โลงศพกลับไม่ถึงบ้าน!!ตายซ่ำตายซ้อนเก๋งชนรถพยาบาลและรถจยย.ดับ

โลงศพกลับไม่ถึงบ้าน!!ตายซ่ำตายซ้อนเก๋งชนรถพยาบาลและรถจยย.ดับ

วันที่8สิงหาคม2561 ร้อยเวร พ.ต.อ.กานต์ สิงช้างชัย สภ.โชคชัย เวลา 13.02น.รับแจ้งจาก1669 ออกตรวจสอบเหตุรถเก๋งชนรถพยาบาลและรถจักรยานยนต์ บริเวณตรงข้ามโรงเรียนสายมิตรโชคชัย ต.พลับพลาจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบต่อมาว่า บริเวณก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย ได้มีรถพยาบาลกู้ชีพได้ชะลอรถเพื่อจะเข้าจุดตรวจ โดยมีรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่โดยนายนายนรินทร์ สาแก้ว ผู้เสียชีวิตขับชะลอเพื่อเข้าจุดตรวจ ในระหว่างนั้นปรากฏว่ามีรถเก๋งฮอนด้าสีดำที่ขับขี่โดย นส.ธิดาภัทร คันก่อเหตุขับรถมาด้วยความเร็วสูง และไม่สามารถชะลอรถได้ทัน จึงชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ที่เตรียมจอด ทำให้นายนรินทร์เสียชีวิต นอกจากนั้นรถเก๋งยังเสียหลัก พุ่งเข้าชนท้ายรถพยาบาลกู้ชีพของเทศบาลพระนครศรีอยุธยา ที่มีผู้ขับขี่และโดยสารมา 6 คน ที่นำศพมาส่งในเขตจังหวัดนครราชสีมาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด7ราย บาดเจ็บ4ราย เสียชีวิตมากับรถพยาบาลแล้ว1ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุเพิ่มอีก1ราย ไม่บาดเจ็บ1ราย ทราบชื่อต่อมา รายที่1ชื่อน.ส.ธิดาภัทร ศรีพรหม อายุ30ปี บ้านเลขที่60/257 หมู่10 ต.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา(บาดเจ็บคนขับรถเก๋ง) รายที่2ชื่อน.ส.กนกพร มั่นคง อายุ45ปี บ้านเลขที่118 หมู่8 ต.บางเจ้าฉ่า อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง (บาดเจ็บมารถพยาบาล) รายที่3 ชื่อนายวีรเดช สุขรินทร์ อายุ47ปี บ้านเลขที่84/117 หมู่2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (บาดเจ็บมารถพยาบาล) รายที่4 ชื่อนายสวัสดิ์ สุขรินทร์ อายุ71ปี บ้านเลขที่84/117 หมู่2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา (บาดเจ็บมารถพยาบาล) รายที่5 ชื่อนายนรินทร์ สาแก้ว อายุ37ปี บ้านเลขที่97 หมู่6 ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์(เสียชีวิตขับรถจักรยานยนต์) รายที่6เล็กน้อยไม่ประสงค์รพ.(พลขับรถพยาบาล)บาดเจ็บ และมีศพมากับรถพยาบาลซึ่งกำจะนำไปส่ง มีผู้ปฎิบัติงานพยาบาล24 พบ.05 ชช.14,25,35,63,60,88,87,71,48,132,112,อาสาปุ้ย ลุกข่ายจุดปักธงชัย พร้อมรถโรงพยาบาลโชคชัย ให้การช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งรพ.โชคซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายต่อไป

ชาวพิมายเดือด !!!ลุกฮือหวิดวางมวยผอ.กรมศิลป์ เหตุปรับโบราณสถานพิมายโดยไม่ถามเสียงประชาชน


ชาวพิมายเดือดลุกฮือหวิดวางมวยผอ.กรมศิลป์ เหตุปรับโบราณสถานพิมายโดยไม่ถามเสียงประชาชน

                โต้เดือดกลางห้องประชุมระหว่างชาวพิมาย กับ ผอ.กรมศิลปากรที่ 10 เหตุปรับปรุงลานเมรุพรหมทัตโบราณสถานกลางเมืองพิมายโดยไม่ถามเสียงประชาชน ด้าน ผอ.กรมศิลป์แจงปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเสริมคุณค่าความเป็นโบราณสถานของเมรุพรหมทัต ทางกรมศิลปากรวอนอย่าเชื่อข่าวลือ จากกระแสข่าว ที่กรมศิลป์จะรื้อเมรุพรหมทัตซึ่งเป็นสมบัติชาติตามที่มีการปล่อยข่าวลือเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะสมบัติชาติรื้อไม่ได้

                วันที่ 20 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.00 น. ที่ ชั้น 2 ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย ถ.ท่าสงกรานต์ ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เป็นประธานในการรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านกรณีปรับภูมิทัศน์ลานเมรุพรหมทัตโบราณสถานแห่งชาติพิมาย พร้อมด้วย นายโสวัฒน์ ดาวะศรี ปลัดอาวุโสอำเภอพิมาย, นางชุติมา จันทร์เทศ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติพิมาย, นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมาย อีกทั้ง ดร.พรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร (ผู้เคยออกแบบสวนศิลป์รอบพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ) ร่วมรับฟังการประชุมครั้งนี้

นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เป็นประธานกรรมการโครงการ กล่าวว่า  โครงการพัฒนาภูมิทัศน์ลานเมรุพรหมทัต ดำเนินการโดยสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา และ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย มีจุดประสงค์ เพื่อปรับปรุงพื้นที่ เพื่อเสริมคุณค่าความเป็นโบราณสถานของเมรุพรหมทัต และพื้นที่โบราณสถานต่อเนื่องและมีสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับชุมชน ทางกรมศิลปากรไม่มีความคิดที่จะรื้อเมรุพรหมทัตซึ่งเป็นสมบัติชาติตามที่มีการปล่อยข่าวลืออย่างแน่นอน อยากให้เข้าใจหลักการทำงานด้วย เราควรคุยกันด้วยเหตุและผลอย่าใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง จะอย่างไรก็ตามทางกรมศิลปากรก็จะปรับแบบลานภูมิทัศน์ตามที่ชาวพิมายได้เสนอแนะแนวทาง ซึ่งหากปรับแบบแล้วเสร็จอย่างไรก็จะนัดหมายให้ทราบเพื่อดูแบบที่ปรับเพื่อความพึงพอใจของชาวพิมายทุกท่านอีกครั้ง

ทางด้าน ดร.พรธรรม ธรรมวิมล ภูมิสถาปนิก สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร (ผู้เคยออกแบบสวนศิลป์รอบพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ) และเป็นผู้ออกแบบการปรับลานภูมิทัศน์และสวนหย่อมลานเมรุพรหมทัต กล่าวว่า วันนี้ได้มารับฟังการชี้แจงทั้งกับทางกรมศิลปากรและชาวพิมาย ก็จะนำสิ่งที่ชาวพิมายเสนอมาเพื่อนำไปแก้แบบให้แล้วเสร็จ เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วก็จะนำผลงานมาให้ชาวพิมายได้ชมกันอีกครั้งเพื่อความพึงพอใจ อย่างไรก็ตามกรมศิลปากรได้จัดทำการปรับปรุงลานพรหมทัตเป็นไปตามระเบียบราชการและข้อกฎหมายทุกประการ

ขณะที่ นายอนุวัฒน์ วิเศษจินดาวัฒน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคเพื่อแผ่นดิน เขตอำเภอพิมาย เป็นตัวแทนชาวพิมาย กล่าวกลางกรณีนี้ว่า ทางกรมศิลปากรคิดอยากจะทำอย่างไรก็ไม่ถามชาวบ้านเลยหรือ เพราะว่าอยู่ดีดีก็นำรั้วสังกะสีมาล้อมเมรุพรหมทัต ซึ่งเป็นสวนสาธารณะของประชาชนโดยไม่แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เขาก็งงเพราะมีข่าวลือว่ากรมศิลป์จะรื้อเมรุพรหมทัตซึ่งเป็นโบราณสถานออกและเป็นเป็นอย่างอื่น ทำให้ประชาชนเขาไม่พอใจมาก เพราะไม่มีการแจ้งให้ทราบว่าคุณจะทำอะไร เขาเลยเข้าใจผิด ประกอบกับ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ก็ไม่เคยลงพื้นที่ถามความคิดเห็นชาวบ้านเลยอีกด้วย แต่วันนี้ทางกลุ่มชาวบ้านก็พอใจที่ทางกรมศิลปากรสัญญาจะแก้ไขแบบและจะนำมาให้ดูอีกครั้ง

ทั้งนี้ ยังมีภาพบรรยากาศ ระหว่างการประชุมมีวิวาทกันเนื่องจากทางกลุ่มชาวบ้านไม่พอใจที่ทางนายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้ทำการปรับปรุงลานเมรุพรหมทัตโดยไม่ทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้าน เพราะสถานที่ดังกล่าวถือว่าเป็นโบราณสถานสำคัญของชาติ ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิดตามกระแสข่าวลือที่ว่า ทางกรมศิลปากรมีคำสั่งให้รื้อลานเมรุพรหมทัตแล้วไปทำเป็นสวนหย่อม อย่างไรก็ตามภายหลังการประชุมทางชาวพิมายและกรมศิลปากรรับปากจะนำแบบไปแก้ไขให้และกล่าวขออภัยที่ไม่ได้แจ้งข่าวให้ทราบ และฝากประชาชนอย่าเชื่อข่าวลือใดๆทั้งสิ้น สมบัติชาติใครก็ไม่มีสิทธิ์รื้อทั้งนั้น

 

ชาวบ้านกระชอน อ.พิมาย โคราช ร้องสื่อ!!ถนนพัง ไร้หน่วยงานดูแล

             

‘ชาวบ้านกระชอน’อำเภอพิมาย  จังหวัดนครราชสีมา  ร้องสื่อ ถนนเส้นหลักชำรุด ระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ไร้หน่วยงานดูแล

                ชาวบ้านกระชอน ตำบลดงใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ร้องสื่อ หวังช่วยเป็นกระบอกเสียงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาพัฒนาถนนเส้นหลักทางเข้าหมู่ บ้านความยาว 5.5 กิโลเมตร โดยมีช่วงหนึ่งระยะทาง 1.1 กิโลเมตร ถนนชำรุดหลายปี เป็นหลุมบ่อและเป็นดินโคลน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ สัญจรไปมายากลำบาก โดยเฉพาะหน้าฝนสัญจรไม่ได้ ต้องใช้ทางอ้อมเกือบ 10 กิโลเมตร ทำให้เสียเวลา เป็นเหตุ เด็กไปโรงเรียนสาย ครูไปสอนหนังสือไม่ทัน หรือเกิดเหตุเจ็บป่วยก็ไปโรงพยาบาลยากลำบาก ร้องเรียนไปหลายครั้งเรื่องก็เงียบ หน่วยงานเกี่ยวข้องแก้ไขให้ด้วย

                นายหนุ่ม ชาวบ้านกะชอน กล่าวว่า ถนนเส้นนี้พังมานานหลายปีแล้ว ไม่มีหน่วยงานมาซ่อมแซมเสียที ก็ต้องจำใจใช้เส้นทางนี้หากจำเป็นจริงๆ ระยะทางก็ประมาณ 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะรถยนต์หากไม่ชำนาญทางหลงมารถก็อาจติดหล่มได้ รถมอเตอร์ไซค์ก็มักจะประสบเหตุล้มบ่อยเช่นกัน เพราะสภาพถนนเป็นดินโคลน เป็นหลุมเป็นบ่อ เสียหายมาก ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งมาซ่อมแซมด้วยชาวบ้านจะได้สัญจรไปมาสะดวกสักที เพราะเส้นทางนี้เป็นเส้นทางเชื่อมต่อหลายตำบลและอีก 2 อำเภอคือ อำเภอโนนแดง และ อำเภอประทาย

ทางด้าน นางสาวณัฐวรรณ เพียรหมอ ชาวบ้านกระชอน กล่าวอีกว่า เส้นทางนี้ตนเองต้องจำเป็นใช้สัญจรทุกวันเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ต้องไปคอกวัวที่พ่อเลี้ยงเอาไว้ การสัญจรไปมาก็ลำบาก รวมถึงบรรดาคณะครูโรงเรียนราษฎร์สโมสรก็เดินทางมาสอนหนังสือลำบาก ต้องใช้เส้นทางเลี่ยงอ้อมไปไกลเกือบสิบกิโลเมตรทำให้เสียเวลา ยิ่งฝนตกแบบนี้รถยนต์ยิ่งไม่ควรมาเลยติดหล่มแน่นอน เคยถามคนที่อยู่มาก่อนเขาก็ร้องหน่วยงานไปทุกปีหลายครั้งแต่ก็เงียบ โดยเฉพาะเวลาไปโรงพยาบาลลำบากมาก หากเจ็บป่วยกะทันหันอาจเกิดเหตุการณ์ศูนย์เสียเพราะไปถึงมือแพทย์ล่าช้าอีกด้วย

ขณะที่ นายสาทิช บวชสันเทียะ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอพิมาย กล่าวว่า ถนนเส้นนี้ เป็นเขตรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้ตนเองได้ส่งเรื่องไปทางสำนักกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาแล้ว เพื่อประสานฝ่ายจัดซื่อจัดจ้างเรียบร้อยแล้ว และจะได้จัดสรรงบประมาณลงมาซ่อมแซมในเร็ววัน ซึ่งถนนที่พังมีระยะกว้าง 5 เมตร ยาว 1 กิโลเมตร งบประมาณ 3 ล้านบาท ยังไงก็ต้องขออภัยประชาชนทุกท่าน ซึ่งขณะนี้ตนเองทวงถามไปทาง ร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ‘ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนจัดซื้อจัดจ้างแล้วอีกไม่นานจะลงไปซ่อมแซมให้เร็วที่สุดขอให้ประชาชนรออีกสักหน่อยทางเราไม่ทอดทิ้งประชาชนแน่นอน นายสาทิช บวชสันเทียะ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอพิมาย

 

                                                                                                               

ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา และบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จัดโครงการ “ขุนพันธ์ 2 Blood Hero สละเลือดเพื่อชาติ 1 ล้านซีซี”

5 ส.ค.61 ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย และบริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ขอขอบคุณผู้บริจาคโลหิต ในโครงการ “ขุนพันธ์ 2 Blood Hero สละเลือดเพื่อชาติ 1 ล้านซีซี” ณ บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์โคราชซินิเพล็กซ์ เดอะมอลล์นครราชสีมา ผู้บริจาคโลหิตรับเสื้อยืดเป็นที่ระลึกโอกาสนี้นักแสดงจากภาพยนตร์ขุนพันธ์ 2 ก็ได้มาพบปะและให้กำลังใจผู้บริจาคโลหิตด้วย อาทิ อนันดา เอเวอริงแฮม, ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ, แม็กกี้ อาภา ภาวิไล โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก

 

 

!!ฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ต้อนรับ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่เมืองย่าโม เยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย

!!ฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ต้อนรับ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่เมืองย่าโม เยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย

วันที่ 4 สิงหาคม 2661 พลตำรวจเอก อดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนายสุทธิสุโกศลอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงาน  นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และข้าราชการสังกัดสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมาให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อย  ที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ  เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิต กระผมนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในนามผู้ดำเนินการฝึกอบรมอาชีพเสริมโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิตขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างสูงที่ได้ให้เกียรติมาตรวจเยี่ยมการฝึกอาชีพฉีดเสริมตามโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐในวันนี้ตามที่รัฐบาลการประเมินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกระทรวงแรงงานได้รับการจัดสรรงบประมาณรายได้เพิ่มเติมประจำปี พ. ศ. 2561 เพื่อใช้สำหรับขับเคลื่อนโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐโดยการพัฒนาทักษะอาชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศจำนวน 625,000คน และจังหวัดนครราชสีมามีผู้มีรายได้น้อยที่ร่วมสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 270 000 คนและแจ้งความประสงค์จะพัฒนาทักษะอาชีพกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 2 1 3 4 5 คนและสถาบันฯได้ดำเนินการฝึกไปแล้วจำนวน 5078 คนจำแนกเป็นการฝึกอาชีพเร่งด่วนช่างเอนกประสงค์ช่างชุมชนจำนวน 121 คนผ่านการฝึก 62 คนไม่ผ่านการฝึก 18 คนและรอผลการฝึก 62 คนการฝึกอาชีพเสริมเพื่อการมีงานทำหรือการประกอบอาชีพอิสระจำนวน 4 957 คนผ่านการฝึก 4182 คน ไม่ผ่านการฝึก 139 คนและรอผลการฝึก 636 คนและในวันนี้ได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากท่านพระครูสุกิตติคุณเจ้าอาวาสวัดโคกตลาดเพื่อใช้ในการจัดการฝึกจำนวน3 สาขาได้แก่สาขาการประกอบอาหารไทยการทำขนมไทยและการทำศิลปะประดิษฐ์สาขาละ 1 รุ่นรุ่นละ 20 คนรวมทั้งสิ้น 60 คนฝึกอบรมระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคม 256

“โครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้ผู้มีรายได้น้อย  มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต  และนำความรู้ทักษะไปประกอบอาชีพ  สร้างรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมเข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจน เพื่อเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ทำให้ประชาชนมีความสุข มีรายได้ที่เพียงพอในการเลี้ยงตน สามารถก้าวผ่านเส้นความยากจน ตามนโยบายของรัฐบาล”  พลตำรวจเอก อดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา (สพร.5 นครราชสีมา ว่า จังหวัดนคราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนฝึกอาชีพสูงที่สุด โดยมีผู้แจ้งความประสงค์ฝึกอาชีพจำนวน 21,345 คน (ข้อมูลวันที่ 13 ก.ค.61)

ประกอบด้วย ช่างอเนกประสงค์หรือช่างชุมชน จำนวน 1,780 คน และฝึกอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระ 19,565 คน ในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยนั้น ได้มอบนโยบายให้กับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่แล้วว่า ขอให้เน้นคุณภาพ สาขาที่ดำเนินการฝึกต้องสามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยสามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง จะได้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องทำงานด้วยความเสียสละ และสิ่งสำคัญคือการใช้เงินประมาณต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ภายใต้กฎระเบียบ ต้องทำงานด้วยความโปร่งใสด้วย

รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับในภาพรวมการฝึกอาชีพมีแผนดำเนินการจำนวน 390,385 คน ดำเนินการแล้ว 139,305 คน และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน และรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งก่อนหน้าที่ได้เดินทางไปติดตามการฝึกอาชีพผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธรและอุบลราชธานีแล้ว ในวันนี้จึงมาติดตามการดำเนินงานของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนฝึกอาชีพสูงสุดอีกด้วย และในวันนี้ สพร. 5 นครราชสีมา มีการฝึกอาชีพ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาการประกอบอาหารไทย สาขาการทำขนมไทย และสาขาการทำศิลปะประดิษฐ์ รวม 60 คน ณ วัดโคกตลาด ต.ตลาด  อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ผู้ว่าเปิดอบรมจริยธรรมหนุนนำชีวิต

             ‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

โคราช-แถลงข่าวการจัดทำธงครบรอบชัยชนะ191ปีของท้าวสุรนารี

โคราช-แถลงข่าวการจัดทำธงครบรอบชัยชนะ191ปีของท้าวสุรนารี

เมื่อวันที่29กรกฎาคม2561
นางเอมอร ศีรกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายสุเทพ เม้าสง่า นายกสมาคมวิทยุโทรทัศน์ภาคประชาชนนครราชสีมาและพ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับกองพัน ที่ กองพันเสนารักษ์ที่ 3ร่วมแถลงข่าว ณ ห้องประชุมสโมสรร่วมเริงไชยค่ายสุรนารีจังหวัดนครราชสีมาแถลงข่าวการจัดทำธงครบรอบชัยชนะ 191 ปีของท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวและศูนย์รวมใจของชาวจังหวัดนครราชสีมาและผู้มีจิตเลื่อมใสศรัทธาทั่วไปได้ส่วนหนึ่งจากกัมพูชาธงจะนำไปมอบให้สภาวัฒนธรรมทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาดำเนินงานวัฒนธรรมในพื้นที่และเพื่อการส่งเสริมงานสภาวัฒนธรรมจังหวัดการปรับปรุงสายธรรมลานย่า และเพื่อสาธารณะประโยชน์
วันที่ 22 มีนาคม 2561ได้นำมวลสารมงคลจากทุ่งสัมฤทธิ์อำเภอพิมายซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดวีรกรรมครั้งยิ่งใหญ่ของท้าวสุรนารีและในวันที่ 23 มีนาคม 2561 ได้นำมวลสารมงคลจากวัดศาลาลอยซึ่งเป็นที่บรรจุอิฐของท้าวสุรนารีในปัจจุบันโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมานายวิเชียรจันทรโรทัยเป็นประธานในพิธีมอบมวลสารมงคลให้ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอไปอธิษฐานจิตโดยพระเถราจารย์ และจะทำพิธีพุทธาภิเษกทั้งใหญ่อีกครั้งในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 ระหว่างเวลา07. 00น.ถึง 11.30 น.หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
สถานที่การสั่งจองศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชาสัมพันธ์จังหวัดชั้น 1 โทรศัพท์ 044-25 1818 044-25 4927 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาห้องสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาโทรศัพท์044-220898 ต่อ 3พันเอกนเรศ พิลาวัลย์ โทรศัพท์ 081-876 -99 06 นางพัชราภาศิริ ไพบูลย์ทรัพย์ โทรศัพท์095-4 57 677นายทวีวัฒน์ เดชาอภินันท์ โทรศัพท์091-012 -2990ติดต่อสอบถามละเอียดได้ที่นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาโทรศัพท์081-8797-181
โอนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขานครราชสีมา เลขที่บัญชี3 01-393 7734ชื่อบัญชีบริหารสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา

 

ผู้ว่าโคราช เปิด งานเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราช “จิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจ”

ผู้ว่าโคราช เปิด งานเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราช “จิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจ”

 

วันนี้29 กรกฎาคม 2561 ณหอประชุมสโมสรร่วมเริงไชยค่ายสุรนารีจังหวัดนครราชสีมางานเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราชจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจโดยนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นางเอมอร ศีรกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงาน พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) คุณรัตนาภรณ์ ศรีเจริญ ภริยามทน.2เป็นผู้แทน มทน.2 ร่วมงานประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติ”คนดีศรีโคราช”และร่วมรับโล่ประกาศเกียรติคุณแทน มทน.2 ในสาขาส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรม ดิฉันนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและนามคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ท่านวิเชียรจันทรโรทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราช จิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจประจำ

ปีงบประมาณ2561 ในวันนี้และขอกราบเรียนถึงความเป็นมาของการจัดงานโดยสังเขปดังนี้ด้วยสภาวัฒนธรรมระดับจังหวัดอำเภอและตำบลเป็นพลังขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมท้องถิ่นมีเครือข่ายการดำเนินงานที่หลากหลายซึ่งจะเป็นเครือข่ายสำคัญในการดำเนินงานวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดีสร้างความสามัคคีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์สืบสานและต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและแนวทางในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนจึงได้จัดโครงการเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราชจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจประจำปีงบประมาณ 2561 ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้สภาวัฒนธรรมทุกระดับสามารถดำเนินงานวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สภาวัฒนธรรมทุกระดับมีโอกาสเสมอแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางและวิธีดำเนินงานด้านวัฒนธรรมร่วมกัน

สำหรับการจัดโครงการครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการดังนี้สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 51 ท่าน สภาวัฒนธรรมอำเภอจำนวน 165 ท่านสภาวัฒนธรรมตำบลจำนวน 286 ท่านบุคคลต้นแบบ 9 ประการตามรอยคุณธรรมจำนวน 19 ท่านคนดีศรีโคราชจำนวน 24 ท่านการจัดงานในครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์หอประชุมจะท่านผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2 นครราชสีมามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาสัดส่วนการจัดนิทรรศการเทิดไท้สถาบันศูนย์การค้าการค้าเทอร์มินอล 21โคราชสนับสนุนน้ำดื่ม1200 ขวดและขอขอบคุณกลุ่มคนที่มิได้เอ่ยนามมาณที่นี้
ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราชจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจประจำปีงบประมาณ 2561 ในวันนี้และการกล่าวรายงานทำให้ทราบถึงวัตถุประสงค์การเทิดไท้สถาบันสภาวัฒนธรรมโคราชจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจประจำปีงบประมาณ 2561 ประจำปีงบประมาณ 2561 ซึ่งเป็นแสดงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อให้สภาวัฒนธรรมทุกระดับสามารถดำเนินงานวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อให้สภาวัฒนธรรมทุกระดับมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางและวิธีดำเนินงานด้านวัฒนธรรมรวมกันกับผมขอชื่นชมคนดีศรีโคราชและขอขอบคุณคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่พร้อมใจกันจัดงานเทิดไท้สสภาวัฒนธรรมโคราชจิตอาสาเราทำดีด้วยหัวใจประจำปีงบประมาณ 2561 ทำให้เป็นรูปผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ( ผู้ว่าราชการกล่าว) ผู้เข้ารับโล่ประกาศเกียรติคุณคนดีศรีโคราชประจำปีพุทธศักราช 2561 จำนวน 11 สาขา 24 รายมีดังนี้1 สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาจำนวน 3 ราย2 สาขารักษาและสืบทอดศิลปะการแสดงจำนวน 2 ราย 3 สาขาผู้ประกอบอาชีพที่มีความมุ่งมั่นและมีจิตอาสาเพื่อสังคมจำนวน 4 ราย4 สาขาปราชญ์ชาวบ้านด้านเกษตรกรรมจำนวน 1 ราย 5 สาขาภุมิปัญญาด้านศิลปะและหัตถกรรมจำนวน 2 ราย6 สาขาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ส่งเสริมงานวัฒนธรรมจำนวน 1 แห่ง7 สาขาการปกครองท้องถิ่นที่มีคุณธรรมจำนวน 2 รายสาขาส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีและวัฒนธรรมจำนวน 2 ราย9 สาขาส่งเสริมรักษาและวรรณศิลปของท้องถิ่นจำนวน 2 ราย 10 สาขาการปฏิบัติกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและจักรวาลจำนวน 3 ราย11 สาขาส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจำนวน 2 ราย


ภาพ-ข่าว สันติ วงษาเกษ นครราชสีมา

ฮุก 31 โคราชและชมรมดำน้ำโคราชออกเดินทางเร่งช่วยเหลือ สปป.ลาว

ฮุก31นครราชสีมาและชมรมดำน้ำโคราช ออกเดินทาง เร่งรัดลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเหตุน้ำท่วม ที่ สปป.ลาว พร้อมลงพื้นที่เช้านี้

จากกรณี สปป.ลาวประสบภัยน้ำท่วมฉับพลัน หลังเขื่อนในแขวงอัตตะปือแตก มีรายงานคนสูญหายนับร้อยคน และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ได้เร่งอพยพประชาชนผู้ประสบภัย นายเกียรติคุณ ชาติประเสริฐ เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ เผยว่า ขณะนี้ทางการลาวสามารถควบคุมสุานการณ์น้ำได้แล้ว เบื้องต้น น้ำไม่ทะลักเพิ่ม แต่ยังมีจุดที่น้ำยังคงท่วมสูง

        ทั้งนี้    เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 เวลา 20.00น. มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา หน่วยเฉพาะกิจ ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ (ส่วนหน้าชุดที่1) และชมรมดำน้ำโคราช พร้อมเรือยนต์กู้ภัย เจ็ทสกี ชุดปะดาน้ำ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น พร้อมบุคลากรด้านกู้ชีพ-กู้ภัย จัดกำลังพล มุ่งหน้าลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วม ในเขตประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เพื่อร่วมอพยพประชาชนและค้นหาผู้สูญหายภายในน้ำจากเหตุดังกล่าว ที่หมายประมาณเวลา 06.00น.ถึงพร้อมเข้าพื้นที่

ขอองค์พระบารมีของ องค์พระ องค์ฮุกโจ้ว คุณย่าโม ดวงทิพย์วิญญาณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชรัชกาลที่ ๙ พระบารมีของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินินาถ ในรัชการที่ ๙ พระบารมีขององค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ์ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงดลบันดาลให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกท่านจงปฏิบัติงานด้วยความราบรื่น ประสบแต่ความโชคดีและปฏิบัติงานโดยปลอดภัย.. สาธุ

ขอบคุณภาพ : ข้อมูล

ข้อมูลภาพ ; หน่วยเฉพาะกิจ ฮุก31 ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ
ข้อมูล : ผอ.หลุยส์ ฮุก31

ผู้ว่าโคราช สมัครเป็นอาสา…ในวันครบรอบ 30 ปี ฮุก31

 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 61 ที่ ณ วิหารเซ็งหงั่มตั่งมูลนิธิพุทธธรรม31 นครราชสีมา นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานงานครบรอบ 30 ปี มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) โดยมี นาย ประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นาย อุทัย มิ่งขวัญ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และ รองนายก อบจ.นครราชสีมา นาย วัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมูลนิธิพุทธธรรมธรรม31นครราชสีมา คณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และมูลนิธิ สมาคมและประชาชนทั่วไป สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมสนับสนุนกิจกรรม สำหรับวัตถุประสงค์ ในการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อหารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ภัย และเป็นกองทุนสวัสดิการอาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่ออาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 ที่มีจิตอาสาตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสังคมตลอดมา ได้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถมีมาตรฐาน ทั้งในภาวะปกติและภาวะเกิดภัยพิบัติภัย ในโอกาสครบรอบ30ปีมูลนิธิพุทธธรรม31นครราชสีมา (ฮุก31) 


ด้าน นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวว่า ตนเองนอกจากจะมาร่วมงานกิจกรรมในวันนี้ โดยเฉพาะในช่วงเช้าซึ่งได้มีกิจกรรม งานปั่นจักรยานการกุศลในโครงการ “ปั่นสู้ กู้ภัย ใจเกินร้อย” แล้ว ยังมีความต้องการที่จะสมัครเป็นอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ของ มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) อีกด้วย เนื่องจากตนมองว่ามูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เป้นอย่างดี โดยเฉพาะกับพี่น้องประชาชนผู้ที่ต้องประสบเหตุการณ์และภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างทันถ่วงทีในหลายเหตุการณ์ ซึ่งนอกจากการทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตนเองยินดีมากที่ได้สมัครเป็นอาสาสมัคร ฯ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนั้น ตนเองมีความภูมิใจมากที่ได้เข้าร่วม ฯ เป็นอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ในครั้งนี้
ในการจัดกิจกรรม ปั้นสู้ เพื่อกู้ภัยใจเกินร้อยครั้งนี้ ได้ยอดรวมของเงินค่าสมัครและอื่น ๆ เบื้องต้น 1,151,000 บาท
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก31)