ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมผู้เสียหายเหตุลักทรัพย์ นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ้ใหม่บูติค ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 12/5-6 ถนนจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แจ้งว่าพบเสื้อกางเกงยีนต์ ที่เป็นของทางร้านที่ได้ถูกขโมยไปโดย คนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เข้ามาลักเอาทรัพย์สินดังกล่าวไปและได้แจ้งความ ร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561


ต่อมานางรุ่งทิพย์ ฯทราบว่าได้มีคนนำเสื้อกางเกง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของร้านตนเองที่ได้ถูกลักขโมยเอาไป มาวางขายที่ตลาดนัดจิระ บริเวณหน้าสถานีรถไฟจิระ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เสียหายจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบแผงวางขายเสื้อกางเกงยีนต์ พบนายนิพนธ์ นามสว่าง ให้การว่าเป็นลูกจ้าง รับจ้างขนของมาขายจาก นางยุพาพร พงษ์พฤฒิพันธ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นสินค้าที่สูญหายจากร้านตนเองจริง จากนั้นได้ให้นายนิพนธ์ ฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหาย ไปหานางยุพาพร ฯที่บ้านพัก พบนางยุพาพร ฯ จึงได้สอบถามที่มาของเสื้อกางเกงที่เอาไปวางขายดังกล่าว แต่ขณะสอบถามพบว่านางยุพาพร ฯ ให้การมีพิรุธ เกี่ยวกับที่มาของเสื้อกางเกงดังกล่าว ให้การวกไปวนมา จนกระทั่งต่อมาให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561 ได้ร่วมกับนางปุ้ย ฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเคยเป็นลูกจ้างที่ร้านเจ๊ใหม่บูติค ด้วยกันมาก่อน เข้าไปลักขโมยเอาเสื้อกางเกง โดยเข้าไปลักเอาในเวลากลางคืน จำนวน 2 วัน 2 ครั้ง และนำทรัพย์สินที่ได้มาแบ่งกันเอาไปขาย
ด้าน นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร เจ้าของร้าน เล่าน้ำตาคอว่า หลังจากทราบว่าลูกจ้างตนเป็นคนลักทรัพย์ไปนั้นเสียใจอย่างมากเนื่องจากไว้ใจ เพราะสินค้าในร้านมีจำนวนมาก กล้องวงจรปิด 16 ตัวในร้านไม่พบการก่อเหตุสักครั้ง อีกทั้งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแค่เพียง 2 ครั้งเพราะว่าสินค้าศูนย์หายไปจำนวนมาก มูลค่ากว่าครึ่งล้าน และพบว่ามีการทถอยลักทรัพย์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2561 เป็นต้นมาและมาลาออกในเดือนสิงหาคม หลังจากออกไปแล้วก็ยังวนเวียนเข้ามาก่อเหตุซ้ำต่อในเดือนธันวาคมอีก ซึ่งเชื่อได้ว่าคนร้านจะเข้ามาทางด้านหลังร้านซึ่งมีกำแพงติดกับวัดโพธิ์ และใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนของหลบหนี จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด

 

>ชมภาพ<<