!!ชาวบ้านโวยแห่ลงนามประท้วงเจ้าของบ้านที่เลี้ยงสุนัขทั้งเห่าทั้งหอนแถมยังกัดผู้คนในชุมชนจนหวาดกลัว

เมื่อ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10:00 น. ที่หมู่บ้านชัดมงคลหมู่. 3 ตำบลหมื่นไวย. อำเภอเมือง. จังหวัดนครราชสีมา. นายวัชรินทร์. พัดเกาะ. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหมื่นไวย. ได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่3 ตำบลหมื่นไวย. อำเภอเมือง. จังหวัดนครราชสีมา. ที่ได้มาหยื่นหนังสือต่อองค์การบริหารส่วนตำบลหมื่นไวย. เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้กับชุมชนโดยด่วนเร่ง. นายวัชรินทร์. พัดเกาะ. นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหมื่นไวย

หลังจากได้รับหนังสือจากชาวบ้านก็ได้สั่งการประสานงานไปยังนิติกรประจำ อบต. รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขขององค์การบริหารส่วนตำบลหมื่นไวย. เพื่อกำชับให้ลงพื้นที่เยังบ้านเลขที่ 260 / 73 หมู่ 3 ซอย 2 ตำบลหมื่นไวยอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่มายังบ้านเลขที่ 260 / 73 ก็ได้พบกับเจ้าของสุนัขคือนางพรและลูกสาวของนางพรได้ออกมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ว่าตนไม่ยอมรับว่าสุนัขของตนเห่าหอนและกัดคนแต่อย่างใดและยังยืนยันกับทาง เจ้าหน้าที่ว่าตนเลี้ยงสุนัขมานานแล้วไม่เคยสร้างปัญหาเดือดร้อนให้กับชุมชนเพียงแต่ว่ามีคนบางคนเท่านั้นที่ไม่พอใจในครอบครัวของตนเลยมีการกลั่นแกล้ง เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ อบต. เพื่อมาสร้างความรำคาญใจให้กับครอบครัวของตนเท่านั้นทั้งทั้งที่ตนก็เคยทะเลาะวิวาทกับบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่บ่อยครั้งไม่เคยทะเลาะเรื่องสุนัขของตนแต่ทะเลาะเรื่องอื่นทางครอบครัวตนพร้อมที่จะต่อสู้และพิสูจน์หาข้อเท็จจริงอีกด้วย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อบต. สมชายสมาย. กลั่นวิลัย สมาชิก อบต. หมู่. 3 ได้ออกมายืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ว่าสุนัขของนางพรซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 260 / 73ได้ก่อความรำคาญจริงทั้งเห่าหอนเสียงดังบางวันก็ไล่กัดคนในชุมชนจนทำให้คนในชุมชนหวัดระแวงและเกรงกลัวว่าจะโดนกัด. ตนเคยตักเตือนอยู่บ่อยครั้งแต่นางพร ไม่ใส่ใจแถมยังพูดจาด่าทอผู้คนในชุมชนมาโดยตลอดจนไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่ง วันนี้ตนกับลูกบ้านประมาณ 16 หลังคาเรือนได้รวมตัวกันยื่นหนังสือต่ออบต. เพื่อลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับชุมชนต่อไป

ตร.ภ.3ล่อซื้อยาบ้า ซุกกระเป๋ากีตาร์อำพราง ถูกจับพร้อมของกลาง 12,000 เม็ด >>มีวีดีโอ

ตร.ภ.3ล่อซื้อยาบ้า ซุกกระเป๋ากีตาร์อำพราง ถูกจับพร้อมของกลาง 12,000 เม็ด สืบประวัติพึ่งพ้นโทษได้ไม่นาน

วันที่ 1 พ.ย. 2561 พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ (ผบช.ภ.5) รรท.ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 และ พ.ต.อ.สกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายอมรวัฒน์ หรือ เบียร์ โพธิ์ไธสง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ 10 ต.ท่าหมื่นราม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังจากจับกุมได้พร้อมยาบ้า6 มัด จำนวน 12,000 เม็ด กระเป๋ากีตาร์สีดำที่ใช้บรรจุยาบ้าอำพราง 1 ใบ โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องพ.ต.อ.สกาญจน์ นิลอ่อน ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.3 สืบทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาบ้าที่ขนจากกรุงเทพมาส่งลูกค้าในเขตภาคอีสานรวมทั้ง จ.นครราชสีมา จึงวางแผนให้ชุดสืบ ติดต่อล่อซื้อยาบ้า 1 มัด 2,000 เม็ด ในราคา 50,000 บาท  โดยติดต่อกันทางโทรศัพท์ นัดส่งของกันที่ บ.ข.ส.2 นครราชสีมา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเมื่อถึงเวลานัดหมาย ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังดักซุ่มรอ พบนายอมรวัฒน์  สะพายกระเป๋ากีตาร์มายืนรออยู่หน้าร้านกาแฟอาเมซอนภายใน บ.ข.ส.จึงแสดงตัวจับกุมตรวจค้นพบยาบ้าซุกอยู่ในกระเป๋ากีตาร์จำนวน 6 มัน รวม 12,000 จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นนายอมรวัฒน์ ให้การรับสาภาพว่า ตนเองพึ่งพ้นโทษคดียาเสพติดออกมาได้ไม่นาน โดยรับจ้างขนยาบ้ามาจากนายเล็ก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่บงการอยู่เบื้องหลังให้นำยาบ้ามาส่งได้ค่าจ้างจำนวน 20,000 บาท โดยมีการสั่งการทางโทรศัพท์ รับยามาจากเขตกรุงเทพก่อนที่จะนำไปส่งลูกค่าตามจุดนัดหมายซึ่งนายเล็กเป็นคนสั่งทั้งหมด ก่อนที่จะถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าวเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายพร้อมกับเตรียมขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ (ผบช.ภ.5) รรท.ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า ยุทธการดังกล่าวเป็นไปตามยุทธการ 383 เป็นแผนปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทำลายวงจรยาเสพติทุกมิติ สร้างชุมชนสีขาวภาค 3 ใน 3 เดือนในพื้นทีรับผิดชอบ 8 จังหวัด การจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของยุทธการที่ปฏิบัติจนทำให้สามารถจับกุมตัวผู้ค้ายาบ้าได้และจะมีการขยายผลจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการที่เหลือได้ภายในเวลาไม่นาน

 

แม่ค้าออนไลน์โคราช ถูกค้นร้ายปลอมเป็นเพื่อนส่งข้อความยืมเงิน ก่อนหลงเชื่อสูญเงิน 23,000 บาท

แม่ค้าออนไลน์โคราช ถูกค้นร้ายปลอมเป็นเพื่อนส่งข้อความยืมเงิน ก่อนหลงเชื่อสูญเงิน 23,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ น.ส.ณิชกานต์ รักไทย อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1841/20 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา แม่ค้าขายออนไลน์หลังถูกคนร้ายแฮกเฟสบุ๊ค เพื่อนแล้วส่งข้อความมาขอยืมเงิน ก่อนจะรู้ตัวว่าเป็นคนร้ายก็หลงเชื่อโอนเงินให้ 23,000 บาท

จากการสอบถามน.ส.ณิชกานต์ เล่าว่า ที่ผ่านมา มีเพื่อนในเฟสบุ๊คและทำงานขายสินค้าออนไลน์ ด้วยกันส่งข้อความมาขอยืมเงินจำนวน 23,000 บาท โดยอ้างว่าจะโอนเงินไปจ่ายค่าสินค้าเพราะบัญชีธนาคารของตนมีปัญหาไม่สามารถโอนเงินออกได้ จึงอยากให้ช่วยโอนแทนและจะเอาเงินสดมาคืนให้ โดยให้โอนเข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อ น.ส.วิณุรา กลิ่นสุคนธ์ บัญชีเลขที่ 724-2-457803 ซึ่งตนก็หลงเชื่อยอมโอนเงินไป 23,000 บาท เพราะคนที่ส่งข้อความมารู้จักชื่อเล่น รู้ว่าทำงานอะไรและรู้ด้วยว่าตนกับเจ้าของเฟสบุ๊คตัวจริง พึ่งไปทานอาหารกันมาไม่กี่ชั่วโมง แต่ก่อนที่ตนจะเอะใจผิดสังเกตุคือคนร้ายส่งข้อความมาขอยืมเงินอีก 3,000 บาท ตนจึงแกล้งถามไปว่าใช่ตัวจริงหรือเปล่าและลองโทรผ่านเฟสบุ๊คไปหาแต่คนร้ายก็ไม่รับสายตน จึงโทรศัพท์ไปหาเพื่อนเจ้าของเฟสบุ๊คว่าได้ส่งข้อความมายืมเงินหรือเปล่าซึ่งเพื่อนก็บอกว่าไม่ได้ส่งข้อความมายืมเงินตนจึงมั่นใจว่ามีคนร้ายแฮกเฟสบุ๊คเพื่อนแล้วส่งข้อความมามาหลอกยืมเงินดังกล่าว

อย่างไรก็ตามผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.โพธิ์กลาง และเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายและเจ้าของบัญชีธนาคารดำเนินคดีดังกล่าวต่อไป  และอยากฝากแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้เฟสบุ๊คทุกท่านว่าให้ระมัดระวังมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าว  หากมีการส่งข้อความยืมเงิน ก็ขอให้ตรวจสอบให้ดีๆ ว่าใช่ตัวตนที่แท้จริงของผู้ยืมเงินหรือไม่และทางที่ดีไม่ควรให้ใครยืมเงินจะดีกว่า

ฝนตกไม่ทั่วฟ้า โคราชจ่อเจอวิกฤตภัยแล้ง 7 อำเภอ 24 ตำบล 93 หมู่บ้าน ขาดน้ำประปาอุปโภค บริโภค

      นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ฤดูฝนที่ผ่านมามีฝนตกเฉลี่ย 800 มิลลิเมตร น้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 1,081 มิลลิเมตร แต่โชคดีที่ปริมาณน้ำดิบในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทั้ง 5 แห่ง มีความจุเกินร้อยละ 70 จึงมีน้ำใช้เพียงพอ อย่างไรก็ตามพื้นที่ส่วนใหญ่มีปริมาณฝนตกน้อยมาก ทำให้แหล่งกักเก็บน้ำในพื้นที่ 17 อำเภอ 118 ตำบล 1,343 หมู่บ้าน  ได้แก่ อ.โนนแดง ,ประทาย ,ด่านขุนทด ,ขามทะเลสอ ,ลำทะเมนชัย ,คง ,บัวใหญ่ ,สูงเนิน , เมือง นครราชสีมา,เมืองยาง ,ห้วยแถลง ,พระทองคำ ,สีดา ,บ้านเหลื่อม ,ขามสะแกแสง ,บัวลาย และ สีคิ้ว เริ่มเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชลประทานและเกษตรอำเภอรวมทั้งฝ่ายปกครองได้สำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีและเตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง โดยมีนาข้าว 687,153.20ไร่ และพืชไร่ 218,815 ไร่ เพื่อพิจารณาจ่ายค่าชดเชยความเสียหายตามสภาพความจริง ส่วนประปาเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ซึ่งใช้น้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีน้ำอุปโภค บริโภคอย่างเพียงพอตลอดฤดูแล้ง แต่ กปภ.ทั้ง 10 สาขา ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะ กปภ.อ.คง ซึ่งใช้น้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยตะคร้อ จากพื้นที่ความจุ 7 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้เหลือเพียง 8 แสน ลบ.ม. ถือว่าน้อยมาก จึงแก้ไขโดยสูบน้ำจากลำน้ำชีเข้ามาเพิ่มเติมให้เพียงพอและอ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ อ.ห้วยแถลง ก็ต้องสูบน้ำเข้ามาเติมอย่างต่อเนื่องด้วย

ล่าสุดได้รับรายงานพื้นที่ประสบภัยแล้งซ้ำซาก 7 อำเภอ 24  ตำบล 93 หมู่บ้าน ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีความห่วงใยและให้ความสำคัญในเยียวยาปัญหา ตนได้สั่งการให้นายอำเภอเฝ้าระวังเป็นพิเศษกับปัญหาที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน และวัด ต้องตรวจสอบข้อมูลประเมินปัญหาอย่างต่อเนื่องแบบเดือนต่อเดือน จังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่จนถึงช่วงฤดูฝนในเดือนมิถุนายน 62 หากปรากฏความเดือดร้อนของราษฎรเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนน้ำตามสื่อต่างๆ ให้ถือเป็นความรับผิดชอบของนายอำเภอ ซึ่งต้องติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภคให้ผ่านพ้นวิกฤตให้ได้

 

โคราชอากาศเย็นหมอกลงจัด เมฆหมอกปกคลุม ทิวทัศน์สวยงาม ด้านผู้ใช้รถต้องเปิดไฟวิ่งเตือนช่วงนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่เมื่อเย็นวานที่ผ่านมาต่อเนื่องมาถึงช่วงกลางคืนมีฝนตกต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงเช้าอากาศเย็น ทำให้มี หมอกลงจัดในหลายพื้นที่ ทำให้ทัศนะวิสัยในการมองเห็นไม่ดี ผู้ใช้รถใช้ถนนสัญจรด้วยความลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

โดยที่บริเวณถนนมิตรภาพ และถนนสาย24สีคิ้ว-เดชอุดมช่วง เขตอำเภอสีคิ้วและสูงเนิน ในเวลาเช้ามืดต่อเนื่องถึงช่วงเช้าตรู่ พบว่ามีหมอกลงหนาแน่น ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่สามารถทำความเร็วได้เต็มที่ ต้องขับด้วยความระมัดระวังขณะเดียวกัน บนถนนสายรองในหลายเส้นทางในเขต อ.สูงเนิน และสีคิ้ว ก็พบว่ามีหมอกลงเป็นจำนวนมากเช่นกัน  ส่งผลให้ มีปัญหาในการขับขี่มองเห็นไม่ชัดเจน ถึงแม้จะสว่างแล้วเวลา6-7โมงเช้า ซึ่งทุกวันที่ผ่านมาสามารถขับขี่ได้ตามปกติ แต่ในวันนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ก็ยังต้องเปิดไฟเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

 ขณะที่บริเวณพื้นที่ติดเขาพบว่ามีเมฆหมอกปกคลุม ทิวทัศน์บรรยากาศ เป็นไปอย่างสวยงามคาดว่าในช่วง 1-2 วันนี้ จะมีเมฆหมอก หนาแน่น ช่วงเช้าผู้ใช้รถใช้ถนนควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ภาคีเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดสัมนา “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน”

ประเทศไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก ภาคีเครือข่ายภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดสัมนา “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน”

 

วันที่ 29-30 ตุลาคม 2561 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล ​โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช  อ.เมือง จ.นครราชสีมาในการสัมมนาวิชาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง“ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืนโดยมีนพ.วีระพันธ์  สุพรรณไชยมาตย์ รองประธาน สสส. คนที่ 2ประธาน เปิดงาน นายปัญญา วงศ์ศรีแก้วปลัดจังหวัดกล่าวต้อนรับ  พล .ต.ต  ธีรพงศ์  วงษ์สมาน รอง ผบช  ตร ภาค 3  ร่วมมอบโล่ ท่านวิทยากร แขกผู้มีเกียรติ และผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกท่าน

รัฐบาลกำหนดให้อุบัติเหตุทางถนนเป็น “วาระแห่งชาติ” โดยดำเนินงานผ่านโครงสร้างศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้มีนโยบายและมาตรการต่างๆ เช่น ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีที่เน้นการทำงาน “ต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี”  นำกลไก “ประชารัฐ” เป็นหลักบูรณาการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหา แต่ในการดำเนินงานส่วนใหญ่ยังอยู่คงเป็นการดำเนินงานในระบบสั่งการหรือแนวดิ่ง สอจร. โดย สสส. เป็นภาคีที่เข้ามาเสริมการทำงานในแนวราบ และในปี 2561 นี้ ได้เลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นเวทีจัดการสัมมนาวิชาการที่ดำเนินงานมาตลอดปีที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สอจร.อีสานล่าง โดย สอจร.(กลาง) ภายใต้การสนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นภาคีที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคีที่ทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแนบราบมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547                 ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทุกระดับ จึงจัดให้มีการสัมมนาวิชาการภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง “ก้าวหน้าสู่จังหวัดที่ปลอดภัย ห่างไกลการบาดเจ็บจากจราจรทางบก อย่างยั่งยืน” ขึ้นมาในวันที่ 29 – 30 ตุลาคม 2561 นี้  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติงานจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบปะ แลกเปลี่ยนแนวคิด ผลการดำเนินงาน รวมไปถึงงานวิจัยต่างๆ โดยมีรูปแบบของเวทีมีทั้ง การเสวนาพิเศษ  การทอล์กโชว์ การนำเสนอผลงานแบบ Oral Presentation /โปสเตอร์  นอกจากนี้ยังจัดให้มีการมอบรางวัลแก่บุคลดีเด่นและในดีเด่นในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนนซึ่งผ่านการคัดเลือกจากภาคีในจังหวัด ในพื้นที่ของ 10 จังหวัด สอจร.อีสานล่าง  เวทีวันนี้มีผู้ร่วมงานจำนวน 150 คนเป็นที่ทราบกันอยู่แล้ว ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้วในตอนนี้  จากข้อมูลผู้เสียชีวิตที่บูรณาการจากข้อมูล 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พบว่า มีอัตราการตายเท่ากับ 36.2 คนต่อประชากร 1 แสนคน (ประมาณ 22,281 คนต่อปี) และยังมีผู้บาดเจ็บเฉลี่ยอีกประมาณ 107,542 คนต่อปี  และ ภาคที่สถิติสูงคือภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย

ตม.โคราช ปิดล้อมตรวจค้น จับ 3 ชาวอินเดียผิดกฎหมาย พร้อมเอาผิดคนไทยให้ที่พักอาศัย

ตม.โคราช ปิดล้อมตรวจค้น จับ 3 ชาวอินเดียผิดกฎหมาย พร้อมเอาผิดคนไทยให้ที่พักอาศัย

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครราชสีมา ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พ.ต.ท.สุรชาติ ร่มสายหยุด รอง.ผกก.ตม.จว.นครราชสีมา เป็นประธาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.บรรชิด หวังแววกลาง สว.ตม.จว.นครราชสีมา ปล่อยแถวระดมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวทำผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันอาชญากรรมตามนโยบาย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม โดยมีตำรวจท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมในครั้งนี้

              ต่อมาได้มีการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 ราย ซึ่งเป็น สัญชาติ อินเดียทั้งหมด ฐานความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด ก่อนผลักดันออกนอกประเทศต่อไป และเปรียบเทียบปรับเจ้าบ้านซึ่งเป็นคนไทย อาศัยตาม ม.37 ฐานความผิดฐาน ” เป็นเจ้าบ้าน รับคนต่างด้าวเข้าพักอาศัยโดยมิได้แจ้งการเข้าพักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง ฯ ”  และเปรียบเทียบปรับจำนวน 1,600 บาท ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

              ด้าน พ.ต.ท.สุรชาติ ร่มสายหยุด รอง.ผกก.ตม.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.กฤษฎากรณ์ กลิ่นเกษร ผกก.ตม.จว.นครราชสีมา ให้ปฏิบัติตามนโยบายผู้บังคับบัญชา โดยปฏิบัติภารกิจ 0peration X-ray out law foreigner ปิดล้อมตรวจค้นแรงงานต่างด้าวแหล่งต้องสงสัยตามที่ได้รับแจ้งมา โดยจังหวัดนครราชสีมามีพื้นที่กว้างใหญ่กว่า 32อำเภอ ทำให้มีแรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก และก็ยังพบมีการหลบหนีทำงานในเมืองไทย โดยการใช้พาสปอร์ตนักท่องเที่ยว และอยู่เกินเวลาตามกฎหมายกำหนด ซึ่งทาง ตม.และเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายมีการปราบปราม ป้องกันอย่างจริงจัง หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งได้ที่ เบอร์สายตรง 1178

โคราชลือผีแม่ม่าย แห่นำเสื้อแดงแขวนหน้าบ้านพร้อมเขียนข้อความบอกว่า บ้านนี้ไม่มีผู้ชาย เพื่อป้องกันตายไม่ทราบสาเหตุ

โคราชลือผีแม่ม่าย นำเสื้อแดงแขวนหน้าบ้านแก้เคล็ด เขียนข้อความบอกบ้านนี้ไม่มีผู้ชาย ป้องกันตายไม่ทราบสาเหตุ >>มีคลิป<<

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองบึง หมู่ 15 ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ชาวบ้านหลายหลังคาเรือนที่มีผู้ชายอยู่ในบ้านกลัวผีแม่ม่ายเอาไปอยู่ด้วย นำเสื้อแดง มาแขวนและห้อยไว้ที่หน้าบ้านแก้เคล็ดหลังมีกระแสข่าวลือ มีชายนอนตายโดยไม่ทราบสาเหตุ

โดยจากการสำรวจภายในหมู่บ้านพบหลายหลังคาเรือนนำเสื้อสีแดงมีแขวนไว้หน้าประตูบ้าน หรือตามต้นไม้หน้าบ้าน บางคนทำมาพาดไว้ที่ริมรั้วตามความเชื่อที่ว่าหากไม่ทำอาจจะมีผีแม่ม่ายมาเอาไปอยู่ด้วย คืออาจจะเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่บางราย มีข้อความเขียนไว้ด้วยว่าบ้านนี้ไม่มีผู้ชาย มีแต่ผู้หญิงเพื่อเป็นการแก้เคล็ดไม่ให้ผีแม่ม่ายเอาไปอยู่ด้วย

จากการสอบถาม นางสั่น เย็นดี อายุ 58 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่นำเสื้อแดงมาแขวนและเขียนข้อความ บ้านนี้ไม่มีผู้ชายมีแต่ผู้หญิง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามีข่าวลือว่าคนนอนตายไม่ทราบสาเหตุในหมู่บ้านอื่น ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นฝีมือของผีแม่ม่าย หากบ้านหลังไหนมีผู้ชายต้องเอาเสื้อแดงมาแขวนจะทำให้ผีแม่ม่ายเข้าใจว่าบ้านหลังนี้ไม่มีผู้ชาย จะทำให้ไม่เกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้น โดยตนซึ่งอยู่กับสามี จึงได้นำเสื้อมาแขวนไว้และเขียนข้อความไว้ด้วย โดยส่วนตัวเห็นว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้ยุ่งยากอะไร จึงนำเสื้อแดงมาแขวนไว้และเขียนข้อความบ้านนี้ไม่มีผู้ชายลงไปด้วยเพื่อความสบายใจ

โคราช!!แถลงข่าว“มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″

สมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา   จัดงานแถลงข่าว“มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″ REKT EXPO 21 BESTAREA BESTPRICE

          นางพิมพ์อร สุริ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา นายนราทร ธานินพิทักษ์ อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดนครราชสีมา และนายปิติพงศ์ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานการจัดงาน ได้ร่วมกันแถลงข่าว “มหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ครั้งที่ 21″ REKT EXPO 21 BESTAREA BESTPRICE  ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่  8 – 14 พฤศจิกายน 2561 ที่ชั้น 1 แกรนด์ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา

           ซึ่งในปีนี้ได้ ในมหกรรมบ้าน คอนโด และสินเชื่อ โคราช ได้รวบรวม ที่อยู่อาศัย ครบในทุกที่ ทุกทําเล ทุกราคา โดยยกเอาคอนเซ็ปต์BESTAREA BESTPRICE ทําเลที่ดี ที่สุดในราคาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งมีโครงการหมู่บ้านกว่า 30 โครงการ รวมถึง คอนโดและทาวน์โฮม มาร่วมออกบูธนิทรรศการ พร้อมกับจัดโซนราคาพิเศษ และมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ที่จะมีนาทีทอง รับส่วนลดดาวน์บ้านและดอกเบี้ยราคาพิเศษ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนทุกระดับรายได้ และอำนวยความสะดวกสบาย สำหรับคนเมือง

พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมลุ้นรางวัลคูปองเงินสดมูลค่าและรถจักรยานยนต์ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาทโดยทางสมาคมฯ มุ่งจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้น เศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดนครราชสีมา

โคราชเปิดให้ชมนิทรรศกาล ปฏิบัติการถ้ำหลวง 23-31 ตุลาคมนี้

ปฏิบัติการถ้ำหลวง วาระแห่งโลก

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นประธานเปิดงานการแสดงนิทรรศการและการเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนในมิติ เรื่อง ปฏิบัติการถ้ำหลวง
วันที่ 23 – 31 ตุลาคม2561
1. กรุงเทพ. จัดไปแล้ว
2. โคราช 23 – 31 ตุลาคม 2561
3. หาดใหญ่. 6 – 14 พฤศจิกายน 2561
ทางกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ชวนทุกท่านตะลุยถ้ำหลวงกับปฏิบัติการ 18 วัน ภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีมหมูป่าอะคาเดมี ชมนิทรรศการ “ ปฏิบัติการ ถ้ำหลวง: วาระแห่งโลก” ส่วนภูมิภาค เพื่อร่วมเปิดปฏิบัติการ 18 วัน ร่วมถอดบทเรียนภารกิจช่วยชีวิต 13 หมูป่า สัมผัสถึงภารกิจที่ยากลำบาก รวมถึงแสดงความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อของคนทั่วโลก นับตั้งแต่วันที่หายตัวในวันที่ 23 มิถุนายน 2561 ณ ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จนถึงวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 (รวม18วัน) ที่สามารถช่วยเหลือหมูป่าตัวสุดท้ายออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ ร่วมชมนิทรรศการนี้ได้ระหว่างวันที่ 23-31 ตุลาคม 2561 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา และ ระหว่างวันที่ 6-14 พฤศจิกายน 2561 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลหาดใหญ่ วันที 23 ต.ค.2561