ผู้ว่าโคราช ประชุมเตรียมงาน ปั่นBikeอุ่นไอรัก…ให้ก้องโลก

ปั่นBikeอุ่นไอรัก…ให้ก้องโลก

12 พฤศจิกายน 2561 ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ผู้ว่าฯวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯทั้ง 4 ท่าน ประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก”       ของจังหวัดนครราชสีมา ที่กำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 9 ธันวาคม 2561   กำหนดปั่นจักรยานเส้นทางไป-กลับ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 – มทส เริ่มเวลา 15.30 น. ระยะทางยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นอยู่ระหว่าง 20 – 30 กิโลเมตร โดยเฉพาะระยะทางภายใน มทส. ระหว่างปั่น มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ภายในพื้นที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีโรงทานให้บริการ จุดพักรับน้ำดื่ม สำหรับกำหนดวันและวิธีการลงทะเบียน รวมถึงเส้นทางภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะเป็นอย่างไร ทีมงาน ส.ปชส.นครราชสีมา จะนำรายละเอียดมาบอกกล่าวต่อไป…งานนี้ขาปั่น เตรียมความพร้อมทั้งคนและรถจักรยานเตรียม #Bikeอุ่นไอรัก

ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯทั้ง 4 ท่าน พร้อมด้วย ประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา  และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก”       ของจังหวัดนครราชสีมา ที่กำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 9 ธันวาคม 2561   กำหนดปั่นจักรยานเส้นทางไป-กลับ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 – มทส เริ่มเวลา 15.30 น. ระยะทางยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นอยู่ระหว่าง 20 – 30 กิโลเมตร โดยเฉพาะระยะทางภายใน มทส. ระหว่างปั่น มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ภายในพื้นที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีโรงทานให้บริการ จุดพักรับน้ำดื่ม สำหรับกำหนดวันและวิธีการลงทะเบียน รวมถึงเส้นทางภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะเป็นอย่างไร ทีมงาน ส.ปชส.นครราชสีมา จะนำรายละเอียดมาบอกกล่าวต่อไป…งานนี้ขาปั่น เตรียมความพร้อมทั้งคนและรถจักรยานเตรียม #Bikeอุ่นไอรัก

สื่อภาคอีสานเดินหน้าปั้น “นักข่าวมือถือ” รุ่นที่ 2 สร้าง Content ให้โดนใจ

สื่อภาคอีสานเดินหน้าปั้น “นักข่าวมือถือ” รุ่นที่ 2 สร้าง Content ให้โดนใจ

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน เดินหน้าปั้นนักข่าวมือถือ รุ่นที่ 2 ต่อยอด “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ พัฒนา คุณภาพชีวิตสู่ไทยแลนด์ 4.0” เรียนรู้การทำ Content Marketing แบบ Storytelling และการเสวนาเรื่อง “สังคมสูงวัย” โดย รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสานครั้งที่ 2/2561 เรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตสู่ไทยแลนด์ 4.0” ระหว่างวันที่  23 – 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ณ โรงแรมเพชรเกษม แกรนด์ ถนนจิตรบำรุง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีผู้ลงชื่อเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ 68 คน มาจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน สระบุรี และสมุทรปราการ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยผ่านการอบรมในครั้งที่ 1 ที่ จ.นครราชสีมา มาแล้ว

ในการอบรมครั้งที่ 2 นี้ จะเป็นการต่อยอดความรู้เดิม และสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้ผู้เข้ารับการอบรม ในการใช้โทรศัพท์มือถือ เรียนรู้วิธีการถ่ายภาพและตัดต่อ การทำ Mobile Journalism, และการลำดับภาพผ่าน Application KineMaster โดยทีมวิทยากรกระบวนการผลิตสื่อมืออาชีพ นายกุลพัฒน์ จันทร์ไกรลาศ (อาจารย์ต่อง)  ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อ, อาจารย์จำรัส จันทนาวิวัฒน์, อาจารย์สืบพงษ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต (กลุ่มพลังแห่งต้นกล้า), คุณวิทยา จิรัฐติกาลสกุล (กลุ่มสื่อสุขสันต์) และคุณอุมาพร ตันติยาทร โปรดิวเซอร์ รายการสารคดีโทรทัศน์ บริษัท บุญมีฤทธิ์ จำกัด

การทำ Content Marketing แบบ Storytelling และการทำการตลาดในสื่อออนไลน์ โดย อ.จารุณี นวลบุญมา หัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มข. บรรยายพิเศษ “ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป” โดย นายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และการเสวนา เรื่อง “สังคมสูงวัย” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และอาจารย์กรรณิการ์ บันเทิงจิตร

นอกจากนี้ในวันที่ 2 ของการอบรม ผู้อบรมทุกคนจะได้ลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติจริง เพื่อผลิตผลงานคลิปวิดีทัศน์ผ่าน Smartphone เป็นสารคดี, สารคดีเชิงข่าว หรือภาพยนตร์สั้น ความยาว 4 นาที ในประเด็นหัวข้อที่ใช้ฝึกปฏิบัติการทั้ง 4 หัวข้อ ได้แก่ ประเด็นรองรับผู้สูงวัย, ประเด็นกลุ่มอ่อนไหวและเปราะบาง, ประเด็นสิ่งแวดล้อมในชุมชน และประเด็นปัญหาปัจจัยเสี่ยงในชุมชน

“การอบรมนักข่าวมือถือ มืออาชีพ เพราะเทคโนโลยีขณะนี้เข้ามามีบทบาทในการรายงานข่าวค่อนข้างมาก เมื่อมาอบรมแล้วเราจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานที่เราทำได้ เราไม่ได้แค่ทำหน้าที่รายงานข่าวที่เกิดขึ้นอย่างเดียว เรามีหน้าที่โดยตรง ในการนำเสนอข้อเท็จจริง นำความประจักษ์ให้เกิดขึ้นแก่สังคม ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างหลอมรวมกันแล้ว อย่าคิดว่าเราเป็นทีวี เป็นหนังสือพิมพ์ เป็นวิทยุ หรือเป็นออนไลน์ แต่คอนเทนท์ต้องเป็นคอนเทนท์ เพราะถ้าสื่อไม่ก้าวทันเทคโนโลยีแล้ว ก็จะไม่ทันต่อการตอบสนองของผู้บริโภค จึงต้องเสริมทักษะตรงนี้เพิ่มเติม ซึ่งความสำคัญที่สุดของคนทำสื่อคือ การบริการสาธารณะ เพื่อร่วมแก้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง” พ.ท.พิสิษฐ์ กล่าว

สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

นายราเชนทร์ ประกอบกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง พร้อมด้วยนายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ผู้นำชุมชนและสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ป่าหุบใหญ่ ซึ่งเป็นป่าชุมชนเชื่อมต่อระหว่างตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  หลังจากที่มีการสำรวจพบเส้นทางน้ำป่าไหลเซาะชั้นดินและชั้นหิน กัดกร่อนดินและหินกลายเป็นรูปร่างแปลกตามากมาย หรือที่เรียกว่าแกรนแคนยอน  จนกลายเป็นศิลปกรรมที่มีความสวยงามตระการตา รวมเนื้อที่กว่า 3 ไร่  ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากธรรมชาติโดยมิได้มีการเติมแต่ง ประกอบกับมีเรื่องราวความเชื่อลี้ลับอีกมากมาย ที่สำคัญยังมีการสำรวจพบฟอสซิลไม้กลายเป็นหินที่คาดว่าอายุนับล้านปี กระจายอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากด้วย

นายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่ ซึ่งช่วยดูแลผืนป่าหุบใหญ่มายาวนาน กล่าวว่า ป่าหุบใหญ่นั้นมีเนื้อที่รวมกว่า 1,400 ไร่  ซึ่งบริเวณที่เกิดแกรนแคนยอน นั้น เป็นพื้นที่ระหว่างบ้านงิ้ว ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ บ้านโคกวังวน ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นแกรนแคนยอนที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปราสาทหินสมัยโบราณกระจายอยู่หลายจุด  ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า ปรางค์พระนารายณ์  อีกทั้งยังมีทางน้ำไหลที่เกิดจากการไหลของมวลน้ำป่าจำนวนมหาศาล กัดเซาะดินจนกลางเป็นร่องลึกกว่า 3 เมตร จนสามารถลงไปเดินและสัมผัสกับร่องรอยการกัดเซาะชั้นดินและหินได้อย่างใกล้ชิด  นอกจากนี้ยังมีการสำรวจพบการถับถมของชั้นดินมานานนับล้านปีกระทั่งมีซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหินกระจายอยู่ทั่วบริเวณอีกด้วย  ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ต้องนำเชือกมากั้นบริเวณและจัดเวรยามคอยดูแลตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปทำให้ซากฟอสซิลเหล่านั้นเสียหายหรือถูกขโมยไป

นอกจากความพิเศษของแกรนแคนยอนที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นแล้ว  ชาวบ้านบางคนก็เชื่อว่าจุดนี้เป็นแหล่งพำนักอาศัยของพญานาค เนื่องจากมีบ่อน้ำซับไหลขึ้นมาตลอดทั้งปี  บางคนก็เชื่อว่าเป็นเมืองลับแล เนื่องจากเคยมีผู้พบมีผู้คนอาศัยอยู่ ทั้งๆที่จุดดังกล่าวเป็นป่าอนุรักษ์ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย จึงเชื่อว่าจะทำให้พื้นที่จุดนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เตรียมที่จะร่วมมือกันหาทางพัฒนาสถานที่ดังกล่าว พร้อมออกสำรวจพื้นที่ป่าโดยรอบ เพราะคาดว่ายังมีจุดที่มีความสวยงามอีกหลายจุด เพื่อผลักดันให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

 !สายบุญ ประธานทองร่วมกับชาวบ้านจัดงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561  ณ วัดสระแก้วโคราช

วันที่ 11 พฤศจิกายนพ. ศ. 2561 เวลา 10.00 น.พิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณวัดสระแก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยนายทอง วิริยะจารุ นางสมหมาย วิริยะจารุ ประธานกรรมการอุปภัมภ์ นายสมศักดิ์จักสานประธานกรรมการดำเนินงานผอ.รร.วัดสระแก้วพร้อมด้วยพระครูปริยัติรัตนวิชัย เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว นำคณะสงฆ์วัดสระแก้ว  ร่วมประกอบพิธีสงฆ์และคณะผู้บริหารครูโรงเรียนวัดสระแก้วอุบาสก อุบาสิกาแก้ว แขกผู้มีเกียรติ

พิธีทอดกฐินกฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน5 การทอดกฐินในประเทศไทย

การได้มาของผ้าไตรอันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ (ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณ วัดสระแก้ว มีประชาชนมาร่วมงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี2561ประมาณ300คนและจัดทำโรงทาน16โรงทานโดยปีนี้ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพจำนวนเงิน100บาทจะได้รับวัตถุมงคลเหรียญบูชาครูเม็ดแตงโมหลวงพ่อทอง สุทธสีโล ในการถวายกฐินมีมาหลายสายบุญต่างๆมาร่วมถวายกฐินในครั้งนี้ร่วมยอดถวายเป็นเงิน1,000,999บาท อีกด้วย

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ตำรวจภาค 3 แถลงข่าว จับเครือข่ายตัดไม้พะยูงในวัดจังหวัดบุรีรัมย์รายใหญ่พร้อมของกลางเพียบ

ตำรวจภาค 3 แถลงข่าว จับเครือข่ายตัดไม้พะยูงในวัดจังหวัดบุรีรัมย์รายใหญ่พร้อมของกลางเพียบ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 พ.ย.61 ที่ หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 รรท.ผบช.ภ.3 พร้อมด้วยชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวการลักลอบตัดพะยูงในพื้นที่ สภ.ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ผู้ต้องหา 7 คน และตรวจยึดของกลาง/ทรัพย์สิน จำนวน 26 รายการ อาทิ ไม้พะยูง 82 ท่อน เลื่อนไฟฟ้า 4 เครื่อง เลื่อนมือ แผ่นบังคับโซ่ โซ่เลื่อนยนต์ สายไฟ เครื่องปั่นไฟ อาวุธปืน รถกระบะยนต์ 1 คัน และรถเก๋ง 1 คันและอื่นๆอีกหลายรายการ

            พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 รรท.ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า จากกรณีมีการลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 ตามสถานที่ต่างๆล่าสุด ในวัด จังหวัดบุรีรัมย์ คาดว่ามีเจ้าหน้าที่มีสี เข้าไปเกี่ยวข้อง ทางตำรวจได้ปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ประโคนชัย 4 จุด ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน ขณะนี้ได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผล และได้ออกหมายจับ อีก 15 คน โดยจากการสอบสวนข้อเท็จจริง เชื่อว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่บางส่วนให้การสนับสนุน ให้การช่วยเหลือในลักษณะเครือญาติ ส่วนจะเข้ามาเกี่ยวข้องมาน้อยขนาดไหนขอเวลาในการสืบสวนสอบสวน เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนในพื้นที่ภาค 3 ไม่ส่วนส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบตัดไม้พะยูงอย่างแน่นอน เป็นเรื่องของแก๊งมอดไม้ ที่รับออเดอร์มาตามคำสั่งนายทุน ส่วน 15 คน ที่ออกหมายจับนั้น ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ที่จ้างมาช่วยขน ช่วยตัด ได้ค่าจ้าง 2,000-5,000 บาทแล้วแต่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

            อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนประชาชน หากใครมาชักชวนให้มาตัดไม้พะยูง อย่าได้กระทำซึ่งมีโทษติดจำคุก ซึ่งยังไงเจ้าหน้าที่ก็จับได้ ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการไปทุกจังหวัดในเขตรับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสาน ให้ออกแผนในการป้องกันปราบปรามไม่พะยูงอย่างจริงจัง พร้อมทั้งนำเครือข่ายชาวบ้านในพื้นที่ มาช่วยในการป้องกัน เนื่องจากตำรวจในพื้นที่มีกำลังค่อนข้างน้อย ชาวบ้านต้องช่วยกันสอดส่อง จุดไหนมีไม้พะยูงก็ทำบัญชีขึ้นไว้ จัดเจ้าหน้าที่ ให้มีการเฝ้าระวัง จุดเสี่ยงต่างๆโดยเฉพาะในช่วงเวลา หลังจากตีสองเป็นต้นไป หรือหากพบเบาะแสให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือ ที่เบอร์ 191

พบซากโครงกระดูกกระทิง อายุ 10 ปี กลางผืนป่ามรดกโลกดงพญาเย็น -ทับลาน อ.ครบุรี โคราช

ชุดเฉพาะกิจป้องกันและปราบปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติผืนป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-ทับลาน โดยนายวิจิตร  กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี นครราชสีมา พร้อมนายสมศักดิ์  กาญจนะคช หัวหน้าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 (คลองน้ำมัน) เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี ชุดปฏิบัติการ รส.ป.3 พัน.3 , เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อ.ครบุรีฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ครบุรี ฯ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบและพิสูจน์ ซากสัตว์ป่า ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง บริเวณป่าท้ายบ้านมาบกราด ตำบลโคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พิกัด UTM 48P 0201414 E, 1585615 N (WGS 84)

พบซากกระทิง เพศผู้ อายุ 10 ปี น้ำหนัก 600 กิโลกรัม นอนตายมานาน 3 เดือน ไม่พบร่องรอยบาดแผลเนื่องจากซากกระทิง มีสภาพเหลือแต่โครงกระดูก เนื้อหนังหรือชิ้นส่วนต่างๆ ถูกย่อยสลายไปหมดไม่สามารถตรวจหาร่องรอยสาเหตุการเสียชีวิตได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันขุดหลุมนำซากโครงกระดูกของกระทิง ฝังกลบในพื้นที่ตามความเหมาะสม พร้อมทำบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ร.ต.อ.สุรชัย  จรัสรัมย์ รอง สว.(สอบสวน) เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป

มทร.อีสาน โคราช จัดประกวด E-Sport -DRONE RACING ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 61

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จัดงานใหญ่แห่งปี ‘ESAN Smart Expo 2018’ ระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ณ หอประชุมวทัญญู ณ ถลาง  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และชมการแสดง FPV  DRONE RACING พร้อมทั้งกิจกรรมการแข่งขัน E-Sport การเสวนา Smart U สู่ Smart City, การสัมมนาอาชีพพารวย, สินค้าไอทีลดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ลุ้นรางวัลใหญ่รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค HP จำนวน 2 เครื่อง

กิจกรรมมีทั้งหมด 3 วัน เริ่มที่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. กิจกรรมความร่วมมือในบันทึกข้อตกลง Smart University พร้อมโชว์นวัตกรรมสู่มหาวิทยาลัยอัจฉริยะ การเสวนา Smart University วันที่ 24พฤศจิกายน 2561 เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. ชมการแสดง FPV  DRONE RACING (บริเวณสนามฟุตบอล) และถ่ายทอดสดมายังห้องประชุมวทัญญู เวลา 13.30 น. ชมการแข่งขัน E-Sport และวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. กิจกรรม นักการตลาดการเงินยุคใหม่ โดยนักการตลาดมือหนึ่ง ศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมแห่งชาติ IIC และชมการแข่งขัน E-Sport  รอบตัดสิน ชิงคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค HP จำนวน 2 เครื่อง และรางวัลอื่นๆรวมกว่า 1 แสนบาท

ติดตามรายละเอียดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) 744 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หรือทางเว็บไซต์ www.rmuti.ac.th และเบอร์โทรศัพท์ 044-233000 โทรสาร : 044-233052 อีเมล์ :  info@rmuti.ac.th

ควายมืออาชีพออกโรงรับจ้างไถรุ่นมันทำเงินให้เจ้าของ วันละ 1000-1500 บาท

หมดฝนเข้าหน้าหนาวได้เวลาควายมืออาชีพออกโรงรับจ้างไถรุ่นมันทำเงินให้เจ้าของ ไม่ต้องลงทุนซื้อน้ำมันมาเติม ใช้เพียงหญ้าเป็นค่าแรงให้ควาย อาชีพรายได้ดีที่หาดูยาก

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ บ้านหนองแวง ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พบครอบครัวลุงสุภาพ เดือยจันทึก อายุ 66 ปี เกษตรที่ยังเลี้ยงควายไว้ใช้งาน ซึ่งได้เวลาออกรับจ้างไถรุ่นมันสร้างรายได้ โดยในช่วงนี้เป็นช่วงที่เกษตรที่ปลูกมันช่วงปลายฝนมันสำปะหลังกำลังงอก หญ้าก็กำลังขึ้น จึงได้เวลาที่เจ้าของไร่มันฯที่ปลูกไว้มาติดต่อว่าจ้างให้ช่วยไถ่รุ่นมันกำจัดวัชพืช ส่งผลให้มีรายได้มากกว่าวันล่ะกว่า 1 พันบาท

ลุงสุภาพ บอกว่า ปัจจุบันนี้คนที่เลี้ยงควายไว้ใช้งานจริง ๆ เหลือน้อยมากแถวนี้น่าจะมีเฉพาะครอบครัวของตนที่ยังใช้ความเทียมเกวียนและใช้ไถ่รุ่นมันอยู่ โดยในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาทองของตนเนื่องจากมีผู้มาว่าจ้างให้ไปไถรุ่นมันเป็นจำนวนมาก ตนจึงนำควายที่เลี้ยงไว้ 3 จากทั้งหมด 4ตัวออกมารับจ้างไถ โดยมีลูกเขยอีก 2 คนมาช่วยกันคนล่ะตัว

ทุกวันต้องออกจากบ้านแต่เช้าตรูเพื่อรีบเร่งไถให้แล้วเสร็จโดยจะเลือกทำงานในช่วงเช้าที่อากาศยังไม่ร้อนสายมาก็หยุดพักเพื่อไม่ให้ควายเหนื่อยมาก ช่วงบ่ายก็ค่อยมาไถ่ต่อ ในแต่ละวันควายสามารถไถ่รุ่นได้ตัวล่ะประมาณ 3- 5 ไร่ รวม 3 ตัวไถ่ได้ 10-15 ไร่ ได้ค่าจ้างไร่ล่ะ 110 บาท ทำให้มีรายได้วันล่ะ 1,000-1,500 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจที่หาได้ในช่วงนี้

ลุงสุภาพ บอกอีกว่า การใช้ควายไถรุ่นไม่ต้องลงทุนซื้อน้ำมันเหมือนรถไถใช้เพียงหญ้าเป็นค่าแรงให้ควายซึ่งหาได้ตามธรรมชาติ หรือบริเวณใกล้เคียงที่รับจ้างไถซึ่งมีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องลงทุนอะไร ที่สำคัญการใช้ควายไถ่รุนมัน สร้างความเสียหายให้กับต้นมันที่กำลังงอกน้อยกว่าใช้รถไถ จึงได้รับความนิยมจากเกษตรว่าจ้างเป็นจำนวนมากในช่วงนี้ส่งผลให้มีรายได้แทบทุกวัน

(หมายเหตุ การไถ่รุนมัน คือการไถกลบหญ้าหรือวัชพืชที่ขึ้นอยู่ระหว่างร่องมันซึ่งช่วยกำจัดได้ส่วนหนึ่ง เมื่อว่าจ้างคนมาถากรุ่นก็จะทำได้ง่ายขึ้นหรืออาจจะไม่ต้องว่าจ้างคนทำอีก โดยสามารถใช้รถไถเดินตาม หรือควายไถก็ได้  แต่รถไถอาจจะถูกล้อเหยียบต้นมัน ส่วนควายซึ่งสามารถเดินกลางร่องได้จึงเสียหายน้อยกว่า)

เชิญร่วมพิธีพุทธาภิเษกน้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ วัตถุมงคล รุ่น “หนุนดวงเรียกทรัพย์” และร่วมลอยกระทง ประจำปี 2561

น้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ หรือ น้ำมนต์กลางหาว  คนไทยแต่โบราณเชื่อเรื่องพลังลี้ลับ ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ สามารถใช้วันเพ็ญเดือน ๑๒

จะมีศิริมงคลมาก ยิ่งอาบน้ำมนต์ เดือนเพ็ญทำในวันเพ็ญปีนี้ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑นี้ 

จากตำนานเราผูกพันด้วยพลังจักรวาลโลก ที่เราอาศัยยาวนาน ด้วยความที่ดวงจันทร์ ดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด พลังและแรงดึงดูดจึงมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก  ความเชื่อเรื่องพลังจากดวงจันทร์เต็มดวง มีอยู่ทุกภูมิภาคของโลก และของไทย

การปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ในคืนวันเพ็ญเต็มดวง กำลังแผ่รัศมีอย่างเต็มที่ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอนุภาพมากพิเศษ เพราะทางโหราศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ถือกันว่า “พระจันทร์” มีคุณค่าทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เยือกเย็น และดึงดูดมหาชน “ดึงดูดสายตา ดึงดูดความรู้สึก อยู่ใกล้ก็เย็นอกเย็นใจ สบายใจ อยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึง อยากเห็น อยากมองในแง่ความมีเสน่ห์ มหานิยม

หากผู้ที่ได้รับการอาบน้ำมนต์วันเพ็ญ หรือ การลงตัวคืนเพ็ญ” ไปแล้วรักษาวิชาให้อยู่กับตัวได้ด้วยการรักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ทำตนอยู่ในสายธรรมที่พระพุทธวางแบบไว้ให้ ไม่ผิดข้อห้ามในสำนักแล้ว วิชาที่ลงไว้ย่อมไม่เสื่อมสูญ รำลึกเมื่อไร ย่อมได้รับผลสมดังใจปรารถนา เป็นอัศจรรย์แน่นอน

อาบน้ำเพ็ญ 1 ปีมีหนพิธีอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธ์ ในคืนพระจันทร์เพ็ญ ( ขึ้น ๑๕ ค่ำ ) แต่เดิมนิยม ประกอบพิธีในเดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชาของทุกปี ตามพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า“ศิวราตรี”

ต่อมามีการจัดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง เพราะถือว่าเป็นวันที่สายน้ำทุกแห่งทั่วโลก มีความบริสุทธิ์ใสสะอาดปีหนึ่งจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้นปีนี้ ขอขมาพระแม่คงคา “วันลอยกระทง”

กำหนดงาน

เวลา        18.00 น.               –  เตรียมความพร้อม ร่วมพิธี พุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว วันเพ็ญ”

18.30 น.               –  ต้อนรับคณะเกจิดัง 5 รูป ร่วมพิธี

19.00 น.               –  เริ่มพิธี พุทธาภิเษก วัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.00 น.               –  เสร็จพิธี พุทธาภิเษกวัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.30 น.               –  ร่วมลอยกระทง กับ ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ

22.00 น.               –  เสร็จสิ้นภารกิจ

 

เกจิพิธีพุทธาภิเษก น้ำพุทธมนต์ และ วัตถุมงคลวาระพิเศษ เกจิดัง 5 รูป

  1. พระครูสังฆรักษ์สุรเดช (ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ )  วัดพระนารายณ์มหาราช
  2. พระครูประโชติปัญญาภรณ์ ( หลวงปู่คูณ วรปัญโญ )   วัดบัญลังค์
  3. พระครูสังฆรักษ์เสมา ( ครูบาแบ่ง ฐามุตตา )  วัดโตนด
  4. พระครูโสภิตธรรมวัตร ( ครูบาไพรวัลย์ ) วัดบ้านไร่โคกสูง
  5. พระปลัดจรูญ โกสโล (อาจารย์ป๋อง ) วัดสมานมิตร

น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ“ศักดิ์สิทธ์” ยิ่งนักเกิดศิริมงคล ทำการใดก็สำเร็จ สมปรารถนา มีโชคชัยมงคล มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย รอดพ้นจากภยันอันตรายต่างๆ เปิดจิตเปิดใจผิวพรรณผ่องใส เสริมอายุวรรณะ ประกอบการธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เด่นคุณเมตตา

ผู้ว่าโคราช พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา ร่วมมอบ ผ้าห่มกันหนาว ประจำปี 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี มอบผ้าห่มกันหนาว ณ หอประชุมเอนกประสงค์อำเภอเมืองนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา

โดยมีนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา นางวิไลลักษณ์ ดุจจานุทัศน์ รองประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา และ นายสารวย แสงอรุณ ผู้ช่วยผู้จัดการภาดการขาย3 ตันแทนจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด(มหาชน)  ร่วมมอบผ้าห่มกันหนาว จำนวน 1,000 ผืน โครงการ “ไทยเบฟ… รวมใจต้านภัยหนาว” พ.ศ. 2561 ปีที่ 19 ด้วย