สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา  จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่องปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

     สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา  จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่องปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและจัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 

ที่ห้องห้องทวีทรัพย์ ชั้น 2 โรงแรมโคราชโฮเต็ล ต.ในเมือง  อ.เมือง  จ.นครราชสีมา  ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์  ดุจจานุทัศน์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่อง การทบทวนและตัดทำแผนพัฒนากำลังคน ระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  ประจำปีงบประมาณ 2562  จัดโดย สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนามีความรู้ ความเข้าใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกี่ยวกับการจัดการทำแผนการพัฒนากำลังคน จังหวัดนครราชสีมา  ซึ่งต้องใช้ระบบเชื่อมโยงข้อมูล ข้อมูลที่มีความทันสมัยเป็นปัจจุบัน  ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อพัฒนากำลังคนของจังหวัด       และ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนากำลังคนระดับพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และให้ผู้เข้าร่วมการสัมมนาร่วมทบทวนแผนพัฒนากำลังคน ร่วมจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนากำลังคนของจังหวัดนครราชสีมา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562

ผู้เข้าร่วมสัมมนาประกอบด้วย  คณะอนุกรรมการพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพจังหวัด (กพร.ปจ.)  คณะทำงานบูรณาการและส่งเสริมเครือข่ายเพื่อจัดทำแผนพัฒนากำลังแรงงานในจังหวัดนครราชสีมา  คณะทำงานจัดทำแผนพัฒนากำลังคนประจำจังหวัดนครราชสีมา รายภาคอุตสาหกรรมทั้ง 3 คณะภายใต้ กพร.ปจ. ผู้แทนสถานประกอบกิจการเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงานแยกรายกลุ่มอุตสาหกรรม 3 กลุ่ม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นเจ้าหน้าที่ บุคลากร       ที่รับผิดชอบจัดทำแผนงานด้านการพัฒนากำลังคน รวมทั้งสิ้น  40  คน

การสัมมนาในครั้งนี้มีระยะเวลา 1 วัน ช่วงเช้าเป็นการบรรยายโดย  ดร.ธีรยุทธ เกียรติพิริยะวงศ์ ที่ปรึกษาด้านการจัดแผนพัฒนากำลังคนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  และในช่วงบ่ายเป็นการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำแผน ปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงานของหน่วยปฏิบัติในพื้นที่จากผู้เข้าร่วมสัมมนา

 

 

มหากาพย์…โจรขโมยข้าวเปลือก 102 กระสอบ ด้านผู้การโคราชเร่งจับตัวคนร้าย คาด!!คนในพื้นที่

ชาวนาโคราช น้ำตาตกใน โดนโจรชั่วขโมยข้าวเปลือก 102 กระสอบมูลค่าแสนกว่า ลอยนวล

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ได้ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 กระสอบ มูลค่ากว่า 1 แสนกว่าบาท สร้างความเดือนร้อนเป็นอย่าง โดยมีประชาชนเดินทางเข้ามาดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบเพียงเศษข้าวเปลือกตกอยู่กระจัดกระจาย อยู่ภายในยุ้งฉาง โดยมีการปิดเหมือนเดิมจนทำให้เจ้าของไม่ได้สั่งเกตุและรู้ว่าหายในเวลาต่อมา

นางมัลลิกา ทำเสร็จ เจ้าของข้าว เล่าทั้งน้ำตาว่า ปีนี้ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตข้าวลดลงได้เพียง 102 กระสอบ และเก็บไว้ในยุ้งข้าวเพื่อรอราคา และนำไปขาย เพื่อใช้หนี้ ธกส.ส่วนหนึ่งเก็บไว้บริโภคและทำพันธุ์ในฤดูกาลต่อไป แต่กลับมาถูกคนร้ายลักขโมยซ้ำเติมอีก ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งช่วงกลางดึก เนื่องจากว่ามีพี่สาวเฝ้าบ้านเพียงคนเดียว ส่วนตนและครอบครัวได้ไปทำงานอยู่ในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตนได้เปิดดูข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 61 ก็ยังพบเห็นเต็มยุ้งฉางอยู่ หลังจากนั้นมาเปิดอีกครั้งในวันที่ 2 มกราคม 62 ปรากฏว่า ข้าวทั้งหมดได้หายไป จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับตำรวจ สภ.ห้วยแถลง แต่เรื่องคดีก็เงียบหายไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในบ้านตนเอง

อย่างไรก็ตาม ฝากถึงคนร้ายให้เห็นใจสงสารนำข้าวเปลือกกลับมาคืนก็จะไม่ติดใจเอาเรื่องหรือหาเงินมาใช้หนี แต่หากไม่นำมาคืนก็อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ไม่ใช่ปล่อยเงียบแบบนี้

คืบหน้าตำรวจโคราช จับโจรขโมยข้าว 102 กระสอบไม่ได้นานนับเดือน ผู้ใหญ่บ้านเกรงเหตุซ้ำประกาศเสียงตามสายจัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุซ้ำในพื้นที่

จากกรณีนางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี เจ้าของข้าว ได้ร้องผ่านสื่อว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 กระสอบ มูลค่ากว่า 1 แสนกว่าบาท สร้างความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องนำไปใช้หนี้ ธกส นอกจากนี้ยังส่งผลให้ชาวบ้านอยู่แบบหวาดระแวงกลัวคนเข้าจะเข้ามาในพื้นที่อีกครั้งเพราะยังจับคนร้ายไม่ได้

ด้านนายบุญเลิศ อรบุตร อายุ 54 ปี ผู้ใหญ่บ้านหนองม่วงใหญ่ เล่าว่า หลังจากเกิดเหตุมีโจรเข้ามาพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา และได้มีขโมยข้าวเปลือกไป 102 กระสอบ มูลค่า 1 แสนกว่าบาทนั้น ตนได้ช่วยเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ ทางทหาร ฝ่ายปกครอง ในการสืบหาคนร้ายและช่องทางที่คนร้ายจะหลบหนี รวมไปถึงสอบถามประชาชนว่ามีการพบเห็นการขนข้าวเปลือกจำนวนมากออกนอกพื้นที่หรือไม่ โดยส่วนใหญ่ไม่มีการพบเห็นดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมีการทยอยขนในช่วงกลางดึก คาดว่าน่าจะมีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน และไม่น่าจะขนเพียงแค่คืนเดียว เพราะเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน อยู่เพียงพี่สาว นอกจากนี้น่าจะมีคนในหมู่บ้านเป็นสายให้ และให้คนนอกหมู่บ้านมาขนข้าวออกจากยุ้งฉางข้าวเพื่อนำไปขายให้กับโรงสีในพื้นที่ข้างเคียงหรือนอกพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ตนได้ประกาศตามเสียงตามสาย ให้ลูกบ้านที่มีข้าวอยู่ในยุ้งฉางภายในบ้านตนเอง ให้เฝ้าระวังคนนอกพื้นที่ ช่วยกันสอดส่องดูแลทรัพย์สินตนเอง เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ส่วนตนได้ประสานลูกบ้านผู้ชายให้สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกตรวจตราภายในหมู่บ้านเพื่อเป็นการป้องกันเหตุซ้ำอีกครั้ง

ผู้การโคราช ระดมตำรวจตามล่าตัวคนร้ายขโมยข้าวเปลือก 102 ถุง สั่งตรวจกล้อวงจรปิดทุกจุด พร้อมสอบพยานไปแล้ว 7 ปาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางมัลลิกา ทำเสร็จ อายุ 57 ปี เจ้าของข้าว อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 1 บ้านหนองม่วง ตำบลงิ้ว อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา ได้ร้องผ่านสื่อช่อง 8 ว่า ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ซึ่งห่างจากบ้านพักเพียง 10 เมตรไปจำนวน 102 ถุงนั้นและยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้นั้น

ด้าน พลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพยานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งส่วนบุคคลที่กระทำความผิดยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เจ้าหน้าที่กำลังติดตามและไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมทั้งได้มีการเน้นย้ำให้ผู้กำกับการ สภ.ห้วยแถลง เร่งดำเนินการคดีนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งส่งชุดสืบสวนสอบสวน ลงไปในพื้นที่เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งขนาดนี้ได้สอบปากคำชาวบ้านไปแล้ว 7 ปาก เนื่องจากว่าข้าวที่หายจำนวน 102 ถุง เป็นของผู้เสียหายที่ได้ฝากพี่สาวเอาไว้ ส่วนตัวเจ้าของข้าวไม่ได้อยู่ประจำพื้นที่ ซึ่งตนคิดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกดังกล่าว อีกทั้งบ้านผู้เสียหายก็ติดกับบ้านหลังอื่นๆไม่ได้อยู่หลังเดียว เพราะเวลาใครเข้าออกต้องมีคนเห็น โดยเฉพาะคนต่างพื้นที่ ในส่วนของกล้องวงจรปิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดูทุกตัวที่คิดว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางดังกล่าวผ่าน

อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บ้านจะต้องช่วยในการสอดส่องดูแลลูกบ้าน เพราะจะรู้ดีว่าใครเข้าออกในหมู่บ้าน หากพบผิดสั่งเกตุให้ถ่ายรูป ไว้ก่อนเพื่อการตรวจสอบย้อนหลัง เพราะมีประโยชน์มาก ซึ่งขนาดนี้ตนได้มีการสั่งการให้ตำรวจทุกโรงพัก ให้เฝ้าระวังเหตุการณ์จะเกิดขึ้นซ้ำรอย โดยเฉพาะรถเกี่ยวข้าวในเวลากลางคืน เพื่อเป็นการป้องปราม เพราะเคยมีข่าวลักลอบเกี่ยวข้าวของชาวบ้านเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ฝากถึงประชาชนที่อยู่ในหมู่บ้านหากใครมีข้อมูลให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ต้องกลัวและจะเก็บไว้เป็นความลับ เพราะเป็นประโยชน์ในรูปคดีอย่างมาก

>>ชมคลิปและอ่านข่าวเพิ่มเติม<<

“สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา” ออกแถลงการณ์ งดจัดงาน-ขอสปอนเซอร์ ‘วันนักข่าว’ 5 มีนาคม 2562

“สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา” ออกแถลงการณ์ งดจัดงาน-ขอสปอนเซอร์ ‘วันนักข่าว’ 5 มีนาคม 2562

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดประชุม ครั้งที่ 12/2561  วันที่ 4 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการเสนอ งดจัดงานวันนักข่าวในปี 2562 ในวันที่ 5 มีนาคม ของทุกปี เนื่องมาจากได้มีการจัดตั้งกลุ่มนักข่าวขึ้นในปี 2561 เพียงปีเดียว กว่า 3 แห่ง รวมถึงปัจจุบันมีทั้งมูลนิธิ สมาคมฯ และสมาพันธ์ฯ ที่จัดตั้งแล้วกว่า 4-5 แห่ง  ทำให้ทุกๆ องค์กรสื่อจะต้องมุ่งหาการสนับสนุนถึงสปอนเซอร์ เพื่อมาจัดงานวันนักข่าว 5 มีนาคม ของทุกปี  จึงทำให้ทั้งหน่วยงานของภาครัฐ ภาคเอกชน ธุรกิจ ห้างร้านต่างๆ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงกลุ่มสื่อต่างๆ ว่ามีมากเกินไป ทำให้หลายคนต่างอึดอัด และไม่รู้ว่าจะไปร่วมงานกลุ่มไหนดี เมื่อไม่ได้ไปร่วมงาน  ก็มีการตำหนิตามหลังมา จึงทำให้ทุกๆ คนในโคราชรู้สึกไม่ดีกับสื่อมวลชนโคราชเป็นอย่างยิ่ง

จากกรณีที่กล่าวมานั้น ทางสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นำโดยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์   นายกสมาคมฯ ได้หารือกับคณะกรรมการ สมาคมฯ เพื่อขอมติเรื่อง “งดจัดงานหาสปอนเซอร์และรับการสนับสนุนใดๆ”  ที่จะนำไปจัดในวันนักข่าว 5 มีนาคม ปี 2562 นี้เด็ดขาด เพื่อลดกระแสการต่อต้านสื่อมวลชน ทางสมาคมนักข่าวฯ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ งดจัดงานวันนักข่าว 5 มีนาคม ปี 2562 แต่ไม่งดจัดงานภายใน คือสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ผู้สื่อข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว และรับประทานอาหารร่วมกันในช่วงเย็น ทางสมาคมฯ จึงเรียนมายังทุกๆ หน่วยงาน ภายในจังหวัดนครราชสีมา ให้ได้รับทราบโดยทั่วกัน

อนึ่ง สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดตั้งจดทะเบียนสมาคมฯ นี้มาตั้งแต่ ปี 2528 โดยนายไพฑูรย์ มนุญพงศ์พันธุ์ เป็นผู้ก่อตั้ง อีกทั้งเป็นนายกฯ คนแรกและรักษาการนายกสมาคมฯ  มา จนถึงปี 2559 และปัจจุบันได้มีการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ใหม่ โดยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา

พร้อมกันนี้  คณะกรรมการสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ร่วมอวยพร  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในวาระ ส่งท้ายปีเก่า และต้อนรับปีใหม่ด้วยเช่นกัน

 

สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมารับรางวัลเนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2561

สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมารับรางวัลเนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2561

เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ สโมสรกีฬาจักยาน จังหวัดนครราชสีมา นำบุคลากรคว้ารางวัลโล่ประกาศเกียรติคุณ และเสื้อเบลเซอร์ ประจำปี พ.ศ.2561
วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดให้มีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ พร้อมเสื้อเบลเซอร์ เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2561
วันกีฬาแห่งชาติ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ที่กรุงเทพฯ และทรงชนะเลิศได้รับเหรียญทองในการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. ซึ่งถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ทางการกีฬาของประเทศไทย นอกเหนือจากกีฬาเรือใบแล้ว แบดบินตันก็เป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดปรานมากเช่นกัน ในหอประชุมวังจิตรลดาฯ ได้ปรับแต่งเป็นสนามแบดมินตันมาตรฐาน ส่วนมากพระองค์จะทรงแบดมินตันในตอนเย็นและวันศุกร์ และเช้าวันอาทิตย์ พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทางการกีฬานี้ เป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกว่า พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริงและทรงสนับสนุนกีฬาจนเป็นที่ปรากฏชัด ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งวีกีฬาแห่ชาตินี้ ก็เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้ระลึกถึงพระปรีชาสามารถและเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนให้ประชาชนชาวไทยเห็นคุณค่าความสำคัญของการกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงได้มีมตินำเสนอคณะรัฐมนตรีลงความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ.2529 กำหนดให้วันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวัน “วันกีฬาแห่งชาติ”
ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมา ได้ร่วมกับสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2561 โดยได้มีการประชุมพิจารณาคัดเลือกผู้ที่ทำชื่อเสียงด้านกีฬาให้กับจังหวัดนครราชสีมา จำนวนทั้งสิ้น 20 รางวัลโดยแบ่งออกเป็น
1. ผู้ให้การสนับสนุนพัฒนากีฬาดีเด่น จำนวน 6 รางวัล
2. นักกีฬาดีเด่น (ชาย) จำนวน 1 รางวัล
3. นักกีฬาดีเด่น (หญิง) จำนวน 1 รางวัล
4. นักกีฬาเยาวชนดีเด่น (ชาย) จำนวน 1 รางวัล
5. นักกีฬาเยาวชนดีเด่น (หญิง) จำนวน 1 รางวัล
6. นักกีฬาคนพิการดีเด่น จำนวน 1 รางวัล
7. ผู้ฝึกสอนนักกีฬาดีเด่น จำนวน 1 รางวัล
8. ผู้ตัดสินดีเด่น จำนวน 1 รางวัล
9. สโมสรกีฬาจังหวัดดีเด่น จำนวน 7 รางวัล
ทั้งนี้สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรฯ ก็ได้รับคัดเลือกให้ได้รับรางวัล สโมสรกีฬาจังหวัดดีเด่น ที่ได้สร้างผลงานอย่างโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง จากผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับสโมสร ได้แก่ การส่งนักกีฬา นายสืบสกุล สุขจรรยา แชมป์ประเทศไทยถ้วยรางวัลพระราชทาน”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ บดินทรเทพวรางกูร” ปี 2560 และนายชินพัฒน์ สุขจรรยา แชมป์ประเทศไทย ถ้วยพระราชทาน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ บดินทรเทพวรางกูร” รุ่น 17 ปีชาย รุ่นจูเนียร์ รายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศฟิลิปินส์ เป็นต้น โดยได้รับการคัดเลือกจาก 40 กว่าสโมสรฯ


นอกจากนี้ นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา และเป็นรองประธานสโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับรางวัล “ผู้ให้การสนับสนุนพัฒนากีฬาดีเด่น” จากการเป็นผู้ควบคุมดูแล สนับสนุนจัดหางบประมาณร่วมกับสโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา ให้นักกีฬาและนักกีฬาเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา อาทิ สนับสนุนนักกีฬาไปแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 45 ที่จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดสงขลา สนับสนุนนักกีฬาไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 34 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดบุรีรัมย์ จัดหางบประมาณให้นักกีฬา นายสืบสกุล สุขจรรยา แชมป์ประเทศไทยถ้วยรางวัลพระราชทาน”สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ บดินทรเทพวรางกูร” ปี 2560 และนายชินพัฒน์ สุขจรรยา แชมป์ประเทศไทย ถ้วยพระราชทาน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ บดินทรเทพวรางกูร” รุ่น 17 ปีชาย รุ่นจูเนียร์ รายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศฟิลิปินส์

                  สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา ยังได้รับรางวัลนักกีฬาเยาวชนดีเด่น (ชาย) จาก นายชินพัฒน์ สุขจรรยา ด้วยการทำผลงานดีเด่น คว้าแชมป์ประเทศไทย ถ้วยพระราชทาน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ บดินทรเทพวรางกูร” รุ่น 17 ปีชาย รุ่นจูเนียร์ รายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศฟิลิปินส์ อีกด้วย


ในการนี้ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้คัดเลือกผู้ทำชื่อเสียงด้านกีฬาให้กับจังหวัดนครราชสีมา เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2561 และได้รับโล่และเสื้อเบลเชอร์ จากนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนสำนักงานการกีฬา แห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้ ดร.มารุต  ลิ้มเจริญ  ในนามนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา ได้มาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล พร้อมด้วย  คณะกรรมการสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา  และร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึกอีกด้วย

>=ชมภาพบรรยากาศ<<

ชาวโคราช หลายพันคนแห่จองสิทธิ์โครงการบ้านล้านหลังกันคึกคัก รายแรกต้องมาตีห้า

ชาวโคราช หลายพันคนแห่จองสิทธิ์โครงการบ้านล้านหลังกันคึกคัก รายแรกต้องมาตีห้า อวยรัฐบาลสานฝันให้คนจนมีบ้านเป็นของตนเอง

ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาถนนจอมพล เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ประชาชนหลายร้อยคนประสงค์เข้าร่วมโครงการที่รัฐทำให้ประชาชน “ บ้านล้านหลัง ” พากันมายืนต่อแถวรอคิวใช้สิทธิยื่นเอกสารหลักฐานกับพนักงาน ธอส. โดยมีนางวัชราภรณ์  เทศศรีเมือง ผู้จัดการ ธอส.สาขาถนนจอมพล คอยให้บริการอำนวยความสะดวกตั้งโต๊ะให้คำปรึกษาพร้อม แจกบัตรคิวให้กับประชาชนที่มารอคอยตามลำดับ ซึ่งคิวแรกได้มารอตั้งแต่เวลา 05.00 น. เพื่อความสะดวกรวดเร็วและไม่เสียโอกาสในการใช้สิทธิ์ เมื่อได้บัตรคิวจะต้องผ่านขั้นตอนให้คำปรึกษาและตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องก่อนใช้สิทธิผ่านระบบคอมพิวเตอร์ แม้นล่าช้ากับการดำเนินการตามขั้นตอน แต่ประชาชนมิได้ปริปากบ่น แต่อย่างใด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพรับจ้าง จึงมีปัญหาเกี่ยวกับหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อ จำนวนผู้มายื่นสิทธิมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคาร ฯ แออัดยัดเยียด ประชาชนส่วนหนึ่งต้องนั่งรอเรียกลำดับคิวตามทางเดินเท้าและใต้ร่มเงา พนักงานได้จัดระเบียบการเข้าออกภายในอาคาร ซึ่งทางออกมีบรรดานายหน้าได้มาแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์โครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท

นางสาวพรมวิสา  บำรุงกุล อายุ 42 ปี ชาวตำบลในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่การมีบ้านเป็นเรื่องฝันเกินเอื้อม วันนี้รู้สึกดีใจมาก รอโครงการนี้มานานแล้ว ขอขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยให้ประชาชนได้มีโอกาสมีบ้านอาศัยเป็นของตนเอง

นายธนกานภพ  แซ่ชิง อายุ 30 ปี ประกอวอาชีพรับจ้างในเขต ทน. กล่าว รู้สึกดีใจที่รัฐบาลเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตนเอง หลังจากเช่าที่พักอาศัยของคนอื่นมานาน วันนี้ได้ลืมตาอ้าปาก ขอขอบคุณรัฐบาลมอบโครงการฯ ดีๆให้กับพวกเรา

นายศักดิ์ชาย จิตตนูนท์ ผู้จัดการเขต ธอส. ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้ประชาชนจองสิทธิ์ เพื่อขออนุมัติกู้เงินซื้อบ้านในราคาหลังละไม่เกิน 1 ล้านบาท จากนั้นในวันที่ 2 ม.ค. 62 ผู้ที่จองสิทธิ์ ฯ ต้องแสวงหาบ้านที่ต้องการหรือแสวงหาที่ดินเพื่อปลูกสร้างหรืองบประมาณสร้างบ้าน แต่มูลค่าต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท ขณะนี้มีประชาชนในพื้นที่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จุดบริการ ธอส. ใน จ.นครราชสีมา มีจำนวน 4 สาขา ประกอบด้วย สาขา ถ.จอมพล สาขานครราชสีมา สาขา อ.ปากช่อง และ สาขา อ.บัวใหญ่ พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน คาดมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิมากกว่า 4 พันคน

“ปลาก้อยมดแดง” ห้วยแถลงโคราช เมนูสุดเด็ดรับเทศกาลกลับบ้านปีใหม่

“ปลาก้อยมดแดง” ห้วยแถลงโคราช เมนูสุดเด็ดรับเทศกาลกลับบ้านปีใหม่

    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านพฤกษ์งาม หมู่ที่ 13 ต.หลุ่งประดู่ อ.ห้วยแถลง จ.นครราชสีมา แนะนำเมนูเด็ดไว้รอต้อนรับลูกหลานที่จะเดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2562 ที่กำลังจะมาถึง โดยใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ในชุมชนและมีอยู่กันแทบทุกครัวเรือน เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนกลับมาเยี่ยมถิ่นฐานบ้านเกิดกันทุกๆครอบครัว

นายบุญเลิศ ปินะทาโน อายุ 63 ปี  ตัวแทนผู้เฒ่าผู้แก่บ้านพฤกษ์งาม  บอกว่า  โดยเมนูที่นำเสนอในวันนี้คือ เมนู “ปลาก้อยมดแดง”  ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านสุดแซ่บของชาวอีสาน  ซึ่งจะใช้ปลาที่หาได้จากธรรมชาติ เลือกเอาปลาที่มีกางแทรกอย่างปลาตะเพียน ปลาไน ปลายี่สก หรือปลานวลจัด คัดเอาตัวเขื่องๆมาขอดเกล็ดแล่เอาแต่เนื้อ  จากนั้นนำมาสับจนแหลก เพื่อให้กางแทรกในตัวปลาถูกสับ เวลากินจะได้ไม่ติดคอ  และมาถึงขั้นตอนสำคัญก็คือการคั้นปลาด้วยมดแดงสด   ซึ่งก็ต้องไปหารังมดแดงขนาดเล็กไม่ใหญ่มาแล้วเขย่าเอาตัวมดแดงมาคั้นกับปลาสับที่เตรียมไว้  เพื่อดับกลิ่นคาวปลา คั้นจนน้ำปลาและมดแดงหมด แล้วจึงนำเครื่องลาบ อาทิ พริกป่น มะนาว น้ำปลา ข้าวคั่ว หอมแดง มาคลุกเคล้าปรุงรสตามชอบ โรยด้วยต้นหอม ผักชี แล้วก็นำมารับประทานกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองแซ่ยอย่างบอกใคร

 

ซึ่งใครที่กำลังจะเดินทางกลับไปภูมิลำเนาบ้านเกิดในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ นี่เป็นเมนูหนึ่งที่น่าสนใจที่ชาวบ้านตามชนบทยังพอมีให้ลิ้มลอง  แต่หาได้ยากมากในสังคมเมืองปัจจุบัน

>ชมภาพบรรยากาศ<<

 

สีสันแข่งปลูกมันสำปะหลังที่โคราช

ในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการการเกษตรและรณรงค์ป้องกันกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่

           ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวีดนครราชีมา  รายงานว่า ภายในกิจกรรมงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการการเกษตรและรณรงค์ป้องกันกำจัดโรคใบด่างมันสำปะหลังในพื้นที่ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่บ้านรุ่งเรือง ต.หนองบุญนาก อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตรโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการผลิตมันสำปะหลังให้มีคุณภาพและมีผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้น  นอกจากจะจัดให้มีการอบรมให้ความรู้ และนำเทคโนโลยีต่างๆมาถ่ายทอดให้กับเกษตรกรแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆที่สร้างสีสันให้กับงานในวันนี้ร่วมด้วย

        โดยทางผู้จัดงานได้จัดรถไถนาพ่วง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่ารถอีแต็ก ไปรับนายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าไปสู่บริเวณสถานที่จัดงานเพื่อทำการเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งมีกิจกรรมการแข่งขันปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลเพาะปลูกมันสำปะหลังของชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีตัวแทนเกษตรกรจาก 8 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขัน ซึ่งทุกคนต้องแข่งกันปลูกมันทุกกระบวนการขั้นตอน ตั้งแต่การยกท่อนมันสำปะหลัง สับท่อนมัน และนำท่อนมันไปเสียบตามแปลงที่กำหนดไว้ โดยให้ระยะห่างระหว่างท่อนไม่เกิน 80 เซนติเมตร หากใครทำได้ตามกติกาที่กำหนดและเสร็จเร็วที่สุดจะเป็นผู้ชนะ

       ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทุกคนต่างก็แข่งขันกันอย่างเต็มที่ ท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ที่ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน สร้างความบันเทิงให้กับงานนี้อย่างมาก  โดยผลการแข่งขัน เป็นตัวแทนเกษตรกรจากอำเภอปักธงชัย เป็นผู้ทำได้ตามกติกาและรวดเร็วที่สุด ได้รับรางวัลเป็นเครื่องพ่นยาและปุ๋ยไป 1 เครื่อง

 

โคราชระดมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ กำจัดผักตบชวา

โคราชระดมจิตอาสา เราทำความดี ด้วยหัวใจ กำจัดผักตบชวา

ที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา นำโดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานเกี่ยวข้อง นำจิตอาสาจากชุมชน ประชาชนกว่า 2000 คน สวมเสื้อเหลืองเปิดกิจกรรมระดมจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ รณรงค์ “คน รัก คลอง”… “ไม่ทิ้ง ไม่เท ทุ่มทำความดี” ลงปฏิบัติงานรอบบึงหนองมโนรมย์ เนื้อที่กว่า 1000 ไร่ ต.ทองหลาง อ.จักราช เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ อุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชดำริสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับลำน้ำ ลำคลอง และเป็นการพัฒนาคลองเพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนที่อยู่ริมคลอง

ได้นำจิตอาสาจากชุมชน และ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดเก็บขยะมูลฝอย ผักตบชวาและวัชพืช โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสืบสานพระราชดำริของสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนเพื่อสร้างการตระหนักรู้และจิตสำนึกในการดูแล รักษา พัฒนาคลอง เพื่อสุขภาพอนามัย คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อมที่ดีแก่ชุมชน.

ชมคลิปเพิ่มเติม

โคราชยอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.43 เร่งประชาสัมพันธ์บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

โคราชยอดผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.43  เร่งประชาสัมพันธ์บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ หวังช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

นครราชสีมา –  ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมา นางไพวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ได้เป็นประธาน ในกิจกรรมคาราวาน ประชาสัมพันธ์การบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ ภายใต้แนวคิด ให้..เพื่อชีวิตที่ดีกว่า และรณรงค์การบริจาคประชาสัมพันธ์การจ่ายเบี้ยใน 4 ภาค พร้อมทั้งมอบเหรียญเชิดชูเกียรติบัตรแก่ผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยมีนางปิยฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับในครั้งนี้

            นางไพวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เพื่อนำมาจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่งผลให้ผู้สูงอายุมีรายได้เพิ่มขึ้นในการดำรงชีพ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้แจ้งความจำนงบริจาคเบี้ย เข้ากองทุนจำนวน 799 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,952,998,889.44 บาท

            ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา มีจำนวนประชากรทั้งสิ้น 2,641,715 คนเป็นผู้สูงอายุ 441,028 คน คิดเป็นร้อยละ 16.69 ของประชากรทั้งหมด โดยในปี 2561 มีผู้สูงอายุขึ้นทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ จำนวน 347,368 คน คิดเป็นเงิน2,763,382,800 บาท และในปี 2562 มีผู้สูงอายุขึ้นทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ จำนวน 387,089 คน คิดเป็นเงิน 3,123,859,200 บาท คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ร้อยละ 11.43 จากสถิตดังกล่าวพบว่า มีผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นหากผู้สูงอายุท่านใดสนใจจะบริจาคเบี้ยยังชีพเข้ากองทุนสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 023546100 หรือสายด่วน 1300 บริการฟรี 24 ชั่วโมง

ชมภาพ

 

กลุ่มรถซิ่งคนทำงานเมืองย่า ระดมคนช่วยบูรณะวัดห่างไกล

น่าชื่นชมกลุ่มรถซิ่งคนทำงานเมืองย่า ระดมคนช่วยบูรณะวัดห่างไกล

ที่วัดป่าหนองใหญ่ ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา กลุ่มรถซิ่ง คนทำงานเมืองย่า นำคาราวานรถยนต์เกือบ 40 คัน พร้อมสมาชิกกว่า 50 ชีวิต จิตอาสาทำความดีเพื่อสังคม เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมทำความสะอาดและบูรณะสิ่งปลูกสร้างภายในวัดร่วมกับกลุ่มจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอำเภอครบุรี

เพื่อเป็นการร่วมทำนุบำรุงพระศาสนา และใช้เวลาว่างช่วงวันหยุดให้เกิดประโยชน์แก่สังคม ทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในหลวงรัชกาลที่ 10

โดยนายรินทร์ เงางาม อายุ 41 ปี ประธานกลุ่มรถซิ่ง คนทำงาน เมืองย่า กล่าวว่า ทางกลุ่มได้มีการรวมตัวกันขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่จะร่วมกันใช้เวลาว่างจากการทำงาน เพื่อร่วมกันออกทำประโยชน์ให้กับสังคม ทั้งในส่วนของชุมชน วัด หรือโรงเรียนที่ยังต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งปัจจุบันได้รับความร่วมแรงร่วมใจด้วยดีจากสมาชิกทั้งที่ทำงานอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ที่ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมกันมาแล้วหลายครั้ง  และทางกลุ่มยังคงจะเดินหน้าทำความดีเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะเชื่อว่ายังมีอีกหลายจุดที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ในขณะนี้

ชมภาพเพิ่มเติม