กิจกรรมในเดือนวันแม่แห่งชาติ กองพลพัฒนาที่ 2

อีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ในเดือนแห่งวันแม่ #ทำดีด้วยหัวใจ

กองพลพัฒนาที่ 2 (ช.2 พัน.201) ได้ส่งทีม “ขุนค้อน 201 hammer” เป็นตัวแทนในการเข้าแข่งขัน Thailand Smart Soldier Strong Man Challenge ครั้งที่ 2 โดยได้ทำกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดี เพื่อชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงฯ โดยได้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ เช่น ทาสีโรงเรียน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ยากไร้และผู้ป่วยติดเตียง และทำความสะอาด ขุดลอกคูคลอง

 โดยกิจกรรมนี้  มีน้องๆ นักศึกษา และประชาชนที่สนใจมีจิตอาสาเข้าร่วม โดยวัตถุประสงค์ต้องการมุ่งเน้นให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ในทีม รำลึกถึงบุญคุณของบรรพบุรุษ รักสถาบัน รักชาติ รักแผ่นดิน และทำความดีเพื่อประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม

มุ่งมั่นพัฒนาประเทศช่วยเหตุภัยพิบัติเสริมชาติมั่นคง_ดำรงสถาบัน

กองพันทหารช่างที่201

กองพลพัฒนาที่2

กองทัพภาคที่2

บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จัดงานบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จัดงานบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
วันที่ 14 สิงหาคม 2563 เวลา 09.30 น.ณ อาการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา การบริจาคโลหิตเนื่องในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2563เฉลิมพระเกียรติแด่ สมด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดย นางปิยะฉัตร อินสว่างรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานพิธีอ่านคำสดุดีเฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคล พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิทธวัช โมฬีรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโน โลยี่สุรนารี กล่าวต้อนรับ นายณัฎฐ์เอก เมืองไทธัช ผู้บริหารอาวุโสด้านมวลชนสัมพันธ์ บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทยกล่าวรายงาน ท่านรองอธิการบดี/ผู้บัญชาการ/เสนาธิการผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร/ ตำรวจ/ สถานศึกษา/ผู้นำชุมชน ท่านผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกกลุ่มธุรกิจท่านผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน และผู้บริจาคโลหิตทุกท่านผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์มอบของที่ระลึกแก่ประธานพิธีและผู้บริหารทุกหน่วยงานและร่วมจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ


นางปียะฉัตร อินสว่าง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่า กิจกรรมบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง ในวันนี้การบริจาคโลหิต นับว่าเป็นความดีที่ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ สามารถปฏิบัติได้อย่างเท่าเทียมกัน เป็นความดีที่มีความสำคัญ มีความหมายต่อการมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยของผู้เจ็บป่วย ที่มีความจำเป็นต้องรับโลหิตในการรักษาพยาบาล แม้ว่าปัจจุบันนี้เทคโนโลยีจะมีความก้าวหน้าเพียงใด แต่ก็ยังไม่สามารถผลิตโลหิตเทียม หรือคิดค้นสารอื่นใดมาใช้ทดแทนโลหิตได้ ในแต่ละปี่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจึงทำให้ความต้องการใช้โลหิตเพิ่มจำนวนมากขึ้นถึงแม้เหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมด้วยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ


สภากาชาดไทย พยายามรณรงค์สงเสริมให้มีการบริจาคโลหิตเพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ยังไม่เพียงพอ จากสถิติการบริจาคโลหิต 1 ครั้งต่อปี มีมากถึง 60เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่เป็นจิตอาสา มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง บริจาคโลหิตให้เป็นประจำสม่ำเสมอต่อเนื่องเพื่อให้มีโลหิตเพียงพอต่อความต้องการใช้ของผู้เจ็บป่วยอยู่รอดต่อไปได้อย่างมีความสุขดังนั้น ความสำเร็จของการจัดหาโลหิตจะเกิดขึ้นได้ต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งในด้านการประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมให้หน่วยงานจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องการจัดกิจกรรมในวันนี้ นับว่าเป็นต้นแบบที่ดีในการสงเสริมการบริจาคโลหิตในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และพื้นที่ใกล้เคียง ดิฉันขอชื่นชมและขอบคุณทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ทหาร ตำรวจ สถานศึกษามหาวิทยาลัย ชุมชน และประชาชนชาวนครราชสีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ทุกกลุ่มธุรกิจที่ได้ประสานความร่วมมือสนับสนุนการจัดกิจกรรมบริจาคโลหิตให้แก่เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ต่อมานายณัฎฐ์เอก เมืองไทธัช ผู้บริหารอาวุโสด้านมวลชนสัมพันธ์ บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย ผู้แทนนายวัลลภ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การบริจาคโลหิต เป็นความดีหนึ่งที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ส่งเสริมให้หน่วยงานของเครือเจริญโภคภัณฑ์ทั่วประเทศ และบุคลากรได้ถือปฏิบัติเป็นประจามาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2534 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 29 ปีมีปริมาณโลหิตบริจาคสะสมมอบให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย และเหล่ากาชาดจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ เพื่อนาไปช่วยชีวิตผู้เจ็บป่วย รวมจานวนทั้งสิ้น “หนึ่งร้อย แปดสิบแปดล้าน เจ็ดแสน สองหมื่น สามพัน สองร้อยซีซี” หรือ สี่แสน เจ็ดหมื่น หนึ่งพัน เจ็ดร้อย แปดสิบเอ็ดยูนิต กิจกรรมบริจาคโลหิตในวันนี้ กลุ่มธุรกิจต่างๆของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ประสานความร่วมมือ กับเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทหาร ตำรวจ และสถานศึกษา ร่วมดาเนินกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ด้วยการเชิญชวนบุคลากร พร้อมด้วยประชาชนทั่วไป ร่วมทาความดีด้วยการบริจาคโลหิต และเป็นการสารองโลหิตไว้ให้บริการแก่ผู้ป่วย กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การบริจาคโลหิต การจัดเลี้ยงอาหารและเครื่องดื่มจากกลุ่มธุรกิจต่างๆ การแสดงบนเวที การมอบของที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิต เป็นต้น โดยได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ คาดว่าจะมีผู้บริจาคโลหิตไม่ต่ำกว่า 500 คน

การประชุมเสวนา และรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน”การสร้างงานศิลปะประเภทถาวร” มหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563การประชุมเสวนา และรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน”การสร้างงานศิลปะประเภทถาวร” มหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2ณ ห้องประชุมปัญจดารา 1 ชั้น 2 โรงแรมปัญจดารา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานพร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ภัณฑารักษ์ ศิลปินสื่อมวลชน ประธานชุมชนในขตเทศบาลนครนครราชสีมา นักเรียน นักศึกษา และผู้มีเกียรติทุกท่าน


นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าจากการที่รัฐบาลได้คัดเลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นสถานที่จัดการแสดงมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Biennale, Korat 2021 ขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน -กันยายน 2564 ซึ่งจะเป็นกิกรรมที่สร้างภาพพจน์และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น นับเป็นโอกาสของจังหวัดนครราชสีมาที่ได้เปิดประตูบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งนี้ การสร้างงานศิลปะถาวร ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 6 แห่ง ของจังหวัดนครราชสีมา นั้น จะทำให้ภาพของเมืองเปลี่ยนแปลไปในทางที่ดีขึ้น เป็นการผสมผสานงานศิลปะ สิ่งแวดล้อม และเมือง ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวจังหวัดนครราชสีมา และการขับเคลื่อนให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองศิลปะอย่างยั่งยืน จึงขอให้ทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เสนอข้อคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เพื่อจังหวัดนครราชสีมาของเรา และเพื่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 ที่จะเกิดขึ้นในปี 2564ผมขอแสดงความขอบคุณทางสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย คณะภัณฑารักษ์ศิลปิน และผู้แทน ตลอดจนทุกทนที่เสียสละเวลาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้


สืบเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลให้เป็นพื้นที่จัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Beinnale, Korat 2021 ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2564 ทั้งนี้ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม คณะภัณฑารักษ์ และจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงศึกษาพื้นที่จัดแสดงงาน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา และได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ และศิลปินสำหรับการสร้างงานศิลปะประเภทถาวร จำนวน 6 ผลงาน 6 พื้นที่ ได้แก่
1.ผศ.บุญเสริม เปรมราคา สถานที่ สวนสัตว์นครราชสีมา

  1. นายกฤช งามสม สถานที่ บริเวณ Art Gallery
  2. นายประสิทธิ์ วิชายะ สถานที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
  3. นางสาวรัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง สถานที่ สวนสัตว์นครราชสีมา
  4. Sandra Cinto สถานที่ บริเวณบ่อน้ำพุ สวนสุรนารี
  5. Junya Ishigami สถานที่ บริเวณ Art Gallery
    เนื่องจากจะมีผลงานประเภทถาวร ติดตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ จำนวน 3ผลงาน จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดการประชุมเสวนา และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนขึ้นในกระทรวงวัฒนธรรม ภัณฑรักษ์ และศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานศิลปะที่จะเกิดขึ้น พร้อมการรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วย ศิลปิน ครูศิลปะ ผู้บริหารสถบันการศึกษา ผู้แทนชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา นักศึกษา และสื่อมวลชน จำนวนทั้งสิ้น 170 คน

นิพนธ์ ชื่นตา” ประชุมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จ.ขอนแก่น กำหนดทิศทางการทำงานดูแลปัญหาพี่น้องประชาชน

“นิพนธ์” ลุยหารือคณะทำงานเมืองขอนแก่น วางแนวทางช่วยแก้ปัญหาประชาชน
“นิพนธ์ ชื่นตา” ประชุมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จ.ขอนแก่น กำหนดทิศทางการทำงานดูแลปัญหาพี่น้องประชาชน เผยปัญหาส่วนใหญ่เป็นเรื่องระบบสาธารณูปโภค ขณะที่ชาวบ้านเป็ดบุกร้องให้ช่วยเคลียร์ปัญหาตั้งเสาสัญญาณใกล้ชุมชน หวั่นกระทบสุขภาพ

เมื่อวันที่ 7 ส.ค.63 นายนิพนธ์ ชื่นตา ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายวัชรินทร์ ศรีสวย หัวหน้าสำนักงานและเลขาฯ นายนิพนธ์ ชื่นตา, นายบรรหาร บุญเขต ประธานที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านการเมืองภาคประชาชน ภาคเหนือตอนล่าง,นายเสรภณ การสมพรต ประธานที่ปรึกษาและคณะทำงานด้านการเมืองภาคประชาชน ภาคกลาง,.ร.ต.อ.ธนาเสฏฐ์ ธนเวชไพบูลย์ เลขานุการประจำนายนิพนธ์ โดยมี นายศรัทธา คชพลายุกต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จังหวัดขอนแก่น ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่น


ในโอกาสเดียวกัน ได้มีตัวแทนชาวบ้านที่พักอาศัยใกล้ค่ายสีหราชเดโชชัย กรมทหารราบที่ 8 พื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่นได้มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเดือดร้อน วิตกกังวลจากผลกระทบด้านสุขภาพจากการตั้งเสารับ-ส่งสัญญาณคลื่นโทรศัพท์เคลื่อนที่ค่ายใหญ่เจ้าหนึ่งที่มาตั้งใกล้กับชุมชน
ภายหลังรับหนังสือและซักถามประเด็นปัญหาจากตัวแทนชาวบ้านโดยสังเขปแล้ว นายนิพนธ์ รับปากจะดำเนินการพิจารณาหาทางช่วยเหลือ โดยจะให้คณะทำงานฯ จังหวัดขอนแก่น ดูแลติดตามอย่างใกล้ชิด
หลังจากนั้นนายนิพนธ์พร้อมคณะได้เยี่ยมชมพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นถึงปัญหาอุปสรรค์การทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งได้รับรายงานข้อมูลว่าปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนส่วนใหญ่มักจะเป็นเรื่องของระบบสาธารณูปโภค ทั้งถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปาฯลฯ
นายนิพนธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงภารกิจหลักที่เดินทางเยือนจังหวัดขอนแก่นในครั้งนี้เพื่อประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานการเมืองภาคประชาชน จังหวัดขอนแก่น ว่าจะกำหนดทิศทางแนวทางการทำงานอย่างไรที่จะดูแลพี่น้องประชาชนให้มีปัญหาการดำรงชีวิตน้อยที่สุด นอกเหนือจากที่ภาคราชการได้ดูแล โดยพวกตนถือเป็นทีมงานของกระทรวงมหาดไทยที่ทำงานในสถานะภาคประชาชน ซึ่งสามารถเข้าหาพี่น้องประชาชนได้สะดวก คล่องตัว รวดเร็วมากกว่า
“จากการลงพื้นที่ในต่างจังหวัด พบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาคประชาชนมีหลากหลาย ทั้งปัญหาที่ทำกิน ปัญหาหนี้สิน ปัญหาเรื่องความยุติธรรม ปัญหาข้อพิพาทระหว่างภาคประชาชนกับภาครัฐหรือองค์กรธุรกิจเอกชน ต้องประสานงานแก้ปัญหากับทุกภาคส่วน” นายนิพนธ์กล่าว


ภายหลังเยี่ยมชมแลกเปลี่ยนข้อมูลประเด็นปัญหาข้อร้องทุกข์ของประชาชนกับผู้แทนศูนย์ดำรงธรรมขอนแก่นเสร็จแล้ว นายนิพนธ์ พร้อมคณะได้มอบมอบรถเข็น (วิลแชร์) จำนวน 5 คัน ให้แก่จังหวัดขอนแก่น โดยมี นางสุจินดา สระคูพันธ์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น ร่วมรับมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้ต่อไป

“วัดพรหมราช” ชุมชนคุณธรรมรางวัลระดับประเทศ เน้นความพอเพียงอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น

          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัดพรหมราช ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบ เพื่อนำการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม ทั้งด้านศิลปะการแสดง โดยเฉพาะ รำโทนโคราช ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ รวมถึงอาหารพื้นเมืองพื้นถิ่น อาทิ ข้าวโป่ง พล่าหมี่โคราช มีที่นี่ที่เดียวต้องมาลองชิม นอกจากนี้ในชุมชนของที่นี่มีความสำคัญ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ของวัดพรหมราชเก็บวัตถุโบราณอายุเป็นพันปี และชุมชนที่นี่ก็มีความสามัคคีอย่างมาก ในส่วนของการต่อยอดในอนาคต ทางสภาฯเราก็ได้จัดให้มีการประชุมสัญจรแลกเปลี่ยน จัดงานมหกรรมชุมชนของดี และนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เราจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เราจะไปจัดกันที่จังหวัดยโสธรในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนี้เราก็จะช่วยกันทุกภาคส่วนที่จะต้องผลักดันกัน โดยจะนำนิสิตนักศึกษาจากทุกสภาบันในโคราช โดยจัดตั้งเป็นสภา เยาวชน เพื่อรักษาอนุรักษ์วัฒนธรรมในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ทางด้าน ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางวัดพรหมราชมีศิลปะวัฒนธรรมภายในชุมชนที่น่าสนใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์การสืบทอดต่อไป จากการศึกษาภายในชุมชนมีความเป็นโคราชแท้ มีคุณตาคุณยายที่ยังสืบสานวัฒนธรรมอยู่ โดยเฉพาะหมี่โคราช อาหารท้องถิ่นที่ยังคงมีการสืบทอด และที่สำคัญจริงๆคืออยากให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทและส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกับขับเคลื่อนอนุรักษ์โดยสภาเด็กและเยาวชนมาร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อเกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ ทางทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะจัดทำวีดีโอและทำ VTR  ในการขับเคลื่อนการจัดการภายในชุมชนตัวอย่าง ไปเผยแพร่ให้กับทุกจังหวัดได้มาดูงานเป็นตัวอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป

ขณะที่ พระครูโกศล ธรรมวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพรหมราชและเจ้าคณะตำบลตูม กล่าวว่า วัดแห่งนี้จากการสันนิษฐานตามประวัติศาสตร์นั้นสร้างเมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อวัดพรหมราชนั้น เป็นชื่อของคนชื่อพรหมส่วนราชมาจาก หลังจากนั้นท่านก็ได้บรรพชาเป็นพระภิกษุและได้เทศน์ชื่อ ‘กัณฑ์มหาราช’ ในตอนหนึ่งของเวสสันดรชาดก หลังจากนั้นท่านก็สึกจากพระมาเป็นฆราวาส ผู้คนจึงได้นำชื่อของท่านมาเป็นชื่อวัด นอกจากนั้นในวัดยังมีพระพุทธรูปไม่ปรากฏชื่อ ปางลีลา อายุหลายร้อยปี ซึ่งเราก็ได้ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพรหมราช ประชาชนที่เข้าวัดมาทำบุญก็สามารถมาไหว้สักการะขอพระได้ นอกจากนี้ เป็นประจำทุกปีวัดเราจะจัดงานนมัสการพระพุทธบาทจำลองจัดมากว่า 96 ปีแล้ว จัดสมโภชยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถวายเป็นพุทธบูชา รักษาและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในท้องถิ่น สอดคล้องนโยบายชุมชนคุณธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ก็ได้รับรางวัลวัดต้นแบบชุมชนคุณธรรม ซึ่งทางวัดตระหนักว่าวัดคือศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน มีความสามัคคีในชุมชน

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน  ได้ให้การต้อนรับ  นายไชยนันท์  แสงทอง  วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและคณะ สู่ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั่นดินเผา เทศบาลตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ  และเป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผามายาวนานหลายชั่วอายุคน  เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ  ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากที่นี่ มีความแข็งแกร่ง ผิวจะมีความวาว มัน มีสีน้ำตาลแดงงดงาม  และดินที่ใช้ปั้นเป็นดินที่มาจากแหล่งคุณภาพที่สุดของจังหวัดนครราชสีมาได้มาจากริมแม่น้ำมูล  ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นอาณาจักรเครื่องปั้นดินเผาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา 

แม่วอนช่วยลูกชายป่วยหนัก ตัวเองยังมาป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่มีเงินรักษา พิกัด อ.เทพารักษ์โคราช

คุณแม่ลัดดา ชื่นนอก ชาวบ้านห้วยน้ำเค็ม ต.บึงปือ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวด้วย เนื่องจากลูกชายป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษาลูก และตนเองก็มีอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ตอนนี้ต้องผจญกับอาการป่วยของตัวเองและคิดหนักเรื่องรักษาลูกจนร่างกายทรุดโทรมลงไป จึงมาขอวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวของตนเองด้วย คุณแม่ลัดดา ให้ข้อมูลว่า ตนเองมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้หญิงมีครอบครัวแล้ว อาชีพทำไร่ทำสวน ไม่มีรายได้ประจำ พ่อแม่และน้องชายป่วยก็ต้องมาอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน คนที่ 2 คือนายนพดล หวังหยิบกลาง ลูกชายคนที่ป่วยหนัก ก่อนที่ลูกชายจะป่วยก็ได้ไปทำงานอยู่ที่จ.ปทุมธานี หาเงินส่งมาให้แม่และส่งน้องสาวคนเล็กเรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันก็ต้องออกจากโรงเรียนเนื่องจากไม่มีเงินและต้องมาอยู่บ้านช่วยดูแลแม่ด้วย เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อเดือนมีนาคม 2563

ที่ผ่านมา ลูกชายก็เริ่มมีอาการป่วยไปหาหมอที่จ.ปทุมธานีตรวจพบว่าลิ้นหัวใจรั่วจึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาต้องย้ายกลับมารักษาตัวต่อที่ จ.นครราชสีมา บ้านเกิดเนื่องจากไม่สะดวกเรื่องเงินค่ารักษา หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนอาการแทรกซ้อนต่างๆก็เริ่มมีมากขึ้น มีอาการแขน ขา บวม และปวดมาก จนเมื่อวันที่ 29 กรกฤาคม 2563 มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงได้พาไปหาหมอที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา และหมอได้นัดว่า วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ให้มาพบหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคหัวใจ วันที่เดินทางกลับจาก รพ.มหาราช อาการของลูกชายก็กำเริบอีกมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงพาไปหาหมอที่ รพ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา หมอบอกว่าคนป่วยมีอาการหนักมาก อาจจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดติดเชื้อ จึงได้ทำการส่งตัวคนป่วยต่อไปยัง รพ.มหาราช ทันที

ตอนนี้คนป่วยนอนอยู่ในห้อง ไอซียู ญาติๆต้องสลับกันเดินทางมานอนเฝ้าคนป่วยทำให้ ทางครอบครัวมีความลำบากมากเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเดินทางต่างๆอีกทั้งคุณแม่เองก็อาการป่วยทรุดหนักตามไปด้วยอีกคน ทางครอบครัวจึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย สำหรับผู้ใจบุญที่ประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวของคุณแม่ลัดดา ชื่นนอก สามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีของคุณแม่ได้โดยตรงที่ บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาเทพารักษ์ เลขที่ 020152088016

ชาวบ้านสุดทน รอนานกว่า 10 ปี รวมตัวกันกว่า 500 คน ประท้วงปิดถนน ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี

ชาวหนองบุญนาก “สุดทน”รวมตัวกว่า 500 คน ปิดถนน!!!ยื่นหนังสือสำนักนายกฯ หลัง อบจ.เมินซ่อมถนน


ชาวบ้านตำบลหนองบุญนาก อำเภอหนองบุญมาก จังหวัดนครราชสีมา นัดรวมตัวแสดงพลังเพื่อขอเจรจากับทางจังหวัดและ อบจ.โคราชหลังยื่นหนังสือให้เรียกร้องให้มาดำเนินการซ่อมแซมถนนที่ชำรุดนานกว่า 10 ปี แต่ไร้หวี่แววการเข้ามาซ่อมแซม จึงรวมตัวชาวบ้านกว่า 500 คน ปิดถนนเรียกร้องลงมาขอยื่นหนังสือต่อตัวแทน สส.ในพื้นที่และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผลักดันถนนเส้นนี้ ให้สำเร็จเพราะชาวบ้านเดือดร้อนนานหลายสิบปี

นายสุเทพ ทันค้า ตัวแทนชาวบ้านตำบลหนองบุญนาก และอดีตรองนายก อบต. หนองบุญนาก ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าทางตนในฐานะกลุ่มแกนนำชาวบ้าน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และตัวแทนจากองค์การบริหารตำบลหนองบุญนาก นายก อบต. พร้อมสมาชิกสภาฯ อบต.หนองบุญนาก ได้นับรวมตัวชาวบ้านกว่า 500 คน เพื่อมาแสดงพลังในการร่วมผลักดันให้ทางจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อำเภอหนองบุญมากและทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดสรรงบประมาณลงมาช่วยแก้ไขปัญหาถนนชำรุดระหว่างบ้ายชัยตะคร้อ-บ้านหัวทำนบ ซึ่งมีสภาพเป็นโคลน หลุม บ่อ จำนวนมาก ซึ่งมีระยะทางกว่า 12 กิโลเมตร โดยไม่มีการแก้ไขมานานนับ 10 ปี ชาวบ้านที่สัญจรไปมาลำบากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะหน้าฝน มีน้ำขัง แถมยังเป็นหลุมบ่อตลอดเส้นทาง การขนพืชผลทางการเกษตร การสัญจรเป็นไปอย่างล่าช้า การขนคนเจ็บป่วยเวลาฉุกเฉินมีความลำบากมาก เด็กนักเรียนเดินทางไปโรงเรียน ซึ่งมีความลำบากที่สุด

ซึ่งเส้นทางนี้ถือว่าเป็นเส้นทางหลักในการใช้สัญจรไประหว่างอำเภอหนองบุญมากไปยังอำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสางได้ มีการสัญจรของชาวไร่ ชาวนา และประชาชนจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับการแก้ไขทั้ง ๆ ที่ยื่นเรื่องขอแก้ไปจากทาง อบต.หนองบุญมาก หลายครั้ง รวมทั้งชาวบ้านเองก็ร้องเรียนไปยัง อบจ.นครราชสีมา หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานออกมารับผิดชอบแต่อย่างใด ทางตนและแกนนำชาวบ้านจึงได้นัดรวมตัวกัน วันที่ 27 กรกฎาคม 2563 เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อตัวแทนสำนักนายกรัฐมนตรี ให้นำเรื่องเสนอต่อนายกรัฐมนตรี นายกประยุทธ จันทร์โอชา ให้นำเรื่องความเดือดร้อนเร่งแก้ไขให้กับทางชาวบ้านตำบลหนองบุญมากต่อไป

ทางด้าน ส.ส.อภิชา เลิศพชรกมล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาเขตอำเภอโชคชัย-หนองบุญมาก ได้รับการประสานงานของกลุ่มแกนนำชาวบ้านจึงได้ส่งตัวแทน คือ ส.ส.พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทรักธรรม ได้เดินทางมาพบกับกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวประท้วงพร้อมรับหนังสือร้องเรียนจากทางแกนนำ และได้พูดคุยกับผู้ชุมนุมว่า ตนมาในฐานะตัวแทนสำนักนายกรัฐมนตรี ตนเดินทางมาก็รู้สึกว่าถนนเส้นนี้สัญจรไปมาลำบากเป็นอย่างมาก ตนจะได้นำเรื่องไปพูดคุยกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในช่วงวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อขอดำเนินการส่งเรื่องพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วน ส่งถึงจังหวัดและ อบจ.นครราชสีมา ให้ลงมาแก้ไขโดยด่วน หากทางจังหวัดและ อบจ.นครราชสีมาไม่สามารถดำเนินการ ตนจะขอให้รัฐบาลดึงเงินจาก อบจ.นครราชสีมา กลับคืนสู่แผ่นดิน และเอางบลงมาดำเนินการให้พี่น้องชาวหนองบุญมากที่เดือดร้อนต่อไป และจะหารือกับท่านนายกรัฐมนตรี นายประยุทธ จันทร์โอชา เพื่อให้การช่วยเหลือโดยด่วน ต่อไป

สถานพินิจฯ โคราช จัดแข่งขันกีฬาภายใน เพื่อบำบัด แก้ไข ฟื้นฟูปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กและเยาชน

19 มิถุนายน  2563  สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ได้มีโครงการจัดการแข่งขันกีฬากรีฑาภายในประจำปี  2563 

โดยได้รับเกียรติจาก นายอภิชาต  ติยวัฒน์  ประธานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสำหรับสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา  เป็นประธานเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรม ร่วมให้กำลังใจในการแข่งขันกีฬาภายใน และได้รับการต้อนรับจาก นายคมกฤษณ์  แสงจันทร์  ผู้อำนายการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา  และ ดร.รัตนะ  วรบัญฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา

 สำหรับการแข่งขันกีฬาภายในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นการพัฒนาทักษะชีวิต โดยนำเอากีฬามาเป็นสื่อกลาง  สร้างความรัก ความสามัคคี สร้างความสนุกสนาน และรู้จักการทำงานเป็นทีม รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 

โคราช ประสบปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่ อ.สูงเนิน หากช่วงฤดูฝนปีนี้ ฝนทิ้งช่วง คาดว่าจะไม่มีน้ำอุปโภค – บริโภค

                ที่ผ่านมา  ในเขตอำเภอสูงเนินยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง  โดยเฉพาะ พื้นที่  ตำบลนากลาง

สระน้ำที่เป็นแหล่งผลิตประปาของหมู่บ้านน้ำได้แห้งขอด ด้าน นายถิ่น  เติบสูงเนิน นายก อบต.นากลาง ได้สั่งการให้ พ.อ.ท.ธีรพงษ์   สังข์เนิน หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.นากลาง รีบดำเนินการสูบน้ำเข้าสระประปาเพื่อผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 9  จำนวน 1,620 ครัวเรือน  จำนวนประชากร 3,261 คน ประชากรแฝงประมาณ 2,000 คน โดยการใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 2 เครื่อง สูบเข้าสระประปาให้ได้มากที่สุด ถ้าช่วงฤดูฝนปีนี้ฝนยังทิ้งช่วงอยู่คาดว่าอาจจะไม่มีน้ำอุปโภค – บริโภค  เร่งสูบน้ำช่วยเหลือราษฎร

ส่อเค้าวุ่นชาวบ้านไม่พอใจโรงงานน้ำตาล,สนามกอลฟ์สูบเลือด!!!ลำตะคอง

ลำตะคอง

เกือบวุ่น!! ประชาพิจารณ์ สูบน้ำลำตะคอง กลุ่มไม่เห็นด้วยยืนหนังสือคัดค้าน
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ศาลาวัดบ้านใหม่สำโรง ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนตำบลลาดบัวขาว เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นโครงการสร้างโรงสูบน้ำ และสะพานรับท่อส่งน้ำ (คลองบุ่งยาง) บ้านใหม่สำโรง หมู่ที่ 3 ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยมีชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านใหม่สำโรง กว่า 200 คน เข้าร่วมรับฟัง


โดยเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ในที่ประชุมไม่เปิดโอกาสให้ชาวบ้านสอบถามถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการสูบน้ำจากลำตะคอง อ้างแต่จะเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่บ้านใหม่สำโรงเข้าไปทำงานที่โรงงาน

บรรยากาศเป็นไปด้วยความตรึงเครียด มีการโห่ร้อง แซวกันไปมาระหว่าง กลุ่มที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย โดยผู้มีอำนาจของบริษัท โรงงานน้ำตาลแห่งหนึ่ง มาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณรอบที่ประชุม แต่ไม่ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์แต่อย่างใด

ด้านกลุ่มเรารักษ์สีคิ้ว ผู้คัดค้านโครงการดังกล่าว ยื่นยันว่า กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ บ้านใหม่สำโรง กว่า 200 คน ลงชื่อไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวแล้วโดยกลุ่มเรารักษ์สีคิ้วเตรียมเข้าร้องศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดต่ออาทิตย์หน้า..