มิติใหม่แห่งการกิน ร้านก๊วยเตี๋ยวปากหม้อสายน้ำวน เสริฟบนสายพานน้ำ สุดคลาสสิค ร้านเดียวในโคราช

มิติใหม่แห่งการกิน ร้านก๊วยเตี๋ยวปากหม้อสายน้ำวน เสริฟบนสายพานน้ำ สุดคลาสสิค ร้านเดียวในโคราช

หนึ่งเดียวในโคราช   ร้านก๊วยเตี๋ยวปากหม้อสายน้ำวน สูตรเด็ดจาก พนมสารคาม ตั้งอยู่ที่ ตึกแถว 2 ชั้น บ้านเลขที่ 82 หมู่ 5 ถ.ครองส่งน้ำ ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งบรรยากาศภายในร้านจะพบนายปิยวัฒน์ วีระพล อายุ 21 ปี เจ้าของร้านคอยให้บริการลูกค้าอย่างเนื่องแน่น โดยทางร้านมีวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ ให้ลูกค้าเลือกหยิบได้จากสายพานที่ไหลมาตามน้ำ สุดคลาสสิค ร้านเดียวในโคราช ซึ่งทำกันแบบครอบครัวช่วยกันตามหน้าที่ โดยจะมีน้ำซุปมีให้เลือก 3 แบบ เช่นน้ำใส 30 บาท ต้มยำและเย็นตาโฟ 35 บาท ซึ่งภายในถ้วยจะมี กระดูกหมู ขาไก่ เลือด ลูกชิ้นหมู หมูเด้ง ส่วนตัวปากหม้อจะมีทั้งหมด 8 ไส้ เช่น กุยช่าย หน่อไม้ ข้าวโพด เต้าหู้ วุ่นเส้น กะหล้ำปลี ไส้หวาน ถั่วงอก จะตกจานละ 5 บาท ให้รับประทานอย่างจุใจ

ด้านนายปิยวัฒน์ วีระพล เจ้าของร้าน เล่าว่า เดิมที่ครอบครัวอยู่ที่ อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อในการทำก๊วยเตี๋ยวปากหม้อ และพ่อก็เป็นคนที่นั้นเลยได้สูตรมา ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่อำเภอชลบุรี และขายก๊วยเตี๋ยวปากหม้อ ภายในตลาดสด โดยแม่ค้าจะต้องอยู่ตรงกลาง ส่วนลูกค้าจะรายล้อม และก็จะมีการสั่งไส้ของก๊วยเตี๋ยวปากหม้อ ที่แตกต่างกัน ร่วมไปถึงเวลาคิดเงินก็จะสับสน จึงหยุดขายมาพักหนึ่ง ก่อนที่จะย้ายฐานครอบครัวมาที่จังหวัดนครราชสีมาอีกครั้ง จึงมองหาทำเลใกล้กับตลาดเซฟวัน ซึ่งชาวโคราชรู้จักกันดี ตนจึงคิดจะใช้ความรู้ความสามารถของครอบครัวที่มีความรู้ด้านก๊วยเตี๋ยวปากหม้อ จึงคิดเครื่องทุ่นแรง โดยการทำสายน้ำวน ใช้แรงผลักดันจากน้ำเป็นตัวหมุนของจานอาหาร ซึ่งขายได้ 2 เดือน ก็มีการแชร์กันในโลกออนไลน์มากขึ้นทำให้ลูกค้าเดินทางมารับประทานพร้อมทั้งเช็คอิน ถ่ายภาพ จึงเป็นการบอกต่อกันไปเรื่องๆ

จากการทำร้านก๊วยเตี๋ยวปากหม้อ จะมีรายรับเฉลี่ยวันละ 5,000 บาท เดือนละ 150,000 บาท ถือว่าเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี หากใครสนใจสามารถเดินทางมาร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อสายน้ำวน เปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น.

“ผู้ว่าโคราช”นำประชาชนซ้อมปั่น BIKE อุ่นไอรัก

“ผู้ว่าโคราช”นำประชาชนกว่า 1000 คน ซ้อมปั่นจักรยาน 28 กม. เตรียมความพร้อมในกิจกรรม Bike อุ่นไอรัก 9 ธันวาคมนี้

 
5 ธันวาคม 2561  ที่ผ่านมา  นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย  นายกเหล่ากาชาติจังหวัดนครราชสีมา  และประธานสโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา  พร้อมใจกันร่วมซ้อมปั่นจักรยาน  ระยะทางกว่า 28 กิโลเมตร

ที่บริเวณด้านหน้าสนามฟุตบอล ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา จำนวนกว่า 1,000 คน ทำการซ้อมปั่นจักรยาน ในโครงการ “Bike อุ่นไอรัก” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ

โดยการซ้อมปั่นจักรยาน กิจกรรม Bike อุ่นไอรักครั้งนี้ ได้มีจุดเริ่มต้นที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หลังจากนั้นจะปั่นออกไปบนถนนสาย 304 ราชสีมา-ปักธงชัย เลี้ยวเข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เข้าเส้นทางมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นถนนแอสฟัลด์ติกที่ราบเรียบ

โดยผ่านอุโมงค์ต้นไม้หอสุรนภา สระน้ำสามเสน กลับออกมาเส้นทางเดิม ถึงเส้นชัยที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รวมระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร บรรยากาศการซ้อมปั่นจักรยาน Bike อุ่นไอรัก ในครั้งนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี มีรถพยาบาลของโรงพยาบาลมหาราช เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก31 หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง คอยดูแลความปลอดภัยของนักปั่นอย่างใกล้ชิด

 

https://www.youtube.com/watch?v=btc0rKpXi0Y&feature=youtu.be

โคราช!!! สร้างลูกนิมิตยักษ์ ใหญ่สุดในประเทศ

พระโคราช สร้างลูกนิมิตยักษ์ใหญ่สุดในประเทศ หวังแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน ให้ประชาชนเข้าวัดมากขึ้น เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบพระสงฆ์และประชาชน ที่อยู่ในวัดหนองบัว ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้ช่วยกันเตรียมงานบุญปิดทองฝังลูกนิมิต เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท แทนที่หลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยมีการจัดงานในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 ทั้ง 10 วัน 9 คืน ซึ่งภายในงานจะมีการจัดงานมหรสพสมโภชตลอดงาน

ทั้งนี้ วัดหนองบัว ยังสร้างสีสัน เรียกเสียงฮือฮาให้กับชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัด โดยทำลูกนิมิตยักษ์ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร สูง 4 เมตร ซึ่งชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ได้ลองไปล้อมวงโอบร่วมนับ 10 คน ถือว่าเป็นลูกนิมิตยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศก็ว่าได้ หวังเพียงสร้างจุดสนใจ จุดดึงดูดให้คนเข้าวัดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน และวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ชอบถ่ายภาพ ชอบเซลฟี่ ซึ่งหลังจากวัดสร้างลูกนิมิตใหญ่ยักษ์ขึ้นคาดว่าจะมีประชาชนเข้าวัดเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้รอบๆภายในวัดยังมีการสร้างแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน สวนดอกไม้พร้อมทั้งการตกแต่งภายในวัดในสวยงามตามยุค 4.0 ให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย

ด้าน พระณรงค์ฤทธิ์ มหาปรกฺกโม เลขานุการวัดหนองบัว พร้อมด้วย พระมหาอาทิตย์ อภิวจโน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์วัด เปิดเผยว่า การทำลูกนิมิตยักษ์ เพื่อต้องการให้เป็นสัญลักษณ์ และเอกลักษณ์วัด บอกความหมายผ่านภาพ ผ่านสิ่งที่เห็น ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ บ่งบอกถึงความร่วมไม้ร่วมมือ ความสามัคคี เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ จึงคิดทำลูกนิมิตยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์ (เอเทค) ชาวบ้าน พระภิกษุสามเณร ได้ร่วมกันทำขึ้นมา ซึ่งมีความสูง กว้าง 4 เมตร สูง 4 เมตร ด้านในจะเป็นโครงเหล็กบุด้วยกระดาษอย่างดี ทาสีลงรักปิดทอง โดยจะมีงานปิดทองฝังลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา ทั้ง 9 ลูก ในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสร้างมหากุศลบุญครั้งยิ่งใหญ่ด้วยกัน

ชมคลิปเพิ่ม

ปศุสัตว์โคราชพร้อมรับมือโรคสัตว์ในช่วงฤดูหนาว

ชาวปศุสัตว์โคราชพร้อมรับมือโรคสัตว์ช่วงฤดูหนาว

                 นครราชสีมา –  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ทำปศุสัตว์ในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ต่างเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ภัยหนาวที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในช่วงนี้กันอย่างพร้อมเพรียง ด้วยการเตรียมกักตุนฟืนไฟเพื่อไว้ก่อไฟให้สัตว์ผิงให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งเกิดใหม่ และลูกสัตว์ขนาดเล็ก  เนื่องจากในห้วงอากาศหนาวทำให้สัตว์มีภูมิต้านทานโรคต่ำ อาจจะเจ็บป่วยเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจและโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมกาบมะพร้าวเอาไว้ก่อควันไฟเพื่อไล่แมลงให้แก่สัตว์เลี้ยง เพราะอาจจะเป็นพาหนะนำโรคต่างๆมาสู่สัตว์เลี้ยงได้ง่าย

               ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอครบุรี ก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคในสัตว์ช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ อย่างเช่นโค กระบือ เนื่องจากมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ง่ายในช่วงนี้ พร้อมกับแนะนำให้เกษตรกรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามวงรอบเพื่อตัดวงจรความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในสัตว์เลี้ยง อีกเตรียมจัดหาวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมาจัดเตรียมไว้ให้แก่เกษตรกรที่ต้องการนำไปเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่สัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าหนาวนี้ด้วย

โคราชโชว์ว่าวจุฬาจิ๋วขนาดเล็กเท่ากล่องไม้ขีดไฟ ในงานแถลงข่าวการแข่งขันว่าวสูงเนิน

โชว์ว่าวจุฬาจิ๋วขนาดเล็กเท่ากล่องไม้ขีดไฟ ในงานแถลงข่าวการแข่งขันว่าวสูงเนิน ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระเทพราชสุดา สยามบรมราชกุมารี

                 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ โรงเรียนสูงเนิน ตำบลสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา นายรักชาติ กิริวัฒนศักดิ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขตอำเภอสูงเนิน ได้จัดแถลงข่าวงานสูงเนินเมืองว่าว ประจำปี 5261 ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน การแข่งขันว่าว จากสมเด็จพระเทพราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 10,000 บาท เพื่อเป็นการอนุรักษ์การละเล่นพื้นบ้านของไทย ที่มีเอกลักษณ์ มิให้สูญหาย โดยงานจะมีการแข่งขันขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม 61 ที่ สนามแข่งว่าวบึงพญานาค หมู่ที่ 8 บ้านกุดหิน ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกิจกรรมจะมีการแข่งขันว่าว 3 ประเภท ประกอบด้วย การแข่งขันว่าวจุฬา (ว่าวพื้นบ้าน) การแข่งขันว่าวสวยงาม (ว่าวอีรุ่ม) และการแข่งขันว่าวความคิดสร้างสรรค์

            ไฮไลท์ภายในงาน นายพนัส เทียมศิริ หรือฉายา เม่นมหาชัย นักสร้างสรรค์ผลงานว่าวชื่อดัง ได้โชว์ว่าวจุฬาจิ๋ว ขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ นำมาให้ผู้ร่วมแถลงข่าวได้ชม ซึ่งใช้เวลา 3 วันกว่าจะทำเสร็จสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนได้ทำว่าวขนาดปกติและขนาดใหญ่มามากแล้ว ซึ่งก็มีความอยากง่ายแตกต่างกันไป ส่วนว่าวจุฬาจิ๋ว ถือว่าต้องใช้ความอดทนค่อยข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นวัสดุอุปกรณ์ ความประณีตละเอียดอ่อน การใส่ใจเข้าไปในเนื้องาน มันต้องใช้จิตวิญาณ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถนำมาเล่นได้จริง แต่ก็มีคุณค่าทางจิตใจเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามว่าวจุฬาถือเป็นว่าวเอกลักษณ์ประจำชาติไทย มีรูปร่างเหมือนดาว 5 แฉก หรือมะเฟืองผ่าฝาน สามารถบังคับให้เคลื่อนไหวในท่าต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว และสง่างาม กีฬาว่าวพนันถือว่าว่าวจุฬาเป็นว่าวตัวผู้ ใช้เล่นตัดสินแพ้-ชนะกับว่าวปักเป้า ซึ่งถือเป็นว่าวตัวเมีย

โคราช..พบเจ้าอาวาสเสพยาบ้ายาไอซ์ ค้นวัด 3 แห่ง พบเสพยาทั้ง 3 วัด จับสึกพระ 7 รูป

อึ้งพบเจ้าอาวาสเสพยาบ้ายาไอซ์ ค้นวัด 3 แห่ง พบเสพยาทั้ง 3 วัด จับสึกพระ 7 รูป

ปฏิบัติการจู่โจมค้นวัดโคราช อึ้งพบเจ้าอาวาสเสพยาบ้ายาไอซ์ ค้นวัด 3 แห่ง พบเสพยาทั้ง 3 วัด จับสึกพระ 7 รูป พร้อมศิษย์วัด ยึดสารไอซ์ อาวุธปืนอัดลม

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สูงเนินสนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร  ร่วมกันตรวจค้นจุดเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการ 383 ของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งเป็นปฏิบัติการทำลายวงจรยาเสพติด สร้างชุมชนสีขาว  โดยให้ตำรวจภูธรสังกัดภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยเข้าตรวจค้นที่วัด บ้านไร่โคกสูง ตั้งในเขตพื้นที่ ต.มะเกลือเก่า จับกุมพระสุข อภินันโท หรือ นายสุข กล่อมบาง อายุ 37 ปี  พระลูกวัด ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 36 เม็ด และอุปกรณ์การเสพ อยู่ภายในกุฏิ เบื้องต้นรับสารภาพซื้อยาบ้าจากวัยรุ่นไว้เสพ แถมพบมีพฤติกรรม แต่งเป็นฆราวาสเที่ยวตอนกกลางคืนด้วย จึงควบคุมตัวไปสึกพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุด ได้ขยายผลเข้าตรวจค้น ที่ วัดสว่างบูรพาราม ม.2 และ ที่ พักสงฆ์เขาหนองบัวธรรมสถาน หรือวัดเขาหนองบัวด้วย ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลเดียวกัน โดยที่วัดบูรพาราม ขออนุญาตตรวจปัสสาวะพระลูกวัด 8 รูป พบเป็นสีม่วง 3 รูป สารภาพว่าเสพยาบ้า 3 รูป ประกอบด้วย 1.พระสุพจน์ สตฺตคฺโณ  หรือ นายสุพจน์  ซุยสูงเนิน อายุ 44 ปี    2.พระมนตรี กิตติโก หรือนายมนตรี สุขดี อายุ 36 ปี  และ 3.พระณรงค์ นรินโท หรือ นายณรงค์ ซอสูงเนิน อายุ 45ปี ส่วนที่ พักสงฆ์เขาหนองบัวธรรมสถาน หรือวันเขาหนองบัว จับกุม ได้อีก 3 รูป และเด็กวัดอีก1 คน ประกอบด้วย พระครูสุตวัฒนานุกูล หรือ นายบุญเชน ภูมิศาสตร์ อายุ 47 ปี  ซึ่งเป็นเจ้าสำนักสงฆ์ หรือเจ้าอาวาสวัด ตรวจค้นกุฏิพบสารไอซ์ 0.61 กรัม อาวุธปืนอัดลมยาวไม่มีทะเบียน1 กระบอก สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพว่าเสพยาบ้า และมียาไอซ์ในครอบครองจริงจึงควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ส่วนพระลูกวัดอีก 3 รูป พบว่าเสพยาบ้า 2 รูป และเด็กวัดอีก 1 คน  ประกอบด้วย1.พระยอดชาย อิสฺสโร หรือนายยอดชาย เอี่ยมเจริญ อายุ 40 ปี  2.พระนครทอง กนตวณโณ หรือนายนครทอง แพไธสง อายุ 46 ปี และ นายแมนสันต์ แพไธสง   ไม่ทราบอายุ ซึ่งเป็นลูกศิษย์วัดที่มีหน้าที่ขับรถให้วัดดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวพระทั้งหมดไปทำพิธีสึกและส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

คลิป>>

ตำรวจ ปกครอง ทหาร ปิดล้อมวัดดังในโคราช จับพระเสพยาบ้า พร้อมของกลาง คากุฏิ 36 เม็ด

ตำรวจ ปกครอง ทหาร ปิดล้อมวัดดังในโคราช จับพระเสพยาบ้า พร้อมของกลาง คากุฏิ 36 เม็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สูงเนินสนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร  ร่วมกันตรวจค้นจุดเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการ 383 ของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งเป็นปฏิบัติการทำลายวงจรยาเสพติด สร้างชุมชนสีขาว  โดยให้ตำรวจภูธรสังกัดภาค 3 ทั้ง 8 จังหวัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เข้าทำการตรวจค้นที่วัด บ้านไร่โคกสูง ตั้งในเขตพื้นที่ ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา  ซึ่งเป็นจุดที่มีพลเมืองดีแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 ว่า เป็นจุดต้องสงสัยอาจจะมีพระที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากพบว่ามีวัยรุ่นเข้าออกในกุฏิวัดแห่งหนึ่งบ่อยครั้งในช่องที่ผ่านมา

โดยทำการปิดล้อมกุฏิเป้าหมายเป็น หลังสุดท้ายของวัด ซึ่งเป็นของพระสุข อภินันโท หรือ นายสุข กล่อมบาง อายุ 37 ปี (พระลูกวัด) ซึ่งเป็นพระที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย  จากการตรวจค้นภายในกุฏิดังกล่าวพบสภาพข้างในเต็มไปด้วยเครื่องรางของขลัง ทั้งกระดูกมนุษย์ ไหโบราณ มีดดาบอาคม วางกันอยู่ในสภาพรกรุงรัง สอบสวนเบื้องต้นพระรูปดังกล่าวให้การรับสารภาพว่าเสพยาจริง แต่ไม่มียาเสพติด อยู่ในครอบครอง

ต่อมา เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้น อย่างละเอียดจึงพบยาบ้า ซุกอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายสี ซึ่งเป็นกระเป๋าประจำตัวของพระสุข รวม 36 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพจำนวนหนึ่งภายในกุฏิ นอกจากนี้ยังพบเสื้อกางเกง อยู่ภายในกางเกงด้วยจึงควบคุมตัวไปสอบสวน เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนโดยซื้อมาจากวันรุ่นในพื้นที่คนหนึ่งเมื่อสองอาทิตย์ก่อนประมาณ 50 เม็ด  ซึ่งหลังจากที่ซื้อมาแล้ว วัยรุ่นรายดังกล่าวก็ถูกจับไปได้ จากนั้นจึงเสพยาอยู่ในกฏิเรื่อยมาวันล่ะ 2-3 เม็ด ก่อนที่จะมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว นอกจากนี้จากการสอบสวนยังทราบว่าพระรูปดังกล่าวชอบแต่งชุดฆราวาสออกไปเที่ยวกลางคืน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปทำพิธีลาสิกขาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

 

ชาวบ้านขอหวยกระทิงเกยตื้นเขื่อนลำแชะ เผยได้เลขเด็ดจะๆ

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า จากกรณีการพบซากกระทิงเพศเมีย อายุประมาณ 9  ปีน้ำหนักกว่า 700 กิโลกรัม ลอยน้ำตายมาเกยตื้น ที่บริเวณท่าเรือบ้านมาบกราด หมู่ที่ 17 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมาภายในเขื่อนลำแชะ  เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากตรวจพิสูจน์ทราบของทางเจ้าหน้าที่พบว่ากระทิงตัวดังกล่าวเสียชีวิตจากการกินอาหารซึ่งเป็นต้นมันสำปะหลังของชาวบ้านที่อยู่ริมเขื่อนลำแชะ  ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสัตว์ป่า จึงทำให้เกิดความอึดอัด กระทิงตัวดังกล่าวจึงลงไปดื่มและแช่น้ำภายในเขื่อนลำแชะที่อยู่ติดกับป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี เพื่อให้สบายตัว แต่น้ำที่ลงไปน่าจะมีเป็นร่องน้ำลึก จึงทำให้กระทิงตัวดังกล่าวตกใจจมน้ำเสียชีวิต และได้ทำการกลบฝังเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

ยังมีควันหลงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากหลังจากที่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆได้เข้ามาทำการกู้ซากกระทิงตัวดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำ ก่อนจะนำไปผ่าพิสูจน์ทราบ มีชาวบ้านจำนวนมากที่อยู่ในบริเวณนั้น เข้ามามุงดูเหตุการณ์ ซึ่งทกคนต่างบอกว่าไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น บางส่วนจึงมองเป็นเรื่องแปลกประหลาด จึงเข้าไปลูบคลำกระทิงตัวดังกล่าวพร้อมกับบอกกล่าวให้กระทิงตัวดังกล่าว ไปสู่สุขติและยังได้กล่าวคำขอโชคลาภและขอเลขเด็ด เนื่องจากเชื่อว่ากระทิงตัวดังกล่าวเป็นตายโหง อาจจะมีอิทธิฤทธิ์ให้โชคลาภได้  พร้อมกับนำธูปเทียนและแป้งมากราบไหว้ขอเลขเด็ดตามความเชื่อด้วย ซึ่งหลายคนบอกว่าได้เลขเด็ดกลับไปเตรียมเสี่ยงโชคในงวดที่จะถึงนี้ด้วย  (โดยตัวเลขที่ได้ไปได้รับการเปิดเผยเบื้องต้นมีดังนี้ 912 , 512 ,50 )

คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ร่วมกันจัดอบรมคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชน

ที่โรงแรมสบายโฮเทล คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ร่วมกันจัดอบรมคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชน โดยมีนายสุวีร์ ตรียุทธนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน เนื่องด้วยระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชนสำหรับสถานพินิจ พ.ศ. 2554ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชนสำหรับสถานพินิจ เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการสถานพินิจและช่วยเหลือกิจการสถานพินิจ เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความ ควบคุมดูแลของสถานพินิจ อันจะเป็นผลให้การดำเนินการของสถานพินิจ บรรลุตาม วัตถุประสงค์ เกิดผลดีแก่ระบบการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนโดยรวม และ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งคณะกรรมการสงเคราะห์ จึงจัดให้มีการอบรมครั้งนี้ขึ้น

 

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนงาน ยุติธรรมและบทบาทหน้าที่ของกรรมการสงเคราะห์ในการดำเนินงานซึ่งจะเกิดประโยชน์ ต่อเด็กและเยาวชนการอบรมครั้งนี้ มีผู้ที่ผ่านการคัดสรรของคณะกรรมการสรรหากรรมการ สงเคราะห์ที่จะเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งจากรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมการอบรม รวมทั้งสิ้น ๖๕ ราย และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ด้วย การอบรม ประกอบด้วย การบรรยาย การประชุมและแบ่งกลุ่มระดมความคิด  ซึ่งการอบรม ครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมารับรู้ปัญหาและมาร่วมกันคิดออกแบบการให้ ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดของจังหวัดนครราชสีมา ให้เหมาะสม กับสภาพปัญหาของเด็กและเยาวชนแต่ละราย กอรปกับเพื่อแก้ไขปัญหาเด็ก และเยาวชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้  คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ได้ร่วมกันเลือกประธานท่านใหม่  ตามวาระ โดยได้มีการเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้ง  ประกอบด้วย  1. นายอภิชาต  ติยวัฒน์  2. นายวรภพ  จำนงจิตร  3. นางสมใจ  อินทรทรัพย์  และนายธวัช  และจากการโหวตเสียงในที่ประชุม ปรากฏว่า เป็นเอกฉันท์ ให้  นายอภิชาต  ติยวัฒน์   ดำรงตำแหน่งประธาน สงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3

ชาวบ้านครบุรี โคราช ซึ้งใจ โครงการ OTOP นวัตวิถี สร้างชีวิตใหม่ให้ชุมชนเกษตรหนองผักไร

ชาวบ้านครบุรี ซึ้งใจ โครงการ OTOP นวัตวิถี สร้างชีวิตใหม่ให้ชุมชนเกษตรหนองผักไร

นครราชสีมา –  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหนองผักไร หมู่ที่ 2 ต.ตะแบกบาน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ต่างรู้สึกดีใจที่โครงการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ได้นำงบประมาณเข้ามาสู่หมู่บ้าน เพื่อสนับสนุนส่งเสริมและพัฒนาชุมชนให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชาวบ้านในพื้นที่  ซึ่งก่อนหน้านี้หมู่บ้านหนองผักไร ไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย รู้กันเพียงว่าเป็นหมู่บ้านที่ทำการเกษตรปลูกมันสำปะหลังเป็นหลัก แต่เมื่อโครงการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เกิดขึ้น ก็มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆเข้ามาส่งเสริม นำจุดเด่นของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่บนที่ราบสูงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและความหลากหลายทางการเกษตร มาเป็นจุดขายจนทำให้ขณะนี้หมู่บ้านหนองผักไรเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวอย่างมาก

 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่พัฒนากรชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ ได้ร่วมกันสร้างหอคอยไม้ไผ่ต่างระดับ 3 หลัง พร้อมมีสะพานไม้ไผ่ลดหลั่นต่างระดับกัน ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมความสวยงามของวิวทิวทัศน์ของพื้นที่ตำบลตะแบกบานและตำบลใกล้เคียง ซึ่งสามารถมองเป็นเนินเขาที่เขียวขจีไปด้วยพืชผลทางการเกษตรต่างๆ  โดยเฉพาะในช่วงเย็นตอนตะวันตกดิน  นักท่องเที่ยวจะได้เป็นความสวยงามของเนินเขาที่กลายเป็นทะเลสีเขียวสด ด้วยต้นมันสำปะหลัง ข้าวโพด ดาวเรือง และผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ ตัดกับสีทองผ่องอำไพของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า ซึ่งถือเป็นภาพที่สุดแสนจะสวยงามอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่ชื่นชมการถ่ายภาพควรจะต้องลงไปลั่นชัตเตอร์ดูสักครั้ง

นายสำราญ ทนไทย รองประธานชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี บ้านหนองผักไร เปิดใจว่า ต้องขอขอบคุณรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ริเริ่มให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา เพราะชาวบ้านในชุมชนไม่เคยคิดมาก่อนว่า พื้นที่การเกษตรแห่งนี้จะสามารถพัฒนาและกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่สวยงามและได้รับความนิยมเช่นนี้ได้ ซึ่งทางชุมชนเองจะพยายามพัฒนาและต่อยอดโครงการนี้ต่อไปอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะให้ชุมชนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชาวบ้านในชุมชนอย่างยั่งยืน