สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

วันที่  5  มีนาคม 2562  สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา  นายไพฑูรย์ มนุญพงศ์พันธุ์  นายอิศราวุธ  พิพัฒพลกาย  และคณะกรรมการทุกท่าน ได้ร่วมกันวางพวงมาลาสักการะท้าวสุรนารี  ที่บริเวณ ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารีเนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2562 และถวายภัตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับนักข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว

ทั้งนี้วันนักข่าว ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม   ของทุกปีถือกำเนิดมาจากวันที่นักข่าวรุ่นบุกเบิกหลายท่านได้ร่วมชุมนุมกันก่อตั้งสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ขึ้นมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498    ก่อนหน้านั้นหนังสือพิมพ์ทั้งหลายต่างให้ความสำคัญกับ “วันนักข่าว” กันเป็นอย่างดี
ปัจจุบันข่าวสารข้อมูลกำลังกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่ความจำเป็นดังกล่าวไม่ใช่เพียงเนื้อหาของข่าวเท่านั้น คนหนังสือพิมพ์ หรือนักข่าวก็มีความสำคัญ ในฐานะคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่านข่าวสารที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนไปยังผู้อ่านด้วยเช่นกัน จึงเปรียบเทียบได้กับกระจกที่สะท้อนสังคมในทุก ๆ ด้าน ไม่เฉพาะเจาะจงเพียงด้านเดียวในแวดวงหนังสือพิมพ์ มีผู้เรียกนักหนังสือพิมพ์หรือนักข่าวว่า “ฐานันดรที่ 4” ความหมายโดยนัยแล้วคือ ผู้ที่มีสถานะแตกต่างจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือผู้ที่มีอภิสิทธิ์ในการขีดเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านสื่อมวลชน

โดยในปี 2562 นี้ ทางสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ไม่ได้มีการจัดงานวันนักข่าวแต่อย่างใด  เนื่องจากเห็นว่า มีหน่วยงานทางสื่อมวลชน ได้มีการจัดงานกันอย่างหลากหลายรูปแบบอีกทั้งหากต้องมีการข้อรับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ทางสมาคมได้เล็งเห็นว่า  ควรมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบอื่น เพื่อเป็นการยังประโยชน์ให้แก่สังคมได้มากที่สุด  จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานขึ้น  ภายใต้โครงการ TOUR OF KORAT 2019 ที่ได้ร่วมกันกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  จังหวัดนครราชสีมา และสโมสรกีฬาจักรยาน  จังหวัดนครราชสีมา  ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่  31  มีนาคม  2562 นี้

โคราช!! จัดแถลงข่าวงานประกวด ธิดาช้างเมืองย่า 2019 มีผู้เข้าร่วมสมัครกว่า 40 หมายเลข

โคราช!! จัดแถลงข่าวงานประกวด ธิดาช้างเมืองย่า 2019 มีผู้เข้าร่วมสมัครกว่า 40 หมายเลข

วันที่ 20ก.พ.2562  ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช เดอะมอลล์ โคราช ร่วมกับ กองประกวดธิดาช้างเมืองย่า  แถลงข่าวงานประกวด ธิดาช้างเมืองย่า 2019  ได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์ ดุจจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา, นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา,

คุณภาสกร อรสูญ ผู้จัดการคชอาณาจักรจังหวัดสุรินทร์, คุณจิตราวดี ชุติมันตรานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์ และ คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมาจำกัด ร่วมงาน

ภายในงานแถลงข่าวได้มีการเปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 40 หมายเลข ที่ได้เดินทางมาจากทั่วประเทศ พร้อมไฮไลท์กับกิจกรรมชักเย่อ ระหว่าง ทีมธิดาช้าง2019 ปะทะ พังอรทัย ช้างสุรินทร์ ณ ลานมอลล์พาร์คชั้น 1 เดอะมอลล์โคราชถือ เป็นการเรียกน้ำย่อยและสร้างสีสันให้การกับประกวดในครั้งนี้

สำหรับแนวคิดการประกวดธิดาช้างเมืองย่า 2019 ครั้งนี้จัดขึ้นขึ้นเพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้มีสีสัน และถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสาวแท้ และสาวเทียม ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินปกติได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ และความสามารถของตัวเอง พร้อมทั้งทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้กับสังคมต่อไป

ทั้งนี้ กิจกรรมการประกวดธิดาช้างเมืองย่า 2019 จะจัดขึ้นในวันที่ 16 มีนาคม 2562 ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ชิงมงกุฎ สายสะพาย และชิงเงินรางวัลรวมกว่าแสนบาท พร้อม Gift Voucher กว่า 300,000 บาท ซึ่งล่าสุดจนถึงขณะนี้มีสาวแท้ และสาวเทียม สนใจสมัครเข้าประกวดกิจกรรมในครั้งนี้แล้ว จำนวน 40 คน

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร 5 นครราชสีมาเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด


ที่ผ่านมา นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด ระหว่างวันที่ 4 – 7 กุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวนผู้เข้ารับงานฝึก 36 คน ณ โรงฝึกงานช่างก่อสร้างและอุตสาหกรรมฅิลป์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากร วัสดุ อุปกรณ์ ในการฝึกจากศูนย์ฝึกอบรมบลูสโคป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ให้เกิดความชำนาญในการติดตั้ง และสามารถคิดคำนวณ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ประกอบการได้ในอนาคต
ในปี 2562 สพร.5 นครราชสีมา มีเป้าหมายการฝึกทักษะด้านช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีทให้กับแรงงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเพิ่มอีก จำนวน 20 คน และในสาขาช่างมุงหลังคากระเบื้องคอนกรีต จำนวน 12 ชั่วโมง หรือ 2 วัน จำนวน 20 คน มีกำหนดการเปิดฝึกระหว่างวันที่ 29-30 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 044- 416947 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ นายชินโชติ บรรจงปรุ นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการ เบอร์โทรศัพท์ 081-977-8564

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมผู้เสียหายเหตุลักทรัพย์ นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ้ใหม่บูติค ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 12/5-6 ถนนจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แจ้งว่าพบเสื้อกางเกงยีนต์ ที่เป็นของทางร้านที่ได้ถูกขโมยไปโดย คนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เข้ามาลักเอาทรัพย์สินดังกล่าวไปและได้แจ้งความ ร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561


ต่อมานางรุ่งทิพย์ ฯทราบว่าได้มีคนนำเสื้อกางเกง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของร้านตนเองที่ได้ถูกลักขโมยเอาไป มาวางขายที่ตลาดนัดจิระ บริเวณหน้าสถานีรถไฟจิระ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เสียหายจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบแผงวางขายเสื้อกางเกงยีนต์ พบนายนิพนธ์ นามสว่าง ให้การว่าเป็นลูกจ้าง รับจ้างขนของมาขายจาก นางยุพาพร พงษ์พฤฒิพันธ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นสินค้าที่สูญหายจากร้านตนเองจริง จากนั้นได้ให้นายนิพนธ์ ฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหาย ไปหานางยุพาพร ฯที่บ้านพัก พบนางยุพาพร ฯ จึงได้สอบถามที่มาของเสื้อกางเกงที่เอาไปวางขายดังกล่าว แต่ขณะสอบถามพบว่านางยุพาพร ฯ ให้การมีพิรุธ เกี่ยวกับที่มาของเสื้อกางเกงดังกล่าว ให้การวกไปวนมา จนกระทั่งต่อมาให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561 ได้ร่วมกับนางปุ้ย ฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเคยเป็นลูกจ้างที่ร้านเจ๊ใหม่บูติค ด้วยกันมาก่อน เข้าไปลักขโมยเอาเสื้อกางเกง โดยเข้าไปลักเอาในเวลากลางคืน จำนวน 2 วัน 2 ครั้ง และนำทรัพย์สินที่ได้มาแบ่งกันเอาไปขาย
ด้าน นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร เจ้าของร้าน เล่าน้ำตาคอว่า หลังจากทราบว่าลูกจ้างตนเป็นคนลักทรัพย์ไปนั้นเสียใจอย่างมากเนื่องจากไว้ใจ เพราะสินค้าในร้านมีจำนวนมาก กล้องวงจรปิด 16 ตัวในร้านไม่พบการก่อเหตุสักครั้ง อีกทั้งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแค่เพียง 2 ครั้งเพราะว่าสินค้าศูนย์หายไปจำนวนมาก มูลค่ากว่าครึ่งล้าน และพบว่ามีการทถอยลักทรัพย์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2561 เป็นต้นมาและมาลาออกในเดือนสิงหาคม หลังจากออกไปแล้วก็ยังวนเวียนเข้ามาก่อเหตุซ้ำต่อในเดือนธันวาคมอีก ซึ่งเชื่อได้ว่าคนร้านจะเข้ามาทางด้านหลังร้านซึ่งมีกำแพงติดกับวัดโพธิ์ และใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนของหลบหนี จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด

 

>ชมภาพ<<

มหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียนโคราช สร้างสีสันการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่

งานมหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียนโคราช สร้างสีสันการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่ คาดกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินสะพัดหลายสิบล้าน

                    นายณรงค์ ปลิวกระโทก หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลตำบลด่านเกวียน เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8ว่า ภายใต้การนำของ นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน ได้กำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา(มหกรรมเครื่องปั้นดินเผา) ประจำปี 2562 ที่ บริเวณหมู่บ้านชุมชนหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอย่างแพร่หลาย จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 14 กุมภาพันธ์ 2562

                โดยภายในงานมหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียน จะมีการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่ การแข่งขันปั้นเร็ว (ครกน้อยคอยเธอ) การแข่งขันเหยียบดินกินปลา (จับปลาไหลใส่กระบอก)พร้อมทั้งชมวิถีชีวิตชุมชนและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านกับเครื่องปั้นดินเผา ชมความสวยงามของขบวนแห่ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงาม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน ร่วมไปถึงการแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ,มนต์แคน แก่นคูณ ,เพชรดาราพันธ์ ,ลิเกวรต้อ และการออบูรแสดงสินค้าเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม “ด่านเกวียน” เป็นหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำมูล ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นเส้นทางการค้าระหว่างโคราชกับเขมร ชาวด่านเกวียนมีอาชีพทำนาทำไร่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล และเริ่มเรียนรู้การทำเครื่องปั้นดินเผาจากชาวข่า (ชาวเขาเผ่าหนึ่งตระกูลมอญ-เขมร เป็นชนพื้นเมืองเดิมที่มีถิ่นฐานอาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำโขง) ในยุคแรกของการทำเครื่องปั้นจะทำไว้ใช้ในครัวเรือน เช่น โอ่ง ไห ครก ฯลฯ ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์มาเป็นเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้านและจัดสวน ตลอดจนเป็นสินค้าส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติของดินด่านเกวียนเมื่อเผาออกมาแล้วมีลักษณะเป็นสีสัมฤทธิ์ ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน นอกจากนั้น หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ได้รับเลือกจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP เมื่อต้นปี 2548 หนึ่งใน 4 แห่งของประเทศ

>ชมภาพ<<

โคราชจัดงาน Field Day เตรียมพร้อมเกษตรกรเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก หวังพัฒนาศักยภาพสินค้าทางการเกษตรให้ได้คุณภาพมากขึ้น

โคราชจัดงาน Field Day เตรียมพร้อมเกษตรกรเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก หวังพัฒนาศักยภาพสินค้าทางการเกษตรให้ได้คุณภาพมากขึ้น

ที่ทำการชาวไร่ บ้านหนองรัง หมู่ที่ 2 ต.แชะ  อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี   เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการเกษตรกรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ปี 2562 ซึ่งทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดขึ้น เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาลในการเตรียมพร้อมเกษตรกรเข้าสู่ฤดูกาลผลิตสินค้าเกษตร ปี 2562/2563 กระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตโดยใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาที่เหมาะสมต่อพื้นที่ในการวางแผนการผลิต การเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ การลดความเสี่ยงของผลผลิต การเชื่อมโยงเครือข่าย และการบริหารจัดการการผลิตให้มีประสิทธิภาพ

โดยภายในงานวันนี้  มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าผลผลิต และการตลาด มีการจัดสถานีถ่ายทอดความรู้เรื่องวิธีการเตรียมดินและการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อการเพะปลูกที่ถูกต้อง  การคัดสรรพันธุ์พืชที่มีคุณภาพ  การทำการเกษตรพอเพียง การเกษตรแบบผสมผสาน การใช้เครื่องจักรกลสมัยใหม่เพื่อพัฒนาผลผลิต การบริหารจัดการน้ำ และ การกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วยวิธีการทางธรรมชาติ  เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอองค์ความรู้ และบริการการเกษตรอื่นๆ จากหน่ายงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การสาธิตนวัตกรรมและเครื่องจักรเพื่อการเกษตรสมัยใหม่  การประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ในการจัดการและแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรจากหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง  การจำหน่ายผลผลิต และผลิตภัณฑ์เกษตร จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มอาชีพต่างๆ ด้วย

>ชมภาพบรรยากาศ<<

 

พัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดอบรมโครงการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ฯ ต่อต้านทุจริต

     พัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จัดอบรมโครงการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ฯ ต่อต้านทุจริต

นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เป็นประธานเปิดฝึกอบรมโครงการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรเพื่อสร้างทัศนคติและจิตสำนึกด้านการป้องกันและต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ

โดยได้รับเกียรติจาก นายมงคล สาริสุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปช.ประจำจังหวัดนครราชสีมา เป็นวิทยากรบรรยายหัวข้อ กฎหมายป้องกันและปราบปรามทุจริต ผลประโยชน์ทับซ้อน การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม โดยมีวัตถุประสงค์สร้างจิตสำนึกให้บริการประชาชนอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตมีคุณธรรมและจริยธรรม กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องไม่แสวงหาผลประโยชน์ในการปฏิบัติงาน ให้แก่เจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา จำนวน 40 คน

แปลกแต่จริง คนตายนานเป็นปี เจอค่าน้ำเดือนเดียว เกือบหมื่น วอนประปาเข้าตรวจสอบ

           แปลกแต่จริง คนตายนานเป็นปี เจอค่าน้ำเดือนเดียว เกือบหมื่น วอนประปาเข้าตรวจสอบ

   ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา   ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ทางสำนักการประปาส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้ส่งจดหมายแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินนายประสิทธิ์ แพนเกาะ อายุ 56 ปี เจ้าของบ้าน ที่เสียชีวิตแล้วเมื่อวันที่ 1ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนเกือบหมื่นบาท สร้างความตกใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว พบนางทิพย์สุคนธ์ หรือน้อย แพนเกาะ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตาย อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านฉัตรมงคล ตำบลหมื่นไวย ได้พาเดินดูรอบๆบ้านหลังที่มีปัญหาซึ่งถูกปิดล็อกด้วยกุญแจ ส่วนบริเวณรอบบ้านนั้นมีเพียงแต่ต้นไม้ปกคลุมทั่วบริเวณดังกล่าว

            นางทิพย์สุคนธ์ หรือน้อย พี่สาวผู้ตาย เล่าว่า บ้านหลังที่มีปัญหา เป็นบ้านเลขที่ 241 หมู่ 3 ถนนมิตรภาพ ตำบลหมื่นไวย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านน้องชายได้อาศัยอยู่ คนเดียวไม่มีครอบครัว และได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1ธันวาคม 60 หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ไปอยู่แทน แต่จะมีตนเองเข้ามาเปิดน้ำทำความสะอาดบ้านและรถน้ำต้นไม้ หลังจากนั้นก็ปิดมิเตอร์น้ำ พอในแต่ละเดือนจะมียอดแจ้งหนี้เดือนละประมาณ 60 บาท เกือบทุกเดือน พอมาถึงเดือนพฤศจิกายน 61 ได้มีบิลชำระค่าน้ำมาปกติเหมือนทุกครั้ง แต่งวดนี้ไม่มีใบแจ้งยอดตนคิดว่าคงไม่ต้องจ่ายเพราะยอดใช้น้ำไม่ถึง หลังจากนั้นไม่นานก็มี จดหมายแจ้งหนี้เรียกเก็บเงินจำนวนการใช้น้ำ 336 หน่วย รวมเป็นเงิน 7,607.70 บาท พอเห็นแล้วถึงกับตกใจทำไรไม่ถูก ต่อมาในเดือนธันวาคม 61 ก็มีบิลแจ้งหนี้ จำนวน 878.68 บาท และในเดือนมกราคม 62 มีบิลแจ้งหนี้ จำนวน 192 บาท ตนจึงคิดว่าน่าจะเกิดความผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นแน่นอน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งว่าน่าจะมีน้ำรั่ว แต่ตนมองว่าถ้ามีน้ำรั่ว ยอดการใช้น้ำทำไม่มันถึงห่างกันขนาดนี้ ซึ่งด้วยความตกใจตนจึงได้ชำระค่าน้ำจำนวน 7,607.70 บาท ไปก่อน ซึ่งกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะมา ยกมิเตอร์ไปเวลาให้มาติดตั้งมันจะยุ่งยากกว่าเดิม จึงอยากได้เงินจำนวนดังกล่าวคืนมาใช้จ่ายภายในครอบครัว

            อย่างไรก็ตาม ฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้ามาตรวจสอบความผิดปกติตรงนี้ ว่าเจ้าหน้าที่จดเลขมิเตอร์ผิด หรือมีการผิดพลาดตรงจุดไหน เพราะว่าเงินจำนวนดังกล่าวค่อนข้างสูง อีกทั้งบ้านหลังดังกล่าวก็ไม่มีคนอาศัยอยู่นานแล้ว

>ชมคลิปและเสียงสัมภาษณ์<<

ชาวบ้านโคราช แห่ขอหวย กล้วยแปลก ออกปลีคู่ยาวเหมือนขาคน

เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาให้โชคคนในหมู่บ้าน

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในที่ดินของนางประคอง พิทักษ์อรพิมพ์ หรือยายน้อย เจ้าของพื้นที่ ซึ่งเป็นทุ่งนาติดกับคลองน้อยทางทิศตะวันตก อยู่บริเวณบ้านนาราก หมู่ที่ 3 ตำบลอรพิมพ์ อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมาพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งนำธูป เทียน น้ำแดง มากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อ พร้อมทั้งนำแป้งมาทา เพื่อขอหวยกันไปตามประสา ซึ่งต้นกล้วยที่ให้ผลแปลกนั้น มีลักษณะประหลาดอยู่ 1 ต้น สูงประมาณ 4 เมตร มีปลี งอกออกจากยอดลำต้น 2 ปลี พร้อมกันในต้นเดียว โดยปลีคู่ดังกล่าว งอกออกจากเครือกล้วยอันเดียวก่อนแยกออกจากกันทางส่วนปลาย ซึ่งมีความยาวประมาณ 40-50 เซนติเมตร เหมือนกับขาคน ส่วนตรงกลางก้านได้ให้ผลเป็นหวี เหมือนปกติ

            นางหมวย ลาภกระโทก อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่พบเห็นเล่าว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นต้นกล้วยออกผลและแยกเป็น 2 ปลีเลย ซึ่งจากที่มองเห็นนั้น เหมือนกับลำตัวคนที่มีขายาว ห่อยลงมา ซึ่งเชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาให้โชคคนในหมู่บ้าน จึงได้เดินทางธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอพร ให้ถูกหวย โดยตนเองนั้นได้ตีเลขว่า ต้นกล้วยให้ตีเป็นเลข 9 ส่วนปลีของกล้วยนั้น ให้ตีเป็นเลข 8 นอกจากนี้ยังมี 2 ปลี จึงคิดว่างวดนี้จะซื้อเลข 982 ตามที่ตัวเองท้ายไว้

            ด้านนางประคอง พิทักษ์อรพิมพ์ เจ้าของต้นกล้วยประหลาด เล่าว่า ตนปลูกต้นกล้วยไว้หลายสายพันธุ์จำนวนหลายร้อยต้น ใกล้กับทุ่งนาซึ่งติดกับคลองน้อย ภายในหมู่บ้าน ในระหว่างที่มาหว่านข้าวนั้น ได้เดินดูเพื่อที่จะเก็บกล้วยไปกินนั้น พบว่ามี 1 ต้นมีการออกปลีที่ผิดปกติ แต่ไม่แน่ใจว่าแปลก จึงชวนเพื่อนบ้านมาดูด้วยกันและทุกคนต่างลงเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเห็นกล้วยออกปลีแบบนี้ หลังจากนี้คงจะปล่อยไว้แบบนี้และจะไม่คิดจะตัดผลมากิน เนื่องจากมีความเชื่อว่าเทวดามาให้โชคลาภคนในหมู่บ้าน จึงได้กราบขอพรเพื่อขอเลขเด็ดในงวดนี้ ต่อไป

>ชมภาพ<<

 

จิตอาสาฯนำผ้าห่มกันหนาวมอบอาสาสมัครป้องกันไฟป่า หลังอากาศเย็นลงต่อเนื่อง

         

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีควบคุมไฟป่าบ้านหนองโบสถ์ หมู่ที่ 16 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายนพชัย กลิ่นสูงเนิน หัวหน้าหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่านครราชสีมา รับมอบผ้าห่มกันหนาวจำนวน 100 ผืน จากประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี ที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ รวมถึงกองร้อยรักษาความสงบเรียบร้อยเคลื่อนที่เร็วกองทัพภาคที่ 2 ก่อนที่จะนำไปแจกจ่ายให้กับกำลังอาสาสมัครเครือข่ายควบคุมไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรี เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น และพื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่าในพื้นที่อำเภอครบุรีส่วนใหญ่ จะอยู่บนภูเขาสูงชัน ห่างไกลจากชุมชนเมือง ผ้าห่มกันหนาวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทางเครือข่ายรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจำเป็นต้องใช้และยังขาดแคลนอยู่

          สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นจังหวัดนครราชสีมา เริ่มเกิดปัญหาขึ้นแล้วในบางพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดขึ้นเป็นประจำ อาทิในพื้นที่ป่าหนองเต็ง ป่าจักราช อ.เฉลิมพระเกียรติ และพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าก็ได้มีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่าเพิ่มเติมขึ้น โดยใช้งบประมาณจากทางกรมป่าไม้มาดำเนินการเพื่อให้เป็นส่วนร่วมในการจัดการปัญหา  สำหรับในปีนี้มีการเพิ่มเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่อำเภอครบุรีเพิ่มเติมจาก 2 เครือข่าย เป็น 6 เครือข่ายแล้ว

           โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่ เกิดจากการจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ และหาของป่า ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของไทยถูกทำลายอย่างมาก รวมถึงเป็นสาเหตุสำคัญในเกิดปัญหาหมอกควันสร้างมลพิษ

>ชมคลิป<<