ปปช .โคราช ลงตรวจพื้นที่งาน ถนนคอนกรีต เทศบาลตำบลหัวทะเล

“ป.ป.ช. โคราช ลงพื้นที่ด่วน กรณีได้รับเบาะแส โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมรางระบายน้ำของเทศบาลตำบลหัวทะเล”

วันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๕.๐๐ น. นายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่บ้านหนองสองห้อง หมู่ ๑๐ ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา กรณีได้รับเบาะแสโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กพร้อมรางระบายน้ำ ที่อาจไม่ถูกต้องตามระเบียบ กฎหมาย และอาจทำให้น้ำท่วมขังบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นได้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา จึงได้ประสานเทศบาลตำบลหัวทะเล ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเป็นโครงการปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ระยะทางประมาณ ๕๐ เมตร งบประมาณ ๑๓๒,๐๐๐ บาท โดยช่างควบคุมงานของเทศบาลฯ กล่าวว่า “โครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างถนนพัฒนาในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลหัวทะเล สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ชาวบ้าน พร้อมกับการสร้างรางระบายน้ำเชื่อมต่อจากถนนหลักเพื่อช่วยระบายน้ำในช่วงหน้าฝน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จตามกระบวนการ และต้องวางแผนปรับแบบแปลนให้เหมาะกับสภาพพื้นที่เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์จากโครงการมากที่สุด

ทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา จะติดตามผลการดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะแล้วเสร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

“”ตำรวจภูธรภาค3 กวาดล้างกัญชาข้ามชาติ””

  ตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้านการแก้ไขปัญหา    ยาเสพติด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564  กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน โดยให้เป็นการแก้ไขปัญหาภายในของประเทศด้วยกฎหมายไทยและหลักสากล  

ภายใต้การอำนวยการของ  พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์   รอง ผบ.ตร.(ปป)  ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่

          ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.สมประสงค์  เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์  ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.กม) /รับผิดชอบ ศอ.ปส.(ยาเสพติด), พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 (หน.สส) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงคต์  เรืองเดช ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ และ ล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.3 ,พ.ต.อ.สมบัติ  หงส์ทอง รอง ผบก.สส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน

เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๔  กก.สสส.ภ.จว.อำนาจเจริญ โดย พ.ต.อ.อรรพร สุริยเลิศ ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ  ,พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาตย์ รอง ผกก.ฯ ได้ทำการสืบสวนทราบว่าจะมีการลักลฃอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาจากพื้นที่ชายแดนมายังพื้นที่ตอนใน จึงได้ประสานข้อมูลร่วมทกับ บก.สส.ภ.๓ โดย พ.ต.อ.สุกาญจน์  นิลอ่อน ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.๓,พ.ต.อ.สวิทธิชัย  ธัญญาบาล ผกกห.

สืบสวน ๒ บก.สส.ภ.๓ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ และ บก.สส.ภ.๓   

ร่วมกันจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 ราย  ผู้ต้องหา ๔ คน  ดังนี้   

๑)  นายธชกร หรือ บอล  ปวงรังสี    อายุ ๓๙  ปี  ที่อยู่ ๑/๘๗ หมู่ที่ ๕ ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี

๒)  นายทวีวุฒิ หรือนิว  ถาวรนุวงศ์  อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ ๑๕๑ หมู่ที่ ๑๑  ต.ทุ่งก่อ อ.เวียงเชียงรุ้ง  จ.เชียงราย 

๓) นายวฤทธิ์  พุ่มพวง อายุ ๒๗ ปี ที่อยู่ ๙/๑ หมู่ที่ ๓ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

๔) นายวิทวัช หรือท๊อป  เรียงแก้ว  อายุ  ๒๔ ปี ที่อยู่ ๓๖๕ หมู่ที่ ๕ ต.แจงงาม  อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

พร้อมด้วยของกลาง

      ๑) กัญชาอัดแท่ง จำนวน 1,824 กก.

รถยนต์ตู้ จำนวน  3  คัน

๔) รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผธ ๔๔๓๐ อุบลราชธานี จำนวน ๑ คัน

                       ***********************************************

ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น.

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหายหลายราย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2564 ทาง สภ.เมือง ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ถ้าพี่น้องประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากแก๊งหลอกลวงนี้ กรุณาติดต่อได้ที่สถานีตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจโคราช  แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท พฤติกรรมหลอกแบบเดิมๆทำให้เหยื่อตายใจขอตรวจสอบเงินในบัญชีเหยื่อ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 แถลงการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายรวมความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อและให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นางสาวสมศรี  บุญเลี้ยง จำนวน 218,470 บาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะของแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มต้นที่คนร้ายจะโทรหาผู้เสียหายและอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งแล้วบอกกับผู้เสียหายว่ามีสินค้าจำพวก พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้า ที่จะส่งไปยังประเทศจีนติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรไม่สามารถขนส่งไปยังปลายทางได้ ผู้เสียหายได้แจ้งกลับไปว่าไม่เคยมีการส่งสินค้าดังกล่าวแต่คนร้ายได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่าสามารถโอนสายเพื่อติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. เป็นร้อยเวรของ สภ.เชียงใหม่

จากนั้นมีการแนะนำให้แอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ มีการพูดคุยผ่านไลน์ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จริง จากนั้นคนร้ายได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีการฟอกเงิน ถ้าไม่อยากมีปัญหาจะให้ ปปง.ทำการตรวจสอบบัญชีของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลบัญชีทั้งหมดและยอดเงินในบัญชี โดยมีการกล่าวอ้างเรื่องการการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบอกว่าจะส่งบัญชีของผู้เสียหายให้ ปปง. ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน

ต่อมา คนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีที่ผู้เสียหายมีไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อนางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เพื่อทำการตรวจสอบว่าตรงกันหรือปล่าว โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงและเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์จึงได้ทำการโอนนไปยังบัญชีดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงโทรกลับไปยังหมายเลขที่เคยติดต่อกับคนร้ายปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้

ในเบื้องต้นตำรวจได้ขอนุมัติศาลออกหมายจับ 5 รายเป็นคนไทย 4 ราย และชาวกัมพูชาอีก 1 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย มีทั้งรับจ้างเปิดบัญชี นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี และคนจัดส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป

รองนายกรัฐมนตรี เตรียมจัดงาน กระตุ้นเศรษฐกิจโคราช

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2564 ณ ห้องประชุม คอนเวนชั่น ฮอลล์ โรงแรมกรีนเนอรี่
ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ประธานการประชุมร่วม นาย วิเชียร์ จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัด นครราชสีมา, หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา,พาณิชย์จังหวัด นครราชสีมาและ จังทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา ได้มีผู้ประกอบการต่างๆเข้าร่วมต้อนรับและนำสินค้าดี เด่น ดัง เพื่อต่อยอดการตลาดต่อไป

  ในการนี้ทางองค์กรเอกชนต่างๆ ได้นำเสนอ เรื่องต่างๆ อาทิ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สมาคมมันสำปะหลังและหน่วยงานอื่นๆ โดยมีฑูตพาณิชย์24ประเทศเข้าร่วมทางออนไลน์ด้วย ได้นำเสนอเรื่องต่างๆ ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา  โดยทางหอการค้าได้นำเสนอ

1.ขอให้มีการจัดงาน “International trade fair” ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ปี2022

ผลการประชุม ท่านรองนายกสั่งการ ให้ทีมกระทรวงจัดหางบประมาณ และให้ประสานฑูตพาณิชย์ในทุกประเทศ ในการสนับสนุนการจัดงาน และท่านผู้ว่าฯจ.นม จะสนับสนุนงบจังหวัดภายใต้ Korat Mice 

2.ขอให้ท่านรองนายก ช่วยจัดหา ชุดตรวจ ATK ในราคา40บาท เหมือนที่ กทม เพื่อให้ผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ท่องเที่ยว ภายใต้โครงการเปิดเมืองโคราช Korat Green Box โดยมีพื้นที่นำร่อง 5อำเภอ อ.เมือง อ.ปากช่อง อ.วังน้ำเขียว อ.พิมาย อ.สีคิ้ว จำนวน 200,000ชุด

ผลการประชุม ท่านรองนายกสั่งการ ประสานกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดหา ATK ในราคา40บาท ผ่านองค์การเภสัชกรรม(GPO) ทางกระทรวงสาธารณสุข แจ้งกลับมาว่า ให้ทางหอการค้าเป็นตัวแทนในการประสานความต้องการมาได้เลย และจะจัดให้ตามที่ความต้องการที่เสนอมา

3.จะมีการจัดงานมันสำปะหลังโลก ในจังหวัดนครราชสีมา เร็วๆนี้

 และมีการมอบใบสิทธิบัตรให้กับสวนทุเรียนGIปากช่อง ได้แก่ สวนทุเรียนวงศ์สมิตกุล สวนทุเรียน อัมพร  เป็นต้นและ สรุปข้อหาในการแก้ปัญหา ผู้ประกอบการด้านต่างๆ ประกอบ

“มวลน้ำทะลัก 4 อำเภอ รอบนอกโคราช”

#น้ำท่วมโคราช #มวลน้ำทะลัก 4 อำเภอ รอบนอกโคราช

      วันนี้ (25 ต.ค.2564) ปภ.สาขาชุมพวง จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากลำน้ำมาศล้นตลิ่ง

ได้แก่

    – อ.พิมาย มวลน้ำได้เอ่อล้นเข้าไร่นาและบ้านเรือนประชาชน วัด โรงเรียน

พื้นที่ ม.8 บ้านตะคร้อ

และเข้าท่วมพื้นที่นาข้าว บ้านโนนทะยอม ม.26 ต.โบสถ์

   – อ.ห้วยแถลง มวลน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมถนน บ้านเรือนประชาชน ไร่นา พื้นที่ ม.10 บ้านโนนเพ็ด ต.หลุ่งตะเคียน

   – อ.ชุมพวง มวลน้ำได้ล้นตลิ่ง เข้าท่วมไร่นา ถนน

วัด และบ้านเรือนประชาชน จำนวน 3 หลังคาเรือน พื้นที่บ้านสาหร่าย ม.1 ต.โนนตูม

   ศบก.พิมาย จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์ น้ำท่วมตำบลชีวาน อำเภอพิมาย ว่า ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวานอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้

    -บริเวณบ้านดอนเขว้า หมู่ที่ 2 ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน ประมาณ 20 ซม.น้ำลำสะแทด เอ่อเข้าชุมชนถนนในชุมชน

     -บริเวณ ฝายบ้านดอนน้ำซับ หมู่ที่ 8 ระดับน้ำสูงขึ้นจากเมื่อวาน 20 ซม. น้ำลำสะแทดเอ่อเข้าชุมชน ทางเข้าหมู่บ้านระดับน้ำสูงจากถนน 30-50 ซม.

ถนนระหว่าง ดอนน้ำซับ – คุ้มโนนทอง ระดับน้ำสูงจากถนน 40-60 ซม. ระดับใกล้เคียงกับการท่วมครั้งแรก สัญจรทางเรือและรถทางการเกษตร

     -ลำสะแทดเอ่อล้นโอบล้อมพื้นที่และดันเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ระดับน้ำพื้นที่การเกษตรโดยรวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

     -ระดับน้ำบริเวณ คลอง เหมือง สูงขึ้นทุกแห่ง

“แม่ทัพภาคที่2และผู้ว่าโคราช ลงติดตามสถานการณ์น้ำที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา”

…วันที่ 20 ตุลาคม 2564 ช่วงค่ำที่ผ่านมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ท.สวราชย์  แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 เเละ นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณรอบโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และการเร่งระบายน้ำภายในโรงพยาบาลมหาราช

…ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามระดับน้ำภายในโรงพยาบาลและบริเวณรอบอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันน้ำท่วมโรงพยาบาลฯ