!!ฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ต้อนรับ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่เมืองย่าโม เยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย

!!ฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ต้อนรับ รมว.แรงงาน ลงพื้นที่เมืองย่าโม เยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อย

วันที่ 4 สิงหาคม 2661 พลตำรวจเอก อดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานนายสุทธิสุโกศลอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงาน  นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา และข้าราชการสังกัดสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมาให้การต้อนรับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เพื่อติดตามโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อย  ที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ  เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิต กระผมนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในนามผู้ดำเนินการฝึกอบรมอาชีพเสริมโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิตขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างสูงที่ได้ให้เกียรติมาตรวจเยี่ยมการฝึกอาชีพฉีดเสริมตามโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐในวันนี้ตามที่รัฐบาลการประเมินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกระทรวงแรงงานได้รับการจัดสรรงบประมาณรายได้เพิ่มเติมประจำปี พ. ศ. 2561 เพื่อใช้สำหรับขับเคลื่อนโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐโดยการพัฒนาทักษะอาชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศจำนวน 625,000คน และจังหวัดนครราชสีมามีผู้มีรายได้น้อยที่ร่วมสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 270 000 คนและแจ้งความประสงค์จะพัฒนาทักษะอาชีพกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 จังหวัดนครราชสีมาจำนวน 2 1 3 4 5 คนและสถาบันฯได้ดำเนินการฝึกไปแล้วจำนวน 5078 คนจำแนกเป็นการฝึกอาชีพเร่งด่วนช่างเอนกประสงค์ช่างชุมชนจำนวน 121 คนผ่านการฝึก 62 คนไม่ผ่านการฝึก 18 คนและรอผลการฝึก 62 คนการฝึกอาชีพเสริมเพื่อการมีงานทำหรือการประกอบอาชีพอิสระจำนวน 4 957 คนผ่านการฝึก 4182 คน ไม่ผ่านการฝึก 139 คนและรอผลการฝึก 636 คนและในวันนี้ได้รับความอนุเคราะห์สถานที่จากท่านพระครูสุกิตติคุณเจ้าอาวาสวัดโคกตลาดเพื่อใช้ในการจัดการฝึกจำนวน3 สาขาได้แก่สาขาการประกอบอาหารไทยการทำขนมไทยและการทำศิลปะประดิษฐ์สาขาละ 1 รุ่นรุ่นละ 20 คนรวมทั้งสิ้น 60 คนฝึกอบรมระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคม 256

“โครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นให้ผู้มีรายได้น้อย  มีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิต  และนำความรู้ทักษะไปประกอบอาชีพ  สร้างรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมเข้าถึงแหล่งทุนในการประกอบอาชีพ และการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม โดยเน้นประชาชนที่ประสบปัญหาความยากจน เพื่อเพิ่มรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ทำให้ประชาชนมีความสุข มีรายได้ที่เพียงพอในการเลี้ยงตน สามารถก้าวผ่านเส้นความยากจน ตามนโยบายของรัฐบาล”  พลตำรวจเอก อดุลย์  แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมและติดตามความคืบหน้าในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา (สพร.5 นครราชสีมา ว่า จังหวัดนคราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนฝึกอาชีพสูงที่สุด โดยมีผู้แจ้งความประสงค์ฝึกอาชีพจำนวน 21,345 คน (ข้อมูลวันที่ 13 ก.ค.61)

ประกอบด้วย ช่างอเนกประสงค์หรือช่างชุมชน จำนวน 1,780 คน และฝึกอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระ 19,565 คน ในการฝึกอาชีพให้กับผู้มีรายได้น้อยนั้น ได้มอบนโยบายให้กับทุกหน่วยงานและเจ้าหน้าที่แล้วว่า ขอให้เน้นคุณภาพ สาขาที่ดำเนินการฝึกต้องสามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยสามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง จะได้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่ภาครัฐต้องทำงานด้วยความเสียสละ และสิ่งสำคัญคือการใช้เงินประมาณต้องเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ภายใต้กฎระเบียบ ต้องทำงานด้วยความโปร่งใสด้วย

รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า สำหรับในภาพรวมการฝึกอาชีพมีแผนดำเนินการจำนวน 390,385 คน ดำเนินการแล้ว 139,305 คน และการลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน และรับฟังปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ด้วย ซึ่งก่อนหน้าที่ได้เดินทางไปติดตามการฝึกอาชีพผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดนครพนม มุกดาหาร ยโสธรและอุบลราชธานีแล้ว ในวันนี้จึงมาติดตามการดำเนินงานของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนฝึกอาชีพสูงสุดอีกด้วย และในวันนี้ สพร. 5 นครราชสีมา มีการฝึกอาชีพ จำนวน 3 สาขา ได้แก่ สาขาการประกอบอาหารไทย สาขาการทำขนมไทย และสาขาการทำศิลปะประดิษฐ์ รวม 60 คน ณ วัดโคกตลาด ต.ตลาด  อ.เมือง จ.นครราชสีมา

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญหนตะวันออก เป็นประธานสงฆ์ในงานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 64 ปี พระครูสังฆรักษ์

สมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าคณะใหญหนตะวันออก เป็นประธานสงฆ์ในงานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคลครบ 64 ปี พระครูสังฆรักษ์
สุรเดช(ครูกฤษณะ อินทวัณโณ) ณ.อาศรมสวนพุทธศาสตร์ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561

ผู้ว่าโคราช !!จัดระเบียบสายสื่อสารในเขตเมืองนครราชสีมา

ผู้ว่าโคราช !!จัดระเบียบสายสื่อสารในเขตเมืองนครราชสีมา

วันที่3สิงหาคม2561โครงการจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมบริษัทไฟฟ้าพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ณสนามศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาอำเภอเมืองจังนครราชสีมา โดยนายวิเชียร จันทรโณทัยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน ปล่อยขบวนรถคณะทำงาน นายสำเริง ขนายกลาง ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมากล่าวรายงาน
สืบเนื่องจากสภาพความไม่เรียบร้อยของสายสื่อสารวันเสาร์ไฟฟ้าส่งผลให้ทัศนียภาพของเมืองโคราชเกิดความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามซึ่งจังหวัดนครราชสีมาได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยการบูรณาการความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนราชการหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภาคเอกชนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนระบบสายสื่อสารและอุปกรณ์สื่อสารโทรคมพลเสาไฟฟ้าให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นระบบสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้กับเมืองโคราชสวยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยส่วนรวมและเพื่อให้มีความเหมาะสมในการเป็นเมืองศูนย์การท่องเที่ยวที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนและน่าเที่ยวและเป็นการเตรียมพร้อมในการพัฒนาเมืองให้เป็นเมืองที่ทันสมัยและน่าอยู่สู่การเป็นโคราช Smart City ในอนาคต
ซึ่งคณะทำงานประกอบด้วยสำนักงานจังหวัดนครราชสีมาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครราชสีมาเทศบาลนครนครราชสีมาบริษัททีโอทีจำกัดมหาชนและผู้ประกอบการทางด้านโทรคมนาคมโดยมีรายละเอียดการดำเนินงานดังนี้1 กำหนดเส้นทางจัดระเบียบสายสื่อสารในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมาทั้งสิ้น 54 เส้นทางความยาวสายสื่อสารรวม 133 กิโลเมตร โดยแบ่งการดำเนินการออกเป็น 9 ระยะ2 วิธีดำเนินการคือหรือสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานหรือเรียกว่าสายใต้ออกจากเสาไฟฟ้าและดำเนินการมัดให้รวบให้เรียบร้อย3ระยะเวลาดำเนินการโครงการเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 และจะสิ้นสุดโครงการในเดือนเมษายน 2562 ในการดำเนินการทั้งนี้เป็นการดำเนินการระยะที่ 1จำนวน 7 เส้นทางประกอบด้วย ถนนกำแหงสงคราม ถนนสรรพสิทธิ์ ถนนอัษฎางค์ ถนนมหาดไทย ถนนจอมพล ถนนยมราชและถนนพลแสน ความยาวสายสื่อสาร 18 กิโลเมตรโดยมีหน่วยงานเข้าร่วมทั้งภาครัฐและเอกชนรวมทั้งสิ้น 20 หน่วยงานและทีมร่วมปฏิบัติงานจากทุกหน่วยงานรวมทั้งสิ้น 167 คน
ภาพ-ข่าว สันติ วงษาเกษ จ.นครราชสีมา

ท้าพิสูจน์ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟ ‘สูตรไข่ล้มยักษ์’ บรรยากาศฟินกินกลางน้ำ

              ท้าพิสูจน์ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟโบราณ สูตรไข่ล้มยักษ์และนำเสนอเมนูพิเศษเล้งรสแซ่บ บรรยากาศฟินนั่งกินริมน้ำ พร้อมของหวานชื่อดัง ‘ลอดช่องวัดเจษฎ์’ พร้อมด้วย ทับทิมกรอบ เฉาก๊วยโบราณ ขายตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. เปิดขายทุกวัน เมนูในร้านมีดังนี้ บะหมี่ไข่ยางมะตูม 35 บาท ก๋วยเตี๋ยวทะเลต้มยำไข่ยางมะตูม 69 บาท ซุปเปอร์เล้งกระดูกหมู 50 บาท และ หม้อไฟทะเลต้มยำไข่ล้มยักษ์ 149 บาท 

 

                นายเกษม เพิ่มพิพัฒน์ อายุ 30 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟโบราณ ‘สูตรไข่ล้มยักษ์’ เล่าว่า ตนเองนั้นมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่ว่าเป็นคนชอบทำอาหารและชอบกินก๋วยเตี๋ยว เพราะเดินทางไปหลายที่ประกอบกับอยากได้ที่นัดพบเพื่อนฝูง จึงได้คิดและมองหาเห็นว่าละแวกบ้านมีบ่อน้ำธรรมชาติ ทำเลดี จึงคิดมาทำร้านก๋วยเตี๋ยวโดยใช้ชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวหม้อไฟโบราณ ‘สูตรไข่ล้มยักษ์’ สูตรโบราณมาจากคุณแม่ ประกอบกับอยากเอาใจลูกค้าที่ชอบความแปลกใหม่และกินจุเชื่อว่าต้องถูกใจแน่นอน พ่วงด้วยบรรยากาศของร้านตั้งอยู่ริมน้ำรายล้อมไปด้วยท้องนาและท้องน้ำ นอกจากนี้ทางร้านยังจัดมีที่นั่งกลางน้ำ สามารถนั่งห้อยขาได้ไว้บริการอีกด้วย ทำให้ลูกค้าที่มาแล้วต้องกลับมาอีกเนื่องจากรสชาติอร่อยราคาไม่แพงแถมบรรยากาศดี

นายเกษม เพิ่มพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเปิดมามาแล้ว 6 เดือน สร้างยอดขายกว่าหมื่นบาทต่อวัน และเมนูในร้านที่มีประกอบไปด้วย บะหมี่หมูแดง+ไข่ยางมะตูม 35 บาท ก๋วยเตี๋ยวทะเลต้มยำ+ไข่ยางมะตูม 69 บาท ซุปเปอร์เล้งกระดูกหมู 50 บาท และ หม้อไฟทะเลต้มยำไข่ล้มยักษ์ 149 บาท สามารถทานได้ 4 คน หรือลูกค้าที่มาแบบหมู่คณะก็สามารถสั่งแบบยกเซ็ทเลยก็ได้ ราคาเพียง 350 บาท (ประกอบไปด้วย บะหมี่หมูแดง+ไข่ยางมะตูม,ก๋วยเตี๋ยวทะเลต้มยำ+ไข่ยางมะตูม,ซุปเปอร์เล้งกระดูกหมู,เกาเหลาหม้อไฟรวม, หม้อไฟทะเลต้มยำไข่ล้มยักษ์ และของหวาน ลอดช่องวัดเจษฎ์ ทับทิมกรอบวัดเจษฏ์, สลิ่มไทยวัดเจษฎ์ และเฉาก๊วยโบราณ ) ทั้งหมดนี้ราคาเพียง 350 บาท

หากลูกค้าท่านใดสนใจอยากไปลองลิ้มชิมรสและสัมผัสบรรยากาศริมนั่งทานริมน้ำหรือกลางน้ำ สามารถจองที่นั่งติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 093-4899923 (คุณเกษม) หรือติดตามแฟนเพจเฟสบุ๊ก พิมพ์คำว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวไข่ล้มยักษ์’ หรือสามารถเดินทางมาที่ร้าน ร้านตั้งอยู่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา สังเกตง่ายๆร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือก่อนถึงวัดหนองจอก และ วัดสมานมิตรเพียง 200 เมตร

ผู้ว่าเปิดอบรมจริยธรรมหนุนนำชีวิต

             ‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป