ชมรมไทย – จีน ถือศีลกินเจ โคราช จัดแถลงข่าวเทศกาลถือศีลกินเจโคราช (ครั้งที่ 14) ประจำปี 2562
วันนี้ 21 กันยายน 2562 เวลา 13.00 น ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่านครราชสีมาได้จัดงานแถลงข่าวเทศกาลถือศีลกินเจโคราช (ครั้งที่ 14) ประจำปี 2562 โดยได้รับเกียรติจากนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมาให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีร่วมกับหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา สมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมาและองค์กรต่างๆ เพื่อร่วมกันแถลงข่าวเทศกาลถือศีลกินเจโคราช (ครั้งที่ 14) ประจำปี 2562
โดย นายภิญโญ วัจนศิริเสถียร ประธานชมรมไทย – จีน และประธานเทศกาลถือศีลกินเจโคราชประจำปี 2562 ซึ่งทางชมรมไทย- จีนถือศีลกินเจโคราชศาลเจ้าองค์กรการกุศลมูลนิธิหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ร่วมดำเนินการจัดงานในครั้งนี้เป็นปีที่ 14 ถือเป็นประเพณีของคนไทยเชื้อสายจีนมาแต่โบราณมีระยะเวลา 9 วันโดยเริ่มต้น ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง วันที่ 7 ตุลาคม 2562 และหนึ่งในพิธีกรรมที่สำคัญของงานถือศีลกินเจในทุกปี คือ พิธีอัญเชิญประทับทรงเทพเจ้าแห่รอบเมืองโคราชหรืออิ้วเก้ง ซึ่งตรงกับ วันพุธที่ 2 ตุลาคม 2562 ตั้งแต่เวลา 08:29 น. เป็นต้นไปโดยเริ่มขบวนแห่จากหน้าลานย่าโมไปตามเส้นทางต่างๆรอบเมืองนครราชสีมา แล้วสิ้นสุดอยู่ที่หน้าลานย่าโมและอีก 1 พิธีกรรมที่สำคัญคือ พิธีเดินข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์ 12 ราศี หรือโกยห่าน เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์แก่ผู้ที่มาร่วมงาน และภายในพิธีจะมีพิธีเดินลุยแก้วหรือเหยีอบแก้วของม้าทรงจากศาลเจ้าต่างๆอีกด้วย ซึ่งจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562 เวลา 19:09 น ณ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
เพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่สืบไปอีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีของกลุ่มบุคคลในการจัดกิจกรรมร่วมกันและให้พี่น้องประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดนครราชสีมาได้ตั้งโต๊ะรับสักการะองค์เทพเจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหันมารับประทานอาหารเจในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจมากขึ้นดัง คำกล่าวที่ว่า หนึ่งมื้อทานเจหมื่นชีวิตรอดตายและเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในการจัดกิจกรรมเทศกาลถือศีลกินเจและให้ประชาชนได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถือศีลทำบุญในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาและสุดท้ายเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีและอยากให้ประชาชนเยาวชนเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมอันเก่าแก่และพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรเก็บรักษาสืบทอดต่อไปตลอดจนส่งเสริมเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาให้ดียิ่งขึ้น