บริษัทคาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เดินหน้าสานต่อเพื่อช่วยเหลือชุมชน

บริษัทคาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด เดินหน้าสานต่อเพื่อช่วยเหลือชุมชน สนับสนุนผลิตภัณฑ์ไข่ไก่สดจำนวน 20,000 ฟอง พร้อมน้ำดื่มจำนวน 80 แพค เพื่อมอบให้แก่พื้นที่อำเภอพิมาย อำเภอหนองบุญมาก และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพะโค จังหวัดนครราชสีมา เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลประทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา รวมถึงใช้ในการประกอบอาหารให้แก่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการดูแลการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนตามโรงพยาบาลส่วนตำบลต่างๆ

แถลงข่าวเปิดตัว จัดงานฟอสซิลเฟสติวัลครั้งที่6 100 ปีแห่ง อนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินและช้างไทย

ม.ราชภัฏโคราชนำทัพเปิดโลกดึกดำบรรพ์ จัดงานฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 6  100 ปีแห่งการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินและช้างไทยจากสมัยรัชกาลที่ 6

 วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน 2564 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับ จังหวัดนครราชสีมา องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ องค์การมหาชน (สสปน.) องค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครราชสีมา วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าว งานฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 6 : 100 ปีแห่งการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินและช้างไทยจากสมัยรัชกาลที่ 6 Fossil Festival VI : 100 Years of petrified Wood and Elephant Conservation from the Reign of King Rama VI ณ ห้องประชุมลำตะคอง 1 โรงแรมแคนทารี โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายสมเกียรติ ตันดิลกตระกูล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นางสาววัชรี ชูรักษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน องค์การมหาชน (อพท.),

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐฐินี ทองดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ เป็นผู้ให้ถ้อยแถลงในการจัดงาน พร้อมกันนี้ ยังมีการจัดการเสวนาเพื่อสร้างความตระหนักเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นและการจัดการอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประเทือง จินตสกุล ผู้อำนวยการอุทยานธรณีโคราชและที่ปรึกษาคณะกรรมการจัดงาน, ดร.อัปสร สอาดสุด ผู้อำนวยการกองธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี, นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ ดร.อลงกต ชูแก้ว ผู้อำนวยการกองทุนวิจัยและอนุรักษ์ช้างไทย เขาใหญ่ ดำเนินรายการโดย อ.นิรวิทย์ เพียราษฎร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาแหล่งเรียนรู้และเสริมสมรรถะมนุษย์

 งานฟอสซิลเฟสติวัล เป็นงานที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ ดำเนินการจัดมาเป็นประจำทุก 2 ปี ตั้งแต่ พ.ศ.2554 จนถึงปัจจุบัน โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักในคุณค่า รวมทั้งร่วมกันอนุรักษ์มรดกฟอสซิลหรือซากดึกดำบรรพ์ของจังหวัดนครราชสีมา ให้คงอยู่และเกิดประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ในปีนี้ ทางสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ ได้จัดงานภายใต้แนวคิด “100 ปี แห่งการอนุรักษ์ไม้กลายเป็นหินและช้างไทยจากสมัยรัชกาลที่ 6”

 ด้วยแนวคิดการอนุรักษ์ฟอสซิลในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะฟอสซิลไม้กลายเป็นหิน มีปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อรัชกาลที่ 6 หรือพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ เสด็จมาตรวจการก่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมา – อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2464 ณ บริเวณ สะพานดำ ซึ่งเป็นสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำมูล ในบริเวณบ้านะกุดขอน ตำบลท่าช้าง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา พระยารำไพพงศ์บริพัตร วิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้พร้อมกับชาวบ้านได้นำฟอสซิลจากไม้กลายเป็นหินจากท้องร่องแม่น้ำมูล น้อมเกล้าฯ ถวายแด่ ร.6 แต่พระองค์ท่านกลับแนะนำให้เก็บรักษาไว้ในท้องที่ พระยารำไพพงศ์บริพัตรจึงได้สร้างอนุสรณ์สถานการเสด็จมาตรวจการก่อสร้างทางรถไฟของ ร.6 ในบริเวณหัวสะพาน แล้วนำไม้กลายเป็นหินท่อนดังกล่าวฝังตรึงไว้บนยอดอนุสรณ์สถาน ซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นเป็นสภาพเดิมตราบกระทั่งปัจจุบัน อนุสรณ์สถานไม้กลายเป็นหิน ร.6 นี้จึงเป็นอนุสรณ์การอนุรักษ์ฟอสซิลหรือไม้กลายเป็นหินที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และชุมชนชาวท่าช้างมาครบ 100 ปี ในวันที่ 4 ธันวาคม 2564 นี้ และอาจกล่าวได้ว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทยและเอชียตะวันออกเฉียงใต้

 การจัดงานฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 6 กำหนดจัดในระหว่างวันที่ 4 – 10 ธันวาคม 2564 ณ สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินและทรัพยากรธรณีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในรูปแบบ Hybrid โดยมีกิจกรรมทั้งรูปแบบของ Onsite ณ สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ และระบบ Online โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ

 1. การแถลงข่าวการจัดงานฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 6 และการเสวนาการอนุรักษ์ทรัพยากรท้องถิ่นกับการพัฒนาที่ยั่งยืน วันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 ในรูปแบบ Hybrid (Onsite and Online)

 2. พิธีเปิดงาน ฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 6 พร้อมชมนิทรรศการชุด “โคราช : มหานครแห่งบรรพชีวินโลก World Paleontopolis” , “จีโอพาร์ค” โดยกรมทรัพยากรธรณี, และ นิทรรศการ “ไม้กลายเป็นหินแปลก”

 3. งานสัมมนาทางวิชาการ บรรพชีวิน “100 ปี อนุรักษ์และวิจัยฟอสซิลในโคราช”

 การเสวนาทงวิชาการหัวข้อ “ฟอสซิลแห่งสยามกับการอนุรักษ์”, “ฟอสซิลแห่งสยามกับการอนุรักษ์และโคราชมหานครแห่งบรรพชีวินโลก (World Paleontopolis)”

 การนำเสนอผลงานทางวิชาการ “ร่วมเรียนรู้สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์กับนักวิจัย” และ “พิพิธภัณฑ์ฟอสซิลเพื่อการนันทนาการและการเรียนรู้” วันที่ 7 – 8 ธันวาคม 2564 ในรูปแบบ Hybrid

 4. พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางด้านการอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ ร่วมกัย กรมทรัพยากรธรณีและภาคีเครือข่าย วันที่ 8 ธันวาคม 2564 ณ สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ ในรูปแบบ Hybrid (Onsite and Online)

 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “ทัวร์เที่ยวทิพย์ท่องเที่ยวมหานครแห่งบรรพชีวิน”, “กิจกรรมท่องเที่ยวไปในพิพิธภัณฑ์ฯ กิจกรรม DIY By Khorat Fossil Museum พบกับเรื่องราวที่น่าสนใจตามแต่ละวัน เช่น ตอน ไดโนเสาร์สิรินธรน่าโคราชเอนซิส และสยามแรปเตอร์ สุวัจน์ติ, “เติมสีสันให้ช้าง” และงานแสดงสินค้าชุมชนและผลผลิตทางการเกษตร “ไม้หิน กรีน มาร์เก็ต” พร้อมชมผลานทางศิลปะ โดยงาน Thailand Art Biennale 2021

 การจัดงานในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ดำเนินการค้นพบและอนุรักษ์ซากดุกดำบรรพ์ และในปี พ.ศ.2564 ครบรอบ 100 ปี จึงเป็นโอกาสดีที่สถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ และภาคีในจังหวัดนครราชสีมาจะได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการสร้างความเข้าใจเรื่องซากดึกดำบรรพ์ ตลอดจนการกระตุ้นให้ชาวจังหวัดนครราชสีมา ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนคนทั่วไปได้ตระหนักในความสำคัญของซากดุกดำบรรพ์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่สามารถนำมาต่อยอดในเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายของการจัดงานที่สำคัญ คือ การสร้างความตระหนักในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรณีและทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อเชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลก หรือ SDGs

บุญกฐินสามัคคี วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี

บุญกฐินสามัคคี วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี วันที่ 6 พย.2564 พระครูปลัดภูมิปัญญาญาณสัมปันโนเจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี นิมนต์พระราชภาวนาวชิรคุณ(หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต) วัดเขาตาเงาะ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมพระครูปลัดภูมิ ปัญญา ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสีและคณะสงฆ์ ร่วมทอดผ้ากฐินได้รับเกียรติประธานสายบุญ พล.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม รองเสนาธิการทหารบก(อดีตแม่ทัพภาค 2 )ประธานฆราวาส ร่วมกับคณะ ศิษย์ยานุศิษย์ วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ที่มาร่วมงานจำนวนมาก ได้ปฏิบัติตามมาตรกา ป้องกันโควิด 19 กฐินสามัคคี รวมยอดบุญรวมถวายวัด 671,345.50 บาท ในโอกาสบุญนี้ ท่านเจ้าอาวาสได้ให้พรและขอให้ผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ได้รับพรจากพระคุณพระศรีรัตนตรัยอำนวยอวยพร ผู้จิตศรัทธาและครอบครัว มีความสุขความเจริญด้วยอายุวรรณะธนสารสมบัติ สืบไป

จัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

หลายภาคส่วนโคราช

หารือราคาข้าวตกต่ำ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ณ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา จัดประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ณ ห้องประชุมท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานที่ประชุม  พร้อมนายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา  ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมา ผู้แทนสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมา  ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา ประธานชมรมโรงสีข้าวจังหวัดนครราชสีมา และผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรพิมาย จำกัด

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวเปลือกที่ออกสู่ตลาดช่วงนี้ เป็นข้าวในพื้นที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม ทำให้คุณภาพต่ำและมีความชื้นสูงร้อยละ 25-27  ซึ่งราคารับซื้อปกติเป็นข้าวคุณภาพ ตันละ 8,000-8,500  บาท  จึงขายไม่ได้ราคาเท่าที่ควร 

ขณะที่รัฐบาลได้เตรียมมาตรการรองรับโดยมีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 หากเกษตรกรขายได้ต่ำกว่าราคาที่รัฐบาลประกันไว้ก็สามารถรับเงินส่วนต่างได้  ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกข้าวหอมมะลิที่แจ้งเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะได้รับเงินส่วนต่างตันละ 4,135.77 บาท โอนเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง และจะมีการประกาศกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและชดเชยทุกๆ 7 วัน

สำหรับผลผลิตข้าว จังหวัดนครราชสีมามีเกษตรขึ้นทะเบียนพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิ จำนวน 3,114,495 ไร่ คาดว่าจะเสียหายจากภาวะอุทกภัย จำนวน 603,339 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 19 ในส่วนนี้เกษตรกรที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 ตุลาคม 2564 และระบุวันที่คาดว่าเก็บเกี่ยวก่อน 15 ตุลาคม 2564 และงวดสุดท้ายจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 จะได้รับเงินส่วนต่างด้วย  โดยผลผลิตข้าวจะเก็บเกี่ยวและออกสู่ตลาดมากตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป คาดว่าจะเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นไม่เกินกลางเดือนธันวาคม 2564 

ในส่วนของ ธ.ก.ส. ได้เตรียมมาตรการรองรับ คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก เพื่อให้เกษตรกรเก็บข้าวเปลือกไว้ที่ยุ้งฉางของตนเองและนำเงินสินเชื่อไปใช้จ่ายโดย ธ.ก.ส. ไม่คิดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 5 เดือน เมื่อสถานการณ์ราคาดีขึ้นเกษตรกรสามารถชำระหนี้และนำข้าวเปลือกที่เก็บไว้ไปจำหน่ายได้ หรือหากราคาไม่ดีขึ้น ธ.ก.ส. จะดำเนินการระบายและรับภาระส่วนต่าง นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อรวมรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร โดยมีวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 1 ต่อปี เพื่อให้สถาบันเกษตรกรนำไปรวบรวมข้าวเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปต่อไป  รวมทั้งยังมีมาตรการคู่ขนาน คือ โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก เพื่อดึงผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาดในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก โดยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ เก็บสต๊อกในรูปข้าวสารหรือข้าวเปลือก รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่เข้าร่วมโครงการ ผ่านธนาคารพาณิชย์หรือธนาคารของรัฐ ตามมูลค่าข้าวเปลือกที่ผู้เข้าร่วมโครงการเก็บสต๊อกไว้ในอัตราร้อยละ 3  ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต๊อกไว้ 60-180 วัน นับแต่วันที่ซื้อ (เบิกจ่ายเงินหรือออกตั๋วสัญญา) เพื่อรับซื้อข้าวเปลือก ปีการผลิต 2564/65

ทั้งนี้​ สำนักงาน​พาณิชย์​จังหวัด​นครราชสีมา​ จะได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด เรื่อง โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564  เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับอำเภอทุกอำเภอเพื่อสื่อสารกับเกษตรกรอีกครั้ง

#ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา

‘หลวงพ่อพัฒน์’ เคลียร์ชัดทุกประเด็น
ต่อหน้า ‘สำนักพุทธ – ตำรวจ’ ‘เงินยังอยู่ครบ’

‘หลวงพ่อพัฒน์’ เคลียร์ชัดทุกประเด็น
ต่อหน้า ‘สำนักพุทธ – ตำรวจ’ ‘เงินยังอยู่ครบ’
.
จากกรณีกลุ่มลูกศิษย์ “หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม” หรือ พระราชมงคลวัชราจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน หรือวัดธารทหาร ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ธารทหาร อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนถอดถอนผู้ดูแลของหลวงพ่อพัฒน์ต่อกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครสวรรค์ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 นางจรรยา รัตนเลขา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ได้ลงพื้นที่ไปสอบถามถึงข้อเท็จจริงกับ หลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

cr.koratinside

ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น.

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหายหลายราย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2564 ทาง สภ.เมือง ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ถ้าพี่น้องประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากแก๊งหลอกลวงนี้ กรุณาติดต่อได้ที่สถานีตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจโคราช  แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท พฤติกรรมหลอกแบบเดิมๆทำให้เหยื่อตายใจขอตรวจสอบเงินในบัญชีเหยื่อ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 แถลงการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายรวมความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อและให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นางสาวสมศรี  บุญเลี้ยง จำนวน 218,470 บาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะของแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มต้นที่คนร้ายจะโทรหาผู้เสียหายและอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งแล้วบอกกับผู้เสียหายว่ามีสินค้าจำพวก พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้า ที่จะส่งไปยังประเทศจีนติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรไม่สามารถขนส่งไปยังปลายทางได้ ผู้เสียหายได้แจ้งกลับไปว่าไม่เคยมีการส่งสินค้าดังกล่าวแต่คนร้ายได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่าสามารถโอนสายเพื่อติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. เป็นร้อยเวรของ สภ.เชียงใหม่

จากนั้นมีการแนะนำให้แอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ มีการพูดคุยผ่านไลน์ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จริง จากนั้นคนร้ายได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีการฟอกเงิน ถ้าไม่อยากมีปัญหาจะให้ ปปง.ทำการตรวจสอบบัญชีของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลบัญชีทั้งหมดและยอดเงินในบัญชี โดยมีการกล่าวอ้างเรื่องการการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบอกว่าจะส่งบัญชีของผู้เสียหายให้ ปปง. ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน

ต่อมา คนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีที่ผู้เสียหายมีไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อนางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เพื่อทำการตรวจสอบว่าตรงกันหรือปล่าว โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงและเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์จึงได้ทำการโอนนไปยังบัญชีดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงโทรกลับไปยังหมายเลขที่เคยติดต่อกับคนร้ายปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้

ในเบื้องต้นตำรวจได้ขอนุมัติศาลออกหมายจับ 5 รายเป็นคนไทย 4 ราย และชาวกัมพูชาอีก 1 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย มีทั้งรับจ้างเปิดบัญชี นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี และคนจัดส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป

ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น.

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหายหลายราย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2564 ทาง สภ.เมือง ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ถ้าพี่น้องประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากแก๊งหลอกลวงนี้ กรุณาติดต่อได้ที่สถานีตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจโคราช  แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท พฤติกรรมหลอกแบบเดิมๆทำให้เหยื่อตายใจขอตรวจสอบเงินในบัญชีเหยื่อ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 แถลงการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายรวมความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อและให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นางสาวสมศรี  บุญเลี้ยง จำนวน 218,470 บาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะของแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มต้นที่คนร้ายจะโทรหาผู้เสียหายและอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งแล้วบอกกับผู้เสียหายว่ามีสินค้าจำพวก พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้า ที่จะส่งไปยังประเทศจีนติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรไม่สามารถขนส่งไปยังปลายทางได้ ผู้เสียหายได้แจ้งกลับไปว่าไม่เคยมีการส่งสินค้าดังกล่าวแต่คนร้ายได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่าสามารถโอนสายเพื่อติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. เป็นร้อยเวรของ สภ.เชียงใหม่

จากนั้นมีการแนะนำให้แอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ มีการพูดคุยผ่านไลน์ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จริง จากนั้นคนร้ายได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีการฟอกเงิน ถ้าไม่อยากมีปัญหาจะให้ ปปง.ทำการตรวจสอบบัญชีของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลบัญชีทั้งหมดและยอดเงินในบัญชี โดยมีการกล่าวอ้างเรื่องการการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบอกว่าจะส่งบัญชีของผู้เสียหายให้ ปปง. ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน

ต่อมา คนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีที่ผู้เสียหายมีไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อนางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เพื่อทำการตรวจสอบว่าตรงกันหรือปล่าว โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงและเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์จึงได้ทำการโอนนไปยังบัญชีดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงโทรกลับไปยังหมายเลขที่เคยติดต่อกับคนร้ายปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้

ในเบื้องต้นตำรวจได้ขอนุมัติศาลออกหมายจับ 5 รายเป็นคนไทย 4 ราย และชาวกัมพูชาอีก 1 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย มีทั้งรับจ้างเปิดบัญชี นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี และคนจัดส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป

พิธีการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

พิธีการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
วันจันทร์ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เวลา ๑๔.๓๕ น.ณ MCC Hall The Mall Korat อำเภเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมานายกอบชัย บุญอรณะ ประธานคณะกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัดนครราชสีมา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายบรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาคำกล่าวรายงาน- หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อาสาสมัคร พอ.สว. พร้อมกัน ณ บริเวณพิธี

ผู้สื่อข่าวรายงานพิธีการว่า- เริ่มให้บริการฉีดวัคซีน- หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหาร อาสาสมัคร พอ.สว. พร้อมกัน ณ บริเวณพิธี- ประธานในพิธี (นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา) เดินทางถึงบริเวณพิธี- ประธานถวายราชสักการะ พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ-วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี-ประธานเปิดกรวยดอกไม้- ประธานถวายราชสักการะ พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี- ประธาน กล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณ- ชมวิดิทัศน์ เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารีกรมพรศรีสวางควัฒน วรชัตติยราชนารี และ กิจกรรม พอ.สว. จังหวัดนครราชสีมา-ร่วมร้องเพลงเทิดพระบิดาจากนั้น ประธาน หันหน้าเข้าหาผู้ร่วมพิธี เพื่อรับฟังคำกล่าวรายงาน- นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงาน- นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวเปิดบริการหน่วยแพทย์ พอ.สว.- ถ่ายภาพร่วมกันของ อาสาสมัคร พอ.สว. พร้อมเปิดเพลงมาร์ช พอ.สว.๑๐.๐๐ น.

ประธานตรวจเยี่ยมการให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.
นายนรินทร์ชต์ พิชญคามินทร์นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ขอขอบพระคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นอย่างสูง ที่ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.)
บูรณาการหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคนป้องกันโรค COVID-19 เป็นกิจกรรมเทิดพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประลูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรขัตติยราชนารี ในวันนี้จากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ที่มีการระบาดไปทั่วโลก อย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศเป็นอย่างมาก ปัญหาการเข้าถึงบริการฉีดวัคนของประชาชน ยังไม่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตามที่กระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเพิ่มการเข้าถึงบริการอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว ในการนี้จังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (COVID-19) ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา จำนวน ๕ หน่วยบริการ ประกอบไปด้วย
๑)ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โดย โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ๒)ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โดยโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมาร่วมมือกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และเครือข่ายความร่วมมือ “โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ๔โรงพยาบาลค่ายสุรนารี๕)โรงพยาบ าลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และ ในเขตพื้นที่ต่างอำเภอ ๓๑ อำเภอจัดบริการฉีดที่โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว และครอบคลุม และในวันนี้ เพื่อแสดงความจงรักภักดี ในพระมหากรุณาธิคุณ
ที่พระองค์ท่านทรงมีต่อปวงชนชาวไทย และเป็นการสืบสานพระปณิธานของพระองค์ท่านอาสาสมัคร พอ.สว.จังหวัดนครราชสีมา ได้พร้อมใจกันมาจัดหน่วยแพทย์ อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) บูรณาการหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคCOVID-19 ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา (THE MALLKORAT) ๒ ช่วง ได้แก่ ช่วงที่๑ ระหว่างวันที่ ๒๒ – ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔ และช่วงที่ ๒ ระหว่างวันที่ ๑ – ๑๒ กรกฎาคม๒๕๖๔ และได้จัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราซกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒนวรชัตติยราชนารีในวันจันทร์ที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

“จุรินทร์”ควง”คุณหญิงกัลยา” ลุยเมืองย่าโม เคาะ 4 ประเด็น เตรียมจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 ฟื้นเศรษฐกิจ

“จุรินทร์”ควง”คุณหญิงกัลยา” ลุยเมืองย่าโม เคาะ 4 ประเด็น เตรียมจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 ฟื้นเศรษฐกิจคาดสะพัดกว่า 1,600 ล้าน พร้อมจัดงาน Agro FEX 2021 ชน CIIE จีน เปิดช่องทางยกระดับตลาดมันสำปะหลัง ห้ามส่งออกต่ำกว่าราคาแนะนำ

วันที่ 19 มิถุนายน 2564 เวลา 12.30 น.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมระหว่างทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัดและภาคธุรกิจ ณ ห้องประชุมโรงแรม แคนทารี โคราช จังหวัดนครราชสีมา นายจุรินทร์ กล่าวว่า

วันนี้เป็นการประชุมทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา ได้ข้อสรุปร่วมกัน 4 ประเด็นประเด็นแรก ช่วงเดือนธันวาคมปีนี้จังหวัดนครราชสีมาจะร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1,000,000 คน ทำให้เงินสะพัดรวมประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยต้องเปิดเมืองอย่างน้อย 4 อำเภอ อำเภอเมืองอำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียวและอำเภอพิมาย ซึ่งต้องมีวัคซีนตามเกณฑ์ที่ ศบค.กำหนด โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่จัดสรรวัคซีนต่อไป อาจมีการขีดวงพื้นที่ในแต่ละอำเภอให้สามารถจัดงานได้ให้มีการฉีดวัคซีน 70% ของผู้เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับ”อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ที่ตนได้หารือกับกระบี่ ภูเก็ตและพังงาก่อนนี้

ประเด็นที่สอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Agro FEX 2021 เพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้าเกษตรในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดภาคอีสานใกล้เคียง วันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2564 ให้ตรงกับงานส่งเสริมการนำเข้าส่งออกของจีนที่เซี่ยงไฮ้ China International Import Expo (CIIE)ให้สามารถใช้ตลาดจีนเปิดโอกาสผู้นำเข้าจีนจากทั่วประเทศมาสั่งสินค้านำเข้าไปยังจีนได้

ประเด็นที่สาม เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนและภาคการเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา ในการค้าขายกับประเทศกลุ่ม CLMV ในระบบออนไลน์ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับภาคเอกชนจัดอบรมให้ความรู้การค้าออนไลน์และระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ส่งเสริมการเปิดตลาดทั้งในประเทศและการส่งออก ให้กับภาคการเกษตร Smart Farmer หรือกลุ่มเกษตรอื่นๆ และกลุ่ม เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี ตนได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เปิดพื้นที่เวลาจัดนิทรรศการส่งเสริมการขายไปยังตลาด CLMV ให้พื้นที่ เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีกับนครราชสีมาหรือภาคอีสาน ออกพื้นที่พิเศษ

ประเด็นที่สี่ เรื่องมันสำปะหลังมี 7 เรื่อง 1.ปีนี้เป็นปีทองของราคามันสำปะหลัง ราคาที่เกษตรกรขายได้โดยเฉลี่ยเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.30-2.50 บาท แต่ถ้าต่ำกว่า 2.50 บาท จะมีโครงการประกันรายได้เป็นตัวช่วยชดเชยเงินส่วนต่างให้ โดยตัวเลขการส่งออก 4 เดือนปีนี้ ส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว 4,000,000 ตัน ซึ่งคาดว่าปีนี้จะส่งออกมันสำปะหลังได้มากกว่าปีที่แล้ว 2.ภาคเอกชนและภาคเกษตรกรเห็นควรให้มีการดำเนินการนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังต่อไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ โดยปีนี้จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 ตนจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 3.การหาตลาดให้กับมันสับ เพื่อทำอาหารสัตว์ในประเทศและผลิตภัณฑ์อื่นๆ มอบให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดจัดหาตลาดในประเทศโดยประสานระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด 4.การแก้ปัญหาช่วงมันสำปะหลังออกเยอะ จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนซื้อมันสำปะหลังเก็บสต๊อกโดยโดยกระทรวงพาณิชย์จะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และขยายโครงการนี้ให้นานกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม 5.เพื่อแก้ปัญหาการตัดราคาส่งออกกันเอง ให้มีการร่วมมือกันของ 3 สมาคมกับกรมการค้าต่างประเทศ กำหนดราคาแนะนำขั้นต่ำของการส่งออก ถ้าละเมิดราคาแนะนำให้สมาคมจัดการกันตามเงื่อนไขของสมาคม6.การขยายตลาดมันสำปะหลังซึ่งตลาดใหญ่คือจีน ยังเป็นตลาดที่สามารถขยายตัวได้อีกเพราะมีหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มันสำปะหลังของเรา และบางอุตสาหกรรมเช่นอาหารสัตว์ยังไม่ได้ใช้มันสำปะหลัง โดยให้ทำแผนขยายตลาดเพิ่มเติม 7.ประเทศไทยควรมีการระดมความร่วมมือกลุ่มเกษตรกร ภาคการแปรรูปและทุกฝ่าย ระดมสมองนำมันสำปะหลังไทยไปสู่การนำสมัย กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยต่อไป

ทั้งนี้ในการประชุมมี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางวรรณภรณ์ เกตุทัต ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เข้าร่วมประชุมหารือด้วย

นายกเหล่ากาชาดชวนชาวโคราช บริจาคโลหิต ฝ่าวิกฤตโรคระบาดโควิด 19

ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางสายชล บุญอรณะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา  นำกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2  ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก (World Blood Donor Day 2021) ท่ามกลางมาตรการการป้องกันโควิด-19 ในทุกจุด  ซึ่งผู้บริจาคโลหิตจะได้รับเสื้อยืดเป็นที่ระลึก 

ด้านเทคนิคการแพทย์หญิงศิริลักษณ์ เพียกขุนทด หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย กล่าวว่า ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทยที่มีหน้าที่ดูแลโรงพยาบาลต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จำนวน ประมาณ 59 แห่ง

ปัจจุบันยังคงมีความต้องการโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมาก และต้องการในทุก ๆ กรุ๊ป ซึ่งวันผู้บริจาคโลหิตโลกที่มีแคมเปญแจกเสื้อให้กับผู้บริจาคระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2564 (6 วัน) นั้น คาดการณ์ว่า จะมีโลหิตสำรองไม่ต่ำกว่า 400 ยูนิต ขณะที่ในเรื่องมาตรการการป้องกันโควิด-19 นั้น จุดรับบริจาคโลหิตทุกแห่งได้ปฏิบัติตามมาตรการของการป้องกันโควิด-19 ทุกขั้นตอน


สำหรับวันที่ 14 มิถุนายนของทุกปี กำหนดให้เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก หรือ World Blood Donor Day 2021 เพื่อระลึกถึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ แพทย์ชาวออสเตรียผู้ค้นพบหมู่โลหิตระบบเอบีโอเป็นครั้งแรก ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่องานบริการโลหิตทั่วโลก ท่านได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาหรือแพทยศาสตร์ในปี ค.ศ.1930 ในการนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) สหพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ (FIODS) และสมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ (ISBT) เชิญชวนให้สภากาชาดทั่วโลกจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองและขอบคุณผู้บริจาคโลหิต โดยศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดงานวันผู้บริจาคโลหิตโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2547 และจัดมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 17


ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2564 มีคำขวัญว่า “Give blood and Keep the World Beating – ให้โลหิต ช่วยโลก พ้นวิกฤติ” เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริจาคโลหิตมีส่วนร่วมในการช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยความสมัครใจไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพิ่มจำนวนการบริจาคโลหิต ช่วยให้มีโลหิตสำรองเพิ่มระหว่างการระบาดของ COVID-19 ซึ่งในปีนี้ จัดเป็นสัปดาห์วันผู้บริจาคโลหิตโลก ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน 2564 ผู้บริจาคโลหิตจะได้รับ “เสื้อยืดวันผู้บริจาคโลหิตโลก” เป็นที่ระลึก พร้อมกิจกรรมร่วมสนุกอีกหลากหลายรายการด้วย
สำหรับท่านใดที่ต้องการบริจาคโลหิตในวันผู้บริจาคโลหิตโลก สามารถบริจาคได้ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 จ.นครราชสีมา สภากาชาดไทย /ห้องรับบริจาคโลหิตสภากาชาดไทย ชั้น LG เทอร์มินอล 21 โคราช และภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคได้ที่สาขาบริการโลหิต สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา /ห้องบริจาคโลหิตเดอะมอลล์นครราชสีมา ชั้น 2 /โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา