พิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์)

พิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์)พระพุทธรูปประจำหน่วยกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3
ตำรวจภูธรภาค 3 ได้กำหนดจัดพิธีเททองหล่อพระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี(รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์) ในการจัดสร้างพระพุทธรูปประจำหน่วยกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษกองบังคับการบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ในวันพฤหัสบดีที่ 6 สิ่งหาคม 2563 เวลา 08.30 นาฬิกา ณ กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการบสวนตำรวจภูธรภาค 3(ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังกองร้อยที่ 1 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3) ตำบลจอหอ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา

โดยมี พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ผบช.ภ.3ประธานคณะกรรมการอำนวยการ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรีรอง ผบช.ภ.3ประธานคณะกรรมการจัดสร้าง พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศลผกก.ปพ.บก.สส.ภ.3พ.ต.ท.สาธิต คอกขุนทด สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.3 พ.ต.ท.กุณซ์ กุลศิริสว.(ปรก.) กก.ปพ.บก.สส.ภ.3พ.ต.ต.เสริมศักดิ์ มุ่งเงินทอง สว.กก.ปพ.บก.สส.ภ.3ผู้รับผิดชอบดำเนินการกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 มีเขตพื้นที่รับผิดชอบรวม 8 จังหวัด อีสานใต้ คือ ชัยภูมิ , นครราชสีมา , บุรีรัมย์ , ศรีสะเกษ , สุรินทร์ , อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นกำลังหลักของ ตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ ยุทธวิธีต่าง ๆ และถือเป็นกำลังสำคัญที่คอยสนับสนุนหน่วยงานต่างๆพระที่จัดสร้างพระอาจารย์ วิเชียร จันทสาโร (หลวงพ่อโก) วัดป่าปากโดม อ.พิบูลมังสหาร จวอุบลราชธานีถวายนามว่า “พระพุทธพิทักษ์ประชาอัครบารมี” (รุ่น หนุนดวง เพิ่มพูลทรัพย์ )โดยหล่อเป็นพระเชียงแสน สิงห์ 1 ขัดสมาธิเพชร ขนาด 32 นิ้ว โลหะผสม ปิดทองคำแท้พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร แบบเชียงแสนสิงห์หนึ่งลักษณะองค์พระ : แบบเชียงแสน ประติมากรรมไทยสมัยเชียงแสน เป็นประติมากรรม ในดินแดนสุวรรณภูมิที่นับว่าสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างไทยเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีมีดังนี้

หลวงปู่สมบุญ ปริปุนฺณสีโล (หลวงปู่บุญ) วัดปอแดง อ.ปักธงชัย จว.นครราชสีมาประธานสงฆ์ พระนั่งปรก 4 ทิศ1. พระครูวิมลภารนาคุณ (หลวงพ่อจื่อ พันธมุตโต) วัดเขาตาเงาะอุดมพร อ.หนองบัวระเหว จว.ชัยภูมิ2. พระครูประโชติปัญญากร (หลวงพ่อคูณ วรปัญฺโญ) วัดบัลลังก์ อ.โนนไทย จว.นครราชสีมา3. พระครูสุนทรคุณวัตร (หลวงพ่อทวี ปุญฺญาธโร) วัดประมวลราษฎร์ หรือ วัดบ้านระกาย ต.จอหอ อ.เมือง จว.นครราชสีมา4. พระอาจารย์วิเชียร จันทสาโร (โก) วัดป่าปากโดม อ.พิบูลมังสาหาร จว.อุบลราชธานีพระสงฆ์สวดชยันโตนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป จากวัดประมวลราษฎร์ หรือ วัดบ้านระกาย โดยนิมนต์พร้อมพระครูสุนทรคุณวัตร (หลวงพ่อทวี ปุญฺญาธโร)ทั้งนี้โดยงบประมาณในการดำเนินการประมาณ 2,000,000 บาท จากผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญ
ระยะเวลาในการสร้างพระ เริ่มประชุมครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 และทำสัญญาจ้างหล่อพระประติมากรรม เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม2563 โดยจะมีพิธีเททองหล่อพระ ในวันที่ 6 สิงหาคม 2563 และรับมอบพระในวันที่ 30 สิงหาคม 2563รวมเป็นระยะเวลาดำเนินการ 75 วัน

และพระแบบเชียงแสน สิงห์ 1 ขัดสมาธิเพชร ขนาดหน้าตัก 32 นิ้วความสูงรวมฐาน 125 ซม. ความยาวฐาน 99 ซม. ความกว้าง 64 ซม.

แบบเหรียญมีดังนี้
-เหรียญทองแดง (ขัดเงา) จำนวน 28,000 เหรียญ เหรียญทองคำ (ขัดเงา) จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง (เบื้องต้น 30 เหรียญ)พระพุทธรูป ขนาด 9 นิ้ว จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง +8 (นปพ.ในสังกัด)พระพุทธรูปขนาด 5 นิ้ว จำนวน ตามจำนวนสั่งจอง (มีทั้งชนิด ปิดทอง และ รมมันปู) และพระบูชาเช่น แบบพระบูชาขนาดพระ9 นิ้ว2,500 บาท 5 นิ้ว850 บาทแบบรมดำขนาดพระ9 นิ้วแบบ ปิดทอง5,000 บาท 5 นิ้ว 1,600 บาท

“วัดพรหมราช” ชุมชนคุณธรรมรางวัลระดับประเทศ เน้นความพอเพียงอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น

          เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัดพรหมราช ต.ตูม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

นางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในปีนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา ได้รับรางวัลชุมชนต้นแบบ เพื่อนำการขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม ทั้งด้านศิลปะการแสดง โดยเฉพาะ รำโทนโคราช ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ รวมถึงอาหารพื้นเมืองพื้นถิ่น อาทิ ข้าวโป่ง พล่าหมี่โคราช มีที่นี่ที่เดียวต้องมาลองชิม นอกจากนี้ในชุมชนของที่นี่มีความสำคัญ โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ของวัดพรหมราชเก็บวัตถุโบราณอายุเป็นพันปี และชุมชนที่นี่ก็มีความสามัคคีอย่างมาก ในส่วนของการต่อยอดในอนาคต ทางสภาฯเราก็ได้จัดให้มีการประชุมสัญจรแลกเปลี่ยน จัดงานมหกรรมชุมชนของดี และนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เราจัดไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งที่ 3 เราจะไปจัดกันที่จังหวัดยโสธรในปลายเดือนกันยายนนี้ และจากนี้เราก็จะช่วยกันทุกภาคส่วนที่จะต้องผลักดันกัน โดยจะนำนิสิตนักศึกษาจากทุกสภาบันในโคราช โดยจัดตั้งเป็นสภา เยาวชน เพื่อรักษาอนุรักษ์วัฒนธรรมในท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ทางด้าน ผศ.รณรงค์ จันใด อาจารย์สาขาวิชานโยบายสังคมการพัฒนาสังคมและการพัฒนาชุมชน คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางวัดพรหมราชมีศิลปะวัฒนธรรมภายในชุมชนที่น่าสนใจและควรค่าแก่การอนุรักษ์การสืบทอดต่อไป จากการศึกษาภายในชุมชนมีความเป็นโคราชแท้ มีคุณตาคุณยายที่ยังสืบสานวัฒนธรรมอยู่ โดยเฉพาะหมี่โคราช อาหารท้องถิ่นที่ยังคงมีการสืบทอด และที่สำคัญจริงๆคืออยากให้เด็กและเยาวชนมีบทบาทและส่วนร่วมในเรื่องนี้ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกับขับเคลื่อนอนุรักษ์โดยสภาเด็กและเยาวชนมาร่วมกันตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อเกิดความยั่งยืน นอกจากนี้ ทางทีมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะจัดทำวีดีโอและทำ VTR  ในการขับเคลื่อนการจัดการภายในชุมชนตัวอย่าง ไปเผยแพร่ให้กับทุกจังหวัดได้มาดูงานเป็นตัวอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป

ขณะที่ พระครูโกศล ธรรมวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพรหมราชและเจ้าคณะตำบลตูม กล่าวว่า วัดแห่งนี้จากการสันนิษฐานตามประวัติศาสตร์นั้นสร้างเมื่อครั้งปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ส่วนชื่อวัดพรหมราชนั้น เป็นชื่อของคนชื่อพรหมส่วนราชมาจาก หลังจากนั้นท่านก็ได้บรรพชาเป็นพระภิกษุและได้เทศน์ชื่อ ‘กัณฑ์มหาราช’ ในตอนหนึ่งของเวสสันดรชาดก หลังจากนั้นท่านก็สึกจากพระมาเป็นฆราวาส ผู้คนจึงได้นำชื่อของท่านมาเป็นชื่อวัด นอกจากนั้นในวัดยังมีพระพุทธรูปไม่ปรากฏชื่อ ปางลีลา อายุหลายร้อยปี ซึ่งเราก็ได้ไปเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์วัดพรหมราช ประชาชนที่เข้าวัดมาทำบุญก็สามารถมาไหว้สักการะขอพระได้ นอกจากนี้ เป็นประจำทุกปีวัดเราจะจัดงานนมัสการพระพุทธบาทจำลองจัดมากว่า 96 ปีแล้ว จัดสมโภชยิ่งใหญ่ทุกปีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถวายเป็นพุทธบูชา รักษาและสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามในท้องถิ่น สอดคล้องนโยบายชุมชนคุณธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งปีนี้ก็ได้รับรางวัลวัดต้นแบบชุมชนคุณธรรม ซึ่งทางวัดตระหนักว่าวัดคือศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน มีความสามัคคีในชุมชน

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน  ได้ให้การต้อนรับ  นายไชยนันท์  แสงทอง  วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและคณะ สู่ศูนย์การเรียนรู้เครื่องปั่นดินเผา เทศบาลตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย  จังหวัดนครราชสีมา เพื่อศึกษาภูมิปัญญาชาวบ้านผลิตเครื่องปั้นดินเผาที่สร้างชื่อเสียงในระดับประเทศ  และเป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผามายาวนานหลายชั่วอายุคน  เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ  ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากที่นี่ มีความแข็งแกร่ง ผิวจะมีความวาว มัน มีสีน้ำตาลแดงงดงาม  และดินที่ใช้ปั้นเป็นดินที่มาจากแหล่งคุณภาพที่สุดของจังหวัดนครราชสีมาได้มาจากริมแม่น้ำมูล  ซึ่งปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นอาณาจักรเครื่องปั้นดินเผาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา 

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลงพื้นที่โคราชเพื่อเปิดการเสวนาถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการ

นายสัมฤทธิ์  พงษ์วิรัตน์  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเสวนาวิชาการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรม ด้วยพลังการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 ณ ห้องประชุมกรองแก้ว โรงแรมแคนทารีโคราช

โดยในวันนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานกลางในการวางแผน ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงาน และประสานงานความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจองค์กรเอกชน ประชาชน และสถาบันต่าง ๆ ในด้านการดำเนินงานวัฒนธรรมของชาติทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติ เพื่อที่จะรักษาและดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงาม รวมทั้งให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของวัฒนธรรม จึงได้ดำเนินการจัดตั้งสภาวัฒนธรรมตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการขยายเครือข่ายการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมในพื้นที่ในลักษณะการกระจายอำนาจทางวัฒนธรรม มุ่งเน้นให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ และขับเคลื่อนการดำเนินงานวัฒนธรรมในท้องถิ่นตนเอง ในรูปแบบต่าง ๆ

ที่สามารถสร้างกระแสการรับรู้ทางด้านวัฒนธรรมไปสู่ชุมชนท้องถิ่นได้อย่างกว้างขวาง

ในการนี้ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการจัดประชุมเสวนาวิชาการเผยแพร่และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการพัฒนาโครงสร้างคณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรม

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมฯ จำนวน 40 คน ประกอบด้วย ผู้แทนจาก

สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และผู้แทนองค์กรภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม

ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และองค์กรชุมชน กิจกรรมประกอบ ด้วย

1. การบรรยายพิเศษนำเสนอนโยบายการดำเนินงานวัฒนธรรม/ที่มาและความสำคัญของสภาวัฒนธรรมต่อการดำรงอยู่ของวัฒนธรรมในพื้นที่

2. การนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน

3. แนวทางการบริหารจัดการองค์กรที่ประสบความสำเร็จและเข้มแข็งด้วยตัวเองอย่างยั่งยืน

4. การระดมความคิดเห็นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินงาน

ของสภาวัฒนธรรม และการนำนโยบายไปขับเคลื่อนในพื้นที่ รวมถึงปัจจัยที่นำไปสู่

ความสำเร็จของการดำเนินงาน โดยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในพื้นที่ และเพื่อระดมทรัพยากร บุคลากร และสรรพกำลังต่างๆ จากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อการดำเนินงานวัฒนธรรม

ครั้งแรกตลาดศิษย์เก่ามัธยมประจำจังหวัดชุมชนออนไลน์ขึ้นห้างขายสินค้ากันครึกครื้น

ตลาดศิษย์เก่า R.S. and S.R.N. Reunion Market ครั้งแรก กระตุ้นส่งเสริม การค้าขนาดย่อมนักเรียนเก่า,ศิษย์เก่าโรงเรียนดังจังหวัดนครราชสีมา

วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 11.30 น. นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา (ร.ส.75) รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้รับมอบจากผู้ว่าฯ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน R.S.& S.R.N REUNION MARKET ณ ชั้น 4 ห้อง KORAT HALL ห้างเซ็นทรัล โคราช นายกสมาคมศิษย์เก่าสุรนารี คุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย (ภรรยาผู้ว่าฯ วิเชียร) และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา นำคณะกรรมการสมาคมศิษย์เก่าสุรนารี พร้อมด้วย พ.อ.ชัชสิทธิ์ สมจริง รักษาการนายกสมาคมนักเรียนเก่าราชสีมาและคณะกรรมการ ส.น.ร. เป็นเกียรติมาร่วมพิธีเปิด

ชมการออกร้านค้าของนักเรียนเก่าและศิษย์เก่าโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยและโรงเรียนสุรนารีวิทยา เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีและเกิดการค้าขายในหมู่คณะ ครอบครัวของศิษย์เก่าทั้งสองสถาบัน

พร้อมรับชมวงโยธวาทิต ทั้งสองสถาบัน ที่เคยได้รับรางวัลระดับโลกและระดับประเทศมาอย่างมากมายที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดนครราชสีมา

แม่วอนช่วยลูกชายป่วยหนัก ตัวเองยังมาป่วยเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่มีเงินรักษา พิกัด อ.เทพารักษ์โคราช

คุณแม่ลัดดา ชื่นนอก ชาวบ้านห้วยน้ำเค็ม ต.บึงปือ อ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวด้วย เนื่องจากลูกชายป่วยหนัก ไม่มีเงินรักษาลูก และตนเองก็มีอาการป่วยด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ตอนนี้ต้องผจญกับอาการป่วยของตัวเองและคิดหนักเรื่องรักษาลูกจนร่างกายทรุดโทรมลงไป จึงมาขอวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวของตนเองด้วย คุณแม่ลัดดา ให้ข้อมูลว่า ตนเองมีลูก 3 คน คนโตเป็นผู้หญิงมีครอบครัวแล้ว อาชีพทำไร่ทำสวน ไม่มีรายได้ประจำ พ่อแม่และน้องชายป่วยก็ต้องมาอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน คนที่ 2 คือนายนพดล หวังหยิบกลาง ลูกชายคนที่ป่วยหนัก ก่อนที่ลูกชายจะป่วยก็ได้ไปทำงานอยู่ที่จ.ปทุมธานี หาเงินส่งมาให้แม่และส่งน้องสาวคนเล็กเรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันก็ต้องออกจากโรงเรียนเนื่องจากไม่มีเงินและต้องมาอยู่บ้านช่วยดูแลแม่ด้วย เป็นเสาหลักของครอบครัว เมื่อเดือนมีนาคม 2563

ที่ผ่านมา ลูกชายก็เริ่มมีอาการป่วยไปหาหมอที่จ.ปทุมธานีตรวจพบว่าลิ้นหัวใจรั่วจึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ต่อมาต้องย้ายกลับมารักษาตัวต่อที่ จ.นครราชสีมา บ้านเกิดเนื่องจากไม่สะดวกเรื่องเงินค่ารักษา หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนอาการแทรกซ้อนต่างๆก็เริ่มมีมากขึ้น มีอาการแขน ขา บวม และปวดมาก จนเมื่อวันที่ 29 กรกฤาคม 2563 มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงได้พาไปหาหมอที่ รพ.มหาราช จ.นครราชสีมา และหมอได้นัดว่า วันที่ 6 สิงหาคม 2563 ให้มาพบหมอเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคหัวใจ วันที่เดินทางกลับจาก รพ.มหาราช อาการของลูกชายก็กำเริบอีกมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ญาติจึงพาไปหาหมอที่ รพ.เทพารักษ์ จ.นครราชสีมา หมอบอกว่าคนป่วยมีอาการหนักมาก อาจจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือดและปอดติดเชื้อ จึงได้ทำการส่งตัวคนป่วยต่อไปยัง รพ.มหาราช ทันที

ตอนนี้คนป่วยนอนอยู่ในห้อง ไอซียู ญาติๆต้องสลับกันเดินทางมานอนเฝ้าคนป่วยทำให้ ทางครอบครัวมีความลำบากมากเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาและการเดินทางต่างๆอีกทั้งคุณแม่เองก็อาการป่วยทรุดหนักตามไปด้วยอีกคน ทางครอบครัวจึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือด้วย สำหรับผู้ใจบุญที่ประสงค์จะช่วยเหลือครอบครัวของคุณแม่ลัดดา ชื่นนอก สามารถโอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีของคุณแม่ได้โดยตรงที่ บัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขาเทพารักษ์ เลขที่ 020152088016

แถลงข่าวรวมพลคนหัวใจเสือเพื่อสุขภาพสู้โควิด TOUR OF KORAT 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี 2563

วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.00 น. ณ เดอะมอลล์โคราช ได้จัดให้มีการแถลงข่าว กิจกรรม Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 โดยได้รับเกียรติจาก นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในการแถลงข่าวครั้งนี้ ร่วมกับ นายธนิต จิตละมัย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ดร.สราวัธ กุสุมภ์ หัวหน้างานวิทยาศาสตร์การกีฬาภูมิภาค ผู้แทน ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย ภาค 3 นายฐิติรัตน์ พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นายชาญชัย บัวสรวง ประธานสโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา และ นายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมในการแถลงข่าวครั้งนี้


สำหรับกิจกรรม Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 จัดขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารีประจำปี 2563 เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการเดินทางด้วยจักรยานและเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนและบุคคลทั่วไปหันมาร่วมมือกันลดสภาวะโลกร้อน และเพื่อส่งเสริมงบประมาณสนับสนุน สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อพัฒนาความสามารถและทักษะไปสู่การแข่งขันกีฬาระดับชาติ อีกทั้งการจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังได้ร่วมช่วยเหลือองค์กรสาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย
แต่เนื่องจากในห้วงของเดือนมีนาคม 2563 ประเทศไทยได้ประสบปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 จึงไม่สามารถที่จะดำเนินกิจกรรมได้ ทางคณะผู้จัดจึงได้เลื่อนการปั่นจักรยานมาเป็นเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้อนุญาตให้สามารถจัดกิจกรรมการปั่นจักรยานได้ โดยต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วย การรักษาระยะห่าง และต้องทำการวัดอุณหภูมิบุคคลที่จะเข้ามาภายในกิจกรรมดังกล่าว


Tour of Korat 2020 ใจเกินร้อย ครั้งที่ 7 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี ประจำปี 2563 เป็นการปั่นจักรยานทางเรียบ ระยะทาง 65 กิโลเมตร 20 กิโลเมตร และรุ่น VIP โดยจะมีการแข่งขันประเภททีม เพื่อรับถ้วยรางวัลจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามและขอใบสมัครได้ที่ สโมสรกีฬาจักรยาน จังหวัดนครราชสีมา เดอะมอลล์นครราชสีมา หมายเลขโทร 044 – 267 411 และ 086 – 261 6661 ID Line: TOUROFKORAT19 , FB: Tout of Korat จักรยานฉลองชัยชนะท้าวสุรนารี