โคราช!!! สร้างลูกนิมิตยักษ์ ใหญ่สุดในประเทศ

พระโคราช สร้างลูกนิมิตยักษ์ใหญ่สุดในประเทศ หวังแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน ให้ประชาชนเข้าวัดมากขึ้น เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบพระสงฆ์และประชาชน ที่อยู่ในวัดหนองบัว ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้ช่วยกันเตรียมงานบุญปิดทองฝังลูกนิมิต เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท แทนที่หลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยมีการจัดงานในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 ทั้ง 10 วัน 9 คืน ซึ่งภายในงานจะมีการจัดงานมหรสพสมโภชตลอดงาน

ทั้งนี้ วัดหนองบัว ยังสร้างสีสัน เรียกเสียงฮือฮาให้กับชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัด โดยทำลูกนิมิตยักษ์ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร สูง 4 เมตร ซึ่งชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ได้ลองไปล้อมวงโอบร่วมนับ 10 คน ถือว่าเป็นลูกนิมิตยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศก็ว่าได้ หวังเพียงสร้างจุดสนใจ จุดดึงดูดให้คนเข้าวัดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน และวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ชอบถ่ายภาพ ชอบเซลฟี่ ซึ่งหลังจากวัดสร้างลูกนิมิตใหญ่ยักษ์ขึ้นคาดว่าจะมีประชาชนเข้าวัดเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้รอบๆภายในวัดยังมีการสร้างแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน สวนดอกไม้พร้อมทั้งการตกแต่งภายในวัดในสวยงามตามยุค 4.0 ให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย

ด้าน พระณรงค์ฤทธิ์ มหาปรกฺกโม เลขานุการวัดหนองบัว พร้อมด้วย พระมหาอาทิตย์ อภิวจโน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์วัด เปิดเผยว่า การทำลูกนิมิตยักษ์ เพื่อต้องการให้เป็นสัญลักษณ์ และเอกลักษณ์วัด บอกความหมายผ่านภาพ ผ่านสิ่งที่เห็น ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ บ่งบอกถึงความร่วมไม้ร่วมมือ ความสามัคคี เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ จึงคิดทำลูกนิมิตยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์ (เอเทค) ชาวบ้าน พระภิกษุสามเณร ได้ร่วมกันทำขึ้นมา ซึ่งมีความสูง กว้าง 4 เมตร สูง 4 เมตร ด้านในจะเป็นโครงเหล็กบุด้วยกระดาษอย่างดี ทาสีลงรักปิดทอง โดยจะมีงานปิดทองฝังลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา ทั้ง 9 ลูก ในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสร้างมหากุศลบุญครั้งยิ่งใหญ่ด้วยกัน

ชมคลิปเพิ่ม

พ่อเมืองโคราช  ร่วมพิธีพุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว” และสืบสานประเพณีลอยกระทง  กับครูบากฤษณะ  ประจำปี 2561

พ่อเมืองโคราช  ร่วมพิธีพุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว” และสืบสานประเพณีลอยกระทง  กับครูบากฤษณะ  ประจำปี 2561

เมื่อวันที่  22  พฤศจิกายน  2561 ที่ผ่านมา  ณ อาศรมสวนพฤกษศาสตร์ ต.โตนด    อ.โนนสูง  จ.นครราชสีมา  ได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกน้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ “น้ำมนต์กลางหาว”     และร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดี  ประเพณีไทยโบราณลอยกระทง

โดยได้รับเมตตาจาก หลวงปู่คูณ  วรปัญโญ    วัดบัญลังค์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์   และได้รับเกียรติจาก นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  พร้อมด้วย  นางณัฏฐินีภรณ์  จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และ นายสุรศิษฐ์ อินทกรอุดม นายอำเภอโนนสูง พร้อมคณะ เข้าร่วมในงานครั้งนี้

ภายในงานได้มีพิธีพุทธาภิเษกน้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ “น้ำมนต์กลางหาว”     และร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง และ วัตถุมงคล  รุ่น    หนุนดวงเรียกทรัพย์ วาระพิเศษโดยมี เกจิชื่อดัง  5 รูป  ประกอบด้วย ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ  ,หลวงปู่คูณ  วรปัญโญ    วัดบัญลังค์  , ครูบาแบ่ง  ฐามุตตา   วัดโตนด,  ครูบาไพรวัลย์   วัดบ้านไร่โคกสูง และ หลวงปู่โชค สำนักสงฆ์  หลวงปู่โชคไชยมงคล  ร่วมประกอบพิธี

 

ทั้งนี้ นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ด้วย  นางณัฏฐินีภรณ์  จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และคณะ ได้มอบกระเช้าสุขภาพและผลไม้ ถวายพระครูสังฆรักษ์สุรเดช   อินทวัณโณ  พร้อมทั้งร่วมพิธีเสริมสิริมงคลในพิธีอีกด้วย

 

รวมสถานที่ลอยกระทง โคราช ปี 61

      วันลอยกระทง 2561 (Loy Krathong Festival)

ลอยกระทง เป็นพิธีอย่างหนึ่งที่มักจะทำกันในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 อันเป็นวันพระจันทร์เต็มดวง และเป็นช่วงที่น้ำหลากเต็มตลิ่ง โดยจะมีการนำดอกไม้ ธูป เทียนหรือสิ่งของใส่ลงในสิ่งประดิษฐ์รูปต่างๆ ที่ไม่จมน้ำ เช่น กระทง เรือ แพ ดอกบัว ฯลฯ แล้วนำไปลอยตามลำน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์ และความเชื่อต่างๆ กัน ในปีนี้ วันลอยกระทง ตรงกับ วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561

 จังหวัดนครราชสีมา  ก็มีหลายสถานที่ ที่ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงนี้

1.  อาศรมสวนพฤกษศาสตร์ ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ  ต.โตนด อ.โนนสูง  จังหวัดนครราชสีมา  และมีพิธีพุทธาภิเษก น้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ และร่วมลอยกระทง กับครูบากฤษณะอินทวัณโณ ในวันที่ 22 พ.ย. 2561 เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป

2.  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน  ในงาน  ” มทร.อีสาน สมมาสายน้ำ เลิศล้ำหัตถกรรม  วัฒนธรรมนครชัยบุรินทร์  โดยมีกิจกรรมมากมาย  อาทิ  กิจกรรมการประกวดกระทง  ประกวดนางนพมาศ และหนุ่มราชมมงคลอีสาน อนุรักษ์ไทย  การแสดง และการออกร้านต่าง ๆ   งานเริ่มตั้งแต่เวลา  13.00 – 22.00  น.

3. เทศบาลตำบลหนองไผ่ล้อม  อ.เมือง  จังหวัดนครราชสีมา   เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป
ณ ศาลาเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่9 (ศาลาแดง)  โดยมีกิจกรรม  การประกวดหนูน้อยนพมาศ
กิจกรรมขอขมากรรมแห่งสายน้ำบุ่งตาหลั่ว  และร่วมลอยกระทง

4. ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์นครราชสีมา  ในงาน“ลอยกระทง… อีสาน ม่วนซื่นโฮแซว”
22 พ.ย นี้อย่าลืมมาป๊ะมาโฮมกันเด้อ  ไผ๋บ่มีคู่ ฟ่าวพาหมู่มาลอยกระทงนำกันเด้อสวยแบบไสๆ อิอิ แต่งตัวสไตล์ไทยอีสาน มาฟังหมอลำแบบไทบ้าน ม่วนซื่นตลอดงานสำราญใจ ที่ลำตะคองวิลเลจ

ภายในงานพบกับ! การประกวด “ธิดาจำแลง ลำตะคอง” ชิงเงินรางวัลกว่า 30,000 บาท พร้อมลุ้นของรางวัลเพียบ!!

  • รับสมัครวันที่ 12 – 21 พ.ย. 61
    • ดูรายละเอียดและสมัครออนไลน์ได้ที่ Link >
    https://goo.gl/forms/Of9hHXqDvGj9SgBu1
    • หรือรับใบสมัครที่ Counter ประชาสัมพันธ์ ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช
    • สอบถามเพิ่มเติม โทร. 098-915-5647
    รีบมาสมัครกันเด้ออออ มาม่วนซื่นนำกันจ้าาา

5. เทศบาลตำบลหัวทะเล  ต.หัวทะเล  อ.เมือง  จ.นครราชสีมา  ที่ร่วมสืบสานประเพณี ลอยกระทง เทศกาลโคมไฟและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP  ในวันที่ 22 – 23พฤศจิกายน 2561 และ 24 พฤศจิกายน 2561 พบกับหมอลำนกน้อยอุไรพร ณ บริเวณบึงหัวทะเล เทศบาลตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา  งานนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี  มาการแสดงแสง สี เสียง และที่สำคัญ  จัดถึง 3 วันเลยทีเดียวค่ะ

 

สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

สุดทึ่ง!!!พบแกรนแคนยอนเมืองลับแลแห่งใหม่ที่โคราช ชาวบ้านเชื่อเมืองพญานาค สุดงดงามอลังการ 

นายราเชนทร์ ประกอบกิจ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง พร้อมด้วยนายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ผู้นำชุมชนและสมาชิกกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ป่าหุบใหญ่ ซึ่งเป็นป่าชุมชนเชื่อมต่อระหว่างตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา เพื่อเตรียมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  หลังจากที่มีการสำรวจพบเส้นทางน้ำป่าไหลเซาะชั้นดินและชั้นหิน กัดกร่อนดินและหินกลายเป็นรูปร่างแปลกตามากมาย หรือที่เรียกว่าแกรนแคนยอน  จนกลายเป็นศิลปกรรมที่มีความสวยงามตระการตา รวมเนื้อที่กว่า 3 ไร่  ที่รังสรรค์ขึ้นมาจากธรรมชาติโดยมิได้มีการเติมแต่ง ประกอบกับมีเรื่องราวความเชื่อลี้ลับอีกมากมาย ที่สำคัญยังมีการสำรวจพบฟอสซิลไม้กลายเป็นหินที่คาดว่าอายุนับล้านปี กระจายอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมากด้วย

นายเสือ รักษ์ป่า ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่ ซึ่งช่วยดูแลผืนป่าหุบใหญ่มายาวนาน กล่าวว่า ป่าหุบใหญ่นั้นมีเนื้อที่รวมกว่า 1,400 ไร่  ซึ่งบริเวณที่เกิดแกรนแคนยอน นั้น เป็นพื้นที่ระหว่างบ้านงิ้ว ต.ท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ บ้านโคกวังวน ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เป็นแกรนแคนยอนที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับปราสาทหินสมัยโบราณกระจายอยู่หลายจุด  ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า ปรางค์พระนารายณ์  อีกทั้งยังมีทางน้ำไหลที่เกิดจากการไหลของมวลน้ำป่าจำนวนมหาศาล กัดเซาะดินจนกลางเป็นร่องลึกกว่า 3 เมตร จนสามารถลงไปเดินและสัมผัสกับร่องรอยการกัดเซาะชั้นดินและหินได้อย่างใกล้ชิด  นอกจากนี้ยังมีการสำรวจพบการถับถมของชั้นดินมานานนับล้านปีกระทั่งมีซากฟอสซิลไม้กลายเป็นหินกระจายอยู่ทั่วบริเวณอีกด้วย  ซึ่งทางกลุ่มอนุรักษ์ป่าหุบใหญ่  ต้องนำเชือกมากั้นบริเวณและจัดเวรยามคอยดูแลตลอดทั้งวันทั้งคืนเพื่อป้องกันไม่ให้เข้าไปทำให้ซากฟอสซิลเหล่านั้นเสียหายหรือถูกขโมยไป

นอกจากความพิเศษของแกรนแคนยอนที่ถูกธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นแล้ว  ชาวบ้านบางคนก็เชื่อว่าจุดนี้เป็นแหล่งพำนักอาศัยของพญานาค เนื่องจากมีบ่อน้ำซับไหลขึ้นมาตลอดทั้งปี  บางคนก็เชื่อว่าเป็นเมืองลับแล เนื่องจากเคยมีผู้พบมีผู้คนอาศัยอยู่ ทั้งๆที่จุดดังกล่าวเป็นป่าอนุรักษ์ไม่มีผู้คนอยู่อาศัย จึงเชื่อว่าจะทำให้พื้นที่จุดนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว

ล่าสุดทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่าจะหลุง อ.โชคชัย และ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ เตรียมที่จะร่วมมือกันหาทางพัฒนาสถานที่ดังกล่าว พร้อมออกสำรวจพื้นที่ป่าโดยรอบ เพราะคาดว่ายังมีจุดที่มีความสวยงามอีกหลายจุด เพื่อผลักดันให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

 !สายบุญ ประธานทองร่วมกับชาวบ้านจัดงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561  ณ วัดสระแก้วโคราช

วันที่ 11 พฤศจิกายนพ. ศ. 2561 เวลา 10.00 น.พิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณวัดสระแก้ว ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยนายทอง วิริยะจารุ นางสมหมาย วิริยะจารุ ประธานกรรมการอุปภัมภ์ นายสมศักดิ์จักสานประธานกรรมการดำเนินงานผอ.รร.วัดสระแก้วพร้อมด้วยพระครูปริยัติรัตนวิชัย เจ้าอาวาสวัดสระแก้ว นำคณะสงฆ์วัดสระแก้ว  ร่วมประกอบพิธีสงฆ์และคณะผู้บริหารครูโรงเรียนวัดสระแก้วอุบาสก อุบาสิกาแก้ว แขกผู้มีเกียรติ

พิธีทอดกฐินกฐินมีกำหนดระยะเวลาถวาย จะถวายตลอดไปเหมือนผ้าชนิดอื่นมิได้ ระยะเวลานั้นมีเพียง 1 เดือน คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ไปจนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันเพ็ญเดือน 12) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน5 การทอดกฐินในประเทศไทย

การได้มาของผ้าไตรอันจะนำมากรานกฐินตามพระวินัยบัญญัติของเถรวาทนี้ พระพุทธองค์ไม่ทรงห้ามการรับผ้าจากผู้ศรัทธาเพื่อนำมากรานกฐิน ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดทานพิธีการถวายผ้ากฐิน หรือการทอดกฐินของพุทธศาสนิกชนขึ้น และด้วยการที่การถวายผ้ากฐินนั้น จัดเป็นสังฆทาน คือถวายแก่คณะสงฆ์โดยไม่เจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เพื่อให้คณะสงฆ์นำผ้าไปอปโลกน์ ยกให้ แก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามที่คณะสงฆ์ลงมติ (ญัตติทุติยกรรมวาจา) และกาลทาน ที่มีกำหนดเขตเวลาถวายแน่นอน คณะสงฆ์วัดหนึ่ง ๆ สามารถรับได้ครั้งเดียวในรอบปี จึงทำให้ประเพณีการทอดกฐินเป็นบุญประเพณีนิยมที่สำคัญของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2561 ณ วัดสระแก้ว มีประชาชนมาร่วมงานทอดกฐินสามัคคีประจำปี2561ประมาณ300คนและจัดทำโรงทาน16โรงทานโดยปีนี้ประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพจำนวนเงิน100บาทจะได้รับวัตถุมงคลเหรียญบูชาครูเม็ดแตงโมหลวงพ่อทอง สุทธสีโล ในการถวายกฐินมีมาหลายสายบุญต่างๆมาร่วมถวายกฐินในครั้งนี้ร่วมยอดถวายเป็นเงิน1,000,999บาท อีกด้วย

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เชิญร่วมพิธีพุทธาภิเษกน้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ วัตถุมงคล รุ่น “หนุนดวงเรียกทรัพย์” และร่วมลอยกระทง ประจำปี 2561

น้ำพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ หรือ น้ำมนต์กลางหาว  คนไทยแต่โบราณเชื่อเรื่องพลังลี้ลับ ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ สามารถใช้วันเพ็ญเดือน ๑๒

จะมีศิริมงคลมาก ยิ่งอาบน้ำมนต์ เดือนเพ็ญทำในวันเพ็ญปีนี้ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑นี้ 

จากตำนานเราผูกพันด้วยพลังจักรวาลโลก ที่เราอาศัยยาวนาน ด้วยความที่ดวงจันทร์ ดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด พลังและแรงดึงดูดจึงมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก  ความเชื่อเรื่องพลังจากดวงจันทร์เต็มดวง มีอยู่ทุกภูมิภาคของโลก และของไทย

การปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ในคืนวันเพ็ญเต็มดวง กำลังแผ่รัศมีอย่างเต็มที่ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอนุภาพมากพิเศษ เพราะทางโหราศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ถือกันว่า “พระจันทร์” มีคุณค่าทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เยือกเย็น และดึงดูดมหาชน “ดึงดูดสายตา ดึงดูดความรู้สึก อยู่ใกล้ก็เย็นอกเย็นใจ สบายใจ อยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึง อยากเห็น อยากมองในแง่ความมีเสน่ห์ มหานิยม

หากผู้ที่ได้รับการอาบน้ำมนต์วันเพ็ญ หรือ การลงตัวคืนเพ็ญ” ไปแล้วรักษาวิชาให้อยู่กับตัวได้ด้วยการรักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ทำตนอยู่ในสายธรรมที่พระพุทธวางแบบไว้ให้ ไม่ผิดข้อห้ามในสำนักแล้ว วิชาที่ลงไว้ย่อมไม่เสื่อมสูญ รำลึกเมื่อไร ย่อมได้รับผลสมดังใจปรารถนา เป็นอัศจรรย์แน่นอน

อาบน้ำเพ็ญ 1 ปีมีหนพิธีอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธ์ ในคืนพระจันทร์เพ็ญ ( ขึ้น ๑๕ ค่ำ ) แต่เดิมนิยม ประกอบพิธีในเดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชาของทุกปี ตามพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า“ศิวราตรี”

ต่อมามีการจัดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง เพราะถือว่าเป็นวันที่สายน้ำทุกแห่งทั่วโลก มีความบริสุทธิ์ใสสะอาดปีหนึ่งจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้นปีนี้ ขอขมาพระแม่คงคา “วันลอยกระทง”

กำหนดงาน

เวลา        18.00 น.               –  เตรียมความพร้อม ร่วมพิธี พุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว วันเพ็ญ”

18.30 น.               –  ต้อนรับคณะเกจิดัง 5 รูป ร่วมพิธี

19.00 น.               –  เริ่มพิธี พุทธาภิเษก วัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.00 น.               –  เสร็จพิธี พุทธาภิเษกวัตถุมงคล และพิธีพุทธมนต์กลางหาว

21.30 น.               –  ร่วมลอยกระทง กับ ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ

22.00 น.               –  เสร็จสิ้นภารกิจ

 

เกจิพิธีพุทธาภิเษก น้ำพุทธมนต์ และ วัตถุมงคลวาระพิเศษ เกจิดัง 5 รูป

  1. พระครูสังฆรักษ์สุรเดช (ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ )  วัดพระนารายณ์มหาราช
  2. พระครูประโชติปัญญาภรณ์ ( หลวงปู่คูณ วรปัญโญ )   วัดบัญลังค์
  3. พระครูสังฆรักษ์เสมา ( ครูบาแบ่ง ฐามุตตา )  วัดโตนด
  4. พระครูโสภิตธรรมวัตร ( ครูบาไพรวัลย์ ) วัดบ้านไร่โคกสูง
  5. พระปลัดจรูญ โกสโล (อาจารย์ป๋อง ) วัดสมานมิตร

น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ“ศักดิ์สิทธ์” ยิ่งนักเกิดศิริมงคล ทำการใดก็สำเร็จ สมปรารถนา มีโชคชัยมงคล มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย รอดพ้นจากภยันอันตรายต่างๆ เปิดจิตเปิดใจผิวพรรณผ่องใส เสริมอายุวรรณะ ประกอบการธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เด่นคุณเมตตา

แลนด์มาร์คพื้นที่ประวัติศาสตร์เมืองโคราช ” เตรียมขอคืนพื้นที่วัดกลางนคร จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพร้อมปรับภูมิทัศน์ศาลหลักเมือง

ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร (วัดกลางนคร) พร้อมนายวิเชียร   จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ผู้แทนส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือการจัดสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ครั้งที่ 1/2561 ในวาระนำเสนอรายละเอียด รูปแบบการดำเนินการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราชและแนวทางปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ภายในวัดพระนารายณ์ ฯ เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้สร้างวัดพระนารายณ์ ฯ  เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2199 สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองโคราช
               นายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเสนอค่าใช้จ่ายการดำเนินการจัดสร้างปฏิมากรรมพระนารายณ์มหาราช ซึ่งมีขนาดความสูง 4 เมตร พร้อมแท่นวางประติมากรรมสูง 3.7 เมตร รวมทั้งแนวทางปรับปรุงตกแต่งภูมิทัศน์ ทางเดินเท้าพื้นที่ขนาด 1,200 ตร.ม. การติดตั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้าส่องสว่างรวมทั้งการรื้อถอนอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น จำนวน 10 คูหา บริเวณทางเข้าวัด ฯ ด้านถนนประจักษ์ เพื่อเชื่อมต่อศาลหลักเมือง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายพร้อมศึกษาผลกระทบ
                จากการดำเนินงาน เพื่อให้การออกแบบและการจัดสร้างฯ มีความเหมาะสมที่สุด สอดรับกับแผนพัฒนาผังเมือง นำไปสู่การจัดทำหนังสือขออนุญาตกรมศิลปากรพิจารณาความเหมาะสมต่อไป นอกจากนี้ได้พิจารณาจัดทำรูปหล่อและเหรียญให้เช่าบูชาเพื่อหารายได้สมทบทุนการจัดสร้างฯ รวมทั้งกำหนดปฏิทินดำเนินงานให้ทุกฝ่ายทราบภาระหน้าที่และประสานงานทุกภาคส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ
             ด้านพระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยแนวทางการพัฒนาศาลหลักเมืองซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่วัดพระนารายณ์ ว่า สืบเนื่องจากจากโยมผู้เช่าที่ดินของวัดได้คืนสิทธิ์การครอบครองที่หมดสัญญาในปี 2564 โดยมีความต้องการให้เกิดพื้นที่เพิ่มเติมบริเวณด้านทิศเหนือของศาลหลักเมือง คณะกรรมการวัดฯ ได้ปรึกษาหารือร่วมคณะกรรมการศาลหลักเมืองและนายวิเชียร ฯ ผวจ.นครราชสีมา รวมทั้งหัวหนาส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบทางด้านวิศวกรรมสภาพอาคาร ในการเตรียมรื้อถอนอาคาร เพื่อเปิดพื้นที่ให้ประชาชนได้เดินทางมากราบไหว้ สักการะศาลหลักเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่วัดพระนารายณ์ ฯ สามารถประกอบกิจกรรมระหว่างวัดและศาลหลักเมืองได้สะดวกคล่องตัวกว่าเดิมที่ต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลัง
อาตมาขอแจ้งให้ผู้เช่าพื้นที่วัด ฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ธรณีสงฆ์ หากรายใดครบกำหนดสัญญาเช่าตามกฎหมาย โปรดคืนพื้นที่ให้วัด โดยเฉพาะบริเวณถนนประจักษ์หรือด้านทิศตะวันตก เพื่อก่อสร้างกำแพงวัดฯ พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามรองรับการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ให้สมเกียรติและเป็นแลนด์มาร์คของโคราช
นอกจากนี้ยังจัดสร้างพื้นที่บรรจุอัฐิธาตุของท้าวสุรนารี (ย่าโม) ตรงมุมทิศพายัพหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จากประวัติที่สืบค้น เมื่อปี พ.ศ. 2477 ได้ย้ายอัฐิธาตุย่าโมออกจากวัดไปประดิษฐานที่ประตูชุมพลจนทุกวันนี้ กรรมการวัด ฯ จึงขอคืนพื้นที่เพื่อบูรณะรักษาพื้นที่ประวัติศาสตร์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้เห็นความสำคัญของย่าโม วีรสตรีกู้ชาติ หากเปิดพื้นที่ตามแผนที่กำหนดไว้ จะเห็นความงดงามของศาลหลักเมือง เจดีย์วัด ฯ และพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราชรวมทั้งพื้นที่ประวัติศาสตร์ท้าวสุรนารี เชื่อจะเกิดความแตกต่างไปจากเดิมซึ่งที่ผ่านมามีอาคารพาณิชย์บดบังทัศนียภาพ
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระนารายณ์ ฯ กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร เป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองติดกลับศาลหลักเมือง สมัยโบราณเรียกว่า “ วัดกลาง ” หรือ “ วัดกลางนครโคราช วรวิหาร ” โดยถือเอาวัดพระนารายณ์ ฯ เป็นศูนย์กลาง รายล้อมด้วยวัดอื่น ๆ ตามที่ตั้งอยู่ทิศต่าง ๆ ตามชื่อทิศ เช่น วัดบูรพ์ (บูรพา) วัดอิสาน วัดพายัพและวัดบึง วัดสระแก้ว รวม 6 วัด ที่ตั้งอยู่ภายในกำแพงเมืองโคราช วัดกลางนคร จัดเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ประชาชนให้ความเคารพนับถือในสมัยก่อนมีพิธีที่ข้าราชการทุกแผนกจะต้องสาบานตนว่าจะต้องรับราชการสนองพระเดชพระคุณด้วยความจงรักภักดี ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต พิธีนี้เรียกว่า พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาทางราชการได้ใช้วัดพระนารายณ์มหาราช ฯ เป็นสถานที่ในการประกอบพิธี รวมทั้งให้เป็นสถานที่ทำพิธีสวดเสกน้ำพระพุทธมนต์ถวายในงานพระราชพิธีเสวยราชสมบัติ ปัจจุบันวัดพระนารยณ์ ยังมีศิลปะวัตถุพร้อมทั้งแบบสถาปัตยกรรมของสมัยกรุงศรีอยุธยาและปูชนียสถาน ประกอบด้วย พระอุโบสถที่ตั้งอยู่เกาะกลางสระบัวทิศตะวันออกของวัด พระวิหารหลวงและเทวรูปพระนารายณ์สี่กร จำหลักด้วยหินทรายฝีมือขอมโบราณอันเป็นสัญลักษณ์แสดงพระนามผู้สร้างวัด

วัดลองตองโคราช…ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2561

ที่วัดลองตอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้กำหนดทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2561 เพื่อเป็นทุนในการบูรณปฏิสังขรณ์สิ่งปลูกสร้างภายในวัด เพื่อเตรียมการรองรับงานผูกพัทธสีมา ปิดทองฝังลูกนิมิตร ภายในปลายปี 2562 นี้

โดยมีคุณแม่กิมเอ็ง แซ่ผู่ – คุณครูภคภัทร สกุลสุพิพิชญ์ เป็นเจ้าภาพ และมีพี่น้องประชาชน รวมทั้ง สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ร่วมต่อยอดกฐินในครั้งนี้ ได้ยอดรวมทั้งสิ้น 817,960 บาท

ชาวโคราชแห่ต้อนรับเทศกาลกินเจอย่างอิ่มบุญ อิ่มใจ8-17ต.ค.61

งานประเพณีเทศกาลถือศีลกินเจซึ่งจากความเชื่อว่าในช่วงตั้งแต่วันแรม 14 ค่ำเดือน 10 ปีจอตามจันทรคติตรงกับวันที่ 8 ตุลาคมถึง 17 ตุลาคม 2561 เทพเจ้าประจำดาวเคราะห์องค์ต่างๆ 9 พระองค์คือพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธพฤหัส พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู พระเกตุ จะส่งผลัดเปลี่ยนกันเสด็จลงมาตรวจโลกมนุษย์ทั้งกลางวันและกลางคืนส่งคอยสอดส่องดูแลและควบคุมทุกข์สุขของสัตว์โลกจากความเชื่อนี้หากบุคคลใดต้องการความรุ่งเรืองผาสุขในชีวิตก็ควรจะลดละอกุศลกรรมและพยายามสะสมแต่สิ่งที่ดีงามเพื่อจะได้รับพรจากเทพเจ้าทั้ง 9 พระองค์

เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2561 เทศบาลเมืองนครราชสีมา ร่วมกับมูลนิธิพุทธรรม 31 (ฮุก 31)  จ.นครราชสีมา ศาลเจ้าพ่อเสือ จ.นครราชสีมา มูลนิธิสว่างเมตตาธรรม ฯลฯ ทำพิธีแห่องค์เทพเจ้ารอบเมืองโคราช เนื่องในงานเทศกาลถือศีลกินผัก (เทศกาลกินเจ) ประจำปี 2561ณ.ลานอนุเสาวรีย์คุณย่าโม จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 8 – 17 ตุลาคม 2561โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย  นายกเหล่ากาชาด จังหวัดนครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นายชัชวาล วงศ์จร ประธาน หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และคณะกรรมการมูลนิธิอื่นฯลฯพร้อมทั้งประชาชนชาวโคราชร่วมเปิดงานเทศกาลกินเจ   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งขบวนเดินรอบเมืองและรถแห่เทพเจ้าไปตามตัวเมืองนครราชสีมาเข้าสู่มูลนิธิฮุก31และเมตตาธรรมฯจากนั้นก็ทำพืธืต้อนรับเทพเจ้าที่จะลงมาประทับร่างทรงม้า มีการแสดงมังกรโชว์กายกรรมซึ่งเป็นการ แสดงเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง   การกินเจครั้งนี้มีประชาชนได้แห่กันไปร่วมกินเจและบริจาคเงินคนละ10-100 บาทหรือตามกำลัง ที่จะบริจาคโดยทางมูลนิธิต่างๆก็จะตั้งตู้บริจาคไว้ในสถานที่กินเจ ต่อมา  ที่มูลนิธิเมตตาธรรมสถานฯช่วงเย็นมีการแข่งขันเชฟกะทะเหล็กมีทีมเดอะมอลล์  ทีมมูลนิธิเมตตา และทีมประชาชนที่เข้าแข่งขันในครั้งนี้ด้วย

ขอเชิญร่วมงานน้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ หรือ น้ำมนต์กลางหาว และงานลอยกระทงประจำปี61

น้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ หรือ น้ำมนต์กลางหาว
คนไทยแต่โบราณเชื่อเรื่องพลังลี้ลับ ที่เกิดจากดวงอาทิตย์ และ ดวงจันทร์ สามารถใช้วันเพ็ญเดือน ๑๒ จะมีศิริมงคลมาก ยิ่งอาบน้ำมนต์ เดือนเพ็ญทำในวันเพ็ญปีนี้ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๖๑นี้ จากตำนานเราผูกพันด้วยพลังจักรวาลโลก ที่เราอาศัยยาวนาน ด้วยความที่ดวงจันทร์ ดาวที่อยู่ใกล้โลกที่สุด พลังและแรงดึงดูดจึงมีอิทธิพลต่อโลกอย่างมาก ความเชื่อเรื่องพลังจากดวงจันทร์เต็มดวง มีอยู่ทุกภูมิภาคของโลก และของไทย


การปลุกเสกน้ำพระพุทธมนต์ในคืนวันเพ็ญเต็มดวง กำลังแผ่รัศมีอย่างเต็มที่ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีอนุภาพมากพิเศษ เพราะทางโหราศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ถือกันว่า “พระจันทร์” มีคุณค่าทางเสน่ห์ เมตตา มหานิยม เยือกเย็น และดึงดูดมหาชน “ดึงดูดสายตา ดึงดูดความรู้สึก อยู่ใกล้ก็เย็นอกเย็นใจ สบายใจ อยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึง อยากเห็น อยากมองในแง่ความมีเสน่ห์ มหานิยม


หากผู้ที่ได้รับการอาบน้ำมนต์วันเพ็ญ หรือ การลงตัวคืนเพ็ญ” ไปแล้วรักษาวิชาให้อยู่กับตัวได้ด้วยการรักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ทำตนอยู่ในสายธรรมที่พระพุทธวางแบบไว้ให้ ไม่ผิดข้อห้ามในสำนักแล้ว วิชาที่ลงไว้ย่อมไม่เสื่อมสูญ รำลึกเมื่อไร ย่อมได้รับผลสมดังใจปรารถนา เป็นอัศจรรย์แน่นอน
อาบน้ำเพ็ญ 1 ปีมีหนพิธีอาบน้ำมนต์จันทร์เพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ คือ พิธีอาบน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธ์ ในคืนพระจันทร์เพ็ญ ( ขึ้น ๑๕ ค่ำ ) แต่เดิมนิยม ประกอบพิธีในเดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชาของทุกปี ตามพิธีทางศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า“ศิวราตรี”
ต่อมามีการจัดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง เพราะถือว่าเป็นวันที่สายน้ำทุกแห่งทั่วโลก มีความบริสุทธิ์ใสสะอาดปีหนึ่งจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้นปีนี้ ขอขมาพระแม่คงคา “วันลอยกระทง”
น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ
“ศักดิ์สิทธ์” ยิ่งนักเกิดศิริมงคล ทำการใดก็สำเร็จ สมปรารถนา มีโชคชัยมงคล มีเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย รอดพ้นจากภยันอันตรายต่างๆ เปิดจิตเปิดใจผิวพรรณผ่องใส เสริมอายุวรรณะ ประกอบการธุรกิจเจริญรุ่งเรือง เด่นคุณเมตตา