ผบช.ภ.3 ลงนาม MOU ปฏิทินหมายจับตำรวจภูธรภาค 3 จ่ายทันที 50,000 , 30,000 และ 15,000 บาท เมื่อจับผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับได้

ผบช.ภ.3 ลงนาม MOU ปฏิทินหมายจับตำรวจภูธรภาค 3 จ่ายทันที 50,000 , 30,000 และ 15,000 บาท เมื่อจับผู้ต้องหาตามปฏิทินหมายจับได้


วันนี้ (29 มี.ค.64) เวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.3 ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง MOU “ว่าด้วยความร่วมมือด้านการมอบเงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้แจ้งเบาะแสผู้ต้องหาตามประกาศสืบจับ” The Most Wanted 2021 by ศปจร.ภ.3 ณ ห้องประชุมสารสิน ภ.3

ในการนี้ คุณวาสิน ล่ำซำ ประธานคณะกรรมการประกันภัยยานยนต์ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง MOU กับ ภ.3 รวมทั้งร่วมมอบรางวัลนำจับผู้แจ้งเบาะแสให้กับตำรวจที่มีผลการปฏิบัติตามปฏิทินหมายจับ และร่วมมอบปฏิทินหมายจับให้กับ รอง ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.3 และรอง ผบก.สส.ภ.3



ศูนย์ปราบปราบการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรภาค 3 (ศปจร.ภ.3) โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำโครงการปฏิทินหมายจับประจำปี 2564…

ท่านใดแจ้งเบาะแสจนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในปฏิทินนี้ได้ จ่ายเงินตามที่ระบุในปฏิทินทันทีเมื่อส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน

เริ่มแล้ว!!!มอรเตอร์โชว์โคราช ครั้งที่ 27

งาน  THE NORTHEAST INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2021 หรืองาน มอเตอร์โชว์โคราช ครั้งที่ 27

             กลับมาอย่างยิ่งใหญ่  มหกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของที่สุดในภาคอีสาน จัดแสดงรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ รุ่นใหม่ๆ และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ พร้อมด้วยโปรโมชั่นพิเศษ รวมถึงให้ข้อมูล เลือกชม เลือกซื้อกันอย่างใกล้ชิด แบบจัดเต็มและจุใจ สำหรับในปีนี้มาใน Concept  “โปรดี ปีวัว”   การเริ่มต้นของปีวัว  เริ่มด้วยสิ่งดีแคมเปญดีๆ และข้อเสนอสุดพิเศษเหนือใคร  

           ในวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา นำโดยนางเข็มทอง เรืองกฤตยา ประธานชมรมผู้ค้ารถยนต์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา ได้จัดพิธีเปิดงาน ซึ่งได้รับเกียรติจาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งในครั้งนี้ทางชมรมฯได้มอบเงินสนับสนุนแก่เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท นำโดย นางณัฏฐินีภรณ์  จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เป็นตัวแทนในการรับมอบ
          กิจกรรมภายในงานสำหรับผู้ที่จองรถภายในงานมีสิทธิ์ลุ้นรับ Gift voucher รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท พร้อมของรางวัลอื่นๆอีกมากมาย  และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้ามารับสิทธิ์พิเศษ ซื้อคูปองอาหาร 100 บาท ฟรี 100 บาท รวม 9 วัน 9,000 สิทธิ์ มูลค่ากว่า 900,000 บาท

           ทั้งนี้ผู้จัดงานฯ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัย รวมถึงคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของผู้เข้าร่วมงาน และทีมงานเป็นสำคัญ จึงได้มีการเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรการการป้องกัน ที่รัดกุมและเข้มงวดเช่นเคย    จึงขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมงานทุกท่าน ช่วยกันปฏิบัติตามกฎระเบียบในการเข้าชมงานอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของทุกท่าน
             สามารถเข้าชมงานในวันที่  27 มีนาคม – 4 เมษายน 2564 เวลา 10.30 – 21.00 น. ที่ ชั้น3 เอ็มซีซี ฮอลล์ ,วาไรตี้ฮอลล์ , ชั้น 1 แกรน ฮอลล์ เดอะมอลล์นครราชสีมา

โค้งสุดท้าย ดีเบต ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา

วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ อาคารเรียนรวม อาคาร 31 มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ได้มีการจัดแสดงวิสัยทัศน์ของผู้สมัครเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครราชสีมา โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวต้อนรับผู้สมัครนายก ผู้สมัครสมาชิก นักศึกษา สื่อมวลชน

โดยในการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณเจริญลักษณ์ เพ็ชรประดับ ผู้บริหารอิสานบิช เป็นผู้ดำเนินการแสดงวิสัยทัศน์ โดยครั้งนี้ ผู้สมัครได้เดินทางมาร่วมครบทั้ง 4 ท่าน 4 เบอร์ ประกอบด้วย

หมายเลข 1 นายอัคคชา พรหมสูตร พร้อมด้วยสมาชิก ทั้ง 4 เขต

หมายเลข 2 นายประเสริฐ บุญชัยสุข พร้อมด้วยสมาชิกทั้ง 4 เขต

หมายเลข 3 ภก.จักริน เชิดฉาย พร้อมด้วยสมาชิกทั้ง 4 เขต

หมายเลข 4 นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ พร้อมด้วยสมาชิกทั้ง 4 เขต

ทั้งนี้ ในการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2564 ดังนั้น ผู้สมัครทั้ง 4 ท่าน ได้แสดงความคิด แนวทางการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา อาทิ เรื่องถนนหนทาง เรื่องน้ำ รวมทั้งเศรษฐกิจที่ตกต่ำของโคราช

และในช่วงสุดท้าย แต่ละท่านได้ประกาศลั่น พร้อมจับมือกัน ประกาศ จะไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน จะให้การเลือกตั้ง เป็นการเลือกตั้งสีเขียวตามเจตนารมย์ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ เสด็จฯทอดพระเนตรรำบวงสรวงท้าวสุรนารี ประจำปี 2564

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงทอดพระเนตรรำบวงสรวงท้าวสุรนารี ในพิธีบวงสรวงและรำสดุดีท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ประจำปี 2564

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จทรงทอดพระเนตรรำบวงสรวงท้าวสุรนารี ในพิธีบวงสรวงและรำสดุดีท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ประจำปี 2564 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) จังหวัดนครราชสีมา 

โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา เฝ้ารับเสด็จ รวมทั้งประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา

พิธีเปิดอุทธยานพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง เทพเจ้าแห่งโชคลาภองค์แรกของไทย ในโคราช

นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ได้ให้เกียรติเดินทางมาเป็นประธานฝ่ายฆราวาสทำพิธีเปิดอุทธยานพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง เทพเจ้าแห่งโชคลาภองค์แรกของไทย ณ ตำหนัก  ตำบลไชยมงคล  ชอย 1  อำเภอเมือง   จังหวัดนครราชสีมา

       โดยมีเกจิอาจารย์ที่มีบารมีธรรมสูง อาทิ พระสีหราชสมาจารมุนี รองเจ้าคณะจังหวัดประธานฝ่ายสงฆ์  พระครูธรรมานุยุตวัดสว่างอารมณ์  หลวงปู่อุดมทรัพย์วัดเวฬุวัน  หลวงปู่บุญหลายวัดปุตเนียม  พระครูปลัดภูมิปัญญาวัดป่าแสงธรรมพรหมรังสี และครูบาโกมลวัดป่าศรีถาวร  ร่วมทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ นอกจากนี้ทางตำหนักยังเปิดให้จองวัตถุมงคลยี่กอฮง ชึ่งมีจำนวนจำกัด

เปิดตำนาน” ยี่กอฮง “เทพเจ้าโชคลาภองค์แรกแห่งสยาม จากทายาท ตระกูลเตชะวณิช

วันที่ 18 มีนาคม 2564  ทายาทตะกูลเตชะวณิช ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ถึงวัตถุประสงค์ของการก่อสร้าง ตำหนัก รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม หรือ “ยี่กอฮง”

รองหัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม (ฮง เตชะวณิช) มีชื่อจีนว่า “ยี่กอฮง” หรือ “ตี้ยัง แซ่แต้”

เกิดเมื่อวันอังคาร ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ปีจอ พ.ศ. 2392 ท่านประกอบอาชีพค้าขาย และมีตำแหน่งเป็นนายอากรที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2479 รวมอายุได้ 87 ปี

 โดยทายาทได้เล่าให้ฟังว่า  “ยี่กอฮง”นั้นเกิดในประเทศจีน เป็นชาวจีนแต้จิ๋วที่ถือกำเนิดในมณฑลกวางตุ้ง ใน พ.ศ. 2392 บิดาชื่อนายแต้ซีแซ กับนางเซียะ เมื่ออายุ 16 ปี ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยได้เข้าทำงานเป็นเสมียนโรงบ่อนของพระยาภักดีภัทรากร (เล่ากี้ปิง) และตั้งปณิธานว่าจะประกอบอาชีพค้าขายในสยามตลอดชีวิต โดยตั้งหลักฐานอยู่ในพระนคร เปิดร้านค้าขายผ้าอยู่ที่หัวมุมสี่กั๊กพระยาศรี ด้านถนนบำรุงเมือง เมื่อค้าขายได้ระดับหนึ่งจึงได้ตัดสินใจอยู่ในประเทศไทยถาวรตลอดชีวิต ได้ขยายกิจการค้าไปหลายจังหวัด เช่น กำแพงเพชร ตาก และเชียงใหม่ในช่วงรัชสมัยรัชกาลที่ ๖ ท่านประกอบอาชีพค้าขายจนสร้างโรงสีข้าว ประกอบธุรกิจส่งออก จนมีฐานะมั่นคง ตามประวัติเล่าไว้ว่า ท่านยี่กอฮง ได้มาปลูกบ้านอยู่ที่ย่านพลับพลาไชย หน้าวัดคณิกาผล ท่านยี่กอฮง ได้ประกอบกิจการค้าหลายอย่าง แต่ที่ได้สร้างฐานะให้ท่านจนรุ่งเรืองก็คือ การเป็นเจ้าภาษีโรงต้มกลั่นสุรา โรงบ่อนเบี้ย โรงหวยกอขอ ต่อมาเมื่อมีการออกพระราชบัญญัติเลิกอากรบ่อนเบี้ย และหวยกอขอ ท่านจึงได้หันไปประกอบกิจการค้าอื่น ๆ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่านจึงมีความคิดที่จะช่วยเหลือประเทศชาติ ยี่กอฮงท่านได้มีส่วนในการบริจาคทรัพย์สินและได้สร้างสาธารณประโยชน์ไว้อย่างมากมาย เช่น ถนน, สะพานฮงอุทิศ สะพานนิยมนฤนาถ สะพานอนุวัตน์วโรดม, โรงเรียนวัดสะพานสูง (โรงเรียนโยธินบูรณะ), โรงเรียนป้วยเองหรือโรงเรียนเผยอิง เมื่อ พ.ศ. 2463, ศาลเจ้าเก่าถนนทรงวาด, ศาลเจ้าไต้ฮงกง, ก่อสร้างท่าน้ำฮั่วเซี้ยม, ริเริ่มก่อตั้งโรงพยาบาลเทียนฟ้า เป็นต้น ท่านเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิป่อเต็กตึงขึ้น โดยชักชวนเหล่าพรรคพวกเพื่อนฝูงในสมัยนั้น มาร่วมกันสร้างมูลนิธิช่วยเหลือผู้ยากไร้ตกทุกข์ได้ยากและสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เด็กที่เรียนดีแต่ยากไร้ อีกทั้งยังเป็นผู้มีส่วนในการรณรงค์หาเงินเข้าสภากาชาดไทยอย่างมากมาย รวมถึงได้บริจาคเงิน 10,000 บาทในการก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยได้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์หมายเลข 9 พร้อมทั้งยังเป็นผู้ชักชวนเพื่อนฝูงคหบดีรวบรวมกันบริจาคเงินซื้อ “เรือรบหลวง พระร่วง”ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเข้าประจำการในกิจการป้องกันประเทศชาติของกองทัพเรือโดยท่านนำร่องบริจาคทรัพย์เป็นเงิน 10,000.00 บาท รวมถึงการส่งเงินไปช่วยสร้างเขื่อนที่ประเทศจีน ทำให้ชาวจีนรอดชีวิตจากน้ำท่วมทุกปีเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ในวัน เสาร์ที่ 20 มีนาคม 2564 นี้ จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างพิพิธภัณฑ์หัวหมื่นพระอนุวัตน์ราชนิยม ณ อุทธยานพ่อปู่เจ้ายี่กอฮง  ณ  เลขที่ 888  ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา  โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  เป็นประธานครั้งนี้ และยังมีวัตถุมงคลให้บูชากลับไปเป็นศิริมงคลอีกด้วย

ซินโครตรอนผนึกกำลัง มทส. และจังหวัดนครราชสีมา ร่วมใช้แสงซินโครตรอนและนวัตกรรมพัฒนาวิสาหกิจชุมชนโคราช


จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับกระทรวง อว. โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนและนวัตกรรมสู่ชุมชนเพื่อพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา โดยจังหวัดนครราชสีมาจะสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่ได้รับถ่ายทอดจากมหาวิทยาลัยฯ และสถาบันฯ ในการพัฒนาจังหวัดต่อไป


.
นครราชสีมา : เมื่อวันอังคารที่ 16 มีนาคม 2564 จังหวัดนครราชสีมา และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และ สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) หรือ สซ. ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนและนวัตกรรมสู่ชุมชนเพื่อพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ณ SUT-Co working Space อาคารสุรพัฒน์ 1 เทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา โดย มทส. จะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม และ สซ. จะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านแสงซินโครตรอนที่เป็นประโยชน์ต่อจังหวัดนครราชสีมาเพื่อนำไปพัฒนาจังหวัด
.
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในด้านการใช้ประโยชน์จากแสงซินโครตรอนและนวัตกรรม เพื่อเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปได้เข้าใจและเข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่โดยสะดวกและทั่วถึง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) “โคราชเมืองน่าอยู่ประชาชนมีความสุขมั่นคงยั่งยืน” และเป้าหมายการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา คือ “ศูนย์กลางโครงข่ายคมนาคมและท่องเที่ยวของภูมิภาค นวัตกรรมการเกษตรและอุตสาหกรรม สังคมคุณภาพสูง”


.
รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า “ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือทางวิชาการในการพัฒนาศักยภาพ และยกระดับชุมชน กลุ่มอาชีพ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา โดยการใช้องค์ความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ ทรัพยากร รวมถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้งของมหาวิทยาลัย และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีแสงซินโครตรอนและเทคโนโลยีอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างชุมชน มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภาครัฐเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการวิจัยและพัฒนา การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนอย่างเป็นระบบ อันส่งผลสู่เศรษฐกิจ การจ้างงาน และความเข้มแข็งของสังคมไทยต่อไป” .
.

รองศาสตราจารย์ สาโรช รุจิรวรรธน์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า “ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก หรือเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่น หรือระดับจังหวัด ให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม อย่าง “แสงซินโครตรอน” ในการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต ผลิตภัณฑ์ สินค้าและวัตถุดิบในชุมชนท้องถิ่น นำไปสู่การยกระดับมาตรฐานคุณภาพผลผลิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของชุมชนได้ ส่งผลให้เกิดการแก้ไขปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และความไม่เสมอภาคตามเป้าหมายการพัฒนาของยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อสร้างเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง”


.
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้มีโครงการนำร่องในการใช้แสงซินโครตรอนวิเคราะห์โครงสร้างสามมิติของผ้าไหมไทย เพื่อพัฒนาและยกระดับสิ่งทอจากเส้นใยธรรมชาติที่เป็นวัสดุท้องถิ่นเพื่อพัฒนาทดแทนหน้ากากทางการแพทย์ และได้นำร่องถ่ายทอดเทคโนโลยีการทอผ้าไหมและการตัดเย็บให้แก่ชุมชนในอำเภอปักธงชัย และจะถ่ายทอดให้กับชุมชนอื่นๆ ในจังหวัดนครราชสีมาต่อไป

.

โคราช!!จัดกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ 10-14 มิ.ย.64

จังหวัดนครราชสีมาจัดกิจกรรมงาน “ตลาดชุมชนเกษตรปลอดภัยนครชัยบุรินทร์” กระตุ้นเศรษฐกิจ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “ตลาดชุมชนเกษตรปลอดภัยนครชัยบุรินทร์”ครั้งที่ ๑ (GREEN MARKET)ณ ศูนย์การค้าเซ็ลทรัลพลาซา นครราชสีมา โดย นายศารุมภ์ โหม่ง สูงเนิน พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวรายงาน และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นเกียรตีในพิธีเปิดงานฯ โครงการพัฒนานวัตกรรมเกษตรและอาหารปลอดภัยกลุ่มนครชัยบุรินทร์

 กิจกรรมหลักที่ ๔ การพัฒนาศักยภาพการตลาดผลิตภัณฑ์เกษตรกลุ่มนครชัยบุรินทร์ กิจกรรมการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัยนครชัยบุรินทร์ ครั้งที่ ๑ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมาชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาเป็นผู้ดำเนินการ เพื่อเร่งช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประกอบการของกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ระลอกใหม่

ซึ่งดีขึ้นตามลำดับ ได้มีช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า หารายได้ให้กับครอบครัว และเป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ทั้งจากกลุ่มจังหวัด ได้นำสินค้าเกษตรปลอดภัยที่เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่น และสินค้าที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน และมีการพัฒนาด้านนวัตกรรมมาเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งจากภายในและภายนอกได้รู้จักได้อย่างแพร่หลาย ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ มีรายได้เพิ่มมากขึ้น การจัดงานตลาดชุมชนเกษตรปลอดภัยนครชัยบุรินทร์ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๔มีนาคม ๒๕๖๔ ผู้ประกอบการเข้าร่วมงาน จำนวน ๖0 คูหา ผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป

อาหาร สินค้าชุมชนที่มีชื่อเสียงของจังหวัดแต่ละจังหวัด เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้เกรดส่งออก ข้าวโพดหวาน ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ ผักปลอดสารพิษ ไข่ไก่ปลอดสาร และอาหารแปรรูปจากจังหวัดนครราชสีมา ผ้าไหมงาม ข้าวหอมมะลิอินทรีย์ ลูกชิ้นหมู ข้าวเม่าจากจังหวัดสุรินทร์ ขาหมู น้ำพริก ข้าวแต๋น กุ้งจ่อมประโคนชัย จากจังหวัดบุรีรัมย์ ผ้าไหม ผ้าอินทรีย์ ผ้าย้อมสีธรรมชาติ จากจังหวัดชัยภูมิ และกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจการค้า ซึ่งมีกำหนดการจัดงาน ๒ ครั้ง คือในครั้งนี้ และครั้งที่ ๒ กำหนดจัดงานในเดือนเมษายน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ต่อไป

วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา ให้การต้อนรับคณะกรรมการประเมินสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2563

วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา ให้การต้อนรับคณะกรรมการประเมินสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2563

วันที่ 10 มีนาคม 2564 ณ วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา ได้ให้การต้อนรับคณะประเมินสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา 2563 

นำโดย นายประทีป อนิลบล ผู้อำนวยการวิทยาลัย สารพัดช่างชัยภูมิ

ทั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายชนะ ธรณีทอง  นายอำเภอเมือง นครราชสีมา ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา 

นายวัชรพล  โตมรศักดิ์  ประธานกรรมการสถานศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา 

นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์  นายกสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา

และนายวัชริน พัดเกาะ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหมื่นไวย

ให้การกล่าวต้อนรับ และกล่าวถึงบทบาทการร่วมงานในฐานะภาคีเครือข่ายระหว่างองค์กร เพื่อประการการพิจารณาการประเมิน 

นอกจากนี้ วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา โดย นายสุดชาย บุตรแสนลี ผู้อำนวยการ พร้อมคณะได้ร่วมกันแสดงกิจกรรมด้านบนเวที เพื่อเป็นการต้อนรับ ร่วมกับนักศึกษา

กิจกรรมในครั้งนี้ ได้มีการจัดบูธเพื่อให้ความรู้ การแสดงสินค้า และผลิตภัณฑ์ของวิทยาลัย ชุมชน และองค์กรต่าง ๆ ในพื้นที่ และได้รับเกียรติจากภาคีเครื่อข่ายต่าง ๆ มาร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมากอีกด้วย

สำหรับรางวัลพระราชทานเป็นรางวัลที่ทรงคุณค่าและเป็นเกียรติประวัติต่อผู้รับอย่างสูงสุด คุณความดีจะถูก ประกาศและเผยแพร่ไปยังสาธารณชนทั่วไป ฉะนั้น ในการดำเนินงานคัดเลือกนักเรียนและสถานศึกษาเพื่อรับ รางวัลพระราชทาน นักเรียนและสถานศึกษาที่ผ่านการตัดสินต้องมีสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมอย่าง โดดเด่นชัดเจน สมควรที่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย/ทุกคนต้องตระหนักไว้เสมอว่าการดำเนินงานทุกด้านต้องกระทำ อย่างรอบคอบ และผู้ที่ได้รับรางวัลไปแล้วจะต้องดำรงรักษาคุณความดีนั้นให้ยาวนานสืบไป

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 10 องค์กรเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสทางการศึกษา

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการมีส่วนร่วมของเครือข่ายในด้านการศึกษา อาชีพ และการกำกับติดตามให้ความช่วยเหลือสำหรับเด็กและเยาวชนระหว่าง เทศบาลนครนครราชสีมา, วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา, คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต ๓ จังหวัดนครราชสีมา, ศูนย์การเรียนปัญญาภิวัฒน์ นครราชสีมา, สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา, โรงเรียนมัธยมพุทธเกษตรวัดโนนเมือง, วิทยาลัยบริหารธุรกิจและการท่องเที่ยวนครราชสีมา

บันทึกข้อตกลงนี้ทำขึ้น ณ วิทยาลัยสารพัดช่างนครราชสีมา  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชนด้อยโอกาสทางการศึกษาของภาคีเครือข่ายในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาและพื้นที่ใกล้เคียงโดยส่งเสริมและสนับสนุนความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาในด้านการจัดการเรียนการสอนตลอดจนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยมีคณะเจ้าหน้าที่ นักเรียน  นักศึกษา และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย