ตำรวจกวาดล้าง เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น.

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหายหลายราย เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2564 ทาง สภ.เมือง ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีหลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผู้เสียหาย มูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท ถ้าพี่น้องประชาชนท่านใดได้รับความเสียหายจากแก๊งหลอกลวงนี้ กรุณาติดต่อได้ที่สถานีตำรวจภูธรภาค 3

ตำรวจภูธรภาค 3 ตำรวจโคราช  แถลงจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท พฤติกรรมหลอกแบบเดิมๆทำให้เหยื่อตายใจขอตรวจสอบเงินในบัญชีเหยื่อ

เมื่อวันที่ 26 ต.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 3 แถลงการจับกุมเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงผู้เสียหายหลายรายรวมความเสียหายกว่า 2.4 ล้านบาท โดยสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ต.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายโทรศัพท์มาหลอกลวงผู้เสียหายจนหลงเชื่อและให้โอนเงินไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี นางสาวสมศรี  บุญเลี้ยง จำนวน 218,470 บาท เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า คดีดังกล่าวเป็นการกระทำในลักษณะของแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มต้นที่คนร้ายจะโทรหาผู้เสียหายและอ้างตนเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่งแล้วบอกกับผู้เสียหายว่ามีสินค้าจำพวก พาสปอร์ต บัตรเอทีเอ็ม และเสื้อผ้า ที่จะส่งไปยังประเทศจีนติดค้างอยู่ที่ด่านศุลกากรไม่สามารถขนส่งไปยังปลายทางได้ ผู้เสียหายได้แจ้งกลับไปว่าไม่เคยมีการส่งสินค้าดังกล่าวแต่คนร้ายได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการแนะนำว่าสามารถโอนสายเพื่อติดต่อแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ ร.ต.อ. เป็นร้อยเวรของ สภ.เชียงใหม่

จากนั้นมีการแนะนำให้แอดไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่ มีการพูดคุยผ่านไลน์ซึ่งผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นไลน์ของ สภ.เมืองเชียงใหม่จริง จากนั้นคนร้ายได้สอบถามข้อมูลส่วนตัวของผู้เสียหาย และแจ้งว่าผู้เสียหายมีส่วนพัวพันกับคดีการฟอกเงิน ถ้าไม่อยากมีปัญหาจะให้ ปปง.ทำการตรวจสอบบัญชีของผู้เสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงขอให้ผู้เสียหายแจ้งข้อมูลบัญชีทั้งหมดและยอดเงินในบัญชี โดยมีการกล่าวอ้างเรื่องการการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และบอกว่าจะส่งบัญชีของผู้เสียหายให้ ปปง. ตรวจสอบเรื่องการฟอกเงิน

ต่อมา คนร้ายให้ผู้เสียหายโอนเงินทุกบัญชีที่ผู้เสียหายมีไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อนางสาวสมศรี บุญเลี้ยง เพื่อทำการตรวจสอบว่าตรงกันหรือปล่าว โดยผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงและเพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์จึงได้ทำการโอนนไปยังบัญชีดังกล่าว ต่อมาผู้เสียหายเกิดความสงสัยจึงโทรกลับไปยังหมายเลขที่เคยติดต่อกับคนร้ายปรากฎว่าไม่สามารถติดต่อได้

ในเบื้องต้นตำรวจได้ขอนุมัติศาลออกหมายจับ 5 รายเป็นคนไทย 4 ราย และชาวกัมพูชาอีก 1 ราย ขณะนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 ราย มีทั้งรับจ้างเปิดบัญชี นายหน้าจัดหาคนเปิดบัญชี และคนจัดส่งบัญชีไปให้เครือข่ายที่ประเทศกัมพูชา พร้อมกับข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ดำเนินคดีต่อไป

พ่อเมืองโคราชประกาศ ผู้ติดเชื้อ โควิด19 พุ่ง 11 ราย!!

พ่อเมืองโคราชประกาศ ผู้ติดเชื้อ โควิด19 พุ่ง 11 ราย!!

 โคราชผู้ติดเชื้อโควิด 19 พุ่ง!!รายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย  รวมในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อแล้ว 11 ราย ผู้ว่าสั่งปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินคุมเข้มทุกพื้นวันที่26 มีนาคม 2563)

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยนายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และนายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 4 รายเพิ่มเติม ประกอบด้วย รายที่ 8 เป็นหญิง อายุ 25 ปี เป็นลูกสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 7, รายที่ 9 เป็นเด็กหญิง อายุ 1 ปี 2 เดือน เป็นหลานสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 7 เช่นเดียวกัน, รายที่ 10 เด็กหญิง อายุ 9 ปี ติดเชื้อมาจากแม่ที่กรุงเทพฯ

 ส่วนผู้ป่วยรายที่ 11 เป็นชาย อายุ 36 ปี มีประวัติไปเชียร์มวยที่สนามมวยราชดำเนิน และลุมพินี กรุงเทพฯ โดยขณะนี้ผู้ป่วยทั้ง 11 ราย ยังคงมีอาการไม่หนักมาก ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา  เพื่อวางมาตรการในการควบคุมสถานการณ์ในระดับจังหวัด หลังรัฐบาลมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยทางจังหวัดได้ตั้งด่านตรวจ 12 จุด ตรวจเข้มการเดินทางข้ามจังหวัดของประชาชน และเตรียมบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งร้านอาหาร และสถานที่ๆ #โควิด19 #เกาะติสถานการณ์โควิด1

พบแล้ว!!2รายแรกเมืองโคราชติดเชื้อโควิค19

พ่อเมืองโคราชประกาศผู้ติดเชื้อ2รายแรกวันนี้

 

 

ในวันที่18มีนาคม2563 จังหวัดนครราชสีมา แถลงข่าวเรื่องการพบผู้ติดโควิด19 โดยพบผู้ติดเชื้อในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว 2 ราย รายแรกเป็นนักศึกษากลับจากกรุงเทพอายุ 22 ปี เป็นคนโคราช รายที่สองเป็นผู้หญิง อายุ 32 ปี เดินทางมาจากกประเทศเพื่อนบ้านประเทศกัมพูชา มายังจังหวัดนครราชสีมา ไม่ใช่คนพื้นที่แต่ทราบข่าวว่าเพื่อนชาวกัมพูชาติดโควิคเลยมาตรวจเพราะเริ่มมีไข้และะติดเชื้อมาจากการร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน
ทั้ง 2 ราย พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยทางจังหวัดสอบประวัติเพื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เพื่อทำการตรวจสอบการติดเชื้อแล้ว
#มาตรการเการป้องกันของทางจังหวัดนครราชสีมาผู้ว่าเตรียมใช้มาตรการตามประกาศคณะรัฐมนตรีบังคับใช้กิจกรรมที่มีความเสี่ยงการแพร่เชื้อเช่น
– ยกเลิกหรือเลื่อนกิจกรรมชุมนุมคนจำนวนมาก  เช่น สัมมนา คอนเสิร์ต งานแสดงสินค้าบริการเบื้องต้น
– ปิดสถานที่ ซึ่งเสี่ยงต่อการระบาดผู้ติดเชื้อได้ง่ายได้แก่ ผับ สถานบันเทิง เลื่อนกิจกรรมการแข่งขันกีฬาทุกชนิด

หน้ากากอนามัย!! ทำใช้เองก็ได้ ง่ายๆ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส Covid 19

หน้ากากอนามัยทำใช้เองก็ได้ง่ายๆ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส  Covid 19

เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีการระบาดของโรค Covid 19 โดยเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้และติดต่อกันผ่านทางลมหายใจ สารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำลาย จากการถูกไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของคนที่ป่วย ดังนั้น เราควรดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายห่างไกลจากเชื้อไวรัส Covid 19
โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกมาแจ้งถึงการต้องเฝ้าระวัง ของเชื้อไวรัสดังกล่าว  โดยมี 4 ข้อหลักที่ควรจำให้ขึ้นใจ เพื่อห่างไกลจาก เชื้อ Covid 19
1.กินร้อน
2.ใช้ช้อนกลาง
3.หมั่นล้างมือ
4.สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและที่ชุมชน

นอกจากนี้  เชื้อไวรัส  Covid 19 ยังสามารถติดต่อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น  โค ,กระบือ,สุกร  เป็นต้น   ดังนั้นควรรับประทานเนื้อสัตว์แบบสุกเท่านั้น งดอาหารดิบ และเนื้อสัตว์ป่า  และควรงดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงโรคระบาด ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ถ้าไม่จำเป็น  ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ฯลฯ


ขณะนี้ ความต้องการหน้ากากอนามัย  มีสูงมาก บางพื้นที่ถึงกับขาดแคลน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณะสุข  ดังนั้นจึงได้มีการขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่มีอาการป่าย  ให้สามารถใช้หน้ากากอนามัยประเภทผ้าได้  โดยมีหลายหน่วยงาน และหลายภาคส่วน ร่วมมือกันนำเสนอวิธีและขั้นตอนการทำหน้ากากอนามัยแบบใช้เองได้


โดยหน้ากากอนามัย มีทั้งหมด 4 แบบ ประกอบด้วย
1. หน้ากากอนามัยแบบเยื่อกระดาษ 3 ชั้น


2. หน้ากากอนามัยที่ผลิตจากผ้า


3. หน้ากากอนามัยชนิด N95


4. หน้ากากป้องกันมลพิษ

ขั้นตอนการทำ
– นำผ้าทั้งสองชิ้นมาพับครึ่งตามแนวยาว
– จับจีบทวิซขนาด 1 นิ้ว ตามแนวยาวตรงกลางผ้า เอาเข็มหมุดกลัดไว้ให้อยู่ทรง ทำทั้งสองชิ้น
– จากนั้นนำผ้าที่ได้หันด้านนอกขึ้น
– นำผ้าชิ้นแรกมาวาง แล้วนำยางยืดมาเย็บติดขอบผ้าทั้งซ้ายขวา ทำเป็นห่วงคล้อง
– นำผ้าชิ้นที่สองมาวางทับบนชิ้นแรก โดยหันด้านนอกชนกัน
– เย็บรอบผ้าสี่เหลี่ยม กะระยะให้ห่างจากของประมาณ 0.5 ซม.
– ระหว่างเย็บให้รอบผืน อย่าลืมเว้นช่องว่างไว้ 1 นิ้วสำหรับกลับตะเข็บ
– เย็บเสร็จ ใช้กรรไกรตัดขอบผ้าที่รุ่ยๆ ออก แล้วกลับตะเข็บผ้า
– จากนั้นเย็บเก็บงานตรงช่องที่เว้นไว้ 1 นิ้ว แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย

ขอบภาพจาก google

ขอขอบคุณวิธีการทำหน้ากากอนามัยจาก>>https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/868928<<