Korat Midnight Club Friday ปั่นจักรยานเรืองแสงครั้งแรกของภาคอีสาน

Korat Midnight Car Free Day ปั่นจักรยานเรืองแสงครั้งแรกของภาคอีสาน ฟรี!!!

วันที่ 25 กรกฎาคม 2563 เวลา 19:00 น ณ.โรงเรียน โคราชวิทยา สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมรณรงค์ปั่นจักรยาน Korat Midnight Car Free Day โดยได้รับเกียรติจากนาย อนุวรรตน์ จันทรสุขเกษม อุปนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดและปล่อยตัวนักกีฬา

พร้อมโอกาสนี้ นายธนิต จิตละมัย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมากล่าวรายงานพร้อม คณะกรรมการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมา,นายชาญชัย บวงสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเรืองแสงครั้งแรกของภาคอีสาน เพื่อส่งเสริมการใช้จักรยานเป็นพาหนะในการเดินทาง ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อกระตุ้นให้ นักกีฬาและคนรักสุขภาพได้สนใจในการปั่นจักรยานลดภาวะโลกร้อน และ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองโคราชหลังจากผ่านสถานการณ์วิกฤตโควิด 19 โดย โคราชมิดไนท์เรืองแสงคาร์ฟรีเดย์ ปั่นรอบเมือง

ผ่านเส้นทางสำคัญและเส้นทางท่องเที่ยวเมืองโคราชอาทิเช่นลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี,ศาลหลักเมือง ,วัดพระนารายณ์ และรอบบริเวณคูเมือง ระยะทาง 15 กม.

รอบในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยมีนักกีฬาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้กว่า 300 คน แล้วชมรมกีฬาปั่นจักรยานต่างๆที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวครั้งแรกหลังจากเกิดวิกฤตการณ์โควิด19 ของโคราช ของผู้ชื่นชอบในการปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ

เทศกาลของดีเมืองย่าน่าเที่ยว”ดีเจ่นดอกเด่”

วันที่ 24 กรกฎาคม 2563″เทศกาลของดีเมืองย่า เมืองน่าเที่ยว ดีเจ่นดอกเด่”ณ บริเวณลานทางเข้า GATE 1ชั้น G ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราชจังหวัดนครราชสีมา โดยนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธาน นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมาร่วมในพิธีพร้อมด้วยนางอรุณรัตน์ ชิงชนะพัฒนาการจังหวัดนครราชสีมากล่าวกล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “เทศกาลของดีเมืองย่า เมืองน่าเที่ยว ดีเจ่น ดอกเด่”

.

ในฐานะหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดงาน และผู้บริหารศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช กล่าวต้อนรับและหัวหน้าสำนักงานในจังหวัดนครราชสีมาร่วมทั้งกิจกรรมในในวันเปิดงาน
พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินกิจกรรมตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมย่อยส่งเสริมช่องทางการตลาด และตลาดชุมชนท่องเที่ยวสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา จึงได้กำหนดดำเนินโครงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่องาน “เทศกาลของดีเมืองย่า เมืองน่าเที่ยว ดีเจ่นดอกเด่” ระหว่างวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2563รวม 5 วัน ณ บริเวณลานทาเข้า GATE 1 ชั้น G ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราชโดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มช่องทางการตลาด และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท่องเที่ยว OTOPนวัตวิถี และผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ของจังหวัดนครราชสีมากิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย 1. การดำเนินโครงกรรวมพลังผู้นำ องค์กรเครือข่ายพัฒนาชุมชน บริจาคโลหิตเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร/ รามาธิบดีศรีสินทร/ มหาวชิรลงกรณ/ พระวชิรกล้า เจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 ระหว่างวันที่ 24-26กรกฎาคม 2563 รวม 3 วัน โดยมีผู้นำองค์กรเครือข่ายพัฒนาชุมชนร่วมบริจาคโลหิต จำนวน 170 คน 2. จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี / ผลิตภัณฑ์ ของดีของอำเภอ และผลิตภัณฑ์ OTOP 3

ชง การเดินแบบผ้าไทย 4. กิจกรรมเสริมสร้างอุดมการณ์ในงานพัฒนาชุมชน การขับร้องเพลงมาร์ชพัฒนาชุมชนโดยทีมผู้นำและเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอเมืองนครราชสีมา ที่ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงมาร์ชพัฒนาชุมชนระดับจังหวัด5. การจัดแสดงนิทรรศการไหม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และการต่อยอดผลิตภัณฑ์์ 6. การประกวดกิจกรรม จำนวน ๕ กิจกรรม ดังนี้ 6.1 การประกวดผ้าสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน

ในวันที่24 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.00 – 15.00 น. 6.2 การประกวดสำรับอาหารพื้นถิ่นจากชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีในวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 – 12.00 น. 6.3 การประกวดการแสดงจากชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563เวลา 11.00 – 15.00 น. 6.4 การประกวดชุดทีมการแต่งกายผ้าไทย ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2563เวลา 15.00 – 16.00 น.6.5 การประกวด Young Designer จำนวน 2 วัน ดังนี้1) รอบนำเสนอแรงบันดาลใจ ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 เวลา13.00- 15.00 น.2) รอบตัดสิน นำเสนอชุดที่ออกแบบตัดเย็บแล้ว ในวันที่ 26 กรกฎาคม2563 เวลา 13.00 – 15.00 น.
กิกรรมภายในวันเปิดพิธีมีการร่วม รำและร้องเพลง จากนั้นนางบุญยิ่ง เทศน้อย ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน เขตตรวจราชการที่ 13 ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน “เทศกาลของดีเมืองย่า เมืองน่าเที่ยว ดีเจ่น ดอกเด่” และร่วมรับชมการแสดงดนตรีจากโรงเรียนอุบลรัตนราชกัญญา ราชวิทยาลัยนครราชสีมา ตามด้วยกิจกรรมเสริมสร้างอุดมการณ์ในงานพัฒนาชุมชนด้วยการขับร้องเพลงประสานเสียง มาร์ชพัฒนาชุมชน โดยทีมที่ชนะเลิศการประกวดการร้องเพลงมาร์ชพัฒนาชุมชน ระดับจังหวัด


จากนั้น นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้เกียรติร่วมแสดงการเดินแบบชุดแต่งกายผ้าไทย และมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด “ผ้าสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” รางวัล Best of The Best ผ้าไทยเมืองโคราช รางวัลชุดทีมแต่งกายผ้าไทย และเยี่ยมชมนิทรรศการในการนี้ นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นเกียรติและร่วมรับชมการตัดสินการประกวดชุดทีมการแต่งกายผ้าไทย ณ เวทีกลางการจัดงาน บริเวณลานทางเข้า GATE 1 ชั้น G ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช โดยมีนายศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินการประกวด และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมาร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยหลักเกณฑ์การประกวดเน้นการนำเสนอผ้าพื้นเมืองโคราช ที่นำมาตัดเย็บเป็นเครื่องแต่งกาย ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของผ้าของชุมชน ทีมละไม่น้อยกว่า 5 คน ทั้งนี้มีทีมผู้สมัครเข้าร่วมการประกวดชุดทีมแต่งกายผ้าไทยทั้งสิ้น จำนวน 12 ทีม ซึ่งมีผลการตัดสิน ดังนี้รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมผ้าเงี่ยงนางดำ อำเภอสูงเนิน รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าบ้านหนองกกยางกลาง อำเภอสีคิ้ว รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมบ้านหลุ่งประดู่ อำเภอห้วยแถลงรางวัลชมเชย ได้แก่ ทีมผ้าไหมบ้านโคกพะงาด อำเภอคงสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมาโทร 044 – 242991 หรือ Facebook พัฒนาชุมชน นครราชสีมาเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงและชุมชนพึ่งตนแองได้ Change for Goodภายในปี 2564

กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา โดยสพร.5 นครราชสีมา


สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ๕ นครราชสีมา โดย ผอ.สพร.๕นม.
ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำพร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่และผู้เข้ารับการฝึกได้ร่วมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ โดยตักบาตรพระสงฆ์ ๙ รูป พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและลงนามถวายพระพร รวมทั้งการจัดกิจกรรมจิตอาสาหัวข้อ สถาบันพระมหากษัตริย์กับประเทศไทย โดยวิทยากรจิตอาสา ๙๐๔ จ.นครราชสีมา และการปลูกต้นไม้ภายในสถาบันฯ โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ๑๔๐ คน

ช่องส่องผี บวงสรวง ขอขมาย่าโมและย่าบุญเหลือ

ช่องส่องผี ขอขมาไถ่โทษบริจาคห้องแอดมิท มูลค่า 1.8ล้านบาทให้แก่รพ.มหาราช

วันที่ 19 กรกฎาคม 2563 คณะผู้ดำเนินรายการ “ช่องส่องผี” นำโดย นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย ,อาจารย์เรนนี่ สุระประภาคำขจร ได้นำทีมงานมาขอขมาท้าวสุรนารีบริเวณ ณ วัดศาลาลอยและอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีโดยทีมตำรวจคุมกันกว่า150 นายและในเหตุการณ์นี้นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนครราชสีมาร่วมพิธีขอขมานี้ ในพื้นที่ประชาชนร่วมมาสังเกตุการณ์กันจำนวนมากล้นในบริเวณงานพิธี

ต่อมาพราหมณ์สมบัติ เป็นผู้นำประกอบพิธีกรรมพราหมณ์บวงสรวง นำกล่าวขอขมาเป็นภาษาบาลี าคทั้งคุณบ๊วย ,อาจารย์เรนนี่เข้าสู่ขั้นตอนพิธีขอขมาพร้อมตั้งจิตอธิฐาน สักการะคุณย่าโมและคุณย่าบุญเหลือ

พร้อมกราบการว่างขันขอขมาอย่างเป็นทางการและกล่าววาจาขอขมาตามลำดับพิธีกรรม หลังจากนั้นทั้งสอง(บ๊วย อาจารย์เรนนี่) และกลุ่มผู้ชมรายการช่องส่องผี ตั้งใจมอบห้องแอดมิท มูลค่า กว่า 1,800,000 บาทให้แก่โรงพยาลบาลมหาราชนครราชสีมาเพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์โดยตั้งชื่อว่าห้องย่าโม ย่าบุญเหลือ เพื่อเป็นการสนขมาต่อท้าวสุรนารี และย่าบุญเหลือ ต่อมาผู้สื่อข่าวถามเรื่องการลบเทปรายการตอนที่เกิดปัญหาครั้งนี้ ทางคุณบ๊วยไม่ได้ตอบอะไร คณะทีมรายการรีบขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว #ขอขมาคุณย่าโม #ขอขมาย่าบุญเหลือ

สพร. 5 นครราชสีมา จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME

ที่ห้องประชุมโรงแรมซิตี้พาร์ค อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ร้อยเอกกิจสมพงษ์ กล้าหาญ แรงงานจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมีหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม otop กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้นำชุมชน และผู้นำกลุ่มอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 85 คน

    โดยแรงงานจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า  ผู้ประกอบธุรกิจ SME ในจังหวัดนครราชสีมา             มีกว่า 9,000 แห่ง  มากถึง 97 %  ของกลุ่มผู้ประกอบการทั้งหมด  ดังนั้น  จึงต้องมีการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถแสดงถึงประสิทธิภาพในการทำงาน  ของปัจจัยการผลิตด้านแรงงาน  เพื่อใช้เปรียบเทียบผลงานทางด้านเศรษฐกิจ โดยการวัดจากอัตราส่วนของผลผลิตกับจำนวนแรงงานในระบบเศรษฐกิจ
    โดยในช่วงเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา  ผลิตภาพแรงงานของประเทศไทยขยายตัวอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ  และมีแนวโน้มลดลง สะท้อนว่าประเทศไทยมุ่งเน้นปัจจัยด้านเงินทุน  และปริมาณแรงานมากกว่าการพัฒนาคุณภาพแรงงาน  ทำให้ไม่สามารถพัฒนาไปสู่การใช้เทคโนโลยีชั้นสูง  เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตได้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐ   ที่มีภารกิจในการขับเคลื่อนผู้ประกอบกิจการและแรงงานให้มีขีดความสามารถในการแข่งขัน  จึงได้จัดทำ โครงการเพิ่มผลิตภาพแรงาน สู่ SME 4.0 ขึ้น  โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแก่ผู้ประกอบกิจการ SME กลุ่ม OTOP กลุ่มวิสาหกิจชุมชน/   หรือกลุ่มสหกรณ์  ผ่านกระบวนการเพิ่มผลิตภาพแรงงานผลักดัน  ให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์  นวัตกรรมแปลกใหม่  และการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อรองรับการพัฒนาสู่ SME 4.0 

ว่าที่ร้อยตรี สมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา

    กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน  จึงมอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา                   จัดสัมมนาเครือข่ายผู้ประกอบการ SME และเครือข่ายเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  ประจำปีงบประมาณ 2563 ขึ้น เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร  และทิศทางแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในยุค 4.0  สมรรถนะที่จำเป็นในการที่จะเป็นผู้ประกอบกิจการในอนาคต  และสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการให้คำปรึกษาการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน  และขับเคลื่อนการพัฒนาผู้ประกอบกิจการ  เพื่อสร้างความเข้มแข็งกับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 จับมือ 4 ภาคีจัดอบรม “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์”


ยุคสมาร์ทโฟน “มีสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวจบทุกการส่งข่าว-ผลิตสื่อ” สอนเทคนิคง่ายๆ เข้าใจไม่ซับซ้อน ผลิตข่าวสารสื่อที่มีคุณภาพ เชิญผู้มีประสบการณ์เชี่ยวชาญอยู่ในวงการข่าวมาสอนกันอย่างจริงจัง ได้รับความรู้และสามารถนำไปใช้ได้จริง
วันที่ 26 มิ.ย. 63 ณ ชั้น 4 ห้องคอมมูนิตี้รูม เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวและกีฬานครราชสีมา ชมรมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา จัดโครงการ “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์” อบรมหลักสูตร การผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน(Product of Advertising by smartphones) 26-30 มิ.ย. 63

นำโดยว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 นครราชสีมา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา นายธนิต จิตละมัน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว ทั้งนี้โดยมีคุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมากล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนที่ร่วมเข้าอบรมในครั้งด้วย
การจัดอบรมโครงการ “นักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์” อบรมหลักสูตร การผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน เป็นการพัฒนาฝีมือเสริมทักษะในเรื่องของการทำข่าวอย่างมืออาชีพ โดยใช้เทคโนโลยีปัจจุบันอย่างสมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์ในการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังสามารถใช้ผลิตสื่อต่างๆ กระจายข้อมูลข่าวสารทาง Online ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และในวันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน 2563 คณะผู้จัดการอบรม ได้นำผู้ที่เข้าร่วมอบรม ลงพื้นที่ไปที่ บ้านดินรีสอร์ท อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออบรมเชิงปฎิบัติการ หลังจากที่ได้มีการฝึกการเขียนข่าว และถ่ายภาพเป็นที่เรียบร้อย โดยได้รับเกียรติจาด นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมด้วยนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ำเขียว นอกจากนี้ ยังได้รับเกีนรติจากว่าที่ร้อยตรีสมศักดิ์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานที่ 5 นครราชสีมา ตามมาให้กำลังใจอีกด้วย

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้แบ่งผู้อบรมออกเป็น 5 กลุ่ม และได้กำหนดสถานที่ท่องเที่ยว และขึ้นชื่อของอำเภอวังน้ำเขียว ที่ต้องการให้ผู้เข้าอบรมรู้จักสร้างประด็นและนำเสนอได้ ประกอบด้วย สวนลุงไกร ร้านอาหารครัวต้นไทร สกายเลนโอโซน วัดป่าวังเขาเขียว และ สวนคาโนนะ และในช่วงบ่ายผู้เข้าอบรมได้ร่วมกันแสดงความสามารถจากที่ได้อบรมมา ตัดต่อผลงานเพื่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดร.วิเชียร ก่อกิจกุศล ประธานโปรแกรมวิชานิเทศศาสตร์ ม.ราชภัฎนครราชสีมา อ.สำรวย สีสืบมา อาจารย์ประจำสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องสัมมนา 2 บ้านวังน้ำเขียวลอดจ์

ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการอบรมทุกท่าน จะได้รับใบประกาศจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และ สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงว่าท่านได้ผ่านการอบรมการเป็นนักข่าวประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ ประจำปี 2563

เกษตรกรเฮ!!! บิ๊กตู่เคาะงบช่วยเครืข่ายวิสาหกิจชุมชน

เกษตรกรได้เฮหลัง”บิ๊กตู่”เคาะงบช่วยเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ตามนโยบายรวมไทยสร้างชาติรัฐรวมมวลชนเป็นหนึ่งใจเดียวกัน

วันนี้ 25 มิถุนายน 2563 ณ ห้องประชุมศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111 ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ “เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ร่วมกับ นายภูษณ ปรีย์มาโนช อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย นายองอาจ วิเศษ ประธานเครือข่ายผู้บริหารท้องถิ่นไทย พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่ออออนไลน์ภาคอีสาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจน และประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 37 จังหวัด รวม 3,058 วิสาหกิจชุมชน หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบแล้ว

Okในการประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก นายอานนท์ แสนน่าน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือผ่านตนมาเพื่อให้นำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ฯพณฯท่าน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย โดย นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายฯ เป็นผู้ประสานงานกับหมู่บ้านต่างๆ ภายในประเทศ มีสมาชิกมากกว่า 28,850 หมู่บ้าน ดำเนินการจดทะเบียนเป็น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 3,058 กลุ่ม และรวมกันเป็น”เครือข่าย”ที่รับผิดชอบจากสมาชิก ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ จะประกอบอาชีพทำการเกษตร โดยเครือข่ายฯ ได้มีข้อเสนอและขอรับการสนับสนุน

ดังนี้ 1.ขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับพื้นที่รายจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด รวมจำนวน 37 จังหวัด แบ่งเป็นกลุ่มวิสาหกิจ 3,058 กลุ่ม และการจัดทำโครงการ 3,058 โครงการ โดยการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านการผลิตพืช สนับสนุนปัจจัยงาน OTOP และการเพิ่มศักยภาพและสนับสนุนปัจจัยการผลิต หมอดินอาสา สารปรับปรุงดิน การผลิตพันธุ์พืช การปลูกกัญชา-กัญชง การปลูกพืชสมุนไพร และ 2.ขอให้รัฐบาลจัดตั้ง “คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร” (คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี

หลังจากนั้นทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาเห็นชอบและข้อเสนอ พิจารณาแล้วเห็นว่า การขับเคลื่อนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยที่สำคัญหนึ่งที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างแรงงานในพื้นที่ สร้างรายได้ให้แก่สมาชิกที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร และส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ จึงเห็นควรมอบหมาย ดังนี้ 1 เห็นควรส่งเรื่องการขอรับการสนับสนุนและผลักดันโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนและประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พิจารณาสนับสนุนภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพวิสาหกิจชุมชน ตามแผนการใช้จ่ายในวงเงิน 4 แสนล้านบาท ส่วนการจัดตั้ง “คณะอนุกรรมาธิการแก้ไขปัญหาความยากจนเกษตรกร” (คปจ.กษ.) ขึ้นภายใต้ของสำนักนายกรัฐมนตรี เห็นควรมอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการต่อไป

ตลาดแห่งใหม่ “ตลาดนัดมิตรภาพ แห่งการแบ่งปัน”

ตลาดนัดพอเพียง “ กิน ช้อป ปลอดภัย ที่ อิมพีเรียล โคราช ” ตลาดนัดแห่งมิตรภาพ และการแบ่งปัน เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า ผลิตผลชุมชน ส่งเสริมการเรียนรู้ ภูมิปัญญา เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวทางเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มรายได้สู่ความสุขที่ยั่งยืนสู่ชุมชนและสังคม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยคำนึงถึงความพอประมาณ เพื่อกลับสู่การดำเนินชีวิตแบบพึ่งพาธรรมชาติและรักษาธรรมชาติ ฟื้นฟูธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น และสร้างสายใยเชื่อมโยงคนในภาคส่วนต่างๆ ของสังคมเข้าด้วยกัน


เมื่อช่วงปลายปี 2562 ตลอดจนช่วงเดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า(โควิด-19) ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน คลาดแคลนอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนนี้ คณะผู้บริหารร่วมกับพนักงานจึงจัดทำโครางการเศรษฐกิจพอเพียง และตลาดนัดเป็นโครงการต่อเนื่อง โดยจัดสรรพื้นที่บริเวณลานจอดรถหน้าโรงแรมเปิดตลาดนัดภายใต้แนวคิด ตลาดนัดพอเพียง “ กิน ช้อป ปลอดภัย ที่ อิมพีเรียล โคราช ” เพื่อน้อมรับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นตลาดรองรับผลิตผลจากสวนเศรษฐกิจพอเพียงของโรงแรมฯ และสินค้าจากชุมชนใกล้เคียง อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นแหล่งท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง แห่งใหม่ใจกลางเมืองโคราช ตลาดนัดพอเพียงเปิดทุกวันพุธ ตั้งแต่เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป แบ่งออกเป็น 5 โซน ดังนี้


Zone 1 ตลาดนัดขายผลิตผลการเกษตร
Zone 2 ตลาดนัดขายอาหารเพื่อสุขภาพ
Zone 3 ตลาดนัดสินค้าของกินของฝากที่ระลึก ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP
Zone 4 และ 5 กลุ่มเปิดท้ายร้านค้าชาวโรงแรมและกลุ่ม Food Truck


โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช
ตั้งอยู่กลางเมืองโคราชซึ่งถือเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ที่ตั้ง 1137 ถ.สุรนารายณ์ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รหัสไปรษณีย์ 30000 ด้วยเนื้อที่ทั้งหมด 29 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา โรงแรมมีทั้งหมด 9 ชั้น พร้อมลานจอดรถที่รับรองได้มากกว่า 300 คัน โรงแรมมีความพร้อมที่จะต้อนรับแขกทุกท่านอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าในส่วนของห้องพักทั้งหมด 186 ห้อง พร้อมรองรับการจัดงานประชุมสัมมนาและงานเลี้ยงสังสรรค์ งานมงคลสมรส โดยมีห้องจัดเลี้ยงทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และการบริการสุดประทับใจ

ศบค.มีมติยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว เริ่มมีผลตั้งแต่ 15 มิ.ย. นี้

หลังจาก นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อประจำวันแล้วนั้น

ในเวลาต่อมา นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยผลการประชุม ศบค. ในวันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติ ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว โดยให้เริ่มมีผลตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 มิ.ย.นี้

ขณะที่รายละเอียดของมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 มีดังต่อไปนี้

1. ผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ คือ ให้โรงเรียนนานาชาติ สถาบันกวดวิชา เปิดได้แล้ว การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนที่มีนักเรียนรวมทั้งโรงเรียน ไม่เกิน 120 คน อีกประเภทหนึ่ง คือ หน่วยงานราชการและหน่วยงานกำกับของรัฐ มีการอบรมหลักสูตรสัมมนาอยู่มากมาย ซึ่งที่ผ่านมาถูกให้หยุดการทำกิจกรรม ตอนนี้เริ่มกลับมาเปิดใหม่ได้แล้ว โดยสิ่งที่ต้องเป็นมาตรการเสริมคือในเชิงของการดูแลเรื่องนักเรียน ซึ่งควรต้องนั่งเรียนห่างกัน

2. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต

  • ก. การจัดการประชุม การอบรม การสัมมนา การจัดนิทรรศการ การจัดเลี้ยง การแสดงดนตรี คอนเสิร์ต (ประชุม อบรม สัมมนา คิดเกณฑ์ 4 ตร.ม./คน) (งานเลี้ยง งานอีเวนท์ ระยะนั่ง-ยืน ห่าง 1 เมตร) (งานดนตรี คอนเสิร์ต ลดความหนาแน่น เกณฑ์ 5 ตร.ม./คน)
  • ข. การบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในภัตตาคาร สวนอาหาร ศูนย์อาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ให้เปิดได้ ยกเว้นในส่วนของสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และโรงเบียร์ ยังไม่อนุญาตให้เปิดดำเนินการ
  • ค. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ศูนย์เด็กเล็ก พูดง่ายๆ คือ ศูนย์เด็กเล็กกับสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ ในระยะที่ 4 ผู้ที่ต้องการนำลูกไปฝากเลี้ยงในสถานที่เลี้ยงเด็กในช่วงกลางวัน คือ ส่งเช้า เย็นไปรับกลับอย่างนี้อนุญาตได้แล้ว แต่ต้องมีระยะห่างอย่างน้อย 2 ตารางเมตร ครูพี่เลี้ยงหรือครูที่ดูแลด้านนี้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยอยากให้มีมาตรฐานมากๆ เพราะฉะนั้นผู้ดูแลด้านนี้ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรพัฒนาเด็กปฐมวัย และการป้องกันควบคุมโรค ซึ่งตามกฎหมายมีมานานแล้ว แต่ตอนนี้ก็คงจะต้องมาทำให้ชัดเจนขึ้น แยกกลุ่มเด็กเล็กตามอายุ เวลานอน 1 เตียง ห่างกันมากกว่า 1 เมตร
  • ง. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา เช่น ท้องฟ้าจำลอง จะได้รับการเปิดอีกครั้ง แต่ก็ต้องมีการกำกับดูแลเพราะเป็นที่นิยมของเด็กๆ
  • จ. กองถ่าย เพิ่มจำนวนคนได้แล้ว ไม่เกิน 150 คน ผู้เข้าชมไม่เกิน 50 คน รวมถึงการถ่ายทำรายการโทรทัศน์ทั้งหลายได้สร้างนวัตกรรมอะไรต่างๆ ใหม่ๆ ขึ้นมา สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวอย่างที่ดี โดยมีคนบอกให้ตนช่วยแนะนำด้วยว่ารายการทั้งหลายบางคนใส่ Face Shield อย่างเดียว แล้วยืนใกล้ชิดกัน อย่างนี้ก็บอกว่าไม่ควร เพราะ Face Shield อย่างเดียวไม่ช่วย แต่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ช่วยได้

3. กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ หรือสันทนาการ

  • ก. สถานประกอบการด้านสุขภาพ สปา ออนเซ็น อบตัวสมุนไพร อบไอน้ำ แบบรวมเปิดได้แล้ว แต่ยังยกเว้น คือ กิจการอาบอบนวด โดยจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการต่อรอบที่ 725 ตารางเมตรต่อคน
  • ข. สนามเด็กเล่น สระน้ำ สวนน้ำ สระว่ายน้ำสาธารณะ เปิดได้แล้ว แต่ต้องมีการอบรม ดูแลตรวจตรา ให้คำแนะนำ แต่ว่าสวนสนุกอีกแบบหนึ่งที่ยังไม่ให้เล่น คือ บ้านลูกบอล ในห้างสรรพสินค้าจะเห็นมีโครงตาข่ายหรืออาจจะไม่ใช่เป็นในห้าง และตามต่างจังหวัดมีคนไปตั้งเป็นสวนสนุก แล้วก็ บ้านลูกบอล ที่มีลูกบอลกลมๆ เล็กๆ เด็กกระโดดลงไปมีบอลเต็มตัว รอบๆ ตัว อันนี้ไม่ให้ เพราะสารคัดหลั่งทั้งหลายจะไปอยู่กับพื้นผิวของอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านั้น โดยเฉพาะลูกบอล
  • ค. สนามกีฬาประเภทกลางแจ้ง โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ โรงยิม แล้วก็สถานที่ออกกำลังกายเกือบทุกประเภท ตามกติกาสากลเพื่อการออกกำลังกาย เพื่อการฝึกซ้อม เพื่อการเรียนการสอน เล่นได้หมดทุกประเภทกีฬา แต่ถ้าจะมีการแข่งขัน ต้องไม่มีผู้ชม คือ ทำให้เขาเข้ามารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก แข่งได้เลย มีแต่คู่แข่ง ที่สำคัญไม่มีกิจกรรมอื่นมาร่วมด้วย คือ พวกกิจกรรมส่งเสริมการขาย นี่คือสิ่งหนึ่งที่จะได้ผ่อนคลายกัน
  • ง. สวนสาธารณะ ลานกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกาย
  • จ. ตู้เกม เครื่องเล่นหยอดเหรียญ ในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงมหรสพ สวนสนุก แต่ร้านเกมภายนอกไม่ได้

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. กล่าวก่อนการประชุมว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไทยเคยอยู่ในอันดับของประเทศที่มีผู้ป่วยมากที่สุดของโลกในลำดับต้นๆ แต่ปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับที่ 85 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก และถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของคนไทยทุกคน พร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทุ่มเท เสียสละ ช่วยกันทำงานอย่างหนักมาจนถึงวันนี้ และยังต้องทำต่อไป ซึ่งการทำงานในการแก้ปัญหาดังกล่าวของไทย ได้รับการเผยแพร่และตีพิมพ์ในระดับโลก ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทุกคน

ชุนหลีแกรนด์ โรงแรมระดับ 4 ดาว ทำบุญครบรอบ 1 ปี หลังเจอโควิด 19 พร้อมจัดโปรแรงต้อนรับผู้มาพัก

วันที่ 9  มิถุนายน  2563  เวลา 10. 00 น.  คุณปริษา  แซ่เตียว  ผู้บริหารชุนหลีแกรนด์ พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติและพนักงานได้ร่วมกัน ทำบุญโรงแรมในวาระครบรอบ1ปีของการก่อตั้ง

โดยโรงแรมชุนหลีแกรนด์  เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่มีความสะดวกสบาย  ทั้งสถานที่จอดรถ หรือสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน 

ชุนหลีแกรนด์  ตั้งอยู่เลขที่ 819/18 ถ. ช้างเผือก อ. เมือง  จ. นครราชสีมา  มีความโดดเด่นด้วยดีใซด์ห้องพักที่ไม่เหมือนใคร  เฟอร์นิเจอร์เป็นงานไม้  ตกแต่งด้วยโคมไฟสวยงาม ล้ำค่า  บริเวณต้อนรับด้านล่างยังตกแต่งด้วยของเก่าที่หาชมได้ยากทั้งใน และต่างประเทศ  นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารเลิศรส  โซนนั่งดื่มในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย พร้อมให้บริการทุกท่านอย่างเต็มที่ 

และเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ทางโรงแรมได้มีมาตรการในการป้องกัน ดูแลเรื่องระยะห่าง และความสะอาดภายในโรงแรมอย่างเคร่งครัด  และในโอกาสนี้  ทางโรงแรมได้จัดโปรโมชั่นพิเศษให้กับผู้ที่เข้าพัก  จากห้องพักปกติ ราคา 1,880  บาท  ลดทันที เหลือเพียง ราคา 1,000  บาทเท่านั้น   

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทร 085- 1053888