สภาวัฒนธรรมร่วมสร้างเยาวชนคนเก่ง โครงการ เยาวชนต้นแบบจิตอาสาและสืบสานวัฒนธรรมไทย

สภาวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา จัดโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาสืบสานวัฒนธรรมไทย ระหว่างวันที่ 6-7 ตุลาคม 2563

วันนี้ (6 ตุลาคม 2563) เวลา 09.30 น. นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาสืบสานวัฒนธรรมไทย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการ

        วัฒนธรรมถือเป็นทั้งพื้นฐานและเครื่องมือในการปลูกฝัง สืบทอด การเรียนรู้ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามของคนในชาติ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนถือเป็นบุคคลสำคัญที่จะรักษาวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป  แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันมีการรับแบบอย่างวัฒนธรรมต่างชาติมากขึ้น จึงทำให้เด็กและเยาวชน ละเลยวัฒนธรรมไทยอันเป็นรากฐานสำคัญของคนไทย เป็นมรดกไทย เกี่ยวกับการไปมา ลาไหว้ วิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบไทย ความมีน้ำใจ ความเอื้ออาธร การช่วยเหลือและแบ่งปันกัน ที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย  หากไม่ได้รับการปลูกฝังและสืบสานจากคนในชาติก็จะทำให้สูญหายไป

        ดังนั้น สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดนครราชสีมา มีความตระหนักเห็นถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน คนรุ่นใหม่ ควรได้รับการปลูกฝัง ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมอันดีงาม จึงได้จัดโครงการอบรมเยาวชนต้นแบบจิตอาสา และรักษาวัฒนธรรมไทยของจังหวัดนครราชสีมาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีจิตาธารณะ เป็นแบบอย่างด้านจิตอาสา พร้อมปลูกจิตสำนึกให้เด็กและเยาวชนมีความรักในความเป็นไทย และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ของจังหวัดนครราชสีมาสืบไป

        ในการอบรมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมอบรม เป็นนักเรียน นักศึกษา สถาบันการศึกษาทั้งในระดับมัธยม และอุดมศึกษา จำนวน 150 คน โดยจัดให้มีการอบรมระหว่างวันที่ 6- 7 ตุลาคม 2563 ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาโคราช วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา 

จับตา 2 งานยักษ์ กระตุ้นเศรษฐกิจโคราช Northeast TECH Thailand 2020 & AgroFEX 2020


.
สภาอุตสาหกรรมโคราช ประสานความร่วมมือภาครัฐและเอกชน จัดงาน Northeast TECH Thailand 2020 และ AgroFEX 2020 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิต19 คาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 1,500 ล้านบาท


นายจรัสชัย โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึง การจัดงานว่าจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่
เป็นศูนย์กลางความเจริญด้านต่าง ๆ ของภาคอีสาน ซึ่งอีกไม่นานจะมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมต่างๆ ครบถ้วนทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์เวย์ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง และสายการบิน ซึ่งจะทำให้เมืองโคราชมีธุรกิจ เศรษฐกิจ การท่องเที่ยวที่เติบโต และพัฒนาอย่าง


รวดเร็ว ทำให้จังหวัดเกิดความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากความพร้อมในทุกๆ ด้านนั้น ถือเป็นสิ่งที่ดี ที่ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา จะจัดงาน “Northeast TECH Thailand 2020” และ งาน “Agro FEX 2020” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี อุตสาหกรรม เทคโนโลยีเกษตรและอาหารแปรรูป รวมไปถึงเพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างได้อีกทางหนึ่ง ทั้งสองงานถือได้ว่าเป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่ ที่รวบรวมเครื่องจักรและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และ สตาร์ทอัพ รุ่นใหม่ๆ เทคโนโลยีเกษตรและอาหารแปรรูป มาไว้ที่เดียวกัน ซึ่งก็จะตอบโจทย์ในเรื่องของการพัฒนาผู้ประกอบการ รวมทั้งสามารถนำไปต่อยอดในเชิงธุรกิจในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
.
นางสาวอุบลรัตน์ บุญประสาทสุข รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานจัดงาน “Northeast
TECH Thailand 2020” กล่าวว่า สำหรับการจัดงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยี “Northeast TECH Thailand 2020” ในครั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ได้รับความร่วมมือจาก กระทรวงอุตสาหกรรม, สมาคมส่งเสริมการรับช่วงการผลิตไทย , สภาอุตสาหกรรมแห่ง
ประเทศไทย, จังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB (ทีเส็บ) เทคโนธานี ม.เทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) สถาบันไทย-เยอรมัน , สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช, เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย , สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI , ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา และหน่วยงานภาคเอกชน อีกหลายส่วน ซึ่งปีนี้จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์ในการจัดงานรูปแบบใหม่ๆ ที่สอดรับกับมาตรการ การป้องกัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 เพื่อให้เกิดงานที่
เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และผู้ประกอบการ ได้นำไปประยุกต์ใช้ในการประกอบกิจการของตนเองได้
.
“โดยภายในงานจะมีกิจกรรมมากมาย ทั้งการแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม , การแสดงยานยนต์ไฟฟ้า , การแสดง
นวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งการสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบันจากหลายหน่วยงานที่ร่วมจัดสัมมนา เช่น BOI และ สวทช อีกทั้งมีการประชุมหารือเพื่อประสานความร่วมมือด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมกับ ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม และที่สำคัญอีกอย่างคือกิจกรรม Business matching ออนไลน์กับตลาดต่างประเทศ ที่จะช่วยผู้ประกอบการได้เพิ่มยอดขายและช่องทางการตลาดใหม่ๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิต-19 ซึ่งจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม 2563 เวลา 16.30 น. ณ ชั้น 1 เซ็นทรัลโคราช โดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานอีกด้วย”
.
ทางด้าน นางธิดารัตน์ รอดอนันต์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานจัดงาน Agro FEX 2020
กล่าวว่า สำหรับการจัดงาน “Agro FEX 2020” ในปีนี้เป็นปีแรกที่ทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาได้จัดขึ้น โดยได้มองเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมในด้านการเกษตรซึ่งสามารถนำมาผลิตต่อในด้านอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ข้าว, มันสำปะหลัง,
น้ำตาล กลุ่มสินค้าอาหารแปรรูปต่างๆ ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น กระทรวงพาณิชย์, กรมการค้าภายใน , สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ , สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุม
และนิทรรศการ (องค์การมหาชน) TCEB (ทีเส็บ), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช., เขตอุตสาห
ซอฟต์แวร์ประเทศไทย , จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมาซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ และหน่วยงานภาคเอกชนอีกหลายภาคส่วน
.
“กิจกรรมในงาน Agro FEX 2020 นอกจากจะมีการแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปที่หลากหลายแล้ว ยังมี
การที่น่าสนใจเช่น การบรรยายพิเศษ “ทิศทางเศรษฐกิจอีสาน” โตย ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานเสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) , บรรยายพิเศษ “ทิศทางของเกษตรแปรรูปและอาหารในอนาคต” โดย ดร. ศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จํากัด , การสัมมนาให้ความรู้กับผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่น่าสนใจในยุคปัจจุบัน , สัมมนา “เกษตรผลิต พาณิขย์ขาย ออนไลน์ทั่ว
โลก” , กิจกรรม Business matching ออนไลน์โดย ทูตพาณิชย์ต่างประเทศ , สัมมนา “สินค้าดี มีบาร์โค้ดมาตรฐาน GS1″ ระบบบาร์โค้ดสินค้า
มาตรฐานสากล เพื่อโอกาสการขายใน modern trade และเทคนิคส่งสินค้าเข้าขายในศูนย์การค้า โดยสถาบัน GS1 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ในวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2553 ณ Korat Hall ชั้น4 จะมีปาฐกถาพิเศษและเปิดงาน โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อีกด้วย”
.
ทางด้าน นางสาวสุรัชสานุ์ ผู้อำนวยการ สำนักส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 และงาน Agro Fex 2020
จัดโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับหน่วยงานภาคีต่าง ๆ พันธกิจหลักของทางทีเส็บในส่วนของงานแสดงสินค้าในประเทศนั้น เรา
เน้นเรื่องการบูรณาการร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศและกระจายรายได้สู่ภูมิภาคผ่านเวทีการจัดงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทีเส็บมีเป้าหมายหลักในการมุ่งเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมาย (targeted industry)ให้เหมาะสม
กับพื้นที่โดยใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจระดับภูมิภาคเป็นตัวนำและตอบโจทย์ความต้องการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่การจัดงานอย่างแท้จริง
การสนับสนุนงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 และงาน Agro FEX 2020 อยู่ภายใต้การสนับสนุนส่งเสริมงานแสดงสินค้าใน
ประเทศ ในโครงการที่ชื่อว่า Empower Thailand Exhibition (EMTEX) โดยโครงการนี้มุ่งยกระดับงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพระดับภูมิภาค
โดยทีเส็บเล็งเห็นว่าทั้ง 2 งานนี้เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ช่วยขับเคลื่อนตอบโจทย์ระดับภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง โดยอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหลักของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งจังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองเศรษฐกิจที่เป็นประตูสู่ภาคอีสาน มีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนงานแสดงสินค้า และทีเส็บตั้งเป้าผลักดันให้นครราชสีมา
หรือ โคราชไมซ์ซิตี้ ขึ้นสู่เวทีนานาชาติศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างสมบูรณ์แบบ
.
“จากการทีเส็บได้ร่วมทำงานกับสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาอย่างใกล้ชิด เราเห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยใน
อุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและอุตสาหกรรมด้านการเกษตร อุตสาหกรรมอาหาร ของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีแนวโน้มเติบโต ให้สามารถแข่งขันได้ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ โดยงานแสดงสินค้า Northeast Tech Thailand 2020 ถือเป็นการยกระดับงานจากปีที่ผ่านมาให้เป็นงานแสดงสินค้าที่นำเสนอศักยภาพของกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า แขนกลและหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ เครื่องมืออุตสาหกรรม, นวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรโรงงาน และอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยการจัดงานนี้กิจกรรม Matching Program (การเจรจาจับคู่ทางการค้า) ตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย Business Matching ในงาน ไม่น้อยกว่า 1,500 ล้านบาท และงาน Agro FEX 2020 เป็นงานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีการผลิตด้านอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูปโดยการจัดงา
นี้กิจกรรม Matching Program (การเจรจาจับคู่ทางการค้า) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย Business Matching ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท”
.
ทีเส็บพร้อมให้การสนับสนุนและผลักดันงานนี้ในระยะยาวอย่างเต็มที่ โดยเป็นผู้ร่วมคิด (Collaborator) ผู้ร่วมสร้าง (Co-
Creation) และผู้ช่วยผลักดันงาน (Co-Partner) โดยใช้กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเป็นตัวนำ ทั้งสนับสนุนในรูปแบบของงบประมาณ กิจกรรมดำเนินการ และเป็นที่ปรึกษาร่วมวางกลยุทธ์การขยายตลาด ขยายกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้เกิดการเจรจาธุรกิจ (Business
Matching) โดยเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย (Target Buyer) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้
ประกอบการให้มากที่สุด การสนับสนุนงานในครั้งนี้ถือเป็นการผลักดันงานแสดงสินค้าเพื่อเติบโตในรูปแบบที่เรียกว่า Trade
exhibition เพื่อให้งานเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ของจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติ
บโตอย่างยั่งยืน

วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี จัดพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์เก่า โดยมีคณะสงฆ์ร่วมประกอบพิธีกว่า 100 รูป พร้อมด้วยการทอดกฐินประจำปี 2563

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.ที่วัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์เก่า เพื่อขับไล่ความไม่ดี หรือสิ่งชั่วร้ายต่างๆที่เกิดขึ้น และให้เกิดความเป็นสิริมงคล  สิ่งใดที่เชื่อกันว่าเป็นสิ่งไม่ดี ไม่เป็นมงคล ที่เชื่อกันว่าฝังอยู่หรือติดอยู่ในที่ต่างๆ เช่น ฝังอยู่ในตัวคน ฝังอยู่ในเครื่องมือเครื่องใช้ ฝังอยู่ในที่อยู่ที่อาศัย ฝังอยู่ในแผ่นดิน โดยในการประกอบพิธีถอนเสมา ถอนโบสถ์นี้ ได้รับเมตตาจาก พระวินัยโมลี (คำปอน สุทธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธ.) เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พระครูปลัดภูมิปัญญา(หลวงพ่อเสือ)ญาณสัมปัณโณ เจ้าอาวาสวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และคณะสงฆ์ จำนวนอีกกว่า 100 รูป ร่วมประกอบพิธี โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในช่วงบ่าย ได้มีพิธีทอดผ้ากฐินสามัคคี เพื่อนำเงินที่ได้มาเป็นทุนทรัพย์ในการก่อสร้างศาลาพญาเต่าเรือนที่อยู่ภายในวัดให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักของเหล่าโรงทานที่มาร่วมบุญในครั้งนี้ กว่า 30 โรงทาน

นอกจากนี้ ยังมีเหล่าดารา ยกทัพมาร่วมงานบุญในครั้งนี้ อาทิ ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ วิภัทรเดชตระกูล , จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย , จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม , โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ , หลุยส์ พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร , บีม ศรัณยู ประชากริช และ เติ้ล ธนพล นิ่มทัยสุข ซึ่งก็ถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง

พิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2

พิธีรับ-ส่ง หน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 เวลา 0830 น. พล.อ. ธัญญา เกียรติสาร ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก(แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านเดิม) พร้อม คุณปาริชาติ เกียรติสาร ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นเวลา 1100 น. ณ ห้องประชุม(1) กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก(แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านเดิม) ได้ลงนามในเอกสาร ส่งมอบหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ให้แก่ พล.ท. ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 (ท่านใหม่)


จากนั้น เวลา 1145 น. ได้มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 โดย พล.อ. ธัญญา เกียรติสาร ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก(แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านเดิม) ได้กล่าวส่งมอบหน้าที่และการบังคับบัญชา พร้อมส่งมอบธงประจำหน่วยให้กับ พล.ท. ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2(ท่านใหม่) และกล่าวรับมอบหน้าที่การบังคับบัญชา โดยมีกองเกียรติยศหมู่ธงของหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 81 หน่วย พร้อมด้วยข้าราชการ และสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมพิธี


ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบกได้กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารของชาติ นับเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจสูงสุด รวมทั้งเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งในชีวิต ที่ได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน และปฏิบัติหน้าที่ในการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตยของชาติ และสร้างสันติสุข ให้แก่ประชาชน ซึ่งตลอดระยะเวลาของการทำงานรับใช้ประเทศชาติและดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีความมุ่งมั่น ในการทำให้ กองทัพภาคที่ 2 มีความมั่นคงเข้มแข็ง มีเอกภาพ สามารถหยัดยืนอย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นสถาบันหลักที่พร้อมดูแล ความมั่นคงปลอดภัยและแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ ตลอดจนเป็นที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชนในทุกๆสถานการณ์ ซึ่งการดำเนินงานของกองทัพภาคที่ 2 ในทุกภารกิจที่ผ่านมา ประสบผลสัมฤทธิ์ ด้วยความเรียบร้อยตามความมุ่งหมาย จากการสนับสนุนเป็นอย่างดีของกำลังพลทุกระดับ และขอขอบคุณทหารทุกนาย ที่ได้เสียสละอุทิศตนและเวลา ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถด้วยดีตลอดมา และเชื่อมั่นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วย ความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพากองทัพภาคที่ 2 ไปสู่การพัฒนาในทุก ๆด้านและกำลังพลมีความพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อรักษาและเสริมสร้างผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนปกครองบังคับบัญชา กำกับดูแลกำลังพล ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต มีความรักสามัคคี ภายใต้จิตสำนึกและอุดมการณ์ของความเป็นทหารอาชีพ และพัฒนากองทัพภาคที่ 2 ให้มีศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจในทุกรูปแบบ ให้ปรากฏผลสัมฤทธิ์ ในการสร้างคุณประโยชน์ต่อกองทัพบกและประเทศชาติ


แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวว่า พร้อมที่จะปฏิบัติราชการในตำแหน่งอันทรงเกียรติ และสำคัญยิ่งนี้ให้ดีที่สุดอย่างเต็มขีดความสามารถ และน้อมนำการปฏิบัติงานของท่านที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก มาเป็นแบบอย่าง พร้อมที่จะปฏิบัติงานเคียงบ่า เคียงไหล่ กับบรรดาเพื่อนทหารที่รักทุกนาย อย่างจริงจังและจริงใจ เพื่อให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยที่มีศักยภาพ ในการปฏิบัติงานทุกรูปแบบ ให้ปรากฎผลสัมฤทธิ์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพและประเทศชาติ สืบไป

พิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2

ในวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563 ณ สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีพิธีรับ – ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ทั้งนี้ ในเวลา 11.00 น. พลเอก ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 (เดิม) พร้อมด้วย พลโท ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม แม่ทัพภาคที่ 2 (ใหม่) ได้เดินทางมาถึงบริเวณพิธี

โดยมีนายทหารสัญญาบัตร และกำลังพลของหมู่ธงประจำหน่วยเข้าแถวพร้อมเพียงกัน จากนั้นได้มีพิธีรับ-ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ต่อด้วยการทักทายกำลังพลของทหารหมู่ธงทหารด้วยความเป็นกันเอง จากนั้นร่วมรับมอบของที่ระลึกและรับประทานอาหารพร้อมกัน

เปิดฟู้ดแลนด์โคราช โฉมใหม่ เริ่ม 1 ตุลาคม 63

วันนี้ คุณอิทธิพล ตีระสงกรานต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ได้แถลงถึงความพร้อมในการเปิดให้บริการ หลังจากที่หยุดไปจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นภายในห้างสรรพสินค้า เทอมินอลโคราช  โดยมีสื่อมวลชนมาร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้   พร้อมทั้งได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ และได้รับเกียรติจาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา  เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดี

“ฟูดแลนด์โคราช เพื่อคนโคราช” โฉมใหม่ รวมทุกความต้องการ สินค้าท้องถิ่น และนานาชาติ อาหารสด สะอาด แหล่งช้อปปิ้งสะดวกสบาย ตลอด 24 ชั่วโมง”ฟูดแลนด์โคราช เปิดให้บริการแล้วอย่างเต็มรูปแบบ ปรับโฉมใหม่ ทันสมัย คงคอนเซ็ปต์ สด สะอาด แหล่งรวมสินค้าหลากหลายเปิดโอกาสแก่คนท้องถิ่น ได้นำสินค้าเข้ามาจำหน่าย ให้เป็นแหล่งข้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวโคราชแบบครบครัน

ด้านคุณอธิพล ตีระสงกรานต์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่า “ต้องขอบคุณชาวโคราชอย่างใจจริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาชาวโคราชให้กำลังใจ และรอคอยการกลับมาแบบเต็มรูปแบบ ซึ่งเรากลับมาตามคำสัญญาพร้อมกับโฉมใหม่ โดยเน้นความต้องการของชาวโคราช เจาะกลุ่มทุกเพศทุกวัย สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่ดี เข้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกว่า ที่นี่คือแหล่งช้อปปิ้งที่ ครบ จบ ในที่เดียว โดยตกแต่งสไตล์ Culture Modem Industrialเป็นการผสมผสานความทันสมัย และศิลปะ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงพื้นที่จุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

โดยครั้งนี้ บริษัท ฟูดแลนด์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต จำกัด ได้มอบเงินให้กับมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน 100,000 บาท และยังดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง ผ่านมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยฟูดแลนด์ฯ จะตั้งกล่องบริจาคเพื่อผู้ยากไร้ และสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ในพู้ดแลนด์ฯ ทุกสาขา และเมื่อลูกค้าซื้อสินค้าในหู้ดแลนด์ฯ หากไม่ได้นำถุงผ้ามา สามารถร่วมบริจาคถุง 1 ใบ มีมูลค่า 1 บาท ให้กับมูลนิธิ 100 ปี โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ด้วยเช่นกัน”

“นอกจากการปรับโฉมการตกแต่ง และเพิ่มมุมสินค้าเพื่อความหลากหลายแล้ว เรายังได้รับการสนับสนุนที่ดีจากคู่ค้า และพันธมิตรในการร่วมกันจัดโปรโมชั่นเพื่อช่วยค่าครองชีพ กับโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 1, โปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ 48 ปี 48 วัน,แลกซื้อสินค้าราคาพิเศษและในอนาคตยังมีโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง ส่งมอบให้ชาวโคราชเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และความครบครั้นเพราะ “ฟู้ดแลนด์โคราช เพื่อคนโคราช