นายกสมาคมนักข่าว ร่วมลงนามข้อตกลงร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน

ผู้แทนสื่อมวลชนนายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมาลงนามร่วมมือเครือข่ายช่วยเหลือเด็กสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภาคราชการและเอกชน ที่ห้องประชุม สถานแรกรับเด็กและเยาวชน สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา นายรัตนะ วรบัณฑิต ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 พร้อมด้วย นายบุญธรรม รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จ.นครราชสีมา ได้เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสถานพินิจ และเครือข่ายในโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายด้านการศึกษา, อาชีพ และ การกำกับติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนปีงบประมาณ 2562 โดยเครือข่ายจากสถานศึกษา ได้แก่ อาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยการอาชีพปากช่อง วิทยาลัยสารพัดช่าง การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และ วิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชม ไทย – เยอรมัน สระบุรี เครือข่ายด้านอาชีพ ได้แก่ บริษัทเทสโก้โลตัว และ เซ็นทรัลพลาซ่า เครือข่ายด้านให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ได้แก่ กองทัพภาคที่ 2 เทศบาล กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน


ทั้งนี้ในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ ยังได้มีตัวแทนจากสื่อมวลชน โดยได้รับเกียรติจาก นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงนาม เพื่อเป็นประบอกเสียงในการช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสถานพินิจ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนของภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ได้ให้การสนับสนุนรับบุคลากรเข้าไปให้ความรู้ ไปฝึกอบรม ให้กับเยาวชนภายในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงการติดตามกลุ่มเยาวชนที่ออกจากสถานพินิจแล้วได้ต่อยอดด้านอาชีพ ซึ่งสถานพินิจมีบทบาทในการพัฒนาการบำบัด แก้ไข ฟื้นฟู ให้เด็ก และเยาวชนกลับคืนสู่สังคม ส่งเสริมบทบาทและสนับสนุนเพื่อป้องกันการก่ออาชญากรรมในเด็กและเยาวชน ขยายดูแลสิทธิเด็กและสวัสดิภาพของเยาวขนในกระบวนการยุติธรรมเต็มรูป และเสริมสร้างและพัฒนาบุคคลากรและระบบงาน


และที่ผ่านมาจากสถิติของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา พบว่า ใน 1 เดือน จะมีคดีของเด็กและเยาวชนเฉลี่ย 80 คดี สัปดาห์ละ 20 คดี เยาวชนผู้กระทำผิดที่เข้ามาวันละ 3 คน โดยปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาเป็นปัญหาอันดับ 1 ถึง 50% รองลงมาคือ ปัญหาในเรื่องเพศ ปัญหาการลักทรัพย์ และปัญหาเกี่ยวกับชีวิต เช่น การทะเลาะวิวาท และเมื่อเยาวชนเข้ามาอยู่ภายในสถานพินิจแล้ว จึงจำเป็นต้องจัดหาเครือข่ายมาร่วมให้ความรู้และจัดกิจกรรม เพื่อที่จะให้เยาวชนเมื่อออกไปแล้วได้มีความรู้และทักษะอาชีพติดตัวออกไป

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด คว้า 2 รางวัล ธุรกิจได้มาตรฐาน และการบริการดีเด่น ประจำปี 62

บริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด คว้า 2 รางวัล ธุรกิจได้มาตรฐาน และการบริการดีเด่น ประจำปี 62

ขอแสดงความยินดีกับ คุณนพรัตน์ ศิริบุญนภา ประธานบริษัท บุญนภาพัฒนาการเกษตร จำกัด

 

 ที่ได้รับรางวัล มาตรฐานธุรกิจและผลิตภัณฑ์ดีเด่นแห่งปี 2562 Best Product of The Year 2019 มอบโดยสภาเครือข่ายสถาบันส่งเสริมพัฒนาธุรกิจและเศรษฐกิจแห่งประเทศไทย (สส.ศท) และ รางวัลคนไทยตัวอย่าง คนทำดีต้นแบบสังคมแห่งปี 2562 สาขา ธุรกิจด้านการด้านบริการดีเด่น มอบโดย สมัชชานักจัดรายการข่าววิทยุโทรทัศน์หนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย (สว.นท)
ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2562 ที่ผ่านมา

สุดทน ร้องสื่อ…ชาวบ้าน 2 อำเภอโคราช ร้องสื่อถนนพังยุบตัวยาว 2 กิโลเมตรรถสัญจรไม่ได้ นาน 3 ปี – ไร้หน่วยงานเหลียวแล

ชาวบ้าน 2 อำเภอโคราช สุดทนร้องสื่อ!ถนนพังยุบตัวยาว 2 กิโลเมตรรถสัญจรไม่ได้ นาน 3 ปี – ไร้หน่วยงานเหลียวแล


ผู้นำชุมชน 2 อำเภอ และชาวบ้านโคราช รวมตัวกัน ร้องช่อง 8 ถนนเส้นหลักที่ใช้สัญจรพังเสียหาย ถนนยุบตัวความยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ สัญจรไม่ได้ ปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 3 ปี ไร้หน่วยงานเหลียวแล ไปส่งเรื่องศูนย์ดำรงธรรมก็ไม่มีความคืบหน้า จำทนต้องใช้ถนนสายอื่นไกลกว่า 10 กิโลเมตร ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่เดือดร้อน อาทิ ไปทำงานสาย ไปเรียนสาย หรือเมื่อยามเจ็บป่วยรถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามารับได้จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบากตรากตรำ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยชาวบ้านด้วย


ที่ ถนนเส้นทางบ้านเขว้า หมู่ที่ 11 เชื่อมต่อระหว่างตำบลพุดซา อำเภอเมือง และ ตำบลกำปัง อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ผู้นำชุมชนทั้ง 2 อำเภอ คือ ตำบลพุดซา อำเภอเมือง และ ตำบลกำปัง อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกอบต.พร้อมทั้งชาวบ้านทั้ง 2 ตำบลกว่า 35 คน เข้าร้องเรียนกับช่อง 8 ถึงความเดือดร้อนเรื่อง ถนนเส้นหลักที่ใช้สัญจรไปมาทุกวันพังเสียหาย เกิดการยุบตัวความยาวกกว่า 2 กิโลเมตร รถทุกประเภทสัญจรไม่ได้ เดือดร้อนแบบนี้มากว่า 3 ปี ไร้หน่วยงานเหลียวแล ทำหนังสื่อร้องขอความช่วยเหลือไปหลายที่ไม่มีความคืบหน้า วันนี้สุดทนจึงมาร้องช่อง 8 หวังเป็นกระบอกเสียงให้ผู้มีอำนาจเห็นความเดือดร้อนประชาชนและลงมาช่วยแก้ไขปัญหา ปัจจุบันจะเดินทางไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบากตรากตรำ ต้องไปใช้เส้นทางอื่นอ้อมไกลกว่า 10 กิโลเมตร
นายประเสริฐ เชยพุดซา กำนันตำบลบ้านพุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตัวแทนผู้เดือดร้อน กล่าวว่า ตนเองเป็นกำนันตำบลพุดซา ดูแลกว่า 18 หมู่บ้านในตำบล วันนี้เดือดร้อนถนนที่ใช้สัญจรไปมายุบตัวพังเสียหาย ถนนนี้เป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ร่วมกัน ทำถนนนี้เพื่อให้ประชาชนสัญจรไปมาได้สะดวก เพราะเป็นเส้นทางที่ทั้งต้องใช้ขนพืชผลทางการเกษตรมาดูแลสวนไร่นาต่างๆ และใช้ในชีวิตประจำวัน
นายประเสริฐ เชยพุดซา กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุตรงนี้ เกิดจากสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา มาทำโครงการผันน้ำระบายน้ำเพื่อการกักเก็บ จากบึงพุดซาพื้นที่ 3 พันไร่ เพื่อระบายน้ำมากักเก็บยังในบึงบ้านเขว้าพื้นที่ 200 ไร่ จึงได้ทำการประชาคมและมีมติให้ทำท่อส่งน้ำ โดยขุดพื้นที่ถนนสาธารณะประโยชน์ที่เราใช้สัญจรไปมานี่แหละ เพื่อวางท่อส่งน้ำ แต่หลังจากนั้นก็เกิดปัญหาอย่างที่เห็นก็คือ ตอนแรกถนนเริ่มพังเป็นหลุมบ่อ นานๆไปกลับกลายเป็นว่า ยิ่งพังหนักกว่าเดิม ถนนเกิดการทรุดและยุบตัว ความลึกกว่า 2 เมตร พังจนท่อน้ำโผล่ขึ้นมากลางถนนเลย ความยาวกว่า 2 กิโลเมตร รถสัญจรไปมาไม่ได้เลย ขนาดจะเดินก็ยังไม่กล้า

ครั้งหนึ่ง ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ได้ทำหนังสือร้องไปที่ศูนย์ดำรงธรรม เขาก็ส่งเจ้าหน้าที่โยธามาซ่อมแซมเพียงแค่มาทำถนนหินคลุก ตนเองมองว่า ถนนมันพังขนาดนี้ มาทำแค่ถนนหินคลุก ถ้าเอางบประมาณมาทำแค่หินคลุกมันเป็นการสูญเสียภาษีของประชาชนโดยเปล่าประโยชน์ ยิ่งซ่อมยิ่งพังตนเองก็งงว่ามาซ่อมแบบไหนกัน ถ้าจะทำทั้งที ก็ทำให้ดีให้มั่นคงไปเลย เพราะหน่วยงานของท่านต่างก็มีวิศวกรผู้ชำนาญงานอยู่แล้ว วอนเถอะครับชาวบ้านและพวกผมเดือดร้อนมากว่า 3 ปีแล้ว ตนเองเป็นกำนันเห็นสภาพถนนเป็นแบบนี้ประชาชนที่เราดูเดือดร้อนเรารู้สึกเสียใจมากที่หน่วยงานที่เราขอความช่วยเหลือเขาเมินเฉย นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบเดือดร้อนในชีวิตประจำวัน อาทิ ไปทำงานสาย ไปเรียนสาย หรือเมื่อยามเจ็บป่วยรถพยาบาลก็ไม่สามารถเข้ามารับได้จะไปไหนมาไหนแต่ละทีก็ลำบาก ต้องไปใช้เส้นทางอื่นอ้อมไกลกว่า 10 กิโลเมตร วอนผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเมื่อทราบข่าวแล้วช่วยแก้ไขให้ประชาชนที่เดือดร้อนด้วยครับ

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขตสามจังหวัดนครราชสีมาจัดโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในด้านการศึกษา  อาชีพและการกำกับติดตาม  ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนประจำปี 2562

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขตสามจังหวัดนครราชสีมาจัดโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในด้านการศึกษา  อาชีพและการกำกับติดตาม  ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนประจำปี 2562

  

 

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม 2562 ที่ห้องประชุมตึกอำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต  3 จังหวัดนครราชสีมา  ได้ต้อนรับคณะภาคีเครือข่ายเข้าสู่โครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในด้านการศึกษา  อาชีพ  และการกำกับติดตาม  ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขตสามประจำปี 2562

โดยได้รับเกียรติจาก  ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต   ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต3  นครราชสีมา  เป็นประธานกล่าวต้อนรับและกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ  พร้อมด้วยนายอภิชาต   ติยวัฒน์ ประธานกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชนสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา  นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมีพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขตสามจังหวัดนครราชสีมากับหน่วยงานราชการและสถานประกอบการเครือข่ายใหม่

โดยศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต 3  นครราชสีมา  มีภาระหน้าที่ควบคุมดูแลเด็กและเยาวชนทั้งในระหว่างรอการพิจารณาคดีและเด็กและเยาวชนที่มีคำพิพากษาจากศาลเยาวชนและครอบครัว  ให้เข้ารับการฝึกและอบรม  ดังนั้นศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก ฯ จึงได้จัดโครงการส่งเสริมประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของเครือข่ายด้านการจัดการศึกษา  อาชีพ  และการกำกับติดตามให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  เขต  3 ประจำปี 2562 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนเกิดเป็นทุนทางสังคมที่จะรองรับเด็กและเยาวชนที่จะฝึกงานศึกษาต่อ  หรือประกอบอาชีพ  และการดูแลติดตามภายหลังปล่อย  รวมทั้งให้การสนับสนุนด้านการดูแลเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการควบคุมและลดการกระทำผิดกฎหมายซ้ำของเด็กและเยาวชนที่เคยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป

สมาคมศิษย์เก่า 4 สถาบัน ร่วมกิจกรรม ฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ “จตุรมิตร” ครั้งที่ 2

สมาคมศิษย์เก่า 4 สถาบัน ร่วมกิจกรรม ฟุตบอลกระชับความสัมพันธ์ “จตุรมิตร” ครั้งที่ 2

วันที่ 26 พฤษภาคม 2562 ที่สนามฟุตบอลเอกสีมา ต.หัวทะเล อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน ฟุตบอลจตุรมิตร ครั้งที่ 2 โดยมี นายฐานิษ อินทรกำแหง ประธานศิษย์เก่าราชสีมาวิทยาลัย เป็นผู้กล่าวรายงาน ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน


การแข่งขันฟุตบอล จตุรมิตร ครั้งที่ 2 นี้ เป็นความร่วมมือของศิษย์เก่า 4 สถาบัน ของจังหวัดนครราชสีมา ประกอบด้วย โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โรงเรียนบุญวัฒนา โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ และโรงเรียนรัตโนภาส ซึ่งการจัดการแข่งขันฟุตบอลนี้ ก็เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างศิษย์เก่าด้วยกัน และศิษย์เก่าต่างสถาบัน


ในการแข่งขันครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากทีมสื่อมวลชน VIP นำโดย นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา และทีมอาวุโส รส. VIP นำโดย พลเอก ดร.มารุต ลิ้มเจริญ ศิษย์เก่า ราชสีมาวิทยาลัย รุ่นที่ 70 ร่วมลงสนามด้วย และยังได้มีการมอบเงิน เพื่อสนับสนุนการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลมะเริง
ซึ่งผลการแข็งขัน ปรากฎว่า ทีมศิษย์เก่าราชสีมาวิทยาลัยเป็นฝ่ายชนะทุกทีม

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในงานแถลงข่าว มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา จัดกิจกรรม  วิ่ง-ปั่น สู้…เพื่อกู้ภัย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในงานแถลงข่าว มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา จัดกิจกรรม  วิ่ง-ปั่น สู้…เพื่อกู้ภัย

วันที่ 23 พฤษภาคม   2562 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช  ว่าที่ร้อยตรีนิรันดร์  ดุจจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายสมเกียรติ  อินทรานุปกรณ์ ประธานมูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวการจัดโครงการ “ วิ่ง ปั่นสู้ เพื่อกู้ภัย ”

ด้วยมูลนิธิพุทธธรรมสามหนึ่งนครราชสีมาเป็นองค์กรสาธารณะกุศลดำเนินการช่วยเหลือประชาชนด้านกูชีพกู้ภัยตลอดจนการเก็บศพไร้ญาติและการบรรเทาสาธารณภัยต่างๆให้ความร่วมมือกับหน่วยงานราชการปฏิบัติงาน  ช่วยเหลือประชาชนเสมอมา  และได้มีการปรับปรุงพัฒนาบุคลากรในการฝึกอบรมกู้ชีพกู้ภัยกับทางหน่วยงานราชการ  โรงพยาบาลต่างๆ  เพื่อเตรียมความพร้อมกับสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลาปัจจุบันนี้  มูลนิธิมีเขตพื้นที่รับผิดชอบในจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 26 อำเภอและจังหวัดใกล้เคียงได้แก่จังหวัดชัยภูมิ  ,สุรินทร์ ,ยโสธร  และจังหวัดร้อยเอ็ด   รวม 46 จุดบริการพร้อมกำลังอาสาสมัครกู้ภัย  ฮุก 31 กว่า 2,000 คน   แต่ยังขาดแคลนอุปกรณ์กู้ภัยมาตรฐานหลายอย่าง

สำหรับใช้ในการปฏิบัติงานแม้ว่ามูลนิธิจะได้รับการสนับสนุนแต่ก็ยังไม่เพียงพอมีหลายเหตุการณ์อาสาสมัครกู้ภัยต้องประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนซึ่งสร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวของอาสาสมัครกู้ภัยเป็นอย่างยิ่งบางรายต้องสูญเสียอวัยวะหรือพิการไม่สามารถถ่ายรูปครอบครัวได้ในโอกาสนี้มูลนิธิพุทธธรรมสามหนึ่งนครราชสีมาได้กำหนดจัดงานวิ่งปั่นจักรยานการกุศลในโครงการวิ่งปั่นสู้เพื่อกู้ภัยเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่ออาสาสมัครกู้ภัย ฮุก 31 ที่มีจิตอาสาตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสังคมตลอดมาได้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ความสามารถมีมาตรฐานในภาวะปกติและภาวะภัยพิบัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ภัยเพื่อเป็นกองทุนสวัสดิการอาสาสมัครกู้ภัย ฮุก 31  เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2562

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟสบุ๊ค hook31.korat ไลน์ hook31 office เว็บไซด์ ลันลา หรือโทรศัพท์ 044-274155 044-307298-99 และ 088-7158208    “หากไม่วิ่ง ไม่ปั่นก็ทำบุญได้ ”

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน จังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ประจำปี 2562

ศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน จังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ประจำปี 2562

 

เมื่อวันที่  20 พฤษภาคม 2562  ดร.รัตนะ  วรบัณฑิต  ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็ก และเยาวชนเขต 3 นครราชสีมา พร้อมด้วยคณะภาคีเครือข่าย อาทิ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดชัยภูมิ  ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดบุรีรัมย์  ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดสุรินทร์ และผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดสระบุรี ได้ให้การต้อนรับคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน จังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE           ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ประจำปี 2562

เวลา 15.00 น. คณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน จังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ประจำปี 2562  นำโดย นายธงชัย บุตรนุชิด ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาชุมชน     นายสินชัย  ถนอมสิน  ผู้เชี่ยวชาญ นางนาตยา  ทฤษฎีคุณ  ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 กรมสุขภาพจิต  และคณะ ได้เดินทางมาถึงยังศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน  โดยทางศูนย์ฝึก ได้ให้การต้อนรับด้วยการขับร้องเพลง ในโครงการ TO BE NUMBER ONE  จากเด็ก ๆ ที่อยู่ภายในศูนย์ฝึก ฯ แห่งนี้ จากนั้น ตัวแทนเด็กได้นำเชิญคณะ ชมบูทจัดแสดงของภาคีเครือข่าย  รวมทั้ง โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ที่ได้มาร่วมเป็นพี่เลี้ยงในการเข้าร่วมโครงการ  สำหรับบูทที่ได้มีการจัดแสดงผลงานของเด็ก ๆ ภายในศูนย์ฝึก ฯ ประกอบด้วย การลงรักษ์ปิดทองบนแผ่นกระจก  การทำขนมไทย การสานประเป๋าแฟชั่นจากวัสดุธรรมชาติ และการทำเครื่องดื่ม กาแฟ ชา น้ำหวาน เพื่อพัฒนาบาเรสต้าอย่างมืออาชีพ

โดยทางศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 นครราชสีมา ได้เข้าร่วมโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด  TO BE NUMBER ONE ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานโครงการ เป็นโครงการที่มุ่งหวังเพื่อปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกฯ สามารถสร้างกระแสนิยมที่เอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด  เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจแก่เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกฯ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมีทักษะที่สามารถหลีกพ้นต่อยาเสพติดได้  เพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายการป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบปัญหายาเสพติดในเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึก ฯ รวมทั้ง เพื่อให้เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึก ฯ ตระหนักและเห็นคุณค่าในตนเอง ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยการฝึกทักษะทางด้านดนตรี  กีฬา และศิลปะ เป็นต้น

สำหรับการตรวจประเมินผลการดำเนินงานครั้งนี้  เพื่อเป็นการส่งผลงาน (ดีเด่น) ระดับภาค  สู่การพัฒนาเครือข่าย TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศต่อไป

 

 

ผู้ว่าโคราช นำกำลังจิตอาสา ลงพื้นที่พัฒนาฟื้นฟูลำตะคองครั้งที่ 4

โคราชจัดกิจกรรมจิตอาสา พัฒนาฟื้นฟูลำตะคองครั้งที่ 4


วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น. จังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมจิตอาสา พัฒนาฟื้นฟูลำตะคองครั้งที่ 4 ณ บริเวณสะพานข้ามลำตะคอง โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาโดยมี นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธาน ในการจัดงานพร้อมด้วย เทศบาลนครนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่ามีผู้ร่วมกิจกรรมพร้อมกันที่บริเวณหน้าเวทีเพื่อซักซ้อมการปฏิบัติต่อจากนั้นประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณจัดงานกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาฟื้นฟูลำตะคองทักทายผู้เข้าร่วมกิจกรรมและพักผ่อนตามอัธยาศัยพิธีกรเชิญประธานในพิธีขึ้นสู่เวทีถวายคำนับพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตรเปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายสักการะพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประธานเข้าประจำแท่นกาวแล้วทำความเคารพกล่าวเปิดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาฟื้นฟูลำตะคองลงจากเวทีต่อจากนั้นผู้เข้าร่วมพิธีให้นั่งลงโดยคุกเข่าทั้งสองข้างยกตัวสูงขึ้นแล้วกำมือขวาแนบหน้าอกข้างซ้ายจากคำว่าเราทำความดีพร้อมกันจากนั้นยกมือขวากำมือขึ้นแล้วกับคำว่าหัวใจพร้อมกันทำทั้งหมด 3 ครั้งเมื่อกล่าวจบ 3 ครั้งแล้วก็กล่าวคำว่าเฮ้*พร้อมกันโดยมือขวายังคงค้างไว้เพื่อถ่ายรูปร่วมกันหัวหน้าส่วนราชการจิตอาสาประชาชนร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาฟื้นฟูลำตะคองโรงเรียนกำจัดวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำปรับแต่งภูมิทัศน์บริเวณสองฝั่งลำตะคองบริเวณด้านข้าง 2 ฝั่งสะพานตัดแต่งกิ่งไม้เก็บขยะบริเวณด้านข้าง มีผู้เข้าร่วมจำนวน500คน

ขอเชิญร่วมกิจกรรม “วิ่ง-ปั่นสู้…เพื่อกู้ภัย” หารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ชีพ -กู้ภัย

ขอเชิญร่วมกิจกรรม “วิ่ง-ปั่นสู้…เพื่อกู้ภัย” หารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ชีพ -กู้ภัย

 

ขอเชิญทุกท่านร่วมงาน “วิ่ง-ปั่นสู้…เพื่อกู้ภัย” เพื่อหารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ชีพ – กู้ภัย ในวันอาทิตย์ที่  23 มิถุนายน 2562 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น  ประเภทวิ่ง ระยะทาง 5 km., 10.5 km. และรุ่น VIP ไม่กำหนดระยะทาง  และประเภทปั่นจักรยาน ระยะทาง 10.5 km., 40 km. และรุ่น VIP ไม่จำกัดระยะทาง โดยมีรายละเอียดการสมัคร  ดังนี้

ประเภทวิ่ง
• 5 km. ค่าสมัคร 450 บาท
• 10.5 km. ค่าสมัคร 600 บาท
• VIP วิ่งระยะใดก็ได้ ค่าสมัคร 1,000 บาท (ได้รับเสื้อโปโลเพิ่ม 1 ตัว)

*** สิ่งที่นักวิ่งจะได้รับ :เสื้อที่ระลึก+เหรียญ (เหรียญจะได้รับเมื่อเข้าเส้นชัย
ตามเวลาที่กำหนด)

ประเภทปั่นจักรยาน (มีประกันอุบัติเหตุ)

  • 10.5 km. และ • 40 km.
    • ไม่รับเสื้อ ค่าสมัคร 300 บาท
    • รับเสื้อ ค่าสมัคร 500 บาท
    • VIP ปั่นระยะใดก็ได้ ค่าสมัคร 1,000 บาท (ได้รับเสื้อโปโลเพิ่ม 1 ตัว)

*** สิ่งที่นักปั่น ที่สมัคร 500 บาท จะได้รับ : เสื้อที่ระลึก+เหรียญ
(เหรียญจะได้รับ เมื่อเข้าเส้นชัย ตามเวลาที่กำหนด)
*** สิ่งที่นักปั่น ที่สมัคร 300 บาทจะได้รับ : เหรียญ (เมื่อเข้าเส้นชัยตามเวลาที่กำหนด)

#รางวัลที่จะได้รับ

รางวัลการแข่งขันวิ่ง OVER ALL
ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัล จำนวน 6 รางวัล ได้แก่
• ชนะเลิศ ชาย
• รองชนะเลิศ อันดับ 1 ชาย
• รองชนะเลิศ อันดับ 2 ชาย
• ชนะเลิศ หญิง
• รองชนะเลิศ อันดับ 1 หญิง
• รองชนะเลิศ อันดับ 2 หญิง
ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร จะได้รับถ้วยรางวัล จำนวน 6 รางวัล ได้แก่
• ชนะเลิศ ชาย
• รองชนะเลิศ อันดับ 1 ชาย
• รองชนะเลิศ อันดับ 2 ชาย
• ชนะเลิศ หญิง
• รองชนะเลิศ อันดับ 1 หญิง
• รองชนะเลิศ อันดับ 2 หญิง
การแข่งขันปั่นจักรยาน จะได้รับถ้วยรางวัล แบ่งประเภทรางวัล ดังนี้
• ทีมที่เข้าร่วมจำนวนมากสุด
• นักปั่นแฟนตาซี
• นักปั่นอายุน้อยที่สุด
• นักปั่นอายุมากที่สุด
• นักปั่นขวัญใจกู้ภัย
• นักปั่นมาไกล

#การบริการ
1. บริการน้ำดื่ม ทุกระยะ ตลอดเส้นทาง
2. มีรถพยาบาลและเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
3. บริการอาหารและเครื่องดื่มในช่วงเช้าและหลัง วิ่ง-ปั่น เสร็จ

#กติกา
ยึดถือตามกติกาสากลและคำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สุด

ติดตามการสมัครทางออนไลน์ได้ที่
#สมัครออนไลน์

https://www.runlah.com/events/c/rbc19…

https://www.facebook.com/Runlah/

https://www.runlah.com/

เปิดรับสมัคร 26 เมษายนนี้ เวลา 12.00 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามได้ที่ Runlah See First

#การชำระเงิน
ผ่าน ธ.ไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี มูลนิธิพุทธธรรม31 นครราชสีมา (กู้ภัย)
เลขที่บัญชี 503-2-72767-8

หรือชำระเงินสด ได้ที่ สำนักงานมูลนิธิฯ เลขที่ 19 หมู่ 2 บ้านกรีน ถนนบายพาส(ปักธงชัย – จอหอ ) ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ติดต่อสอบถาม สำนักงานมูลนิธิฯ โทร. 044-307298-99 088-715 8208
E-mail : hook31.official@gmail.com

 

ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะสื่อมวลชน ร่วมทำประชาคม ต.พุดซา รื้อ แหล่งโบราณสถานอารยธรรมขอม

ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะสื่อมวลชน ร่วมทำประชาคม ต.พุดซา รื้อ แหล่งโบราณสถานอารยธรรมขอม

ที่ผ่านมา  ดร.สุรสิทธิ์ สิงห์หลง  ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วยคณะ ลงพื้นที่ไปยังที่ทำการเทศบาลตำบลพุดซา  เพื่อหารือและขอมติการรื้อฟื้นตำนานเมืองโบราณของตำบลพุดซา  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา

นายเกรียงศักดิ์  นาคหฤทัย  นายกเทศบาลตำบลพุดซา  พร้อมด้วยนายประเสริฐ  เชยพุดซา  กำนันตำบลพุดซา  พร้อมคณะผู้นำท้องถิ่น และประชาชนได้ให้การต้อนรับ ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  และนายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วยคณะผู้สื่อข่าวจากหลายสำนัก  เพื่อร่วมรับฟังการทำประชามคมเพื่อหารือ และขอความคิดเห็นจากคนในท้องที่ เรื่อง การยกแหล่งโบราณอารยธรรมขอม ที่มีอายุยืนยาว เป็นสถานที่ให้พี่น้องประชาชน ได้เข้ามากราบสักการะ และเพื่อให้สถานที่แห่งนี้ เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป  รวมทั้งยังสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ทางโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา

ปัจจุบัน  บ้านพุดซา  อยู่ในพื้นที่การรับผิดชอบ ของเทศบาลตำบลพุดซา  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา  ทั้งที่ความจริงบ้านพุดซาแห่งนี้มีเรื่องราว  ตำนานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง เป็นโบราณสถานที่ค้นพบสถาปัตยกรรมในสมัยเกาะแกร์  ที่ผสมผสานมาถึงยุค นครวัต – บายน หรือตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 15 ลงมาถึง 18 โดยมีอายุโบราณทางด้านวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ก่อนยุคปราสาทหินพิมาย

นอกจากหลักฐานทางโบราณคดีแล้ว  ยังมีบึงขนาดใหญ่ที่คาดว่ามีเนื้อที่ไม่น้อยกว่า  2,500 ไร่ ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า  “บึงพุดซา”  ที่เล่าขานกันว่าเป็นบึงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผิวโลก  และส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่  ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ต้องจมอยู่ใต้บาดาลจนกระทั่งต้องสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรขึ้นเป็นจำนวนมาก  เพื่อหวังจะให้หมู่บ้านแห่งนี้พ้นจากภัยพิบัติน้ำท่วม

เมื่อราวปี 2478 กรมศิลปากรได้เดินทางมาสำรวจบริเวณบ้านพุดซาบ้างแล้ว   พร้อมได้ขึ้นทะเบียนและปักปันอาณาเขตโบราณสถานไว้ด้วย  จากอดีตจนถึงปัจจุบันโบราณสถานแห่งนี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นแม้แต่น้อย  เนินดินที่กลบซากปรักหักพังอยู่อย่างไร  ก็ยังอยู่อย่างนั้น องค์พระพุทธรูปที่ถูกเก็บ กระจายอยู่ยังวัดต่าง ๆ และบ้างก็ว่ากันว่าสูญหายกันไปมิใช่น้อย

บ้านพุดซา บริเวณที่ตั้งของวัดปรางค์ทองในปัจจุบัน  สันนิษฐานกันว่า  อดีตเคยเป็นปราสาทของพระเจ้าหรรษวรมันที่ 1 ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้ายโศวรมัน แห่งอาณาจักรขอม เมื่อราวพุทธศตวรรษที่  15  ตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบขอม  ก่อสร้างด้วยอิฐ  มีการบันทึกไว้ว่า  สภาพของปราสาทเมื่อปี 2521 ยังคงเห็นส่วนฐานปราสาทที่ก่อสร้างด้วยหินทรายแดงสลักเป็นฐานบัวรองรับปราสาทหลังทิศใต้ (เดิมกรมศิลปากรขุดแต่งพบฐานบัวรองรับปราสาทอิฐ 3 หลัง เรียงตัวในแกนทิศเหนือ – ใต้  สำหรับปราสาทประธาน(หลังกลา)และปราสาทหลังทิศเหนือพังเสียหายหมดแล้ว) ปัจจุบันได้ถมดินรอบปราสาทเหนือระดับฐานบัว  อย่างไรก็ตาม ปราสาทดังกล่าวได้แบ่งออกเป็น  3  ส่วน  คือ ส่วนฐาน  ส่วนเรือนธาตุ และส่วนยอด

ในบริเวณวัดปรางค์ทอง  ยังได้พบชิ้นส่วนของโบราณสถานประเภทหินทรายแดง  หินทรายขาว สลักเป็นหน้าทับหลัง  เสาประดับกรอบประตู ลูกกรงหน้าต่าง ฐานประติมากรรม  กระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากภายในวัด  อาทิ  ทับหลัง ซึ่งวางอยู่ด้านหน้าปราสาทบริวาร มีภาพที่ลบเลือนมาก และดินถมขึ้นเกือบครึ่งแผ่น  ที่กึ่งกลางภาพมีรูปบุคคลนั่งชันเข่า เหนือสัตว์พาหนะ (อาจเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอรวัณ) มีท่องพวงมาลัยออกมาจากกึ่งกลางทับหลัง  เป็นวงโค้งเล็กน้อยเหมือนถูกกดไว้ด้วยน้ำหนักคล้ายกับทับหลังที่จัดแสดงที่สำนักงานอุทยานปราสาทพนมรุ้ง  ศิลปะขอมแบบเกาะแกร์  อายุราวครึ่งหลังพุทธศตวรรษที่ 15

ทับหลังรูปพระวิษณุทรงครุฑ  ซึ่งเก็บไว้บนศาลาวัด  ที่กึ่งกลางภาพสลักภาพพระวิษณุ (พระนารายณ์) ทรงครุฑนั้น ก็ยุคนาคสองตัวที่ทอดยาวตลอดทั้งสองข้างของทับหลัง  ทำนองเดียวกับลายท่องพวงมาลัย ปลายท่องพวงมาลัยเป็นนาคสามเศียรซึ่งหันหน้าออกมาเบื้องหน้า และนาคแต่ละเศียรมีมงกุฎลายใบไม้เป็นเครื่องประดับเหนือท่อนพวงมาลัยสลักเป็นรูปใบไม้ม้วนห้อยตกลงมาจนถึงแนวล่างสุด  สลักเป็นแนวกลับบัวเช่นกัน  ลวดลายดังกล่าวเหมือนกับทับหลังซึ่งที่ปราสาทพนมวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ทั้งนี้  สถานที่แห่งนี้ ยังมีโบราณสถานอีกหลายแห่งที่สำคัญ ที่ชาวบ้านให้ขนานนามว่า  เป็นเมืองบาดาล หรือเมืองพญานาค  จึงเป็นที่มาของการจัดทำประชาคมในครั้งนี้  โดย ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา  ที่พร้อมจะช่วยผลักดันให้สถานที่แห่งนี้  เป็นเมืองของการท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

 

ชมภาพบรรยากาศการประชาคม