สนว.อีสาน ประกาศเกียรติคุณคนทำสื่อคุณภาพ มอบโล่ “สื่อคุณธรรม” การันตรีมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชนภาคอีสาน


สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน งานเสวนาเรื่อง “ทำข่าวอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” และ รมว. ดีอีเอส มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ สื่อคุณธรรม ให้ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชนภาคอีสาน ที่มีคุณธรรม และจริยธรรม ตระหนักในความสำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ และเป็นแบบอย่างในการใช้สื่อออนไลน์ในการทำประโยชน์ให้กับสังคม
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 ณ ห้องกรรณิการ์บอลรูม โรงแรมพิมานการ์เด้น บูติคโฮเต็ล อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นประธานกล่าวเปิดงานเสวนาเรื่อง “ทำข่าวอย่างไรไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ สื่อคุณธรรม และมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือสื่อมวลชนที่พิการทางสายตา โดยมี พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน ,คณะกรรมการบริหารสมาคม, สื่อมวลชนภาคอีสาน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมงาน


พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ ภาคอีสาน กล่าวว่า จากอดีตจนถึงปัจจุบัน บทบาทของสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้ง วิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ได้ทำหน้าที่สะท้อนภาพเหตุการณ์ ความเคลื่อนไหวของสังคมไทยในมิติต่างๆ ด้วยความตั้งมั่นและซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตนเองมาโดยตลอด รวมไปถึงยังมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในสังคมในหลายๆเหตุการณ์ ซึ่งเกิดจากการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของสื่อมวลชนนั่นเอง
กระทั่งในยุคปัจจุบันที่โลกของเราก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอล ยุคที่ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง รวมไปถึงข่าวสารจากทั่วโลกเราสามารถรับรู้ได้ เกือบจะเวลาเดียวกันกับสถานที่ที่เหตุการณ์ในอีกซีกโลก สื่อมวลชนเองก็จะต้องปรับตัวในสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เช่นกัน และพัฒนาศักยภาพของตนเองเพื่อให้ก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
สมาคมเครือข่ายหนังสือพิมพ์ วิทยุ และสื่อออนไลน์ภาค
อีสาน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพสื่อท้องถิ่น ในประเด็น “ทำข่าวอย่างไร ไม่ให้โดนฟ้อง … PDPA รู้ไว้ก่อนจะปลอดภัย” เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในวิชาชีพสื่อสารมวลชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักในความ สำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ ส่งเสริมจริยธรรม และมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน บรรยายเรื่อง “ทำข่าวอย่างไร ภายใต้ PDPA ห่างไกลคุก” โดยท่านวิทยากรจาก ดร.อุดมธิปก ไพรเกษตร ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ PDPA Thailand และเลขาธิการ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ,นายฐิติชัย อัฏฏะวัชระ ที่ปรึกษาชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ และนายธาราวุฒิ สืบเชื้อ รองนายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกฎหมาย ดำเนินรายการโดย ดร.อิสเรศณุชิตภ์ จันทร์ศรี ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาศักยภาพมนุษย์ อาเซียน AIHD และการบรรยายพิเศษ “PDPA กับสื่อสังคมออนไลน์” โดย นายเธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล




นอกจากนี้คณะกรรมการสมาคมฯ ได้พิจารณาคัดเลือกองค์กร และบุคคล เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สื่อคุณธรรม” จำนวน 25 คน โดยเป็นผู้ที่มีความประพฤติดี มีคุณธรรม และจริยธรรม ตระหนักในความสำคัญของการใช้สื่อออนไลน์ ส่งเสริมจริยธรรม มาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน และเป็นแบบอย่างในการใช้สื่อออนไลน์ในการทำประโยชน์ให้กับสังคม โดยได้รับเกียรติจาก นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มอบโล่ดังกล่าวให้


อาจารย์เธียรชัย ณ นคร ประธานกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่รับการคัดเลือกเข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “สื่อคุณธรรม” ซึ่งเป็นการประกาศยกย่อง ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมและสู่สายตาสาธารณชน ในการเป็นแบบอย่างที่ดีในมิติด้านคุณธรรม และเป็นผู้มีพฤติกรรมด้านคุณธรรมควรค่าแก่การยกย่อง ในการทำหน้าที่สื่อมวลชน ในการเผยแพร่ข้อมูลสิ่งดีงาม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับสังคมไทย
พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล Personal Data Protection Act หรือ PDPA คือ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เป็นกฎหมายที่ออกมาคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การควบคุมไม่ให้องค์กรนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยความที่ในปัจจุบันมีการล่วงละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การครอบครองเบอร์โทรศัพท์โดยการซื้อฐานข้อมูลมาจากที่อื่นและโทรไปหาโดยที่ไม่มีการรับรู้จากเจ้าของเบอร์โทรศัพท์นั้น หรือการที่เราได้รับโฆษณาบน Social Media จากข้อมูลการใช้งานของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว หรือไม่ได้ยินยอมให้องค์กรเก็บข้อมูล เป็นต้น
กฎหมายฉบับนี้จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค โดยข้อบังคับกฎหมาย PDPA จะให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติการทำงาน และข้อมูลส่วนบุคคลประเภทอื่น ๆ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ บันทึกเสียง เลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่ยินยอม ซึ่งรายละเอียดจะได้พูดถึงในการบรรยายพิเศษ และเวทีเสวนาในวันนี้ เพื่อคลายความวิตกกังวลของพี่น้องสื่อมวลชน และทุกท่าน




ผู้ว่าฯโคราชสั่งหยุดโรงงานแป้งมันสร้างผลกระทบกลิ่นรุนแรงต่อชาวบ้าน
วันนี้ (29 มี.ค.65) ที่ห้องประชุม อบต.หินดาด อ.ด่านขุนทด นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ลงพื้นที่พร้อมส่วนราชการที่ เกี่ยวข้อง เพื่อรับฟังปัญหาและหาข้อสรุปเพื่อแก้ปัญหา จากกรณีที่ชาวบ้านเดินทางไปร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เมื่อเช้าวันที่ 28 มีนาคม 2565 หลังจากที่หน่วยงานราชการสั่งให้โรงงานแก้ไขภายใน 45 วัน กรณีกลิ่นเหม็นรุนแรงจากบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแป้งมัน ซึ่งหลังจากครบกำหนดแล้วปรากฎว่า โรงงานไม่สามารถแก้ไขได้
จาการประชุมหารือมีข้อสรุปออกมาว่า กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงงานแป้งมัน Modify ผู้ว่าสั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดออกคำสั่งให้โรงงานหยุดกิจการเพื่อปรับปรุงให้มีผลตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 หากไม่สามารถดำเนินการได้ก็จะไม่อนุญาตให้เปิดกิจการ ส่วนเรื่องสุขภาพ ทางสาธารสุขอำเภอและรพ.มหาราชนครราชสีมา จะเข้าตรวจสุขภาพให้กับประชาชนในพื้นที่ในวันที่ 5 เมษายน 2565
กรณีชาวบ้านร้องเพิ่มเติมว่ามีการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาหลักฐาน เพื่อดำเนินการทางกฎหมายกับโรงงาน และหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นอีก สำหรับการร้องขอเยียวยาของชาวบ้าน ผู้ว่าฯจะขอให้อัยการด้านคุ้มครองสิทธิ์เข้ามาช่วยเหลือแนะนำในข้อกฎหมายต่อไป
กรณีร้องเรียนนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านหมู่ 14 ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ร้องเรียนหน่วยราชการให้เร่งตรวจสอบโรงงานแป้งมัน Modify ตั้งอยู่ภายใน บริษัท เชาวน์ดีสตาร์ช ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เนื่องจากชาวบ้าน บ้านปราสาท หมู่14 ต.หินดาด ที่อาศัยอยู่ใกล้โรงงาน ได้รับผลกระทบกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรงต่อเนื่อง พร้อมข้อเสนอให้ปิดโรงงานก่อนชั่วคราวถ้าแก้ไขไม่ได้
ต่อมาหน่วยงานราชการ ประกอบด้วย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรจังหวัดนครราชสีมา อุตสาหกรรมจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมเข้าตรวจสอบปัญหากลิ่นเหม็นรุนแรง หรือกลิ่นสารเคมีจากบ่อพักน้ำเสียโรงงานแป้งมัน Modify และคุณภาพน้ำในลำห้วย ที่อยู่บริเวณด้านหลังโรงงานแป้งมัน ในพื้นที่ ต.หินดาด อ.ด่านขุนทด
จากการตรวจสอบทั้งพื้นที่ภายในโรงงาน และโดยรอบชุมชนบ้านเพื่อเก็บข้อมูล พบว่า ในขั้นตอนการผลิตมีการใช้สารเคมีประเภทคลอรีน กรด และด่าง บริเวณบ่อพักน้ำเสียมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 11 นครราชสีมา จึงตรวจวัดก๊าซอินทรีย์ระเหยง่ายพบว่าเกินมาตรฐาน จึงมีคำสั่งให้โรงงานหยุดดำเนินการชั่วคราว และให้แก้ไขปัญหากลิ่นเหม็นจากบ่อพักน้ำเสีย และการรั่วไหลของก๊าซชนิดต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งเมื่อครบกำหนดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ปรากฎว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขจากโรงงาน
.






















เปิดงานวันมะขามเทศ และงานกาชาดอำเภอโนนไทย
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 256 5 เวลา 17.00 น โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับ ทุกภาคราชการและส่วนประชาชน ร่วมส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ในระดับอำเภอการเกษตร กระตุ้นเศรษฐกิจพาณิชย์และผลผลิตการเกษตรภายในพื้นที่อำเภอโนนไทยและใกล้เคียง โดยการจัดงานครั้งนี้ ณ บริเวณด้านหน้าที่ว่าการอำเภอโนนไทย อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา
พิธีเปิดงานโครงการขับเคลื่อน “วิวาห์สร้างชาติ สาวไทยโคราชแก้มแดง
พิธีเปิดงานโครงการขับเคลื่อน “วิวาห์สร้างชาติ สาวไทยโคราชแก้มแดง (มีลูกคุณภาพเพื่อชาติ) รักเตรียมพร้อมเพื่อครอบครัวคุณภาพ ชีวิตสมดุล ครอบครัวคุณภาพ และเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก” ในวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. ณ วาไรตี้ ฮอลล์ (หน้า MCC HALL) ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานโครงการขับเคลื่อน “วิวาห์สร้างชาติ สาวไทยโคราชแก้มแดง (มีลูกคุณภาพเพื่อชาติ) รักเตรียมพร้อมเพื่อครอบครัวคุณภาพ ชีวิตสมดุล ครอบครัวคุณภาพ และเด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก”
นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวรายงานว่า “จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าอัตราการเพิ่มประชากรของประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี 2536 – 2564 มีเด็กเกิดใหม่ลดลงจาก 900,000 คนถึง 1,000,000 คน ลดลงเหลือ 544,000 คน ในปี 2564 และปี 2556-2557 หญิงวัยเจริญพันธุ์มีภาวะโลหิตจาง ร้อยละ 22.7 เกินเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้มีผลต่อสุขภาพ เช่น เวียนศีรษะ เมื่อยล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ติดเชื้อง่ายขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ยังส่งผลต่อการตั้งครรภ์ในอนาคต ทำให้มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด ทารกแรกเกิดน้ำหนักน้อย ความพิการแต่กำเนิด หากมีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของมารดาและทารกได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมอบนโยบายวิวาห์สร้างชาติ เพื่อพัฒนาคุณภาพประชากร
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดทำโครงการขับเคลื่อน “วิวาห์สร้างชาติ สาวไทยโคราชแก้มแดง (มีลูกคุณภาพเพื่อชาติ) รักเตรียมพร้อมเพื่อครอบครัวคุณภาพ เพื่อควบคุมป้องกันและลดปัญหาภาวะโลหิตจางในหญิงวัยเจริญพันธุ์ การรณรงค์ให้คู่รักทุกคู่วางแผนเตรียมพร้อมก่อนการมีบุตรสู่ครอบครัวคุณภาพ ครอบครัวอบอุ่น และลดความพิการแต่กำเนิด โดยส่งเสริมโภชนาการที่ดี ให้ได้รับอาหารครบ 5 หมู่ เน้นอาหารอุดมธาตุเหล็กและผักผลไม้อุดมด้วยโฟเลท ให้กินวิตามินเสริมธาตุเหล็กและโฟลิก สัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างน้อย ๓ เดือน ก่อนการตั้งครรภ์ และให้คู่รักเข้ารับการตรวจสุขภาพ ควบคู่กับการออกกำลังกายที่เหมาะสม และการมีสุขภาพจิตที่ดี ในงานมีกิจกรรมพิธีมงคลสมรส การแจกวิตามินฯ แผ่นพับหรือคู่มือความรู้ให้แก่คู่สมรส เวทีสัมมนาเพื่อพัฒนาศักยภาพคู่สมรสและประชาชนทั่วไป บูธนิทรรศการ ขอขอบคุณโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองนครราชสีมา ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตำบลสุขไพบูลย์ อำเภอเสิงสาง การจัดตกแต่งสถานที่วิวาห์/เครื่องเสียงจากวัดบูรพ์และสถานที่จัดงาน บริษัท เดอะมอลล์กรุ๊ฟ จำกัด มีผู้เข้าประชุมมาจาก สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ฯลฯ โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป/โรงพยาบาลชุมชน และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จำนวน 150 คน”




นายภูมิสิทธิ์ วังคีรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวเปิดงานว่า “
จากคำกล่าวรายงานของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา การขับเคลื่อน การดำเนินงาน วิวาห์สร้างชาติ สาวไทยโคราชแก้มแดง (มีลูกคุณภาพเพื่อชาติ) เพื่อส่งเสริมให้หญิงวัยเจริญพันธุ์ จังหวัดนครราชสีมา ที่มีความพร้อมในการมีบุตร มีลูกคุณภาพเพื่อชาติ โดยการส่งเสริมให้มีโภชนาการที่ดี และเสริมด้วยวิตามินธาตุเหล็กและโฟลิก อันจะส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนการเกิดเพื่อทดแทนจำนวนประชากร และการเกิดทุกรายมีความพร้อม มีการวางแผน และทารกเกิดแข็งแรง พร้อมเติบโตอย่างมีคุณภาพ ลดความพิการแต่กำเนิด เด็กมีพัฒนาการสมวัย สามารถเจริญเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป และการประชุมครั้งนี้จะได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายให้เกิดขึ้นจริงในจังหวัดนครราชสีมาจากทุกภาคส่วน ตามนโยบายส่งเสริมการเกิดและการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ระดับชาติ เพื่อแก้ปัญหาเด็กเกิดน้อยด้อยคุณภาพ ตามนโยบายรัฐบาลต่อไป ผมขอแสดงความชื่นชม ที่ได้เห็นทุกภาคส่วน ได้ร่วมแรงร่วมใจในการจัดงานและร่วมประชุมเพื่อพัฒนาการดำเนินงานร่วมกัน และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ร่วมมือกันเป็นอย่างดียิ่ง”








ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ประชุมที่ปรึกษา คณะกรรมการสภาวัฒนธรรม จ.นครราชสีมาและเครือข่าย…..
วันที่ ๑๑ กุมกาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๑๓ 00-๑๕.00 น.ณ ห้องประชุม สนง.การท่องเทียวและกีฬาจังหวัดนครราชสิมา โดยนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและผู้เข้าร่วมงาน ก่อนหน้านั้นนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เดินทางมาถึง และในการต้อนรับโดย คณะกรรมการสภาวัฒนธรรม ได้ทำการมอบดอกกุหลาบสีแดง ให้คนละ 1ดอก เนื่องจากที่อีกไม่กี่วันจะถึง14กุมภาวาเลนไทน์
ต่อจากนั้นด้านนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา มอบประกาศยกย่องเชิดซูเกียรติผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม และเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มอบเข็มเชิญซูเกียรติแก่ผู้มีผลงานดีเด่น จากหน่วยงานต่างๆในระดับประเทศและกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม แก่คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมชุดใหม่ มอบของที่ระลึก และบันทึกภาพกิจกรรมร่วมกันกับนายวิเชียร จันทรโณทัย


ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้เดินทางมาถึง และในการต้อนรับโดย คณะกรรมการสภาวัฒนธรรม ได้ทำการมอบดอกกุหลาบสีแดง ให้คนละ 1ดอก เนื่องจากที่อีกไม่กี่วันจะถึง14กุมภาวาเลนไทน์
ต่อจากนั้นด้านนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา มอบประกาศยกย่องเชิดซูเกียรติผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม และเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มอบเข็มเชิญซูเกียรติแก่ผู้มีผลงานดีเด่น จากหน่วยงานต่างๆในระดับประเทศและกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม แก่คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมชุดใหม่ มอบของที่ระลึก และบันทึกภาพกิจกรรมร่วมกันกับนายวิเชียร จันทรโณทัย






ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
๑.๑ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ นายวิเชียรจันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาและผู้เข้าร่วมประชุม
๑.๒ ชมวีดีทัศน์ สรุปผลการดาเนินงานของสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาปี ๒๕๕๙ – ๒๕๖๘
๑.๓ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม และเรียนเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
มอบเข็มเชิญชูเกียรติแก่ผู้มีผลงานดีเด่น จากหน่วยงานต่างๆในระดับประเทศ
กล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม แก่คณะกรรมการสภา
วัฒนธรรมชุดใหม่
มอบของที่ระลึก และบันทึกภาพกิจกรรมร่วมกันกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
ระเบียบวาระที่ ๒ รับรองรายงานการประชุมครั้งที่แล้ว
ไม่มี
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องเพื่อทราบ
๓.๑ ด้วยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้อนุมัติโครงการเพื่อขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของจังหวัดนครราชสีมา ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ จานวน ๓ โครงการ ได้แก่
โครงการผลิตสื่อออนไลน์ เพื่อการประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมผ้าและอาหารโคราชบ้านเอง จานวน ๒๕๐,๐๐๐ บาท
โครงการเล่าขายประวัติศาสตร์นครราชสีมา ผ่านนามสกุลคนโคราชจำนวนเงิน ๒๑๐,๐๐๐ บาท
โครงการหมู่บ้านพืชผักสวนครัวเกษตรอินทรีย์ ๕ ดี วิถีคนโคราชจำนวนเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
ซึ่งสภาวัฒนธรรมได้ดาเนินการไปแล้วทั้ง ๓ โครงการ พร้อมทั้งรายงานผลการดาเนินงานโครงการไปยังกรมส่งเสริมวัฒนธรรมทั้ง ๓ โครงการ และในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ กรมส่งเสริมได้อนุมัติโครงการให้สภาวัฒนธรรม
ดำเนินโครงการ ๑ โครงการ ได้แก่ โครงการ จัดทาชุดองค์ความรู้วิถีคนโคราช “กิ๋นเป็นยา” เพื่ออนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น (นำเสนอโดยเลขาสภาวัฒนธรรม)
ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเพื่อพิจารณา
๔.๑ การแต่งตั้งที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๘
๔.๒ การแต่งตั้งประธานกลุ่มอาเภอ โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา
แบ่งเป็น ๖ กลุ่มอาเภอ ดังนี้
กลุ่มที่ ๑. ๖ อาเภอ ได้แก่ เมืองนครราชสีมา, สีคิ้ว,สูงเนิน,ปากช่อง,เฉลิมพระเกียรติ,ขามทะเลสอ
กลุ่มที่ ๒. ๕ อาเภอ ได้แก่ โชคชัย,ปักธงชัย,วังน้าเขียว,ครบุรี,เสิงสาง
กลุ่มที่ ๓. ๖ อาเภอ ได้แก่ พิมาย,ชุมพวง,โนนแดง,ประทาย,ลาทะเมนชัย,เมืองยาง
กลุ่มที่ ๔. ๕ อาเภอ ได้แก่ โนนสูง,จักราช,ห้วยแถลง,หนองบุญมาก,โนนไทย
กลุ่มที่ ๕. ๔ อาเภอ ได้แก่ ด่านขุนทด,เทพารักษ์,พระทองคา,ขามสะแกแสง
กลุ่มที่ ๖. ๖ อาเภอ ได้แก่ บัวใหญ่,บัวลาย,สีดา,แก้งสนามนาง,คง,บ้านเหลื่อม
๔.๓ การมอบหมายคณะทางานตามโครงสร้างสภาวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๕
๔.๔ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาตามบทบาท
หน้าที่และภาระงานของสภาวัฒนธรรม
๔.๕ พิจารณาข้อบังคับของสภาวัฒนธรรม ปี ๒๕๖๕-๒๕๖๘
พิธีวางศิลาฤกษ์ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
โคราชประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์ ชูเป็นแลนด์มาร์คท่องเที่ยวแห่งใหม่
เมื่อเวลา 09.19 น. วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา พระธรรมเจดีย์ เจ้าคณะภาค ๑๑ เจ้าอาวาสวัดทองนพคุณ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างพระบรมราชานุสารีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมี หัวหน้าส่วนราชการและประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประกอบพิธีบวงสรวง วางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์
นิทรรศการแสดงผลงานอบรมเชิงปฏิบัติการเยาวชน คนสร้างศิลปะร่วมสมัยนครชัยบุรินทร์
งานศิลปนานาชาติ Thailand Biennale Korat 2022
นิทรรศการแสดงผลงาน อบรมเชิงปฏิบัติการ เยาวชนคนสร้างศิลปะร่วมสมัย นครชัยบุรินทร์ ยกระดับขีดความสามารถการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ไหมนครชัยบุรินทร์
วันที่ 21 มกราคม 2565 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมส่งเสริมศิลปะส่งเสริมการท่องเที่ยวโดย ได้รับเกียรติ นายชูศักดิ์ ชุนเกาะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีเปิดงาน นิทรรศการแสดงผลงาน อบรมเชิงปฏิบัติการ เยาวชนคนสร้างศิลปะร่วมสมัย นครชัยบุรินทร์ ยกระดับขีดความสามารถการท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ไหมนครชัยบุรินทร์( นครราชสีมาชัยภูมิสุรินทร์และบุรีรัมย์) ลานวาไรตี้ หน้า MCC HALL ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์จังหวัดนครราชสีมา ด้วยกิจกรรมจัดระหว่างวันที่ 18 ถึง 25 มกราคม 2565 ขอเชิญผู้สนใจทั่วไปร่วมกิจกรรม ชมงานศิลปะตื่นตาตื่นใจ