ชาวนาโคราช ร่วมแรงสามัคคีตากข้าวพื้นถนน ไม่จ้างคนงานลดต้นทุน เร่งเก็บผลผลิตหนีฝนหลงฤดู

  ชาวนาโคราชสุดช้ำใจพิษภัยแล้ง ร่วมแรงสามัคคีตากข้าวพื้นถนน ไม่จ้างคนงานลดต้นทุน เร่งเก็บผลผลิตหนีฝนหลงฤดู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ บ้านโคกพะงาด ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ต่างนำข้าวที่พึ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตมาตากกับผ้าเขียวบนถนนกลางหมู่บ้านเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร โดยมีผ้าดางหรือตาขายเขียวรองพื้นพร้อมกับผ้าใบเตรียมไว้ปกคลุมป้องกันฝน หลังจากในช่วงนี้ พบมีฝนหลงฤดูตกลงมาเป็นระยะ

จากการสอบถาม นางสมจิตร ศรีสุขกลาง อายุ 60 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ในปีนนี้ฝนไม่ค่อยดี ชาวนาได้ข้าวไม่ค่อยมาก มีเพียงชาวนาที่มีที่นาติดลำน้ำที่ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย บางรายได้เพียงพอทำข้าปลูก หรือทำพันธุ์ข้าวในปีหน้า เกษตรกรส่วนใหญ่จึงต้องหาทางลดต้นทุนการผลิต ไม่สามารถจ้างคนงานมาทำได้ทุกอย่างเหมือนทุกปี จึงต้องอาศัยความสามัคคีในหมู่บ้าน ขอแกรงมาช่วยกันทำช่วยกันตากข้าว รีบทำแต่ละเจ้าให้เสร็จโดยไม่ได้มีการว่าจ้างกันแต่อย่างใด ใครเป็นเจ้าภาพก็ลงทุนซื้อของมาเลี้ยงกันไปเพื่อให้สามารถตากได้เร็วขึ้นเสร็จไวขึ้น เพื่อจะให้ชาวนารายอื่นมาตากต่อ และยังเป็นการลดต้นทุนด้วย เนื่องจากไม่สามารถจ้างได้ทุกอย่างเพราะในปีนี้ได้ข้าวไม่มากจากพิษภัยแล้งจึงไม่มีเงินที่จะไปจ้างคนงานเพราะข้าวที่ได้ไมมากพอที่จะนำไปขายบางรายได้เพียงพอได้เป็นพันธุ์ข้าวในปีต่อไปเท่านั้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีฝนหลงฤดูตกบ่อยครั้ง จึงต้องใช้ถนนกลางหมู่บ้านที่มีความร้อนมากในช่วงกลางวันเป็นที่ตากข้าวจะได้แห้งเร็ว ๆ และขอแรงจากเพื่อนบ้านมาช่วยกันตากมาช่วยกันเกลี่ยเพื่อกลับเมล็ดข้าวที่ตากไว้เพื่อให้แห้งเร็ว ๆ จะได้รีบเก็บได้ทันก่อนถูกฝนตกใส่เสียหายอีก

https://www.youtube.com/watch?v=j4OyPAIaxX0&feature=youtu.be

 

 สาวเชียงใหม่บุกถิ่นเมืองย่าโมสร้างสวนสตอเบอรี่เป็นจุดเชคอินให้เข้าชมเชลฟี่ฟรีหารายได้จากขายของฝากทำเงินช่วงไฮท์ซีซั่น

สาวเชียงใหม่บุกถิ่นเมืองย่าโมสร้างสวนสตอเบอรี่เป็นจุดเชคอินให้เข้าชมเชลฟี่ฟรีหารายได้จากขายของฝากทำเงินช่วงไฮท์ซีซั่น ส่งเสริมการขายด้วยวิธีการทันสมัยให้ลูกค้าเชคอินโพสภาพแถมต้นสตอเบอรี่กลับบ้านฟรี

ที่ อ.วังน้ำเขียว  จ.นครราชสีมา เมื่อเข้าฤดูหนาว พบว่ามีหลายจุดทำการจัดสร้างสวนดอกไม้ต่าง ๆ เตรียมนักท่องเที่ยว รวมทั้งสวนสตอเบอรี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยวถือเป็นอีกสถานที่ยอดนิยมอีกอย่างที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้ามาสร้างชื่อให้ อ.วังน้ำเขียว เนื่องจากเจ้าของสวนส่วนใหญ่เป็นชาวเชียงใหม่

สวนสตอเบอรี่ อิชิโกะ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่เขตพื้นที่ หมู่ 3 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตั้งอยู่ติดถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งจุดเชคอินที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพรวมทั้งทำกิจกรรมเก็บลูกสตอเบอรี่เป็นของฝากซึ่งในช่วงนี้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวพบว่ามีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางแวะเที่ยวชมเก็บภาพเป็นที่ระลึกร่วมทั้งซื้อสตอเบอรี่กลับเป็นของฝากกันไม่ชาดสาย

จากการสอบถาม นางจันทิมา ธรรมชาติอุดม อายุ 27 ปี ชาวตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของสวนสตอเบอรี่ อิชิโกะ บอกว่า สตอเบอรี่ ถือเป็นผลิตผลที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ต่อมาได้มีการนำออกไปเผยแพร่ยังพื้นที่อื่นโดยเฉาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม รวมทั้งวังน้ำเขียว ก็เป็นจุดหนึ่งที่มีชาวเชียงใหม่ที่มีความรู้ในการปลูกสตอเบอรี่มาตั้งหลักปักฐานทำสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีมีรายได้จากการขายสตอเบอรี่จากสวนและของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสตอเบอรี่จากเชียงใหม่ จำบวก น้ำสตอเบอรี่ ไวน์สตอเบอรี่ และสินค้าอื่น ๆ

วิธีการทำสวนสตอเบอรี่ ตนจะทำการต้นกล้าที่เชียงใหม่กล้าไว้ตั้งแต่ช่วยเดือนเมษายนจนถึงสิหาคมจะขนย้ายมาลงปลูกในกระถางที่วังน้ำเขียวช่วงเดือนกันยายน เพื่อให้ออกผลทันช่วงหน้าหนาว โดยลงทุนทั้งหมดทั้งเช่าที่ ที่จัดสวน ตกแต่งสวน รวมทั้งซื้อของที่เป็นของฝากไว้จำหน่ายต้องลงทุนไป 4-5 แสนบาท หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือยังมีนักท่องเที่ยวมามากเหมือนทุกปีจะมีกำไรจากการทำสวนสตอเบอรี่เกือบเท่าตัว โดยในช่วงนี้ก็เริ่มมีผลออกและสามารถเปิดให้เข้าเที่ยวชมฟรีได้แล้ว

โดยส่วนใหญ่จะให้เข้าถ่ายภาพฟรี และสามารถเก็บสตอเบอรี่สด ๆ จากต้นมาซื้อเป็นขอบฝากกลับบ้านได้ขีดล่ะ 60 บาท โดยในช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ มาเที่ยวที่สวนนี้เชคอินและโพสต์ในเฟสฯ จะมีต้นกล้าสตอเบอรี่ขนาดเล็กเป็นของฝากให้ฟรี ๆ ด้วย 1 ต้น

!รำลึกครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา1 ธ.ค.นี้ โชว์ศักยภาพโรงเรียนหมายเลขหนึ่งของโคราช รวมพลศิษย์เก่าพบปะ สร้างความรักสามัคคี

 

วันนี้ (16 พ.ย.)  ที่ ห้องประชุม English Program โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลเอก ดร. มารุต    ลิ้มเจริญ   นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ประธานมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา  ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา  พร้อมด้วยนายปฏิพัทธิ์ ทองเทียนวิเศษ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา และคณะกรรมการสมาคมฯ  ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “76 ปี อนุบาลดอกบัว” 

เพื่อให้เห็นศักยภาพของโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ทางสมาคมฯ จึงกำหนดจัดงาน  “76 ปี อนุบาลดอกบัว”  โดยมุ่งหวังให้ศิษย์เก่าได้พบปะ ร่วมกิจกรรมในรูปแบบ STAY CONNECTED รายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา  เพื่อเป็นการหารายได้ในการจัดงานครั้งนี้ให้เพียงพอต่อการสนับสนุนกิจกรรมขึ้น ในวันเสาร์ที่ 1 ธันวาคม 2561  ณ ลานนวมินทร์  สวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหารายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลของสมาคมฯ และเป็นการ OPEN  HOUSE โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ทั้งในรูปการแสดงนิทรรศการ เพื่อเป็นการรำลึกครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาหลักในระดับประถมศึกษาของชาวจังหวัดนครราชสีมา 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา  ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุน  แก่โรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ในด้านงบประมาณและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษาเพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนของโรงเรียนสู่ความเป็นเลิศด้านวิชาการ คุณธรรม และจริยธรรม  ทำให้โรงเรียนเป็นที่รู้จักและยอมรับในคุณภาพการศึกษา ผลิตบุคลากรออกสู่สังคมแล้วนับไม่ถ้วน มีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงในระดับภูมิภาคและระดับประเทศในทุกสาขาอาชีพ ถือว่าโรงเรียนแห่งแรกในชีวิตที่อยู่ในระบบการศึกษาของประเทศไทย

ภายในงานจะมีกิจกรรมสำคัญคือการแสดงของเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา , การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง เช่น จิ๊บ  ร.ด. วสุ แสงสิงแก้ว  และ สุนทร  สุจริตฉันท์ การแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของโรงเรียนอนุบาลนครนครราชสีมา จากอดีตจนถึงปัจจุบัน และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

พลเอก ดร. มารุต    ลิ้มเจริญ   นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ประธานมูลนิธิโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา  ประธานกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา กล่าวว่า  “รายได้ที่เกิดจากการจัดงานครั้งนี้ จะนำไปสนับสนุนกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนของนักเรียน เช่น ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีประพฤติดี นักเรียนขาดแคลน มีการมอบทุกปี สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน เช่น จ้างครูต่างชาติสอนห้องปกติ  สนับสนุนนักเรียนในกิจกรรมอ่านออก  เขียนได้ อ่านคล่อง เขียนคล่อง  เป็นรางวัลนักเรียนนำชื่อเสียงมาสู่โรงเรียนสนับสนุนกิจกรรมต่างๆที่โรงเรียนจัดขึ้น และสมทบทุนการศึกษามูลนิธิโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา ถือว่างานนี้ได้ทั้งความสนุกที่จะได้มาพบปะเพื่อนเก่า และยังได้ช่วยการศึกษาของเด็ก ๆ และเยาวชนรุ่นลูกรุ่นหลานให้สร้างชื่อเสียงแก่โรงเรียนและส่งต่อไปยังรุ่นอื่น ๆ ถือว่าเป็นงานใหญ่ของโรงเรียนที่จัดขึ้นในรอบ 6 ปี จึงขอเชิญชวนศิษย์เก่าหรือผู้สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย”ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผอ.ร.ร.อนุบาลนครราชสีมานำสื่อมวลชนขึ้นตึกพร้อมดูการรับประทานอาหารกลางวันของเด็กๆร.ร.อนุบาลนครราชสีมา ปรากฏว่าอาหารกลางวันวันของเด็กๆมีกับข้าวสามอย่างและผลไม้และเด็กก็ทานอาหารได้อย่างครบหมู่อีกด้วย

 

งานใหญ่ประจำปี 2561 สายปั่นต้องไม่พลาด “ อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ระยะเส้นทาง 45 กม ” 9 ธ.ค 2561

งานใหญ่ประจำปี 2561 สายปั่นต้องไม่พลาด “ อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ระยะเส้นทาง 45 กม ” 9 ธ.ค 2561 มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้.

๑. กิจกรรมปั่นจักรยาน จะกระทำภายหลังการเปิดงาน “งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ในวันอาทิตย์ที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕๐๐ โดยมีรายละเอียด ดังนี้.-
๑.๑ กิจกรรมปั่นจักรยาน จุดเริ่มต้นจากพื้นที่พระลานพระราชวังดุสิตถึงคลองลัดโพธิ์ รวมระยะทางไป-กลับ ๔๕ กม.
๑.๒ เส้นทางขาไปจำนวน ๒๑ กม. ขากลับ จำนวน ๒๔ กม. รวมระยะทาง ๔๕ กม. ใช้เวลา ๒ ชม. ๑๕ นาที รวมเวลาพักระหว่างทางแล้ว ประมาณ ๓ ชม.

๒. ขบวนปั่นจักรยาน ประกอบด้วย ๓ ขบวน
๒.๑ ขบวน A นำโดย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พร้อมผู้ร่วมขบวน จำนวน ๔๐๐ นาย
๒.๒ ขบวน B นำโดย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พร้อมผู้ร่วมขบวน จำนวน ๔๐๐ นาย
๒.๓ ขบวน C นำโดย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ พร้อมผู้ร่วมขบวน จำนวน ๔๐,๐๐๐ คน (ผู้ร่วมปั่นพร้อมครอบครัว)

๓. พื้นที่พักระหว่างทาง กำหนดในทุก ๆ ระยะ ๑๐ กม.

๔. พื้นที่ลงทะเบียน จำนวน ๓ จุด คือ.-
๔.๑ พื้นที่ พระลานพระราชวังดุสิต
๔.๒ แยกพระประแดง
๔.๓ คลองลัดโพธิ์

๕. การแบ่งมอบ ความรับผิดชอบ มีดังนี้.-
๕.๑ บก.ทท. และเหล่าทัพ จัดการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม จัดทำบัตรบุคคลสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ และแท็ค ติดจักรยาน การแจกจ่ายเสื้อพระราชทาน รวมทั้งการควบคุมการปล่อยขบวนจักรยาน ชุด C
๕.๒ ทม.รอ. และ พล.๑ รอ. สำรวจและกำหนดจุดพักระหว่างทางในทุก ๆ ๑๐ กม.
๕.๓ ตร. ควบคุมการจราจรตลอดเส้นทางการปั่นจักรยาน
๕.๔ พล ๑ รอ., ทภ. ๑ รับผิดชอบการควบคุมบังคับบัญชา การติดต่อสื่อสาร การจัดตั้ง กอ.รปภ.ร่วม รวมถึงการสำรวจสถานภาพกล้อง CCTV ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยาน

CR.Thai Rescue Volunteer Broadcast Tv

โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา จัดกิจกรรม  OPEN HOUSE

โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา จัดกิจกรรม  OPEN HOUSE   โดยเป็นการเปิดบ้านเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท 

ทั้งนี้โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญู มาให้ความรู้ในเรื่องการช่วยเหลือตนเอง และคนอื่น โดยมีการจัดฐานการให้ความรู้ทั้งสิน  7 ฐาน

สำหรับภายในพื้นที่โรงเรียนจะมีทั้งโรงอาหาร โรงจอดรถ  สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ห้องดนตรี ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์เป็นต้น ตั้งเป้ารับนักเรียนเทอมแรก 400 คน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น อนุบาล–ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) เบื้องต้นเป็นโรงเรียนไปกลับก่อน และอนาคตอาจพัฒนาเป็นโรงเรียนประจำ

นอกจากนี้โรงเรียนนานาชาติ “แองโกล สิงคโปร์” ยังมีกิจกรรมให้เด็กๆได้ทำควบคู่หลักสูตรการสอน ให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น “การร้องเพลง แสดงละครเวที และศิลปะ” ที่จะสามารถสร้างจินตนาการ สุนทรีย์ด้านต่างๆได้ ไม่เครียดกับการเรียนมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้ว่า ลูกๆจะเป็นคนเก่งทั้งด้านวิชาการและ สามารถทำกิจกรรมทางด้านศิลปะได้อย่างกลมกลืน

โรงเรียนนานาชาติ “แองโกล สิงคโปร์” ตั้งบนที่ดิน 11 ไร่ข้างซิตี้ลิงค์คอนโดของกลุ่มทุนท้องถิ่น บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท ซึ่งสถานที่ตั้งโรงเรียนสามารถเข้า-ออกได้ 3 ทางทั้งถนนมิตรภาพติดโชว์รูมนิสสันผ่านถนนมานะศิลป์ หรือเข้าทางถนนบายพาสข้างโฮมโปร และถนนสุรนารี2 ผ่านถนนพันธ์สายเชื้อ เป็นโรงเรียนนานาชาติสมบูรณ์แบบแห่งแรกกลางใจเมืองโคราช ก่อนถึงห้างเดอะมอลล์โคราช

 

ชาวนาโคราชเฮ โครงการลำตะคอง จัดเต็ม ปล่อยน้ำดิบ 48 ล้าน.ลบ.เมตร ให้ทำนาปรังในปี 62

ชาวนาโคราชเฮ โครงการลำตะคอง จัดเต็ม ปล่อยน้ำดิบ 48 ล้าน.ลบ.เมตร ให้ทำนาปรังในปี 62

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงานชลประทานที่ 8 (ชป.8) นครราชสีมา นายศักดิ์ฤทธิ์  สลักคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายวิวัฒน์  ฐิติรัตนอัศว์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา ชป.8 นครราชสีมา และนายชยุธพงศ์  อำรุงสุข ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ร่วมจัดประชุมคณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ลุ่มน้ำลำตะคอง โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กลุ่มผู้ใช้น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปากช่อง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ รวม 80 แห่ง รับฟังการชี้แจงสถานการณ์น้ำดิบในเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว

ล่าสุดมีปริมาณรวม 263 ล้าน ลบ.เมตร หรือ 83 % ของพื้นที่เก็บกัก 314 ล้าน ลบ.เมตร เพื่อขอมติพิจารณาแผนการบริหาร จัดการน้ำในปี 62 ให้ประชาชนในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปากช่อง,อ.สีคิ้ว,อ.สูงเนิน,อ.ขามทะเลสอ,อ.เมือง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวนกว่า 6 แสนคน มีน้ำอุปโภค บริโภคได้อย่างพอเพียง

นายชยุงพงศ์ ฯ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เปิดเผยว่า สถานการณ์รวมของฤดูฝนที่ผ่านมา น้ำต้นทุนในเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณค่อนมากในรอบหลายปี โดยเฉพาะพื้นท้ายเขื่อน ฯ มีฝนตกในเกณฑ์ดี โครงการ ฯ จึงสามารถกักเก็บน้ำดิบที่ไหลมาเติมจากผืนป่ามรดกโลก ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ได้เต็มที่ มติที่ประชุมจึงเห็นชอบให้จัดสรรน้ำดิบในทุกกิจกรรม เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 61 ถึง วันที่ 30 เมษายน 62 หรือในรอบ 6 เดือน ก่อนถึงฤดูแล้งในปีหน้า กำหนดปริมาณน้ำ 140 ล้าน.ลบ.เมตร โดยเฉพาะภาคเกษตรจัดสรรน้ำ 48 ล้าน ลบ.เมตร ให้ทำนาปรังถือเป็นปริมาณน้ำที่จัดสรรให้ชาวนามากที่สุดในรอบ 10 ปี กำหนดพื้นที่ในเขตชลประทานลำตะคอง  27,000 ไร่ เพื่ออุปโภค บริโภค 29 ล้าน ลบ.เมตร อุตสาหกรรม 6 ล้าน ลบ.เมตร รักษาระบบนิเวศน์ 31 ล้าน ลบ.เมตรและกิจกรรมอื่นๆ 26 ล้าน ลบ.เมตร เริ่มตั้งแต่ 1 ธันวาคม ระบายน้ำในอัตรา 5 ลบ.เมตรต่อวินาทีหรือวันละ 6 แสน ลบ.เมตร แต่เป็นประจำทุกปี การทำนาปรังได้ขยายเพิ่มจนเกินที่กำหนดไว้ เจ้าหน้าที่ชลประทานมิได้นิ่งนอนใจได้ลงพื้นที่เพื่อชี้แจง ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจร้องขอให้ทำนาปรังอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ โดยหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย เช่นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามที่รัฐบาลสนับสนุนสามารถปลูกได้ไม่จำกัด อย่างไรก็ตามมาตรการประหยัดน้ำยังถือเป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนมีน้ำอุปโภค บริโภคได้พอเพียงจนผ่านช่วงฤดูแล้ง โดยมีข้อกำหนดแผนการใช้น้ำ เมื่อถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 62 น้ำดิบในเขื่อนลำตะคอง จะต้องมีปริมาณไม่ต่ำกว่า 120 ล้าน.ลบ.เมตร

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พรรคเสรีรวมไทยชู้มือตั้งเป้าภาคอีสานไม่น้อยกว่า 10 ล้านเสียง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พรรคเสรีรวมไทยชู้มือตั้งเป้าภาคอีสานไม่น้อยกว่า 10 ล้านเสียง

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร.หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เดินทางมาเปิดที่ทำการสาขาพรรคเสรีรวมไทย ที่อาคารสำนักงานอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีตัวแทนสมาชิกพรรคเดินทางมาเข้าร่วมประชุม โดยนายวัชรา ณ.วังขนาย อดีต ส.ส.จังหวัดนครราชสีมา เลขาธิการพรรค นพ.ประสงค์ บูรณะพงศ์ อดีต สส.จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเปิดรับสมัครสมาชิกไปพร้อมกับการเลือกคณะกรรมการบริหารสาขาพรรคฯ 500 คนและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคเสรีรวมไทย พื้นที่ 20 จังหวัดของภาคอีสาน จำนวนกว่า 100 คน โดย

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าพรรคเสรีรวมไทย ได้เน้นนโยบายของพรรค คือ ปลดล็อคประเทศไทย หยุดความยากจน หยุดผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด หยุดการคอรัปชั่น หยุดเผด็จการ หยุดไฟใต้ และหยุดแยกสีเสื้อ เน้นย้ำให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นตามประกาศของรัฐบาลปัจจุบัน และมีความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ จะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในภาคอีสานไม่น้อยกว่า 10 ล้านเสียง และยืนยันว่าจะไม่ร่วมมือกับพรรคการเมืองที่มีคราบหรือตัวแทนของกลุ่มเผด็จการอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่าที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีพลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์มาสักการะกับคุณย่าโมมีคนจำนวนไม่ต่ำกว่า 20 คนมาให้กำลังใจโดยการนำดอกไม้กุหลาบช่อแดง มามอบเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้สมัครว่าที่ส.ส. ของพรรคภาคอีสานทุกๆคนโดยการโห่ร้องว่าสู้ๆพลพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์สู้ๆณ ที่หน้าลานย่าโมจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

 

ชาวบ้าน สุดงง!!! โครงการวางท่อน้ำเพื่อการเกษตรชะงัก เหตุเพียงชาวบ้านรายเดียวร้องทุกข์ขัดโครงการ

ชาวบ้าน สุดงง ??? โครงการวางท่อน้ำเพื่อการเกษตรชะงัก เหตุเพียงชาวบ้านรายเดียวร้องทุกข์ขัดโครงการ ทั้งที่เจ้าของที่ก็เป็นสมาชิกขอใช้น้ำจากโครงการนี้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาบ้านสระมะค่า ต.หนองไม้ไผ่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาการหยุดชะงักของโครงการเดินทางท่อส่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อสำรวจที่มาของปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีชาวบ้านรายหนึ่งได้เดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ดำเนินโครงการวางท่อส่งน้ำเพื่อการเกษตรว่าได้ทำลายทรัพย์สิน ซึ่งเป็นมันสำปะหลังในระหว่างการปฏิบัติงาน  ทั้งที่พื้นที่การดำเนินโครงการนั้นอยู่ในเขตทางสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน จึงทำให้โครงการที่กำลังจะแล้วเสร็จอีกไม่กี่วันจะต้องหยุดชะงักไปโดยไม่มีกำหนด

โดยจากการสำรวจในเบื้องต้นขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองไม้ไผ่ พบว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่องจาก  โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร ของทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำบาดาลเสร็จสิ้นแล้วเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และเหลือเพียงการดำเนินการวางท่อส่งน้ำให้กับเกษตรกรในพื้นที่ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรเศษเท่านั้น  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการขุดแนววางท่อและกลบฝัง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ดำเนินการไปได้เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงพื้นที่ตัดผ่านหน้าไร่มันสำปะหลังของชาวบ้านรายสุดท้ายรายเดียวเท่านั้นที่มีปัญหา เนื่องจากผู้ดำเนินโครงการคือนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไม้ไผ่ ถูกทางผู้อ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินและเจ้าของมันสำปะหลังที่กำลังให้ผลผลิต ร้องทุกข์ไปยังทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองบุญมาก ว่าได้ทำลายทรัพย์สินซึ่งเป็นมันสำปะหลังได้รับความเสียหาย จึงทำให้โครงการดังกล่าวหยุดชะงัก  ขณะที่ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไม้ไผ่เองก็ยืนยันว่าแนวที่ขุดทำแนววางท่ออยู่ในเขตทางสาธารณะประโยชน์ของหมู่บ้าน ไม่ได้เข้าไปถึงที่ดินของชาวบ้านแต่อย่างใด อีกทั้งจากสภาพการขุดแนวท่อก็ไปถูกหัวมันสำปะหลังของชาวบ้านเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีหลายรายต้องเจอปัญหาเดียวกัน แต่ก็ไม่มีใครออกมาร้องเรียน เพราะถือว่าการวางระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตรกรนั้นจะได้รับผลประโยชน์ส่วนรวมกันถ้วนหน้าทั้งหมู่บ้าน

นายสาคเรศ สิงห์ผักแว่น อายุ 48 ปี หนึ่งในชาวบ้านสระมะค่า ตำบลหนองไม้ไผ่  เล่าว่า การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นประโยชน์สาธารณะที่จะได้ประโยชน์กันทั้งหมู่บ้านของตนเองและหมู่บ้านใกล้เคียง เพราะเดิมทีบริเวณนี้เป็นแปลงเกษตรที่ใช้ปลูกพืชและขาดน้ำในการดำเนินการ ทำให้ผลผลิตเติบโตได้ไม่เต็มที่ เมื่อทางภาครัฐเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงเกิดปัญหาขึ้น ทั้งที่รายอื่นๆก็ไม่มีปัญหา และผลผลิตที่อ้างว่าถูกทำลายนั้น เท่าที่ช่วยกันสำรวจก็มีเพียงเล็กน้อยและอาจจะปลูกบุกรุกเข้ามาในทางสาธารณะด้วยซ้ำ จึงอยากให้หาทางจบเรื่องนี้โดยเร็ว เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ใช้น้ำโดยเร็วที่สุด

ทางด้านนายอานนท์ หาญสูงเนิน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไม้ไผ่  เปิดเผยว่าโครงการนี้เหลือเพียงแค่การขุดและและกลบฝังท่อส่งน้ำเท่านั้น และเหลือเพียงบริเวณที่ผ่านไร่มันสำปะหลังของผู้ที่ไปร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรายเดียวเท่านั้นส่วนรายอื่นก็ไม่มีปัญหาและได้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้  ซึ่งหากไม่เกิดปัญหานี้ขึ้นในวันนี้ชาวบ้านคงได้ใช้น้ำจากโครงการนี้แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะจาการสำรวจก่อนเริ่มดำเนินโครงการก็ไม่มีปัญหา อีกทั้งเจ้าของที่ดินเองก็ลงชื่อเข้าร่วมเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ที่มีความประสงค์ใช้น้ำจากโครงการนี้ด้วย  แต่กลับมีชาวบ้านอีกคนอ้างสิทธิเป็นเจ้าของมันสำปะหลังในที่ดินตรงนั้นไปร้องทุกข์ ทำให้โครงการต้องหยุดชะงัก ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยืนยันว่าทำทุกอย่างตามระเบียบถูกต้อง และจะเดินหน้าทำโครงการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นเพื่อพี่น้องประชาชน

>คลิป<<

ผู้ว่าโคราช ประชุมเตรียมงาน ปั่นBikeอุ่นไอรัก…ให้ก้องโลก

ปั่นBikeอุ่นไอรัก…ให้ก้องโลก

12 พฤศจิกายน 2561 ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ผู้ว่าฯวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯทั้ง 4 ท่าน ประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก”       ของจังหวัดนครราชสีมา ที่กำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 9 ธันวาคม 2561   กำหนดปั่นจักรยานเส้นทางไป-กลับ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 – มทส เริ่มเวลา 15.30 น. ระยะทางยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นอยู่ระหว่าง 20 – 30 กิโลเมตร โดยเฉพาะระยะทางภายใน มทส. ระหว่างปั่น มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ภายในพื้นที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีโรงทานให้บริการ จุดพักรับน้ำดื่ม สำหรับกำหนดวันและวิธีการลงทะเบียน รวมถึงเส้นทางภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะเป็นอย่างไร ทีมงาน ส.ปชส.นครราชสีมา จะนำรายละเอียดมาบอกกล่าวต่อไป…งานนี้ขาปั่น เตรียมความพร้อมทั้งคนและรถจักรยานเตรียม #Bikeอุ่นไอรัก

ห้องประชุมหลวงพ่อคูณปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดฯทั้ง 4 ท่าน พร้อมด้วย ประธานสโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา  และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเตรียมการจัดกิจกรรม “Bike อุ่นไอรัก”       ของจังหวัดนครราชสีมา ที่กำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศ 9 ธันวาคม 2561   กำหนดปั่นจักรยานเส้นทางไป-กลับ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวา 2550 – มทส เริ่มเวลา 15.30 น. ระยะทางยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นอยู่ระหว่าง 20 – 30 กิโลเมตร โดยเฉพาะระยะทางภายใน มทส. ระหว่างปั่น มีกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปล่อยปลา ภายในพื้นที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มีโรงทานให้บริการ จุดพักรับน้ำดื่ม สำหรับกำหนดวันและวิธีการลงทะเบียน รวมถึงเส้นทางภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จะเป็นอย่างไร ทีมงาน ส.ปชส.นครราชสีมา จะนำรายละเอียดมาบอกกล่าวต่อไป…งานนี้ขาปั่น เตรียมความพร้อมทั้งคนและรถจักรยานเตรียม #Bikeอุ่นไอรัก

สื่อภาคอีสานเดินหน้าปั้น “นักข่าวมือถือ” รุ่นที่ 2 สร้าง Content ให้โดนใจ

สื่อภาคอีสานเดินหน้าปั้น “นักข่าวมือถือ” รุ่นที่ 2 สร้าง Content ให้โดนใจ

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน เดินหน้าปั้นนักข่าวมือถือ รุ่นที่ 2 ต่อยอด “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ พัฒนา คุณภาพชีวิตสู่ไทยแลนด์ 4.0” เรียนรู้การทำ Content Marketing แบบ Storytelling และการเสวนาเรื่อง “สังคมสูงวัย” โดย รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

พ.ท.พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน เปิดเผยว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการ โครงการพัฒนาศักยภาพสื่อมวลชนภาคอีสานครั้งที่ 2/2561 เรื่อง “นักข่าวมือถือ มืออาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตสู่ไทยแลนด์ 4.0” ระหว่างวันที่  23 – 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ณ โรงแรมเพชรเกษม แกรนด์ ถนนจิตรบำรุง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีผู้ลงชื่อเข้ารับการอบรมในครั้งนี้ 68 คน มาจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน สระบุรี และสมุทรปราการ ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เคยผ่านการอบรมในครั้งที่ 1 ที่ จ.นครราชสีมา มาแล้ว

ในการอบรมครั้งที่ 2 นี้ จะเป็นการต่อยอดความรู้เดิม และสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้ผู้เข้ารับการอบรม ในการใช้โทรศัพท์มือถือ เรียนรู้วิธีการถ่ายภาพและตัดต่อ การทำ Mobile Journalism, และการลำดับภาพผ่าน Application KineMaster โดยทีมวิทยากรกระบวนการผลิตสื่อมืออาชีพ นายกุลพัฒน์ จันทร์ไกรลาศ (อาจารย์ต่อง)  ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสื่อ, อาจารย์จำรัส จันทนาวิวัฒน์, อาจารย์สืบพงษ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต (กลุ่มพลังแห่งต้นกล้า), คุณวิทยา จิรัฐติกาลสกุล (กลุ่มสื่อสุขสันต์) และคุณอุมาพร ตันติยาทร โปรดิวเซอร์ รายการสารคดีโทรทัศน์ บริษัท บุญมีฤทธิ์ จำกัด

การทำ Content Marketing แบบ Storytelling และการทำการตลาดในสื่อออนไลน์ โดย อ.จารุณี นวลบุญมา หัวหน้าสำนักประชาสัมพันธ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มข. บรรยายพิเศษ “ภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป” โดย นายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และการเสวนา เรื่อง “สังคมสูงวัย” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และอาจารย์กรรณิการ์ บันเทิงจิตร

นอกจากนี้ในวันที่ 2 ของการอบรม ผู้อบรมทุกคนจะได้ลงพื้นที่ฝึกปฏิบัติจริง เพื่อผลิตผลงานคลิปวิดีทัศน์ผ่าน Smartphone เป็นสารคดี, สารคดีเชิงข่าว หรือภาพยนตร์สั้น ความยาว 4 นาที ในประเด็นหัวข้อที่ใช้ฝึกปฏิบัติการทั้ง 4 หัวข้อ ได้แก่ ประเด็นรองรับผู้สูงวัย, ประเด็นกลุ่มอ่อนไหวและเปราะบาง, ประเด็นสิ่งแวดล้อมในชุมชน และประเด็นปัญหาปัจจัยเสี่ยงในชุมชน

“การอบรมนักข่าวมือถือ มืออาชีพ เพราะเทคโนโลยีขณะนี้เข้ามามีบทบาทในการรายงานข่าวค่อนข้างมาก เมื่อมาอบรมแล้วเราจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานที่เราทำได้ เราไม่ได้แค่ทำหน้าที่รายงานข่าวที่เกิดขึ้นอย่างเดียว เรามีหน้าที่โดยตรง ในการนำเสนอข้อเท็จจริง นำความประจักษ์ให้เกิดขึ้นแก่สังคม ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างหลอมรวมกันแล้ว อย่าคิดว่าเราเป็นทีวี เป็นหนังสือพิมพ์ เป็นวิทยุ หรือเป็นออนไลน์ แต่คอนเทนท์ต้องเป็นคอนเทนท์ เพราะถ้าสื่อไม่ก้าวทันเทคโนโลยีแล้ว ก็จะไม่ทันต่อการตอบสนองของผู้บริโภค จึงต้องเสริมทักษะตรงนี้เพิ่มเติม ซึ่งความสำคัญที่สุดของคนทำสื่อคือ การบริการสาธารณะ เพื่อร่วมแก้ปัญหาในพื้นที่ของตัวเอง” พ.ท.พิสิษฐ์ กล่าว