ประกาศๆพิธีทำบุญวันกตัญญูบูรพาจารย์แด่พระเดชพระคุณพระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ)ในวันที่4 ต.ค.ของทุกปี!!ชาวโคราชพร้อมจัดสร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ประกาศๆพิธีทำบุญวันกตัญญูบูรพาจารย์แด่พระเดชพระคุณพระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ)ในวันที่4 ต.ค.ของทุกปี!!ชาวโคราชพร้อมจัดสร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

 

วันที่ 30 กันยายน 2561ณ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา จัดงานแถลงข่าวพิธีทำบุญวันกตัญญูบูรพาจารย์พระเทพวิทยาคมหลวงพ่อคูณปริสุทโธอดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11 และอดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่โดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภอดีตรองนายกรัฐมนตรีอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการและประธานกรรมการที่ปรึกษากิตติมศักดิ์วัดบ้านไร่ประธาน  พลเอกณพล บุญทับอดีตรองสมุหราชองค์รักษ์ประธานที่ปรึกษาโครงการสร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่ที่สุดในโลกนายไพฑูรย์ มหาชื่นใจอำเภอด่านขุนทดและคณะสงฆ์ข้าราชการผู้นำชุมชนผู้นำส่วนท้องถิ่นอุบาสกอุบาสิกา พุทธศาสนาชนและศิษย์ยานุศิษย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้กำหนดพิธีทำบุญวันกตัญญูบูรพาจารย์แด่พระเดชพระคุณพระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณปริสุทโธ)อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 11อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ในวันที่ 4 ตุลาคมของทุกปีซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของพระเทพวิทยาคมเพื่อแสดงออกถึงความเคารพกตัญญูกตเวทีถวายและสนับปีนี้คณะศิษย์ยานุศิษย์ได้กำหนดโครงการสร้างหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่หน้าตัก 19 เมตรสูง 27 เมตรโดยกำหนดพิธีเททององค์ต้นแบบในวันที่ 4 ตุลาคม 2561 เวลา 17.00 ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่การนี้เพื่อให้การจัดการในวันกตัญญูบูรพาจารย์พระเทพวิทยาคม(หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ)ดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงได้กำหนดแถลงข่าววันจัดงานวันกตัญญูบูรพาจารย์พระเทพวิทยาคมหลวงพ่อคูณขึ้นในวันอาทิตย์ที่30 กันยายน 256 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมาขึ้นนอกจากนั้นยังมีมหกรรมมวยหญิงชิงแชมป์ศึกมวยหญิงย่าโม HERO FIGHT Thailand สำหรับประชาชนที่จะร่วมทำบุญติดต่อประสานงานเลขานุการฝ่ายประชาสัมพันธ์วัดบ้านไร่โทร  098- 6688- 186 และ 098 -6688 -189 ร่วมสมทบทุนธนาคารทหารไทยบัญชีเลขที่ 396- 2 -39227-4 ชื่อบัญชีวัดบ้านไร่เพื่อโครงการหลวงพ่อคูณปริสุทโธองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

พิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี

พิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี


วันที่ 27 กันยายน 2561 เวลา 15.00 น. ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระครูปลัดภูมิปัญญา(พ่อเสือ) ญาณสัมปันโณ ได้จัดให้มีพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ โดยได้รับเกียรติจากพลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ เป็นประธานในพิธี


โดยในพิธียกช่อฟ้าอุโบสถนี้ มีพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งทางวัดได้เปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ได้ผูกผ้าแถบสามสี ที่ตัวยอดช่อฟ้าอุโบสถก่อนที่จะมีพิธียก อย่างเป็นทางการ โดยมีเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจ และทหาร ที่คอยดูแลความเรียบร้อย ทางด้านการเตรียบการ ทางวัดได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย ที่เป็นผู้ติดตั้งช่อฟ้าอุโบสถ มีเจ้าหน้าที่ประจำเครนในการยก โดยได้มีการซักซ้อมก่อนที่จะถึงพิธีการ


ต่อมา เวลา 16.00 น. พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ ได้เดินทางมาถึงยังบริเวณพิธี เมื่อถึงลานพิธีได้เข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปภายในอุโบสถ และเป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้นก็ได้ประกอบพิธีทางศาสนา พร้อมด้วยพิธีบวงสรวงหลวงปู่ทวด เพื่อเป็นการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากนั้น พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ ประธานในพิธี ก็ได้เจิมแป้ง ติดทอง พร้อมด้วยประชาชนที่มาร่วมในงานเมื่อถึงฤกษ์ คณะสงฆ์ ประธานในพิธี และประชาชน ได้ร่วมกัน ทำพิธียกช่อฟ้าอุโบสถอย่างเป็นทางการ
สำหรับวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี สังกัดธรรมยุติ ตั้งอยู่ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา (หน้ากองบิน 1) ปกครองโดย พระครูปลัดภูมิปัญญา ญาณสัมปัณโณ จัดตั้งปี 2539 บนเนื้อที่ 39 ไร่ มีพื้นที่บริเวณโดยรอบด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ และสระน้ำจัดวางโดยธรรมชาติคล้ายวัดป่าทั่วไป จุดน่าสนใจชาวพุทธ ในศาลาปฏิบัติธรรม ประดิษฐานพระพิมพ์ปางมารวิชัยขนาดใหญ่ สีขาวทั้งองค์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ได้พระราชทานจาก สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ่งที่น่าสนห้ามพลาด หลวงปู่ทวด ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย งานศิลปะปูนปั้นสีดำทั้งองค์นั่งบนฐานบัว 2 ชั้น ความกว้างขนาด 38 เมตร สูง 45 เมตร สร้างปี พ.ศ. 2553 สมัยพลโท ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นประธานพิธีเปิดส่วนด้านใต้ฐานหลวงปู่ทวดเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาและจัดการเรียนการสอนธรรมะของหลักสูตรต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

พระพุทธรูปโบราณ อายุ 600-800 ปี “หลวงพ่อองค์ดำ” คู่วัดรวง โคราช

คณะสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าสักการะบูชา หลวงพ่อองค์ดำ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณ  อายุระหว่าง 600-800 ปี โดยมีประวัติไม่ปรากฏแน่ชัด ตามประวัติเล่าต่อกันมาว่า เป็นพระพุทธรูปองค์สีดำลอยมาตกในสระน้ำใกล้ๆ หมู่บ้าน ชาวบ้านจึงอัญเชิญไปประดิษฐานในวัดรวง เพื่อเป็นที่สักการะของคนทั่วไป ซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก อธิฐานสิ่งใดมักจะได้สิ่งนั้น แม้แต่การสาบานก็จะเป็นจริงตามคำพูด และหากผู้ใดได้บูชาเหรียญพ่อพ่อองค์ดำไว้เพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเอง เชื่อว่าจะทำให้รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงได้ ปัจจุบันหลวงพ่อองค์ดำประดิษฐานอยู่ใน อุโบสถวัดรวง บ้านรวง ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา

หลวงพ่อองค์ดำ  มีลักษณะองค์เป็นศิลปะสมัยลพบุรี  เนื้อหินศิลาทรายสีดำสูงประมาณ1.20เมตรพบเห็นณ.หมู่บ้านบ้านชุมชนวัดรวงนี้ท่านศักดิ์สิทธ์เป็นที่รู้จักอย่างดีคนแถวนี้ในอดีตมีผู้มารักขโมยพระไปจากวัดต้องนำกลับมาคืนและเสียชีวิตตายโหงช่วงหนึ่งชาวบ้านต้องสร้างกรงเหล็กครอบองค์ท่านไว้…แต่ปัจจุบันได้เปิดอิสระให้ผู้ศรัทธามากราบไหว้อย่างใกล้ชิด

จากการสอบถามรักษาการเจ้าอาวาสวัดรวง  ตำบลหนองดูเหลือม อำเภอเฉลิมพระเกียรติ  จังหวัดนครราชสีมา  ทราบว่า วัดรวงแห่งนี้ เดิมที่พื้นที่เป็นป่ารกร้าง ไม่มีเมรุเผาศพ ต้องเผากองฟอน โดยใช้ฟืน แต่ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อองค์ดำ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด  จึงได้ดลจิตดลใจ ให้สร้างเหรียญขึ้นมา เพื่อให้พี่น้องประชาชนบูชา จัดหารายได้เข้ามาในวัด เพื่อสร้างเมรุ และบูรณะอุโบสถ พอมีคนเริ่มรู้จักมากคน มีประชาชนแห่มาสักการะมากขึ้น ทางวัด จึงได้มีการทำลูกกรง ปิดกันไว้ไม่เช่นนั้น จะมาคนมาขโมยไป รักษาการเจ้าอาวาส ยังได้กล่าวอีกว่า ความเชื่อจากสิ่งที่มองไม่เห็น ของหลวงพ่อองค์ดำนี้ หากใครคิดร้าย  หรือขโมย จะต้องมีอันเป็นไปทุกคน

ความศักดิ์สิทธิ์อีกอย่างที่ชาวบ้าน  ไปกราบสักการะหลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปคู่วัดรวงนี้คือ  หากใครที่จะทำอะไร ที่ไหน  หรือของหาย มักจะได้คืน และลูกศิษย์ลูกหาที่บูชาเหรียญไปและคล้องคอติดตัวไป ประสบอุบัติเหตุ ทั้งคันรถ รอดเพียงคนเดียว(เป็นความเชื่อที่เล่าต่อกันมา)

สำหรับประชาชนท่านใดที่อยากจะไปกราบไหว้สักการะขอพร  หลวงพ่อองค์ดำ วัดรวง ก็สามารถเข้าไปได้  โดยวัดแห่งนี้มีความเงียบ สงบ เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบการทำบุญอย่างยิ่ง

“อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน”สสส.โครงการต้นแบบโรงเรียนชุมชนวัดบ้านรวง

นครราชสีมา- โรงเรียนชุมชนวัดรวง โรงเรียนต้นแบบ“อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน”
เปิดแผน Fit พิชิตอ้วน@ชุมชนวัดรวง รณรงค์สุขภาพดีในโรงเรียน

(วันที่ 21 กันยายน 2561) โรงเรียนชุมชนวัดรวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา โรงเรียนต้นแบบ 1 ใน 25 โรงเรียนของโครงการสื่อสร้างสรรค์และกิจกรรมเพื่อรณรงค์โภชนาการสมวัย “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผักและผลไม้) ปีที่3 ในภูมิภาค จัดนิทรรศการโครงการแผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง ภายใต้การสนับสนุนจากแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ทำงานร่วมกับสำนักโภชนาการสมวัย สำนักงานบริหารแผนงานอาหารและโภชนาการ เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน เครือข่ายคนไทยไร้พุง และชมรมโภชนาการเด็กแห่งประเทศไทย หวังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กในโรงเรียนให้ เข้าใจและเท่าทันโรคอ้วน
โดยดร.ประภาส นวลเนตร ผู้ทรงคุณวุฒิแผนงานสื่อศิลปวัฒนธรรมสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า โครงการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการรณรงค์ลดน้ำหนักในเด็กระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้)” มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการใช้สื่อและกิจกรรมสร้างสรรค์ที่หลากหลาย มุ่งใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ด้านสุขภาวะ มีการถ่ายทอดให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อการสื่อสารสุขภาวะ ในหัวข้อ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน” โดยให้ความสำคัญกับครูผู้สอน เด็กนักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และชุมชน ในการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (participatory learning)กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการ ได้แก่ นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
“ทั้งนี้ผลการดำเนินงานโครงการ “อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน (ลดหวาน มัน เค็ม เพิ่มผัก และผลไม้)” ปี 2 พบว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักของนักเรียนจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ มีการเปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ หลังดำเนินโครงการฯ ความสัมพันธ์ระหว่างอายุ ส่วนสูง และน้ำหนักของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (สมส่วน) เพิ่มขึ้น ท้วมหรืออ้วนสูงลดลงเล็กน้อย ส่วนกลุ่มที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน (ผอม) ยังคงมีเท่าเดิม ซึ่งโดยภาพรวมการดำเนินงานเป็นที่น่าพึงพอใจของทุกฝ่าย แต่ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานที่มีอยู่บ้าง คือ ผู้รับผิดชอบโครงการจำนวนหนึ่งยังไม่เข้าใจในตัวโครงการฯ อย่างชัดเจน เช่น วัตถุประสงค์ในการดำเนินโครงการฯ วิธีการดำเนินโครงการฯ ผลลัพธ์ที่เกิดจากการดำเนินโครงการฯ จึงส่งผลให้การจัดทำกิจกรรม สื่อหรือนวัตกรรม ไม่สอดคล้อง ไม่น่าสนใจ ไม่มีเอกลักษณ์ตามบริบทและภูมิสังคมของพื้นที่ รวมทั้งไม่ตอบโจทย์ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ประการต่อมา ระยะเวลาในการดำเนินโครงการฯ มีอยู่อย่างจำกัด การขอความร่วมมือจากร้านค้าในพื้นที่ ในชุมชน และบริเวณโดยรอบโรงเรียน ยังทำได้ไม่ดีพอ ส่งผลให้เด็กนักเรียนยังมีช่องทางในการซื้ออาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมาบริโภค ส่วนคณะทำงานมีไม่เพียงพอ แต่ละคนมีภารกิจมากเกินไป สุดท้าย คือ ผู้ปกครองและชุมชนไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่” ดร.ประภาส นวลเนตร กล่าว
เมื่อเป็นเช่นนี้ดร.ประภาส นวลเนตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับในปีนี้ได้มีการต่อยยอดและขยายผลไปยังโรงเรียนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 แห่ง จาก 22 จังหวัด ใน 4 ภูมิภาค ครอบคลุมนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ประมาณ 1,800 คน ทั้งนี้เราจะพาไปดูกันว่าโรงเรียนที่เป็นต้นแบบใน 25 โรงเรียนนี้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กในโรงเรียนให้ เข้าใจและเท่าทันโรคอ้วน โรงเรียนชุมชนวัดรวง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ก็เป็น 1 ในโรงเรียนต้นแบบครั้งนี้
ด้านนายประสงค์ ชูใจ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดรวง กล่าวว่า ในนิทรรศการโครงการแผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง ครั้งนี้ทางโรงเรียนได้นำความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมาเข้ามาปรับใช้เริ่มตั้งแต่การจัดให้มีตัวแทนนักเรียนแต่งชุดย่าโมออกศึก พาคณะกรรมการเดินเข้าประตูเมืองโคราช “วันประกาศชัยฟิต พิชิตอ้วน” ที่มีการจำลองให้เกิดขึ้นในโรงเรียน พร้อมทั้งมีการแสดงรำโทน โคราช และจัดนิทรรศการด่านต่างๆ ขึ้นมา อาทิ ด่านที่ 1 กลยุทธ์ชุดออกศึก, ด่านที่ 2 กลยุทธ์ชุดโภชนาการ และด่านที่ 3 กลยุทธ์เร่งฟิตพิชิตอ้วน พร้อมกับมีการแสดงรหัสการปรบมือ แผน Fit พิชิตอ้วน @ชุมชนวัดรวง เพื่อแสดงพลังและประกาศชัยชนะ ฟิตพิชิตอ้วน พร้อมกันทั้งโรงเรียนด้วย เพื่อหวังปลูกฝังการเรียนรู้ ความเข้าใจในเรื่องลดอ้วนอย่างถูกวิธี ถูกต้องตามหลังโภชนาการและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆ กัน เชื่อว่าไม่นานเด็กๆ ที่โรงเรียนชุมชนวัดรวง นี้จะมีสุขภาพที่ดีไม่อ้วน และไม่ผอมเกินไปอย่างแน่นอน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นางสาวฤทัยรัตน์ ไกรรอด โทรศัพท์ 082-596-9296

สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา บูรณะโบราณสถานฉุกเฉิน ประตูชุมพล อายุกว่า 362 ปี

สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา บูรณะโบราณสถานฉุกเฉิน ประตูชุมพล อายุกว่า 362 ปี สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี หรือ คุณย่าโม ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้ทำพิธีเปิดอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2477 ประดิษฐานที่หน้าประตูชุมพล หรือเมื่อ 84 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนทั่วไปมีความเชื่อว่า ท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ ขอพรอะไรจะได้ตามใจหมาย จนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ อีกทั้งท่านคือวีรสตรีผู้กอบกู้เมืองโคราช แต่เดิมนั้นประตูชุมพล เป็นประตูเมืองทางทิศตะวันตกของเขตเมืองเก่า สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองหน้าด่านเมื่อ ปี 2199 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์เสด็จขึ้นครองกรุงศรีอยุธยา และโปรดเกล้าฯให้สร้างกำแพงประตูเมืองอย่างแข็งแรง เพื่อป้องกันการรุกรานจาก เขมร ญวน ลาว โดยเกณฑ์ช่างจากกรุงศรีอยุธยา เกณฑ์แรงงานจากเมืองโคราชและเมืองเสมาช่วยกันสร้างขึ้น ซึ่งในขณะนั้นมีนายช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบและวางผังเมืองให้ ปัจจุบันได้ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ทางสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา จึงได้มีการบูรณะซ่อมแซมโบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วน

ด้าน นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ตามโครงการบูรณะโบราณสถานฉุกเฉินเร่งด่วน งบลงทุน (ค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง) เพื่อใช้ซ่อมแซมประตูชุมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด ปุราณรักษ์ เป็นคู่สัญญา เป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 256,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยสัญญาเริ่มต้นวันที่         10 สิงหาคม 2561 สิ้นสุด วันที่ 17 พฤศจิกายน 2561 ตามสำเนาสัญญาจ้าง เลขที่ 5/2561 ลงวันที่        15 สิงหาคม 2561

ด้านนักท่องเที่ยว เล่าว่า การที่มีการซ่อมแซมประตูชุมพล ใหม่นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากว่าเป็นประตูเก่าแก่ ที่ยังคงมีโครงสร้างเก่าหลงเหลืออยู่ สืบทอดให้คนรุ่นหลังได้ดูและศึกษาประวัติศาสตร์จากอดีตถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นหน้าตาของชาวจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

>คลิป<<

พิธีบูรพาจารย์รำลึกในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย

พิธีบูรพาจารย์รำลึกในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย

ที่วัดครบุรี หรือวัดหลวงปู่นิล ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี เป็นประธานฝ่ายฆารวาส นำศิษยานุศิษย์ของพระครูนครธรรมโฆสิต หรือหลวงปู่นิล อิสฺสริโก ร่วมประกอบพิธีบูรพาจารย์รำลึก ในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ เพื่อร่วมรำลึกถึงคุณงามความดีของหลวงปู่นิล อิสฺสริโก เกจิอาจารย์ชื่อดังของไทย อดีตเจ้าอาวาสวัดครบุรี เทพเจ้าแห่งความเมตตาอีสานใต้ ที่ได้ช่วยเหลือในการบำรุงพระพุทธศาสนา รวมถึงประชาชนทั่วไปด้วยการนำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเผยแผ่เพื่อชี้นำไปสู่การประกอบคุณงามความดี พร้อมทั้งยังใช้ความรู้เกี่ยวกับการปรุงยาสมุนไพรโบราณเพื่อนำมาช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วยจนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วทั้งประเทศ ซึ่งมีบรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่นิล มาร่วมในงานวันนี้หลายพันคน

โดยในพิธีได้มีการทำบุญตักบาตร พร้อมนิมนต์พระสงฆ์และเกจิอาจารย์ชื่อดังจาก 27 วัด รวม 130 รูป ของจังหวัดนครราชสีมา มาประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนตร์/มาติกา บังศุกุล เพื่อถวายแด่พระครูนครธรรมโฆสิต หรือหลวงปู่นิล อิสฺสริโก  พร้อมทั้งมีการเปิดให้ศิษยานุศิษย์ได้ร่วมทำบุญปิดทองหุ่นขี้ผึ้งเสมือนหลวงปู่นิล  และร่วมกิจกรรมบุญต่างๆที่ทางวัดจัดเตรียมไว้อย่างหลากหลาย รวมถึงยังมีผู้มีจิตศรัทธานำโรงทานมาร่วมในงานบูรพาจารย์รำลึก ในโอกาสครบรอบ 24 ปี วันมรณภาพ ของหลวงปู่นิล อิสฺสริโก ในวันนี้กว่า 100 โรงทาน พร้อมมีการแสดงมหรสพสมโภชตลอดทั้งวัน

สำหรับพระครูนครธรรมโฆสิต หรือ หลวงปู่นิล อิสฺสริโก  นามเดิมคือ นิล แหวนครบุรี เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2445 อุปสมบทเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2465 ณ พัทธสีมาวัดนกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พระอุปัชฌาย์ของท่านคือ หลวงปู่กลิ่น วัดนกออก พระอธิการพรหม กิตติคุณ  เชื่อกันว่าท่านสำเร็จอภิญญา มีพลังจิตเข้มแข็ง อธิษฐานปลุกเสกจนวัตถุมงคลของท่านเป็นที่เลื่องลือ ที่โดดเด่นทางเมตตามหานิยม และ คุ้มครองป้องกัน นอกจากท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่มากด้วยวิชาอาคมแล้ว เรื่องวิชาแพทย์แผนโบราณ ยาสมุนไพร ถือเป็นที่ยอมรับอย่างมากช่วยเหลือชาวบ้านที่เจ็บป่วยมานับไม่ถ้วน ส่วนสุดยอดวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์ลูกหาหวงแหนมากที่สุด คือ พระตะกั่วเถื่อน รูปถ่ายขาวดำ เหรียญรูปไข่ มหาอุตม์ไม้รวก สีผึ้งเจ็ดอังคาร ตะกรุดมหาอำนาจหนังเสือ ทั้งนี้หลวงปู่นิลมรณภาพ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2537 รวมสิริอายุได้ 92 ปี 6 เดือน 72 พรรษา โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 24 ปีของการมรณภาพ

 

พิธีพุทธาภิเษก ธง ครบรอบ ชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม

วันจันทร์ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ปีจอ !!จัดไป พิธีพุทธาภิเษก ธง ครบรอบ ชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม

 

 

วันที่ 20 สิงหาคม 2561 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา จัดพิธีพุทธาภิเษกธงครบรอบชัยชนะ 191 ปี วีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโม โดยพลโทธรากร ธรรมวินทรธรแม่ทัพภาคที่ 2 ประธานสงฆ์ นายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส นางเอมอร ศรีกงพานประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยนางศศิฑอณร์  สุวรรณมณี วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธี

 

 

ด้วยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาสภาวัฒนธรรมอำเภอและสภาวัฒนธรรมตำบลได้รวมกันจัดสร้างธงครบรอบชัยชนะ 191 ปีของท่านท้าวสุรนารีวีรสตรีเมืองหญิงกล้าแม่ย่าโมขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้เพื่อยกย่องและรำลึกถึงความกล้าหาญความเสียสละของท้าวสุรนารีเพื่อเป็นทองมงคลให้ประชาชนได้นำไปบูชาเพื่อจัดหารายได้สภาวัฒนธรรมทั้ง 32 อำเภอ 287 ตำบลของจังหวัดนครราชสีมาไปเป็นทุนในการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมและสาธารณประโยชน์ในการจัดสร้างธงได้ทำพิธีบวงสรวงขอมวลสารมงคลจากทุ่งสัมฤทธิ์ อำเภอพิมายและมวลสารมงคลจากวัดศาลาลอยอำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมาซึ่งเป็นที่บรรจุอัฐิของท่านท้าวสุรนารีในปัจจุบันและได้ให้พระเถราจารย์ทั้ง 32 อำเภอทำพิธีอธิษฐานจิตและได้กำหนดจัดพิธีพุทธาภิเษกธงมงคลขึ้นซึ่งตรงกับวันจันทร์ขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 ปีจอ ณ ลานอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารี การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความเมตตาและความอนุเคราะห์

  1. พระปลัดเอกรินทร์ธัมมะสังลี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมาดูแลด้านพิธีการ แม่ทัพภาคที่ 2 ส่งกำลังพลช่วยดูแลการจัดสถานที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยและการจราจรคุณเข็มทองเรืองกฤตยาคุณสุวัฒน์ จึงวิวัฒนาภรณ์ คุณยลดา     หวังศุภกิจโกศล และคุณณภัทร นันทคุณาธิป มอบทุนตั้งต้นสำหรับจัดทำธงมงคลท่านละ 500,000 บาทสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 น้ำดื่มและอาหารว่างห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมาคุณทรงสมรรถ จันทร์เทพ ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสีคิ้วแป้งมันเอี่ยมเฮงสับสนุนโรงทาน และเครือข่ายสภาวัฒนธรรมทุกระดับร่วมด้วยช่วยกันเครื่องประกอบพิธีสถานที่และดูแลผสานความเป็นระเบียบเรียบร้อยของงานในวันนี้

โคราช-!!ฝึกปฏิบัติการกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ วิจัยและการเรียนรู้ ของจีโอพาร์ค นำไปสู่การศึกษา อนุรักษ์ พัฒนากิจกรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ

วันที่ 19 สิงหาคม 2561 สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ โดย อุทยานธรณีโคราช ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดพิธีเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ “จีโอพาร์คกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ณ โรงแรมแคนทารี่ โคราช จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับเกียรติจาก นายจรัสชัย โชคเรืองสกุลรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.วิเชียร ฝอยพิกุล อธิการบดี กล่าวต้อนรับผู้เข้ารับการอบรม
การอบรมเชิงปฏิบัติการจีโอพาร์คกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สมาคมภูมิศาสตร์แห่งประเทศไทย และจังหวัดนครราชสีมา สืบเนื่องจากเมื่อปี พ.ศ. 2555 จังหวัดนครราชสีมาและมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้เริ่มดำเนินการศึกษา
คุณค่าความโดดเด่นของพื้นที่เชิงธรณีวิทยา บรรพชีวินวิทยา ความหลากหลายของชีวภาพที่มีความสวยงามในจังหวัดนครราชสีมาในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นอุทยานธรณีที่มีชื่อเรียกว่า “อุทยานธรณีโคราช” ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศให้อุทยานธรณีโคราช เป็นอุทยานธรณีระดับจังหวัด ในปี พ.ศ. 2558 และขณะนี้อยู่ระหว่างการรับรองเป็นสมาชิกอุทยานธรณีประเทศไทย เพื่อที่จะร่วมกันขับเคลื่อนสู่การรับรองให้เป็น UNESCO Global Geoparkลำดับต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงได้ประสานความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการอบรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้ผู้เข้าร่วมอบรมได้มีความรู้ความเข้าใจพร้อมทั้งได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การบริหารจัดการจีโอพาร์ค การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
ในจีโอพาร์คของประเทศอาเซียน รวมทั้งฝึกปฏิบัติการกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ วิจัยและการเรียนรู้ของจีโอพาร์ค นำไปสู่การศึกษา อนุรักษ์ พัฒนากิจกรรม เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ
ของจีโอพาร์คให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไปผู้เข้าอบรม ได้แก่ กลุ่มเครือข่ายและครู-อาจารย์ผู้สอนในระดับประถมและมัธยมศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา

การอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 สิงหาคม 2561 โดยกิจกรรมได้จัดให้มีบรรยายเกี่ยวกับการผลักดันโคราชจีโอพาร์คสู่อุทยานธรณีโลก ในหัวข้อ หลักการและแนวคิดเกี่ยวกับจีโอพาร์คของยูเนสโก (UNESCO GloblaGeopark)
การฝึกอบรมครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ 1 การบรรยายพิเศษเพื่อให้ความรู้ด้าน ยูเนสโกโกลบอลจีโอพาร์ค การท่องเที่ยวการศึกษาชุมชนในพื้นที่รวมถึงการบูรณาการด้านธรรมชาติกับการอนุรักษ์ในพื้นที่จีโอพาร์ค งานเสวนาการศึกษาแหล่งธรรมชาติและวัฒนธรรมในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 100 คนซึ่งเป็นคณะทำงานอุทยานธรณีทั่วประเทศ ผู้แทนจากส่วนราชการระดับจังหวัดและท้องถิ่นครูอาจารย์นักวิชาการชุมชนและประชาชนทั่วไปมีวิทยากรผู้บริหารและสมาชิกสภา UNESCO Global จีโอพาร์คผู้เชียวชาญและผู้บริหารยูเนสโกGlobal

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญหนตะวันออก เป็นประธานสงฆ์ในงานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 64 ปี พระครูสังฆรักษ์

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญหนตะวันออก เป็นประธานสงฆ์ในงานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 64 ปี พระครูสังฆรักษ์
สุรเดช(ครูกฤษณะ อินทวัณโณ) ณ.อาศรมสวนพุทธศาสตร์ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561

ผู้ว่าเปิดอบรมจริยธรรมหนุนนำชีวิต

             ‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป