ผู้ตรวจการแผ่นดิน เผย คืบหน้า โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพ นร.ครอบครัวยากจน ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ หลังลงพื้นที่นครราชสีมา นำเด็กนักเรียนกว่า 500 ชีวิต ร่วมกิจกรรมเปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ แนะแนวเลือกหลักสูตรคาดเปิดอบรมเมษา 63
วันนี้ (26 ก.พ. 63) ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ร่วมกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เปิดโครงการ “เปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี การก่อตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ภายใต้โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนของจังหวัดนครราชสีมา ที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563” โดยมี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานเปิดโครงการฯ นายสุทธิพงษ์ โกศลวิริยะกิจ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นายกีรป กฤตธีรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายชวลิต ธูปตาก้อง ที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าที่ร้อยตรีสมศักด์ พรหมดำ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา นายกฤตพล ชุติกุลกีรติ ศึกษาธิการจังหวัดนครราชสีมา นายทิฆัมพร ยะลา ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบหน้าที่ของรัฐ นางสาวสิริรัตน์ เมืองสมุทร ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแนะแนวและแนะนำหลักสูตรแก่กลุ่มนักเรียนครอบครัวยากจนจังหวัดนครราชสีมา
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า ปีนี้มีนักเรียนจบการศึกษาภาคบังคับในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 28,221 คน เรียนต่อในระบบโรงเรียน จำนวน 27,468 คน ไม่ได้เรียนต่อในระบบโรงเรียน จำนวน 753 คน มีนักเรียนตอบรับเข้าร่วมโครงการฝึกทักษะอาชีพ จำนวน 392 คน ซึ่งเกินกว่าอัตราที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเตรียมไว้เข้าโครงการ ถึงจำนวน 372 คน ถือว่าโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ ที่มีนักเรียนจำนวนมากตอบรับเข้าฝึกอาชีพก่อนก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงานเพื่อพัฒนาทักษะและฝีมือตนเอง เพื่อสร้างอาชีพเลี้ยงครอบครัวและสร้างรายได้ให้มากกว่าอัตราแรงงานขั้นต่ำ
เบื้องต้นสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา ได้จัดกิจกรรม “เปิดบ้านสาธิตงานอาชีพ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี การก่อตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา” เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าศึกษาดูงาน ดูความพร้อมของสถานที่ฝึก เครื่องมือและเครื่องจักรในแต่ละสาขา มีการแนะแนวและแนะนำ เกี่ยวกับความต้องการของตลาดแรงงานในแต่ละสาขา จำนวนรายได้และความก้าวหน้าในอาชีพ คาดว่าเริ่มเปิดฝึกอบรมในช่วงเดือนเมษายน 2563 ใช้ระยะเวลาการฝึกตามหลักสูตร 2-4 เดือน ฝึกประสบการณ์ในสถานประกอบกิจการอีก 1-2 เดือน ซึ่งนักเรียนได้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรช่างเย็บจักรอุตสาหกรรม จำนวน 29 คน หลักสูตรช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร จำนวน 42 คน หลักสูตรช่างซ่อมเครื่องยนต์ จำนวน 41 คน หลักสูตรช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ จำนวน 79 คน หลักสูตรช่างสีรถยนต์ จำนวน 23 คน หลักสูตรช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ จำนวน 25 คน หลักสูตรช่างเครื่องทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 15 คน
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าเพื่อให้โครงการดังกล่าวมีความยั่งยืนจึงมีแนวทางการจัดตั้งงบประมาณในการฝึกอบรมในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และปีงบประมาณต่อ ๆ ไป โดยขอให้สำนักงบประมาณสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการฝึกอบรมแรงงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และในกรณีสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานหรือสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดร้องขอและเสนอโครงการไปยังสำนักงานจังหวัดให้กระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาสนับสนุนงบพัฒนาจังหวัด รวมถึงเงินอุดหนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดด้วย
“โครงการนี้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำสร้างชีวิตสร้างอนาคตแทนที่จะส่งบุตรหลานของท่านไปทำงานทันทีที่จบการศึกษาขอเวลาให้กับลูกหลานของท่านหน่อยสัก 3-6 เดือน ได้ฝึกอาชีพที่สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานซึ่งมีทุกจังหวัดแล้วคุณภาพชีวิตของบุตรหลานท่านจะเปลี่ยนไป” นายสมศักดิ์ กล่าว