การประชุมเสวนา และรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน”การสร้างงานศิลปะประเภทถาวร” มหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563การประชุมเสวนา และรับฟังข้อคิดเห็นของประชาชน”การสร้างงานศิลปะประเภทถาวร” มหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2ณ ห้องประชุมปัญจดารา 1 ชั้น 2 โรงแรมปัญจดารา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมาโดยนายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาประธานพร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ภัณฑารักษ์ ศิลปินสื่อมวลชน ประธานชุมชนในขตเทศบาลนครนครราชสีมา นักเรียน นักศึกษา และผู้มีเกียรติทุกท่าน


นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวว่าจากการที่รัฐบาลได้คัดเลือกจังหวัดนครราชสีมาเป็นสถานที่จัดการแสดงมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Biennale, Korat 2021 ขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน -กันยายน 2564 ซึ่งจะเป็นกิกรรมที่สร้างภาพพจน์และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น นับเป็นโอกาสของจังหวัดนครราชสีมาที่ได้เปิดประตูบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทั้งนี้ การสร้างงานศิลปะถาวร ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ทั้ง 6 แห่ง ของจังหวัดนครราชสีมา นั้น จะทำให้ภาพของเมืองเปลี่ยนแปลไปในทางที่ดีขึ้น เป็นการผสมผสานงานศิลปะ สิ่งแวดล้อม และเมือง ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวจังหวัดนครราชสีมา และการขับเคลื่อนให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองศิลปะอย่างยั่งยืน จึงขอให้ทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เสนอข้อคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เพื่อจังหวัดนครราชสีมาของเรา และเพื่อการเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 ที่จะเกิดขึ้นในปี 2564ผมขอแสดงความขอบคุณทางสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย คณะภัณฑารักษ์ศิลปิน และผู้แทน ตลอดจนทุกทนที่เสียสละเวลาเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้


สืบเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการคัดเลือกจากรัฐบาลให้เป็นพื้นที่จัดงานมหกรรมศิลปะนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Beinnale, Korat 2021 ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2564 ทั้งนี้ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม คณะภัณฑารักษ์ และจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงศึกษาพื้นที่จัดแสดงงาน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นมา และได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่ และศิลปินสำหรับการสร้างงานศิลปะประเภทถาวร จำนวน 6 ผลงาน 6 พื้นที่ ได้แก่
1.ผศ.บุญเสริม เปรมราคา สถานที่ สวนสัตว์นครราชสีมา

  1. นายกฤช งามสม สถานที่ บริเวณ Art Gallery
  2. นายประสิทธิ์ วิชายะ สถานที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
  3. นางสาวรัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง สถานที่ สวนสัตว์นครราชสีมา
  4. Sandra Cinto สถานที่ บริเวณบ่อน้ำพุ สวนสุรนารี
  5. Junya Ishigami สถานที่ บริเวณ Art Gallery
    เนื่องจากจะมีผลงานประเภทถาวร ติดตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ จำนวน 3ผลงาน จังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดการประชุมเสวนา และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนขึ้นในกระทรวงวัฒนธรรม ภัณฑรักษ์ และศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับงานศิลปะที่จะเกิดขึ้น พร้อมการรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วย ศิลปิน ครูศิลปะ ผู้บริหารสถบันการศึกษา ผู้แทนชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา นักศึกษา และสื่อมวลชน จำนวนทั้งสิ้น 170 คน

Money Expo Korat 2020 เปิดแล้ว จัดโปรแรงสู่อีสานรับ New Normal

      สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด งานมหกรรมการเงิน โคราช ครั้งที่ 14 Money Expo Korat 2020  ซึ่งงานนี้ วารสารการเงินธนาคาร จัดขึ้นในวันที่ 7-9 สิงหาคม 2563 ที่เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ นครราชสีมา ภายใต้แนวคิด “Wealth Being” จัดหนักแคมเปญโปรโมชั่นร้อนแรงแห่งปี อาทิ สินเชื่อบ้าน 0% นาน 6 เดือน สินเชื่อ SMEs ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปี, เงินฝากดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี, ออม 20 บาท ลุ้นหยิบ 2 ล้าน พร้อมเปิดแพลตฟอร์มใหม่ในรูปแบบ “Hybrid Exhibition” ทำธุรกรรมได้ทั้ง Offline และ Online ที่www.moneyexpoonline.com  รับ New Normal

      (จากซ้าย) สุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา อภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo ประเสิรฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม สาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย และ ภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม งานมหกรรมการเงิน Money Expo

สสว. CONNEXT >> 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์

แถลงข่าว สสว. connext 40ปีหอการค้าโคราช แฟร์ #หอการค้าโคราช #กระตุ้นเศรษฐกิจ #Terminal21


​หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการค้าสู้ COVID-19 จับมือ สสว. และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงานแสดงสินค้า สสว. Connext 40 ปีหอการค้าโคราชแฟร์ พบกับสินค้า อาหาร ของดีเมืองโคราชมากกว่า 150 บูธ พบกับกิจกรรมเสวนาและอบรม China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน พร้อมกับกิจกรรม Business Matching เพิ่มคู่ค้าทางธุรกิจ ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท


​นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าภาคเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมา ในช่วงครึ่งปีแรก และในช่วงครึ่งปีหลังยังอยู่ในภาวะวิกฤต เนื่องจากระบบเงินหมุนเวียนในพื้นที่หายไปมากกว่า 70-80% คงมีเพียงงบประมาณจากภาครัฐ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาได้หารือและทำงานร่วมกับทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชนที่พร้อมผลักดันทำให้ภาคการเศรษฐกิจของนครราชสีมาทั้งระบบมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวมีความเกี่ยวโยงไปถึงภาคประชาชน ภาคประชาสังคม รวมถึงเกษตรกร ถ้าภาคการท่องเที่ยวบริการหยุดชะงัก เกษตรกรก็ไม่มีรายได้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัด
.
​การปรับตัวในช่วงต่อไปของจังหวัดนครราชสีมาก็จะเน้นเรื่องมาตรการด้านความปลอดภัย และสุขภาพควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว การค้า รวมถึงภาคเกษตรกรรรม ดังนั้นจึงขอให้ภาคเศรษฐกิจการค้าได้มีการปรับตัว ประคองตัวและนำเสนอประเด็นปัญหาที่เผชิญผ่านหอการค้า นอกจากนั้นหอการค้ายังได้รณรงค์และสนับสนุนให้สถานประกอบการต่าง ๆ ได้เข้าสู่มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์แล้วกว่า 40 ราย ซึ่งผู้ที่ได้รับรองมาตรฐาน SHA การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนนี้ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามามีความมั่นใจและมาโคราชเพิ่มมากขึ้น


.
นายศักดิ์ชาย ผลพานิชย์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและประธานโครงการ 40 ปีหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี การก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง หอการค้าจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ มากมายขึ้น ซึ่งกิจกรรมที่จัดไปแล้ว ได้แก่ งานทำบุญครบรอบ 40 ปีหอการค้าฯ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2563, โครงการ 40 ปีหอการค้าเปิดประตูเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2563 ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี โดยได้การตอบรับเป็นอย่างดี จากทั้งร้านอาหาร และนักท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้เมืองโคราชมีชื่อเสียง
.
สำหรับกิจกรรม สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ ก็เป็นอีก 1 กิจกรรมใหญ่ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ของหอการค้าโคราชเช่นกัน ถือเป็นงานที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าขายในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประกอบการศูนย์การค้า Terminal 21 โคราชหลังจากประสบเหตุกราดยิง และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักโดยเร็ว
​นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมครบรอบ 40 ปี หอการค้าโคราช ที่จะเกิดขึ้นอีก 2 กิจกรรมใหญ่คือ การแข่งขันกอล์ฟ 40 ปี หอการค้า ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2563 ณ สนามกอล์ฟ พานอรามา กอล์ฟ แอนด์คันทรี คลับ และงานเทศกาลประจำปี BBQ FESTIVAL@KORAT 2020 หรืองานเทศกาลอาหารย่าง ณ โคราช ครั้งที่ 14
.


นายอัฐพล สัมพันธ์วงศ์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา และประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานในครั้งนี้ว่า โครงการสสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมช่วยเหลือผู้ประกอบการ MSME สมาชิกหอการค้า และผู้ประกอบการในจังหวัดนครราชสีมา ให้เกิดการซื้อขาย เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา หลังสถานการณ์โควิด -19 และเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางการตลาด ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น โดยเฉพาะ SME ที่มีศักยภาพ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ใหม่ ๆ การสร้างความร่วมมือ เชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ในการเสริมความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค และกระจายรายได้ในจังหวัดนครราชสีมาจากผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวของนครราชสีมาได้รับผลกระทบอย่างสูง และทำให้ผู้ประกอบการในระดับ SMEs และรายย่อยขาดรายได้หมุนเวียน หอการค้าฯ จึงประเมินสถานการณ์ว่าจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวและฟื้นบรรยากาศการค้าขายในพื้นที่ให้เกิดขึ้นนำร่องขึ้น จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดงาน สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ขึ้น ระหว่างวันที่ 27-30 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ดึงกำลังซื้อท้องถิ่น-นักท่องเที่ยวภายในประเทศจับจ่ายกระตุ้นเงินสะพัดในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาทโดยเน้นผู้ประกอบการการค้า SMEs ในพื้นที่จำนวน 150 กิจการมาออกบูธในงาน
.
ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมาอย่างเคร่งครัด
.
​นอกจากนั้นภายในงานดังกล่าวยังมีกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ 50 คู่ ในวันที่ 27 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช รวมถึงมีการจัดสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการในหัวข้อ China The Great Wall เจาะธุรกิจ ทะลุกำแพงจีน เพิ่มความรู้บ่มเพาะหลานย่า สู่ตลาดจีน และการประกวดเขียนแผนธุรกิจระดับอุดมศึกษาชิงทุนการศึกษาและโล่เกียรติคุณ ในวันที่ 28-29 สิงหาคม 2563 ณ Hall 1 ชั้น4 ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช โดยหอการค้าฯ ประเมินว่าจะมีเงินสะพัดในระหว่างการจัดงานและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท
.


​ประธานโครงการ สสว. Connext 40 ปี หอการค้าโคราชแฟร์ กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการในศูนย์การค้า Terminal 21 โคราช ให้กลับมาฟื้นตัว และกระตุ้นการซื้อขายภายใน หลังประสบเหตุการณ์กราดยิง และสถานการณ์โควิด 19 อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดมีการแจกสินค้านาทีทองทุกวันจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรายการ และแจกคูปองให้กับผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานวันละ 1,000 ใบ ใบละ 40 บาทเพื่อใช้จับจ่ายสินค้าภายในงานทุกวัน โดยสามารถสอบถามรายละเอียดการร่วมกิจกรรมการแสดงสินค้าได้ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา โทร. 044-296121-3 หรือ คุณหนึ่งนภา 086-4617730 Email: infoncc.or@gmail.com.

” แบ่งปันอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด19 โรงเรียนของหนู “

” แบ่งปันอุปกรณ์ป้องกันโรคโควิด19 โรงเรียนของหนู “
ผู้บริหารศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนเขต 3 และสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมให้แรงใจร่วมบริจาค โรงเรียนห่างไกลช่วง วันสัปดาห์แรกหลังการเปิดเรียนและช้วงเฝ้าระวัง สถานการณ์ระบาด covid- 19

คณะผู้ใหญ่ใจดีเดินทางมอบหน้ากากอนามัย 1,100 ชุดและเจลแอลกอฮอล์ให้โรงเรียน 4 แห่งประกอบด้วย โรงเรียนทับ6 วิทยาคาร, โรงเรียนบ้านโนนประดู่, โรงเรียนบ้านดอนเมือง,โรงเรียนโนนกราดเขตต.หนองน้ำใสอ.สีคิ้วจ.นครราชสีมา ครั้งนี้โดยคณะผู้ใหญ่ใจดี ดร.รัตนะ วรบัณฑิต ผอ.ศูนย์ฝึกเด็กและเยาวชนเขต 3 และ นายคมกรฤษณ์ แสงจันทร์ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมาพร้อมนาย ฐิติรัตน์พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา และนายวิเชียร เพ็ญสาริกาคณะสื่อมวลชนส่งมอบอุปกรณ์ ป้องกัน โรคระบาด covid-19 นายเมธี ศรีคำ ผู้อำนวยการและ คณะผู้บริหารโรงเรียน ทับ6 วิทยาคารพร้อมคณะครูและนักเรียน 254 คนรับอุปกรณ์หน้ากากอนามัยและ เจลล้างมือแอลกอฮอล์ จำนวนรวม 1,100 ชิ้น

เพื่อให้เด็ก เยาวชนโรงเรียนที่ห่างไกล ได้มีอุปกรณ์ป้องกัน โรคระบาดในช่วงเปิดเรียนในสัปดาห์แรกการเปิดภาคเรียนที่1หลังวิกฤตโรคโควิด19ระบาดเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันในโอกาสนี้ทางคณะผู้บริจาคได้ช่วยเหลือสิ่งของจาก ผลงานของเยาวชนศูนย์ฝึก เด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมแบ่งปันให้ เยาวชนในโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลขาดแคลนเครื่องป้องโรคเขตอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ได้กระจายแจกกันอีกครั้ง….

เพิ่มศักยภาพ นักข่าวรุ่นใหม่ผ่านสื่อออนไลน์

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา จัดอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์สื่อออนไลน์ หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน

วันนี้คุณเศรษฐวุฒิ ทัตสุระ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะผู้จัดและผู้เข้าร่วมอบรมนักข่าวประชาสัมพันธ์หลักสูตรการผลิตสื่อโฆษณาด้วยสมาร์ทโฟน โดยได้รับเกียรติจากนายธนิต จิตละมัน ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดร่วมนายเพชรเหล็ก ทองภูธร ผอ.กลุ่มงานพัฒนาฝีมือแรงงานสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5นครราชสีมา


ทั้งนี้ นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการอบรมครั้งนี้ เพื่อ สร้างนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้สามารถเป็นนักข่าวมืออาชีพได้ และเพื่อเพิ่มทักษะ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพให้กับนักข่าวประจำพื้นที่ต่างอำเภอให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 มิถุนายน 2563 และในการอบรมครั้งนี้จะได้มีการฝึกปฏิบัติ ณ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

เพื่อให้ผู้อบรมได้ต่อยอดการนำเสนอข่าวในรูปแบบที่ได้อบรมมา คือ การเขียนข่าวเป็น ถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และสามารถตัดต่อให้เป็นภาพข่าวได้ และสามารถผลิตรายงานพิเศษได้ ให้หัวข้อ การท่องเที่ยววังน้ำเขียวโคราช

เปิดตัวเป็นครั้งแรกของ “ชุดตรวจปัสสาวะสำเร็จรูปชนิดเร็วสำหรับพยาธิใบไม้ตับ” ก้าวแรกที่แค่หยดปัสสาวะก็ทราบผลตรวจได้ทันที

มูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี เข้าร่วมสนับสนุนและแสดงความยินดีกับ กิจกรรมการเปิดตัวเป็นครั้งแรกของ “ชุดตรวจปัสสาวะสำเร็จรูปชนิดเร็วสำหรับพยาธิใบไม้ตับ (Rapid Diagnostic Test for Opisthorchiasis)” ที่ผลิตโดยโครงการการผลิตชุดตรวจปัสสาวะ สำเร็จรูปสำหรับตรวจวินิจฉัยโรคพยาธิใบไม้ตับในชุมชน ที่ดำเนินการโดย ศ.ไพบูลย์ สิทธิถาวรและคณะ ภายใต้แหล่งทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และสถาบันวิจัยมะเร็งท่อน้ำดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอกมลาไสย อสม. และประชาชนในพื้นที่

ศ.พวงรัตน์ ยงวณิชย์ ประธานมูลนิธิมะเร็งท่อน้ำดี ได้กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของมูลนิธิฯ ที่ได้เข้าร่วมรณรงค์ต่อสู้ให้ประชาชนในภาคอีสานปลอดจากพยาธิใบไม้ตับอันเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคมะเร็งท่อน้ำดี โดยวันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ที่คณะวิจัยสามารถพัฒนาชุดตรวจการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับในปัสสาวะ ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว พร้อมใช้ตรวจได้ในชุมชนที่ไม่ต้องส่งตัวอย่างปัสสาวะมาตรวจที่โรงพยาบาล

อีกทั้งยังตรวจการติดเชื้อได้แม่นยำกว่าการตรวจไข่พยาธิในอุจจาระ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นก้าวแรกของการทดลองที่ผู้ถูกตรวจไม่ต้องเสียเวลารอ เพราะจะทราบผลในทันทีที่หยดตัวอย่างปัสสาวะลงบนแผ่นแถบสีที่โครงการนี้ผลิต ทำให้ผู้ที่ติดเชื้อได้รับยาถ่ายพยาธิเพื่อรักษาโรคอย่างทันการณ์ในวันนั้นเลย โครงการนี้พร้อมจะขยายวงการตรวจให้กว้างขวางในชุมชนที่อยู่ในแหล่งระบาดของโรคพยาธิใบไม้ตับในอนาคตอันใกล้นี้

สายธารน้ำใจช่วยเหลือเด็กผู้พิการอายุ 7 ขวบอยู่กับยาย ที่ได้รับคัดเลือกจากกลุ่มผู้พิการยากไร้

ที่ผ่านมา นาง​สาย​พิณ​ เอี่ยม​อุไร​ ปลัด ​อบต.ปฏิบัติ​หน้าที่​นายก​อบต.​หนอง​ตะ​ไก้​  พร้อมข้าราชการและพนักงาน อบต.หนองตะไก้  อ.สูงเนิน  จ.นครราชสีมา  ได้ลงพื้นที่ มอบวัสดุในการสร้างบ้านให้กับเด็กชายวสันต์ บุญไทยกลาง อายุ 7 ปี ผู้พิการที่ได้คัดเลือกจากครอบครัวที่ยากไร้ โดยมีนางยุพา สมภักดี อายุ 47 ปี เป็นยายผู้ดูแล  แม่และพ่อของเด็กต้องออกไปทำงานรับจ้างเพื่อหาเลี้ยงลูกและแม่

ทางด้านนางสายพิณ เอี่ยมอุไร ปลัดปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.หนองตะไก้  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  ได้รับการยื่นคำร้องจาก นางยุพา  สมภักดี  ผู้เป็นยายของเด็กชายวสันต์  บุญไทยกลาง  อายุ 7 ปี เป็นผู้พิการ ไม่สามารถเดินหรือช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งพ่อและแม่ของเด็กต้องออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว จึงฝากลูกไว้กับยาย เมื่อไม่นานมานี้  ทางด้านนางยุพาจะได้มายื่นคำร้องที่ อบต. เพื่อขอให้มาดูแล ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย เท่าที่จะสามารถช่วยได้  และเมื่อนางสายพิณ เอี่ยมอุไร ปลัดปฏิบัติหน้าที่นายก อบต.หนองตะไก้  ได้ลงพื้นที่ไป พบว่า สภาพบ้านเป็นสังกะสีเกือบทั้งหลัง มีรอยรั่วของหลังคา และไม่มั่นคง

อีกทั้งจากการสอบถาม นางยุพา ทราบว่า พื้นที่ในการอยู่อาศัย เป็นของเครือญาติ ก็กำลังจะโดนให้ออกจากพื้นที่ จึงได้ดำเนินการเสนอเข้ารับการพิจารณางบประมาณช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา จนได้รับงบประมาณสนับสนุนจัดซื้อวัสดุเพื่อนำมาปรับสภาพบ้านที่อยู่อาศัยของผู้พิการ จำนวน 20,000 บาท และต่อมา มีสมาชิก อบต.หนองตะไก้ หมู่ที่ 11 คุณชุติกาญจน์ ได้ให้ความอนุเคราะห์โอนที่ดินส่วนตัว  ให้กับนางยุพา ในการสร้างบ้านหลังใหม่ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มั่นคงขึ้น

ข่าว/ภาพ : ธวัชชัย เครือบสูงเนิน

พายุฤดูร้อนถล่มโคราช หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย

พายุฤดูร้อนถล่มโคราช หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย

คืนวันที่ 13 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา เกิดพายุถล่มเมืองโคราช โดยเหตุเกิดในช่วงเย็น ในหลายพื้นที่ จากการรายงานของหน่วยงานที่ได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ทั้งเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครนครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และประชาชนอาสา ต่างก็ได้ให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย อาทิ ภายในซอยสวนจิต ก่อนถึงบ้านหนองโพธิ์ ได้รับความเสียหายจากต้นไม้ใหญ่ล้มขวางถนน แยกวรต้อ ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนน ต้องใช้เวลานานกว่าจะดำเนินดารตัดต้นไม้ออกไปได้ เช่นเดียวกันกับ วัดม่วง ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถยนต์และสายไฟภายในวัด ซอยราชนิกูล 22 บ้านเรือนพี่น้องได้รับความเสียหาย ต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้าน และพื้นที่ สวนหม่อน หนองบัวศาลา มีต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มขวางถนน และทับรถยนต์ประชาชนได้รับความเสียหาย บริเวณข้าง สภ.เมือง นครราชสีมา ชุมชนศาลาทอง ต้นไม้ใหญ่ล้ม ส่วนบริเวณสนามหน้าศาลากลาง ป้ายขนาดใหญ่ล้ม นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างทันท้วงที

ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน จังหวัดนครราชสีมา

ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิสว่างเมตตาธรรมสถาน จังหวัดนครราชสีมา

มทส. เริ่มแผนวิจัยผลิตกัญชาเชิงคุณภาพ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ย้ายต้นกล้าพันธุ์ฝอยทองภูผายลรุ่นแรกเข้าโรงเรือนระบบปิดตามมาตรฐานสากล

มทส. เริ่มแผนวิจัยผลิตกัญชาเชิงคุณภาพ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
ย้ายต้นกล้าพันธุ์ฝอยทองภูผายลรุ่นแรกเข้าโรงเรือนระบบปิดตามมาตรฐานสากล

ที่ผ่านมา  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ได้ฤกษ์ย้ายต้นกล้ากัญชาพันธุ์ฝอยทองภูผายล สกลนคร รุ่นแรก หลังได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตามแผนการผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เข้าพื้นที่ภายในโรงเรือนระบบปิดตามมาตรฐานสากล เพื่อผลิตวัตถุดิบกัญชา การตรวจสอบคุณภาพ การใช้พื้นที่แปรรูป เพื่อใช้ผลิตยาสมุนไพรไทย 9 ตำรับเชิงพาณิชย์เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ เผยดำเนินการอย่างรัดกุมภายใต้ข้อกำหนดและการกำกับดูแลของคณะกรรมการตรวจสอบฯ ปลูก 3,360 ต้นต่อรอบการผลิต คาดเก็บเกี่ยวรอบแรก เดือนกรกฎาคม – สิงหาคมนี้


รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในโอกาสเป็นประธาน“พิธีปลูกต้นกล้ากัญชา เพื่อการวิจัยการผลิตกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์” พร้อมนี้ นพ.สำเริง แหยงกระโทก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบใบอนุญาตในการปลูกและครอบครองกัญชา ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ณ สวนเกษตรเฉลิมพระเกียรติ เฉลิมบรมราชกุมารี สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส.


รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดี มทส. เปิดเผยว่า “จากการที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทย ขับเคลื่อนและเตรียมความพร้อมการผลิตกัญชาแพทย์แผนไทย ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อปลูกวัตถุดิบกัญชา การตรวจสอบคุณภาพ การใช้พื้นที่แปรรูป การวิจัยยาสมุนไพรที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เพื่อให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพดีสำหรับทำยาสมุนไพรคุณภาพและถูกต้องตามมาตรฐานสากล โครงการวิจัย “การผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์” โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นันทกร บุญเกิด เป็นนักวิจัยหลัก ได้มีการวางแผนการผลิต แผนการจําหน่าย และแผนการใช้ประโยชน์ เสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามลำดับ กระทั่ง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกใบอนุญาตการปลูกและครอบครองเมล็ดพันธุ์กัญชา ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นที่เรียบร้อย นับจากนี้ มทส. จะเดินหน้าตามแผนงานอย่างเต็มกำลัง หลังจากเตรียมการปรับพื้นที่พื้นที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา บรมราชกุมารี ขนาด 15 ไร่ จัดสร้างโรงเพาะชำต้นกล้า จำนวน 1 โรง โรงเรือนเพื่อการปลูก ขนาด 5 x 100 เมตร จำนวน 2 โรง เป็นโรงเรือนระบบปิดวางระบบน้ำหยด พร้อมระบบระบายอากาศ เพื่อการเพาะกล้า การเตรียมดิน การปลูก การเก็บผลผลิตกัญชา และการจัดทำรายงานผล ซึ่งจะดำเนินการอย่างรัดกุมภายใต้ข้อกำหนดที่ระบุปลูกได้จำนวน 3,360 ต้นต่อหนึ่งรอบการผลิต “เมล็ดพันธุ์กัญชาฝอยทองภูผายล” จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร ซึ่งได้ทำการคัดแยกต้นกล้ากัญชารุ่นแรก และทำการย้ายปลูกในวันนี้ โดยได้รับเกียรติจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธาณสุข หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงาน วิสาหกิจชุมชน เข้าร่วมงาน และเมื่อต้นกล้ามีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร จะทำการคัดเลือกต้นที่สมบูรณ์ไปปลูกภายในโรงเรือน ทั้ง 2 โรง แบ่งเป็นปลูกในกระถาง 1,500 กระถาง และปลูกแบบลงดิน 1,860 ต้น
รวมจำนวน 3,360 ต้นต่อรอบการผลิต สำหรับผลผลิตกัญชาสด จำนวน 2,000 กิโลกรัม จะทำการเก็บเกี่ยวรอบแรกประมาณเดือน กรกฎาคม-สิงหาคม รอบที่สอง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2563 ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องใช้ความทักษะและประสบการณ์อย่างสูง ทั้งนี้ วัตถุดิบทางการผลิตที่เหลือจะถูกเผาทำลายโดยโรงเผาขยะชีวมวล มทส. ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการตรวจสอบฯ อย่างใกล้ชิด และก่อนเก็บเกี่ยวจะต้องประสานให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ในวิเคราะห์สารตกค้าง 5 ส่วน คือ ราก ลําต้น ใบ ดอก และเมล็ด เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพถูกต้องตามมาตราฐาน ก่อนส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ โรงพยาบาลเครือข่ายกรมการแพทย์แผนไทย เป็นผู้ผลิตยาสมุนไพรแผนไทย จํานวน 9 ตํารับ คือ ตำรับศุขไสยาศน์ ตำรับทำลายพระสุเมรุ ตำรับยาทาริดสีดวงทวารและโรคผิวหนัง ตำรับยาแก้ลมแก้เส้น ตำรับยาแก้ลมขึ้นเบื้องสูง ตำรับยาแก้ลมเนาวนารีวาโยตำรับยาไพสาลี ตำรับยาอไภยสาลี และตำรับยาแก้นอนไม่หลับ/ยาแก้ไขผอมเหลือง เป็นไปตามแผนการผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ พัฒนาต่อยอดยาสมุนไพรไทยสู่เชิงพาณิชย์ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน”


นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “ตามนโยบายรัฐบาล ในการสนับสนุนการนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชาทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการอนุญาตให้ใช้ “กัญชาเสรีเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายหลังจากมีการประกาศให้ใช้บังคับพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 มาตรา 26/2 ซึ่งเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นประโยชน์ในทางการแพทย์ เพื่อให้ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาทุกรายมีสิทธิในการเข้าถึงกัญชาเพื่อการรักษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง และการเข้าถึงกัญชาจะต้องไม่เป็นการจำกัดรูปแบบเฉพาะผลิตภัณฑ์กัญชาเกรดทางการแพทย์ (Medical Grade) เท่านั้น แต่ผู้ป่วยจะต้องมีเสรีภาพในการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทุกรูปแบบ ทั้งรูปแบบยาแผนปัจจุบัน (Modern Drugs) ตำรับยาตามตำรายาแผนไทย ตำรับ Special Access Scheme (SAS) สำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย และตำรับยาจากองค์ความรู้และภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน (Traditional Products) ดังนั้น การจัดพิธีปลูกต้นกล้ากัญชา เพื่อการวิจัยการผลิตกัญชาเชิงคุณภาพเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการขับเคลื่อนและกระตุ้นสังคมให้เล็งเห็นความสำคัญของการวิจัยและพัฒนากัญชาในประเด็นที่เกี่ยวข้องทางการแพทย์ เพื่อนําไปสู่การดําเนินงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจและสังคมในระยะยาวต่อไป”

กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ปล่อยคาราวานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

กองทัพภาคที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา ปล่อยคาราวานช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ที่ผ่านมา    กองทัพภาคที่ 2 โดย กองพันกองพันทหารช่างที่ 201 กรมทหารช่างที่ 2 และ กองพันทหารปืนใหญ่ที่3 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 จำนวน 28 นาย ได้จัดชุดปฏิบัติการ “Army Delivery” ขับรถจักรยานยนต์ ออกมอบข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม ให้ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19

เพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจ ช่วยเหลือบรรเทา คลายความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง #เราไม่ทิ้งกัน
#ช.2พัน.201
#ป.3พัน.3
#กองพลพัฒนา2
#กองทัพภาคที่2