ประชาชนชาวโคราชแฮปปี้โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ช่วงสระบุรี-นครราชสีมา)พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยวฯ

ประชาชนชาวโคราชแฮปปี้โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ช่วงสระบุรี-นครราชสีมา)พร้อมต้อนรับการท่องเที่ยวฯ
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 08.00 น. – 12.00 น.การประชุมใหญ่การมีส่วนร่วมของประชาชน
งานปรับแบบรายละเอียดในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน (ช่วงสระบุรี-นครราชสีมา)ณ ห้องประชุมโรงแรมสีมาธานี ถนนมิตรภาพ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาโดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนการรถไฟแห่งประเทศไทย กระทรวงคมนาคม กล่าวรายงาน
หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนจากภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ผู้นำชุมชน สื่อมวลชน พี่น้องประชาชนและผู้มีเกียรติทุกท่าน
มื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2557 ณ กรุงเทพมหานคร รัฐบาลไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558 – 2569 เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ขนาดมาตรฐาน เส้นทางกรุงเทพฯ – นครราชสีมา – หนองคาย และเส้นทางแก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทางรวมประมาณ 867 กิโลเมตร ซึ่งฝ่ายรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยตกลงให้รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมโครงการ ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของโครงการ และดำเนินการก่อสร้างงานโยธา


การประชุมในวันนี้มีสาระสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการที่จะได้รับทราบข้อมูลความเป็นมาของโครงการ เหตุผลความจำเป็นของโครงการและความจำเป็นในการปรับแบบของโครงการ รูปแบบรายละเอียดของโครงการ และองค์ประกอบของโครงการ ตลอดจนแนวทางและขั้นตอนการศึกษาkที่สำคัญแก่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ศึกษาโครงการรวมถึงได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่จะช่วยให้การพัฒนาเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการของทุกภาคส่วนยิ่งขึ้นผมจึงขอเชิญชวนท่านผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงการและนำข่าวสารการประชุมในวันนี้ไปเผยแพร่ต่อชุมชนและหน่วยงานของท่านอย่างทั่วถึงต่อไป


ความร่วมมือข้างต้น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายรถไฟสอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่ส่งเสริมการลงทุนในโครงการที่สำคัญของประเทศ ทั้งโครงการต่อเนื่องและโครงการใหม่ที่มีความพร้อม การศึกษาโครงการระบบรถไฟทางคู่ขนาดทางมาตรฐาน 1.435 เมตร ช่วงบ้านภาชี-แก่งคอย-นครราชสีมา จึงเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางรางที่กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการขนส่งและเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของประเทศ


เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประเทศไทยได้หารือทวิภาคีกับนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ เมืองไหหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ประชุมสรุปการลงทุนโครงการ ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด โดยกำหนดนโยบายเริ่มก่อสร้างเส้นทาง กรุงเทพฯ – นครราชสีมา และส่วนต่อขยายเมื่อมีความพร้อม
การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 10 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้มีการเริ่มต้นก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา เป็นลำดับแรก
ในการนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการจ้างและสั่งจ้างบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดการออกแบบของฝ่ายจีน ออกแบบเพิ่มเติมในส่วนที่ฝ่ายจีนไม่ได้ดำเนินการ สำรวจรายละเอียดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการเวนคืน และการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม โครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ช่วงบ้านภาชี-แก่งคอย-นครราชสีมา
สำหรับการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นกิจกรรมที่มีความมุ่งหมายที่สำคัญเพื่อเผยแพร่ข้อมูลและการดำเนินงาน ที่ฝ่ายจีนเป็นผู้ออกแบบรายละเอียดการก่อสร้างและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องปรับปรุงจากรูปแบบเดิมจากที่ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งการจราจร (สนข.) ได้ศึกษาและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ – นครราชสีมา (ช่วงชุมทางบ้านภาชี – นครราชสีมา) และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้วในการประชุมครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 และเพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะนำไปพิจารณาประกอบการสำรวจออกแบบรายละเอียดตามนโยบายของรัฐบาลที่เร่งรัดให้ดำเนินการโดยเร่งด่วนรวมทั้งทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการจากที่ได้รับความเห็นชอบ และการจัดทำมาตรการป้องกันแก้ไข และบรรเทาผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่มีความรอบคอบ รัดกุม และมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับรูปแบบการพัฒนาโครงการให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ก่อนที่จะดำเนินการก่อสร้างโครงการต่อไป

พิธีบูรพาจารย์รำลึกในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย

พิธีบูรพาจารย์รำลึกในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย

ที่วัดครบุรี หรือวัดหลวงปู่นิล ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส นำศิษยานุศิษย์ของพระครูนครธรรมโฆสิต หรือหลวงปู่นิล อิสฺสริโก ร่วมประกอบพิธีบูรพาจารย์รำลึก ในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย อดีตเจ้าอาวาสวัดครบุรี เทพเจ้าแห่งความเมตตาอีสานใต้ ที่ได้ช่วยเหลือในการบำรุงพระพุทธศาสนา รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วยการนำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่เพื่อชี้นำไปสู่การประกอบคุณงามความดี พร้อมทั้งยังใช้ความรู้เกี่ยวกับการปรุงยาสมุนไพรโบราณเพื่อนำมาช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยจนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งประเทศ ซึ่งมีบรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่นิล มาร่วมในงานวันนี้หลายพันคน

โดยในพิธีได้มีการทำบุญตักบาตร พร้อมนิมนต์พระสงฆ์และเกจิอาจารย์ชื่อดังจาก 27 วัด รวม 130 รูป ของจังหวัดนครราชสีมา มาประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนตร์/มาติกา บังศุกุล เพื่อถวายแด่พระครูนครธรรมโฆสิต หรือหลวงปู่นิล อิสฺสริโก  พร้อมทั้งมีการเปิดให้ศิษยานุศิษย์ได้ร่วมทำบุญปิดทองหุ่นขี้ผึ้งเสมือนหลวงปู่นิล  และร่วมกิจกรรมบุญต่างๆที่ทางวัดจัดเตรียมไว้อย่างหลากหลาย รวมถึงยังมีผู้มีจิตศรัทธานำโรงทานมาร่วมในงานบูรพาจารย์รำลึก ในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ ของหลวงปู่นิล อิสฺสริโก ในวันนี้กว่า 100 โรงทาน พร้อมมีการแสดงมหรสพสมโภชตลอดทั้งวัน

สำหรับพระครูนครธรรมโฆสิต หรือ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก  นามเดิมคือ นิล แหวนครบุรี เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2445 อุปสมบทเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ณ พัทธสีมาวัดนกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พระอุปัชฌาย์ของท่านคือ หลวงปู่กลิ่น วัดนกออก พระอธิการพรหม กิตติคุณ  เชื่อกันว่าท่านสำเร็จอภิญญา มีพลังจิตเข้มแข็ง อธิษฐานปลุกเสกจนวัตถุมงคลของท่านเป็นที่เลื่องลือ ที่โดดเด่นทางเมตตามหานิยม และ คุ้มครองป้องกัน นอกจากท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มากด้วยวิชาอาคมแล้ว เรื่องวิชาแพทย์แผนโบราณ ยาสมุนไพร ถือเป็นที่ยอมรับอย่างมากช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วยมานับไม่ถ้วน ส่วนสุดยอดวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์ลูกหาหวงแหนมากที่สุด คือ พระตะกั่วเถื่อน รูปถ่ายขาวดำ เหรียญรูปไข่ มหาอุตม์ไม้รวก สีผึ้งเจ็ดอังคาร ตะกรุดมหาอำนาจหนังเสือ ทั้งนี้หลวงปู่นิลมรณภาพ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2537 รวมสิริอายุได้ 92 ปี 6 เดือน 72 พรรษา โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 24 ปีของการมรณภาพ

 

โคราช !!จัดลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)

โคราช -!!จัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)ทำความดีด้วยหัวใจ  ลดภัยสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับปัญหาขยะที่เกิดขึ้น

วันที่ 23 สิงหาคม2561ณศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราชจังหวัดนครราชสีมาการเปิดตัวโครงการและลงนามบันทึกตกลงข้อความร่วมมือ MOUทำความดีด้วยหัวใจลดภัยสิ่งแวดล้อมกิจกรรมลดรับลดให้ลดใช้ถุงพลาสติกโฟมและพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม(cap seal)และการดำเนินงานตามมาตรการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ การจัดงานเปิดตัวโครงการและลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOUทำความดีด้วยหัวใจ  ลดภัยสิ่งแวดล้อมในวันนี้เป็นกิจกรรมที่จังหวัดนครราชสีมา โดยนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายสุเมธ อำภรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมากล่าวรายงาน

ได้ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลซึ่งได้ให้ความสำคัญกับปัญหาขยะที่เกิดขึ้นโดยได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยเป็นวาระแห่งชาติเนื่องจากในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมามีการนำพลาสติกและโฟมมาใช้มากขึ้นในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ของต่างๆมากขึ้นโดยจากสถิติพบว่าประเทศไทยมีการบริโภคถุงพลาสติกหูหิ้ว45000 ล้านใบต่อปีและจากข้อมูลของการควบคุมมลพิษพบว่าปัจจุบันใน 1 ปีตลาดสดในเมืองไทยมีการใช้ถุงพลาสติกมากถึงร้อยละ 50ของปริมาณการใช้ถุงพลาสติกทั้งหมดหรือประมาณ108 พันล้านใบในห้างสรรพสินค้า13500 ล้านนาร้านขายของชำ13500 ล้านบาทนอกจากนั้นแล้วยังมีการใช้โฟมบรรจุอาหาร6,758 ล้านบาทต่อปีแก้วพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว9750 ล้านบาทต่อปีและพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม2,600 ล้านชิ้นต่อปีซึ่งพลาสติกและโฟมเหล่านี้เป็นวัสดุที่ย่อยสลายยากเมื่อไม่ได้รับการจัดการที่ถูกต้องภายหลังการบริโภคซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเลและมีแนวโน้มในการเกิดรั่วไหลของสารปรุงแต่งและสารประกอบที่ใช้ในการผลิตพลาสติกและโฟมที่ใช้บรรจุอาหารซึ่งอาจเป็นพิษและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมาได้เห็นความสำคัญปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติกและผมจึงจัดทำโครงการทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการบูรณาการระหว่างภาครัฐเอกชนและประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกและโฟมของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลอย่างรูปประธรรมพร้อมนำมาตรการลดการคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็น 1 ใน 5 กิจกรรมภายใต้โครงการทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในคราวการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่17 กรกฎาคม 2561 ให้ทุกหน่วยงานภาครัฐมีการดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริมสกุลการลดและคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานและให้สำนักงานก.พ.ร.กำหนดให้ผลการดำเนินงานลด และคัดแยกขยะมูลฝอยเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพหน่วยงานภาครัฐโดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562มาถ่ายทอดสู่การปฏิบัติในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาด้วยเพื่อให้เกิดผลการลดการใช้ถุงพลาสติกโฟมและcap seal อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน เพื่อดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่มีเป้าหมายที่ลดการใช้ถุงพลาสติกหรือถุงหูหิ้วพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มรวมถึงลดการใช้กล่องโฟมบรรจุอาหารให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี 2562 นี้โดยเมื่อวันที่8 สิงหาคม2561ที่ผ่านมาสำนักงานได้จัดกิจกรรมทำความดีด้วยหัวใจ ลดรับลดให้ ถุงพลาสติก โฟม และพลาสติก หุ้มฝาขวดน้ำดื่มไปครั้งหนึ่งแล้วที่ตลาดย่าโมไปแล้ว วันนี้มีผู้ร่วมกิจกรรมในวันนี้ประมาณ 300 คนประกอบด้วยส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์น้ำดื่มบรรจุขวดผู้ค้าในตลาดสดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมาและกิจกรรมภายในงานชมวีดีทัศน์กิจกรรมการดำเนินงานตามมาตรการลดการคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐบรรยายหัวข้อทำความดีด้วยหัวใจลดภัยสิ่งแวดล้อมกิจกรรมการดำเนินงานตามมาตรการลด  และคัดแยกขยะมูลฝอยในหน่วยงานภาครัฐ ชมวีดีทัศน์มอบนโยบายการจัดการขยะมูลฝอยโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และการรณรงค์ประชาสัมพันธ์กิจกรรมทำความดีด้วยหัวใจลดรับ ลดให้ ลดใช้ถุงพลาสติกโฟมเรือพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มในห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช

โคราช-ผบก.ก.จว. !!ชี้ชัด ว่าเป็นมาตรการการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดจะจับเมาสุราอย่างเดียวไม่ได้

วันที่22สิงหาคม2561เวลา 13.30น. จังหวัดนครราชสีมว ครั้งที่ 3/2561ประจำปี 2561หน้าห้องประชุมไทรทอง สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา โดยพลตำรวจตรีวัชรินทร์ บุญคง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา สืบเนื่องจากวันที่21สิงหาคม2561 เวลา 16.00น ได้มีกลุ่มผู้ประกอบการร้านค้าและพากันเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเกี่ยวกับการค้าการขายดำเนินงานไม่สะดวกเท่าที่ควรจึงได้พากันพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเนื่องจากมีการตั้งด่านเป็นจำนวนมากในจังหวัดนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ห้องประชุมไทรทองในเวลาดังกล่าวที่ประชุมก็ได้หยิบยกประเด็นการตั้งด่านขึ้นมาผู้การได้ให้เหตุผลในการตั้งด่านจังหวัดนครราชสีมา ว่าเป็นมาตรการการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดจะจับเมาสุราอย่างเดียวไม่ได้ ในความสูญเสียในเรื่องการใช้วิธีการรักษาเสียเงินเสียทองมากมาย ทำไมเราไม่ระวังไม่ป้องกันหรือหลายๆท่านทราบไหมว่าวันนี้ประเทศไทยคืออันดับหนึ่งของโลกในการเกิดอุบัติเหตุ เราไม่ได้เป็นอันดับ 2ของโลกแต่อย่างใด

แต่ก็ได้หยิบยกประเด็นของคนที่พิการเพราะเมาแล้วขับ ท่านอยากจะเป็นอย่างนี้คนที่มานั่ง  ตรงนี้ใช้ไหม(ผู้การถาม) ภายในบรรยากาศภายในห้องประชุม ได้ฉายสไลด์เกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในการขับรถเมาไม่ขับจะได้มีการซักถามเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่ทำให้เป็นผู้พิการตลอดชีวิต การตั้งด่านเป็นมาตรการจุดตรวจและจุดสกัดไม่ได้จับเมาสุราอย่างเดียวอย่างเช่นเมื่อเร็วๆนี้และมีการจับยาเสพติดลอตใหญ่ได้ในจังหวัดนครราชสีมาเป็นต้น

ติวเข้มสื่อภาคอีสาน พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ การใช้มือถือ อย่างมืออาชีพ ในยุค 4.0

ติวเข้มสื่อภาคอีสาน พัฒนาศักยภาพเชิงปฏิบัติการ  การใช้มือถือ อย่างมืออาชีพ ในยุค 4.0

ที่ผ่านมา  นายณรงค์ ไตรกิจวัฒนกุล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าน้ำพอง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ครั้งที่ 1/2561     การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” และบรรยายพิเศษเรื่อง “กฟผ.4.0” จัดโดย สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ระหว่างวันที่ 17-19 สิงหาคม 2561 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเต็ล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จ.นครราชสีมา


โดยมี นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ และ นพ.ธีรวัฒน์ ร่มไทรทอง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธีรวัฒน์ จ.กาฬสินธุ์ บรรยายพิเศษเรื่อง “ฟ้าสวย ตาใส” นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 5 นครราชสีมา เป็นประธานปิดการอบรมและมอบวุฒิบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรม โดยมีสื่อมวลชนสาขา นสพ., วิทยุ, เคเบิ้ลทีวี และสื่อออนไลน์ จากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน เข้าร่วมอบรมกว่า 50 คน


พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า ปัจจุบันทุกคนสามารถเป็นนักข่าวได้ ผู้ที่มีมือถือสมาร์ทโฟน เมื่ออยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ สามารถที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตข่าว และรายงานข่าวได้ด้วยตัวเอง เป็นการรายงานเหตุการณ์สด ได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตามอาชีพคนทำข่าว หรือนักหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้สูญหายไปไหน แต่ต้องมีการปรับตัวมากขึ้น นักข่าวจะต้องเปลี่ยนบทบาทตัวเอง ไม่ใช่แค่การเขียนลงหนังสือพิมพ์ วิ่งไปทำข่าวในที่เกิดเหตุ แล้วกลับมารายงานข่าวผ่านสื่อที่ตนรับผิดชอบ แต่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำข่าว เปลี่ยนเป็นการรายงานผ่านสื่อออนไลน์ การทำ LIVE เหล่านี้คือบทบาทของนักข่าวที่จำเป็นต้องเปลี่ยนอย่างแน่นอน


ดังนั้น สมาคมเครือข่าย หนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ได้เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิตอลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ประจำปี 2561 เรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ ยุค 4.0” เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้เข้าใจและเรียนรู้การผลิตข่าวด้วยมือถือ โดยให้กลุ่มเป้าหมายเป็นศูนย์กลาง วิธีการนำเสนอ เพื่อสร้างความเข้มแข็ง และให้เข้าถึง โดนใจผู้บริโภคในยุคดิจิตอลนี้ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในการทำงานและชีวิตประจำวัน
ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการ ที่จัดขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ได้เพิ่มพูนความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยี กระบวนการผลิตข่าวผ่านสื่อออนไลน์ มีทักษะทางด้านการรายงานข่าวด้วยมือถือ อันจะนำไปสู่ความเป็นนักข่าวมืออาชีพ สามารถทำหน้าที่ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป นำไปปรับใช้กับองค์กร และนำไปต่อยอดใช้ให้เกิดประโยชน์ในอาชีพสื่อสารมวลชนต่อไป


การอบรม “เล่าเรื่องยุคดิจิทัลด้วยมือถือ” โดยวิทยากร ประกอบด้วย อ.กุลพัฒน์ จันทร์ไกรลาส (อ.ต่อง), อ.จำรัส จันทนาวิวัฒน์ (อ.หมิ่น) และ อ.วนาภรณ์ ตลอดไธสง (อ.กิ๊ก) บรรยายในหัวข้อ การทำข่าวในยุค สื่อออนไลน์, หลักคิดเรื่อง วารสารศาสตร์มือถือ (Mobile Journalism), การนำไปใช้ในการผลิตเนื้อหาสำหรับสื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ, รู้จักมือถือ ทำอะไรได้บ้างในยุคสื่อออนไลน์ 4.0, มารู้จักแอพพลิเคชั่นดี ๆ สำหรับการใช้มือถือทำงานผลิตเนื้อหาข่าว, หลักการถ่ายภาพด้วยมือถือ และการแต่งภาพเพื่อนำไปใช้งาน, แนะนำการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ขาตั้ง ตัวประคองโทรศัพท์มือถือ และไมโครโฟน, เข้าใจการทำงานผลิตวีดีโอเพื่ิอการเล่าเรื่อง การวางแผน การถ่ายทำ และการตัดต่อ การพากย์และการลงเสียงให้น่าฟัง การเปิดหน้าพูดกับกล้อง การสัมภาษณ์ เป็นต้น
ผู้เข้าอบรมได้รับความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และได้ฝึกปฏิบัติจริง ทั้งการวางแผน การเล่าเรื่อง การถ่ายทำ การตัดต่อ การทำกราฟฟิค และการลงเสียงบรรยาย จากนั้นทั้ง 7 กลุ่ม ได้นำเสนอผลงาน โดยคณะวิทยากรได้ให้คำแนะนำ ชี้แนะ เพื่อปรับปรุงแก้ไขผลงานให้สมบูรณ์ โดยทุกขั้นตอนการผลิตใช้เพียงโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ซึ่งผลงานทั้ง 7 กลุ่ม คณะวิทยากรได้พิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล ดังนี้ รางวัลชนะเลิศ เรื่อง ท่องเที่ยว วัดในประวัติศาสตร์ นครราชสีมา รองชนะเลิศอันดับ 1 รายการทีวีแขมร์ พาเที่ยววัดศาลาลอย และรองชนะเลิศอันดับ 2 เรื่อง เที่ยว ปราสาทพนมวัน
“สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน จะจัดโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสาน ครั้งที่ 2/2561 ภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเป็นการต่อยอดและขยายผล เพื่อให้สื่อมวลชนภาคอีสาน ได้เกิดทักษะ และเพิ่มศักยภาพในการผลิตข่าวเชิงคุณภาพที่ดีๆ ให้กับสังคม และเป็นการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์สื่อใหม่ รวมทั้งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่พลาดการอบรมในครั้งที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมฯ โดยรายละเอียดต่างๆ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป และขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนการจัดโครงการฯ ในครั้งนี้ทุกท่าน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากท่านในครั้งต่อๆ ไป”

!!ด่วนเลขาธิการกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยุติการเคลื่อนไหวหวั่นสร้างความแตกแยกของประชาชน (คัดค้านจังหวัดบัวใหญ่)

วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๑ ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (คัดค้านจังหวัดบัวใหญ่) ร.ต.พงศ์ภัค ภูริสิทธิพล ที่ปรึกษา เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา และนายวันชัย ช่วงเมืองปักษ์ ตัวแทนกลุ่มผู้คัดค้านจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนางสาวปัณฑารีย์  โชรัมย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมฯ เป็นตัวแทนรับเรื่องที่กลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา ยื่นขอให้ทางจังหวัดทำประชาพิจารณ์ใน ๘ อำเภอ เรื่องการจัดตั้งจังหวัดบัวใหญ่ และยื่นเรื่องขอให้กลุ่มสามมิตรยุติการเคลื่อนไหวหวั่นสร้างความแตกแยกของประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา    นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำข้อร้องเรียนเสนอ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อให้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสถานการณ์และติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างครบถ้วนและครอบคลุมมากที่สุด นายศุภฤกษ์ อริยปรัชญา เลขาธิการกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในนามของกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (คัดค้านจังหวัดบัวใหญ่) มุ่งเน้นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ประชาชน และให้ประชาชนทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยเปิดเวทีสาธารณะ เพื่อการตัดสินใจและลดปัญหาความขัดแย้งอันอาจจะเกิดขึ้นได้ ทางกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (คัดค้านจังหวัดบัวใหญ่) จึงขอเสนอให้หน่วยงานของจังหวัด และหน่วยงานส่วนกลางของรัฐบาล จัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ขึ้นในพื้นที่ทั้ง ๘ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอคง, โนนแดง, ประทาย, สีดา, แก้งสนามนาง, บัวใหญ่ และบัวลาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วม ในการตัดสินใจอนาคตของเขาเอง อีกทั้งยังเป็นการรับฟังเสียงส่วนใหญ่ว่า เห็นด้วยกับการ แยก-ไม่แยก จังหวัดหรือไม่

นอกจากนี้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองในพื้นที่ และมองเห็นถึงความสำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ด้วยผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ของห้วงเวลาที่จะมีการเลือกตั้งในปี ๒๕๖๒ ซึ่งมีกลุ่มการเมือง “สามมิตร” เป็นตัวแทนพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่อำเภอบัวใหญ่ เพื่อเข้าพูดคุยกับผู้ชุมนุมของกลุ่มบุคคลผู้ผลักดันขอแยกจังหวัดบัวใหญ่ ๑ ในนั้นคือนายคำพัน บุญยืด แกนนำกลุ่มผู้ผลักดันแยกจังหวัดบัวใหญ่ และมวลชนในอำเภอบัวใหญ่ จำนวน ๑ พันคน ได้แสดงความคิดเห็นเสนอต่อตัวแทนกลุ่มสามมิตร โดยข้อเสนอของกลุ่มนายคำพัน คือ การยกฐานะของ ๘ อำเภอ ตั้งเป็นจังหวัดบัวใหญ่ ซึ่งกลุ่มสามมิตรตอบตกลงว่า จะนำข้อมูลที่กลุ่มเสนอเรียกร้องมานั้น จำไปพูดคุยกับทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย พอเริ่มมีกระแสเรื่องราวดังกล่าวออกมา ทำให้เกิดเสียงกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา และคงยังไม่มีความเหมาะสมในการลงพื้นที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมืองในการหาเสียงช่วงเวลานี้ จะส่งผลขัดต่อกฏหมายรัฐธรรมนูญ และขัดต่อกฏหมายการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้จนนำไปสู่ความเสียหายของพรรคพลังประชารัฐ และส่วนสำคัญที่สุดคือ การสร้างความแตกแยกของคนในพื้นที่ทั้ง ๘ อำเภอ และคนทั้งจังหวัด หวั่นนำไปสู่ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายพลังขับเคลื่อนภาคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา (คัดค้านจังหวัดบัวใหญ่) จึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งในระดับจังหวัดและส่วนกลางของรัฐบาล สั่งการไปให้กลุ่มสามมิตรและกลุ่มบุคคลผู้ผลักดันขอแยกจังหวัด หยุดการกระทำที่จะส่งผลสร้างความแตกแยกทางความคิดในหมู่พี่น้องประชาขน อย่างไรก็ตามหากกลุ่มจัดตั้ง จังหวัดบัวใหญ่ เรียกร้องรัฐบาลใช้มาตรา ๔๔ จัดตั้ง จังหวัดบัวใหญ่ เราก็พร้อมเรียกร้องขอให้รัฐบาลใช้ มาตรา ๔๔ ไม่ให้จัดตั้ง จังหวัดบัวใหญ่ เช่นกัน” นายศุภฤกษ์ กล่าว

พิธีพุทธาภิเษก ธง ครบรอบ ชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม

วันจันทร์ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ปีจอ !!จัดไป พิธีพุทธาภิเษก ธง ครบรอบ ชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม

 

 

วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา จัดพิธีพุทธาภิเษกธงครบรอบชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม โดยพลโทธรากร ธรรมวินทรธรแม่ทัพภาคที่ 2 ประธานสงฆ์ นายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส นางเอมอร ศรีกงพานประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางศศิฑอณร์  สุวรรณมณี วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธี

 

 

ด้วยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาสภาวัฒนธรรมอำเภอและสภาวัฒนธรรมตำบลได้รวมกันจัดสร้างธงครบรอบชัยชนะ 191 ปีของท่านท้าวสุรนารีวีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโมขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้เพื่อยกย่องและรำลึกถึงความกล้าหาญความเสียสละของท้าวสุรนารีเพื่อเป็นทองมงคลให้ประชาชนได้นำไปบูชาเพื่อจัดหารายได้สภาวัฒนธรรมทั้ง 32 อำเภอ 287 ตำบลของจังหวัดนครราชสีมาไปเป็นทุนในการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมและสาธารณประโยชน์ในการจัดสร้างธงได้ทำพิธีบวงสรวงขอมวลสารมงคลจากทุ่งสัมฤทธิ์ อำเภอพิมายและมวลสารมงคลจากวัดศาลาลอยอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของท่านท้าวสุรนารีในปัจจุบันและได้ให้พระเถราจารย์ทั้ง 32 อำเภอทำพิธีอธิษฐานจิตและได้กำหนดจัดพิธีพุทธาภิเษกธงมงคลขึ้นซึ่งตรงกับวันจันทร์ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ปีจอ ณ ลานอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารี การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความเมตตาและความอนุเคราะห์

  1. พระปลัดเอกรินทร์ธัมมะสังลี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมาดูแลด้านพิธีการ แม่ทัพภาคที่ 2 ส่งกำลังพลช่วยดูแลการจัดสถานที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยและการจราจรคุณเข็มทองเรืองกฤตยาคุณสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ คุณยลดา     หวังศุภกิจโกศล และคุณณภัทร นันทคุณาธิป มอบทุนตั้งต้นสำหรับจัดทำธงมงคลท่านละ 500,000 บาทสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 น้ำดื่มและอาหารว่างห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมาคุณทรงสมรรถ จันทร์เทพ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสีคิ้วแป้งมันเอี่ยมเฮงสับสนุนโรงทาน และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทุกระดับร่วมด้วยช่วยกันเครื่องประกอบพิธีสถานที่และดูแลผสานความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงานในวันนี้

โคราช-!!ฝึกปฏิบัติการกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ วิจัยและการเรียนรู้ ของจีโอพาร์ค นำไปสู่การศึกษา อนุรักษ์ พัฒนากิจกรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ

วันที่ 19 สิงหาคม 2561 สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ โดย อุทยานธรณีโคราช ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “จีโอพาร์คกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ณ โรงแรมแคนทารี่ โคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับเกียรติจาก นายจรัสชัย โชคเรืองสกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดี กล่าวต้อนรับผู้เข้ารับการอบรม
การอบรมเชิงปฏิบัติการจีโอพาร์คกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย และจังหวัดนครราชสีมา สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2555 จังหวัดนครราชสีมาและมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เริ่มดำเนินการศึกษา
คุณค่าความโดดเด่นของพื้นที่เชิงธรณีวิทยา บรรพชีวินวิทยา ความหลากหลายของชีวภาพที่มีความสวยงามในจังหวัดนครราชสีมาในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นอุทยานธรณีที่มีชื่อเรียกว่า “อุทยานธรณีโคราช” ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้อุทยานธรณีโคราช เป็นอุทยานธรณีระดับจังหวัด ในปี พ.ศ. 2558 และขณะนี้อยู่ระหว่างการรับรองเป็นสมาชิกอุทยานธรณีประเทศไทย เพื่อที่จะร่วมกันขับเคลื่อนสู่การรับรองให้เป็น UNESCO Global Geoparkลำดับต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงได้ประสานความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการอบรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีความรู้ความเข้าใจพร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการจีโอพาร์ค การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
ในจีโอพาร์คของประเทศอาเซียน รวมทั้งฝึกปฏิบัติการกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ วิจัยและการเรียนรู้ของจีโอพาร์ค นำไปสู่การศึกษา อนุรักษ์ พัฒนากิจกรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ
ของจีโอพาร์คให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไปผู้เข้าอบรม ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายและครู-อาจารย์ผู้สอนในระดับประถมและมัธยมศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา

การอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2561 โดยกิจกรรมได้จัดให้มีบรรยายเกี่ยวกับการผลักดันโคราชจีโอพาร์คสู่อุทยานธรณีโลก ในหัวข้อ หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับจีโอพาร์คของยูเนสโก (UNESCO GloblaGeopark)
การฝึกอบรมครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1 การบรรยายพิเศษเพื่อให้ความรู้ด้าน ยูเนสโกโกลบอลจีโอพาร์ค การท่องเที่ยวการศึกษาชุมชนในพื้นที่รวมถึงการบูรณาการด้านธรรมชาติกับการอนุรักษ์ในพื้นที่จีโอพาร์ค งานเสวนาการศึกษาแหล่งธรรมชาติและวัฒนธรรมในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 100 คนซึ่งเป็นคณะทำงานอุทยานธรณีทั่วประเทศ ผู้แทนจากส่วนราชการระดับจังหวัดและท้องถิ่นครูอาจารย์นักวิชาการชุมชนและประชาชนทั่วไปมีวิทยากรผู้บริหารและสมาชิกสภา UNESCO Global จีโอพาร์คผู้เชียวชาญและผู้บริหารยูเนสโกGlobal

ททท.โคราช !!เร่งสร้างเครือข่ายตลาดออนไลน์การประชาสัมพันธ์ลูกค้ายุค4.0

ททท.โคราช !!เร่งสร้างเครือข่ายตลาดออนไลน์การประชาสัมพันธ์ลูกค้ายุค4.0

วันที่ 17 สิงหาคม2561 เวลา08.00 น.การประชุมชี้แจงแนวทางการจัดทำแผนการตลาดท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาแทบจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจำปี 2562 ณ.ห้องอรพิน โรงแรมสีมาธานี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยนายจรัสชัย โชคเรืองสกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวย การภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย (ททท.) นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)หัวหน้าส่วนราชการ


จังหวัดนครราชสีมาภาคอีสานที่มีอนาเขตใหญ่ที่สุดในประเทศไทยหลักกิจกรรมทางการท่องเที่ยวสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความพร้อมในทุกๆด้านมีเส้นทางการท่องเที่ยวที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่พื้นที่ต่างๆทั่วประเทศอย่างง่ายดายมีดินแดนที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอารยธรรมขอมโบราณเป็นเมืองแห่งความเป็นวัฒนธรรมอนุรักษ์ดินแดนแห่งการเรียนรู้ที่สุดแห่งความเป็นธรรมชาติกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลกและชาวจังหวัด

นครราชสีมามีความเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวภาพรวมของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความหลากหลายมากมายทำให้การเดินทางมาสัมผัสเมืองโคราชเที่ยวได้ทุกฤดูมีทั้งความเป็นที่สุดของเทศกาลงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และที่สำคัญยังได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรวมถึงภาครัฐภาคเอกชนที่ได้มีส่วนร่วมในการบูรณาการการทำงานร่วมกันในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอันจะทำให้จังหวัดนครราชสีมามีการพัฒนาต่อยอดอย่างยั่งยืนต่อไปการประชุมครั้งนี้จะทำให้ทุกภาคส่วนของจังหวัดนครราชสีมาเชื่อมโยงไปยังจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทั่วประเทศจะได้รับความรู้ในการทำตลาดการท่องเที่ยวและการนำเอานวัตกรรมการประชาสัมพันธ์แบบใหม่ๆนำไปปรับใช้และพัฒนาศักยภาพจะพื้นที่ของตนเองต่อไป

ยังจะได้รับความรู้ด้านการทำตลาดออนไลน์ Social Mediaเพื่อการประชาสัมพันธ์Social Media of PRการติดตั้ง App ใหม่ๆบน Smartphone ในการประชาสัมพันธ์ต่อลูกค้ายุค 4.0จากนายชีพธรรม คำวิเศษณ์(อ.ไตร)และความรู้ด้านการเก็บข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่สามารถนำไปวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์การท่องเที่ยวรวมถึงแคมเปญใหญ่ๆใหม่ๆที่ททท.ได้เร่งดึงดูดกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่หนังวัยรุ่นวัยทำงานและครอบครัวปลุกกระแสให้คนกลุ่มนี้หันมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้นในชื่อว่า

Amazing ไทยเท่เกิดจากการหยิบยกเอาความแข็งแกร่งของแบรนด์ Amazingthailandซึ่งใช้กับสื่อสารกับต่างประเทศมานานกว่า 20 ปีต่อยอดมาใช้กับคนไทยโดยคำนำหน้าว่า Amazing ผนึกกลับโครงการเที่ยวไทยเท่ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากสร้างปรากฏการณ์มาเที่ยวเมืองไทย=เท่ห์เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดหลักที่ว่าเมืองไทยสวยทุกที่ เท่ ทุกเวลาพร้อมกับcampaignที่ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชนและเชื่อมโยงการท่องเที่ยวเมืองรอง amazing thailand Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทยชุมชนเติบโต ขานรับนโยบายรัฐบาลปลุกกระแสท่องเที่ยวรองหลังครมประกาศลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง 15,000 บาทตลอดปี2561หวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชูมือทองและชุมชนคาดว่าจะสร้างรายได้สู่เศรษฐกิจทุกพื้นที่อย่างสมดุลหมูต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทสร้างความรักและความภาคภูมิใจในบ้านเกิดแนะนำไปสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนต่อไป

เมืองโคราช นำเสนอLifestyle และวิถีชีวิตแบบคนเมือง

เมืองโคราช นำเสนอLifestyle และวิถีชีวิตแบบคนเมือง

วันที่ 15 สิงหาคม 2561นางสาวแสงระวี สิงหวิบูลย์ รองผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศองค์การมหาชนหรือSACICTเปิดเผยถึงการจัดงานSACICT Craft Fair2018บ้ากระแสความนิยมงานคราฟต์หรือสินค้าหัตถกรรมที่เข้ามามีบทบาทกับการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของคนไทยและชาวต่างชาติSACICTในฐานะหน่วยงานที่ส่งเสริมและความแข็งแกร่งในงานหัตถกรรมของไทยจึงได้จัดงานSACICT Craft Fair2018ขึ้นณ Fashion Hall ชั้น 1 ศูนย์การค้าเดอะมอลล์โคราชระหว่างวันที่ 15-19 สิงหาคม 2561 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีต่อผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตปัจจุบันเพื่อเป็นช่องทางในการเผยแพร่ของผลงานฝีมือคนไทยออกสู่สายตาประชาชนทั่วประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของSACICTพยายามผลักดันงานคราฟต์ให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันผ่าน 3 แนวทางหลักคือสร้างคุณค่าสร้างเครือข่ายและสร้างโอกาสจากสุดยอดผู้ประกอบการ 50 ร้านค้าที่ได้เลือกสมาชิกผู้ประกอบการงานราชการจากกลุ่มครูศิลป์ของแผ่นดินครูช่างศิลปหัตถกรรมทายาทช่างศิลปหัตถกรรมนักสร้างสรรค์งานคราฟต์ทำงานที่เป็นอัตลักษณ์ภูมิปัญญาและงานสร้างสรรค์สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อุปกรณ์แต่งบ้านงานผ้าบาติกที่มีการออกแบบด้วยการนำรูปร่างoutline ที่เรียบง่ายของสัตว์และสิ่งต่างๆนำมาตัดเย็บเป็นลักษณะ 3 มิติมีการตกแต่งชิ้นงานโดยการสอยมือด้วยความประณีตและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเหมาะสำหรับเป็นของขวัญของตกแต่งบ้านชิ้นแรก
จังหวัดนครราชสีมาถือเป็นจังหวัดนำร่องในการใช้งานSACICT Craft Fair2018 งานแสดงสินค้าหัตถกรรมและงานคราฟต์อย่างเต็มรูปแบบเนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจจำนวนประชากรรวมถึง Lifestyle และวิถีชีวิตแบบคนเมืองมีความสนใจในงานคราฟต์โดยงานครั้งนี้จะเน้นงานคราฟต์ร่วมสมัยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นน่าสนใจและเข้ากับวิถีชีวิตของคนปัจจุบันหมากัดผิดเองพร้อมทั้งจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ที่สนใจและชื่นชอบในงานหัตถกรรมของไทยรวมถึงนำศิลปินดารานักแสดงมากๆความสุขสนุกสนานให้กับผู้มาร่วมชมงานซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดีเพื่อเป็นต้นแบบในการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่อไป