Young kids 6 Part ฝึกทักษะครูนอกระบบการศึกษา

วันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา เวลา09.00น.ณ โรงแรม สุบายโฮเทล นครราชสีมา นายบำรุง เจริญพจน์ รองนายกเทศมนตรี ประธานพร้อมนายพสิษฐ์ กาญจนกิจ ผู้ได้รับทุน และเป็นผู้ดำเนินโครงการ


โครงการ Young kids 6 part กิจกรรมช่วงที่ ๒.๒กิจกรรมฝึกทักษะความรู้ครู และเห็นภาคีเครือข่ายทุกท่านตระหนักถึงความสำคัญ ของแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา เด็กและเยาวชนที่ถูกเหลื่อมลำทางการศึกษา เปิดโอกาสให้ภาคีเครือข่ายหลากหลายกลุ่ม หลายหลายพื้นที่ ทำงานบูรณการร่วมกัน พัฒนาเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสส่งผลให้เกิดกระบวนการฝึกทักษะการเรียนรู้ การเรียนการสอน จัดทำแผนการเรียนรู้อย่างเหมาะสมให้กับเด็กด้อยโอกาส ทำสื่อการเรียนการสอน และประเมินผลการเรียนรู้อย่างถูกวิธี สอดรับกับทางเทศบาลนครนครราชสีมาที่มุ่งเน้นการทำงานแบบการบูรณาการพัฒนาเครือข่ายให้เป็นรูปธรรมอย่างสูงสุด ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา เยาวชนที่เสี่ยงต่อการออกนอกระบบการศึกษา ซึ่งในอนาคตเทศบาลนครนครราชสีมา จะมีการจัดตั้งศูนย์ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสทางการศึกษา ภายใต้ชื่อศูนย์ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาเทศบาลนครนครราชสีมา มุ่งแเน้น การส่งเสริม ส่งต่อ ให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาส สามารถสร้างการพัฒนาทักษะชีวิต เสริมสร้างการพัฒนาทักษะอาชีพ และตั้งรับกับโลกยุคใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายพสิษฐ์ กาญจนกิจ ผู้ได้รับทุน และเป็นผู้ดำเนินโครงการ กล่าววัตถุประสงค์โครงการโครงการ Young kids b parts ช่วงที่ ๒.๒ กิจกรรมฝึกทักษะความรู้ครู ของกองทุนเพื่อความสมอภาคทางการศึกษา หรือ( กสศ.)ดังนี้
ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดโครงการภายใต้ซื่อ โครงกร Young kids b part โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบ และเด็กด้อยโอกาสผู้อยู่ในสภาวะที่ยากลำบากให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองให้เป็นครูตันแบบ ๔ วิชาชีพ ประกอบไปด้วย ครูเครื่องหนัง , ครูตัดผม , ครูออกแบบผลิตภัณฑ์ , ครูสื่อออนไลน์ รวมไปถึงการ บูรณาการสร้างความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยมีเป้าหมาย คือ
๑.๑ ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา ที่เกิดจากการเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
๑.๒ ร่วมมือกับ ภาคีเครือข่ายต่างๆ ให้ความช่วยเหลือส่งเสริมและส่งต่อเด็กและเยาวชนนอกระบบ
การศึกษา ให้กลับคืนสู่สถานศึกษาโดยเร็ว
๑.๓ เพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน ที่อยู่ในระบบการศึกษาออกนอกระบบการศึกษา
๑.๔ เพื่อพัฒนาศักยภาพแกนนำเด็กและเยาวชน
๑.๕ เพื่อลดปริมาณจำนวนเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้น้อยลง
๑.๖ สร้างนวัตกรรมองค์กรในรูปแบบการพัฒนาเด็กและเยาวชนนอกระบบ ให้เกิดความยั่งยืน
๑.๗ เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผลงานของเด็กและเยาวชนให้สาธารณะชนได้รับทราบ
การจัดโครงการมีกลุ่มเยาวชนนำร่อง จำนวน ๓๐๐ คน ประกอบด้วย

เป้าหมายหลัก เยาวชน ครูตั้นแบบ 50 คนที่ ผ่านการคัดเลือกจาก 100 คน กลุ่มเด็กและยาวชนด้อยโอกาสสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา – กลุ่มเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ นครราชสีมา กลุ่มเด็กและยาวชนด้อยโอกาสศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสชุมชนประสพสุข

เฝ้าระวังน้ำท่วมเขตเมืองโคราช ท่วมหรือไม่

#สถานการณ์น้ำและการช่วยเหลือ#มิตรภาพซอย4จากกรณีปริมาณน้ำที่ขึ้นสูงในพื้นที่ริมตลิ่งของลำตะคองสาขา และ ลำบริบูรณ์ ส่งผลให้ในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน โดยในพื้นที่ของประตูระบายน้ำคนชุมปริมาณน้ำยังคงอยู่ในระดับปกติ และยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวนหนึ่ง

แต่ในขณะเดียวกัน ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งของลำน้ำนี้ ได้รับผลกระทบจำนวนมาก

เบื้องต้น มีหน่วยงานเข้าไปดูแลและช่วยเหลือ อาทิ กองทัพภาคที่2 โดย ศบภ.พลพัฒนา2 ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภค เข้าช่วยเหลือ

และเทศบาลนครนครราชสีมา ที่ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ โดยในวันนี้ เทศบาลจะลงพื้นที่พร้อมด้วยกรมชลประทาน เพื่อสำรวจและให้การช่วยเหลือต่อไป

สภาวัฒนธรรมร่วมสร้างเยาวชนคนเก่ง โครงการ เยาวชนต้นแบบจิตอาสาและสืบสานวัฒนธรรมไทย

สภาวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาสืบสานวัฒนธรรมไทย ระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2563

วันนี้ (6 ตุลาคม 2563) เวลา 09.30 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาสืบสานวัฒนธรรมไทย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการ

        วัฒนธรรมถือเป็นทั้งพื้นฐานและเครื่องมือในการปลูกฝัง สืบทอด การเรียนรู้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามของคนในชาติ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะรักษาวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป  แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันมีการรับแบบอย่างวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น จึงทำให้เด็กและเยาวชน ละเลยวัฒนธรรมไทยอันเป็นรากฐานสำคัญของคนไทย เป็นมรดกไทย เกี่ยวกับการไปมา ลาไหว้ วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย ความมีน้ำใจ ความเอื้ออาธร การช่วยเหลือและแบ่งปันกัน ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย  หากไม่ได้รับการปลูกฝังและสืบสานจากคนในชาติก็จะทำให้สูญหายไป

        ดังนั้น สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา มีความตระหนักเห็นถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน คนรุ่นใหม่ ควรได้รับการปลูกฝัง ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมอันดีงาม จึงได้จัดโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาวัฒนธรรมไทยของจังหวัดนครราชสีมาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีจิตาธารณะ เป็นแบบอย่างด้านจิตอาสา พร้อมปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนมีความรักในความเป็นไทย และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของจังหวัดนครราชสีมาสืบไป

        ในการอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรม เป็นนักเรียน นักศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งในระดับมัธยม และอุดมศึกษา จำนวน 150 คน โดยจัดให้มีการอบรมระหว่างวันที่ 6- 7 ตุลาคม 2563 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาโคราช วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา 

เปิดฟู้ดแลนด์โคราช โฉมใหม่ เริ่ม 1 ตุลาคม 63

วันนี้ คุณอิทธิพล ตีระสงกรานต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ได้แถลงถึงความพร้อมในการเปิดให้บริการ หลังจากที่หยุดไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นภายในห้างสรรพสินค้า เทอมินอลโคราช  โดยมีสื่อมวลชนมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้   พร้อมทั้งได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และได้รับเกียรติจาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา  เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดี

“ฟูดแลนด์โคราช เพื่อคนโคราช” โฉมใหม่ รวมทุกความต้องการ สินค้าท้องถิ่น และนานาชาติ อาหารสด สะอาด แหล่งช้อปปิ้งสะดวกสบาย ตลอด 24 ชั่วโมง”ฟูดแลนด์โคราช เปิดให้บริการแล้วอย่างเต็มรูปแบบ ปรับโฉมใหม่ ทันสมัย คงคอนเซ็ปต์ สด สะอาด แหล่งรวมสินค้าหลากหลายเปิดโอกาสแก่คนท้องถิ่น ได้นำสินค้าเข้ามาจำหน่าย ให้เป็นแหล่งข้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวโคราชแบบครบครัน

ด้านคุณอธิพล ตีระสงกรานต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่า “ต้องขอบคุณชาวโคราชอย่างใจจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาชาวโคราชให้กำลังใจ และรอคอยการกลับมาแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเรากลับมาตามคำสัญญาพร้อมกับโฉมใหม่ โดยเน้นความต้องการของชาวโคราช เจาะกลุ่มทุกเพศทุกวัย สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดี เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกว่า ที่นี่คือแหล่งช้อปปิ้งที่ ครบ จบ ในที่เดียว โดยตกแต่งสไตล์ Culture Modem Industrialเป็นการผสมผสานความทันสมัย และศิลปะ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงพื้นที่จุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

โดยครั้งนี้ บริษัท ฟูดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ได้มอบเงินให้กับมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน 100,000 บาท และยังดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ผ่านมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยฟูดแลนด์ฯ จะตั้งกล่องบริจาคเพื่อผู้ยากไร้ และสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ในพู้ดแลนด์ฯ ทุกสาขา และเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าในหู้ดแลนด์ฯ หากไม่ได้นำถุงผ้ามา สามารถร่วมบริจาคถุง 1 ใบ มีมูลค่า 1 บาท ให้กับมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ด้วยเช่นกัน”

“นอกจากการปรับโฉมการตกแต่ง และเพิ่มมุมสินค้าเพื่อความหลากหลายแล้ว เรายังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากคู่ค้า และพันธมิตรในการร่วมกันจัดโปรโมชั่นเพื่อช่วยค่าครองชีพ กับโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 1, โปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ 48 ปี 48 วัน,แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษและในอนาคตยังมีโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบให้ชาวโคราชเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และความครบครั้นเพราะ “ฟู้ดแลนด์โคราช เพื่อคนโคราช

ชาวบ้านขามสะแกแสงลุกฮือ!!! ไม่เอาโรงงานเผายาง สุดทนเหม็น แสบตาแสบจมูก

ชาวบ้าน “อำเภอขามสะแกแสง” โคราช
ลุกฮือ ถือป้ายขับไล่ “โรงงานเผายาง”

เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 ที่หน้าว่าการอำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา มีชาวบ้านรวมตัวกันกว่า 50 คน ถือป้ายประท้วง พร้อมตะโกนขับไล่ โรงงานเผายางรถยนต์ ของ บริษัท พลังงานไทย จำกัด ที่สร้างมลพิษทางน้ำและทางอากาศให้กับประชาชนทั้ง 19 หมู่บ้าน ในพื้นที่ตำบลพะงาด และตำบลขามสะแกแสง ได้รับความเดือดร้อนมากว่า 6 ปี ก่อนจะยื่นหนังสือต่อปลัดอำเภอขามสะแกแสง เพื่อคัดค้านการก่อสร้างขยายโรงงานที่กำลังดำเนินการอยู่

นายกิตติภูมิ ชื่นวรรณูปถัมภ์ ปลัดอำเภอขามสะแกแสง เปิดเผยว่า โรงงานเผายางรถยนต์ดังกล่าว ที่ผ่านมาเคยมีประชาชนร้องเรียนมาแล้วเรื่องการสิ่งกลิ่นเหม็นบริเวณรอบๆ แต่เมื่อครั้งโรงงานเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้จึงได้มีการประกาศปิดโรงงานชั่วคราว ก่อนจะมาทำเรื่อง เพื่อขอก่อสร้างขยายโรงงาน ส่วนเรื่องการส่งกลิ่นเหม็นทางเราได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และส่งต่อไปยังอุตสาหกรรมจังหวัด ขณะนี้รอคำตอบจากทางจังหวัดอยู่ เพื่อจะหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป

นางสาวพัฒนาฉัตร ใบดั้งกลาง ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลขามสะแกแสง เปิดเผยว่า โรงงานเผายางส่งกลิ่นหมิ่นแรงมาก ยิ่งในพื้นที่บริเวณ 3 กิโลเมตร ห่างจากโรงงาน มีโรงเรียนในระแวงนั้น เด็กๆ สัมผัสถึงกลิ่นได้ จึงอยากสอบถามว่า โรงงานสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่า จะไม่มีผลกระทบเรื่องนี้ ส่วนเรื่องน้ำ คนแก่ คนเฒ่า ที่นี่ดื่มน้ำฝน แต่บริเวณรอบโรงงานมีทั้งตะกอน และคราบน้ำมันหลุดลอยออกมา ไหลไปตามทุ่งนา และแหล่งน้ำที่ชาวบ้านใช้ อีกอย่างเรื่องการทำประชาพิจารณ์ก่อนตั้งโรงงาน เราก็ไม่เห็นรู้เรื่อง ถ้าถามชาวบ้านตอนนี้ไม่มีใครอยากได้ คนงานที่ทำก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ ส่วนใหญ่มีแต่แรงงานต่างด้าว

ด้าน นางสุพิน แหยมเปลี่ยน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อปี 2560 ลูกชายเคยทำงานที่นี่ แต่โรงงานเกิดเพลิงไหม้ทำให้ลูกชายเสียชีวิต ทุกวันนี้ก็ทำได้แต่เพียงคิดถึง ส่วนเรื่องผลกระทบที่โรงงานมีต่อชาวบ้านคือ เรื่องส่งกลิ่นเหม็น เมื่อก่อนยังไปนอนเฝ้าวัว เฝ้าควาย ที่ท้องทุ่งนาได้ ทุกวันนี้ไม่ไหว เสียสุขภาพหมด ผู้เฒ่า ผู้แก่ในหมู่บ้านจะป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจกันหมด อยากให้หน่วยงานไหนก็ได้ลงมาดูแล หรือไม่ก็ไม่ต้องสร้างเลย

สำหรับ บริษัท พลังงานไทย จำกัด ตั้งอยู่ที่ หมู่ 7 ตำบลพะงาด อำเภอขามสะแกแสง จังหวัดนครราชสีมา บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เข้าซื้อกิจการต่อจาก บริษัท วี.เค.พี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด หลังเกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้โรงงาน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2560

สภาวัฒนธรรมโคราช ประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง-ลูกกรุง ครั้งที่ 4

ประกวดร้องเพลงลูกทุ่งลูกกรุงสภาวัฒนธรรมโคราช และการส่งเสริม การแสดงพื้นบ้านเพื่อเยียวยาศิลปินพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบโควิด 19 วันเสาร์ที่ 5 กันยายน 2563ณ ชั้น G ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวเปิดในพิธีเปิดงานประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งและลูกกรุง ดาวรุ่งสภาวัฒนธรรมโคราชครั้งที่4และการส่งเสริมการแสดงพื้นบน เพื่อเยียวยาศิลปินพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)

โดย นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาพร้อมด้วยท่าน วัชพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เขต 2 นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหลากชาดจังหวัดนครราชสีมา นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานส.อบจ.อ.วังน้ำเขียวและคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม และท่านผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมงานจำนวนมากจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดโครงการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งและลูกกรุงขึ้น โดยผ่านการประกวดระดับกลุ่มอำเภอทั้ง 6 กลุ่ม ได้แก่กลุ่มอำเภอสูงเนิน,วังน้ำเขียว, ประทาย ,บัวใหญ่ ,จักราช,สะแกแสง,โชคชัย เพื่อเป็นการค้นหาดาวรุ่งของสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมานั้น สืบทอดเพลงไทยลูกทุ่ง และลูกกรุง ให้คงอยู่สืบไปอีกทั้งในช่วงศิลปินพื้นบนของชาวจังหวัดนครราชสีมาได้ รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVD- 19) ทำให้ศิลปินได้รับความเดือดร้อนนั้น สภาวัฒนธรรมร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา

ได้จัดกิจกรรมเพื่อเยียวยาศิลปินขึ้น รวมทั้งส่งเสริมอัตลักษณ์ไทย และความเป็นไทย ผ่านการแต่งกายด้วยผ้าไทย มีการจำหน่ายสินค้าจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหาร และผ้าพื้นเมือง ของกลุ่มอำเภอต่างๆ เป็นดัน เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น จึงเป็นการโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อคนในท้องถิ่นอย่างแท้จริงผู้สื่อข่าวรายงานว่าการประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งและลูกกรุง ดาวรุ่งสภาวัฒนธรรมโคราช ครั้งที่4และการส่งเสริมการแสดงพื้นบ้าน เพื่อเยียวยาศิลปินพื้นบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาระหว่างวันที่ 5 กันยายน 2563ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ขั้น G

โดยกิจกรรมมีดังนี้เปิดเวทีการแสดงโดยศิลปินพื้นถิ่นประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่งรอบชิงชนะเลิศการประกวดร้องเพลงไทยลูกกรุงรอบชิงชนะเลิศและการแสดงของศิลปินพื้นถิ่น (นายกำปั่น บ้านแท่น)ต่อมามอบโล่ประกาศเกียติคุณ ผู้ส่งเสริมสนับสนุนดีเด่นงานการประกวดร้องเพลงของกลุ่มอำเภอ จำนวน8 ราย และมอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมที่ได้รับ โล่ประกาศเกียรติคุณ จากหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับประเทศ (จำนวน2 ราย)โดยได้รับเกียรติจากผู้มอบรางวัลโล่ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ สมาชิกสภผู้แทนราษฎร เขต2 ต่อจากนั้นประกาศผล โดยได้รับเกียรติจากนายวิเชียรจันทรโรทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้มอบถ้วยรางวัล และใบประกาศ กิตติคุณ ให้นักร้องการกวดร้องเพลไทยลูกทุ่ง ลูกกรุง ดาวรุ่งสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและชมวีดิทัศน์สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา การเดินแบบผ้าไทยของสภาวัฒนรรมจังหวัดนครราชสีมา

พร้อมชมการแสดงการขับร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ดาวรุ่งสภาวัฒนธรรม ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ของกรมประชาสัมพันธ์ปี 2562 โดยได้รับถ้วยรางวัลจาก นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานพิธีและผู้มีเกียรติ มอบถ้วยรางวัล เกียรติบัตร และเงินรางวัลแก่ผู้ชนะการแข่งขั้น- ชมการขับร้องเพลงของผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดแข่งขันการแสดงของศิลปินพื้นถิ่นอีกด้วย

กธจ.นครราชสีมาลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ 2 แห่งในปีงบประมาณ 2563

วันนี้ 3 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น.นายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ รองประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ ที่ปรึกษากรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา  คุณธิดารัตน์ หวังสวัสดิ์ และนายธานี แก้วกระจ่าง กรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจกรรมการธรรมมาภิบาล จังหวัดนครราชสีมางานติดตามสอดส่องตรวจสอบโครงการถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีต แยกทางหลวงหมายเลข 224 – โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  อ.เมือง จ.นครราชสีมา งบประมาณ39,985,000  บาท

โดยมีนายไพวรรณ์  เขียวอ่อน ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการ และนายเจษฎา มังกะโรทัย นายช่างโยธาชำนาญงาน แขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ให้การต้อนรับพร้อมนำชมการทำงานของผู้รับเหมา และคาดว่าถนนเส้นดังกล่าวจะแล้วเสร็จช่วงกลางเดือนกันยายน 2563 อย่างแน่นอน

นอกจากนี้  เวลา 13.00 น. นายวิฑูรย์ ชาติปฎิมาพงษ์ พร้อมด้วยคณะ โดยมีนายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ กรรมการธรรมาภิบาลมาร่วมเสริมทัพสอดส่องโครงการยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กปฐมวัยและผู้สูงอายุกลุ่มนครชัยบุรินทร์ในกิจรรมย่อยการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัยด้วยนวตกรรมการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาการทางสมองงบประมาณ7,0000,000บาทบริหารเหลือคืนจังหวัดนครราชสีมา 1,800,000บาท ที่ดำเนินการโดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน โดยได้รับเกียรติจาก  รศ.ดร.สนั่น การค้า  รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์และวิเทศสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยคณะ เพื่อนำเรียนผลการดำเนินงาน และสรุปโครงการให้คณะดำเนินงานได้ทราบต่อไป

Money Expo Korat 2020 เปิดแล้ว จัดโปรแรงสู่อีสานรับ New Normal

      สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมการเงิน โคราช ครั้งที่ 14 Money Expo Korat 2020  ซึ่งงานนี้ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคม 2563 ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา ภายใต้แนวคิด “Wealth Being” จัดหนักแคมเปญโปรโมชั่นร้อนแรงแห่งปี อาทิ สินเชื่อบ้าน 0% นาน 6 เดือน สินเชื่อ SMEs ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี, เงินฝากดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี, ออม 20 บาท ลุ้นหยิบ 2 ล้าน พร้อมเปิดแพลตฟอร์มใหม่ในรูปแบบ “Hybrid Exhibition” ทำธุรกรรมได้ทั้ง Offline และ Online ที่www.moneyexpoonline.com  รับ New Normal

      (จากซ้าย) สุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประเสิรฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย และ ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo

“วัดพรหมราช” ชุมชนคุณธรรมรางวัลระดับประเทศ เน้นความพอเพียงอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น

          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัดพรหมราช ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบ เพื่อนำการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม ทั้งด้านศิลปะการแสดง โดยเฉพาะ รำโทนโคราช ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ รวมถึงอาหารพื้นเมืองพื้นถิ่น อาทิ ข้าวโป่ง พล่าหมี่โคราช มีที่นี่ที่เดียวต้องมาลองชิม นอกจากนี้ในชุมชนของที่นี่มีความสำคัญ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ของวัดพรหมราชเก็บวัตถุโบราณอายุเป็นพันปี และชุมชนที่นี่ก็มีความสามัคคีอย่างมาก ในส่วนของการต่อยอดในอนาคต ทางสภาฯเราก็ได้จัดให้มีการประชุมสัญจรแลกเปลี่ยน จัดงานมหกรรมชุมชนของดี และนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เราจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เราจะไปจัดกันที่จังหวัดยโสธรในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนี้เราก็จะช่วยกันทุกภาคส่วนที่จะต้องผลักดันกัน โดยจะนำนิสิตนักศึกษาจากทุกสภาบันในโคราช โดยจัดตั้งเป็นสภา เยาวชน เพื่อรักษาอนุรักษ์วัฒนธรรมในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ทางด้าน ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางวัดพรหมราชมีศิลปะวัฒนธรรมภายในชุมชนที่น่าสนใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์การสืบทอดต่อไป จากการศึกษาภายในชุมชนมีความเป็นโคราชแท้ มีคุณตาคุณยายที่ยังสืบสานวัฒนธรรมอยู่ โดยเฉพาะหมี่โคราช อาหารท้องถิ่นที่ยังคงมีการสืบทอด และที่สำคัญจริงๆคืออยากให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทและส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกับขับเคลื่อนอนุรักษ์โดยสภาเด็กและเยาวชนมาร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อเกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ ทางทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะจัดทำวีดีโอและทำ VTR  ในการขับเคลื่อนการจัดการภายในชุมชนตัวอย่าง ไปเผยแพร่ให้กับทุกจังหวัดได้มาดูงานเป็นตัวอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป

ขณะที่ พระครูโกศล ธรรมวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพรหมราชและเจ้าคณะตำบลตูม กล่าวว่า วัดแห่งนี้จากการสันนิษฐานตามประวัติศาสตร์นั้นสร้างเมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อวัดพรหมราชนั้น เป็นชื่อของคนชื่อพรหมส่วนราชมาจาก หลังจากนั้นท่านก็ได้บรรพชาเป็นพระภิกษุและได้เทศน์ชื่อ ‘กัณฑ์มหาราช’ ในตอนหนึ่งของเวสสันดรชาดก หลังจากนั้นท่านก็สึกจากพระมาเป็นฆราวาส ผู้คนจึงได้นำชื่อของท่านมาเป็นชื่อวัด นอกจากนั้นในวัดยังมีพระพุทธรูปไม่ปรากฏชื่อ ปางลีลา อายุหลายร้อยปี ซึ่งเราก็ได้ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพรหมราช ประชาชนที่เข้าวัดมาทำบุญก็สามารถมาไหว้สักการะขอพระได้ นอกจากนี้ เป็นประจำทุกปีวัดเราจะจัดงานนมัสการพระพุทธบาทจำลองจัดมากว่า 96 ปีแล้ว จัดสมโภชยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถวายเป็นพุทธบูชา รักษาและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในท้องถิ่น สอดคล้องนโยบายชุมชนคุณธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ก็ได้รับรางวัลวัดต้นแบบชุมชนคุณธรรม ซึ่งทางวัดตระหนักว่าวัดคือศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน มีความสามัคคีในชุมชน

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน  ได้ให้การต้อนรับ  นายไชยนันท์  แสงทอง  วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและคณะ สู่ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั่นดินเผา เทศบาลตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ  และเป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผามายาวนานหลายชั่วอายุคน  เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ  ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากที่นี่ มีความแข็งแกร่ง ผิวจะมีความวาว มัน มีสีน้ำตาลแดงงดงาม  และดินที่ใช้ปั้นเป็นดินที่มาจากแหล่งคุณภาพที่สุดของจังหวัดนครราชสีมาได้มาจากริมแม่น้ำมูล  ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นอาณาจักรเครื่องปั้นดินเผาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา 

ครั้งแรกตลาดศิษย์เก่ามัธยมประจำจังหวัดชุมชนออนไลน์ขึ้นห้างขายสินค้ากันครึกครื้น

ตลาดศิษย์เก่า R.S. and S.R.N. Reunion Market ครั้งแรก กระตุ้นส่งเสริม การค้าขนาดย่อมนักเรียนเก่า,ศิษย์เก่าโรงเรียนดังจังหวัดนครราชสีมา

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 11.30 น. นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา (ร.ส.75) รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับมอบจากผู้ว่าฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน R.S.& S.R.N REUNION MARKET ณ ชั้น 4 ห้อง KORAT HALL ห้างเซ็นทรัล โคราช นายกสมาคมศิษย์เก่าสุรนารี คุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย (ภรรยาผู้ว่าฯ วิเชียร) และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นำคณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่าสุรนารี พร้อมด้วย พ.อ.ชัชสิทธิ์ สมจริง รักษาการนายกสมาคมนักเรียนเก่าราชสีมาและคณะกรรมการ ส.น.ร. เป็นเกียรติมาร่วมพิธีเปิด

ชมการออกร้านค้าของนักเรียนเก่าและศิษย์เก่าโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยและโรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและเกิดการค้าขายในหมู่คณะ ครอบครัวของศิษย์เก่าทั้งสองสถาบัน

พร้อมรับชมวงโยธวาทิต ทั้งสองสถาบัน ที่เคยได้รับรางวัลระดับโลกและระดับประเทศมาอย่างมากมายที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดนครราชสีมา