พม. ยกระดับนักบริหารองค์กรสาธารณประโยชน์ ขับเคลื่อนการจัดสวัสดิการสังคม
เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓ ที่สถาบันการพัฒนาความรู้ด้านการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายชูรินทร์ ขวัญทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมนักบริหารองค์กรสาธารณประโยชน์ รุ่นที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒๙ – ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารองค์กรสาธารณประโยชน์พัฒนาองค์ความรู้ในด้านการจัดสวัสดิการสังคม เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายองค์กรสาธารณประโยชน์ รวมทั้งเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการพัฒนาองค์กรและงานสวัสดิการสังคม โดยมีผู้บริหารองค์กรสาธารณประโยชน์ที่ผ่านการรับรองตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. ๒๕๔๖ จากทั่วประเทศ จำนวน ๑๐๐ คน เข้าร่วมโครงการ
นายชูรินทร์ ขวัญทอง รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า ตามที่พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๕๐ กำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ มีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการและการพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์กรสาธารณประโยชน์ ซึ่งที่ผ่านมา กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ดำเนินการให้มีโครงการพัฒนาบุคลากรผู้ปฏิบัติงานฯ มาเป็นระยะ โดยโครงการในลักษณะนี้ ได้จัดมาแล้ว จำนวน ๓ รุ่น คือ ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ เป็นต้นมา มีบุคลากรขององค์กร สาธารณประโยชน์เข้าร่วมโครงการไปแล้วทั้งสิ้น ๑๕๐ คน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๔
ซึ่งผลของการเข้าร่วมโครงการประการหนึ่งซึ่งเห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม คือ การมีเครือข่ายในการทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรสาธารณประโยชน์ รวมทั้งองค์ความรู้ที่ได้รับ หลายองค์กรนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ในการจัดสวัสดิการสังคม ตามบทบาทของแต่ละองค์กร ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการป้องกัน การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาสังคมในชุมชนเป้าหมาย
สำหรับการจัดโครงการในครั้งนี้ มีการให้ความรู้ในเนื้อหาต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับการจัดสวัสดิการสังคม ไม่ว่าจะเป็นความรู้เกี่ยวกับการจัดรูปแบบสวัสดิการ การสร้างเครือข่ายทางสังคม กฎหมายที่จำเป็น การรับรองมาตรฐานองค์การสวัสดิการสังคม รวมทั้งการเขียนโครงการเพื่อขอรับเงินสนับสนุนในการจัดสวัสดิการจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ซึ่งในการเข้าร่วมโครงการเชื่อได้ว่าทุกๆ ท่าน จะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมระหว่างกันและก่อให้เกิดประโยชน์ในการทำงานของแต่ละองค์กรได้เป็นอย่างดี
“ในช่วงสามวันของการเข้าร่วมโครงการขอให้ทุกท่าน ได้เก็บเกี่ยวความรู้ที่ได้รับจากวิทยากร และร่วมกิจกรรมต่างๆ ให้เต็มที่ รวมทั้งสิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้ คือ การสร้างมิตรภาพ การทำความรู้จักและเกิดความสัมพันธ์ของเครือข่ายในการทำงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่จะสร้างมูลค่าในการผลักดันและขับเคลื่อนงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นการส่งเสริม สนับสนุนการปฏิบัติงานขององค์กรสาธารณประโยชน์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ”