“สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา ศึกษาแลกเปลี่ยนเชื่อมโยงท่องเที่ยวภูมิภาค และดูงานชุมชนคุ้ม บางกะเจ้า”
วันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 10.30 นคณะศึกษาดูงานนำโดยดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์นายกสภา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการร่วมกับภาคีเครือข่าย ส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา เดินทางศึกษาดูงานโครงการในพระราชดำริ คลองลัดโพธิ์อำเภอพระประแดงจังหวัดสมุทรปราการ โดยนายวัชระ เติมวรรธนภัทร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงคนอง พร้อมด้วยคุณชัย อรุณานนท์ชัย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการ และคณะผู้บริหารอพท. ให้การต้อนรับเตรียมคณะวิทยากรให้ความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงท่องเที่ยวชุมชน อย่างยั่งยืน แหล่งท่องเที่ยวชุมชนบางกระเจ้า และการบริหารการจัดการการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนกับภาครัฐ รวมทั้งการดำเนินงานขับเคลื่อนเรื่องสิ่งแวดล้อม กรีน เขื่อนลัดโพธิ์ นอกจากนี้คณะดูงานร่วมกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวสำคัญพื้นที่บางกะเจ้า
การมีส่วนร่วมรัฐฯ ร่วมชุมชนได้รับการสนับสนุนการให้ความรู้จากกิจกรรมสำคัญของชุมชนคุ้มบางกระเจ้าโดย นายสำเนาว์ รัศมิทิต นายกอบต.บางน้ำผึ้ง ร่วมกับผู้นำชุมชนกำนัน,ผู้ใหญ่บ้านชาวบ้านในชุมชนในพื้นที่ แนะนำให้การต้อนรับและประสานงานนำกิจกรรมเด่นจากเครือข่ายคุ้มบางกระเจ้า จัดกิจกรรมสร้างฐานความรู้ ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่น 4 ประเภทให้คณะผู้มาศึกษาดูงาน จากจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกิจกรรมอาทิ การทำเสื้อมัดย้อม, วิธีการทำลูกประคบสมุนไพร ,การทำขนมห่อใบจาก และน้ำสมุนไพร จากผลผลิตในท้องที่ คณะผู้ศึกษาดูงาน ครั้งนี้ได้รับรู้และได้ข้อมูลหลายอย่าง พร้อมเยี่ยมชมตลาดบางน้ำผึ้ง ตลาดชุมชนที่มีขนาดใหญ่สร้างเศรษฐกิจแก่ชาวบ้าน เป็นชุมชนตัวอย่างระดับประเทศ ท้ายสุดของรายการคณะผู้ศึกษาได้ชมสวนสาธารณะ ศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนพฤกษชาติขนาดใหญ่กลางกรุงปอดของชุมชนเมืองติดกรุงเทพฯ
จากการศึกษาดูงานดร. วัชรี ปรัชญานุสรณ์ นายกสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา กล่าวภายหลังจากการศึกษาดูงานครั้งนี้ว่า การเดินทาง จากการแลกเปลี่ยน การเรียนรู้การท่องเที่ยวชุมชนทำให้เกิดการสืบสานแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมระหว่างจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดนครราชสีมาโดยจะทำโครงการร่วมมือบ้านพี่เมืองน้อง ได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชนในพื้นที่คุ้มบางกระเจ้าและการสนับสนุนจากอพทรวมถึงทททที่ได้สร้างโอกาสให้กับคณะผู้ศึกษาดูงานได้เกิดความรู้ใหม่ๆเกิดการเชื่อมโยงแนวทางความรู้และความคิดเพื่อนำมา สู่ความร่วมมือกัน ใน 2 พื้นที่บ้านพี่เมืองน้อง ขยายตลาดการท่องเที่ยว เศรษฐกิจชุมชน ร่วมกันในโอกาสต่อไป
.
.
อบจ.โคราช แถลงข่าวการจัดมหกรรมการจัดการศึกษา 65 พร้อมเสวนาร่วมภาคีด้านการศึกษา เจาะประเด็น “อนาคตทางการศึกษาโรงเรียนสังกัด อปท.”
วันที่ 20 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 น. องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จัดงานแถลงข่าวจัดมหกรรมการจัดการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และ เสวนา “ขับเคลื่อนอนาคตทางการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” โดย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. นครราชสีมา ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายพงษ์พิมล คำลอย ผอ.สำนักการศึกษาฯ และ ตัวแทนนักเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเสวนา ณ ห้อง Strider Bike ชั้น 1 เซ็นทรัล โคราช
มหกรรมการจัดการศึกษาฯ เน้นการจัดนิทรรศการแสดงผลงานทางการศึกษาและจัดการแข่งขันทักษะทางวิชาการ กว่า 100 กิจกรรม ที่จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของระบบการจัดการศึกษาท้องถิ่นที่ดี มีมาตรฐานนำไปสู่การยกระดับการศึกษาที่พัฒนาความรู้ ความสามารถของนักเรียน อย่างรอบด้าน ทั้งสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม พร้อมส่งเสริมความเป็นเลิศเฉพาะด้าน เพื่อให้นักเรียนได้เติบโตขึ้นมีอนาคตที่ดี ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นให้โรงเรียนในสังกัดฯ เห็นความสำคัญของการจัดการศึกษามากขึ้น นำไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาเพื่อเกิดประโยชน์ ต่อ ผู้เรียนต่อไป
โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าวฯ เน้นการแข่งขันทักษะทางวิชาการของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนในสังกัด อบจ.นครราชสีมา ส่งเสริมความเป็นเลิศด้านวิชาการ ศิลปะ ดนตรี กีฬา นันทนาการ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ และการจัดกิจกรรมการแสดงบนเวที ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้
จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นเลิศด้านการจัดการศึกษาของโรงเรียนสังกัด อบจ. ครบทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและนักเรียนแสดงออกถึงศักยภาพและความสามารถอย่างเต็มที่ เพราะตรงนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นโดยหลังจากจบงานมหกรรมการศึกษาภายในของ อบจ. นักเรียนที่ชนะเลิศในกิจกรรมต่างๆ จะได้รับโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมการศึกษาในระดับจังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศ ซึ่งงานมหกรรมการจัดการศึกษาฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 – 23 มิถุนายน 2555 ณ ห้องโคราชฮอลล์ 1 – 2 ชั้น 4 และสถานที่ในบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล โคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
“อบจ.นครราชสีมา ได้ขับเคลื่อนด้านการบริหารจัดการการศึกษาโรงเรียนในสังกัดทั้ง 58 แห่ง เพื่อให้เกิดแนวทางพัฒนาการศึกษาของ อบจ.นครราชสีมา ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ทันยุค ทันสมัย อีกทั้งได้นำระบบเทคโนโลยีด้านการศึกษาเข้ามายังโรงเรียน มีระบบข้อมูลแบบ BIG DATA มี โครงการอบรมหลักสูตรด้านการศึกษาใหม่ๆ ให้กับบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และอีกหลาย โครงการที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบการศึกษาให้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้น การเสวนาครั้งนี้ ให้ดียิ่งขึ้น ฉะนั้น การเสวนาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้มาพูดคุยผ่านการเสวนาแลกเปลี่ยนความรู้ ก็จะทำให้สามารถมอง ภาพได้ชัดเจนว่าหลังจากนี้จะเพิ่มเติมจุดไหนอย่างไร เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียนเป็นสำคัญ เรา ต้องการที่จะเห็นการศึกษาของท้องถิ่นมีการพัฒนาที่ก้าวหน้าและมั่นคงไม่แพ้ที่ใด อบจ.จึงมุ่งมั่นที่จะให้มี การพัฒนาหลักสูตรต่างๆ ที่จำเป็น เราอยากเห็น “การเรียนเพื่อให้เกิดการสร้างคนคุณภาพ” เราอยากเห็น “การเรียนเพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพที่มั่นคง” ที่ผ่านมา อบจ.บูรณาการร่วมกับ มหาวิทยาลัย ทั้ง 4 แห่งของ จังหวัดนครราชสีมา รวมถึง วิทยาลัยการอาชีพ เพื่อต่อยอดด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาและสายอาชีพ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามทิศทางและเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ให้ ประสบความสำเร็จและเต็มศักยภาพ”
มงกุฎแรกของไทย! เวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022
วันที่11 มิถุนายน 2565 เวลา 16.00น. ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช
จัดการประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 โดยได้รับเกียรติจากนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดพร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมาให้เกียรติเป็นประธานในพิธีและมอบรางวัล นางสาวจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ประธานกองประกวดธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์และนายชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมงาน
ขอแสดงความยินดีกับ น้องเจเล่ น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง อายุ 24 ปี น้ำหนัก 105 กก.จาก จ.นครราชสีมา คว้ามงกุฏธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 มงกุฎแรกของประเทศไทยพร้อมด้วย น้องเนรัญชรา อุดมแก้วกาญจนา อายุ 32 ปี จากกทม. คว้ามงกุฏธิดาช้างควีนไทยแลนด์ 2022 มงกุฎแรกของประเทศไทย จากการเฟ้นหาตัวแทนทั้งหมด 36 คน จาก 6 ภูมิภาค
สำหรับมงกุฎที่งดงามเหมาะสมกับตำแหน่งธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 ได้รับแรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมา กำแพงประตูชุมพลผนวกเข้ากับดีไซน์ดอกสาธร ดอกไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมา อีกทั้งการดีไซน์รอบตัวมงกุฎจะเป็นประตูเมืองของทั้ง 6 ภูมิภาค และพลอยสีเหลืองเม็ดโตเพื่อสื่อถึงสาวเจ้าเนื้อ ธิดาช้างนั่นเอง
เวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 เดิมใช้ชื่อ ธิดาช้างเมืองย่าไทยแลนด์ แต่ปี 2022 ปรับโฉมให้ทันสมัยมากขึ้นและเปิดกว้างมากขึ้นไปอีกขั้นเป็นธิดาช้างไทยแลนด์ เวทีนี้ “เดอะมอลล์โคราช” เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ซึ่งการประกวดมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาให้มีสีสันและเปิดโอกาสให้สาวแท้และสาวประเภทสองที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 80 กก.มีโอกาสแสดงศักยภาพและความสามารถของตัวเอง พร้อมทั้งทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ให้แก่สังคมต่อไป รวมถึงช่วยเหลือช้างที่ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นช้างถูกทารุณ ถูกใช้แรงงานอย่างหนัก และช้างที่ป่วยทั่วประเทศ ถือเป็นเวทีสาวเจ้าเนื้อที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นเวทีการกุศลและเป็นสื่อกลางในการอนุรักษ์ช้างไทยให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป ซึ่งในปี 2022 ได้จัดการประกวดภายใต้แนวคิด “รักช้าง รักษ์ไทย รักษ์โลก” ดึง 6 ภูมิภาคในประเทศไทยร่วมจัดงาน ภายใต้คอนเซปต์เวที 6 ภูมิภาค เพื่อเฟ้นหาธิดาช้างตัวแทนของแต่ละภูมิภาคเข้ามาประกวดรอบชิงชนะเลิศ สำหรับตำแหน่งธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 และธิดาช้างควีนไทยแลนด์ 2022 จะเป็นตัวแทนทำกิจกรรมด้านต่างๆ อาทิ โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่ารวมถึงกิจกรรมลดโลกร้อนต่อไป
.
สืบสานประเพณีแห่พระลอดชุ้มประตูเมือง
#สืบสานประเพณีแห่พระลอดชุ้มประตูเมือง
“สงกรานต์โคราช แห่พระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูเมือง”ประจำปี 2565
จังหวัดนครราชสีมา โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วม
กับเทศบาลนครนครราชสีมา และวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร กำ
หนดจัดงานสืบสานประเพณีแห่พระลอดซุ้มประตูเมือง “สงกรานต์โคราช
แห่พระพระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูเมือง”ประจำปี 2565 เพื่อเป็นการสืบ
สาน ถ่ายทอด ประเพณีวัฒนธรรม มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของท้อง
ถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาลในการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและเผยแพร่มรดกภูมิปัญ
ญาทางวัฒนธรรม ยกระดับงานประเพณี ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัด
นครราชสีมา รวมทั้งเพิ่มบทบาทของหน่วยงานเครือข่ายทางวัฒนธรรมของชาติและท้องถิ่นให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง ระหว่างวันที่ 13 เมษายน
2565 ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และบริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุ
รนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
โดยในวันที่ 13 เมษายน 2565 เวลา 13.00 น ณ พระวิหารหลวง วัดพระ
นารายณ์มหาราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสี
มา เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ พระเจดีย์วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร ต่อเนื่องด้วยพิธีอัญเชิญพระคันธารราฐ พร้อมด้วยผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดนคร
ราชสีมา จุดธูปเทียน ถวายพวงมาลัย สักการะพระคันธารราฐ ก่อนอันเชิญ
ออกนอกพระวิหารจากนั้นอัญเชิญประดิษฐานบนรางรถ และเคลื่อนขบวน
แห่อัญเชิญพระคันธารราฐ ตกแต่งริ้วขบวนแบบประเพณีไทยอีสาน มุ่งหน้าสู่ถนนจอมพล เลี้ยวซ้ายเข้าถนนชุมพล เลี้ยวขวาเข้าถนนมหาดไทย
ถึงแยกถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าไปยังลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และสรงน้ำ
พระคันธารราฐ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ และเพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทย ณ ริเวณด้านหน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุร
นารี
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป พระเกจิดังของจังหวัดนคร
ราชสีมา ณ เวทีลานโอเปร่า ชมนิทรรศการองค์ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูป
(พระคันธารราฐ) ความสำคัญของวันสงกรานต์และถ่ายภาพกับจุดเช็คอิน
เจดีย์ทราย ณ บริเวณลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
จากนั้นเป็นกิจกรรม แห่พระคันธารราฐ ลอดซุ้มประตูชุมพล พร้อมแห่ผ้า
ทอง ผ้าเงิน ความยาว 555 เมตร เท่ากับอายุของเมืองโคราช และขอเชิญชวนประชาชนที่มีจิตศรัทธา ร่วมจับชายผ้าทองผ้าเงินให้เป้นนิ้วยาว ลอดซุ้มประตูชุมพล มุ่งกน้าสู่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร เพื่อนำผ้าไปห่มพระเจดีย์ ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหารต่อไป
ขอเชิญชวนชาวโราช ร่วมสักการะพระคันธารราฐ ด้วยการโปรยกลิบดอกไม้ แทนการสรงน้ำ ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 โดยประชาชนสามารถรอร่วมสักการะองค์พระคันธารราฐได้ ณ บริเวณสองข้างทาง ถนนจอมพล ถนนชุมพล ถนนมหาดไทย
ถนนราชดำเนิน และลายอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เริ่มเคลื่อนขบวนตั้งแต่เวลา
14 .00 น โดยประมาณ และพิธีแห่พระคันธารราฐลอดซุ้ประตูเมือง จะเริ่มเวลา 16.00 นโดยประมณ วันที่ 11 เมษายน 2565 ณ วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
.
เริ่มแล้วประกวดธิดาช้างภาคอีสาน เพื่อตัวแทนธิดาช้าง สู่เวทีระดับชาติ
เริ่ม
เริ่มแล้วประกวดธิดาช้างภาคอีสาน เพื่อตัวแทนธิดาช้าง สู่เวทีระดับชาติ
ขอแสดงความยินดีกับคุณเจ น.ส.โชติกา ดอกแก้วกลาง ผู้ครองมงกุฏและตำแหน่ง ธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022 และคุณตองหนึ่ง นายณัฐธีรา วรโชติเมธา ผู้ครองมงกุฏและตำแหน่ง “ธิดาช้างควีนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022” จากเวทีการประกวดธิดาช้างเมืองย่า ไทยแลนด์ 2022 เพื่อเป็นตัวแทนธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2022 ลงสู้ศึกเวทีธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 ในวันที่ 11 มิ.ย.2565 ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช
วันที่ 10 เม.ย.2565 เวลา 15.00น.ณ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช กองประกวดธิดาช้าง ร่วมกับเดอะมอลล์โคราช รับทัพสาวงามและสาวประเภทสองบิ๊กไซส์ กว่า 25 ชีวิตทั่วอีสาน จัดการประกวด “ธิดาช้างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ2022” พร้อมเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท เฟ้นหาตัวแทนสาวอีสานที่มีทั้งความงาม ความมั่นใจ ความฉลาด และมีความสามารถ ดำรงตำแหน่งธิดาช้าง ธิดาช้างควีน และทูตอนุรักษ์ช้าง ลงสู้ศึกธิดาช้างไทยแลนด์ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากคุณณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นางเอมอร ศรีกงพานประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ,คุณจิตราวดี ชุติมันตานนท์ ผู้จัดกองประกวดธิดาช้างไทยแลนด์ 2022 คุณชินาพัฒน์ พิมพ์ศรีแก้ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด และแขกผู้มีเกียรติและเหล่ากองเชียร์สาวงามบิ๊กไซส์ ร่วมชมและเชียร์สาวงามกันอย่างคับคั่งภายใต้มาตรการการดูแลความปลอดภัยสูงสุดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
.
“เปิดสัมมนา การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหมโคราชสู่ความยั่งยืน”
เปิดสัมมนา #การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหมโคราชสู่ความยั่งยืน”
(Tourism & MICE Korat Creative Routing for future Sustainability)
วันที่ 30 มีนาคม 2565ณ ห้องสุรนารี สุรสัมมนาคาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
โดย ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดนครราชสีมา
โดยได้รับเกียรติจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุขพร้อมคณะ
ผู้อำนวยการเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ,ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (TCEP),ผู้อำนวยการสำนักงานี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครราชสีมา (ททท.),ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยไม้กลายเป็นหินฯ
ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา
วิทยากร ผู้เข้าร่วมอบรม และแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน
ดิฉันในนามของผู้ดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การพัฒนาศักยภาพเส้นทางสาย
ท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู่ความยั่งยืน” ภายใต้โครงการเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู
ความยั่งยืน (Tourism & MICE Korat Creative Routing for future Sustainability)
ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมในวันนี้
โครงการเส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่โคราชสู่ความยั่งยืน (Tourism & MICE Korat
Creative Routing for future Sustainability) เป็นโครงการที่ดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน
พื้นที่ 32 อำเภอ ครอบคลุมทั้งจังหวัดนครราชสีมา มุ่งหวังตอบสนองวัตถุประสงค์เพื่อประซาสัมพันธ์
เส้นทางสายท่องเที่ยวและไมซ์ใหม่จังหวัดนครราชสีมา ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทั้งภายในและภายนอกจังหวัด ผ่านการดำเนินโครงการหรือกิจกรรมเพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละชุมชนเข้า
.ประกวด Korat Mice Premium Products สำหรับการส่งเสริมผลผลิต/ผลิตภัณฑ์ สินค้าและบริการ
ของชุมชนที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวหรือภาคบริการอื่น การจัดหาปัจจัยการผลิตและสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน รวมทั้งการยกระดับผู้ประกอบการ
สินค้าในชุมชน ส่งเสริมการเข้าถึงช่องทางการตลาด พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานคุณภาพและมูลค่าเพิ่ม
ของสินค้า/ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและชุมชน ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และเกิดการจ้างงานในพื้นที่ เสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านการท่องเที่ยว การพัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและเส้นทางการท่องเที่ยวร่วมกับชุมชนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไป
.
.
ผู้ว่าฯโคราชสั่งหยุดโรงงานแป้งมันสร้างผลกระทบกลิ่นรุนแรงต่อชาวบ้าน
วันนี้ (29 มี.ค.65) ที่ห้องประชุม อบต.หินดาด อ.ด่านขุนทด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ลงพื้นที่พร้อมส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาและหาข้อสรุปเพื่อแก้ปัญหา จากกรณีที่ชาวบ้านเดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565 หลังจากที่หน่วยงานราชการสั่งให้โรงงานแก้ไขภายใน 45 วัน กรณีกลิ่นเหม็นรุนแรงจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแป้งมัน ซึ่งหลังจากครบกำหนดแล้วปรากฎว่า โรงงานไม่สามารถแก้ไขได้
จาการประชุมหารือมีข้อสรุปออกมาว่า กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแป้งมัน Modify ผู้ว่าสั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดออกคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงให้มีผลตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ ส่วนเรื่องสุขภาพ ทางสาธารสุขอำเภอและรพ.มหาราชนครราชสีมา จะเข้าตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ 5 เมษายน 2565
กรณีชาวบ้านร้องเพิ่มเติมว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงาน และหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก สำหรับการร้องขอเยียวยาของชาวบ้าน ผู้ว่าฯจะขอให้อัยการด้านคุ้มครองสิทธิ์เข้ามาช่วยเหลือแนะนำในข้อกฎหมายต่อไป
กรณีร้องเรียนนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านหมู่ 14 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ร้องเรียนหน่วยราชการให้เร่งตรวจสอบโรงงานแป้งมัน Modify ตั้งอยู่ภายใน บริษัท เชาวน์ดีสตาร์ช ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เนื่องจากชาวบ้าน บ้านปราสาท หมู่14 ต.หินดาด ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงาน ได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรงต่อเนื่อง พร้อมข้อเสนอให้ปิดโรงงานก่อนชั่วคราวถ้าแก้ไขไม่ได้
ต่อมาหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดนครราชสีมา อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าตรวจสอบปัญหากลิ่นเหม็นรุนแรง หรือกลิ่นสารเคมีจากบ่อพักน้ำเสียโรงงานแป้งมัน Modify และคุณภาพน้ำในลำห้วย ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงานแป้งมัน ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด
จากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ภายในโรงงาน และโดยรอบชุมชนบ้านเพื่อเก็บข้อมูล พบว่า ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีประเภทคลอรีน กรด และด่าง บริเวณบ่อพักน้ำเสียมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา จึงตรวจวัดก๊าซอินทรีย์ระเหยง่ายพบว่าเกินมาตรฐาน จึงมีคำสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินการชั่วคราว และให้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากบ่อพักน้ำเสีย และการรั่วไหลของก๊าซชนิดต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเมื่อครบกำหนดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ปรากฎว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขจากโรงงาน
.