สวนสัตว์โคราช รับสัตว์เลื้อยคลาน 260 ตัว จากสวนสัตว์ดุสิต โชว์ดาวเด่น เต่าหกดำอายุ 75 ปี ตะพาบเผือก จระเข้เคย์แมน

ที่ส่วนแสดงสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก สวนสัตว์นครราชสีมา นายเทวินทร์  รัตนะวงศะวัต ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา พร้อมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่บำรุงสัตว์ ร่วมรับมอบสัตว์เลื้อยคลานจากสวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา) จำนวน 260 ตัว ได้แก่เต่าสายพันธุ์ต่างๆ โดยมีดาวเด่นเป็นเต่าหกดำเพศเมีย อายุ 75 ปี ตะพาบ ,กิ้งก่า ชนิดต่างๆ กิ้งก่าหางลิง ,ตะกวด ตะกวดแม่น้ำไนล์ ,มังกี้เทล และจระเข้เคย์แมน โดยมีการลำเลียงลงจากรถบรรทุกเพื่อจำแนก และตรวจสอบสุขภาพสัตว์ไปยังจุดจัดแสดงและคอกเลี้ยงต่างๆที่ได้มีการปรับปรุงก่อสร้างใหม่เพิ่มเติม อย่างระมัดระวัง

นายเทวินทร์ ฯ ผอ.สวนสัตว์นครราชสีมา เปิดเผยว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย หลังจากที่สวนสัตว์นครราชสีมา ได้มีการปรับปรุงและสร้างคอกส่วนแสดงใหม่ ใช้งบประมาณ 8 แสนบาท เพื่อรองรับการเคลื่อนย้ายสัตว์จากสวนสัตว์ดุสิต (เขาดินวนา) จำนวน 413ตัว 112 ชนิด แบ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 23 ชนิด 56 ตัว สัตว์เลื้อยคลาน 76 ชนิด 317 ตัว สัตว์ปีก 8 ชนิด 34 ตัว สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 5ชนิด 6 ตัว กำหนดแผนเคลื่อนย้ายให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน

พรรคชาติพัฒนา เดินเครื่องโมดิฟลายเปลี่ยนจากเดิมมาเป็นเครื่องหมายใหม่ โดยมีอักษร “ช” เป็นสีแดงขาวน้ำเงิน ในการเปิดประชุมใหญ่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

พรรคชาติพัฒนา เดินเครื่องโมดิฟลายเปลี่ยนจากเดิมมาเป็นเครื่องหมายใหม่ โดยมีอักษร “ช” เป็นสีแดงขาวน้ำเงิน ในการเปิดประชุมใหญ่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง

วันที่5ตุลาคม2561เวลา09.30น.ณ.โรงแรมซิตี้พาร์ค ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จังหวัดนครราชสีมา. นพ.วรรณรัตน์” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา เดินเครื่องโมดิฟลายจากเดิมมาเป็นเครื่องหมายใหม่ โดยมีอักษร “ช” เป็นองค์ประกอบขององค์ประชุมใหญ่สามัญพรรคชาติพัฒนาประกอบด้วย  กรรมการบริหารชาติพัฒนาจำนวน12   คน  ผู้แทนชาติพัฒนา จำนวน6 คน และ ตัวแทนสมาชิกพรรคชาติพัฒนาที่รับเชิญจากกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนาจำนวน223คน ในการเปิดประชุมใหญ่ เรียกสมาชิกแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดรับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 60

สำหรับพรรคชาติพัฒนา ถือว่าจังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองหลวงของพรรค ที่มีสมาชิกนับแสนคน แต่การประชุมในครั้งนี้ตามระเบียบได้กำหนดไว้ให้สมาชิกเข้าร่วมประชุม 241 คน ซึ่งก็การประชุมที่ถือว่าเป็นเรื่องปกติเหมือนกับทุกพรรคการเมืองที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการประชุมในครั้งนี้ นอกจากจะมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับแล้ว ก็ยังจะมีเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโลโก้เครื่องหมายของพรรคฯ

ผู้สื่อข่าวรายการว่า สำหรับพรรคชาติพัฒนา โดยการนำของ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรค เป็นประธานนายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรค และ นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรค ในที่ประชุม โดยบรรยากาศในช่วงเช้าเต็มไปด้วยคึกคัก เนื่องจากพรรคชาติพัฒนา ถือว่าเป็นพรรคการเมืองของคนโคราช ซึ่งก็มีพิธีการเปิดตัวผู้สมัครส่วนหนึ่งที่อยู่ในสังกัดพรรคชาติพัฒนาหลายคนและพร้อมเซอร์ไพล์เปิดตัว “น้องวิว”เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโดหญิงทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในกรุงเทพฯ
ส่งนักธุรกิจใหญ่ดร.บุญมา อิ่มวิเศษ ผู้บริหารเครือสตาร์เวลล์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปาตี้ลิสต์ “ในทีมพรรคชาติพัฒน์”ประกาศพร้อมสู้ศึกส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงครบทั้ง 14 เขตในโคราช มั่นใจ 3 เขตอำเภอเมือง

นอกจากนั้นได้มีหนังสือเชิญให้สมาชิกของพรรคพร้อมตัวแทนสาขาพรรคทั้ง 4 ภาค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนา เข้าร่วมเข้าร่วมประชุม โดยวาระสำคัญก็คือการแก้ไขข้อบังคับพรรคให้สอดคล้องกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2560 และ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 รวมทั้งประกาศของคณะกรรมการเลือกตั้งที่มีข้อกำหนดให้พรรคการเมืองดำเนินการกิจกรรมทางการเมืองให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งก็เหมือนกับพรรคการเมืองเก่าๆ ที่จดทะเบียนเดิมอยู่แล้ว ให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างถูกต้องตามกติกาที่กฎหมายได้กำหนด ซึ่งรายงานล่าสุดแจ้งว่าของกรรมการบริหารพรรคแจ้งว่านายสุวัจน์ ลิปตภัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและเป็นอดีตหัวหน้าชาติพรรคพัฒนาจะหวนกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคอีกครั้ง โดยจะมีการเลือกตั้งในการประชุมครั้งต่อไป

นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ จัดงาน คาวบอยไนท์ มอบเครื่องดนตรี มูลค่า 400,000 บาท

นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ จัดงานเลี้ยง  “คาวบอยไนท์”   มอบเครื่องดนตรีมูลค่ากว่า      400,000 บาท  ช่วยเหลือโรงเรียนขาดแคลนอุปกรณ์ดนตรี

              เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 เวลา 19.00 น ที่ผ่านมา   ณ  โรงแรมเดอะเปียโนรีสอร์ท – เขาใหญ่  ได้จัดงาน     “คาวบอยไนท์”   เนื่องในโอกาสเป็นวันคล้ายวันเกิด ครบรอบ  60 ปี ของ ดร. วัชรี ปรัชญานุสรณ์  นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่  ทางผู้จัดงานได้ทำบุญมอบเครื่องดนตรีช่วยเหลือโรงเรียนขาดแคลน โดยได้รับเกียรติจาก  นายสุรพันธ์   ศิลปสุวรรณ  นายอำเภอปากช่องจังหวัดนครราชสีมา     กล่าวเปิดงาน  และกล่าวต้อนรับคณะแขกผู้มีเกียรติ ที่เข้าร่วมงาน โดยมีนายชัชวาล  วงศ์จร   ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา,  คณะกรรมการหอการค้า ,นายธิติรัตน์   พงษ์พุทธรักษ์   นายกสมาคมนักข่าว   จังหวัดนครราชสีมา  ,คณะกรรมการสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่และผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน  ร่วมงานกว่า 300 คน  โอกาสนี้   ดร. วัชรี   ปรัชญานุสรณ์    นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่  ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน  เพื่อเลี้ยงสังสรรค์ขอบคุณ เพื่อนคณะทำงานองค์กรภาคเอกชนและราชการในจังหวัดนครราชสีมา ตลอดระยะเวลาที่ช่วยเหลืองานด้านสังคมและการพัฒนายกระดับการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ให้มีมาตรฐานสากลระดับชาติ เพื่อการขอบคุณคณะบุคคลหน่วยงานต่างๆจึงได้มีการจัดงานเลี้ยงขอบคุณทุกท่านในโอกาสนี้  และเชิญหน่วยงานภาคีเครือข่ายร่วมบุญบริจาคเครื่องดนตรีมูลค่ากว่า 4 แสนบาท  โดยเป็นเครื่องดนตรีเปียโนไฟฟ้าจำนวน 4 เครื่องให้โรงเรียนที่ขาดแคลนเพื่อประกอบการสอน 2 แห่ง ประกอบด้วย  โรงเรียนปากช่อง (คุรุสามัคคี)และศูนย์ฝึก และอบรมเด็กและเยาวชนเขต 3 จังหวัดนครราชสีมา  โดยได้รับเกียรติจาก  นายรัตนะ  วรบัณฑิต   ผู้แทนโรงเรียนรับมอบอุปกรณ์ดนตรี

จากการจัดงานปาร์ตี้  “คาวบอยไนท์”  ครั้งนี้ผู้จัดไม่ประสงค์รับเงินหรือสิ่งของช่วยงาน         แต่หากผู้ร่วมงานจิตอาสาที่ช่วยงานมา  ก็จะนำเงินที่ได้มาทุกบาทช่วยเหลือในการร่วมสมทบทุนเพื่อบริจาคให้โรงพยาบาลปากช่องนานาและโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาอีกครั้งต่อไป

 

 

Korat Car Free Day มีนักปั่นเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน

     จังหวัดนครราชสีมา  จัดกิจกรรม Korat Car Free Day มีนักปั่นในพื้นที่มาร่วมกว่า 1,000 คน

           สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมาจัดกิจกรรมรณรงค์”Korat Car Free Day “ณ.บริเวณโรงเรียนโคราชวิทยาถ.อัษฏางค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 30 กันยายน 2561  โดยได้รับเกียรติจาก  พลเอกธงชัย ตระสินต์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน    ร่วมกับพลเอกมารุต ลิ้มเจริญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะนายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยานนครราชสีมา,นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเปิดกิจกรรม Korat Car Free Day 2018

โดยรายได้จากการจัดงานครั้งนี้มอบเงินสนับสนุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลขามทะเลสอและจัดหาทุนสนับสนุนส่งเสริมนักกีฬาจักรยานสโมสรจักรยานจังหวัดนครราชสีมาทำพิธีปล่อยขบวนจักรยานปั่นมากถึง1,000คัน นักปั่นในพื้นที่ 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา  ร่วมปั่นจักรยานไปตามเส้นทางท่องเที่ยวรอบเขตเทศบาลนครนคราชสีมา โดยเริ่มหน้าโรงเรียนโคราชวิทยาคมผ่านกราบสักการะท้าวสุรนารีย่าโม ตามเส้นทาง33กม.และพักดื่มน้ำที่มูลนิธิพุทธธรรม31( ฮุก31)ศาลเจ้าพ่งไล้จับเก้าเซียวเกาะ นครราชสีมาตลอดการปั่นจักรยานได้รับความสนใจจากนักปั่นและเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมสนับสนุนกิจกรรมลดภาวะโลกร้อนด้วยการเดินทางโดยจักรยานครั้งนี้และทางสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมาจะดำเนินการรณรงค์กิจกรรมดีๆอย่างนี้ต่อเนื่องต่อไป

กลุ่มผู้ด้อยโอกาสกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเปิดตัวร้านทอฝัน by พม.สาขานครราชสีมา

กลุ่มผู้ด้อยโอกาสกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากเปิดตัวร้านทอฝัน by พม.สาขานครราชสีมา

วันที่ 27 กันยายนพ. ศ. 2561 เวลา 10.00 น. ณ ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมาพีธีเปิดตัวร้านทอฝัน by พม.สาขานครราชสีมา โดย  นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี นายอนันต์  ดนตรี  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมากล่าวรายงาน

การที่สำนักงานพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาได้ดำเนินการส่งเสริมสินค้าและผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเป้าหมายพิเศษทางสังคมซึ่งได้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการให้มารวมตัวกัน

จัดงานเปิดตัวร้านทอฝัน by พม.สาขานครราชสีมาในวันนี้เป็นการมุ่งเน้นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้รวมไปถึงยกระดับเศรษฐกิจฐานรากซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายพิเศษทางสังคมดังกล่าวมีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้และยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการตลาดและการพัฒนากลุ่มอาชีพให้สามารถแข่งขันกับตลาดสินค้าและผลิตภัณฑ์ในยุคปัจจุบันได้รวมไปถึงการส่งเสริมศักยภาพในกลุ่มเป้าหมายพิเศษได้มีแหล่งจำหน่ายพันธุ์ให้คุณค่าและพัฒนาตนเองพึ่งตนเองได้เป็นการแปลงภาระให้เป็นพลังของสังคมได้อย่างมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนต่อไปด้านในอนาคต (นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าว) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ด้อยโอกาสกลุ่มผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้ทำการแสดงเต้นท่าบาสโลบ และการเดินแบบของเด็กพิเศษ และเต้นบีบอย ต่อจากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้ไปทักทายเด็กกลุ่มพิเศษเหล่านั้นอย่างเป็นกันเอง โดยไม่ถือตัวเองเลย และนำเด็กๆไปตัดริบบิ้นเปิดร้านทอฝันด้วยตนเองนับว่าเป็นการให้โอกาสเด็กพิเศษเหล่านั้นได้แสดงความสามารถที่มีอยู่และให้กำลังใจการพัฒนาแนวความคิดของเด็กได้ต่อการพัฒนาขึ้นๆไปจนพวกเขาจะอยู่กับสังคมเหมีอนคนปรกติทั่วไปได้เสมอ

https://youtu.be/kH3ALJg5zv8

ชาวบ้าน ต.จระเข้หิน โคราช แห่หาเห็ดผึ้งขมขายสร้างรายได้เสริม กิโลกรัมละ 50 บาท

ชาวบ้านแห่หาเห็ดผึ้งขมขายสร้างรายได้เสริม ชูเมนูลาบเคี้ยวหนึบหนับ ขมหน่อยๆอย่างน้อยต้องลองชิมสักครั้งในชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่มีฝนตกติดต่อกันต่อเนื่องช่วงนี้ ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านตลิ่งชัน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เกิดมีเห็ดผึ้งขมงอกโผล่พื้นดินเป็นจำนวนมาก  ชาวบ้านหลากหลายพื้นที่รวมถึงชาวบ้านบ้านตลิ่งชันเอง พากันออกไปหาเก็บเห็นเพื่อนำมารับประทานเป็นอาหาร รวมถึงนำมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่เด็กเล็ก ที่จะใช้โอกาสช่วงวันหยุดติดตามผู้ปกครองออกไปด้วย ถึงแม้ว่าเห็ดผึ้งขมจะไม่เป็นที่รู้จักและนิยมรับประทานเท่ากับเห็ดป่าชนิดอื่นอย่างเช่นเห็ดระโงก นางหงส์ หรือเห็ดโคน ก็ตาม

โดยเห็ดผึ้งขมนั้น เป็นเห็ดที่มีรูปร่างคล้ายกับเห็ดหอม และเห็ดตับเต่า ช่วงอ่อนดอกตูมจะมีสีม่วงเข้ม แต่หากแก่ดอกบานจะมีสีน้ำตาล มีรสชาติค่อนข้างขม แต่เป็นที่นิยมเพราะชาวบ้านเชื่อว่ามีสรรพคุณเป็นยา รักษาอาการปวดเมื่อย ลดอาการของโรคเบาหวาน  โดยราคาขายหากเป็นเห็ดสดราคาจะอยู่ที่ 40 บาท ต่อกิโลกรัม แต่หากต้มแล้วราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท โดยวันหนึ่งๆชาวบ้านจะหาเก็บเห็ดได้คนละ 3 – 5 กิโลกรัม ซึ่งถือถือเป็นรายได้เสริมอย่างดีของชาวบ้าน อย่างเช่นนางวิเชียร กลมกลาง อายุ 59 ปี และ นางแม้น ผลบุญ อายุ 66 ปี ชาวบ้านบ้านตลิ่งชันที่พากันออกมาหาเห็ด บอกว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกต่อเนื่อง อากาศร้อนอบอ้าว เห็ดผึ้งขมจึงออกดอกมากเป็นพิเศษ  ชาวบ้านนิยมที่จะนำไปต้ม แกง รวมถึงนำไปลาบ รสชาติก็จะออกขมเล็กน้อย แต่มีดีที่เห็ดมีความหนึบและเชื่อกันว่ามีสรรพคุณเป็นยาแก้โรคเบาหวาน

โดยวิธีการทำลาบเห็ดผึ้งขมนั้น ต้องนำเห็ดมาทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ จากนั้นนำไปลวกกับน้ำเดือดใสใบฝรั่งลงไป เพราะจะช่วยทำให้เห็ดผึ้งขมคลายความขมออกส่วนหนึ่ง เพราะหากไม่ใส่ใบฝรั่งรสชาติเห็ดจะขมมากเกินไป ลวกสัก 2 – 3 น้ำ   จากนั้นก็นำมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่เครื่องลาบ อาทิข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา ผักชีฝรั่ง หัวหอม ต้นหอม มะนาว ใบสาระแหน่ เป็นต้น คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติปรุงเพิ่มตามพอใจ ตักเสิร์ฟพร้อมกับผักเครื่องเคียง กินกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติจะออกขมนิดๆ เคี้ยวหนึบหนับ ถูกใจชาวไทยอีสาน  อย่างนี้ต้องลองชิมดูถึงจะรู้เอง

“อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน”สสส.โครงการต้นแบบโรงเรียนชุมชนวัดบ้านรวง

นครราชสีมา- โรงเรียนชุมชนวัดรวง โรงเรียนต้นแบบ“อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน”
เปิดแผน Fit พิชิตอ้วน@ชุมชนวัดรวง รณรงค์สุขภาพดีในโรงเรียน

(วันที่ 21 กันยายน 2561) โรงเรียนชุมชนวัดรวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนต้นแบบ 1 ใน 25 โรงเรียนของโครงการสื่อสร้างสรรค์และกิจกรรมเพื่อรณรงค์โภชนาการสมวัย “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้) ปีที่3 ในภูมิภาค จัดนิทรรศการโครงการแผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง ภายใต้การสนับสนุนจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทำงานร่วมกับสำนักโภชนาการสมวัย สำนักงานบริหารแผนงานอาหารและโภชนาการ เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่ายคนไทยไร้พุง และชมรมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย หวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กในโรงเรียนให้ เข้าใจและเท่าทันโรคอ้วน
โดยดร.ประภาส นวลเนตร ผู้ทรงคุณวุฒิแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการรณรงค์ลดน้ำหนักในเด็กระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้)” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการใช้สื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย มุ่งใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านสุขภาวะ มีการถ่ายทอดให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อการสื่อสารสุขภาวะ ในหัวข้อ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” โดยให้ความสำคัญกับครูผู้สอน เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน ในการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (participatory learning)กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ ได้แก่ นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
“ทั้งนี้ผลการดำเนินงานโครงการ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้)” ปี 2 พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักของนักเรียนจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ หลังดำเนินโครงการฯ ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (สมส่วน) เพิ่มขึ้น ท้วมหรืออ้วนสูงลดลงเล็กน้อย ส่วนกลุ่มที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (ผอม) ยังคงมีเท่าเดิม ซึ่งโดยภาพรวมการดำเนินงานเป็นที่น่าพึงพอใจของทุกฝ่าย แต่ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานที่มีอยู่บ้าง คือ ผู้รับผิดชอบโครงการจำนวนหนึ่งยังไม่เข้าใจในตัวโครงการฯ อย่างชัดเจน เช่น วัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการฯ วิธีการดำเนินโครงการฯ ผลลัพธ์ที่เกิดจากการดำเนินโครงการฯ จึงส่งผลให้การจัดทำกิจกรรม สื่อหรือนวัตกรรม ไม่สอดคล้อง ไม่น่าสนใจ ไม่มีเอกลักษณ์ตามบริบทและภูมิสังคมของพื้นที่ รวมทั้งไม่ตอบโจทย์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ประการต่อมา ระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ มีอยู่อย่างจำกัด การขอความร่วมมือจากร้านค้าในพื้นที่ ในชุมชน และบริเวณโดยรอบโรงเรียน ยังทำได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้เด็กนักเรียนยังมีช่องทางในการซื้ออาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมาบริโภค ส่วนคณะทำงานมีไม่เพียงพอ แต่ละคนมีภารกิจมากเกินไป สุดท้าย คือ ผู้ปกครองและชุมชนไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่” ดร.ประภาส นวลเนตร กล่าว
เมื่อเป็นเช่นนี้ดร.ประภาส นวลเนตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปีนี้ได้มีการต่อยยอดและขยายผลไปยังโรงเรียนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 แห่ง จาก 22 จังหวัด ใน 4 ภูมิภาค ครอบคลุมนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ประมาณ 1,800 คน ทั้งนี้เราจะพาไปดูกันว่าโรงเรียนที่เป็นต้นแบบใน 25 โรงเรียนนี้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กในโรงเรียนให้ เข้าใจและเท่าทันโรคอ้วน โรงเรียนชุมชนวัดรวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็น 1 ในโรงเรียนต้นแบบครั้งนี้
ด้านนายประสงค์ ชูใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดรวง กล่าวว่า ในนิทรรศการโครงการแผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง ครั้งนี้ทางโรงเรียนได้นำความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมาเข้ามาปรับใช้เริ่มตั้งแต่การจัดให้มีตัวแทนนักเรียนแต่งชุดย่าโมออกศึก พาคณะกรรมการเดินเข้าประตูเมืองโคราช “วันประกาศชัยฟิต พิชิตอ้วน” ที่มีการจำลองให้เกิดขึ้นในโรงเรียน พร้อมทั้งมีการแสดงรำโทน โคราช และจัดนิทรรศการด่านต่างๆ ขึ้นมา อาทิ ด่านที่ 1 กลยุทธ์ชุดออกศึก, ด่านที่ 2 กลยุทธ์ชุดโภชนาการ และด่านที่ 3 กลยุทธ์เร่งฟิตพิชิตอ้วน พร้อมกับมีการแสดงรหัสการปรบมือ แผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง เพื่อแสดงพลังและประกาศชัยชนะ ฟิตพิชิตอ้วน พร้อมกันทั้งโรงเรียนด้วย เพื่อหวังปลูกฝังการเรียนรู้ ความเข้าใจในเรื่องลดอ้วนอย่างถูกวิธี ถูกต้องตามหลังโภชนาการและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เชื่อว่าไม่นานเด็กๆ ที่โรงเรียนชุมชนวัดรวง นี้จะมีสุขภาพที่ดีไม่อ้วน และไม่ผอมเกินไปอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวฤทัยรัตน์ ไกรรอด โทรศัพท์ 082-596-9296

“จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ” ร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายกักเก็บน้ำในพื้นที่ห่างไกล

จิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ร่วมแรงร่วมใจสร้างฝายกักเก็บน้ำในพื้นที่ห่างไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเกียรติ ทองครบุรี ผู้ใหญ่บ้านคอกช้าง หมู่ที่ 11 ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี   จ.นครราชสีมา นำประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจในพื้นที่ กว่า 50 คน ช่วยกันก่อสร้างฝายน้ำล้นเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง เนื่องจากหมู่บ้านคอกช้างไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและ จนเกิดเป็นปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งเป็นประจำทุกปี  อีกทั้งยังเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลที่ตั้งขึ้นเพื่อช่วยดูแลผืนป่าสงวนแห่งชาติป่าครบุรี และอุทยานแห่งชาติทับลาน จึงยังไม่มีระบบสาธารณูปโภคทั้งน้ำประปาและไฟฟ้า

ประกอบกับก่อนหน้านี้ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนกว่า 4 แสนบาท เพื่อมาช่วยทำการขุดลอกคลองน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านไว้ให้แล้ว ทางชุมชนจึงช่วยกันระดมทุนและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆเพื่อมาสร้างฝายน้ำล้นไว้กักเก็บน้ำ โดยประชาชนจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ได้ช่วยกันสร้างฝายน้ำล้นจำนวน 2 ตัว ให้ลดหลั่นกันไปแบบขั้นบันได ให้สามารถกักเก็บน้ำเป็นระยะๆ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูน้ำหลาก ปริมาณน้ำทั้งหมดที่ไหลลงมาจากเขาคอกช้างซึ่งอยู่ด้านบน จะไหลผ่านหมู่บ้านจนไม่มีเหลือ เพราะบริเวณหมู่บ้านเป็นที่สูงและไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าฝายที่สร้างขึ้นใหม่นี้จะสามารถกักเก็บน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ ไว้ให้ได้ใช้ต่อไปในอนาคต

>คลิป<<

 

หนุ่มโคราช ระดมเงินสร้างเมรุเผาสัตว์เลี้ยงเป็นสาธารณะประโยชน์ให้คนรักสัตว์อุทิศส่วนกุศลในวาระสุดท้าย

หนุ่มเมืองโคราช รักสุนัขเหมือนคนในครอบครัว ระดมเงินสร้างเมรุเผาสัตว์เลี้ยงเป็นสาธารณะประโยชน์ให้คนรักสัตว์อุทิศส่วนกุศลในวาระสุดท้าย

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ โย เซฟวัน ได้โพสต์ ภาพบรรยากาศการประกอบพิธีส่งมอบสถานที่ศาลา และเตาเผาสัตว์เลี้ยงให้วัดหนองปรู มีข้อความระบุว่า “ ฝากแชร์ มีแล้วโคราช เตาเผาสัตว์เลี้ยงไม่คิดค่าบริการ      ( จ่ายแค่ค่าถ่านไม่เกิน 200 บาท) เปิดให้ใช้งานแล้ว ทางเข้าประตู 1 มทส. วัดหนองปรู Cr ภาพ ED kitda ” ได้รับความสนใจจากชาวเน็ต และคนรักสัตว์ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่วัดหนองปรู หมู่ 4 ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบสิ่งปลูกสร้างคล้ายเมรุ แต่มีขนาดเล็กกว่า ทาสีขาวทั้งหลัง พร้อมมีเตาเผาขนาดเล็กอยู่ภายใน รอบบริเวณตั้งรูปปั้นสุนัขกว่า 10 ตัววางรอบบริเวณทางขึ้น โดยมี นายยุทธนา หรือโย  ชัยศิริ อายุ 40 ปี เจ้าของธุรกิจจำหน่ายสินค้าไอที ตลาดเซฟวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นผู้ระดมเงินบริจาคก่อสร้าง ฯ นำเดินชม และอธิบายสาเหตุในการดำเนินการ

นายยุทธนา หรือโย ฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา “น้องอุษา” สุนัขพันธุ์ เฟรนช์ บูลด็อก เพศเมีย วัย 4 ปี เป็นสุนัขคู่ใจ เลี้ยงดูเป็นอย่างดี ราวกับสมาชิกในครอบครัว ได้ตายด้วยโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ด้วยความผูกพันกับสัตว์เลี้ยงตนต้องการให้มีการประกอบพิธีฌาปนกิจ แต่ในพื้นที่ มีสถานที่เพื่อประกอบพิธีให้สัตว์เลี้ยงเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ในวาระสุดท้าย ไม่เพียงพอ

จนกระทั่งพบว่าที่วัดหนองปรู ฯ มีเตาเผาสำหรับสัตว์เลี้ยง แต่มีสภาพทรุดโทรม ไม่สามารถรองรับสุนัขที่มีขนาดใหญ่ได้ จำเป็นต้องก่อสร้างใหม่ โชคดีที่ผ่านมาตน และน้องอุษา เคยร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิ องค์กรเกี่ยวกับการดูแลอุปการะสัตว์ รวมถึงโรงพยาบาลรักษาสัตว์ และเครือข่ายผู้รักสัตว์ ได้ร่วมกัน ระดมเงินทุนใช้ในการก่อสร้าง ฯ มูลค่ากว่า 2 แสนบาท ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากวัดหนองปรู ให้ใช้พื้นที่ดำเนินการก่อสร้าง พร้อมฝังเถ้ากระดูกของ “น้องอุษา” ไว้ด้านใต้ศาลา ฯ ใช้ชื่อ “ ศาลาอุษาวดี และเตาเผาสัตว์ ” ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณ “ น้องอุษา ” ไปสู่ภพภูมิที่ดี

ประชาชนทั่วไปสามารถนำสัตว์เลี้ยงทุกชนิดมาใช้บริการได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงไม่เกิน 200 บาท ส่วนเงินบริจาคในการประกอบพิธีสวดบังสุกุล คล้ายกับการเผาศพของคนแต่มีการตัดบทสวดมนต์ออกไป รวมทั้งเงินค่าบำรุงวัด ไม่กำหนด อยู่ที่กำลังทรัพย์ ความสมัครใจของเจ้าภาพ ติดต่อนัดหมายเพื่อประกอบพิธีฯ ได้ที่พระสุทัศน์  กิตฺติสาโร ( สืบแสนศรี) หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 098 -5454336

Cr.ประสิทธิ์ วนะชกิจ

 

เมืองโคราชผุดโครงการ “รถรางเพื่อน้อง” บริการฟรี! หวังแก้ปัญหารถติดชั่วโมงเร่งด่วนบนถนนมิตรภาพ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ  “รถรางเพื่อน้อง” โดยมีตัวแทนจากตำรวจภูธรภาค 3 เทศบาลนครนครราชสีมาและบริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ ณ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช

พันตำรวจโท โกสินทร์ สะอาดวงศ์ รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เผยว่า “จากแนวคิดของ สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ร่วมกับ เทศบาลนครนครราชสีมา จัดทำโครงการ “รถรางเพื่อน้อง” หวังแก้ปัญหาการจราจรบนถนนมิตรภาพในช่วงเวลา 07.00-08.00 น. โดยเส้นทางนี้มีสถานศึกษาขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณดังกล่าวถึง 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา,โรงเรียนเมืองนครราชสีมา, โรงเรียนสุรนารีวิทยา และวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา ซึ่งมีนักเรียน นักศึกษา รวมกันทั้ง 4 แห่งกว่า 20,000 คน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่ผู้ปกครองต้องเดินทางไปส่งนักเรียน นักศึกษา ส่งผลให้มีปริมาณรถบนท้องถนนมากและทำให้รถติด โดยเฉพาะเส้นทางสี่แยกตลาดประปาไปจนถึงบริเวณสามแยกถนนสุรนารายณ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ทำให้โครงการนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา จากการดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 มีสถิตินักเรียนใช้บริการนับตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2561 ถึง5 กันยายน 2561 จำนวนทั้งสิ้น 10,542 คน แบ่งเป็นช่วงเช้า 4,180 คน และช่วงเย็น 6,362 คน ทำให้ปริมาณนักเรียนที่ใช้บริการรถรางเฉลี่ยอยู่ที่ 211 คน/วัน โดยกระแสตอบรับจากนักเรียนและผู้ปกครองเป็นไปในทิศทางที่ดี และต้องการให้ขยายโครงการเพิ่มเติม

นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมากล่าวเสริมว่า “แรกเริ่มโครงการได้จัดรถราง จำนวน 3 คันและภายหลังได้รับการสนับสนุนรถรางจากห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราชอีก 2 คัน ทำให้ปัจจุบันมีรถรางไว้บริการรับ-ส่ง ไปยังสถานศึกษาทั้ง 4 แห่ง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นจำนวน 5 คัน ซึ่งรองรับนักเรียน นักศึกษาได้ 220 คน/ครั้ง ให้บริการรับ-ส่ง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ แบ่งเป็น 2 รอบ ได้แก่ รอบเช้า เวลา 07.20 น. และรอบเย็น เวลา16.40 น. ใช้เวลาเดินทางเฉลี่ย 5-7 นาที/ครั้ง เดินทางไป-กลับ ระหว่างจุดจอดบริเวณหน้าเดอะมอลล์โคราชและจุดจอดโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนบริเวณหน้าสถานศึกษาให้ยานพาหนะที่สัญจรผ่านบริเวณหน้าโรงเรียนสามารถขับขี่ได้อย่างสะดวก ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปส่งบุตรหลานและเป็นการช่วยลดการใช้พลังงาน ลดมลภาวะจากควันรถ อีกทั้งเพื่อเปิดทางให้รถพยาบาล รถกู้ภัย หรือรถของประชาชนในการลำเลียงผู้ป่วยสามารถใช้เส้นทางนี้ไปยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้อย่างสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย”

ด้านนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เผยว่า “รถรางเพื่อน้องเป็นโครงการที่ดี สามารถลดปัญหาการจราจรติดขัดได้จริง โดยเดอะมอลล์โคราชให้การสนับสนุนรถ shuttle bus จำนวน 2 คัน และพื้นที่ในการรับ-ส่ง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทางอย่างเต็มที่ อีกทั้งผู้ปกครองสามารถวางใจได้เพราะทุกที่นั่งได้ทำประกันชีวิตกับไทยประกันชีวิตโดยมีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2561- 28 มิถุนายน 2562 คิดเป็นเงินคุ้มครองจำนวน 10 ล้านบาท และด้วยสถานที่อันเป็นศูนย์กลางของผู้ปกครอง มีความสะดวกสบายที่เดอะมอลล์โคราชจะสามารถมอบให้ได้ เป็นการสร้างความปลอดภัย ความตรงต่อเวลาและประหยัดเวลาในการรับส่งบุตรหลานของพี่น้องชาวโคราช ทางเดอะมอลล์โคราชก็ยินดีและพร้อมให้การสนับสนุนครับ”