบบ Online,Application,Websit: WWW.ปรับปรุงดิน.com /Line@ id: @me0610211188
และระบบปฏิบัติการครบวงจร สั่งซื้อผ่านมือถือ ระบบการทำงาน ระบบการจัดการตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจะเสร็จสิ้นและเริ่มใช้ระบบ ไตรมาส3 ของปีนี้

สุดท้ายนี้ บริษัทบุญนภาพัฒนาการเกษตร ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ในการเข้าโครงการปรับปรุงดินหลังการเก็บเกี่ยวและโครงการปุ๋ยดีราคาถูก ที่เป็นภาคบริการในการส่งเสริมเกษตรกร จะได้รับการบริการ สินค้าและสินเชื่อจากสหกรณ์การเกษตรเพื่อลูกค้าธกส.(สกต)
บริษัทของเราเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง มีโรงงานผลิตเองได้รับมาตรฐานจาก กรมวิชาการเกษตรสามารถตรวจสอบได้ และมีการบริการที่เข้าถึงเกษตรกร โดยมีรับเหมาประจำตำบล ตัวแทน กทบ.ประจำหมู่บ้าน นายหน้าประจำหมู่บ้านที่เข้าร่วมโครงการ และเกษตรกรที่สนใจ ขอให้เชื่อมั่นในสินค้าและบริการของบริษัท และมั่นใจว่าบริษัทจะพัฒนาสินค้าและบริการที่ดีที่สุด ให้กับวงการเกษตรไทย ฝากช่วยประชาสัมพันธ์โครงการดีๆ

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด
345 หมู่1 ถ.ราชสีมา-โชคชัย ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
เบอร์ติดต่อ 061 021 1188

กสทช. บุก โคราช !!!รณรงค์มอบความรู้สร้างความเข้าใจ สู่ประชาชน

กสทช. บุก โคราช รณรงค์มอบความรู้สร้างความเข้าใจ สู่ประชาชนเลือกใช้แบตเตอรี่มือถือมีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของชีวิต-ทรัพย์สิน

เลือกใช้แบตเตอรี่มือถือมีมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของชีวิต-ทรัพย์สิน
กสทช. ผนึกความร่วมมือกับศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ทางไฟฟ้า สวทช. กับอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมด้วยมหาวิทยาลัยราชมงคลอีสาน ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา ร่วมรณรงค์ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องมาตรฐานของแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัยใช้ดี เลือกแบตเตอรี่มีมาตรฐาน” หวังสร้างความตระหนักและลดการสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน
นายเสน่ห์ สายวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักมาตรฐานและเทคโนโลยีโทรคมนาคม สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ประธานในพิธีเปิดโครงการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องมาตรฐานของแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากผลสำรวจจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันมีกว่า 124.63 ล้านเลขหมาย ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่ห้าหรือบางคนกล่าวว่าเป็นอวัยวะหนึ่งของเราไปแล้ว นับเป็นเครื่องมือที่ใช้ติดต่อสื่อสาร ดูหนัง ฟังเพลงและเป็นเสมือนกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับคนส่วนใหญ่ไปแล้ว นอกจากความสะดวกในการใช้งานอีกหนึ่งปัญหาที่พบมากในการใช้โทรศัพท์มือถือ คือ แบตเตอรี่เสื่อม โดยมีหลายสาเหตุการเลือกซื้อและใช้อุปกรณ์การชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้แบตเตอรี่ปลอม เป็นต้น นับเป็นการใช้งานที่ผิดวิธีอาจนำมาซึ่งอันตรายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับภารกิจของ กสทช. ในการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจในการเลือกใช้อุปกรณ์มีมาตรฐาน


ทางสำนักงาน กสทช. ได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนเรื่องมาตรฐานของแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อสร้างตระหนักถึงความปลอดภัยของแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งที่มาพร้อมกับเครื่องหรือการเลือกซื้อแบตเตอรี่ใหม่ ทั้งนี้ได้ลงพื้นที่รณรงค์ให้ความรู้เรื่องมาตรฐานของแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้แนวคิด “ปลอดภัยใช้ดี เลือกแบตเตอรี่มีมาตรฐาน” อย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ 27 มีนาคม 2562 ลงพื้นที่และจัดงาน ณ ลานกิจกรรมภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จ.นครราชสีมา ร่วมรณรงค์ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องมาตรฐานของแบตเตอรี่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ หวังสร้างความตระหนักและลดการสูญเสียชีวิต-ทรัพย์สิน
“การจัดทำโครงการฯ นี้ ทางสำนักงาน กสทช. ได้ร่วมกับศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และอุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร่วมทดสอบมาตรฐาน เพื่อให้ความรู้ แก่นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ในการเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน รวมถึงการใช้งานแบตเตอรี่ที่ถูกวิธี เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากแบตเตอรี่โทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน” นายเสน่ห์ สายวงศ์ รักษาการผู้อำนวยการ กล่าวทิ้งท้าย