รวมสุดยอดนวัตกรรมเกษตร นวัตกรรมด้านอาหาร สุดยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน “ISAN SMART FARM SMART FOOD”

ISAN SMART FARM SMART FOOD
เริ่มแล้ววันนี้-31 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.00-20.30 น.
ณ . ชั้น 3 วาไรตี้ ฮอลล์ และเอ็มซีซี ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช

จัดโดย สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา
กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชมงาน “อีสาน สมาร์ท
ฟาร์ม สมาร์ทฟู้ด” ที่รวมสุดยอดนวัตกรรมเกษตร นวัตกรรมด้านอาหาร สุดยิ่งใหญ่ในภาคอีสาน เพื่อ
ยกระดับรายได้ของชุมชนจากการจำหน่ายสินค้าเกษตรและเพิ่มช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ ให้เป็นที่
รู้จักอย่างกว้างขวางและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต และ
ผู้ประกอบการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ระหว่าง
ผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจการค้า การลงทุนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี
การเติบโตอย่างต่อเนื่องและเกิดการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์สินค้าอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและอาหารไปยัง
ภูมิภาคอื่น


โดยมีกิจกรรมการออกบูธแสดงและจำหน่ายสินค้า จำนวน 100 ร้านค้า สินค้าประกอบด้วย สินค้า
GI สินค้าเกษตรอินทรีย์ เกษตรปลอดภัย เกษตรแปรรูป อาหารปลอดภัยอาทิเช่น ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่ง
สัมฤทธิ์ ข้าวทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา
กระทรวงพาณิชย์ น้อยหน่าปากช่องเขาใหญ่ กำลังอยู่ระหว่างการประกาศโฆษณาขึ้นเป็นสินค้า GI ผัดหมี่โคราช ข้าวทอด
โคราชสูตรดั้งเดิม ไข่ไก่อารมณ์ดี ข้าวอินทรีย์จากจังหวัดนครราชสีมา สินค้าแปรรูปจากปลา จังหวัดอุบลราชธานี
ลูกชิ้นยืนกิน จังหวัดบุรีรัมย์ เสื่อกก จังหวัดมหาสารคาม ชาดอกไม้ จังหวัดขอนแก่น ถ่านไบโอชา จังหวัด
หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นถ่านชีวภาพสำหรับปลูกพืชทำให้พืชเจริญโตเร็ว ต้นแข็งแรง เสื้อฝ้ายย้อมคราม จังหวัด
สกลนคร กาแฟภูทับช้าง จังหวัดเลย และสินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัดและทั่วภาคอีสานมากมาย
ภายงานยังมีจัดกิจกรรมสัมมนาการสร้างเครือข่ายการตลาดเชื่อมโยงการค้าเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่ม
แปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ, กิจกรรม Online Business Matching (OBM) พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยง
สัตว์ โดยได้รับความร่วมจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ ประสานผู้นำเข้า ผู้รับซื้อจากต่างประเทศ
เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โดยผ่านฑูตพาณิชย์ทั่วโลก, กิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้รับซื้อใน
ประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี กิจกรรมการแสดงนวัตกรรมด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร กิจกรรมสินค้านาที
ทอง กิจกรรมเช็คอิน แชร์ ลุ้นโชครับรางวัล การแสดงของนักเรียนนักศึกษาและมินิคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง
29 ก.ค. พบกับ “บอย ศิริชัย” หมอลำใจเกินร้อย
30 ก.ค. “กานต์ ทะศะนะ” เจ้าของเพลง คาถาขุนแผน
31 ก.ค. “ไรอัล ไมค์หมดหนี้” แชมป์ไมค์หมดหนี้ 200 สมัย

สนว.อีสาน ประกาศเกียรติคุณคนทำสื่อคุณภาพ มอบโล่ “สื่อคุณธรรม” การันตรีมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนภาคอีสาน

สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน งานเสวนาเรื่อง “ทำข่าวอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” และ รมว. ดีอีเอส มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ สื่อคุณธรรม ให้ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชนภาคอีสาน ที่มีคุณธรรม และจริยธรรม ตระหนักในความสำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ และเป็นแบบอย่างในการใช้สื่อออนไลน์ในการทำประโยชน์ให้กับสังคม

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ณ ห้องกรรณิการ์บอลรูม โรงแรมพิมานการ์เด้น บูติคโฮเต็ล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นประธานกล่าวเปิดงานเสวนาเรื่อง “ทำข่าวอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ สื่อคุณธรรม และมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือสื่อมวลชนที่พิการทางสายตา โดยมี พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ,คณะกรรมการบริหารสมาคม, สื่อมวลชนภาคอีสาน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน

พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบัน บทบาทของสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้ง วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ได้ทำหน้าที่สะท้อนภาพเหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวของสังคมไทยในมิติต่างๆ ด้วยความตั้งมั่นและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตนเองมาโดยตลอด รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในสังคมในหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งเกิดจากการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของสื่อมวลชนนั่นเอง

กระทั่งในยุคปัจจุบันที่โลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยุคที่ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง รวมไปถึงข่าวสารจากทั่วโลกเราสามารถรับรู้ได้ เกือบจะเวลาเดียวกันกับสถานที่ที่เหตุการณ์ในอีกซีกโลก สื่อมวลชนเองก็จะต้องปรับตัวในสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เช่นกัน และพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ภาค
อีสาน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อท้องถิ่น ในประเด็น “ทำข่าวอย่างไร ไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในวิชาชีพสื่อสารมวลชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในความ สำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน บรรยายเรื่อง “ทำข่าวอย่างไร ภายใต้ PDPA ห่างไกลคุก” โดยท่านวิทยากรจาก ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ PDPA Thailand และเลขาธิการ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ,นายฐิติชัย อัฏฏะวัชระ ที่ปรึกษาชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และนายธาราวุฒิ สืบเชื้อ รองนายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินรายการโดย ดร.อิสเรศณุชิตภ์ จันทร์ศรี ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาศักยภาพมนุษย์ อาเซียน AIHD และการบรรยายพิเศษ “PDPA กับสื่อสังคมออนไลน์” โดย นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นอกจากนี้คณะกรรมการสมาคมฯ ได้พิจารณาคัดเลือกองค์กร และบุคคล เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สื่อคุณธรรม” จำนวน 25 คน โดยเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม และจริยธรรม ตระหนักในความสำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ ส่งเสริมจริยธรรม มาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และเป็นแบบอย่างในการใช้สื่อออนไลน์ในการทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มอบโล่ดังกล่าวให้

อาจารย์เธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่รับการคัดเลือกเข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สื่อคุณธรรม” ซึ่งเป็นการประกาศยกย่อง ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมและสู่สายตาสาธารณชน ในการเป็นแบบอย่างที่ดีในมิติด้านคุณธรรม และเป็นผู้มีพฤติกรรมด้านคุณธรรมควรค่าแก่การยกย่อง ในการทำหน้าที่สื่อมวลชน ในการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งดีงาม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย

พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Personal Data Protection Act หรือ PDPA คือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การควบคุมไม่ให้องค์กรนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยความที่ในปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การครอบครองเบอร์โทรศัพท์โดยการซื้อฐานข้อมูลมาจากที่อื่นและโทรไปหาโดยที่ไม่มีการรับรู้จากเจ้าของเบอร์โทรศัพท์นั้น หรือการที่เราได้รับโฆษณาบน Social Media จากข้อมูลการใช้งานของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือไม่ได้ยินยอมให้องค์กรเก็บข้อมูล เป็นต้น

กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค โดยข้อบังคับกฎหมาย PDPA จะให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติการทำงาน และข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่น ๆ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ บันทึกเสียง เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม ซึ่งรายละเอียดจะได้พูดถึงในการบรรยายพิเศษ และเวทีเสวนาในวันนี้ เพื่อคลายความวิตกกังวลของพี่น้องสื่อมวลชน และทุกท่าน

เรื่มแล้ว !เปิดประวัติศาสตร์เวียนเทียนโคราชยิ่งใหญ่อลังการ

เปิดประวัติศาสตร์เวียนเทียน รอบอนุสาวรีย์ย่าโม ยิ่งใหญ่อลังการ

ปีนี้นายกฯ ประเสริฐ บุญชัยสุข จัดงานเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอันเชิญมาจากวัดพระนารายณ์ มาประดิษฐาน หน้าลานอนุสาวรีย์ย่าโม โดยเป็นการเวียนเทียนเดินรอบลานอนุสาวรีย์ย่าโม ซึ่งถือเป็นครั้งแรและเป็นประวัติศาสตร์ของเมืองโคราช และเป็นการเวียนเทียนที่มีคนมากที่สุด

วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เวลา 18.00 น.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เป็นประธานในพิธีเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ ณ ลานอนุสาวรีย์ย่าโม เป็นครั้งแรก โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมพี่น้องประชาชนชาวโคราชจำนวนมาก

ส่วนพรุ่งนี้ วันเข้าพรรษา ตอนเย็นขอเชิญพี่น้องประชาชน ไปร่วมงานแห่เทียนเข้าพรรษา โดยเทศบาลนครนครราชสีมา ได้จัดขบวนแห่เทียนเป็นประจำทุกปี แต่เราว่างเว้นจากการจัดงานแห่เทียน 2-3 ปี เนื่องจากสถานการณ์โควิด ซึ่งโอกาสดีตอนนี้รัฐบาลเปิดประเทศแล้ว เปิดโอกาสอนุญาตให้จัดกิจกรรมแล้ว หลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้น จังหวัดนครราชสีมา โดยนายกฯ ประเสริฐ บุญชัยสุข ก็ได้จัดงานแห่เทียนเข้าพรรษาจัดยิ่งใหญ่ ไม่แพ้จังหวัดอื่น ก็อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวโคราช ไปร่วมเวียนเทียนและชมขบวนเทียนเข้าพรรษา ประจำปี 2565 ณ ลานอนุสาวรีย์ย่าโม ต้นเทียน อันสวยงาม ซึ่งมีหลายตำบล อำเภอ ส่งเทียนพรรษาเข้าประกวดกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พี่น้องประชาชนชาวโคราชทุกคนให้ความร่วมมือในการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกคน เพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 และร่วมเวียนเทียนรอบอนุสาวรีย์ย่าโม และรอบบุษบกพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปพระมหาจักรพรรดิ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา พระสงฆ์ 4 รูปเจริญพระพุทธมนต์ บริเวณลานศาลาพิธีลานอนุสาวรีย์ย่าโม โดยมีพี่น้องประชาชนพุทธศาสนิกชน นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ มาร่วมเวียนเทียน ต่างสวมใส่เสื้อผ้าโทนสีขาวร่วมงานจนเต็มลานอนุสาวรีย์ย่าโม

การเปิดตัว เส้นทางการบินการบินนกแอร์โคราช-เชียงใหม่

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565 เวลา 15.00 น. ณ อาคารสวัสดีราษฎร์ คลินิกเวชกรรม โรงแรมวีวันโคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา

การเปิดเส้นทางการบินพาณิชย์สายการบินนกแอร์ ณ ท่าอากาศยานนครราชสีมา เส้นทาง นครราชสีมา – เชียงใหม่ และตารางการบิน รวมถึงผู้ให้การสนับสนุน โดย นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, พลอากาศเอก ดร.นพพร จันทวานิช ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์, ดร.วุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์, คุณธีรพล โชติชนาภิบาล ประธานเจ้าหน้าที่สายพาณิชย์สายการบินนกแอร์ และคุณศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และแขกผู้มีเกียรติ
จังหวัดฯ ‘ผนึกกำลัง’ เร่งดันโปรเจ็คต์ร่วมสายการบินนกแอร์ เปิดเส้นทางบิน โคราช – เชียงใหม่ พร้อมสนับสนุนทุกด้านพร้อมด้วย ๑๐ องค์กรภาคเอกชนโคราช หน่วยงานภาครัฐ ห้างสรรพสินค้า ๓ ห้าง โรงแรมในจังหวัด


โดยการสนับสนุนการเปิดการบินพาณิชย์ของสายการบินนกแอร์
“โคราช – เชียงใหม่”
. โรงแรมแคนทารี ที่โคราชและเชียงใหม่ ร่วมสนับสนุนห้องพักสำหรับกิจกรรม Press/Agent FAM Trip
โดยทางฝ่ายการตลาดนกแอร์จะประสานมาที่โรงแรม ส่วน Promotion ห้องพัก โรงแรมทั้ง 2 จังหวัด
เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยอยู่แล้ว ผู้โดยสารจะได้ราคาพิเศษ
. โรงแรม ดิ อิมพีเรียลฯ โคราช ราคาห้องพัก 1,600.- บาท รวมอาหารเช้า 2 ท่าน และรถ รับ-ส่ง
สนามบิน ฟรี!
. โรงแรมเซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21
. ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช
ททท. สำนักงานนครราชสีมา
สนับสนุนกิจกรรมเปิดเที่ยวบิน จากเชียงใหม่ – นครราชสีมา ดังนี้
*ททท. ร่วมกับบริษัทนำเที่ยว ในจังหวัดเขียงใหม่ และ จังหวัดนครราชสีมา เสนอขายนักท่องเที่ยว
ในจังหวัดเซี่ยงใหม่ โดยมีการเดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา โดยสายการบินนกแอร์ ตั้งแต่เดือน สิงหาคม –
กันยายน ๒๕๖๕ โดย ททท. สนับสนุน คือ
(๑) ค่าตั๋วเครื่องบิน จาก เชียงใหม่ – นครราชสีมา – เชียงใหม่ (ไป-กลับ) ๕o๐.- / Seat และ
(๒) ค่าอาหารในจังหวัดนครราชสี่มา ๑ มื้อ คนละ ๒๐๐ บาท สรุป คือ นักท่องเที่ยว ๑ คน
(ได้สนับสนุน ๙๐๐.- บาท) จำกัดจำนวน ๘- seat เท่านั้น ในเดือน สิงหาคม – กันยายน ๒๕’๖๕ หรือจนกว่าseat จะหมด เงื่อนไขต้องเดินทางเป็นหมู่คณะ กลุ่มองค์กร กลุ่ม corporate และเข้าพักในโรงแรมที่ได้
มาตรฐานSHA /SHA PLUS เพื่อเป็นการเยียวยาซ่วยเหลือผู้ประกอบการที่พัก แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร
ร้านขายของที่ระลึกมัคคุเทศก็ รถเซ่า ชุมชน ฯลๆ

  • ททท. สนับสนุนของที่ระลึก First Fright จาก เชียงใหม่- นครราชสีมา ทุกที่นั่ง หากบริษัทนำเที่ยวที่สนใจกรุณาติดต่อ ททท. สำนักงานนครราชสีมา และจัดทำเป็นหนังสือ
    ถึง ททท. เพื่อขอรับการสนับสนุนต่อไป
  • ชมรมผู้บริหารสนามกอล์ฟเขาใหญ่ – โคราช
    เนื่องในโอกาสเปิดเส้นหางการบินใหม่ นครราชม.-เชียงใหม่ ชมรมรู้บริหารสนามกอล์ฟขาใหญ่ – ไคราช ขอมอบส่วนลดและ
    โปรโมชั่นพิเศษในการอกเรอบตีกเอล์ฟ เพื่อสนับสนุนการกระตุ้นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬากอล์ฟให้กับผู้โดยสารที่มีความสมไจรับสิทธิพิเศษสำหรับเที่ยวบิน สายการบินนกแอร์ โคราช-เชียงใหม่-โคราช
    *สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา
    รถอำนวยความสะดวกรับส่งผู้โดยสารจากสนามบิน-เข้าเมือง หรือสถานที่อื่น ๆ

โคราชเปิดตัวเศรษฐกิจเวลเนสภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

โคราชเปิดตัวนวัตกรรมเพื่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวโคราช ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (Korat Wellness Corridor) ทั้ง 5 ด้านอย่างเป็นรูปธรรม


เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 โรงแรมเดอะเปียโน รีสอร์ท เขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมาพลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี มาเป็นประธานเปิดตัวนวัตกรรมเพื่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา โดยมีประธานกฎบัตรสุขภาพ, เลขานุการกฎบัตรไทยและนายกสมาคมการผังเมืองไทย ตลอดจน ภาคส่วนต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา อาทิ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดฯ, สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดฯ, ททท.สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา ตลอดจน ส่วนราชการ, ภาคการศึกษา, 10 องค์กรภาคเอกชน เข้าร่วมในงาน


นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า Wellness หรือที่เรียกทั่วไปว่า Anti-Aging เป็นเวชศาสตร์ป้องกันแขนงหนึ่งของการแพทย์คู่กับการรักษาพยาบาล ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการเจ็บป่วยที่ต้นเหตุ ซึ่งในปัจจุบัน การแพทย์มีวิวัฒนาการเจริญก้าวหน้าขึ้น ส่งผลให้ผู้คนเริ่มหันมาดูแลรักษาสุขภาพร่างกายในขณะที่ยังไม่เจ็บป่วยมากขึ้นด้วย มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีผลต่อการดูแลสุขภาพมาใช้มากขึ้น และเทรนด์ในอนาคต จะมีเรื่อง Wellness รวมอยู่ด้วย เพื่อให้เป็นสังคมที่ประชาชนมีสุขภาพดี ซึ่งในส่วนของจังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งด้านภูมิศาสตร์ สภาพภูมิอากาศ ด้านอาหาร และภาคส่วนต่าง ๆ ก็มีศักยภาพและมีความพร้อมขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจเวลเนส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (Korat Wellness Corridor) ทั้ง 5 ด้านอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ทั้งด้าน Holistic Wellness, ด้าน Functional and personalized Healthcare ,ด้าน Real estate and Workplace Wellness, ด้าน Aesthetic and Anti-Aging และด้าน Digital Wellness and Innovation จึงได้จัดงานเปิดตัวนวัตกรรมเพื่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาขึ้น

ด้าน ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ. นครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา ได้ประสานกับหลายๆ องค์กรจากทุกภาคส่วน ร่วมกันทำเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง ค้นหาเอกลักษณ์-อัตลักษณ์ของแต่ละอำเภอ ยกขึ้นมาเป็นจุดเด่น พัฒนาให้เป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม โดยมี สสปน.สำนักงาน ส่งเสริม การ จัด ประชุม และ นิทรรศการ (องค์การ มหาชน) เข้ามาดูแลจัดประกวดเพื่อยกระดับสินค้า และมี ททท.เข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการตลาด นำเอเจนซี่เข้ามา เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์สินค้า ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ ส่วนเรื่องการดูแลสุขภาพ ก็เป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในช่วงโควิดระบาด ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีความพร้อมที่จะเปิดตัวเป็น “เมืองสุขภาพ” และทุกภาคส่วนในจังหวัด ก็พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมเดินหน้ากันอย่างเต็มที่

สานฝันคนรุ่นใหม่สู่บาเร็ตต้ามืออาชีพโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน

ติดอาวุธทางปัญญาสานฝันคนรุ่นใหม่สู่บาริสต้ามืออาชีพ โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค ๕
ได้รับเกียรติจากนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานพิธีเปิดฝึกอบรมฝึกอาชีพเสริม หลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ (๓๐ ชั่วโมง)
วันจันทร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๑.๐๐ น.
ณ. ห้อง Cenza Strider ชั้น ๑ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช

นายไพฑูรย์ ถิ่นสูง รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕
นครราชสีมา ในนามของการฝึกฝึกอบรม กล่าวรายงาน การฝึก
อาชีพเสริม หลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ ในวันนี้
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีภารกิจในการฝึกทักษะอาชีพ พัฒนาศักยภาพแรงงาน
ของคนทุกกลุ่มให้มีทักษะในการทำงาน หรือการประกอบอาชีพอิสระ โดยมีหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่
ได้แก่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ ดำเนินการสนับสนุน
ส่งเสริมพร้อมทั้งเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้ารับการฝึกอาชีพสาขาต่าง ๆ ซึ่งการเปิดฝึกอบรมใน
วันนี้ เป็นโครงการฝึกอบรมแรงงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ
ประกอบด้วยแรงงานนอกระบบ ผู้ว่างงานและผู้สนใจประกอบอาชีพอิสระ โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อฝึกอาชีพเพิ่มทักษะให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรมให้มีความรู้ ความสามารถ ทักษะฝีมือแรงงาน
เพื่อสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้ จึงกำหนดจัดฝึกอบรมหลักสูตร
การฝึกอาชีพเสริม สาขา บาริสต้ามืออาชีพ ระยะเวลา ๓ㅇ ชั่วโมง โดยทำการอบรมระหว่างวันที่
๒๕ – ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ รวม ๕ วัน จำนวน ๒๕ คน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา
นครราชสีมา ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ ทักษะที่ได้รับไปสร้าง
โอกาสในการประกอบอาชีพ มีงานทำในระบบการจ้างงาน และการประกอบอาชีพอิสระ แบ่งเบา
ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว สร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวเอง
สร้างเศรษฐกิจภายในครอบครัว เข้มแข็งต่อไป

#อบจ.โคราชเดินหน้าพัฒนาระบบการศึกษาจัดงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น หวังเป็นเวทีแสดงออกถึงขีดความสามารถทักษะทางวิชาการนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด

วันนี้ (22 มิถุนายน) ที่โคราชฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการงานมหกรรมการจัดการศึกษา โรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2565 เพื่อเป็นการคัดเลือกตัวแทนครู นักเรียน บุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมแข่งขันทักษะทางวิชาการงานมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬาและนันทนาการของครู นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้ภายในงานได้มีการการแข่งขันทักษะทางวิชาการ จำนวน 76 กิจกรรม แยกเป็นเป็นกิจกรรมที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกำหนด 56 กิจกรรม และกิจกรรมที่ศูนย์พัฒนาทางวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ กำหนด 20 กิจกรรม โดยมี คณาจารย์ นักเรียน จากโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 58 แห่ง ร่วมกิจกรรม นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการรวมพลังจากทุกโรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 58 แห่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของระบบการจัดการศึกษาท้องถิ่นที่ดี มีมาตรฐานจนสามารถยกระดับการศึกษาที่พัฒนาความรู้ ความสามารถของนักเรียนอย่างรอบด้าน ทั้งสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม พร้อมส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะด้าน เพื่อให้นักเรียนได้เติบโตขึ้นมีอนาคตที่ดี รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนในสังกัดเห็นถึงความสำคัญของการจัดการศึกษามากขึ้น

“สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศึกษาแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงท่องเที่ยวภูมิภาค และดูงานชุมชนคุ้ม บางกะเจ้า”

วันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 10.30 นคณะศึกษาดูงานนำโดยดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์นายกสภา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการร่วมกับภาคีเครือข่าย ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา เดินทางศึกษาดูงานโครงการในพระราชดำริ คลองลัดโพธิ์อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ โดยนายวัชระ เติมวรรธนภัทร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงคนอง พร้อมด้วยคุณชัย อรุณานนท์ชัย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ และคณะผู้บริหารอพท. ให้การต้อนรับเตรียมคณะวิทยากรให้ความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน อย่างยั่งยืน แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบางกระเจ้า และการบริหารการจัดการการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนกับภาครัฐ รวมทั้งการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องสิ่งแวดล้อม กรีน เขื่อนลัดโพธิ์ นอกจากนี้คณะดูงานร่วมกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญพื้นที่บางกะเจ้า

การมีส่วนร่วมรัฐฯ ร่วมชุมชนได้รับการสนับสนุนการให้ความรู้จากกิจกรรมสำคัญของชุมชนคุ้มบางกระเจ้าโดย นายสำเนาว์ รัศมิทิต นายกอบต.บางน้ำผึ้ง ร่วมกับผู้นำชุมชนกำนัน,ผู้ใหญ่บ้านชาวบ้านในชุมชนในพื้นที่ แนะนำให้การต้อนรับและประสานงานนำกิจกรรมเด่นจากเครือข่ายคุ้มบางกระเจ้า จัดกิจกรรมสร้างฐานความรู้ ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่น 4 ประเภทให้คณะผู้มาศึกษาดูงาน จากจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรมอาทิ การทำเสื้อมัดย้อม, วิธีการทำลูกประคบสมุนไพร ,การทำขนมห่อใบจาก และน้ำสมุนไพร จากผลผลิตในท้องที่ คณะผู้ศึกษาดูงาน ครั้งนี้ได้รับรู้และได้ข้อมูลหลายอย่าง พร้อมเยี่ยมชมตลาดบางน้ำผึ้ง ตลาดชุมชนที่มีขนาดใหญ่สร้างเศรษฐกิจแก่ชาวบ้าน เป็นชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ ท้ายสุดของรายการคณะผู้ศึกษาได้ชมสวนสาธารณะ ศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่กลางกรุงปอดของชุมชนเมืองติดกรุงเทพฯ

จากการศึกษาดูงานดร. วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวภายหลังจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ว่า การเดินทาง จากการแลกเปลี่ยน การเรียนรู้การท่องเที่ยวชุมชนทำให้เกิดการสืบสานแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมระหว่างจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดนครราชสีมาโดยจะทำโครงการร่วมมือบ้านพี่เมืองน้อง ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนในพื้นที่คุ้มบางกระเจ้าและการสนับสนุนจากอพทรวมถึงทททที่ได้สร้างโอกาสให้กับคณะผู้ศึกษาดูงานได้เกิดความรู้ใหม่ๆเกิดการเชื่อมโยงแนวทางความรู้และความคิดเพื่อนำมา สู่ความร่วมมือกัน ใน 2 พื้นที่บ้านพี่เมืองน้อง ขยายตลาดการท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน ร่วมกันในโอกาสต่อไป

.

.

อบจ.โคราช แถลงข่าวการจัดมหกรรมการจัดการศึกษา 65 พร้อมเสวนาร่วมภาคีด้านการศึกษา เจาะประเด็น “อนาคตทางการศึกษาโรงเรียนสังกัด อปท.”

วันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จัดงานแถลงข่าวจัดมหกรรมการจัดการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และ เสวนา “ขับเคลื่อนอนาคตทางการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. นครราชสีมา ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายพงษ์พิมล คำลอย ผอ.สำนักการศึกษาฯ และ ตัวแทนนักเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเสวนา ณ ห้อง Strider Bike ชั้น 1 เซ็นทรัล โคราช


มหกรรมการจัดการศึกษาฯ เน้นการจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางการศึกษาและจัดการแข่งขันทักษะทางวิชาการ กว่า 100 กิจกรรม ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของระบบการจัดการศึกษาท้องถิ่นที่ดี มีมาตรฐานนำไปสู่การยกระดับการศึกษาที่พัฒนาความรู้ ความสามารถของนักเรียน อย่างรอบด้าน ทั้งสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม พร้อมส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะด้าน เพื่อให้นักเรียนได้เติบโตขึ้นมีอนาคตที่ดี ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนในสังกัดฯ เห็นความสำคัญของการจัดการศึกษามากขึ้น นำไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาเพื่อเกิดประโยชน์ ต่อ ผู้เรียนต่อไป

โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวฯ เน้นการแข่งขันทักษะทางวิชาการของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และการจัดกิจกรรมการแสดงบนเวที ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้

จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นเลิศด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัด อบจ. ครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและนักเรียนแสดงออกถึงศักยภาพและความสามารถอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นโดยหลังจากจบงานมหกรรมการศึกษาภายในของ อบจ. นักเรียนที่ชนะเลิศในกิจกรรมต่างๆ จะได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมการศึกษาในระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งงานมหกรรมการจัดการศึกษาฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2555 ณ ห้องโคราชฮอลล์ 1 – 2 ชั้น 4 และสถานที่ในบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

“อบจ.นครราชสีมา ได้ขับเคลื่อนด้านการบริหารจัดการการศึกษาโรงเรียนในสังกัดทั้ง 58 แห่ง เพื่อให้เกิดแนวทางพัฒนาการศึกษาของ อบจ.นครราชสีมา ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งได้นำระบบเทคโนโลยีด้านการศึกษาเข้ามายังโรงเรียน มีระบบข้อมูลแบบ BIG DATA มี โครงการอบรมหลักสูตรด้านการศึกษาใหม่ๆ ให้กับบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และอีกหลาย โครงการที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้น การเสวนาครั้งนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้น การเสวนาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้มาพูดคุยผ่านการเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ ก็จะทำให้สามารถมอง ภาพได้ชัดเจนว่าหลังจากนี้จะเพิ่มเติมจุดไหนอย่างไร เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญ เรา ต้องการที่จะเห็นการศึกษาของท้องถิ่นมีการพัฒนาที่ก้าวหน้าและมั่นคงไม่แพ้ที่ใด อบจ.จึงมุ่งมั่นที่จะให้มี การพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ที่จำเป็น เราอยากเห็น “การเรียนเพื่อให้เกิดการสร้างคนคุณภาพ” เราอยากเห็น “การเรียนเพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพที่มั่นคง” ที่ผ่านมา อบจ.บูรณาการร่วมกับ มหาวิทยาลัย ทั้ง 4 แห่งของ จังหวัดนครราชสีมา รวมถึง วิทยาลัยการอาชีพ เพื่อต่อยอดด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาและสายอาชีพ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามทิศทางและเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้ ประสบความสำเร็จและเต็มศักยภาพ”

มงกุฎแรกของไทย! เวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022

วันที่11 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00น. ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช

จัดการประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 โดยได้รับเกียรติจากนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดพร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล นางสาวจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์และนายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมงาน

ขอแสดงความยินดีกับ น้องเจเล่ น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง อายุ 24 ปี น้ำหนัก 105 กก.จาก จ.นครราชสีมา คว้ามงกุฏธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 มงกุฎแรกของประเทศไทยพร้อมด้วย น้องเนรัญชรา อุดมแก้วกาญจนา อายุ 32 ปี จากกทม. คว้ามงกุฏธิดาช้างควีนไทยแลนด์ 2022 มงกุฎแรกของประเทศไทย จากการเฟ้นหาตัวแทนทั้งหมด 36 คน จาก 6 ภูมิภาค
สำหรับมงกุฎที่งดงามเหมาะสมกับตำแหน่งธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 ได้รับแรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมา กำแพงประตูชุมพลผนวกเข้ากับดีไซน์ดอกสาธร ดอกไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งการดีไซน์รอบตัวมงกุฎจะเป็นประตูเมืองของทั้ง 6 ภูมิภาค และพลอยสีเหลืองเม็ดโตเพื่อสื่อถึงสาวเจ้าเนื้อ ธิดาช้างนั่นเอง


เวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 เดิมใช้ชื่อ ธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์ แต่ปี 2022 ปรับโฉมให้ทันสมัยมากขึ้นและเปิดกว้างมากขึ้นไปอีกขั้นเป็นธิดาช้างไทยแลนด์ เวทีนี้ “เดอะมอลล์โคราช” เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ซึ่งการประกวดมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้มีสีสันและเปิดโอกาสให้สาวแท้และสาวประเภทสองที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 80 กก.มีโอกาสแสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเอง พร้อมทั้งทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคมต่อไป รวมถึงช่วยเหลือช้างที่ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นช้างถูกทารุณ ถูกใช้แรงงานอย่างหนัก และช้างที่ป่วยทั่วประเทศ ถือเป็นเวทีสาวเจ้าเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเวทีการกุศลและเป็นสื่อกลางในการอนุรักษ์ช้างไทยให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป ซึ่งในปี 2022 ได้จัดการประกวดภายใต้แนวคิด “รักช้าง รักษ์ไทย รักษ์โลก” ดึง 6 ภูมิภาคในประเทศไทยร่วมจัดงาน ภายใต้คอนเซปต์เวที 6 ภูมิภาค เพื่อเฟ้นหาธิดาช้างตัวแทนของแต่ละภูมิภาคเข้ามาประกวดรอบชิงชนะเลิศ สำหรับตำแหน่งธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 และธิดาช้างควีนไทยแลนด์ 2022 จะเป็นตัวแทนทำกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่ารวมถึงกิจกรรมลดโลกร้อนต่อไป

.