เทศกาลอาหารญี่ปุ่น ช๊อปชิมชิว The Mall Japan Discovery เริ่มแล้ว

เดอะมอลล์โคราช ชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์ออนเซ็นสี่ฤดู

พบสุดยอดเมนูต้นตำรับจากแดนอาทิตย์อุทัย
ในงาน “THE MALL JAPAN DISCOVERY 2020 : #มนต์เสน่ห์ออนเซ็น4ฤดู

เดอะมอลล์ โคราช ร่วมกับ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด และ บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลล์ จำกัด จัดงาน “THE MALL JAPAN DISCOVERY 2020 : มนต์เสน่ห์ออนเซ็น 4 ฤดู” พร้อมด้วยพันธมิตรประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ เจแปนฟาวน์เดชั่น กรุงเทพฯ, องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO), องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO), โครงการค้นหาและทดลองจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพ ในการส่งออก (DÉBUTANTE NEW SELECTION OF JAPAN FOODS) และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ภายในงานพบกับการจำลองเมืองออนเซ็นชื่อดังของญี่ปุ่น สะท้อนความงดงามผ่านธรรมชาติของสี่ฤดูกาล พร้อมยังคัดสรรเมนูต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ ในแต่ละฤดูกาลมาให้ลิ้มลองความอร่อย

โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 29 พฤศจิกายน 2563 ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
ร่วมชมพิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ ในวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.00 น.


ณ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช พบกับนักแสดงหนุ่ม มิกค์ ทองระย้า มาร่วมสร้างสีสัน ซึ่งภายในงานโดยได้รับเกียรติจากคุณวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในพิธี คุณณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา คุณดวงตา พงษ์วิไลย์ ผู้อำนวยการใหญ่การตลาด เดอะมอลล์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ คุณชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
คุณกัญชุลี วัฒนกุล ผู้จัดการสายการตลาดภูมิภาค 3 สาขานครราชสีมา บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) คุณตุลา พฤหัสไพลิน Assistant Vice President ผู้อำนวยการ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) คุณธนาคม วิมลวัตรเวทีประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา ร่่

งาน “THE MALL JAPAN DISCOVERY 2020 : มนต์เสน่ห์ออนเซ็น 4 ฤดู” ได้จำลองเมือง ออนเซ็นประเทศญี่ปุ่น ในบรรยากาศสี่ฤดูกาลของสี่เมือง ได้แก่ นิวโต ออนเซ็น (NYUTO ONSEN) จังหวัดอะคิตะ ฉายา ”HIDDEN ONSEN” ออนเซ็นลับเก่าแก่ท่ามกลางป่าและธรรมชาติในฤดูหนาว, ฮาโกเน่ ออนเซ็น (HAKONE ONSEN) จังหวัดคานาง

“ศรัทธาสร้างบารมีหลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน”เพื่อมอบทุนช่วยเด็กและเยาชน


พระครูนิวิฐ ปุญญากร (หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม) วัดธารทหาร (ห้วยด้วน) เกิดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 ที่บ้านสระทะเล เป็นบุตรของพ่อพุด แม่แก้ว ก้อนจันทร์เทศ มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยหลวงพ่อพัฒน์เป็นบุตรคนที่ 2 และมีศักดิ์เป็นหลานหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล
เมื่ออายุได้ 9 ขวบ หลวงพ่อพัฒน์ได้ติดตามบิดา ไปช่วยหลวงพ่อเดิมสร้างวัดหนองหลวง อยู่จนอายุ 13 ขวบ ได้กลับมาอยู่วัดสระทะเลกับหลวงลุงหมึก ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติหลวงพ่ออีกองค์ ในระหว่างที่อยู่วัดหนองหลวงและวัดสระทะเล ท่านได้ร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อเดิมและหลวงพ่อเทศน์วัดสระทะเล เมื่อครั้งได้เกณฑ์ทหาร หลวงพ่อได้เป็นทหารช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อพ้นการเกณฑ์ทหาร หลวงพ่อได้บวชเมื่อปี พ.ศ.2488 ที่วัดสระทะเล โดยมีพระอุปัชฌาย์ พระธรรไตรโลกาจารย์ (เจ้าคุณยอด วัดเขาแก้ว) พระคู่สวดหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว และอธิการชั้ววัดสระทะเล ในช่วงเวลานี้หลวงพ่อก็ได้ไปกราบขอคำชี้แนะจากหลวงพ่อเดิมเสมอเพราะไม่ไกลกัน เมื่อบวชได้ 5 พรรษา หลวงพ่อได้เดินทางไปหาหลวงพ่อซวงวัดชีปะขาว จังหวัดสิงห์บุรี และได้ไปเรียนทางธรรมบางพลีเพิ่มเติมที่วัดพระบาททุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์ หลวงพ่อได้ใฝ่เรียนรู้วิชา และได้มาอยู่ที่วัดห้วยด้วน เมื่อปี พ.ศ.2510 โดยการนิมนต์ของกำนันผล ซึ่งเป็นกำนันในสมัยนั้น และได้อยู่ที่วัดจนถึงทุกวันนี้ เป็นมิ่งขวัญของชาวหนองบัว และพื้นที่ใกล้เคียง


ด้วยดำริของหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม ให้จัดสร้างวัตถุมงคล เพื่อนำรายได้มาช่วยเหลือสังคม เด็ก และเยาวชน ดังนั้น คณะศิษย์ กรรมการวัด นำโดย ส.อ.คิมหันต์ ตลับนาค ได้รับการปรึกษาและร่วมกับ นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา และรองประธานสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อความต้องการ การสนับสนุนสงเคราะห์เด็กขาดโอกาสทางการศึกษาและเปิดโอกาสทางสังคม จึงมีแนวทางจัดสร้างวัตถุมงคล เรียกว่า “รุ่นสร้างบารมี” หรือที่หลายคนเรียกว่าพระขุนแผน (พระพุทธในซุ้มเรือนแก้ว) เป็นพระขุนแผนน้ำหมากที่มีคราบน้ำหมากแท้ ๆ ของหลวงพ่อทาที่หน้าพระทุกองค์ ซึ่งคำหมากของหลวงพ่อ เป็นที่ต้องการของประชาชนมาก บางท่านเข้าไม่ถึง บางท่านไม่มีโอกาสแม้กระทั้งจะได้คำหมากของหลวงพ่อ และให้การจัดสร้างครั้งนี้ เราใช้มวลสารที่เป็นธรรมชาติ เพื่อให้รู้ว่าหลวงพ่อคือพระธรรมดา แต่ท่านมีเจตนาที่จะทำให้สังคมดีขึ้น อยากช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะเรื่องทุนการศึกษา”
โดยการจัดสร้างวัตถุมงคล “รุ่นสร้างบารมี” นี้ มีวัตถุประสงค์

  1. เพื่อมอบเงินทุนฝึกอาชีพและพัฒนาการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชนภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาชนเขต 3 ( นครราชสีมา – บุรีรัมย์ – สุรินทร์ – ชัยภูมิ – สระบุรี)
  2. เพื่อมอบทุนการศึกษาให้เด็กและเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา
  3. เพื่อจัดหารายได้ส่วนหนึ่งถวายแด่หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม เพื่อทำนุบำรุงวัดธารทหาร (ห้วยด้วน) จังหวัดนครสวรรค์
    ทั้งนี้ นายคมกฤษณ์ แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวว่า “ปัจจุบันปัญหาเด็กและเยาชน ไม่ใช่ปัญหาของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของสังคม และชุมชน ฉะนั้นจึงอยากเรียนเชิญผู้ที่มีจิตใจที่เป็นกุศลมาช่วยเหลือกันเพียงคนละเล็กคนละน้อย เพื่อหางบประมาณส่วนนี้มาแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่อยู่ภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 จังหวัดนครราชสีมาแห่งนี้
    โดยในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2563 ได้รับเมตตาจากสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (เจ้าคุณธงชัย)เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานพิธีพุทธาภิเษกร่วมกับหลวงพ่อพัฒน์ และคณะเกจิรวม 21 รูป พุทธาภิเษกพระขุนแผน “รุ่นสร้างบารมี”พิมพ์นำฤกษ์ และวัตถุมงคลผ้ายันต์ รอยมือ และผ้าหมื่นยันต์ร่วมมหาพิธีมงคลพุทธาภิเษกที่ผ่านมา และพระขุนแผนพุทธาภิเษกอีกวาระในวันที่ 15 ธันวาคม 2563
    โดยรูปแบบการดำเนินการ
  • จัดกองทุนผ้าป่าการศึกษาจัดสร้างวัตถุมงคล
    ** “พระขุนแผน รุ่น สร้างบารมี” หลวงพ่อพัฒน์ (เนื้อผงทาน้ำหมาก + แปะจีวร ,ชาญ
    หมากหลวงปู่ บูชาทั่วไป องค์ละ 100 บาท) จำนวน 9,999 องค์
    ** ชุดกรรมการสร้าง 199 ชุด ชุดละ 999 บาท (ลงยา + แปะทองคำแท้ + ฝังตะกรุดทอง)
  • ผ้าหมื่นยันต์ “รุ่น พรหลวงพ่อพัฒน์” (ผ้าแคนวาสและกระดาษ) จำนวน 999 ผืน
  • ผ้ายันต์รอยมือหลวงพ่อพัฒน์ จำนวน 9,999 ผืน

จัดสร้างตามดำริหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม วัดธารทหาร (ห้วยด้วน) จังหวัดนครสวรรค์ โดยคณะศิษย์วัดจัดสร้าง เพื่อสร้างบารมีหลวงพ่อพัฒน์ โดยกำหนดพระขุนแผน จัดออกให้บูชา วันที่ 15 ธันวาคม 2563 นี้ เปิดจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป


ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0863604625 และ 0947849877

พิธีเคลื่อนสรีระหลวงพ่อใหญ่ วัดสุทธจินดา จ.นครราชสีมา

เคลื่อนสรีระร่างหลวงพ่อใหญ่พระสาสนโสภณ สู่ศาลาการเปรียญรอน้ำหลวงสรงศพเวลา16.30น.ณ.วัดสุทธจินดา​ อ.เมืองนครราชสีมา​ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัตประธานในพิธี

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สุกำ พร้อมด้วยเครื่องเกียรติยศ โกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจาตั้งประดับประกอบศพ ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 3 คืน แด่พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) อดีตที่ปรึกษาจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา วรวิหาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ สุกำ พร้อมด้วยเครื่องเกียรติยศโกศแปดเหลี่ยม ฉัตรเบญจาตั้งประดับประกอบศพ ปี่ กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมเวลากลางคืน กำหนด 3 คืน แด่พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) อดีตที่ปรึกษาจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา วรวิหาร วันนี้ (12 ต.ค. 2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศาลาการเปรียญ วัดสุทธจินดา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

มีการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ และสวดพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมศพ พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) อดีตที่ปรึกษาจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา ที่มรณภาพ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2563 เวลา 11.49 น. ณ โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี กลุ่มอำนวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานที่ 11 นครราชสีมา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงวัฒนธรรม อัญเชิญเครื่องเกียรติยศประกอบศพของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ คือ โกศแปดเหลี่ยม-ฉัตรเบญจา ตั้งแต่ง ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทธจินดา วรวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เวลา 10.30 น. คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์เคลื่อนร่างพระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) อดีตที่ปรึกษาจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา จากกุฏิสองเมือง มายังศาลาการเปรียญ วัดสุทธจินดา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าสักการะ สรงน้ำศพ เวลา 11.30-15.30 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ พิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน จากกลุ่มอำนวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานที่ 11 นครราชสีมา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงวัฒนธรรม อำนวยความสะดวก เวลา 16.00 น.

มีการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ โดย สมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี เจ้าหน้าที่กลุ่มอำนวยการพิธีการศพที่ได้รับพระราชทานที่ 11 นครราชสีมา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงวัฒนธรรมประโคมปี่ กลองชนะ เวลาพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ พระสาสนโสภณ (โกศล สิรินธโร) อดีตที่ปรึกษาจ้าคณะภาค ๘ (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา ในเวลา 16.30 น.เริ่มสวดพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมศพ โดยพระพิธีธรรม จำนวน 4 รูป จากวัดบวรนิเวศ โดยมีสมเด็จพระวันรัต กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน และศิษยานุศิษย์จำนวนมากร่วมพิธี ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทธจินดา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา คืนที่ 2-3 (วันที่ 13-14 ต.ค.2563) พระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมศพ เวลา 19.00 น. การแต่งกาย ข้าราชการ ชุดปกติขาวไว้ทุกข์ ประชาชนทั่วไปชุดสุภาพไว้ทุกข์ (งดรับหรีดเคารพศพ)

ขอบคุณที่มา : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา

เฝ้าระวังน้ำท่วมเขตเมืองโคราช ท่วมหรือไม่

#สถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือ#มิตรภาพซอย4จากกรณีปริมาณน้ำที่ขึ้นสูงในพื้นที่ริมตลิ่งของลำตะคองสาขา และ ลำบริบูรณ์ ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน โดยในพื้นที่ของประตูระบายน้ำคนชุมปริมาณน้ำยังคงอยู่ในระดับปกติ และยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวนหนึ่ง

แต่ในขณะเดียวกัน ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งของลำน้ำนี้ ได้รับผลกระทบจำนวนมาก

เบื้องต้น มีหน่วยงานเข้าไปดูแลและช่วยเหลือ อาทิ กองทัพภาคที่2 โดย ศบภ.พลพัฒนา2 ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค เข้าช่วยเหลือ

และเทศบาลนครนครราชสีมา ที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ โดยในวันนี้ เทศบาลจะลงพื้นที่พร้อมด้วยกรมชลประทาน เพื่อสำรวจและให้การช่วยเหลือต่อไป

จับตา 2 งานยักษ์ กระตุ้นเศรษฐกิจโคราช Northeast TECH Thailand 2020 & AgroFEX 2020


.
สภาอุตสาหกรรมโคราช ประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชน จัดงาน Northeast TECH Thailand 2020 และ AgroFEX 2020 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิต19 คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 1,500 ล้านบาท


นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง การจัดงานว่าจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่
เป็นศูนย์กลางความเจริญด้านต่าง ๆ ของภาคอีสาน ซึ่งอีกไม่นานจะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆ ครบถ้วนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และสายการบิน ซึ่งจะทำให้เมืองโคราชมีธุรกิจ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่เติบโต และพัฒนาอย่าง


รวดเร็ว ทำให้จังหวัดเกิดความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากความพร้อมในทุกๆ ด้านนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา จะจัดงาน “Northeast TECH Thailand 2020” และ งาน “Agro FEX 2020” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี อุตสาหกรรม เทคโนโลยีเกษตรและอาหารแปรรูป รวมไปถึงเพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อีกทางหนึ่ง ทั้งสองงานถือได้ว่าเป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่ ที่รวบรวมเครื่องจักรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และ สตาร์ทอัพ รุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีเกษตรและอาหารแปรรูป มาไว้ที่เดียวกัน ซึ่งก็จะตอบโจทย์ในเรื่องของการพัฒนาผู้ประกอบการ รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดในเชิงธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
.
นางสาวอุบลรัตน์ บุญประสาทสุข รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานจัดงาน “Northeast
TECH Thailand 2020” กล่าวว่า สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยี “Northeast TECH Thailand 2020” ในครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงอุตสาหกรรม, สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย , สภาอุตสาหกรรมแห่ง
ประเทศไทย, จังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB (ทีเส็บ) เทคโนธานี ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) สถาบันไทย-เยอรมัน , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช, เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย , สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI , ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา และหน่วยงานภาคเอกชน อีกหลายส่วน ซึ่งปีนี้จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในการจัดงานรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดรับกับมาตรการ การป้องกัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 เพื่อให้เกิดงานที่
เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และผู้ประกอบการ ได้นำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบกิจการของตนเองได้
.
“โดยภายในงานจะมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม , การแสดงยานยนต์ไฟฟ้า , การแสดง
นวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันจากหลายหน่วยงานที่ร่วมจัดสัมมนา เช่น BOI และ สวทช อีกทั้งมีการประชุมหารือเพื่อประสานความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมกับ ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม และที่สำคัญอีกอย่างคือกิจกรรม Business matching ออนไลน์กับตลาดต่างประเทศ ที่จะช่วยผู้ประกอบการได้เพิ่มยอดขายและช่องทางการตลาดใหม่ๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 ซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563 เวลา 16.30 น. ณ ชั้น 1 เซ็นทรัลโคราช โดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานอีกด้วย”
.
ทางด้าน นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานจัดงาน Agro FEX 2020
กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน “Agro FEX 2020” ในปีนี้เป็นปีแรกที่ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาได้จัดขึ้น โดยได้มองเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมในด้านการเกษตรซึ่งสามารถนำมาผลิตต่อในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าว, มันสำปะหลัง,
น้ำตาล กลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปต่างๆ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น กระทรวงพาณิชย์, กรมการค้าภายใน , สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ , สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม
และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB (ทีเส็บ), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช., เขตอุตสาห
ซอฟต์แวร์ประเทศไทย , จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมาซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ และหน่วยงานภาคเอกชนอีกหลายภาคส่วน
.
“กิจกรรมในงาน Agro FEX 2020 นอกจากจะมีการแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปที่หลากหลายแล้ว ยังมี
การที่น่าสนใจเช่น การบรรยายพิเศษ “ทิศทางเศรษฐกิจอีสาน” โตย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานเสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) , บรรยายพิเศษ “ทิศทางของเกษตรแปรรูปและอาหารในอนาคต” โดย ดร. ศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จํากัด , การสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน , สัมมนา “เกษตรผลิต พาณิขย์ขาย ออนไลน์ทั่ว
โลก” , กิจกรรม Business matching ออนไลน์โดย ทูตพาณิชย์ต่างประเทศ , สัมมนา “สินค้าดี มีบาร์โค้ดมาตรฐาน GS1″ ระบบบาร์โค้ดสินค้า
มาตรฐานสากล เพื่อโอกาสการขายใน modern trade และเทคนิคส่งสินค้าเข้าขายในศูนย์การค้า โดยสถาบัน GS1 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2553 ณ Korat Hall ชั้น4 จะมีปาฐกถาพิเศษและเปิดงาน โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อีกด้วย”
.
ทางด้าน นางสาวสุรัชสานุ์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 และงาน Agro Fex 2020
จัดโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีต่าง ๆ พันธกิจหลักของทางทีเส็บในส่วนของงานแสดงสินค้าในประเทศนั้น เรา
เน้นเรื่องการบูรณาการร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศและกระจายรายได้สู่ภูมิภาคผ่านเวทีการจัดงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทีเส็บมีเป้าหมายหลักในการมุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย (targeted industry)ให้เหมาะสม
กับพื้นที่โดยใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเป็นตัวนำและตอบโจทย์ความต้องการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่การจัดงานอย่างแท้จริง
การสนับสนุนงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 และงาน Agro FEX 2020 อยู่ภายใต้การสนับสนุนส่งเสริมงานแสดงสินค้าใน
ประเทศ ในโครงการที่ชื่อว่า Empower Thailand Exhibition (EMTEX) โดยโครงการนี้มุ่งยกระดับงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพระดับภูมิภาค
โดยทีเส็บเล็งเห็นว่าทั้ง 2 งานนี้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ช่วยขับเคลื่อนตอบโจทย์ระดับภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหลักของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งจังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองเศรษฐกิจที่เป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนงานแสดงสินค้า และทีเส็บตั้งเป้าผลักดันให้นครราชสีมา
หรือ โคราชไมซ์ซิตี้ ขึ้นสู่เวทีนานาชาติศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างสมบูรณ์แบบ
.
“จากการทีเส็บได้ร่วมทำงานกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เราเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยใน
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอุตสาหกรรมด้านการเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีแนวโน้มเติบโต ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 ถือเป็นการยกระดับงานจากปีที่ผ่านมาให้เป็นงานแสดงสินค้าที่นำเสนอศักยภาพของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า แขนกลและหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เครื่องมืออุตสาหกรรม, นวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรโรงงาน และอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการจัดงานนี้กิจกรรม Matching Program (การเจรจาจับคู่ทางการค้า) ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย Business Matching ในงาน ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท และงาน Agro FEX 2020 เป็นงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีการผลิตด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปโดยการจัดงา
นี้กิจกรรม Matching Program (การเจรจาจับคู่ทางการค้า) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย Business Matching ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท”
.
ทีเส็บพร้อมให้การสนับสนุนและผลักดันงานนี้ในระยะยาวอย่างเต็มที่ โดยเป็นผู้ร่วมคิด (Collaborator) ผู้ร่วมสร้าง (Co-
Creation) และผู้ช่วยผลักดันงาน (Co-Partner) โดยใช้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเป็นตัวนำ ทั้งสนับสนุนในรูปแบบของงบประมาณ กิจกรรมดำเนินการ และเป็นที่ปรึกษาร่วมวางกลยุทธ์การขยายตลาด ขยายกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business
Matching) โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย (Target Buyer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้
ประกอบการให้มากที่สุด การสนับสนุนงานในครั้งนี้ถือเป็นการผลักดันงานแสดงสินค้าเพื่อเติบโตในรูปแบบที่เรียกว่า Trade
exhibition เพื่อให้งานเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ของจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติ
บโตอย่างยั่งยืน

วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี จัดพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์เก่า โดยมีคณะสงฆ์ร่วมประกอบพิธีกว่า 100 รูป พร้อมด้วยการทอดกฐินประจำปี 2563

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์เก่า เพื่อขับไล่ความไม่ดี หรือสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่เกิดขึ้น และให้เกิดความเป็นสิริมงคล  สิ่งใดที่เชื่อกันว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่เป็นมงคล ที่เชื่อกันว่าฝังอยู่หรือติดอยู่ในที่ต่างๆ เช่น ฝังอยู่ในตัวคน ฝังอยู่ในเครื่องมือเครื่องใช้ ฝังอยู่ในที่อยู่ที่อาศัย ฝังอยู่ในแผ่นดิน โดยในการประกอบพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์นี้ ได้รับเมตตาจาก พระวินัยโมลี (คำปอน สุทธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธ.) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พระครูปลัดภูมิปัญญา(หลวงพ่อเสือ)ญาณสัมปัณโณ เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และคณะสงฆ์ จำนวนอีกกว่า 100 รูป ร่วมประกอบพิธี โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในช่วงบ่าย ได้มีพิธีทอดผ้ากฐินสามัคคี เพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นทุนทรัพย์ในการก่อสร้างศาลาพญาเต่าเรือนที่อยู่ภายในวัดให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของเหล่าโรงทานที่มาร่วมบุญในครั้งนี้ กว่า 30 โรงทาน

นอกจากนี้ ยังมีเหล่าดารา ยกทัพมาร่วมงานบุญในครั้งนี้ อาทิ ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ วิภัทรเดชตระกูล , จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย , จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม , โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ , หลุยส์ พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร , บีม ศรัณยู ประชากริช และ เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข ซึ่งก็ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

กสท.จัดงานสัมมนา “ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไรให้ถูกต้องตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560”

ที่ผ่านมา ณ โคราช Hall 1 ขั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชูเกียรตินามบุญเรือง ผู้อำนวยการสำนักงานบริการลูกค้า เขตตะวันออกเฉียงเหนือ ในนามของ บริษัทกสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ได้ให้การต้อนรับ ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายธีรยุทธ สำราญทรัพย์  ให้เกียรติ มาเป็นประธานในพิธีเปิด งานสัมมนา หัวข้อ “ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างไรให้ถูกต้องตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560”

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560  และเพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนา มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินงาน

และในการสัมมนาครั้งนี้ได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล ในจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา31 สำนักงานสาธารณสุข  จังหวัดนครราชสีมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาท้องถิ่น ทั้งสิ้น  700 ท่าน

กิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา

“เราเป็นมากกว่าโรงพยาบาล เพราะ เราเป็นเพื่อนคุณ”
กิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา การส่งมอบ 111 กิจกรรมทำความ ….เพื่อประชาชน” และการประชุมวิชาการครบรอบ 111 ปี
ในวันที่ 22-23 กันยายน 2563ณ ห้องประชุมสวนหม่อน, สายไหม ชั้น 7 อาคารผู้ป่วยนอก รพ.มหาราชนครราชสีมา พิธีเปิดกิจกรรมเฉลิมฉลอง111 ปีและส่งมอบ กิจกรรมทำความดี … เพื่อประชาชน

โดยมีประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาดจังหวัดนครราชสีมา ผู้กล่าวรายงาน นายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา การปฏิญาณตนของผู้ข้าร่วมกิจกรรมทำความดี และส่งมอบกิจกรรมทำความดีตัวแทนกิจกรรมทำความดี ส่งมอบป้ายกิจกรรมทำความดีประธาน และผู้บริหารผู้มีเกียรติ รับมอบกิจกรรมทำความดี นอกจากนั้นยังมีกลุ่มอสม.ในจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองครบรอบ 111 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศกิจกรรม มีการรับบริจาคอวัยวะ บริจาคเลือด บริจาคดวงตาให้บริการ นวดแผนไทย ฝังเข็ม คลินิกกัญชาทางการแพทย์ณ ห้องประชุมข้างเผือก ชั้น 7 อาคารผู้ป่วยนอก โดย ประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาดจังหวัดนครราชสีมาและร่วม ชม โปสเตอร์กิจกรรมทำความดี และโปสเตอร์ผลงานวิชาการและร่วมกิจกรรมชมโปสเตอร์ ลุ้นรางวัลและร่วมบริจาคเลือด บริจาคอวัยวะบริการนวดแผนไทย ฝังเข็ม คลินิกกัญชาทางการแพทย์อีกด้วย

พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานเททองหล่อพระประธานวัดวัดประมวลราษฎร์ จ.นครราชสีมา

วันที่ 30 สิงหาคม 2563  ได้มีพิธีเททองหล่อพระสมเด็จพระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานประจำอุโบสถหลังใหม่ ขนาดหน้าตัก 79 นิ้ว  ณ วัดประมวลราษฎร์ (ระกาย) ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โดยได้รับเมตตาจาก พระธรรมเจดีย์(สมคิด เขมจารี) วัดทองนพคุณ เจ้าคณะภาค 11 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจากนายวิสูตร ชัชวาลวงศ์  ปลัดจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

โดยเวลา 09.29 น. มีพิธีบวงสรวง เวลา 13.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และในเวลา 14.29 น. เป็นพิธีเททองหล่อพระประธาน และหากพุทธศาสนิกชนท่านใดที่มีจิตศรัทธาสามารถร่วมต่อบุญครั้งนี้ได้

ทนไม่ได้!!กลุ่ม ผอ.โรงเรียนโคราช…วอนรัฐช่วยกรณีขอความเป็นธรรมสนามฟุตซอล

ทนไม่ได้ กลุ่ม ผอ.ร.ร.วอนรัฐบาลช่วยด้วย ออกแถลงการณ์ในนามชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา ชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ
วันที่13 สิงหาคม 2563 ณ หอประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดนครราชสีมา เปิดประชุมชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาโดยอาจารย์ ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ประธานนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร ประธานชมรมฯ)กล่าวโฟนอิน พบกับ พลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน เจ้าของฉายา” นายพลคนกล้า ” สถานีโทรทัศน์ ช่อง13 สยามไทย

ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่าการเสวนาปัญหาและผลกระทบกรณี โครงการปรับปรุงสนามกีฬาพร้อมอุปกรณ์งบประมาณ ปี 2555(สนามฟุตซอล ) โดยนายปฐมฤกษ์ มณีเนตร และคณะ ได้มอบเอกสารให้แก่ผู้ร่วมประชุม ในนามชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตเปิดโปงอย่างสร้างสรรค์ รักษาและผดุงไว้ซึ่งจริยธรรมคุณธรรมของสังคม


ต่อมาได้แสดงพิธีให้สัตย์ปฏิญานต่อแผ่นดิน โดยนายสุรัตน์ มุ่งอิงกลางได้ เชิญอาจารย์ปู่ ดร. ปียะพัชร์ เดชจรรยา และผู้มีเกียรติ ขึ้นเวทีและ ประกอบพิธีอัญเชิญปวงเทพเทวา ครูอาจารย์ ชุมนุมเทวดาอาจารย์ และผู้มีเกียรติ โปรยทรายศักดิ์สิทธิและได้เชิญอาจารย์(ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา ลั่นฆ้องชัย ปี่พาทย์ ประโคม เพลงมหาฤกษ์ผู้เข้าร่วมพิธี ร่วมร้องเพลงครูในดวงใจ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปสอบถาม ผอ.โรงเรียนแห่หนึ่งในจังหวัดนครราชสีมาซึ่งได้โดนคดีฟุตซอล ที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้แล้วพูดด้วยน้ำตานองเต็มตาสองดวงต่อหน้าผู้ที่มาประชุม กล่าวว่าตนนั้นได้ออกจากราชการแล้ว วอนสื่อช่วยพี่ด้วย

แถลงการณ์จากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ
กราบเรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเสนอผ่าน ท่านวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาด้วยชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรม และสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป มีความห่วงใยประเทศชาติด้วยเกรงว่าจะเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายในสังคม ในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ซึ่งสาเหตุมาจาก


ข้อที่ 1 บุคลากรทางการศึกษา คุณครูในจังหวัดนครราชสีมา ได้ถูกชี้มูลความผิดจาก ป.ป.ช. ถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 7 คน และกำลังจะมีคำสั่งไล่ออกอีกจำนวน 55 ราย ในกรณีสนามฟุตซอลที่เป็นข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี
ข้อที่ 2 บุคลากรทางการศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ชี้มูลความผิดต่อบุคลากรทางการศึกษานั้นได้กระทำอย่างไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยมีอคติ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา215 เป็นการกระทำแบบเหมาเข่ง เหมือนทำตามความต้องการของใคร คนใดคนหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎระเบียบข้อบังคับใด ๆ ของสังคม อันเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชน อย่างสุดแสนที่จะทนได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากของสังคมไทย
ข้อที่ 3 บุคลากรทางการศึกษาที่เดือดร้อนมิได้ร้องขอสิ่งที่เกินไปกว่าสิทธิอันพึงมีของพวกขาคือ “ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ตอกย้ำถึงจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ว่า “มนุษย์ยอมทนได้ทุกเรื่อง ยกเว้นความอยุติธรรมจะทนไม่ได้”
ข้อที่ ๔ ทางชมรมฯ เกรงว่าเรื่องนี้จะลุกลามใหญ่โต จะเกิดความวุ่นวายในสังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนผู้เสียภาษีในสังคมได้โปรดพิจารณาแก้ไขปัญหาโดยการแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้เกี่ยวข้อง เช่น นักการเมือง, ผู้รับเหมา, คุณครู และอื่นๆเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยเร็ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริงมาลงโทษให้จงได้
ข้อที่ 5 พวกข้าพเจ้า จะขอต่อสู้เคลื่อนไหวในทุกช่องทางที่สามารถทำได้ ภายใต้กฎระเบียบ ข้อบังคับของสังคมไทย ขอกราบเรียนด้วยความเคารพว่านี่เป็นคำสั่งที่อัปยศขององค์กร ป.ป.ช. ที่มีต่อบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต
ข้อที่ 6 ตามบทบัญญัติรัฐธรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 215ไต้บัญญัติไว้ว่า องค์กรอิสระเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้น ให้มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ ให้เป็นตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย การปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจขององค์กรอิสระต้องเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม กล้าหาญ และปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ ในประวัติศาสตร์แห่การรวมพลังต่อสู้อย่างทระนงองอาจ ในอดีตที่ผ่านมาของบุคลากรทางการศึกษาของไทย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วอย่างมากมาย พวกข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าหากปัญหาดังกล่าวนี้ไม่ถูกแก้ไขอย่างทันการณ์ คนไทยอาจได้เห็นปรากฎการณ์เช่นนั้นอีกด้วยความเคารพปรารถนาดีจากชมรมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ และพี่น้องประชาชนทั่วไป(ดร.ปียะพัชร์ เดชจรรยา) เลขาชมรมคนไม่ทนต่อการทุจริตฯ (นายปฐมฤกษ์ มณีเนตร)ประธานชมพิทักษ์ระบบคุณธรรมและสิทธิครูจังหวัดนครราชสีมา