#แจกฟรีทุกคนที่ฉีดครบ2เข็ม

สำหรับผู้ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็ม โดยไม่จำกัดยี่ห้อวัคซีน สถานที่ฉีด และภูมิลำเนา สามารถติดต่อรับได้ฟรีทุกคน ที่เซ็นทรัลโคราช ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป บริเวณด้านหน้า Korat Hall ชั้น 4 เวลา 09.00-16.30 น. โดยแสดงหลักฐานการรับวัคซีนกับเจ้าหน้าที่

สำหรับแคมเปญริสแบนด์ I Got Vaccinated เป็นโครงการโดยภาคเอกชน กลุ่มพลังใจโคราช และ HackVax Korat เป็นผู้จัดทำริสแบนด์มาแจกให้ฟรี โดยร่วมมือกับกลุ่มห้่ง ร้าน และธุรกิจต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมา มอบเป็นส่วนลดและสิทธิพิเศษ ให้กับผู้ที่สวมริสแบนด์ มีร้านต่างๆ ในจังหวัดเข้าร่วมแคมเปญมากมาย เพื่อกระตุ้นให้เศรษฐกิจในจังหวัดสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยเร็วที่สุด

#ชน3คันรวด #แหกระจาย (วันที่ 30 สิงหาคม 2564)

เวลา 06.30 น.เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถยนต์กระบะและรถเก๋ง ที่หน้าปั้มน้ำมัน ปตท.บ้านโคกคอนอินทร์
ตำบลมะเริง อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา
ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย ทั้ง 2 รายมีแผลถลอกตามร่างกาย รู้สึกตัวดี
กู้ภัยฮุก31 นำผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่1 คนขับรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ100สีดำ-เทา กลน 404 จันทบุรี ทำให้แหที่เก็บไว้ใต้เบาะกระจายออกมา ส่งโรงพยาบาลมหาราช และรายที่2 คนขับรถยนต์กระบะมาสด้า สีขาว 8977 นครราชสีมาส่งโรงพยาบาลป.แพทย์ 2
ผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่1ชื่อนายลิขิต เข็มสุวรรณ์ อายุ 44 ปีที่อยู่ 13/1 หมู่ 2 ตำบลมะเริง
อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ผู้ได้รับบาดเจ็บรายที่2ชื่อนายวทัญญู รัตนา อายุ 29 ปี ที่อยู่ 679 ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
ส่วนรถคันที่3 โตโยต้า โคโรล่า อัลติส สีขาว 6ภค916 กรุงเทพมหานคร ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

Cr.แจ้งข่าวสารโคราชบ้านเอง

หลวง​ปู่​ไม​ อินฺทสิริ​ ละสังขาร​แล้วด้วย​อาการ​สงบ​ ณ​ โรง​พ​ยา​บ​า​ลรามาธิบดี​ กรุงเทพ​มหานคร

หลวง​ปู่​ไม​ อินฺทสิริ​ ละสังขาร​แล้วด้วย​อาการ​สงบ​ ณ​ โรง​พ​ยา​บ​า​ลรามาธิบดี​ กรุงเทพ​มหานคร​ เมื่อเวลา​ ๐๑.๑๒​ น.​ ตรงกับวัน​ศุกร์​ที่​ ๒๗ สิงหาคม​ ๒๕๖๔​ สิริอายุ​ ๗๓​ ปี​ ๗​ เดือน​ ๒ วัน​ ๕๔​ พรรษา​

ชีวประวัติและปฏิปทาหลวงปู่ไม_อินฺทสิริ

วัดป่าเขาภูหลวง ต.ระเริง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา​

ชีวิตครอบครัววัยเด็ก

หลวง​ปู่​ไม​ อินทสิริ​ ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์​ที่​ ๒๕​ มกราคม​ ๒๔๙๑​ ตรงกับวันพระขึ้น​ ๑๕​ ค่ำ​ เดือน​ ๒​ ปีชวด​ เกิดในสกุล​ “จันทร์​เหล็ก” บิดาชื่อ​ “นายด้วง” มารดาชื่อ​”นางจันทร์ศรี” เกิด​บ้านเลขที่​ ๒๐​ หมู่​ ๗​ ตำบลคอนสาย​ อำเภอกู่แก้ว​ จังหวัด​อุดรธานี

ท่านเป็นคนที่มีนิสัย รักพ่อรักแม่ รักญาติพี่น้อง เคารพนับถือญาติทุกคน ดี ไม่ดี ก็เคารพ ไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมา ถึงแม้บางครั้งจะน้อยใจอยู่บ้าง ท่านอยากบวชตั้งแต่เรียนอยู่ประถมปีที่ ๔ ขอพ่อ พ่อก็ไม่ให้ พ่อขอให้ช่วยงานบ้าน ช่วยแม่เลี้ยงน้อง เพราะน้องยังเล็ก ต้องอาศัยท่านช่วยงานบ้าน ตักน้ำ ตำข้าว ท่านมีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน ชาย ๖ คน หญิง ๑ คน คุณพ่อขอให้น้อง ๆ โตก่อนค่อยบวช

ตอนอายุประมาณ ๑๐ – ๑๑ ปี ไปอยู่หนองบัวลำภู เช้าท่านจะนำควายไปเลี้ยงตามทุ่งนา ท่านชอบนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ ” ใต้ต้นค้อ” ท่านชอบนั่งหลับตาเป็นนิสัย แต่ไม่ได้ภาวนา ท่านมักจะเห็นสวรรค์เป็นหอปราสาท และเห็นสักกเทวราช (พระอินทร์) ใส่โจงกระเบน เหาะลงมาสอนท่านสวดมนต์คาถา จนท่านท่องจำได้ จนอายุ ๑๖ – ๑๗ ปี ก็ยังเห็นท่านอยู่ ท่านจะสอนธรรมะ คาถาป้องกันตัว อยู่ยงคงกระพัน คาถาเจ็บไข้ได้ป่วย เวลาท่านสักกเทวราชจะกลับ ท่านจะสั่งว่า เวลามีเรื่องอะไร ให้นึกถึงพ่อ ท่านเรียกตัวเองว่า พ่อ ท่านจะลงมาช่วย พระอาจารย์ท่านไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากคุณพ่อ คุณพ่อท่านให้เขียนคาถาเอาไปท่อง เพราะเหตุนี้ เวลามีคนเจ็บไข้ได้ป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มาหาพระอาจารย์ไม ท่านเป่าให้ บอกหาย คนนั้นก็หาย

อายุ ๑๒ – ๑๓ ปี ท่านทำงานบ้านทุกอย่าง ช่วยแม่ตำข้าว ตักน้ำ ทำอาหาร และรับจ้างทุกอย่าง จนเก็บเงินซื้อควายได้ ๒ ตัว ตอนอายุ ๑๓ ปี ( เปรียบเทียบกับคนอายุ ๖๐ บางคนยังซื้อควายไม่ได้เลย ) ท่านเป็นคนที่ไม่กระตือรือร้นในการแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็ได้ ไม่ชอบเที่ยว ดูหนัง ร้องรำทำเพลง แต่รำกลอนเป็นเพราะพ่อสอนให้ พ่อเคยเป็นหมอลำเรียกโจทย์แจ้ ตอบปัญหาทางด้านประวัติศาสตร์ ธรรมะ ภาษาไทย บาลี มคธ พ่อสอนเก่งมาก พ่อสอนให้รำ เพราะว่าเป็นประวัติศาสตร์คำสอนในทางศาสนา

อายุ ๑๔ ปี คุณพ่อเสีย ก่อนเสียพ่อป่วยอยู่เป็นปี วันนั้นเฝ้าพ่ออยู่คนเดียวประมาณบ่าย ๓ โมง พ่อสั่งว่าอีก ๓ วันพ่อจะตายให้เลี้ยงน้องให้โตก่อน แล้วบวชให้พ่อด้วย มีคำหนึ่งที่พ่อสั่งไว้ว่า ถ้าพ่อตายแล้วแม่คิดจะมีสามีใหม่ อย่าไปห้ามแม่นะ แต่อย่าให้สามีใหม่มารังแกน้อง อยู่มาอีกปีเศษ มีคนมาชอบแม่ ขอแต่งงาน แม่ถามว่าจะให้แม่แต่งงานหรือไม่ ก็ถามแม่ว่าจะแต่งทำไม แม่ว่าจะได้มาเลี้ยงน้อง ดูแลงานบ้าน พ่อเลี้ยงเป็นนักเลง เล่นการพนัน ชอบขโมยของมาเล่นการพนัน อยู่มาวันหนึ่ง น้องชายคนติดกัน กลับมาจากโรงเรียน แม่บอกให้ไปไล่ควายจากทุ่งนากลับเข้าบ้าน แต่น้องชายไม่รีบไป แม่ก็บ่น พ่อเลี้ยงเสริมว่า ไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ จะฆ่ามันตาย จับไม้ค้อนขว้างถูกใส่ส้นเท้าเป็นแผล น้องชายร้องไห้ ตอนนั้นพระอาจารย์ไมอายุ ๑๕ ปี เห็นพ่อเลี้ยงทำอย่างนั้นเสียใจมาก กลางคืนท่านฝนมีดยาว ๑๕ เซนติเมตร อยู่ ๓ วัน ๓ คืน คิดจะฆ่าพ่อเลี้ยง จะแทงตอนเขานอน แต่ก็คิดอีกว่า ฆ่าเขาแล้ว จะหนีอย่างไร เพราะตอนนั้นย้ายบ้านไปอยู่หนองบัวลำภู บ้านไกลจากบ้านเก่าที่ จ.อุดร ก็กลัวจะมีโทษ กลัวโดนจับ กลัวไม่ได้ดูน้อง ผ่านไป ๒ – ๓ วัน จนยับยั้งสติอารมณ์ไว้ได้ เป็นจิตที่รักน้องมากที่สุด ไม่อยากให้ใครมารังแก

ต่อมา ญาติพี่น้องทางบ้านเก่าที่อุดรพากันไปรับมาที่บ้านเกิด บ้านเก่า ซื้อไร่ ซื้อนาใหม่ พ่อเลี้ยงก็ตามมาอีก ก็ยังเล่นการพนันเหมือนเดิม ช่วงนั้นเดือนมีนาคม ชาวอีสานแต่ละบ้านจะจัดงาน มีงาบุญ มีเทศน์ผะเหวต กลางคืนมีมหรสพ หมอลำ ตอนเช้าตื่นสาย แม่ปลุกว่าไม่ไปไร่หรือ เพราะปกติต้องไปขุดไร่ ไถไร่ พวกเราตื่นสายประมาณโมงเศษ ๆ พอแม่บ่น พ่อเลี้ยงก็บ่น ทั้ง ๆ ที่พ่อเลี้ยงไม่เคยช่วยงานอะไรเลย พี่ชายคนที่ติดกัน ดึงปืน พระอาจารย์ก็ชักมีด พี่ชายคนโตก็มาห้าม พ่อเลี้ยงก็หนีไปตั้งแต่บัดนั้น ไม่กลับมาอีก ชีวิตคนมีพ่อเลี้ยง แม่เลี้ยงก็แบบนี้แหละ

อายุ ๑๗ ปี ไปช่วยงานญาติพี่น้อง ลุง น้า บ้าง ปลูกอ้อย ข้าวโพด ถั่วลิสง ปลูกผักขาย ส่วนมากเป็นน้าของแม่ ซึ่งท่านเรียกพ่อใหญ่ เพราะเขามีลูกเล็กช่วยงานยังไม่ได้

สู่ร่มกาสาวพัสตร์

อยู่มาอายุ ๑๘ ย่าง ๑๙ ปี ลุงอยากให้มาบวช เพราะที่วัดไม่มีพระเณรมาบวช อีกอย่างเห็นสาวๆ มาคุยเล่นด้วย แต่พระอาจารย์มีจิตใจไม่คิดจะมีลูกเมีย ท่านชอบพูดเล่นกับผู้หญิงสาวๆ ไม่คิดจะแต่งงาน แต่นิสัยจะรังเกียจผู้หญิงที่มาพูดให้ทางผู้ชาย แต่มีความคิดในใจว่า จะแต่งงานกับผู้หญิง ที่มีความรักจริงซื่อสัตย์ บริสุทธิ์ แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์สุจริต บริสุทธิ์ต่อเรา เราจะไม่ยุ่งเด็ดขาด ผู้หญิงที่จะมาแต่งงานกับพระอาจารย์ ถ้าไม่ได้แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย จะไม่แตะต้องผู้หญิงคนนั้น ท่านมีความคิดเช่นนี้ ก็เลยมีความมั่นใจตนเองว่า จะไม่ล่วงเกินผู้หญิงคนใดทั้งสิ้น

แต่ลุงไม่เชื่อว่า จะมีคนคิดแบบพระอาจารย์ ลุงขอร้องให้บวช กลัวจะมีเมียก่อน ลุงเคี่ยวเข็ญทุกวัน สุดท้ายจึงตกลงใจบวช ตกลงไปเข้านาค ก่อนเข้านาคสัญญากับลุงว่า ถ้าหลานไปบวชออกพรรษาเมื่อไร ก็สึกเมื่อนั้น อย่าห้าม ก็เลยไปเข้านาค ๑ เดือน บรรพชาเป็นสามเณรไม เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๐๙ ที่วัดศิริวัฒนา จ.อุดรธานี บวชเป็นเณรอยู่ ๒ พรรษา ( ๑ ปี ๘ เดือน ๑๙ วัน)

ระยะเวลาเป็นเณร อยู่อุปัฎฐากครูบาอาจารย์ อาหารไม่ค่อยมี ไปตัดยอดหวาย หน่อไม้ ตอนเช้าไปทำอาหาร เช่น แกงขี้เหล็ก เลี้ยงถวายครูบาอาจารย์ ถ้าพระ เณรไม่มา พระอาจารย์ตอนเป็นเณร กิจวัตรประจำวัน ตักน้ำจากบ่อเป็นน้ำสรงครูบาอาจารย์ ทุ่มหนึ่งทำวัตรเย็น ๒ ทุ่ม เดินจงกรม ๒ ทุ่มครึ่งนั่งสมาธิ ท่านมีความตั้งใจปฎิบัติ เข้มงวดกวดขัน

สัจจธรรม

ท่านพระอาจารย์ปฎิบัติธรรมได้ตั้งแต่เป็นเณร อายุ ๑๘ ปี จิตของท่านจะน้อมถึงอดีต ท่านคิดว่าระยะเวลาที่ผ่านมาเสียเวลาไปมาก สร้างบาปมาเยอะตั้ง ๑๘ ปี กลัวจะกลับไปเป็น ฆราวาสทำบาปอีก ท่านเคยตั้งสัจจะไว้หลายภพ หลายชาติ เริ่มตั้งสัจจะตั้งแต่เป็นหนุ่ม คนธรรมดาจะคิดเรื่องมีครอบครัวว่าถ้าบวชสึกออกมาอายุ ๒๐ ปี จะต้องมีครอบครัว หาเงินหาทองไว้ก่อนเพื่อให้มีอยู่มีกิน จะแต่งงานกับผู้หญิงมีความบริสุทธิ์ ถ้าผู้หญิงไม่บริสุทธิ์ จะไม่แตะต้องคนนั้นเลย แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นบริสุทธิ์ เรายังไม่ได้ขอแต่งงานก่อน เราจะไม่ถูกเนื้อต้องตัวเลย คิดอยู่เช่นนี้ ปีหนึ่งผ่านไป ผู้หญิงก็หนีไปแต่งงานหมด ไม่มีคนบริสุทธิ์เลย ท่านเลยผ่านพ้นมาได้ ไม่หลงในภพในชาติมากเหมือนคนอื่น

ตอนที่ปฏิบัติใหม่ ๆ เราเพิ่งจะฝึกปฏิบัติธรรม ตอนเดินจงกรมไม่เท่าไหร่​ แต่พอไปนั่งสมาธิ มันเห็นทุกข์ เห็นทุกข์ทันทีเลย พอนั่งไป ๒๐-๓๐ นาที นี่มันรู้เลย ทุกข์มันเกิดขึ้น เหน็บมันไม่รู้มาจากที่ไหน พอเรานั่งไปถึง ๒๐-๓๐ นาที มันจะขึ้นเลย ขึ้นที่เท้าเราเสียก่อน แล้วขึ้นมาตามขา จนขึ้นตามสันหลัง ขึ้นไปบนศีรษะ​ ทำให้จิตใจท้อแท้ไปหลายครั้งหลายหน

นี่สู้ด้วยตนเองมา ตอนบวชเข้ามาใหม่​ๆ ยังไม่รู้เดียงสาอะไร การศึกษาก็ยังไม่มี เพราะว่าเราเพิ่งบวชใหม่ โอกาสที่จะได้ไปศึกษาธรรมะก็ยังไม่มี แต่วันไหนว่างๆ ก็พอได้อ่านประวัติพระพุทธเจ้า อ่านหนังสือพุทธประวัติเล่มหนึ่ง แต่ทำอย่างอื่นนั้นยังไม่รู้ แต่ครูบาอาจารย์สอนให้เรานั่งสมาธิ นั่งสมาธินั่งแบบไหน เดินจงกรมเดินแบบไหน ท่านบอกเรา เวลาเดินก็กำหนดเอาต้นไม้ที่ห่างจากกัน ๒๐-๓๐ เมตร แล้วเดินจากต้นไม้ต้นนั้น ไปต้นไม้ต้นนั้น มีจุดหมายปลายทางเดินแล้วก็มานั่ง ตอนนั่งมันจะเป็นทุกข์ได้ง่ายกว่าเดิน

เพราะอิริยาบถนั่งจะเป็นการนั่งอยู่ท่าเดียว ถ้าเรายังไม่เกิดความเคยชิน เราจะนั่งไม่ได้นาน อันนี้เป็นครั้งแรกที่เราเริ่มปฏิบัติธรรม มองทางสุขไม่มีเลย มีแต่ทุกข์อย่างเดียว การปฏิบัติธรรมอันดับแรกมองเห็นแต่ทุกข์อย่างเดียว ไม่มีสุขเพราะมันเจ็บปวด มันทรมาน ทั้งที่เราอยากรู้อยากเห็นอยากได้ธรรมะ อยากให้จิตสงบเป็นสมาธิ แต่สิ่งที่รบกวนก็ดลบันดาลอยู่อย่างนั้น ทำให้จิตใจของเราท้อถอยอยู่ตลอดเวลา

นั่งแต่ละวันได้ ๒๐-๓๐ นาที ก็ลุกขึ้นแล้ว
ไปเดินแล้วเปลี่ยนอิริยาบถใหม่แล้ว เดินไปเป็นชั่วโมง มานั่งอีก ๒๐-๓๐ นาทีก็ไปอีกแล้ว พยายามอยู่อย่างนี้ก็แพ้อยู่อย่างนี้ ทำเป็นเดือนก็อยู่อย่างนี้ ทีนี้ทำยังไงถึงได้ตัดสินใจ การตัดสินใจคือตัดสินใจด้วยการได้ยินได้ฟัง จากครูบาอาจารย์ท่าอบรมสั่งสอนเรา ครูบาอาจารย์ท่านแสดงอภินิหารให้เราเห็น แสดงอภินิหารแบบไหน ท่านมีความรู้พิเศษ ท่านสอนเราให้ปฏิบัติแล้วเราทำไม่ได้ ท่านค่อยมาเตือนเราทีหลังพอเราเจอทุกข์ ทีนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่จูงใจ ให้เราปฏิบัติกล้าตัดสินใจต่อสู้ จริงๆ จังๆ แล้วนั่น คือ

พระอาจารย์ของเราท่านบอกว่า วันนี้ มีพระท่านกำลังเดินทางมา ระยะทางนั่น ๗-๘ กิโลเมตรจากวัดเราไปหาวัดท่าน

ฉันเช้าเสร็จท่านบอกว่า ไปล้างบาตรแล้วเอาบาตรเราไปส่งกุฏิ อย่าเพิ่งไปนะ ท่านพูดอย่างนี้ ทีนี้อาตมาก็เลยเอาบาตรล้างบาตรเสร็จเรียบร้อยก็เอาบาตรไปไว้ที่กุฏิ
ก็นั่งคอยท่านอยู่ ซักพักท่านก็ขึ้นกุฏิไป

พอท่านขึ้นกุฏิไป ท่านบอกว่า ตอนนี้มีพระท่านกำลังเดินทางมา พระองค์นั้นชื่อ อาจารย์บุญเกิด ท่านอยู่วัดป่าศรีคุณาราม บ้านจีบ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี ส่วนอาตมาอยู่วัดป่าศิริวัฒนา บ้านโนนถั่วดิน

ท่านอาจารย์องค์ที่เป็นอาจารย์ของอาตมา ชื่อพระอาจารย์ศรี อุจโย ท่านบอกว่าพระอาจารย์บุญเกิดกำลังเดินทางมา ท่านจะไปบ้านเลาใหญ่ ไปขอไม้ไผ่กับท่านอาจารย์สาลี วัดป่ามัจฉิมวงศ์ ที่อ.กุมภวาปี มาทำซี่กลด เพราะว่าไม้ไผ่ในสมัยนั้น วัดป่ามัจฉิมวงศ์เป็นวัดเก่าแก่
ไม้มันแก่ดี เอามาทำซี่กลดได้มอดมันไม่กิน แต่ส่วนวัดพวกเราเป็นวัดใหม่ ไม้ไผ่ยังไม่มี

ท่านก็เลยบอกว่าท่านกำลังเดินทางมา มีพระองค์หนึ่งใส่แว่นตาดำเดินตามหลังมา มีเด็กวัด ตัวเล็กๆ สะพายย่ามเดินอยู่กลาง ท่านว่าอย่างนี้ แล้วท่านก็บอกให้เอาเสื่อมาปู เอากา

จับแก๊งแฮกเฟชบุ๊ก/ไลน์หลอกโอนเงิน!!!

กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 จับกุม แก๊งแฮกเฟซบุ๊ก,ไลน์ หลอกโอนเงินจ่ายค่าสินค้า
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 ,พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย, ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ประสงค์ เรืองเดช ผบก.สส.ภ.3 ,พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง รอง ผบก.สส.ภ.๓, พ.ต.อ.สุกาญจน์ นิลอ่อนผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.๓ พ.ต.ท.วรวรรธน์ ขันเครือ , พ.ต.ท.จิรัฎฐ์ อรุณลักษณ์ รอง.ผกก.สืบสวน 3ฯ , พ.ต.ต.วิชิต สันติสิทธิมนธร สว.กก.สืบสวน 3ฯ, พ.ต.ต.ธนยศ สีชาพานิจ สว.กก.สืบสวน 3ฯ, พ.ต.ต.สมพร ทองประดับ สว.กก.สืบสวน 3ฯ ร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นคราชสีมา, กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ, สภ.โพธิ์กลาง ทำการสืบสวนจับกุมคนร้าย จำนวน 2 คน ดังนี้
ด้วยเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 น.ส.เฉลิมลักษณ์ ภูวสวัสดิ์(ผู้เสียหาย) ถูกคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใคร ได้ใช้ไลน์(เก่า)ของนายประสิทธิ์ฯที่เคยทำโทรศัพท์เคลื่อนที่หายเมื่อประมาณ 5 ปี ก่อนเกิดเหตุ แล้วแชท มาหลอกยืมเงินผู้เสียหายเพื่อจ่ายค่าสินค้า

ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารของคนร้าย รวมเป็นเงินทั้งหมด 47,900 บาท เหตุเกิดพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง และในวันเดียวกัน มีนางสมจิตร์ ภูวสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายได้ใช้ไลน์(เก่า)ของ นายประสิทธิ์ฯ หลอกยืมเงินเพื่อจ่ายค่าสินค้า จำนวน 10,500 บาท เหตุเกิด สภ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา

  1. วันที่ 13 ก.ค.2564 เวลา 09.00 น. จับกุม นายภิญโญ คงกอง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/2 ม.3 ต.ไตรตรึงษ์ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชรตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 167/2564 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตนและร่วมกันกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” สถานที่จับกุม บริเวณลานจอดรถบริษัทอาร์ซีทีคอนซูมเมอร์ จำกัด 71/71 ม.8 ต.บางกะจะ อ.เมือง จันทบุรี
    พร้อมตรวจยึด โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง, บัตร ATM จำนวน 2 ใบ ตรวจสอบยอดเงินหมุ่นเวียนในบัญชีธนาคาร 3 เดือน จำนวน 3 ล้านบาท
    2. วันที่ 14 ก.ค.2564 เวลา 15.00 น. จับกุม นายวัชรพล ศิริบุตร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.13 ต.ก้านเหลือง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 168/2564 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 59 ม.13 บ้านหนองจินดาน้อย ต.ก้านเหลือง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตรวจยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 1 เครื่อง ที่ใช้ในการรับโอนเงิน
    จากการขยายผลทราบว่า นายภิญโญ คงกอง และนายวัชรพล ศิริบุตร มีหน้าที่รับจ้างโอนเงินเข้าบัญชีของคนร้าย โดยได้รับค่าตอบแทน เงินจำนวนร้อยละ 10(นายภิญโญฯ) และร้อยละ 3 (นายวัชรพลฯ) ของจำนวนเงินที่รับโอน ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลหาตัวผู้รวมการกระทำความผิดอีกต่อไป

“จุรินทร์”ควง”คุณหญิงกัลยา” ลุยเมืองย่าโม เคาะ 4 ประเด็น เตรียมจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 ฟื้นเศรษฐกิจ

“จุรินทร์”ควง”คุณหญิงกัลยา” ลุยเมืองย่าโม เคาะ 4 ประเด็น เตรียมจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 ฟื้นเศรษฐกิจคาดสะพัดกว่า 1,600 ล้าน พร้อมจัดงาน Agro FEX 2021 ชน CIIE จีน เปิดช่องทางยกระดับตลาดมันสำปะหลัง ห้ามส่งออกต่ำกว่าราคาแนะนำ

วันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 12.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมระหว่างทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัดและภาคธุรกิจ ณ ห้องประชุมโรงแรม แคนทารี โคราช จังหวัดนครราชสีมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า

วันนี้เป็นการประชุมทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา ได้ข้อสรุปร่วมกัน 4 ประเด็นประเด็นแรก ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้จังหวัดนครราชสีมาจะร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000,000 คน ทำให้เงินสะพัดรวมประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยต้องเปิดเมืองอย่างน้อย 4 อำเภอ อำเภอเมืองอำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียวและอำเภอพิมาย ซึ่งต้องมีวัคซีนตามเกณฑ์ที่ ศบค.กำหนด โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่จัดสรรวัคซีนต่อไป อาจมีการขีดวงพื้นที่ในแต่ละอำเภอให้สามารถจัดงานได้ให้มีการฉีดวัคซีน 70% ของผู้เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับ”อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ที่ตนได้หารือกับกระบี่ ภูเก็ตและพังงาก่อนนี้

ประเด็นที่สอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Agro FEX 2021 เพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้าเกษตรในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดภาคอีสานใกล้เคียง วันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2564 ให้ตรงกับงานส่งเสริมการนำเข้าส่งออกของจีนที่เซี่ยงไฮ้ China International Import Expo (CIIE)ให้สามารถใช้ตลาดจีนเปิดโอกาสผู้นำเข้าจีนจากทั่วประเทศมาสั่งสินค้านำเข้าไปยังจีนได้

ประเด็นที่สาม เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนและภาคการเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา ในการค้าขายกับประเทศกลุ่ม CLMV ในระบบออนไลน์ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับภาคเอกชนจัดอบรมให้ความรู้การค้าออนไลน์และระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ส่งเสริมการเปิดตลาดทั้งในประเทศและการส่งออก ให้กับภาคการเกษตร Smart Farmer หรือกลุ่มเกษตรอื่นๆ และกลุ่ม เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เปิดพื้นที่เวลาจัดนิทรรศการส่งเสริมการขายไปยังตลาด CLMV ให้พื้นที่ เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีกับนครราชสีมาหรือภาคอีสาน ออกพื้นที่พิเศษ

ประเด็นที่สี่ เรื่องมันสำปะหลังมี 7 เรื่อง 1.ปีนี้เป็นปีทองของราคามันสำปะหลัง ราคาที่เกษตรกรขายได้โดยเฉลี่ยเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.30-2.50 บาท แต่ถ้าต่ำกว่า 2.50 บาท จะมีโครงการประกันรายได้เป็นตัวช่วยชดเชยเงินส่วนต่างให้ โดยตัวเลขการส่งออก 4 เดือนปีนี้ ส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว 4,000,000 ตัน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะส่งออกมันสำปะหลังได้มากกว่าปีที่แล้ว 2.ภาคเอกชนและภาคเกษตรกรเห็นควรให้มีการดำเนินการนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังต่อไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ โดยปีนี้จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ตนจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 3.การหาตลาดให้กับมันสับ เพื่อทำอาหารสัตว์ในประเทศและผลิตภัณฑ์อื่นๆ มอบให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดจัดหาตลาดในประเทศโดยประสานระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด 4.การแก้ปัญหาช่วงมันสำปะหลังออกเยอะ จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนซื้อมันสำปะหลังเก็บสต๊อกโดยโดยกระทรวงพาณิชย์จะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และขยายโครงการนี้ให้นานกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม 5.เพื่อแก้ปัญหาการตัดราคาส่งออกกันเอง ให้มีการร่วมมือกันของ 3 สมาคมกับกรมการค้าต่างประเทศ กำหนดราคาแนะนำขั้นต่ำของการส่งออก ถ้าละเมิดราคาแนะนำให้สมาคมจัดการกันตามเงื่อนไขของสมาคม6.การขยายตลาดมันสำปะหลังซึ่งตลาดใหญ่คือจีน ยังเป็นตลาดที่สามารถขยายตัวได้อีกเพราะมีหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มันสำปะหลังของเรา และบางอุตสาหกรรมเช่นอาหารสัตว์ยังไม่ได้ใช้มันสำปะหลัง โดยให้ทำแผนขยายตลาดเพิ่มเติม 7.ประเทศไทยควรมีการระดมความร่วมมือกลุ่มเกษตรกร ภาคการแปรรูปและทุกฝ่าย ระดมสมองนำมันสำปะหลังไทยไปสู่การนำสมัย กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยต่อไป

ทั้งนี้ในการประชุมมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมประชุมหารือด้วย

นายกเหล่ากาชาดชวนชาวโคราช บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤตโรคระบาดโควิด 19

ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางสายชล บุญอรณะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา  นำกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2  ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก (World Blood Donor Day 2021) ท่ามกลางมาตรการการป้องกันโควิด-19 ในทุกจุด  ซึ่งผู้บริจาคโลหิตจะได้รับเสื้อยืดเป็นที่ระลึก 

ด้านเทคนิคการแพทย์หญิงศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย กล่าวว่า ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทยที่มีหน้าที่ดูแลโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จำนวน ประมาณ 59 แห่ง

ปัจจุบันยังคงมีความต้องการโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมาก และต้องการในทุก ๆ กรุ๊ป ซึ่งวันผู้บริจาคโลหิตโลกที่มีแคมเปญแจกเสื้อให้กับผู้บริจาคระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2564 (6 วัน) นั้น คาดการณ์ว่า จะมีโลหิตสำรองไม่ต่ำกว่า 400 ยูนิต ขณะที่ในเรื่องมาตรการการป้องกันโควิด-19 นั้น จุดรับบริจาคโลหิตทุกแห่งได้ปฏิบัติตามมาตรการของการป้องกันโควิด-19 ทุกขั้นตอน


สำหรับวันที่ 14 มิถุนายนของทุกปี กำหนดให้เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก หรือ World Blood Donor Day 2021 เพื่อระลึกถึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ แพทย์ชาวออสเตรียผู้ค้นพบหมู่โลหิตระบบเอบีโอเป็นครั้งแรก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่องานบริการโลหิตทั่วโลก ท่านได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือแพทยศาสตร์ในปี ค.ศ.1930 ในการนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) สหพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ (FIODS) และสมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ (ISBT) เชิญชวนให้สภากาชาดทั่วโลกจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและขอบคุณผู้บริจาคโลหิต โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดงานวันผู้บริจาคโลหิตโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 และจัดมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 17


ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2564 มีคำขวัญว่า “Give blood and Keep the World Beating – ให้โลหิต ช่วยโลก พ้นวิกฤติ” เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริจาคโลหิตมีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยความสมัครใจไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพิ่มจำนวนการบริจาคโลหิต ช่วยให้มีโลหิตสำรองเพิ่มระหว่างการระบาดของ COVID-19 ซึ่งในปีนี้ จัดเป็นสัปดาห์วันผู้บริจาคโลหิตโลก ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2564 ผู้บริจาคโลหิตจะได้รับ “เสื้อยืดวันผู้บริจาคโลหิตโลก” เป็นที่ระลึก พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกอีกหลากหลายรายการด้วย
สำหรับท่านใดที่ต้องการบริจาคโลหิตในวันผู้บริจาคโลหิตโลก สามารถบริจาคได้ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย /ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช และภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคได้ที่สาขาบริการโลหิต สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา /ห้องบริจาคโลหิตเดอะมอลล์นครราชสีมา ชั้น 2 /โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

“สุวัจน์” ฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” เข็มแรกที่โคราช

“สุวัจน์” ฉีดวัคซีน “แอสตร้าเซนเนก้า” เข็มแรกที่โคราช ย้ำ วัคซีนคือคำตอบ โควิดจบเร็วเศรษฐกิจก็ฟื้นตัวเร็ว การเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถจัดหาและนำเข้าวัคซีนได้หลากหลายถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (7 มิถุนายน 2564) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา คิวฉีดวัคซีนในลำดับที่ 555 ได้เดินทางมาฉีดวัคซีนต้านโควิด 19 ที่โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดบริการฉีดวัคซีนของ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตามกำหนดนัด

โดยมีนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนา และ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  มาร่วมให้กำลังใจ ท่ามกลางบรรยากาศประชาชน 2 กลุ่มเป้าหมายแรก ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง ที่มีนัดไว้ อย่างเป็นทางการวันแรก จำนวน 622 รายมาเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านโควิด 19 ในวันนี้

โดยบรรยากาศภาพรวมค่อนข้างคึกคัก เพราะถือเป็นวันแรกที่เริ่มคิ๊กออฟฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนในพื้นที่ตามแผนที่ได้วางไว้พร้อมกันทั่วประเทศ

นายสุวัจน์ เปิดเผยภายหลังได้ฉีด “วัคซีนแอคตร้าเซนเนก้า” เข็มแรก โดยมี นพ.เจษฏ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ รพ.มหาราชนครราชสีมา เป็นผู้ฉีดให้ ว่าตนได้มาฉีดตามนัด และมีการเตรียมตัวตามคำแนะนำของแพทย์ก่อนมาฉีด เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และก่อนฉีดก็ต้องตรวจวัดอุณหภูมิ ความดันโลหิตต่างๆ ก่อน  ซึ่งฉีดไปแล้วไม่มีอาการผิดปกติใดๆ สำหรับเข็มที่ 2 มีนัดฉีดในวันที่ 30 สิงหาคม 2564  โดยหลังฉีดทั้งเข็ม 1 และเข็ม 2 ก็ต้องสังเกตอาการหลังฉีดอย่างละเอียดด้วยว่าจะมีผลข้างเคียงอย่างใดหรือไม่  

ส่วนเรื่องจำนวนวัคซีนที่ขณะนี้ยังมีไม่เพียงพอ ตนทราบข้อมูลจากทาง รพ.มหาราชนครราชสีมา ว่า วันนี้เป็นวันแรกของการกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 2 กลุ่มเป้าหมายแรกตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดว่าเดือนมิถุนายน 2564 ทั่วประเทศจะต้องฉีดให้ได้ 6 ล้านโดส , เดือนกรกฎาคม อีก 10 ล้านโดส และภายในปีนี้จะต้องฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส เพื่อคลุมประชากร 50 ล้านคนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่

ฉะนั้น ในส่วนของ รพ.มหาราชนครราชสีมา ได้ประสานกับภาคเอกชนดำเนินการจัดฉีดวัคซีนในจุดบริการต่างๆ ตามเป้าหมาย ซึ่งในระยะเริ่มต้นประชาชนตื่นตัวมีความเข้าใจถึงความจำเป็นเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ดังนั้น ถ้าเราได้วัคซีนมาเพียงพอในเวลาที่รวดเร็ว ก็จะบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้  ซึ่งถือว่าจังหวัดโคราชสามารถควบคุมโควิดได้อย่างรวดเร็ว และวันนี้ก็มีการฉีดวัคซีน ตามนโยบายตามวาระแห่งชาติ ทำได้ด้วยดี ด้วยความเรียบร้อย ระบบขั้นตอน ซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฎฯโคราชก็ลงมาช่วย  รพ.มหาราช และผู้ว่าฯก็ลงมากำกับด้วยตนเอง ทั่วประเทศก็เริ่มคิกออฟกันทั่วประเทศ

“โควิดจบเร็ว เศรษฐกิจก็ฟื้นตัวเร็ว ปัญหาทั้งหมดตอนนี้ ขึ้นอยู่กับการจัดสรรวัคซีนไปให้แต่ละพื้นที่อย่างเพียงพอ ก็ต้องร่วมมือกับทั้งภาครัฐภาคเอกชน ใครมีคอนเนคชั่นที่จะช่วยให้ได้วัคซีนมาอย่างรวดเร็วเพิ่มมากขึ้นก็ต้องร่วมมือกันเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์จึงจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด”  สุวัจน์ฯ

พบพืชชนิดใหม่ของโลกครั้งแรกที่โคราช”แจงสุรนารี”

โคราชพบพืชหายากครั้งแรก

พืชป่าหายากเสี่ยงสูญพันธุ์ตั้งชื่อ ‘แจงสุรนารี’

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อพ.สธ-มทส.) คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนาร (มทส.) นครราชสีมา แถลงข่าวการค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกและค้นพบครั้งแรกในพื้นที่จ.นครราชสีมา


รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนาร (มทส.) ได้เป็นประธานการแถลงข่าว การค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลก และค้นพบครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยทีมนักวิจัยศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (อพ.สธ.-มทส.) ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นไม้พุ่มกึ่งเลื้อย เจริญเติบโตช้า พบในป่าเบญจพรรณแล้ง ถือเป็นพืชป่าเฉพาะถิ่นที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ตั้งชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า “Maerua koratensis Srisnga & Watthana” และมีชื่อไทยว่า “แจงสุรนารี”
เพื่อระลึกถึงท้าวสุรนารี และเป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี โดยได้รับการตีพิมพ์พืชชนิดใหม่ของโลกนี้ในวารสารวิชาการนานาชาติ Phytotaxa เรียบร้อยแล้ว ในโอกาสนี้ อพ.สธ.-มทส. ได้การส่งมอบต้นกล้า “แจงสุรนารี” จำนวน 50 ต้น แก่นางรัชดา ปรัชเจริญวนิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครราชสีมา พร้อมลงพื้นที่ปลูกต้นกล้าเพื่อขยายพันธุ์เข้าสู่พื้นที่ปกปักเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ให้คงอยู่ต่อไปตามธรรมชาติ

โคราชพร้อมเปิดอาคารชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษากว่า 100 เตียง เป็น รพ.สนาม รักษาผู้ป่วย โควิด-19

โคราช เปิดรพ.สนามรองรับผู้ป่วยโควิด-19 หลัง ยอดผู้ป่วย เพิ่ม 23 ราย สะสม 195 ราย วันนี้16เมย64 ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด พลตรีชลิต บรรจุปรุ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 21 นายแพทย์เกรียงไกร วัชรนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมา และนายเกื้อ ชูศรี ผอ.สนง.การกีฬาแห่งประเทศไทยภาค3 ร่วมกันแถลงถึงความพร้อมในการเปิดใช้ รพ.สนามเพื่อรองรับผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับ รพ.สนามแห่งแรกของ โคราช สามารถรองรับผู้ป่วยได้ จำนวน 100 เตียง แบ่งเป็น ชาย 50 เตียง หญิง 50 เตียง นอกจากนี้ยังได้ เตรียม รพ.สนาม ไว้ภายในกองทัพภาคที่2 จำนวน 25 0เตียง สนามลิปตพัลลภ จำนวน 100 เตียง รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีอีก 200เตียง รวม 650 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ยอดผู้ป่วยล่าสุด วันนี้เพิ่มขึ้น 23 ราย แยกเป็นในพื้นที่ อ.เมือง 8 คน( ต.ในเมือง 3 คน , ต.หนองไผ่ล้อม 3 คน, ต.จอหอ 1 คน , ต.หัวทะเล 1 คน) / อ.ปากช่อง 9 คน (ต.ปากช่อง 8 คน , ต.กลางดง 1 คน) / อ.หนองบุญมาก 1 คน (ต.แหลมทอง) / อ.เสิงสาง 5 คน ( ต.ในสมบูรณ์ 2 คน , ต.บ้านราษฎร์ 3 คน)รวมขณะนี้ในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วยสะสม 195 ราย จึงต้องรีบดำเนินการจัดเตรียม รพ.สนามให้พร้อมรองรับผู้ป่วย

Cr: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

พิธีมอบอุปกรณ์และการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จากมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ฯ

อุปกรณ์และการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จากมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ฯ ที่จังหวัดนครราชสีมา

นครราชสีมา วันนี้( ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔) เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา พลอากาศเอกนายแพทย์สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ในพระองค์ ๙๐๔ เป็นประธานในพิธีรับมอบอุปกรณ์และการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จากมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์  ตามโครงการสนับสนุนฝึกอบรมและปฐมพยาบาลช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยมี นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ  มีนายแพทย์นรินทร์รัชต์      พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวรายงาน  มี นางณัฏฐินีภรณ์   จันทรโณทัย  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นายวิสูตร ชัชวาลวงศ์. ปลัดจังหวัดนครราชสีมา    เข้าร่วมงาน  กลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการอบรมได้แก่ เครือข่ายภาคประชาชน ข้าราชการ อสม. อปพร. นักเรียน และนักศึกษา จำนวนรวมทั้งสิ้น ๙o คน  ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก มูลนิธิสอนการช่วยชีวิตร่วมกับวิทยากรจิตอาสาจังหวัดนครราชสีมา และเครือข่ายวิทยากรในระบบการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดนครราชสีมา จำนวน ๓0 คน

ทั้งนี้ นายแพทย์นรินทร์รัชต์  พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา   กล่าวว่า  ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา   ได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน

จังหวัดนครราชสีมา ให้ดำเนินโครงการสนับสนุนการฝึกอบรมและการปฐมพยาบาลช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน

โดยมีมูลนิธิรามาธิบดีในพระราชปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นผู้สนับสนุนในโครงการจิตอาสา CPR เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือโครงการสนับสนุนการฝึกอบรมและการปฐมพยาบาลช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน โดยการดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์การสอน ประกอบด้วย หุ่นฝึก การช่วยชีวิตทั้งหุ่นผู้ใหญ่ หุ่นเด็กหุ่นทารก เครื่อง AED Trainer และอุปกรณ์สอนการช่วยผู้ที่สำลัก (Anti Choking Model) เพื่อมอบให้กับจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ สำหรับการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน จังหวัดละ ๓0 ชุด โดยเบื้องต้นจะส่งมอบให้กับจังหวัดนำร่อง ๑๑ จังหวัด ประกอบด้วย ๑.เชียงใหม่  ๒. พิษณุโลก ๓. ชลบุรี ๔. สุรินทร์   ๕. สมุทรปราการ    ๖. ขอนแก่น  ๗. นครราชสีมา  ๘. พระนครศรีอยุธยา   ๙. อุบลราชธานี    ๑๐. ภูเก็ต และ ๑๑. สงขลา โดย ๔ จังหวัดแรกที่จะได้รับมอบอุปกรณ์ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๔ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา พิษณุโลก สงขลาและภูเก็ต สำหรับ ๙ จังหวัดนำร่องที่เหลือจะได้รับมอบอุปกรณ์ในเดือนเมษายน ๒๕๖๔ นั้น โดยคาดหวังว่าการดำเนินการครั้งนี้  จะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การอบรมสอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานให้แก่ภาคประชาชน ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ในจังหวัดนครราชสีมาครั้งนี้  ตลอดจนให้กลุ่มเป้าหมายมีทักษะมีความรู้ในการช่วยชีวิตเบื้องต้นให้ได้มากที่สุด ต่อไป