สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  จัดกิจกรรมเสวนา เรื่อง  “ร่วมสร้าง โคราชจิตอาสา”  เนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2563

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  จัดกิจกรรมเสวนา เรื่อง  “ร่วมสร้าง โคราชจิตอาสา”  เนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2563

 

วันที่ 5 มีนาคม 2563  เวลา 13.00 น.  นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา    รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการเสวนาเรื่อง “ร่วมสร้าง โคราชจิตอาสา” จัดโดยสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  เนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2563

โดยนายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา นำคณะกรรมการ กล่าวรายงานต่อประธานในพิธี พร้อมเชิญประธานให้เกียรติมอบโล่ในกับนักข่าวอาวุโส  อันได้แก่  ไพฑูรย์  มนุญพงศ์พันธุ์  (ผู้ซึ่งก่อตั้งสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมากว่า 34 ปี) และ   นายอิศราวุธ  พิพัฒพลกาย  นักข่าวอาวุโส สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา

พร้อมด้วย การมอบรางวัลให้แก่บุคคลต้นแบบดีเด่น จิตอาสา  ประกอบด้วย

รางวัลบุคคลต้นแบบ สาขาข้าราชการพลเรือน ดีเด่น  ได้แก่ดร.สุรสิทธิ์ สิงห์หลง  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา

 รางวัลบุคคลต้นแบบ  สาขาผู้นำองค์กรท้องถิ่นดีเด่น   ได้แก่  นายชุณห์ ศิริชัยคีรีโกศล  ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา,

รางวัลบุคคลต้นแบบ สาขาผู้นำองค์กรพัฒนาดีเด่น   ได้แก่ นางณัฎฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา

รางวัลบุคคลต้นแบบ สาขานักธุรกิจดีเด่น   ได้แก่   คุณธิดารัตน์    รอดอนันต์

รางวัลสื่อมวลชนดีเด่น  สาขา วิทยุโทรทัศน์  ได้แก่  นายตติภูมิ อ่วมเครือ ผู้สื่อข่าว (กีฬา)  สถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวี KCTV

รางวัลสื่อมวลชนดีเด่น  สาขา วิทยุกระจายเสียง  ได้แก่  นางสิริกาญจน์    นิธิโชติไชยรัช

 รางวัลเยาวชนต้นแบบดีเด่น  สาขา นักกีฬา  ได้แก่   นายอิสรานุอุดม  ภูริหิรัญพัชร์  นักกีฬาโอลิมปิก

  รางวัลเยาวชนต้นแบบดีเด่น  สาขา ดนตรี  ได้แก่    วงโยธวาทิต โรงเรียนสุรนารีวิทยา

รางวัลเยาวชนต้นแบบดีเด่น  สาขา การศึกษา  ได้แก่ เด็กหญิง กวินนา  ตามแต่รัมย์   โรงเรียนเมธาพัฒน์

รางวัลเกษตรกรต้นแบบดีเด่น   ได้แก่  นายเรืองศักดิ์ กมขุนทด  ผู้ปรับปรุงพันธุ์น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่อง

รางวัลประชาชนส่งเสริมสังคมดีเด่น  ได้แก่   น.ส.มณีรัตน์  ตัณฑวรรธนะ  นายกสมาคมคนพิการ จังหวัดนครราชสีมา

 รางวัลองค์กรพัฒนาการศึกษาดีเด่น  ได้แก่   นายอดุลย์  ภู่ภัทรางค์

 รางวัลกลุ่มพัฒนาการเกษตรดีเด่น  ได้แก่  สหกรณ์การเกษตร พิมาย จำกัด  โดยนางปาณชญา  บวชสันเทียะ  ผู้จัดการ สหกรณ์การเกษตร พิมาย จำกัด

 นอกจากนี้ ยังได้มอบโล่ให้กับองค์กรส่งเสริมสังคมดีเด่นประจำปี 2563 อีกด้วย

กิจกรรมเสวนา เรื่อง  “ร่วมสร้าง โคราชจิตอาสา”  เนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2563 ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านจิตอาสา  มาร่วมเสวนา

 นายเจริญลักษณ์  เพ็ชรประดับ ผู้ดำเนินรายการ  ผู้เข้าร่วมเสวนา  ประกอบด้วย

  1. พระสีหราชสมาจารมุนีรองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา
  2. ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์  อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
  3. นายเสฏฐวุฒิ ทัตสุระผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา
  4. อาจารย์สามารถ โพธิ์นอก  วิทยากรจิตอาสา 904 วปร.
  5. นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา
  6. นายพงศธร ช่างปลูก กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา
  7. น.ส.อริสรา แตงกระโทก ประธานสภาเด็กและเยาวชน จังหวัดนครราชสีมา

บ้านพักเด็กและครอบครัว จังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้   เมื่อเวลา 08.00  น. นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา  นำคณะกรรมการ  ร่วมวางพวงมาลา เพื่อน้อมสักการะทิพย์ดวงวิญญาณของท่านท้าวสุรนารี  จากนั้นได้เดินทางไปที่วัดสุทธจินดา วรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา ถวายภัตตราหารแด่พระภิกษุสงฆ์  เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพี่น้องนักข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว

 

 

 

 

 

 

 

เปิดเทศกาล “อาหารอิตาเลียน” ณ ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด โรงแรมแคนทารี โคราช

เปิดเทศกาล “อาหารอิตาเลียน” ณ ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด โรงแรมแคนทารี โคราช

อิ่มอร่อยจุใจกับบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำสไตล์อิตาเลียน  ณ ห้องอาหาร ดิ ออร์ชาร์ด โรงแรมแคนทารี โคราช   ให้คุณอิ่มอร่อยได้ไม่อั้น  ทั้งพิซซ่าแป้งบางกรอบ  พาสต้าเส้นสดพร้อมซอสนานาชนิด  สลัดบาร์ และเมนูขนมหวานให้เลือกอย่างจุใจ ในวันที่ 2-4 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 – 22.00 น. ในราคาเพียงท่านละ 690 บาท (สุทธิ) สำเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลดครึ่งราคา

สำรองที่นั่งล่วงหน้า หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โรงแรมแคนทารี โคราช โทร .044 – 353 011-2

ประกันรถออนไลน์  ( Roojai.com  )บุกตลาดโคราช  เปิดตัวเพื่อนำเสนอแคมเปญพิเศษสำหรับคนโคราช

ประกันรถออนไลน์  ( Roojai.com  )บุกตลาดโคราช  เปิดตัวเพื่อนำเสนอแคมเปญพิเศษสำหรับคนโคราช

วันที่  2  มีนาคม 2563  Roojai.com   ผู้นำด้านประกันภัยออนไลน์  คุณนิโครัส ฟาเกต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและก่อตั้ง   Roojai.com  (รู้ใจดอทคอม)   ได้เปิดตัวประกันรถออนไลน์เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การันตีคุณภาพ ที่ใช้ง่าย ราคาดี และเชื่อใจได้

โดย  คุณนิโครัส  ฟาเกต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและก่อตั้ง  Roojai.com  (รู้ใจดอทคอม)   ได้กล่าวว่า  ในปี2563   ทางบริษัทได้มีแผนขยายธุรกิจไปต่างจังหวัด  โดยคิดว่า จังหวัดนครราชสีมา มีฐานลูกค้าที่ดี  และมีศักยภาพ เนื่องจากมีรถยนต์ส่วนตัวสูง  แต่มีการขับขี่ปลอดภัย เพราะเคลมน้อย มีอุบัติเหตุต่ำ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่น  และมีการซื้อของออนไลน์มากพอสมควร   จึงได้จัดให้มีแคมเปญพิเศษ สำหรับลูกค้าในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา

นอกจากนี้  Roojai.com  (รู้ใจดอทคอม)   ยังได้มีแอปพลิเคชั่น  Roojai Mobile App ที่ใช้งานง่ายและครบครัน เชื่อต่อทุกเรื่องประกันภัยไว้ในมือถือของคุณ ทั้งการตรวจสภาพรถแบบวีดีโอคลอ  ช่วยลดเวลาขั้นตอนการทำประกันภัย และที่พิเศษคือ การค้นหาอู่ซ่อมในเครือ และศูนย์ซ่อมคุณภาพที่อยู่ใกล้คุณ

ผู้ตรวจการแผ่นดิน ลงพื้นที่นครราชสีมา นำเด็กนักเรียนกว่า 500 ชีวิต ร่วมกิจกรรมเปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ แนะแนวเลือกหลักสูตรคาดเปิดอบรมเมษา 63

ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผย คืบหน้า โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพ นร.ครอบครัวยากจน ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ หลังลงพื้นที่นครราชสีมา นำเด็กนักเรียนกว่า 500 ชีวิต ร่วมกิจกรรมเปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ แนะแนวเลือกหลักสูตรคาดเปิดอบรมเมษา 63

วันนี้ (26 ก.พ. 63) ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เปิดโครงการ “เปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี การก่อตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ภายใต้โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนของจังหวัดนครราชสีมา ที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563” โดยมี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานเปิดโครงการฯ นายสุทธิพงษ์ โกศลวิริยะกิจ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายชวลิต ธูปตาก้อง ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าที่ร้อยตรีสมศักด์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา นายทิฆัมพร ยะลา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบหน้าที่ของรัฐ นางสาวสิริรัตน์ เมืองสมุทร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแนะแนวและแนะนำหลักสูตรแก่กลุ่มนักเรียนครอบครัวยากจนจังหวัดนครราชสีมา

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ปีนี้มีนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 28,221 คน เรียนต่อในระบบโรงเรียน จำนวน 27,468 คน ไม่ได้เรียนต่อในระบบโรงเรียน จำนวน 753 คน มีนักเรียนตอบรับเข้าร่วมโครงการฝึกทักษะอาชีพ จำนวน 392 คน ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเตรียมไว้เข้าโครงการ ถึงจำนวน 372 คน ถือว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ ที่มีนักเรียนจำนวนมากตอบรับเข้าฝึกอาชีพก่อนก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อพัฒนาทักษะและฝีมือตนเอง เพื่อสร้างอาชีพเลี้ยงครอบครัวและสร้างรายได้ให้มากกว่าอัตราแรงงานขั้นต่ำ

เบื้องต้นสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ได้จัดกิจกรรม “เปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี การก่อตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา” เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าศึกษาดูงาน ดูความพร้อมของสถานที่ฝึก เครื่องมือและเครื่องจักรในแต่ละสาขา มีการแนะแนวและแนะนำ เกี่ยวกับความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละสาขา จำนวนรายได้และความก้าวหน้าในอาชีพ คาดว่าเริ่มเปิดฝึกอบรมในช่วงเดือนเมษายน 2563 ใช้ระยะเวลาการฝึกตามหลักสูตร 2-4 เดือน ฝึกประสบการณ์ในสถานประกอบกิจการอีก 1-2 เดือน ซึ่งนักเรียนได้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเย็บจักรอุตสาหกรรม จำนวน 29 คน หลักสูตรช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร จำนวน 42 คน หลักสูตรช่างซ่อมเครื่องยนต์ จำนวน 41 คน หลักสูตรช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 79 คน หลักสูตรช่างสีรถยนต์ จำนวน 23 คน หลักสูตรช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ จำนวน 25 คน หลักสูตรช่างเครื่องทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 15 คน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าเพื่อให้โครงการดังกล่าวมีความยั่งยืนจึงมีแนวทางการจัดตั้งงบประมาณในการฝึกอบรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และปีงบประมาณต่อ ๆ ไป โดยขอให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฝึกอบรมแรงงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และในกรณีสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดร้องขอและเสนอโครงการไปยังสำนักงานจังหวัดให้กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาสนับสนุนงบพัฒนาจังหวัด รวมถึงเงินอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดด้วย

 

“โครงการนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างชีวิตสร้างอนาคตแทนที่จะส่งบุตรหลานของท่านไปทำงานทันทีที่จบการศึกษาขอเวลาให้กับลูกหลานของท่านหน่อยสัก 3-6 เดือน ได้ฝึกอาชีพที่สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งมีทุกจังหวัดแล้วคุณภาพชีวิตของบุตรหลานท่านจะเปลี่ยนไป” นายสมศักดิ์ กล่าว

จังหวัดนครราชสีมา จัดทำบุญ ‘เปล่งเสียงพระพุทธมนต์เจริญจิตแผ่เมตตาอาลัยผู้จากลา T21’

จังหวัดนครราชสีมา จัดทำบุญ ‘เปล่งเสียงพระพุทธมนต์เจริญจิตแผ่เมตตาอาลัยผู้จากลา T21’

วันที่  23  กุมภาพันธ์  2563  ที่ลานกิจกรรม ด้านหน้าศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระสาสนโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 ( ธรรมยุติ ) (หลวงพ่อใหญ่) เจ้าอาวาสวัดสุทธจิดาวรวิหาร , พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะ จ.นครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดบึง , พระเทพรัตนดิลก ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา เจ้าอาวาสวัดศาลาลอย , พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะ จ.นครราชสีมา วัดพระนารายณ์ มหาราชวรวิหาร , พระวินัยโมลี รักษาการเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา( ธรรมยุติ) วัดวชิราลงกรณวราราม และหลวงพ่อกัณหา สุขกาโม วัดป่าทรัพย์ทวีธรรมาราม อ.วังน้ำเขียว เมตตาร่วมเป็นประธานในพิธีสงฆ์ พร้อมคณะสงฆ์ 15 รูปเจริญพระพุทธมนต์ แลระนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ประธานฝ่าฆราวาส , นางสาวปพิชญา ณ นครพนม ผู้อำนายการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ได้ต้อนรับ สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครราชสีมา ทหาร ตำรวจ และร่วมทำกิจกรรม“เปล่งเสียงพระพุทธมนต์ เจริญจิตแผ่เมตตา อาลัยผู้จากลา T21 “  โดยได้รับความเมตตาจากคณะสงฆ์ธรรมยุติ และมหานิกายจังหวัดนครราชสีมา  รวมกว่า 299 รูป ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา

โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดเพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยมีการอันเชิญชุมนุมเทวดา และสิ่งศักดิ์ทั่วสากลโลกมาร่วมพิธี และเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน ประชาชนทั่วไปนุ่งห่มขาวผู้เข้าร่วมพิธีจนเต็มสถานที่ พร้อมทั้งได้ร่วมสวดมนต์ภาวนา และมหาสังฆทาน เพื่ออุทิศบุญใหญ่ในครั้งนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่โคราชมอบเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ประสบภัยที่จังหวัดนครราชสีมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่โคราชมอบเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ประสบภัยที่จังหวัดนครราชสีมา

นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โคราชมอบเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ประสบภัยที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจแม่ค้าที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช


วันที่  19 กุมภาพันธ์  2563  ณ หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.สำนักนายกฯ นายวีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายเกษม ศุภรานนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จังหวัดนครราชสีมา เขต 1ร่วมในพิธี มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ในเวลา 08.45 – 09.50นาที มอบเงินช่วยเหลือ ณ หอประชุมเปรมฯ ประกอบด้วย1. กองทุนผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี 2. เงินเยียวยาเหยื่ออาชญากรรมตาม พรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯสำหรับผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 79 ราย จากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี และมอบเงินกรณีผู้เสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ของกระทรวงยุติธรรม


 
ทั้งนี้โดยศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาฯ จังหวัดนครราชสีมา ขอขอบคุณน้ำใจที่บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ได้ัรับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายยิงประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา สิ้นสุดการรับบริจาคแล้ว ยอดเงินรวม “89,936,633.43.-บาท” โดยระบุเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีต่างๆ ครบถ้วน ตามจำนวนที่ได้รับบริจาค

นายกรัฐมนตรีได้พบปะให้กำลังใจครอบครัวญาติผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุรุนแรง พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งต้องช่วยกันป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ “นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานความช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ พร้อมพระราชทานพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัยและพระราชทานกำลังใจ ให้พวกเราก้าวผ่านเหตุการณ์นี้ไปด้วยความมีสติ มีปัญญา รักสามัคคี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเราจะต้องน้อมนำพระราชกระแส แปรเปลี่ยนเป็นพลังในการขับเคลื่อนการดำรงชีวิตให้เดินข้างหน้าต่อไป” นายกรัฐมนตรีกล่าว นายกรัฐมนตรียังย้ำด้วยความห่วงใยว่า เงินเยียวยาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือจากรัฐบาล ซึ่งจะมีความช่วยเหลืออื่นๆ ทยอยเพิ่มเติมจากหลายๆ หน่วยงาน ขอให้เข้าใจว่า ทุกชีวิตมีค่า เงินจำนวนเท่าใดก็ไม่อาจทดแทนความสูญเสียได้ อยู่ที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร รัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามความช่วยเหลือเยียวยาที่ผู้ได้ผลกระทบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้มีการชดเชยเยียวยาโดยเร็วที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและทุกภาคส่วนประสานงานร่วมกันดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกคน และย้ำถึงเงินเยียวยาว่า มีค่าเพราะแลกมาด้วชีวิตของญาติพี่น้อง ขอใช้ให้เกิดประโยชน์ วางแผนจัดระเบียบบริหารการจัดการใช้เงินอย่างคุ้มค่า พร้อมเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ขอให้มีกำลังกายและใจที่เข้มแข็งเป็นพลังขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป
ต่อมาในเวลา 10.00 – 11.00พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและคณะได้ไป เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านค้า ที่ห้างเทอร์มินอล21 จ.นครราชสีมาจึงได้เดินทางกลับ

มการติดตามมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามความช่วยเหลือเยียวยาที่ผู้ได้ผลกระทบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด และตามพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงให้มีการชดเชยเยียวยาโดยเร็วที่สุด ซึ่งนายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและทุกภาคส่วนประสานงานร่วมกันดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบทุกคน และย้ำถึงเงินเยียวยาว่า มีค่าเพราะแลกมาด้วชีวิตของญาติพี่น้อง ขอใช้ให้เกิดประโยชน์ วางแผนจัดระเบียบบริหารการจัดการใช้เงินอย่างคุ้มค่า พร้อมเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ขอให้มีกำลังกายและใจที่เข้มแข็งเป็นพลังขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป

ต่อมาในเวลา 10.00 – 11.00พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและคณะได้ไป เยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านค้า ที่ห้างเทอร์มินอล21 จ.นครราชสีมาจึงได้เดินทางกลับ

จบลงอย่างยิ่งใหญ่ และงดงาม การประกวดมิสแกรนด์ นครราชสีมา 2020 น้องแจง-ปภัสรา อังค์ยศ สาวงามเมืองย่า อายุ 19ปี คว้ามงกุฎมิสไปครองพร้อมเป็นตัวแทนสู่เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ต่อไป

จบลงอย่างยิ่งใหญ่ และงดงาม การประกวดมิสแกรนด์ นครราชสีมา 2020 น้องแจง-ปภัสรา อังค์ยศ สาวงามเมืองย่า อายุ 19ปี คว้ามงกุฎมิสไปครองพร้อมเป็นตัวแทนสู่เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ต่อไป

กองประกวดมิสแกรนด์นครราชสีมาผู้แทนลิขสิทธิ์โดยบริษัท ดิจิตอล เทเลวิชั่น เน็ทเวิร์ค จำกัด (DN Cable TV) จากกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ร่วมกับห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จัดการประกวด “มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020” รอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 19.00น. ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช  โดยได้รับเกียรติจาก คุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา/กลุ่มที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ คุณสุนีย์ เลิศสีมาพร ประธานคณะกรรมการตัดสิน คุณจารุพักตร์ ปราณีตพลกรัง Provincial Director  ผู้บริหาร บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด กลุ่มผู้ร่วมจัดการประกวดฯ พร้อมด้วยแฟนคลับสาวงามร่วมชมและเชียร์ผู้เข้าประกวดกันอย่างคับคั่ง

เวทีมิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ในการเฟ้นหาสาวไทยที่มีคุณสมบัติทั้งความสวย ความรู้ ไหวพริบ ปฏิภาณและความประพฤติที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีในการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นอย่างเป็นรูปธรรม โดยช่วงเก็บตัวระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สาวงามทั้ง 20 คนได้ทำกิจกรรมเรียนรู้และศึกษาอัตลักษณ์วิถีท้องถิ่นของชาวโคราช อาทิ ชมบ้านโบราณ ชิมอาหารท้องถิ่น สนุกกับวงพิณแคน ณ บ้านแฝก ตำบลโนนสำราญ อำเภอสีดา , เยี่ยมชมเรือนโคราชเฉลิมวัฒนา  เรียนรู้เรื่องราวและวัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ดั้งเดิม อันเป็นเอกลักษณ์ของคนโคราช, ชมการทอผ้าไหมพื้นเมือง ณ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

บรรยากาศภายในงานเริ่มขึ้นด้วยการเปิดตัวผู้เข้าประกวดทั้ง 20 คน ด้วยชุดว่ายน้ำ โชว์หุ่นสุดเพอร์เฟกต์เพื่อคัดเลือก 10 คน เข้าสู่รอบชุดราตรี ซึ่งความพิเศษของชุดราตรีในค่ำคืนเป็นชุดราตรีดีไซน์จากผ้าไหมปักธงชัยอันเลื่องชื่อ เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอันงดงามของคนโคราช  จากนั้นจึงคัดเลือกสาวงาม 3 คนสุดท้ายด้วยการตอบคำถามแสดงทัศนคติ ทำให้บรรดาแฟนคลับสาวงามส่งแรงเสียงเชียร์ตลอดการประกวด นอกจากนี้ยังมีมิสแกรนด์นครราชสีมา ปี 2017-2019 ร่วมให้กำลังใจผู้เข้าประกวดในปีนี้ด้วย

สำหรับตำแหน่ง มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 หมายเลข 19 นางสาวปภัสรา อังค์ยศ หรือ
น้องแจง อายุ 19 ปี เป็นสาวงามจากจังหวัดนครราชสีมา ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท และมงกุฎที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวันสถาปนา “คุณหญิงโม” ขึ้นเป็น “ท้าวสุรนารี” เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2370 และได้นำดีไซน์ของดอกสาทรซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดใช้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงจังหวัดนครราชสีมา พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ นอกจากนี้ดีกรียังคว้าอีก  2 ตำแหน่ง ได้แก่ Miss Beauty Perfect By The Mall Korat 2020 และ  Miss Beauty Perfect By Athit Clinic เงินรางวัลรวม 10,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ

รองอันดับที่ 1  มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 ได้แก่ หมายเลข 8 นางสาวศศิปภา ปภณธีร์ธนาภูมิ หรือ สตางค์ อายุ 21 ปี จากจังหวัดนครราชสีมา รับเงินรางวัล 20,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ และคว้าตำแหน่ง Best Evening Gown (ชุดราตรี) รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ

รองอันดับที่ 2  มิสแกรนด์นครราชสีมา 2020 ได้แก่ หมายเลข 11 นางสาวอาริยา ชาวขุนทด หรือ น้องออย อายุ 21 ปี จากจังหวัดนครราชสีมา รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ และคว้าตำแหน่ง Miss Orange Thailand รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ

สำหรับรางวัลพิเศษ ผู้เข้าประกวดหมายเลข 7 นางสาวแพรวพิลาศ ลูพิมาย คว้า 2  ตำแหน่ง ได้แก่ Miss Nakornratchasima และ Best In Swimsuit (ชุดว่ายน้ำ) รับเงินรางวัลรวม 10,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ และ หมายเลข 14 นางสาวจิดาภา บูรณะวงศ์สิน คว้าไปถึง 3 ตำแหน่ง ได้แก่ Miss Social Media, Miss Popular Vote จากการโหวตให้คะแนนโดยตัดสินจากยอด Like & Share สูงสุดในเพจมิสแกรนด์นครราชสีมา และ Miss Orange Thailand เงินรางวัลรวม 15,000 บาท พร้อมสายสะพาย ถ้วยรางวัลเกียรติยศ

โดยมิสแกรนด์ นครราชสีมา 2020 จะเป็นตัวแทนสาวงามของจังหวัดนครราชสีมาไปแข่งขันกับสาวงามทั้ง 77 จังหวัดในเวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020 ต่อไป จึงขอเชิญชวนชาวโคราชร่วมเป็นกำลังใจและติดตามการประกวดได้ที่มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2020

โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ จัดการแข่งขัน  เดิน – วิ่งการกุศล  BWS RUNNING 2020 มีประชาชนแห่ร่วมงานกว่า 2,000 คน

โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ จัดการแข่งขัน  เดิน – วิ่งการกุศล  BWS RUNNING 2020 มีประชาชนแห่ร่วมงานกว่า 2,000 คน

วันที่  16  กุมภาพันธ์ 2563 เวลา  06.00 น. ณ โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์  อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายอภินันท์  เผือกผ่อง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติมาเป็นประธาน  พร้อมด้วย ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายศารุมภ์  โหม่งสูงเนิน  พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา  นายประเสริฐ เชยพุดซา กำนันตำบลพุดซา  และนายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเข้าร่วมในกิจกรรมวิ่งการกุศล  BWS RUNNING 2020

นายไกรศร ทองมูลชัย ผู้อำนวยการโรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์  พร้อมด้วยคณะได้ให้การต้อนรับ นักวิ่งจากทั่วทั้งภูมิภาค  ในการแข่งขัน  เดิน – วิ่ง การกุศล BWS RUNNING 2020 โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์  โดยมีประเภทของการแข่งขันแบ่งออกเป็น ประเภท นักเรียน ประชาชนทั่วไป และ VIP   เส้นทางการแข่งขัน ระยะทาง 6 กม. เริ่มต้นที่ โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ ผ่านแยกถนนมิตรภาพบายพาส และกลับตัวที่บริเวณ บ.สตาร์เวลล์ เพื่อเข้าเส้นชัยที่ จุดเริ่มต้น
ระยะทาง 10 กม. โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ ผ่านแยกถนนมิตรภาพบายพาส ผ่าน บ.สตาร์เวลล์ ผ่านโรงเรียนตำรวจภูธรภาค 3 กลับตัวที่บริเวณเทศบาลตำบลจอหา เพื่อเข้าเส้นชัยที่ จุดเริ่มต้น


โดยทางคณะจัดงาน ได้เตรียมจุดบริการน้ำดื่ม เครื่องดื่มเกลือแร่ และรถพยาบาล หน่วยกู้ชีพ ไว้บริการทุกท่านที่เข้าร่วมการแข่งขัน
ทั้งนี้ ผู้ที่รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขัน ได้แก่  การแข่งขัน Overall  ระยะทาง  10 กิโลเมตร  ชาย  ได้แก่ นายสิทธิโชติ  โล้กูลประกิจ  (รันสนามลาโคราช) ด้วยเวลา  32.23 น. รุ่น 31-46 ปี  และหญิง ได้แก่  น.ส.พรพิมล  สุขสงวน  (รันสนามลาโคราช) ด้วยเวลา  42.37 น. รุ่น 15-30 ปี  และในการแข่งขัน  BWS RUNNING 2020  โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์  มีประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ในประเภท VIP จำนวน  154 คน และ ประชาชนทั่วไปอีกว่า 1,989 คน

เปิดบ้านต้อนรับ บริษัทประกันเพื่อแสดงความพร้อมในการให้บริการ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุนารี

งาน SUTH Open House For Insurance 2020

เปิดบ้านต้อนรับบริษัทประกันเพื่อแสดงความพร้อมในการให้บริการ

โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุนารี

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 09.00 น. โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้จัดงาน “SUTH Open House For Insurance 2020” ที่ชั้น 1 บริเวณโถงทางเข้าประตูทางทิศเหนือ อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ซึ่งเป็นอาคารขนาด 12 ชั้นที่เพิ่งเปิดให้บริการใหม่เมื่อปลายเดือน ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา โดยการจัดงานครั้งได้เชิญบริษัทประกัน และตัวแทนประกันกว่า 80 แห่ง เพื่อแสดงความพร้อมในการให้บริการและพร้อมรับฟังเพื่อพัฒนาการให้บริการที่มีคุณแก่ผู้รับบริการผู้ถือสิทธิ์ประกัน ในการที่จะให้ผู้รับบริการในส่วนนี้ได้รับความสะดวก อุ่นใจ และคุ้มค่าจากสิทธิในกรมธรรม์ประกันที่ตนถืออยู่ สำหรับการรักษาเฉพาะทางที่ปัจจุบันโรงพยาบาลมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่จะให้การดูแลผู้ป่วยผู้ถือสิทธิ์ประกันให้ได้รับความอุ่นใจ และคุ้มค่าในสิทธิจากกรรมธ์ พร้อมทั้งมีการจัดนิทรรศการแสดงเทคโนโลยี และเครื่องมือจากบริษัทที่เป็นพันธมิตร ปิดท้ายด้วยการนำแขกผู้ร่วมงานเยี่ยมชมส่วนที่ให้บริการต่างๆ และห้องพักผู้ป่วยพิเศษที่มีการขยายจำนวนการให้บริการเพิ่ม

อาจารย์นายแพทย์ ดร.นิวัฒน์ชัย  นามวิชัยศิริกุล  ผู้อำนวยการ ได้กล่าวต้อนรับ และวัตถุประสงค์ในการจัดงานแก่แขกผู้เกียรติที่มาร่วมงาน กว่า 200 คน จากนั้นได้นำเสนอศักยภาพของโรงพยาบาลในด้านต่างๆ และทิศทางการพัฒนาของโรงพยาบาล เพื่อให้แขกผู้ร่วมงานเห็นถึงการลดข้อจำกัดของบริการแบบโรงพยาบาลรัฐกับผู้รับบริการผู้ถือสิทธิ์ประกัน และบริษัทประกันลง เช่น ห้องพักพิเศษที่เพิ่มจากเดิม 14 ห้อง เป็น 60 ห้อง ในปี 2563, การเพิ่มสาขาที่ห้าง เดอะ มอลล์ และระบบการเคลมค่าใช้จ่ายที่มีความสะดวกแบบโรงพยาบาลเอกชน รวมความพร้อมในการรักษาเฉพาะทางจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ

ด้านคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในด้านต่างๆ ได้พลัดกันขึ้นเวทีเสวนาและตอบคำถามแก่แขกผู้ร่วมงาน ประกอบด้วย

1.ด้านกระดูก และข้อ (Orthopedic) โดยชูศักยภาพการบริการรักษาในส่วนของ

  • ศัลยกรรมกระดูกสันหลัง
  • โรคกระดูกซึ่งสืบเนื่องมาจากความผิดปกติของการทำงานของเซลล์กระดูกรวมถึงภาวะกระดูกพรุน
  • การรักษาโดยการส่องกล้องและเวชศาสตร์การกีฬา
  • ศัลยกรรมการเปลี่ยนข้อเทียม: สะโพกเทียม ข้อเข่าเทียม
  1. ด้านศัลยกรรม โดยชูศักยภาพการบริการรักษาในส่วนของ
  • ศัลยกรรมผ่าตัดทางกล้องและส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร
  • ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ศัลยกรรมตกแต่งและเสริมสร้าง
  1. ด้านอายุรกรรมเฉพาะทางระบบประสาทและสมอง โดยชูศักยภาพการบริการรักษาในส่วนของ
  • กลุ่มโรคหลอดเลือดสมอง
  • กลุ่มโรคเส้นประสาทส่วนปลาย
  • กลุ่มโรคสมองเสื่อม
  • กลุ่มโรคปวดศีรษะ
  • กลุ่มโรคลมชัก
  • กลุ่มอาการพาร์คินสันและการเคลื่อนไหวผิดปกติ
  1. ด้านกุมารเวชศาสตร์ โดยชูศักยภาพการบริการรักษาในส่วนของ
  • กุมารแพทย์โภชนาการเด็ก
  • โรคผิวหนังเด็ก
  • ภูมิแพ้เด็ก
  • ประสาทวิทยาเด็ก
  • โรคติดเชื้อเด็ก
  • พัฒนาการเด็ก
  1. ด้านการตรวจสุขภาพ โดยชูการให้บริการตรวจสุขภาพแบบครบวงจร
  • ตรวจสุขภาพประจำปี
  • ตรวจสุขภาพก่อนเข้างาน
  • ตรวจสุขภาพตามความเสี่ยง

ทั้งนี้คณะของโรงพยาบาลได้นำแขกเยี่ยมชมโรงพยาบาลในส่วนที่มีการขยายบริการใหม่ และส่วนที่เกี่ยวการบริษัทประกัน เช่น ห้องพักพิเศษ, อาคารรังสีวินิจฉัย ในช่วงบ่าย เพื่อยืนยันความพร้อมอีกครั้ง

 

 

 

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ เมืองโคราชเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยผู้หลักผู้ใหญ่ เมืองคนราชเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ชาวโคราช พร้อมใจกันนำดอกไม้และเขียนข้อความแสดงความเสียใจต่อการจากไปในเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 รวมทั้งร่วมกันจุดเทียนร่วมไว้อาลัย ณ ลานย่าโม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยม  สอบถามอาการผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลค่ายสรุนารี และ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา  พูดคุยให้กำลังใจคนเจ็บ รวมทั้งญาติและคณะแพทย์พยาบาล จากเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา คลุ้มคลั่งกราดยิงสยองขวัญทั่วเมืองโคราช ก่อนเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้างเทอร์มินอล 21 กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าจับตาย มีผู้เสียชีวิตรวม 30 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 50 คน.  พร้อมทั้งได้แถลงข่าวให้กับพี่น้องชาวโคราชได้ทราบถึงความรู้สึก และกระบวนการเยียวยาทุกคนที่ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว

ทางด้าน  รมช.พาณิชย์ ​รุดเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล​ในฐานะเป็นคนโคราช พร้อม​สั่งเยียวยาร้านค้าในห้างเทอร์​มินอล 21 เพื่อให้บรรยากาศ​การจับจ่ายใช้สอยกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วหลังพากันเสียขวัญ​ทั้งเมืองย่าโม นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางมาที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญ​และให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงประชาชนที่ห้างเทอร์มินอล 21 ที่ผ่านมานั้น โดยนายวีร​ศักดิ์​ กล่าวว่า  ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปถึงครอบครัวของผู้สูญเสียและผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคน จากเหตุการณ์​ในครั้งนี้ รวมถึงต้องขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานช่วยเหลือพี่น้องชาวโคราชอย่างสุดความสามารถ​ และขอให้ผู้บาดเจ็บหายเป็นปกติปลอดภัยทุกคน

ด้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ  อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวัชรพล โตมรศักดิ์  ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา และ นพ.วรรณรัตน ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ภายหลังเสร็จงานทำบุญวันเกิดที่บ้านราชวิถี 20 ในช่วงเช้าก็ได้รีบนำทีมผู้บริหารพรรคชาติพัฒนา ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา รุดเยี่ยมอาการผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงของจ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดสรรพาวุธที่ 22 จ.นครราชสีมา พร้อมมอบกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเงินให้ผู้บาดเจ็บทุกราย เพื่อเป็นกำลังใจ

ขณะเดียวกัน  ที่ ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ภายหลังเจ้าหน้าที่เคลียร์สถานการณ์ได้แล้ว มีประชาชนเดินทางเข้ามาดูสถานที่ และร่องรอยของความเสียหาย โดยมีประชาชนบางส่วน นำเทียนและดอกไม้มาวางไว้บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า GATE 1 เพื่อแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

เวลา 19.00 น. วันที่ 9 ก.พ. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ประชาชน ชาวโคราช มากว่า 1000 คนได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยกับโศกนาฏกรรมผู้ถูกกราดยิง 30 ราย โดยกิจกรรมดังกล่าวมีเขียนคำไว้อาลัย จุดเทียนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต แผ่เมตตาพร้อมสงบนิ่ง

จากนั้นได้นำดอกไม้ไปวางที่ลานกว้างการแสดงออกถึงความไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ พระสีหราชสมาจารมุนี (บุญเริ่ม จิรปุญฺโญ ป.ธ.๔) รองเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมาและพระสงฆ์จากวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร รวม 29 รูป มาร่วมในการสวดมนต์เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

ภาพการแถลงข่าวจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา>>คลิป<<