เทศบาลตำบลพุดซา ขอเชิญร่วมงาน เช้ายันเย็น ในวันลอยกระทง ประจำปี 2562

เทศบาลตำบลพุดซา ขอเชิญร่วมงาน เช้ายันเย็น ในวันลอยกระทง

 

เทศบาลตำบลพุดซา  อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ขอเชิญทุกท่านรวมงาน         เดิน – วิ่ง การกุศล มินิมารธอน  PUDSA  RUNNING ครั้งที่ 1 เพื่อร่วมทำบุญก่อสร้างศาลพ่อขุน องค์ ณ บึงพุดซา ต.พุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา  ในวันจันทร์ที่  11  พฤศจิกายน  2562 เวลา 05.30 น. ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร โดยมีค่าสมัคร  300 บาท  และจะได้รับเสื้อ + เหรียญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  เทศบาลตำบลพุดซา ต.พุดซา อ.เมือง จ.นครราชสีมา โทร  044-215 444

นอกจากนี้เทศบาลตำบลพุดซา ยังขอเชิญชวนร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง  ประจำปี 2562 ณ บริเวณ ลานหน้าบึงพุดซา ภายในงานท่านจะได้พบกับการประกวดกระทงสวยงาม  ประกวดนางนพมาศ หนูน้อยนพมาศ รำวงย้อนยุค และมวยมันส์ ชมฟรี  ศึกมวยไทย สืบสานประเพณีลอยกระทง อาทิ สามเอ  สมศักดิ์ก่อสร้าง  พบกับ อภิเดช  ก.อดิศร  ,ชาญเดช  ก.อดิศร พบกับ โทนี่ ช.ยิ่งยศ  และสิงห์ทอง  ส.ยิ่งเจริญการช่าง พบกับ ศิษย์รัก ส.ตะโกทอง เป็นต้น

 

นักวิ่งชาวต่างชาติคว้าชัย วิ่งฝ่าฝนปลูกป่าช่วยเหลือสัตว์ป่ากับเราที่เขาใหญ่ “Khao Yai Running in The Rain”

Khao Yai Running in The Rain  มร.กิลเรส กูติเออร์ จากฝรั่งเศสใช้เวลา 49 นาทีเข้าเส้นชัยเป็นที่ 1 ในระยะทาง 12 กิโลเมตรชาย ขณะที่ ไอริณ โรจนดิษฐ์ ชนะเลิศประเภทหญิง สมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ แม่งานแฮปปี้ พร้อมมอบทุนให้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 1 แสนบาท

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับการจัดงาน “วิ่งฝ่าฝนไปปลูกป่าและช่วยสัตว์ป่ากับเราที่เขาใหญ่”       ( Khao Yai Running in The Rain ) เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 15ก.ย.2562 ที่ผ่านมา บริเวณ วัดกุดคล้า ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่-เส้นทางแนวกันไฟ) ท่ามกลางบรรยากาศมีฝนโปรยปรายที่ตกต่อเนื่องมาตั้งแต่คืนก่อนแข่ง ทำให้มีลมหนาวเย็นสบาย ขณะที่ผู้เข้าร่วมวิ่งที่สมัครเล่นกันจนเต็ม จำนวน 1,200 คน  ก็เดินทางมากันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเวลา 05.00 น.

สำหรับงาน “วิ่งฝ่าฝนไปปลูกป่าและช่วยสัตว์ป่ากับเราที่เขาใหญ่” ( Khao Yai Running in The Rain ) เป็นวิ่งการกุศลเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ด้วยการหารายได้ช่วยเหลือสนับสนุนการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมจัดทุนซื้อเครื่องมือช่วยเหลือสัตว์ป่าที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บให้กับศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ป่า ดงพญาเย็น โดยรอบอุทยานเขาใหญ่ที่ถือเป็นมรดกโลกแหล่งที่ 5 อีกด้วย
โดยพิธีเปิดมี นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ นายอำเภอปากช่อง เดินทางมาเป็นประธานในการปล่อยตัวนักวิ่ง พร้อมด้วย ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ และผู้มีเกียรติจำนวนมาก อาทิ คุณรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา,พ.อ.ถาวร ร่วมสุข ผู้บังคับศูนย์การสุนัขทหาร กรมการสัตว์ทหารบก,คุณธนะชัย อินทรศร ผอ.หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว,คุณศารุมภ์ โหม่งสูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา,นพ.พิเชษฐ์ ชุนพิพัฒน์ ผอ.โรงพยาบาลกรุงเทพ – ปากช่อง,คุณไชยนันท์ แสงทอง วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา,ดร.ศุภเสฐ คณากูล นายกสมาคมผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน,คุณชนะพันธ์ แก้วกล้าไชยวุฒิ นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน,คุณชัชวาลย์ วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา,คุณครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่,คุณวันกล้า ขวัญแก้ว นายกสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาออนไลน์,พ.ต.อ.สุวัฒน์ ฉัตรเจริญพร สภ.หมูสี,พ.ต.อ.มานพ ภุชชงค์ สภ.ปากช่อง,คุณสุรสิทธิ์ สิงห์หลง ผอ.การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  และนายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว  จังหวัดนครราชสีมา

ซึ่ง ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวเขาใหญ่ ในฐานะประธานจัดงาน “วิ่งฝ่าฝนไปปลูกป่าและช่วยสัตว์ป่ากับเราที่เขาใหญ่” ( Khao Yai Running in The Rain ) ได้เผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ได้จัดวิ่งรายการนี้ขึ้น รู้สึกดีใจมากที่กระแสตอบรับจากนักวิ่งทั่วประเทศหลั่งไหลสมัครเข้าร่วมกันจำนวนมากจนล้นโควต้า และเป็นส่วนหนึ่งในการมอบรายได้ให้กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นจำนวน 100,000 บาท เพื่อนำไปช่วยเหลือสัตว์ป่าที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บให้กับศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ป่าในครั้งนี้ ซึ่งนักวิ่งที่มาร่วมต่างก็มีความสุขถ้วนหน้า และยังชื่นชมว่าทางเรากำเนินการได้ดี ทั้งเส้นทางวิ่ง จุดบริการต่างๆ และอาหารที่นำสุดยอดของดีในเมืองโคราชและปากช่องมาบริการอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง ก็ขอขอบพระคุณผู้เข้าร่วมที่ได้เป็นมาเยือนและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยชีวิตสัตว์ป่า

“ส่วนปีต่อไปเรายังคงดำเนินการต่อแน่นอน และคงคอนเซปต์ในการจัดช่วงโลวซีซั่นที่เป็นหน้าฝนแบบนี้ นักวิ่งก็บอกว่าได้บรรยากาศที่ดีไปอีกแบบ แต่อาจจะขยับให้เร็วขึ้นกว่าเดิมไปเป็นช่วงต้นฝนและมีระยะวิ่ง 21 กิโลเพิ่มเข้ามาด้วย”

 

“ก็ต้องเรียนว่าการจัดกิจกรรมนี้ทุกภาคส่วนและธุรกิจบริเวณรอบเขาใหญ่ต่างร่วมไม้ร่วมมือกันอย่างดี เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่ไม่มีใครมาเที่ยวช่วงหน้าฝน เราต้องการให้เห็นว่าช่วงนี้บรรยากาศที่เขาใหญ่สวยงามไม่แพ้ฤดูอื่นเช่นกัน ซึ่งจากที่เราจัดงานนี้มาปรากฏว่าธุรกิจโรงแรมที่พัก ร้านอาหารดีขึ้นมาก ทุกที่ถูกจองกันเต็มหมด แน่นอนว่าเราจะคงจะวิ่งรายการนี้ต่อไปทุกปี และทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม”
ในส่วนผลการแข่งขัน ปรากฏว่าระยะทาง 12 กิโลเมตรชาย เข้ามาเป็นที่ 1 ได้แก่ มร.กิลเรส กูติเออร์ ชาวฝรั่งเศสเข้าเส้นชัยใช้เวลาเพียง 49 นาทีเท่านั้น อันดับสอง นายอภิชาติ เหล่ารัดเดชา อันดับ 3 นายนนทนันท์ นวลงาม ส่วนชนะเลิศประเภทหญิง ชนะเลิศได้แก่ คุณไอริณ โรจนดิษฐ์ ทำเวลา 56 นาที อันดับสอง คุณกัลยา ศรีนันทวงศ์ อันดับ 3 คุณกสุมา โกมล และประเภททีมที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมมากสุดได้แก่ทีม กรานมอนเต้

โคราชจัดกิจกรรมเดินวิ่งการกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

โคราชจัดกิจกรรมเดินวิ่งการกุศลเฉลิมพระเกียรติ ร.10 เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา

เช้าวันที่ 27 ก.ค.2562 ที่หน้าที่ว่าการอำเภอคง จ.นครราชสีมา นายพัลลภ สิงห์ทอง นายอำเภอคง พร้อมส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. และประชาชนกว่า 500 พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลือง จัดกิจกรรมเดิน-วิ่งการกุศลเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 67 พรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

 มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ดำเนินกิจกรรมการกุศล สงเคราะห์ผู้ยากไร้ สนับสนุนทุนการศึกษานักเรียน เรียนดีแต่ยากจนและผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ ในพื้นที่ อ.คง ทั้งยังส่งผลให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง โดยจัดกิจกรรมแบ่งเป็นประเภทชายและหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 35 ปี อายุ 36-50 ปี และอายุ 50 ปีขึ้นไป ระยะทาง 5 กิโลเมตร รอบตัวเมือง บรรยากาศเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มปิติ.

โคราชแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2562

โคราชแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาประจำปี 2562

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.62 เวลา 17.00 น. ที่ผ่านมาแถลงข่าวการจัดงานแห่เทียนพรรษาโคราช ประจำปี2562 ณ วัดโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ประธาน วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ททท.จังหวัดนครราชสีมา ตำรวจภูธรภาค3 เทศบาลอำเภอพิมายพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าวแห่เทียนโคราช ประจำปี 2562 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 ก.ค. 62 ณ บริเวณสวนเมืองทอง สวนสุรนารี ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษา และส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย โดยจะมีขบวนแห่ในวันที่ 17 ก.ค.62 เวลา 08.30 น. ภายในงานประกอบด้วยขบวนแห่ต้นเทียนพรรษา การแสดงศิลปวัฒนธรรม สินค้า OTOP อาหารพื้นเมือง การแสดง แสง สี เสียง นิทรรศการต่างๆ ณ วัดโพธิ์ จังหวัดนครราชสีมา

โดยในปีนี้จังหวัดนครราชสีมาได้จัดประเพณีแห่เทียนพรรษา มีขบวนเทียนพรรษาจากวัดต่างๆ ใน จ.นครราชสีมา เข้าร่วมประกวดรวมกว่า 30 ขบวนเทียน ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท ขบวนเทียนพรรษาทั้งหมด จะเริ่มออกจากจุดปล่อยขบวนตั้งแต่บริเวณถนนมหาดไทยตัดราชดำเนินตรงไปถนนจอมสุรางค์ผ่านคลังพลาซ่า เพื่อให้ประชาชนได้ชมความสวยงาม ซึ่งขบวนเทียนพรรษาที่โดดเด่นปีนี้ มีอยู่หลายวัด เช่น ของวัดโพธิ์ อ.เมือง ภายในงานงานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราช ประจำปี 2562 จังหวัดนครราชสีมา มีการจัดกิจกรรม ได้แก่ การประกวดต้นเทียนพรรษา, การประกวดขบวนแห่เทียน, การประกวดประดิษฐ์ต้นเทียน, พิธีเจริญพระพุทธมนต์, ขบวนแห่เทียนพรรษารอบเมือง กว่า 7 กิโลเมตรซึ่งจัดขึ้น บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี สำหรับกำหนดการจัดงานของปีนี้คือวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2562

น้ำผุด โคราช ไอเดียเก๋ เปิดให้มีพายเรือคายัค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

น้ำผุด โคราช ไอเดียเก๋ เปิดให้มีพายเรือคายัค เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

ที่ผ่านมา  ดร.สุรสิทธิ์  สิงห์หลง  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  ได้ชวนคณะสื่อมวลชน ในจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา   เพื่อลงพื้นที่ อำเภอป่าช่อง จังหวัดนครราชสีมา ไปที่บ่อนำพุธรรมชาติ ที่บ้านท่าช้าง ตำบลหมูสี ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเดิม ตามที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จัก

โดยทางเทศบาลตำบลหมูสี  ได้มีการเปิดให้มีการท่องเที่ยวเชิงศึกษาธรรมชาติ  ด้วยการพายเรือคายัค สัมผัสธรรมชาติ 2 ข้างลำน้ำที่เย็นสบาย  ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร(รวมไป-กลับ) และมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเส้นทาง  โดยการให้บริการพายเรือนี้  จะเปิดให้บริการเฉพาะวันหยุด  (เสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์) ค่าบริการอยู่ที่ ระยะสั้น  50 บาท/คน  ระยะยาว 150/คน    นอกจากนี้ หากโชคดี  จะได้พบกับตัวตะกอง ที่เป็นสัตว์ประจำลำน้ำ ลำตะคอง ที่กำลังจะสูญพันธุ์ไป โดยตัวตะกองนี้  มีลักษณะคล้ายกิ้งก่า ขนาดใหญ่ พบเห็นได้ในพื้นที่ อ.ปากช่อง เท่านั้น

สระน้ำผุด หรือ บ่อน้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่ในตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง เป็นตาน้ำที่มีน้ำไหลมาตลอดปี มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ โดยน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นน้ำฝนที่ตกไปอยู่ในใต้ดินและก่อนที่จะผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้น้ำมีความใส ลักษณะของน้ำมีสีฟ้าเขียวมีคุณสมบัติความเป็นด่างของน้ำนั่นเองคล้ายกับ สระมรกตที่กระบี่ น้ำจะใสมาก

ที่ตั้ง : อยู่ในสวนกาญจนาภิเษก ต. หมูสี อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา

อีกหนึ่งสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเขาใหญ่

           อีกหนึ่งสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเขาใหญ่

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไปและประชาชนในจังหวัดใกล้เคียง เจ้าพ่อเขาใหญ่เดิมชื่อนายจ่าง นิสัยสัตย์ บ้านเกิดอยู่ จ.นครนายก ท่านรับราชการเป็นปลัดกองทัพไทยและได้ผ่านศึกสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียงมาอย่างโชกโชน ท่านมีบุคลิกลักษณะที่สง่างามสมชายชาตินักรบไทยเมื่อว่างหลังจากศึกสงครามท่านมักจะขี่ม้าออกเยี่ยมเยือนนักรบไทยที่เป็นลูกน้องเก่าของท่านครั้งหนึ่งท่านทราบว่าลูกน้องเก่าของท่านไปตั้งตัวเป็นโจรบนเขาใหญ่และเห็นลูกน้องถางป่าบนเขาใหญ่จนเตียนโล่งก็เสียใจมากท่านจึงขอร้องให้ลูกน้องเลิกและรีบอพยพกันลงไปอยู่ข้างล่างแต่มีโจรกลุ่มหนึ่งไม่ยอมเชื่อเมื่อท่านไปขอร้องทำให้ท่านและหัวหน้าโจรทั้ง ๕ กลุ่มไม่สบายใจจึงนัดพบกัน ณ ป่าหญ้าคาใกล้หนองขิงแต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดการต่อสู้กันขึ้นปรากฏว่าหัวหน้าโจรกลุ่มนั้นถูกยิงเสียชีวิต

ในยุคนั้นท่านเป็นบุคคลที่ชาวบ้านให้ความเคารพยำแกรงเป็นอย่างมากนอกจากนั้นท่านยังมีน้ำใจโอบอ้อมอารี รักญาติที่น้องให้ความช่วยเหลือต่อชาวบ้านในทุกๆ ด้านท่านได้จบชีวิตลงด้วยไข้ป่าเมื่อวัย ๗๕ ปีชาวบ้านต่างพร้อมใจกันตั้งศาลเพียงตาไว้ให้ที่ใต้ต้นกระบกใหญ่บริเวณวัดหนองเคี่ยม จ.นครนายกเรียกศาลนั้นว่า “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่”


หลังจากที่รัฐบาลโดยฯพณฯจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้มีการสำรวจจัดตั้งป่าเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และได้มีการสร้างถนนสายธนะรัชต์ขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฯพณฯจอมพลสฤษดิ์ได้เกิดนิมิตฝันถึงเจ้าผู้คุ้มครองเหล่าสรรพสัตว์และป่าเขาใหญ่จึงได้สั่งการให้มีการจัดตั้งศาลเจ้าพ่อขึ้นที่บริเวณ กม. ๒๓ ถนนธนะรัชต์และได้อัญเชิญดวงวิญญาณของท่านมาสถิตย์ไว้ ณ ศาลเจ้าพ่อและขนานนามว่า “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่”ในวันที่ ๒๖ มกราคมของทุกปีจะมีการบวงสรวงระลึกถึงพระคุณท่านเพราะในวันดังกล่าวเป็นวันที่อัญเชิญท่านลงมาอยู่ในศาลใหม่นั้นเอง

  ท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม สักการะหลวงพ่อใหญ่อายุกว่า 200 ปี เช็คอินสะพานบุญเมืองปักธงชัย “สุขใจ..เที่ยวได้บุญ”

 

ท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม สักการะหลวงพ่อใหญ่อายุกว่า 200 ปี เช็คอินสะพานบุญเมืองปักธงชัย “สุขใจ..เที่ยวได้บุญ”

ขอเชิญทุกท่านร่วมตามรอย ท่องเที่ยวเชิงอารยธรรม ที่วัดม่วงสระน้อย อำเภอปักธงชัย  จังหวัดนครราชสีมา  ที่มีศิลปะ วัฒนธรรมที่โดดเด่น เริ่มที่ การไหว้พระพุทธรูปโบราณ

  สักการะขอพรหลวงพ่อใหญ่ อายุกว่า 200 ปี ในมณฑปพระศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด

 ต่อด้วยการขอพรและให้แคล้วคลาดปลอดภัย ด้วยการลอดท้องช้าง เพื่อเป็นสิริมงคล

นอกจากนี้ วัดม่วงสระน้อย ยังมีพระพุทธชนะมาร  พระพุทธมงคลไสยาสน์ หลวงพ่อทันใจ ให้ทุกท่านได้กราบสักการะ  ด้วยการเดินข้ามสะพานบุญที่มีความสวยงาม

วัดม่วงสระน้อย  เป็นหนึ่งในเส้นทางไหว้พระ  9  วัด ของอำเภอปักธงชัย  จังหวัดนครราชสีมา  โดยเป็นวัดที่มีความสงบ  ร่มเย็น เหมาะสำหรับการทำบุญ พักผ่อน และท่องเที่ยวเชิงอารยธรรมอย่างยิ่ง  โดยวัดแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๕ ต.นกออก อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา  การเดินทาง  สี่แยกลำพระเพลิง เลี้ยวซ้ายเส้นทางสาย ๒๔ (ปักธงชัย-โชคชัย) และมาเลี้ยวขวาตรงเกษตรอำเภอปักธงชัย เข้าไปประมาณ ๒.๕ กิโลเมตรเท่านั้นเอง

เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่..บ้านเทวาลัยเทพตะเคียนทอง อ.ปากช่อง โคราช

เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่..บ้านเทวาลัยเทพตะเคียนทอง อ.ปากช่อง โคราช
เทวาลัยเทพตะเคียนทอง
บ้านโนนป่าติ้ว ต.หนองสาหร่าย
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่  บ้านเทวาลัยเทพตะเคียนทอง  อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา   มหาเทพ พลังศรัธา เทพแห่งความสำเร็จ  พระพิฆเนศ ปาง 5 เศียร  น้ำหนัก  20 ตัน  ความสูงขนาด  11.5 เมตร แกะสลักด้วยไม้ตะเคียนทอง

ต้นปี2563นี้ สล่าล้านนาฝีมือขั้นเทพ6คน แห่งอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่  นำโดย สล่าวงศ์ทอง ประสงค์ทรัพย์  จะบรรลุผลงานระดับโลกชิ้นสำคัญนั่นก็คือ”พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ”ที่แกะสลักด้วยโคตรไม้ตะเคียนทองอายุนับพันปี

ขนาดของพญาช้างเอราวัณ(สามเศียร)ยาว11.5 เมตร กว้าง5เมตร สูง7.5เมตรเมื่อพระอินทร์ประทับบนหลังช้างจะเป็นความสูงรวม11.5เมตร น้ำหนักราว75ตันเฉพาะงวงยาว3.5เมตร งายาว2.65เมตรโคนงาเส้นผ่านศูนย์กลาง 11นิ้ว ทั้งเศียร งวงและงา เพียงเศียรเดียวรวมกันหนักราว5-6ตัน  ฝ่าเท้าช้างเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบหนึ่งเมตร  เส้นรอบวงฝ่าเท้าช้างยาว 280ซม. เศียรแรกแกะสลักเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์แบบแล้ว  อีกสองเศียรจะเสร็จภายในปีนี้ขณะนี้ทีมช่างกำลังบรรจงแกะแต่งริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังพญาช้างให้เหมือนจริงที่สุด
ดุจพญาช้างดึกดำบรรพ์ที่มีอายุนับพันปี  มีสัญญาณบอกเหตุว่า  ปฏิมากรรมแกะสลัก”พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ”ชิ้นนี้  จะประทับที่ใจกลางกรุงเทพมหานครฯ  เพื่อเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินผู้ใดมีส่วนร่วมสร้าง
หรือแม้แต่กำลังใจที่ส่งไปให้  ขอจงได้รับผลานิสงส์ผลบุญให้ท่านได้มีความสุข ได้รับผลสำเร็จในทุกมิติของชีวิต   มีสรีระร่างกายที่สง่างาม มีบารมี มีสุขภาพแข็งแรง   อายุยืนดุจพญาช้างเอราวัณด้วยเทอญ

 

Cr: ภาพ  เข้ม มฤคพิทักษ์

‘Dusit D2 Khao Yai’ โรงแรมหรู ล้อมรอบด้วยมนต์เสน่ห์ขุนเขา จัดโปรโมชั่นต้อนรับเดือน พ.ค. สุดพิเศษ

สัมผัสวิวสวย Dusit D2 Khao Yai’  โรงแรมหรู ล้อมรอบด้วยมนต์เสน่ห์ขุนเขา

                ‘โรงแรมดุสิตดีทู เขาใหญ่’ หรูหรา เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยขุนเขา พร้อมด้วยกิจกรรม activity ครบรสด้วยอาหารชั้นเลิศทั้งไทยและยุโรป สุดพิเศษจองห้องพักกับโปรโมชั่นห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาสุดพิเศษเพียง 2,700 บาท พร้อมเครื่องดื่ม mocktail จำนวน 2 แก้ว ตั้งแต่วันนี้- 30 พฤษภาคม 2562  

วันนี้ ‘โคราชอินไซด์’ จะมารีวิว ‘โรงแรม Dusit D2 Khao Yai’ (ดุสิตดีทู เขาใหญ่) ที่ได้มาพักช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ของจริงไม่ต้องพูดเยอะมาดูกันเลยดีกว่า เข้ามาส่วนแรกก็เป็นโซน Lobby มาเช็คอินกันก่อนเลย ที่นี่จะตกแต่งโดยใช้โทนเข้มนิดๆ เน้นลายหินอ่อนที่โต๊ะเช็คอินรวมๆแล้วถือว่าสบายตาเลยที่เดียว Lobby ที่นี่ไม่ได้ใช้แอร์ แต่ใช้ลมธรรมชาติโบกสะบัดได้รับอากาศธรรมชาติบริสุทธิ์ ด้านข้างของ Lobby ก็มีสระว่ายน้ำซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ เป็นสระว่ายน้ำที่มองเห็นเขาใหญ่ประมาณ 180 องศา ระหว่างรอพนักงานก็มีน้ำอัญชันเย็นๆมาเสิร์ฟให้ดื่มเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย โดยรวมพื้นที่ของโรงแรมมีขนาดใหญ่พอที่จะเห็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เต็ม 2 ตา โรงแรมแห่งนี้วิวแบบนี้ช่างอลังการสุดๆ มองวิวงามตาพาฝันจินตนาการได้อย่างมีความสุข

ห้องพักโมเดิร์นเรียบหรู

ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 3 ประเภท 1. ห้องดีลักซ์ จัดเตรียมให้แก่แขกผู้มาพักเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่หรูหราและอบอุ่น ประกอบด้วย เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือเตียงคู่ไว้ให้เลือก พร้อมกับทีวีแอลซีดี อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการชงชา/กาแฟ และอ่างอาบน้ำขนาดห้อง 36 ตารางเมตร 2. ห้องดีลักซ์ พลัส จัดเตรียมให้แก่แขกผู้มาพักเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจและเพื่อการพักผ่อน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่หรูหราและอบอุ่น ประกอบด้วย เตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ หรือเตียงคู่ไว้ให้เลือก พร้อมกับทีวีแอลซีดี เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการชงชา/กาแฟ และอ่างอาบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องน้ำ (เครื่องเป่าผม เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าแตะสวมภายในห้อง และชุดเครื่องอาบน้ำต่างๆ ) ขนาดห้อง 36 ตารางเมตร 3.ห้องสวีท D’Corner ความโดดเด่นของห้องสวีท D’Corner คือทิวทัศน์ แบบพาโนรามา ของเทือกเขาใหญ่จากหน้าต่างแบบพื้นจรดเพดาน ซึ่งยาวสุดขอบของห้องพัก ห้องสวีทขนาด 1 ห้องนอนเหล่านี้ จะประกอบด้วย ห้องนอนขนาดใหญ่ มีหมอนบุด้วยขนนก ผ้าปูที่นอนลินินเนื้อดี ผ้านวมเนื้อนุ่ม ทีวีจอแอลซีดี ในส่วนของห้องนั่งเล่นที่สะดวกสบาย ประกอบด้วย โซฟา โต๊ะกาแฟ เก้าอี้และโต๊ะทำงาน พร้อมห้องแต่งตัว คุณจะได้รื่นรมย์กับทิวทัศน์ของเทือกเขาได้จากอ่างอาบน้ำที่เป็นการเพิ่มระดับความผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ ขนาดห้อง 72 ตารางเมตร

(และพิเศษ) ห้องสวีท Duplex ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แยกพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและการผ่อนคลายออกจากกัน โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่ในส่วนของห้องนั่งเล่นซึ่งถูกตกแต่งเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย อาทิเช่น โซฟา โต๊ะกาแฟ โต๊ะทำงานและทีวีจอแอลซีดี แต่เมื่อขึ้นบันไดไปอีกชั้นหนึ่งจะกลายเป็นห้องนอนที่สะดวกสบายอีกห้องหนึ่ง ที่มีหมอนบุด้วยขนนก ผ้าปูที่นอนลินินเนื้อดี ผ้านวมเนื้อนุ่ม และหน้าต่างที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาของเทือกเขาใหญ่ ห้องสวีท Duplex จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง โดยห้องน้ำชั้นบนจะมีอ่างอาบน้ำที่จะสามารถช่วยให้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ขนาดห้อง 69 ตารางเมตร

5 เมนูA La Carte – จุใจบุฟเฟ่ต์มื้อเช้า

                ทางด้าน คุณเพชรรัตน์ ผู้จัดการทั่วไปห้องอาหารมูสิ กริล โรงแรม Dusit D2 Khao Yai’ ดุสิตดีทู เขาใหญ่ เผยว่า นอกจากที่พักและบรรยากาศที่ดีแล้วที่นี่เรายังมีบริการอาหารมื้อเย็นโดยเฉพาะเมนู A La Carte dinner ที่ทุกคนมาแล้วต้องมาลองมี 5 เมนูแนะนำ คือ 1. ผัดไทยเส้นจันท์กุ้งสด รสเข้มข้นถึงเครื่องผัดไทยโบราณหอมอ่อนๆกลิ่นกระทะ  2. สเต็กหมูพร์อคช็อพ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ 3.ซีซ่าสลัด รสกลมกล่อม 4.ชุดหมูสะเตะและของทอดพร้อมเครื่องจิ้ม 4 รส  5.พิซซ่าอิตาเลียน แป้งบางกรอบ ทานคู่กับซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศเข้ากันได้ดี  ถือเป็นเมนูเด็ดที่ลูกค้ามาแล้วต้องมาลิ้มชิมรส  นอกจากนี้ทางโรงแรมของเรายังมีบริการห้องร้องคาราโอเกะให้ได้ผ่อนคลายและสนุกสนานอีกด้วย ขณะที่ในช่วงเช้าทางห้องอาหารยังมีบริการบุฟเฟ่ต์อาหารเช้าให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่มาพักให้เลือกรับประทานมากมายหลากหลายตั้งแต่เวลา 06.00 – 10.30 น.

ลูกค้าจองแน่นทั้งปี   

คุณครองยศ พิริยพฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดุสิตดีทู เขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า โรงแรมดุสิต ดีทู เขาใหญ่ มีห้องพักตั้งแต่ขนาดมาตรฐานไปจนถึงห้องสวีทที่กว้างขวาง ตกแต่งแบบทันสมัยทั้งหมด 79 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้งพร้อมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ปัจจุบันโรงแรมดุสิตดีทูเขาใหญ่ เปิดบริการมาได้กว่า 2 ปีแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว ชอบธรรมชาติ ความเงียบสงบและการพักผ่อนอย่างแท้จริง ระยะหลังๆก็จะได้กลุ่มลูกค้าที่เป็น ชาวสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีนที่เริ่มมาใช้บริการเยอะเช่นเดียวกัน ตั้งแต่เปิดบริการมาลูกค้าจองแน่นตลอด คือลูกค้าจะโทรจองวันไว้ล่วงหน้าก่อนเลยคือแน่นทั้งปี ถือเป็นความประสบความสำเร็จของเราที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจในการให้บริการ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ติดใจเนื่องจากโรงแรมเราติดกับเขาและธรรมชาติไม่มีสิ่งรบกวนทั้งทางด้านเสียงและมลภาวะ ถึงการเดินทางจะเข้ามาไกลหน่อย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าที่ได้มาพักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ

แนะนำกิจกรรมใน 1 วัน และสิ่งอำนวยความสะดวก

ในโรงแรมมีกิจกรรมไว้คอยบริการอยู่เสมอไม่ขาด ทั้งระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งแบบไร้สายทั้งในห้องพัก / พื้นที่ส่วนรวม สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ห้องออกกำลังกายและห้องสุขภาพ บริการอาหารภายในห้องพัก (08.00 น. – 23.00 น.) บริการรักษาพยาบาล บริการรถยนต์ขนาดใหญ่ / บริการรับ-ส่ง / บริการรถเช่า บริการซักรีด / บริการซักแห้งบริการพี่เลี้ยงเด็ก บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ห้องเชื่อมต่อกันตามการร้องขอ ทั้งกิจกรรมภายในโรงแรมหรือบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าคุณจะต้องการผ่อนคลายในสระว่ายน้ำ หรือการเดินป่าบนภูเขา มีทางเลือกให้คุณอยู่เสมอ ฟาร์ม อัลปาก้า การปั่นจักรยาน การพายเรือแคนู การเดินป่า / การขึ้นเขา และ การปีนเขา กิจกรรมชมไร่องุ่นกราน มอนเต้ ที่ปลูกอยู่บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่แห่งนี้ เป็นองุ่นที่ปลูกเพื่อนำไปผลิตไวน์เกือบ 100% ได้รับความนิยม ทั้งในด้านรสชาติของไวน์ และความงามของไร่องุ่น นอกจากนี้ยังมีองุ่นหลายสายพันธุ์ที่ทำไวน์ ที่เด่นคือ องุ่นสายพันธุ์ชีราช, เทมปรานิลโย, และการแบร์เนต์ โซวีนยอง ซึ่งเป็นองุ่นที่ ผลิตไวน์แดง และยังมีองุ่นพันธุ์เชอแนง บลอง สำหรับทำไวน์ขาว พิเศษกิจกรรมเชฟพาสอนทำอาหาร พ่วงกิจกรรมส่องดูสัตว์ยามในยามค่ำคืนบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ปิดทริปอย่างสวยงามอีกด้วย หากลูกค้าสนใจลูกค้าสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่หน้าเคาท์เตอร์

ทั้งนี้ ขอเชิญนักท่องเที่ยวและลูกค้าทุกท่านมาใช้บริการและพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติขุนเขาได้ที่ โรงแรม Dusit D2 Khao Yai (ดุสิตดีทู เขาใหญ่) ที่อยู่ 678 หมู่ 18 ตำบลหมูสี อำเภอ ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130 เบอร์โทรศัพท์ 044 – 003000  พิเศษโปรโมชั่นเดือนนี้ สำหรับห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาสุดพิเศษเพียงคืนละ 2,700 บาท พร้อมเครื่องดื่ม mocktail จำนวน 2 แก้ว ตั้งแต่วันนี้- 30 พฤษภาคม 2562 อนึ่ง (โปรโมชั่นนี้ใช้ได้สำหรับการเข้าพักในวันอาทิตย์ ถึงวันพฤหัสบดีเท่านั้น จำนวนห้องพักมีจำนวนจำกัดและไม่สามารถใช้ได้สำหรับวันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนไม่ควรพลาด

ศิลปะขอมอีกแห่ง ของคนโคราช “ปรางค์พระโค” แห่งเมืองกระโทก อ.โชคชัย

ศิลปะขอมอีกแห่ง ของคนโคราช “ปรางค์พระโค” แห่งเมืองกระโทก อ.โชคชัย

 ปราสาทหินบ้านพะโค หรือ ปราสาทปะโค ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านกระโทก อำเภอโชคชัย จังหวัดนครนครราชสีมา ถิ่นน้าชาติ บ้านคุณสุวัจน์และเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ในปลายปีไงครับ

        หากเดินทางจากตัวจังหวัด ตามถนนหลวงหมายเลข 224 ผ่านแหล่งเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอันเลื่องชื่อของเมืองโคราช ประมาณ 30 กิโลเมตรก็จะมาถึงตัวอำเภอโชคชัย เดินทางต่อจากตัวเมืองโชคชัยไปทางอำเภอครบุรี ด้วยทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2071 อีกประมาณ 3 – 4 กิโลเมตร ก็จะพบปราสาทองค์เล็ก ๆ ทางด้านขวามือ

         ซึ่งหากเดินทางโดยไม่ได้เจาะจงสนใจมากนัก ก็จะผ่านเลย “ปราสาทพะโค” ไปได้โดยง่าย

ด้วยเพราะปราสาทหินพะโคเป็นปราสาท”ขนาดเล็ก” ไม่ได้ตั้งอยู่ในเส้นทางโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองโคราช เช่นเดียวกับ ปราสาทหินใหญ่ ๆ อย่างปราสาทหินพิมาย ปราสาทพนมวัน ปราสาทเมืองแขก เมืองเสมา ฯลฯ จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหลงทางแวะมาชมกันมากนัก เรียกได้ว่าถ้าจะมาก็ต้องตั้งใจมากันจริง ๆ แล้วค่อยตัดเดินทางไปตามเส้นทางลัดสาย สูงเนิน  – โชคชัย เดินทางลัดไปจังหวัดบุรีรัมย์

        เฉพาะที่อำเภอปักธงชัย ใกล้เคียงกับปราสาทพะโคก็มีปราสาทขนาดเล็กที่สร้างเพื่อเป็นปราสาท สรุก” หรือเทวาลัยประจำชุมชนโบราณ ถึง 8 หลัง เช่น ปราสาทบ้านนาแค ปราสาทบึงคำ ปราสาทสระหิน ปราสาทบ้านปรางค์ ฯ ในอำเภอโชคชัยก็มีอยู่ 3 ปราสาทและมีปราสาทหินน้อยใหญ่รวม 34 แห่ง ทั่วเขตจังหวัดนครราชสีมา บางแห่งก็บูรณะแล้ว บางแห่งก็ยังมีสภาพรกร้างเดิม ๆ ดิบอยู่

         ปราสาทหินตามชุมชนโบราณขนาดเล็กทั้งหลายนี้ ส่วนใหญ่จะมีสภาพพังทลายไม่สมบูรณ์เพราะต้องผจญกาลเวลามายาวนานกว่าพันปีบ้าง เกือบพันปีบ้าง ปราสาทหินจึงมี “ความไม่สมบูรณ์” ที่หลากหลาย ทั้งแบบที่ยังสร้างไม่เสร็จก็หยุดสร้าง เพิ่งเริ่มสร้างยังไม่ทันแกะสลักลายก็หยุดสร้าง หรือถูกทำลายจากภัยธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหว บ้างก็มีต้นไม้ ป่ารกขึ้นปกคลุมแทนเพราะไม่มีชุมชนมาใช้ประโยชน์หรือมาคอยดูแลรักษา

        บางปราสาท ฐานล่างต้องรับทั้งน้ำฝน ความชื้นและความร้อน ก็ล้วนแต่จะช่วยทำให้หินทรายเกิดปฏิกิริยาพองและกรอบ จึงรับน้ำหนักด้านบนที่กดทับลงมาไม่ไหวก็แตกกร่อนพาให้ด้านบนพังทลายลงมา

        บางปราสาทก็อาจถูกผู้คนในยุคหลังเข้ามารื้อทำลาย ทั้งเพื่อนำหินไปสร้างปราสาทหรือศาสนสถานตามคติความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งการค้นหาทรัพย์สมบัติและโลหะที่มีค่าไปใช้ประโยชน์

        ปราสาทหินและโบราณสถานหลายแห่งล้วนเสื่อมสภาพและพังทลายตามเงื่อนไขที่กล่าวมาทั้งสิ้น บางปราสาทหินก็อาจจะเจอสองเด้งทั้งภัยธรรมชาติและจากน้ำมือของมนุษย์

        

คำว่า “พะโค” มาจากคำว่า “ปะโค” ซึ่งเป็นชื่อเมืองเก่าแก่ในนิทานภาคอีสาน เรื่องหอนางอุษาหรืออุสา-บารส หรืออาจจะมาจากคำเขมรว่า เปรียะโค” แปลว่า “พระโค(วัว)” ชาวบ้านในพื้นที่ปัจจุบันน่าจะเคลื่อนย้ายมาจากทางอีสานเหนือเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว จึงนำชื่อเรียกใหม่สวมทับปราสาทในภายหลังครับ

         สภาพก่อนการบูรณะนั้น ปราสาทมีสภาพเป็นโคกเนินดินทับถมขนาดใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นรกรุงรัง มีกองหิน อิฐและเศษรูปสลักกระจัดกระจายอยู่บนเนิน มีร่องรอยการขุดหาของเก่าหลายหลุม บางโรงเรียนโดยรอบปราสาทได้มานำทับหลังและรูปสลักหินไปเก็บไว้ บางทีก็เป็นบ้านคนมาเก็บไป บางทีก็เป็นวัดมาเก็บ มีการลักลอบนำลายแกะสลักหินที่แตกหักออกจากปราสาทไปบ่อยครั้ง

       ปราสาทพะโคในสายตาในเวลานั้นอยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพอย่างรุนแรง ตามความเห็นและข้อสันนิษฐานของผม ปราสาทหินองค์นี้ เป็นปราสาทที่สวยงามและอลังการที่สุดในบรรดาปราสาททางทิศใต้ของเขตเมืองโคราช อายุของปราสาทอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 15 -16 ฝีมือช่างแกะสลักระดับช่างหลวงคลาสลิค แบบแผนศิลปะเทียบเคียงได้กับศิลปะเกลียงหรือคลังในประเทศกัมพูชา

      นอกจากนี้  บริเวณโดยรอบยังมีสระน้ำ ล้อมรอบ และมีดอกบัวจำนวนมากอีกด้วย

ขอบคุณที่มา  :

วรณัย พงศาชลากร
เรื่องราวทางมานุษยวิทยา ประวัติศาสตร์ โบราณคดี สหวิทยาการและมุม Gossip
Permalink : http://oknation.nationtv.tv/blog/voranai