สืบสานประเพณีแห่พระลอดชุ้มประตูเมือง

#สืบสานประเพณีแห่พระลอดชุ้มประตูเมือง
“สงกรานต์โคราช แห่พระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูเมือง”ประจำปี 2565
จังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วม
กับเทศบาลนครนครราชสีมา และวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร กำ
หนดจัดงานสืบสานประเพณีแห่พระลอดซุ้มประตูเมือง “สงกรานต์โคราช
แห่พระพระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูเมือง”ประจำปี 2565 เพื่อเป็นการสืบ
สาน ถ่ายทอด ประเพณีวัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้อง
ถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาลในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและเผยแพร่มรดกภูมิปัญ
ญาทางวัฒนธรรม ยกระดับงานประเพณี ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัด
นครราชสีมา รวมทั้งเพิ่มบทบาทของหน่วยงานเครือข่ายทางวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่นให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง ระหว่างวันที่ 13 เมษายน
2565 ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุ
รนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
โดยในวันที่ 13 เมษายน 2565 เวลา 13.00 น ณ พระวิหารหลวง วัดพระ
นารายณ์มหาราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสี
มา เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ พระเจดีย์วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร ต่อเนื่องด้วยพิธีอัญเชิญพระคันธารราฐ พร้อมด้วยผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดนคร
ราชสีมา จุดธูปเทียน ถวายพวงมาลัย สักการะพระคันธารราฐ ก่อนอันเชิญ
ออกนอกพระวิหารจากนั้นอัญเชิญประดิษฐานบนรางรถ และเคลื่อนขบวน
แห่อัญเชิญพระคันธารราฐ ตกแต่งริ้วขบวนแบบประเพณีไทยอีสาน มุ่งหน้าสู่ถนนจอมพล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนชุมพล เลี้ยวขวาเข้าถนนมหาดไทย
ถึงแยกถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าไปยังลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสรงน้ำ
พระคันธารราฐ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทย ณ ริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุร
นารี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป พระเกจิดังของจังหวัดนคร
ราชสีมา ณ เวทีลานโอเปร่า ชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูป
(พระคันธารราฐ) ความสำคัญของวันสงกรานต์และถ่ายภาพกับจุดเช็คอิน
เจดีย์ทราย ณ บริเวณลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
จากนั้นเป็นกิจกรรม แห่พระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูชุมพล พร้อมแห่ผ้า
ทอง ผ้าเงิน ความยาว 555 เมตร เท่ากับอายุของเมืองโคราช และขอเชิญชวนประชาชนที่มีจิตศรัทธา ร่วมจับชายผ้าทองผ้าเงินให้เป้นนิ้วยาว ลอดซุ้มประตูชุมพล มุ่งกน้าสู่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร เพื่อนำผ้าไปห่มพระเจดีย์ ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหารต่อไป
ขอเชิญชวนชาวโราช ร่วมสักการะพระคันธารราฐ ด้วยการโปรยกลิบดอกไม้ แทนการสรงน้ำ ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยประชาชนสามารถรอร่วมสักการะองค์พระคันธารราฐได้ ณ บริเวณสองข้างทาง ถนนจอมพล ถนนชุมพล ถนนมหาดไทย
ถนนราชดำเนิน และลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เริ่มเคลื่อนขบวนตั้งแต่เวลา
14 .00 น โดยประมาณ และพิธีแห่พระคันธารราฐลอดซุ้ประตูเมือง จะเริ่มเวลา 16.00 นโดยประมณ วันที่ 11 เมษายน 2565 ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

.

เริ่มแล้วประกวดธิดาช้างภาคอีสาน เพื่อตัวแทนธิดาช้าง สู่เวทีระดับชาติ

เริ่ม

เริ่มแล้วประกวดธิดาช้างภาคอีสาน เพื่อตัวแทนธิดาช้าง สู่เวทีระดับชาติ
ขอแสดงความยินดีกับคุณเจ น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง ผู้ครองมงกุฏและตำแหน่ง ธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022 และคุณตองหนึ่ง นายณัฐธีรา วรโชติเมธา ผู้ครองมงกุฏและตำแหน่ง “ธิดาช้างควีนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022” จากเวทีการประกวดธิดาช้างเมืองย่า ไทยแลนด์ 2022 เพื่อเป็นตัวแทนธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022 ลงสู้ศึกเวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 ในวันที่ 11 มิ.ย.2565 ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
วันที่ 10 เม.ย.2565 เวลา 15.00น.ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กองประกวดธิดาช้าง ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช รับทัพสาวงามและสาวประเภทสองบิ๊กไซส์ กว่า 25 ชีวิตทั่วอีสาน จัดการประกวด “ธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ2022” พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท เฟ้นหาตัวแทนสาวอีสานที่มีทั้งความงาม ความมั่นใจ ความฉลาด และมีความสามารถ ดำรงตำแหน่งธิดาช้าง ธิดาช้างควีน และทูตอนุรักษ์ช้าง ลงสู้ศึกธิดาช้างไทยแลนด์ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากคุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางเอมอร ศรีกงพานประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ,คุณจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ผู้จัดกองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด และแขกผู้มีเกียรติและเหล่ากองเชียร์สาวงามบิ๊กไซส์ ร่วมชมและเชียร์สาวงามกันอย่างคับคั่งภายใต้มาตรการการดูแลความปลอดภัยสูงสุดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

.

“ครบรอบ 50 ปี รำไพพรรณี ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าเกษตรและอาหารภาคตะวันออก”

ครบรอบ 50 ปี รำไพพรรณี ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าเกษตรและอาหารภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เปิดให้บริการตรวจความอ่อนแก่ทุเรียนให้กับเกษตรกรและมือตัด ด้วยเทคนิค NIR

เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี รำไพพรรณี ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าเกษตรและอาหารภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เปิดให้บริการตรวจความอ่อนแก่ทุเรียนให้กับเกษตรกรและมือตัด ด้วยเทคนิค NIR (FT- NIR Spectroscopy) รวดเร็ว แม่นยำ รู้ผลตรวจภายใน 5 นาที พร้อมออกใบรับรองการตรวจเปอร์เซ็นต์น้ำหนักแห้งโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.00 น. เริ่ม 7 เมษายน 2565 จนกว่าจะสิ้นสุดวันตรวจตามประกาศวันเก็บเกี่ยวของจังหวัดจันทบุรี ติดต่อเข้ารับบริการได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมสินค้าเกษตรและอาหารภาคตะวันออก ตรงข้ามทางเข้าสนามกีฬาศักดิเดชน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี

.

.

“เปิดสัมมนา การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหมโคราชสู่ความยั่งยืน”

เปิดสัมมนา #การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหมโคราชสู่ความยั่งยืน”
(Tourism & MICE Korat Creative Routing for future Sustainability)
วันที่ 30 มีนาคม 2565ณ ห้องสุรนารี สุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โดย ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา
โดยได้รับเกียรติจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุขพร้อมคณะ
ผู้อำนวยการเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ,ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TCEP),ผู้อำนวยการสำนักงานี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา (ททท.),ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ
ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา
วิทยากร ผู้เข้าร่วมอบรม และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
ดิฉันในนามของผู้ดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสาย
ท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู่ความยั่งยืน” ภายใต้โครงการเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู
ความยั่งยืน (Tourism & MICE Korat Creative Routing for future Sustainability)
ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมในวันนี้
โครงการเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู่ความยั่งยืน (Tourism & MICE Korat
Creative Routing for future Sustainability) เป็นโครงการที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน
พื้นที่ 32 อำเภอ ครอบคลุมทั้งจังหวัดนครราชสีมา มุ่งหวังตอบสนองวัตถุประสงค์เพื่อประซาสัมพันธ์
เส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั้งภายในและภายนอกจังหวัด ผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละชุมชนเข้า

.ประกวด Korat Mice Premium Products สำหรับการส่งเสริมผลผลิต/ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ
ของชุมชนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น การจัดหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการยกระดับผู้ประกอบการ
สินค้าในชุมชน ส่งเสริมการเข้าถึงช่องทางการตลาด พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานคุณภาพและมูลค่าเพิ่ม
ของสินค้า/ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเกิดการจ้างงานในพื้นที่ เสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและเส้นทางการท่องเที่ยวร่วมกับชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป

.

.

ผู้ว่าฯโคราชสั่งหยุดโรงงานแป้งมันสร้างผลกระทบกลิ่นรุนแรงต่อชาวบ้าน

วันนี้ (29 มี.ค.65) ที่ห้องประชุม อบต.หินดาด อ.ด่านขุนทด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ลงพื้นที่พร้อมส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาและหาข้อสรุปเพื่อแก้ปัญหา จากกรณีที่ชาวบ้านเดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565 หลังจากที่หน่วยงานราชการสั่งให้โรงงานแก้ไขภายใน 45 วัน กรณีกลิ่นเหม็นรุนแรงจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแป้งมัน ซึ่งหลังจากครบกำหนดแล้วปรากฎว่า โรงงานไม่สามารถแก้ไขได้
จาการประชุมหารือมีข้อสรุปออกมาว่า กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแป้งมัน Modify ผู้ว่าสั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดออกคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงให้มีผลตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ ส่วนเรื่องสุขภาพ ทางสาธารสุขอำเภอและรพ.มหาราชนครราชสีมา จะเข้าตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ 5 เมษายน 2565
กรณีชาวบ้านร้องเพิ่มเติมว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงาน และหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก สำหรับการร้องขอเยียวยาของชาวบ้าน ผู้ว่าฯจะขอให้อัยการด้านคุ้มครองสิทธิ์เข้ามาช่วยเหลือแนะนำในข้อกฎหมายต่อไป
กรณีร้องเรียนนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านหมู่ 14 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ร้องเรียนหน่วยราชการให้เร่งตรวจสอบโรงงานแป้งมัน Modify ตั้งอยู่ภายใน บริษัท เชาวน์ดีสตาร์ช ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เนื่องจากชาวบ้าน บ้านปราสาท หมู่14 ต.หินดาด ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงาน ได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรงต่อเนื่อง พร้อมข้อเสนอให้ปิดโรงงานก่อนชั่วคราวถ้าแก้ไขไม่ได้
ต่อมาหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดนครราชสีมา อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าตรวจสอบปัญหากลิ่นเหม็นรุนแรง หรือกลิ่นสารเคมีจากบ่อพักน้ำเสียโรงงานแป้งมัน Modify และคุณภาพน้ำในลำห้วย ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงานแป้งมัน ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด
จากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ภายในโรงงาน และโดยรอบชุมชนบ้านเพื่อเก็บข้อมูล พบว่า ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีประเภทคลอรีน กรด และด่าง บริเวณบ่อพักน้ำเสียมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา จึงตรวจวัดก๊าซอินทรีย์ระเหยง่ายพบว่าเกินมาตรฐาน จึงมีคำสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินการชั่วคราว และให้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากบ่อพักน้ำเสีย และการรั่วไหลของก๊าซชนิดต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเมื่อครบกำหนดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ปรากฎว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขจากโรงงาน

.

โคราชเปิดศูนย์จำหน่ายบรรจุภัณฑ์ครบวงจร แห่งแรก

เปิดแล้ว! #ศูนย์จำหน่ายบรรจุภัณฑ์ครบวงจร GROW Packaging Thailand สาขาโคราชในเครือกลุ่ม บริษัท ซี.เอ.เอส.

วันที่ 23 มีนาคม 2565 วันดีมงคล เวลา 09. 45 น.พระครูปลัดภูมิปัญญา ได้เมตตาเจิมป้าย เพื่อเป็นสิริมงคลในพิธีเปิด ศูนย์จำหน่าย บรรจุภัณฑ์ครบวงจร GROW Packaging Thailand สาขาโคราช และได้รับเกียรติจาก จากแขกผู้มีเกียรติและขอขอบคุณทุกท่านมาณโอกาสนี้ นายจักริน เชิดฉาย อดีตประธานหอการค้า, นางเอมอร ศรีกงพานประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา คุณยุภาวรรณ สองเมือง รองประธาน biz Club จังหวัดนครราชสีมา, นายชาญชัย บวงสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยาน, พันเอก นเรศ พิลาวรรณนายกพุทธสมาคมจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมทั้งแขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชนโคราชร่วมเป็นสักขีพยาน

โดยพิธีเปิด GROW Packaging Thailand สาขาโคราช ในเครือกลุ่ม บริษัท ซี.เอ.เอส.ได้รับเกียตริจาก คุณโฉมบังอร ดารารัตนโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.เอ.เอส. เปเปอร์ จำกัด นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายธวัชชัย นันทศักดิ์ศิริ กรรมการบริหารบริษัท และ น.ส.วราภรณ์ นันทศักดิ์ศิริ คณะผู้บริหาร บริษัท เคเซเว่น บิซิเนส กรุ๊ป จำกัด ร่วมกันตัดริ้บบริ้น ในพิธีเปิดและได้นำแขกผู้มีเกียรติเยี่ยมชมสินค้าภายในร้าน

สำหรับ GROW Packaging Thailand สาขาโคราชในเครือกลุ่ม บริษัท ซี.เอ.เอส. ตั้งอยู่เลขที่ 78 ถ.โพธิ์กลาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ติดกับตลาดแม่กิมเฮงฝั่งหน้าคุณย่าโม ให้บริการจำหน่ายบรรจุภัณฑ์มากกว่า 1,000 รายการ ทั้งบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม บรรจุภัณฑ์เบเกอรี่ หลากหลายรูปแบบให้เลือก ตามความต้องการ

โดยจำแนกผลิตภัณฑ์1) กลุ่มกระดาษ 2)กลุ่มพลาสติก,3) กลุ่มผลิตภัณฑ์รักษ์โลก( ผลิตจากวัสดุที่ย่อยสลายโดยธรรมชาติ,) 4)กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้อื่นๆพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านการออกแบบโลโก้แบรนด์เนอร์ (print on demand) สติ๊กเกอร์ บริการผลิต ฉลากสินค้าโลโก้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า เปิดให้บริการ 08.00 – 19.00 น. โทรศัพท์ 090-9854516 และช่องทางการติดต่อ Line @growkorat fb:@growpackoffical และ www.growpackthailand.com

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท จับมือสำนักงานพาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคกลาง “งานแสดงและจำหน่ายสินค้า สุดยอด SMEs ของดีจากชุมชน”

.

วันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕ เวลา ๑๔.00 – ๑๖.0๐ น.”งานแสดงและจำหน่ายสินค้า สุดยอด SMEs ของดีจากชุมชน” ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา นครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาในงานมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกตลอดการจัดงาน ซึ่งจะจัดงานในวันที่ ๑๗ – ๒๑ มีนาคม๒๕๖๕ ณ ชั้น ๑ ศูนย์การค้าเซ็นทร์ล โคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยในวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๕จะมีการเปิดงานขี้งมีแฟชั่นโชว์จากนางแบบมืออาชีพ
เพื่อนำเสนอผ้าพื้นเมืองของกลุ่มจังหวัดฯและในแต่ละวันจะมีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการมาซื้อสินค้าที่งาน ก็จะได้พบกับสินค้านาทีทอง และกิจกรรมช็อปลุ้นโชค ลุ้นรับเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ารวมมากกว่า๕0,๐๐0 บาท และถ้าไม่สะดวกที่จะมาซื้อสินค้าในงานด้วยตัวเอง ก็ยังสามารถดูไลฟ์สดออนไลน์ซื้อสินค้า และรับสินค้าได้ทันที ผ่านทางช่องทางเดลิเวอร์รี่อีกด้วย พิเศษแบบนี้ มีที่งาน สุดยอดSMEs ของดีจากชุมชน วันที่ ๑๗ – ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช
สำนักงานพณิชย์จังหวัดชัยนาท จับมือสำนักงานพาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคกลางเดินหน้าจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า สุดยอด SMEs ของดีจากชุมชน หวังเพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการ เพิ่มช่องการจำหน่ายสินค้าให้แก่ชุมชน” สำนักงานพาณิชย์จังหวัดชัยนาท และสำนักงานพาณิชย์กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี เดินหน้าจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้า “สุดยอด SMEs ของดีจากชุมชน” เพื่อเพิ่มรายได้แก่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน สินค้าภาคการเกษตร และสินค้า ภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มช่องทางการตลาดการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม จังหวัดภาคกลางตอนบน กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน เป็นกลุ่มจังหวัดที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ทำการเกษตรเป็น จำนวนมากและมีผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร รวมทั้งผลิตภัณฑ์ชุมชนที่หลากหลาย จึงถือได้ว่ากลุ่ม จังหวัดภาคกลางตอนบนเป็นศูนย์กลางสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศ
นอกจากนี้ยังมีสินค้าอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ มีการนำเอาสินค้าที่เป็นของดีขึ้นชื่อกว่า ๕. ร้านค้ามาจำหน่ายสินค้าในงาน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร อาหาร ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ของใช้ ของที่ระลึกและของฝากประจำจังหวัดมากมาย

.

อุทิศส่วนกุศลแด่นักข่าว และ พิธีมอบโล่เชิดชูแก่ผู้ทำความดีต่อสังคม

5 มีนาคม “วันนักข่าว” สมาคมนักข่าวนครราชสีมา

.

นายไพฑูรย์ มนุญพงศ์พันธ์ นายกสมาคมนักข่าวนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ ร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และถวายภัตาหาร อุทิศส่วนกุศลแด่นักข่าวผู้ล่วงลับไปแล้ว เนื่องใน “วันนักข่าว 5 มีนาคม”

.

นอกจากนี้ ได้จัดพิธีมอบโล่เชิดชู แก่ผู้ทำความดีต่อสังคม พร้อมมอบโล่ห์ให้กับผู้สนับสนุนการจัดงานประจำปี 2565 โดยได้รับเกียรติจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราชเพื่อ

.

พร้อมมีการจัดการประกวดร้องเพลง ชิงถ้วยรางวัล เจ้านายวิเชียร จันทรโรทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

สายการบินนกแอร์ได้รับจัดสรรเส้นทางบิน ภายในประเทศเพิ่มเติม 12 เส้นทาง

นกแอร์หารือโคราชบินข้ามภูมิภาค

เตรียมเปิดโคราช-เชียงใหม่ ปลายเม.ย.นี้ 

หลังจาก “กรมการบินพลเรือน” ไฟเขียวอนุญาตให้ สายการบินนกแอร์ เปิดเส้นทางบินที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา 3 เส้นทางไป-กลับ

ได้แก่ “โคราช-เชียงใหม่” สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน “โคราช-ภูเก็ต” สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน และ “โคราช-หาดใหญ่” สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน พร้อมเส้นทางอื่นๆ

ล่าสุด! วันที่ 26 ก.พ.65 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมโรงแรมวีวันโคราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และผู้บริหารสายการบิน “นกแอร์”

พล.อ.อ.ดร.นพพร จันทวานิช ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัปตันสุธี จุลชาต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติ นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้ากลุ่ม จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง 1,  นายศักดิ์ชาย  ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา, ผอ.ท่าอากาศยานนครราชสีมา และภาคเอกชนจังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมประชุมหารือถึงแนวทางในการเปิดสายการบินที่จังหวัดนครราชสีมา โดยใช้ท่าอากาศยานนครราชสีมา (สนามบินหนองเต็ง) อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา

พล.อ.อ.ดร.นพพร จันทวานิช ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้อนุญาตให้สายการบินนกแอร์ ได้รับจัดสรรเส้นทางบินภายในประเทศเพิ่มเติม 12 เส้นทาง โดยในจำนวนนี้อนุญาตให้เปิดเส้นทางบินที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา จำนวน 3 เส้นทางไป-กลับ ได้แก่ นครราชสีมา-เชียงใหม่ ไป-กลับ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน, นครราชสีมา-ภูเก็ต ไป-กลับ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน และ นครราชสีมา-หาดใหญ่ ไป-กลับ สัปดาห์ละ 7 เที่ยวบิน โดยได้มีการวางแผนว่าจะใช้เครื่องบิน 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องบินขนาดใหญ่ เครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ขนาดความจุที่ 189 ที่นั่ง และเครื่องบินขนาดกลาง เครื่องบิน Q400 ขนาดความจุ 86 ที่นั่ง โดยเส้นทางแรกที่จะเริ่มเปิดการบิน คือ เส้นทางนครราชสีมา-เชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าในช่วงปลายเดือนเมษายน 2565 จะพร้อมเปิดให้บริการได้

นายวุฒิภูมิ  จุฬางกูร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท นกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินที่นกแอร์จะใช้บริการประชาชนชาวโคราชเส้นทางโคราช-เชียงใหม่ ในครั้งนี้จะใช้เครื่องบินขนาดกลาง เป็นเครื่องบิน Q400 ขนาดความจุ 86 ที่นั่ง โดยคาดว่าช่วงแรกจะให้บริการสัปดาห์ละ 3-4 เที่ยวบิน หากความต้องการเพิ่มสูงจึงจะปรับเป็นการให้บริการทุกวัน และจะขยายไปยังเส้นทางโคราช-ภูเก็ต, โคราช-หาดใหญ่ รวมทั้งโคราช- กรุงเทพฯ ด้วย  สำหรับราคาค่าโดยสารตอนนี้จะต้องรอดูสถานการณ์เพราะค่าน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่ราคาไม่ต่ำไปกว่า 900 บาทต่อที่นั่ง

สำหรับการหารือในครั้งนี้ นกแอร์อยากขอรับการผ่อนปรนจากภาคราชการ  5 ข้อ ดังนี้ 

1. ขอยกเว้นการเก็บค่าภาษีสนามบินโคราช

2. ขอยกเว้นการเก็บค่าขึ้นลง หรือค่าแลนดดิ้ง

3.ขอยกเว้นค่าจอดเครื่องบิน (Free parking)

4.ขอยกเว้นค่าแจ้งเตือนสัญญาณ 

5.ขอยกเว้นค่าเช่า สนง. และการโอเปอร์เรตให้บางส่วน

เพื่อไม่ให้ผู้โดยสาร แบบรับค่าใช้จ่ายมากเกินไป และขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานเอกชนต่างๆ ภาคธุรกิจ ช่วยสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ หรือบัตรโดยสารในภาคธุรกิจ และคู่ค้าต่างๆ  หน่วยงานภาคการท่องเที่ยว ททท. สนับสนุนกิจกรรมประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้มาเที่ยวโคราช และขอความร่วมมือจากทั้ง 3 ห้าง รวมทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ต ช่วยประชาสัมพันธ์ หาพาร์นเนอรฺ์ระยะยาว  ทำกิจกรรมร่วมกับห้างต่างๆ และเรื่องการรับส่งผู้โดยสารไปสนามบิน เป็นต้น

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัด หน่วยงานภาครัฐและเอกชนพร้อมให้ การสนับสนุนสายการบินนกแอร์มาเปิดที่โคราช  เป็นการพัฒนาจังหวัด เราจะนำเสนอเรื่องที่นกแอร์ขอรับการผ่อนปรนทั้ง 5 ข้อต่อกรมท่าอากาศยาน ซึ่งทั้ง 5 ข้อนี้จะมีผลบังคับใช้ได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.65 นี้เท่านั้น แต่เราจะขอให้ทางกรมฯ ขยายเวลาออกไป เพื่อช่วยสร้างความเจริญให้จังหวัด โดยจะเร่งดำเนินการโดยด่วน เพื่อให้ทันกลางเดือนมีนาคม 65 หากการขอผ่อนปรนเรียบร้อย นกแอร์จะได้เร่งจัดตารางการบิน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมด้านอื่นให้สามารถโอเปอร์เรตทันปลายเดือนเมษายน 65

นายศักดิ์ชาย  ผลพานิชย์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า   ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะมีสายการบินมาเปิดบินในโคราช ซึ่งหากยังไม่มีสถานที่จำหน่ายตั๋ว ทางหอการค้าฯ ยินดีให้ใช้สำนักงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมทั้ง 3 จังหวัดใกล้เคียงอย่างบุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสุรินทร์ก็มีความยินดีด้วยเช่นกัน ซึ่งสามารถจัดทัวร์เชื่อมโยงไปยังจังหวัดต่างๆ ได้ อีกทั้งโคราชเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ ที่มีศักยภาพสามารถเชื่อมโยงการท่องเที่ยว การจัดประชุมสัมมนาข้ามภูมิภาคได้ด้วย

สำหรับท่าอากาศยานนครราชสีมา หรือสนามบินหนองเต็ง สร้างขึ้นเมื่อปี 2540 สมัย พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากก่อสรา้งแล้วเสร็จได้มีสายการบินหลายสายมาเปิดเส้นทางการบินในสนามบินแห่งนี้ อาทิ แอร์อันดามัน ไทยแอร์เอเชีย แฮปปี้แอร์ ไทยรีเจียนัลแอร์ไลน์ กานต์แอร์ และล่าสุดเมื่อปี 2560 นิวเจนแอร์เวย์ แต่ทุกสายการบินเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่เดือนก็ต้องยุติการบินทั้งหมด เนื่องจากประสบกับปัญหาขาดทุน เพราะมีลูกค้ามาใช้บริการน้อย จนกระทั่งล่าสุดสายการบินนกแอร์เตรียมที่จะมาเปิดสายการบินในครั้งนี้

Cr. เพจหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาฟ

ชาวเชียงใหม่ร่วมใจดูแลช้างหลังไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ

ประเทศไทย – ชาวเชียงใหม่ร่วมใจดูแลช้างหลังไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ

จากการสำรวจของสหพันธ์ช้างไทย ปัจจุบันประเทศไทยมีช้างเลี้ยงอยู่ราว 3,700 – 3,800 เชือก ซึ่งส่วนมากเป็นช้างที่ถูกใช้งานในแวดวงการท่องเที่ยว เกือบทั้งหมดได้กลายสภาพเป็นช้างตกงานจากภาวะเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดปัญหาในการเลี้ยงดูช้างตามมา เนื่องจากช้างแต่ละเชือกจะต้องกินอาหารให้ได้วันละ 10% ของน้ำหนักตัว ขณะที่ช้างแต่ละเชือกมีน้ำหนักตั้งแต่ 2,000 – 5,000 กิโลกรัม เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เป็นผู้ริเริ่มไอเดียในการบริจาคที่ดินเปล่าในเขตอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ให้ชาวบ้านในพื้นที่และควาญช้างได้มาช่วยกันปลูกหญ้าเนเปียเพื่อนำไปเป็นอาหารช้าง จนทำให้ปัจจุบันมีหน่วยงานราชการและเอกชนอีกหลายรายที่ได้บริจาคที่ดินเปล่า หรือบริจาคอาหารให้กับช้างตามปางต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา นอกจากความช่วยเหลือจากองค์กรต่างๆ ภายในพื้นที่ และการบริจาคจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังไม่มีนโยบายความช่วยเหลือใดๆ จากภาครัฐ ขณะที่สมาคมสหพันธ์ข้างไทย วอนให้รัฐบาลไทยมองว่าช้างเป็นประชากรอีกส่วนหนึ่งของประเทศด้วย

ปรีทอง สิงขรพิทักษ์ – คนงานปลูกหญ้าเนเปีย บอกว่า “ดูแลหญ้า แล้วก็ปลูกหญ้าครับให้ช้างครับ ยกขึ้นรถครับ ยกขึ้นรถไปส่งปางช้างต่างๆ นะครับ ไปส่งแม่แตงบ้าง แม่วางบ้าง แม่ริมบ้าง แล้วก็พัทร เอ้ย หางดงบ้างนะครับ”

ธีรภัทร ตรังปราการ – นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย
บอกว่า “ช้างในประเทศไทยเนี่ยกว่า 3,800 เชือกเนี่ย ส่วนมากแล้วได้รับการเลี้ยงดูหรือดูแลในสารบบของการท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นตั้งแต่เราปิดประเทศมาเนี่ย จนถึงวันนี้แล้วก็ครบรอบ 2 ปีแล้ว ก็เป็นที่แน่ชัดว่าคนเลี้ยงช้างไม่มีรายได้ แทบจะทุกวันหรือวันเว้นวันเนี่ย เราต้องประสบปัญหาได้รับการรายงานถึงช้างที่ล้มป่วยและตายลงนะครับ”

กันทอง เลิศวงษ์รัตนกุล – ควาญช้าง บอกนักข่าว “ที่แม่ขนิลนี่มี 10 กว่าเชือกครับ ดูแลตอนนี้ 2 แม่ลูกครับ ทุกวันนี้ก็หาตัดหญ้าที่ปลูกไว้ให้นะครับ เพราะว่าตอนนี้จะเข้าหน้าแล้งแล้ว หญ้าไม่ค่อยเพียงพอแล้วครับ”

เพิ่มพงษ์ สาวิกันย์ – ผู้จัดการโครงการปางช้างภัทร บอกว่า “ก็ช่วยกันกับควาญช้าง ก็ดูแลสถานที่ ดูช้างช่วยกัน ไปดูสถานที่ที่ออกไปไกลจากนี่ฮะ เข้าไปในป่า ไปดูว่ามีอาหารช้างมั้ย ถ้ามีก็มาบอกกัน ก็คืออยากให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ถ้ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาเราก็จะมีรายได้สำหรับที่จะช่วยดูแลค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับควาญช้าง”

ธีรภัทร ตรังปราการ – นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย บอกว่า “สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีของโครงการนำร่องที่เริ่มต้นด้วยบริษัท แสนสิริ จำกัดนะครับ กลายเป็นว่า หน่วยงานอื่นที่เห็นแนวทางก็เข้ามาสนับสนุนโครงการของสมาคมด้วย ล่าสุดก็เป็นความร่วมมือของภาคทหารนะครับ กองพันสัตว์ต่างร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่นะครับ ร่วมกันให้เราใช้พื้นที่กว่าร้อยไร่ในการปลูกหญ้านะครับ ซึ่งก็เป็นเฟสที่ 2 รวมถึงเอกชนรายต่างๆ ที่มีการติดต่อเข้ามา สิ่งที่ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการหางบประมาณในการจ้างควาญ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุกคนคงต้องช่วยกันคิดต่อไปว่าทำยังไงถึงจะรักษาควาญช้าง 3-4,000 คนเนี่ย เพื่อให้เขาช่วยเลี้ยงดูช้างของประเทศไทยให้ได้”

ธีรภัทร ตรังปราการ – นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เพิ่มว่า “เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศเราเป็นประเทศที่มีช้างนะครับ เพราะฉะนั้นนอกจากมีประชากร 70 กว่าล้านคนที่จะต้องดูแลแล้ว ข้อนึงที่รัฐบาลจะลืมไม่ได้ มองข้ามไม่ได้เลยก็คือยังมีประชากรช้างกว่า 3,800 เชือก ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทยครับ”

ที่มา A24 News Agency