ท่องเที่ยวและกีฬาโคราช…จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ Mobile Application สื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP

สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกับ นักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่น 7 กลุ่มลิธัวเนีย ได้จัดการอบรมโครงการ “อบรมเชิงปฏิบัติการ Mobile Application สื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP ในจังหวัดนครราชสีมา ที่โรงแรมโคราชโฮเท็ล อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา โดยมี ว่าที่ร้อยตรี นิรันดร์ ดุจานุทัศน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุรสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดนครราชสีมา มีผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย ผู้แทนจากสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาในแต่ละอำเภอ และ นักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่น 7


โดย Mobile Application คือสื่อการเรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวและสินค้า OTOP ในจังหวัดนครราชสีมา” ที่จะได้ร่วมกันพัฒนาโดยการนำแหล่งท่องเที่ยว ของดี ของขึ้นชื่อ สินค้าโอท็อปจากทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา รวบรวมไว้ในแอฟพลิเคชั่นเดียว ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำ และอบรมผู้หาข้อมูล โดยได้จัดอบรมเพื่อให้ผู้แทนของแต่ละอำเภอได้นำสิ่งเหล่านี้มารวบรวมและจัดทำ เพื่อเป็นคู่มือสำหรับการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมา

ทั้งนี้ Mobile Application คือผลงานที่ทางนักศึกษาหลักสูตรนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ ได้ประยุกต์ความรู้ ความสามารถ ทรัพยากรที่มี สร้างโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ได้นำเสนอแนวคิดใหม่ ช่วยส่งเสริมการพัฒนาประเทศ หรือองค์กรในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเจาะจง เป็นเรื่องที่มีผลเพื่อส่วนรวม และสามารถนำไป ปฏิบัติได้จริง

>เสียงสัมภาษณ์<<

โคราชจัดพิธีทำน้ำอภิเษก  ณ  วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โคราชจัดพิธีทำน้ำอภิเษก  ณ  วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา

วันที่ 8 เม.ย. 2562 จังหวัดนครราชสีมาจัดพิธีทำน้ำอภิเษก โดยนิมนต์ 4 เกจิอาจารย์ ชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา  นั่งเจริญจิตภาวนา  อธิษฐานจิต  และสวดภาวนาที่บริเวณด้านหน้าวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร หรือวัดกลางนคร อ.เมือง จ.นครราชสีมา


นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้ร่วมกันประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก เพื่อใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในหลวง ฯ รัชกาลที่ 10 โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา   ได้เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาฤกษ์   พราหมณ์อ่านโองการบูชาฤกษ์ จากนั้นคณะผู้ว่าราชการจังหวัด  ได้เข้าสู่วิหารหลวง สถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก ซึ่งได้กำหนดฤกษ์เวลา 17.00 น.  โดยพระธรรมวรนายก ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค  11  เป็นประธานพร้อมพระสังฆาธิการ  จำนวน  30 รูป เจริญพระพุทธมนต์คาถาจุดเทียนชัย เจ้าหน้าที่ประโคมฆ้องชัย วงปี่พาทย์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์

             จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์  พระเกจิ และพระเถราจารย์   เจริญจิตภาวนาอธิษฐานและสวดภาณวารประกอบด้วย    พระครูอนุวัฒน์ ชินวงศ์ หรือหลวงพ่อจอย วัดโนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา   ,พระครูประโชติปัญญากรหรือหลวงพ่อคูณ วรปญุโญ วัดบัลลังก์ อ.โนนไทย   , พระครูสังฑรักษ์สุรเดช   อินทวัณโณ  วัดพระนารายณ์มหาราช  ,พระครูประโชติบุญญาภรณ์หรือพระอาจารย์ประทวน  ประธานสงฆ์วัดถ้ำดาวเขาแก้ว ได้ผลัดเปลี่ยนนั่งเจริญจิตภาวนาอธิษฐานจิตและสวดภาณวารจนถึงเวลาอันควร

   

           อนึ่งน้ำที่ใช้ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกได้มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดนครราชสีมา อยู่ที่ต้นน้ำลำตะคอง ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดกำเนิดสาขาลุ่มน้ำมูล แหล่งน้ำอุปโภคบริโภคของชาวโคราช โดยเป็นน้ำผุดกลางผืนป่ามรดกโลกแห่งที่ 5 ดงพญาเย็น-เขาใหญ่ ที่มีตำนานเล่าขานมากมายทั้งยังเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมหัวหน้าส่วนราชการได้เดินเท้าจากหอดูสัตว์หนองผักชี ลัดเลาะไปตามทางเดินป่าและข้ามคลองน้ำธรรมชาติไปที่เหนือฐานปฏิบัติการเฉพาะกิจคลองอีเฒ่า ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธี ฯ รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาร่วม 4 ชั่วโมง ก่อนจะเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปวางบนเสลี่ยงก่อนจะตั้งขบวนเดินเท้าออกมาที่ตั้งขบวนรถ บริเวณถนนธนรัชต์ ทางเข้าหนองดูสัตว์หนองผักชี เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นรถแล้ววางบนมลฑป ขบวนรถได้เคลื่อนออกมาจากถนนธนรัชต์ โดยมีนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นั่งอยู่บนรถเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นรถบรรทุกหกล้อขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ได้ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม ขบวนรถได้เคลื่อนมาที่หน้าว่าการอำเภอปากช่องและทำพิธีส่งมอบและรับมอบ พานธูป เทียนแพจากนายครรชิต ฯ หน.เขาใหญ่ ให้นายอำเภอปากช่อง ขบวนรถได้เคลื่อนมาตามเส้นทางมาที่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน เข้าสู่ลานกิจกรรม อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งมีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและทุกภาคส่วนได้ร่วมจัดกิจกรรมสมโภช เทิดทูนสถาบันและความรักความรักสามัคคีอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ จากนั้นได้เชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ขึ้นวางบนเสลี่ยง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หามลอดเข้าเมืองทางประตูชุมพลไปที่พระวิหารหลวง วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร อ.เมือง นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทำน้ำอภิเษกและทำพิธีเวียนเทียนสมโภชน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เมษายน 2562  และวันที่ 10-11 เมษายน  2562 นายวิเชียร จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  จะเชิญคนโทน้ำที่ได้ทำพิธีอภิเษก  นำไปส่งมอบให้ที่กระทรวงมหาดไทยต่อไป

 

พ่อเมืองโคราชร่วมพิธีเปิดกิจกรรม…ปั่นจักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุระนารี ประจำปี 2562 อย่างยิ่งใหญ่

โคราชจัดปั่นจักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะท้าวสุระนารี ประจำปี 2562 อย่างยิ่งใหญ่

 

 

ที่ผ่านมา  นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจัดหวัดนครราชสีมา    ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการแข่งขันจักรยานฉลองวันแห่ชัยชนะท้าวสุรนารี  ครั้งที่ 6   ประจำปี 2562  ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรารี   โดยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของจังหวัดนครราชสีมา, สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา, เทศบาลนครนครราชสีมา, สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ,สโมสรจักรยานนครราชสีมา และหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสรนารีประจำปี 2562 เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนและประชาชนออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และเพื่อจัดหารายได้ส่วนหนึ่ง มอบให้กับ โครงการมือเทียม 3 มิติ เพื่อผู้พิการ ,โรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ,มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา และโรงเรียนการศึกษาคนตาบอด นครราชสีมา


โดยกิจกรรม Tour Of Korat 2019 ครั้งที่ 6 จักรยานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรประจำปี 2562   ได้เริ่มให้มีการลงทะเบียนเวลา 05.30 น. และปล่อยตัวเวลา 07.30 น.นักกีฬาจักรยานจะได้รับถ้วยเกียรติยศรางวัลชนะเลิศ จาก พณฯ ท่าน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และถ้วยรางวัลรองชนะเลิศ จาก นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 5 รุ่น คือ 1.เสือหมอบชาย      70 กิโลเมตร 2.เสือหมอบหญิง 70 กิโลเมตร 3.เสือภูเขาชาย 70 กิโลเมตร 4.เสือภูเขาหญิง   70กิโลเมตร และประเภททีม รวมทั้งรุ่นในเกินร้อย 19 กิโลเมตร

ละ รุ่น VIP ในปีนี้ พิเศษสุด ทางคณะจัดการแข่งขัน จะมีการประกวดประเภทแฟนซี โดยผู้เข้าประกวดจะต้องเป็นผู้สมัครปั่นจักรยานในโครงการ และลงทะเบียนหน้างาน เพื่อเข้ารับการคัดเลือกจากคระกรรม รับรางวัลที่ 1-5 เพื่อเป็นการสร้างสีสันในการแข่งขัน

 

โดยผลการแข่งขันในรุ่นเสือหมอบชาย ชนะเลิศได้แก่  หมายเลข A472 จากทีมโชคชัย  รางวัลรองชนะเลิศอันอับ 1 หมายเลข A337 คุณวิสิทธิ์ คล้ายเมืองปัก จากทีมเส็งสั่งลุย รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ หมายเลข A473 จากทีม โชคชัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ A597 จากทีม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 ได้แก่ A 551  นายภูริเดช  พ่อค้า

รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 การแข่งขันรุ่น เสือหมอบหญิง  ได้แก่  B046 คุณโบตั๋น  วิโซ  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ B031 คุณปราณี  นานสิน  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ B039 คุณ ธิษตยา  ผลประดิษฐ์  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ B 010 คุณชารียา  พงษ์สว่าง  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่  4  ได้แก่ B 017 คุณวัฒนีย์  เจริญวานิช

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภทเสือภูเขาชาย  ได้แก่ C 154 คุณอนอรุต  ค้าขาย  จากทีมนิภาพืชผล  รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 C 100 จากทีมโชคชัย  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ C120 Mr.Hans Bartkyndt รางวัลรองชนะเลศอันดับที่ 3 ได้แก่ C153 คุณเกียรติศักดิ์  เวชสูงเนิน  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 ได้แก่  C 155  คุณธเนศ  ทองท่อ จากทีม MTB

รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ประเภท เสือภูเขาหญิง  ได้แก่  D 022 คุณอัฉรา  แสงสูงเนิน จากทีม เสิงสางไบท์  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่  D 031 คุณสุนารี  การินทร์  จากทีม BMC Asia Bike รางวัลรองชนะเลิศอันอับ 2 ได้แก่ D 030 คุณกวินนาฏ  บัวสรวง  จากทีม แชมป์สปอร์ต สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ D 050 คุณทองมี  ขวดพุทธา  จากทีม  มทส.  และรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 4 ได้แก่ D 025 คุณกันทิชา  สินสวัสดิ์ จากทีม พิมาย MTB

 

รางวัลชนะเลิศในประเภททีม  ได้แก่  8AM จำนวน  70 คน

และรางวัล  แฟนซี 5 รางวัล

ภาพบรรยากาศ  Tour of Korat 2019 >>>>

 

รพ.สต.ครบุรีชวนวิ่ง ช่วยผู้ป่วยติดเตียง ยอดบริจาคกระฉูดทะลุล้าน!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิจิตร กิจวิรัตน์ นายอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา นำเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ( รพ.สต.ชวนวิ่ง) ทั้ง 17 แห่ง และประชาชนในพื้นที่อำเภอครบุรี ร่วมกันทำกิจกรรมโครงการ “รพ.สต. ชวนวิ่ง” เพื่อรับบริจาคเงินนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งมีอยู่กว่า 400 คน

ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ได้เริ่มออกวิ่งตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งจะวิ่งในวันนี้อีก 1 วัน โดยใช้เส้นทางวิ่งผ่านทุกตำบลในพื้นที่อำเภอครบุรี รวม 12 ตำบล เพื่อให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้มีส่วนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในการรักษาและใช้ในชีวิตประจำวัน โดยในขณะที่ขบวนวิ่งรับบริจาคผ่านไปยังตำบลต่างๆ ก็จะมีการจัดกิจกรรมต้อนรับคณะทีมวิ่งอย่างอบอุ่นและสนุกสนาน

ทั้งนี้จากการวิ่งทั้ง 2 วัน ในโครงการ “รพ.สต.ชวนวิ่ง” ของอำเภอครบุรี มียอดเงินบริจาครวมถึงยอดจากการจำหน่ายเสื้อที่ใช้ในการใส่วิ่งแล้วกว่า 1 ล้าน 2 แสนบาท ซึ่งถือเป็นการมีส่วนร่วมในการให้ครั้งยิ่งใหญ่ของชาวอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมาที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง

นายประสิทธิ์ จอมกระโทก สาธารณสุขอำเภอครบุรี เปิดเผยว่า กิจกรรมในโครงการ “รพ.สต. ชวนวิ่ง”  นั้น จัดขึ้นเพื่อหารายได้ร่วมสมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานสาธารณสุขอำเภอครบุรี ทั้ง 12 ตำบล ในพื้นที่อำเภอครบุรี ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยติดเตียงซึ่งต้องได้รับการรักษาพยาบาลกระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 400 คน ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขอำเภอครบุรี รวมไปถึง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้ง 17 แห่ง ยังขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆที่จะใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วย  จึงมีแนวคิดร่วมกันกับทางหน่วยงานราชการต่างๆในพื้นที่ และภาคเอกชน จะจัดกิจกรรม “รพ.สต. ชวนวิ่ง”ขึ้น เพื่อหารายได้มาช่วยเหลือจัดหาสิ่งที่ยังขาดแคลน เพื่อให้ผู้ป่วยติดเตียงได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น  อีกทั้งยังเป็นการช่วยรณรงค์กระตุ้นในประชาชนในพื้นที่อำเภอครบุรี หันมาออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพกันมากขึ้นด้วย

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา วางพวงมาลาสักการะคุณย่าโม และทำบุญอุทิศส่วนกุศลแด่เพื่อนร่วมอาชีพที่ล่วงลับไปแล้ว

วันที่  5  มีนาคม 2562  สมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายฐิติรัตน์  พงษ์พุทธรักษ์ นายกสมาคมนักข่าวจังหวัดนครราชสีมา  นายไพฑูรย์ มนุญพงศ์พันธุ์  นายอิศราวุธ  พิพัฒพลกาย  และคณะกรรมการทุกท่าน ได้ร่วมกันวางพวงมาลาสักการะท้าวสุรนารี  ที่บริเวณ ลานอนุสาวรีท้าวสุรนารีเนื่องในวันนักข่าว ประจำปี 2562 และถวายภัตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ ที่วัดสุทธจินดาวรวิหาร จังหวัดนครราชสีมา เพื่ออุทิศส่วนบุญให้กับนักข่าวที่ล่วงลับไปแล้ว

ทั้งนี้วันนักข่าว ตรงกับวันที่ 5 มีนาคม   ของทุกปีถือกำเนิดมาจากวันที่นักข่าวรุ่นบุกเบิกหลายท่านได้ร่วมชุมนุมกันก่อตั้งสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ขึ้นมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498    ก่อนหน้านั้นหนังสือพิมพ์ทั้งหลายต่างให้ความสำคัญกับ “วันนักข่าว” กันเป็นอย่างดี
ปัจจุบันข่าวสารข้อมูลกำลังกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต แต่ความจำเป็นดังกล่าวไม่ใช่เพียงเนื้อหาของข่าวเท่านั้น คนหนังสือพิมพ์ หรือนักข่าวก็มีความสำคัญ ในฐานะคนกลางที่ทำหน้าที่ส่งผ่านข่าวสารที่เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนไปยังผู้อ่านด้วยเช่นกัน จึงเปรียบเทียบได้กับกระจกที่สะท้อนสังคมในทุก ๆ ด้าน ไม่เฉพาะเจาะจงเพียงด้านเดียวในแวดวงหนังสือพิมพ์ มีผู้เรียกนักหนังสือพิมพ์หรือนักข่าวว่า “ฐานันดรที่ 4” ความหมายโดยนัยแล้วคือ ผู้ที่มีสถานะแตกต่างจากบุคคลธรรมดาทั่วไป หรือผู้ที่มีอภิสิทธิ์ในการขีดเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านสื่อมวลชน

โดยในปี 2562 นี้ ทางสมาคมนักข่าว จังหวัดนครราชสีมา ไม่ได้มีการจัดงานวันนักข่าวแต่อย่างใด  เนื่องจากเห็นว่า มีหน่วยงานทางสื่อมวลชน ได้มีการจัดงานกันอย่างหลากหลายรูปแบบอีกทั้งหากต้องมีการข้อรับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี ทางสมาคมได้เล็งเห็นว่า  ควรมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบอื่น เพื่อเป็นการยังประโยชน์ให้แก่สังคมได้มากที่สุด  จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานขึ้น  ภายใต้โครงการ TOUR OF KORAT 2019 ที่ได้ร่วมกันกับท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา  จังหวัดนครราชสีมา และสโมสรกีฬาจักรยาน  จังหวัดนครราชสีมา  ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่  31  มีนาคม  2562 นี้

กลุ่มคนรุ่นใหม่โคราชแห่ต้อนรับ หัวหน้าพรรคและ ผู้สมัคร ส.ส เขตโคราช 14 เขต ไหว้ขอพรคุณย่าโม

‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ปลุกกระแสฟ้ารักพ่อฟีเว่อร์ ลงพื้นที่โคราชขอโอกาสขอคะแนนเสียงให้คนรุ่นใหม่หัวใจประชาธิปไตย เพื่อรับใช้ประชาชน ลั่นนโยบายพรรคถูกใจมหาชน ขณะที่สาวๆขอเซลฟี่ด้วยเพียบ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 09.00 น. ที่ ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นคราชสีมา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วย แกนนำพรรค พร้อมทั้งผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 14 เขตของจังหวัดนครราชสีมา ได้สักการะขอพรย่าโมเพื่อความเป็นสิริมงคล และจากนั้นได้เดินลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสาวๆแห่ขอเซลฟี่ด้วยเพียบ
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อได้พบปะประชาชนและมอบนโยบายพร้อมด้วยแนะนำสมาชิกพรรคแต่ละเขตพื้นที่ให้ประชาชนได้รู้จัก ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการทำงาน 3 ประการ คือ ประการที่ 1. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ประการที่ 2. เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ ประการที่ 3. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองระยะยาว เราจะเป็นพรรคการเมืองที่มีชีวิตตลอดเวลา ไม่ใช่จะขยันหรือกระตือรือร้นทำงานเฉพาะในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นการทำงานต่อเนื่องไม่มีวันหยุด

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อได้พบปะประชาชนและมอบนโยบายพร้อมด้วยแนะนำสมาชิกพรรคแต่ละเขตพื้นที่ให้ประชาชนได้รู้จัก ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยึดหลักการทำงาน 3 ประการ คือ ประการที่ 1. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ประการที่ 2. เป็นพรรคการเมืองที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นเจ้าของ ประการที่ 3. เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งทำงานการเมืองระยะยาว เราจะเป็นพรรคการเมืองที่มีชีวิตตลอดเวลา ไม่ใช่จะขยันหรือกระตือรือร้นทำงานเฉพาะในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งเท่านั้น แต่เป็นการทำงานต่อเนื่องไม่มีวันหยุด
ขณะที่ นายวรพงศ์ โสมัจฉา ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เบอร์ 9 เขต 1 นครราชสีมา กล่าวว่า อยากจะขอโอกาสกับประชาชนทุกท่านให้โอกาสตนและคนรุ่นใหม่ได้มาทำงานเพื่อประชาชนได้ต่อยอดพัฒนาประเทศชาติให้เจริญภายใต้ประชาธิปไตยที่แท้จริง ซึ่งเราพร้อมที่จะแก้ปัญหาต่างๆในประเทศให้ดีขึ้นจากทีมงานคนรุ่นใหม่ นำสังคมไทยออกจากความขัดแย้ง

                  นายอนันต์ สินมานนท์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เบอร์ เขต 9 นครราชสีมา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองได้เห็นแนวคิดของพรรคอนาคตใหม่แล้วรู้สึกถูกใจเป็นการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่กลุ่มทุนที่ตั้งพรรคการเมืองเองเพื่อเอื้อประโยชน์ตนเองและพรรคพวก แต่พรรคอนาคตใหม่เรารวมแนวคิดและนโยบายที่ไม่ใช่จำกัดแค่คนชั้นสูงบางกลุ่มแต่คือนโยบายเพื่อประชาชนจริงๆ พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่สมาชิกของเราจะโหวตกันเองว่าใครจะได้อยู่เขตไหน ซึ่งทางพรรคเองก็เห็นว่าโปรไฟล์ของผมนั้นทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด และผมเองมั่นใจในพรรคอนาคตใหม่คือพรรคที่ส่งเสริมคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเป็นนักการเมืองมาก่อน ไม่มีประวัติด่างพร้อย และทุกคนมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศได้ดีที่สุด ขอให้ทุกคนมั่นใจเชื่อใจก้าวไปด้วยกันแบบใหม่กับพรรคอนาคตใหม่เพื่อไทยทุกคน
ทางด้าน นายพัลลภ เสนาดี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เบอร์ 3 เขต 2 นครราชสีมา กล่าวว่า นอกจากนี้ถ้าหากทางเราได้รับเลือกเป็นคณะรัฐบาล ก็จะเร่งทำนโยบายต่างๆให้เป็นรูปธรรม อาทิ เพิ่มเงินชีพคนชราเป็น 3 เท่า คือ 1,800 บาท รัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจรทั้งหมดนี้ใช้งบประมาณ 650,000 ล้านบาท โดยเงินจะนำมาจาก 1.จากของเดิมที่มีอยู่ 2. ลดงบกลาโหม 30% 3. กองทุนสวัสดิการแห่งรัฐ 4. ลดสิทธิประโยชน์ BOI 5. ลดสิทธิการลดหย่อนภาษีบางส่วน 6. ลดงบประจำ และงบกลาง 7. ขึ้นภาษีที่ดิน 8. เอาหวยขึ้นมาไว้บนดิน เป็นต้น    นายภูดิส ทามนตรี ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เขต 11 นครราชสีมา กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่ของเรา เราต้องการนำเสนอความทันสมัยคิดใหม่ปฏิรูปใหม่ให้เป็นไปตามสากลนิยมและนานาอารยะประเทศที่พัฒนาแล้วเขาทำกันเป็นประชาธิปไตย ผมคิดว่าสังคมไทยและคนโคราชก็ที่จะต้องเดินหน้าไปในทิศทางที่เป็นประชาธิปไตยและมีความคิดที่เสรีไม่มีอะไรมาปิดกั้นหรืออยู่ภายใต้อาณัฐของกลุ่มชนชั้นสูงที่แบ่งพรรคแบ่งฝ่าย เชื่อเหลือเกินว่าพี่น้องชาวไทยทุกคนอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่เมืองเศรษฐกิจและศูนย์กลางสินค้าของโลกในอนาคต พรรคอนาคตใหม่เราทำได้แน่นอน


สำหรับจังหวัดนครราชสีมานั้น เป็นพื้นที่ของเมืองอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่จึงอยากจะเข้ามาต่อยอดเพื่อให้อุตสาหกรรมต่างๆรุ่งเรือง และนำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ก้าวหน้า มาตอบโจทย์การสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ ที่มีความเข้มแข็ง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลดการนำเข้าของพลังงาน  ทั้งนี้ทางพรรคอนาคตใหม่  ได้ขอโอกาสให้ชาวโคราชได้เลือก  พรรคทางเลือกใหม่ “พรรคอนาคตใหม่” ให้เข้ามาร่วมกันบริหารประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ (24 มีนาคม 2562)  สำหรับประชาชนท่านใดที่ต้องการสมัครเป็นสมาชิกพรรค  สามารถติดต่อได้ที่  สำนักงานพรรคอนาคตใหม่  ที่ตั้ง อาคารข้างโรงแรมสีมาธานี  จังหวัดนครราชสีมา

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร.โคราชเปิดฝึกอบรมช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท

สพร 5 นครราชสีมาเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด


ที่ผ่านมา นายสุเมธ โศจิพลกุล ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมฝีมือแรงงานบูรณาร่วมภาครัฐและเอกชน หลักสูตรช่างติดตั้งเหล็กโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ภายใต้ข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงาน ระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กับ บริษัท เอ็นเอสบลูสโคปสตีล (ประเทศไทย) จำกัด ระหว่างวันที่ 4 – 7 กุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวนผู้เข้ารับงานฝึก 36 คน ณ โรงฝึกงานช่างก่อสร้างและอุตสาหกรรมฅิลป์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา โดยได้รับการสนับสนุนวิทยากร วัสดุ อุปกรณ์ ในการฝึกจากศูนย์ฝึกอบรมบลูสโคป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีท ให้เกิดความชำนาญในการติดตั้ง และสามารถคิดคำนวณ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้ประกอบการได้ในอนาคต
ในปี 2562 สพร.5 นครราชสีมา มีเป้าหมายการฝึกทักษะด้านช่างติดตั้งโครงสร้างมวลเบา ผนัง หลังคา และเมทัลชีทให้กับแรงงานในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเพิ่มอีก จำนวน 20 คน และในสาขาช่างมุงหลังคากระเบื้องคอนกรีต จำนวน 12 ชั่วโมง หรือ 2 วัน จำนวน 20 คน มีกำหนดการเปิดฝึกระหว่างวันที่ 29-30 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้น ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ที่ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 5 นครราชสีมา เบอร์โทรศัพท์ 044- 416947 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ นายชินโชติ บรรจงปรุ นักวิชาการพัฒนาฝีมือแรงงานชำนาญการ เบอร์โทรศัพท์ 081-977-8564

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ลูกจ้างสุดแซบ ขโมยเสื้อกางเกงยีนต์ มูลค่าครึ่งล้าน เจ้าของร้านส่งรายใหญ่โคราช จนมุมเพราะขายถูกกว่าร้านอื่น จนมาเข้าหูผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับการการสืบสวนสอบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมผู้เสียหายเหตุลักทรัพย์ นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเจ้ใหม่บูติค ตั้งอยู่ที่ บ้านเลขที่ 12/5-6 ถนนจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แจ้งว่าพบเสื้อกางเกงยีนต์ ที่เป็นของทางร้านที่ได้ถูกขโมยไปโดย คนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด เข้ามาลักเอาทรัพย์สินดังกล่าวไปและได้แจ้งความ ร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561


ต่อมานางรุ่งทิพย์ ฯทราบว่าได้มีคนนำเสื้อกางเกง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของร้านตนเองที่ได้ถูกลักขโมยเอาไป มาวางขายที่ตลาดนัดจิระ บริเวณหน้าสถานีรถไฟจิระ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมผู้เสียหายจึงได้แสดงตัวขอเข้าตรวจสอบแผงวางขายเสื้อกางเกงยีนต์ พบนายนิพนธ์ นามสว่าง ให้การว่าเป็นลูกจ้าง รับจ้างขนของมาขายจาก นางยุพาพร พงษ์พฤฒิพันธ์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ถ.จิระ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นสินค้าที่สูญหายจากร้านตนเองจริง จากนั้นได้ให้นายนิพนธ์ ฯ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหาย ไปหานางยุพาพร ฯที่บ้านพัก พบนางยุพาพร ฯ จึงได้สอบถามที่มาของเสื้อกางเกงที่เอาไปวางขายดังกล่าว แต่ขณะสอบถามพบว่านางยุพาพร ฯ ให้การมีพิรุธ เกี่ยวกับที่มาของเสื้อกางเกงดังกล่าว ให้การวกไปวนมา จนกระทั่งต่อมาให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายว่า เมื่อประมาณเดือนธันวาคม 2561 ได้ร่วมกับนางปุ้ย ฯ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ซึ่งเคยเป็นลูกจ้างที่ร้านเจ๊ใหม่บูติค ด้วยกันมาก่อน เข้าไปลักขโมยเอาเสื้อกางเกง โดยเข้าไปลักเอาในเวลากลางคืน จำนวน 2 วัน 2 ครั้ง และนำทรัพย์สินที่ได้มาแบ่งกันเอาไปขาย
ด้าน นางรุ่งทิพย์ เตชะสีหบุตร เจ้าของร้าน เล่าน้ำตาคอว่า หลังจากทราบว่าลูกจ้างตนเป็นคนลักทรัพย์ไปนั้นเสียใจอย่างมากเนื่องจากไว้ใจ เพราะสินค้าในร้านมีจำนวนมาก กล้องวงจรปิด 16 ตัวในร้านไม่พบการก่อเหตุสักครั้ง อีกทั้งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแค่เพียง 2 ครั้งเพราะว่าสินค้าศูนย์หายไปจำนวนมาก มูลค่ากว่าครึ่งล้าน และพบว่ามีการทถอยลักทรัพย์ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ 2561 เป็นต้นมาและมาลาออกในเดือนสิงหาคม หลังจากออกไปแล้วก็ยังวนเวียนเข้ามาก่อเหตุซ้ำต่อในเดือนธันวาคมอีก ซึ่งเชื่อได้ว่าคนร้านจะเข้ามาทางด้านหลังร้านซึ่งมีกำแพงติดกับวัดโพธิ์ และใช้เส้นทางดังกล่าวในการขนของหลบหนี จึงคิดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีทั้งหมด

 

>ชมภาพ<<

เฉลิมเกียรติโคราช!!โชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับลอบขนกัญชา 500 กก. หลบด่านเข้ารีสอร์ทไม่รอด มูลค่ากว่า 10 ล้าน

เฉลิมเกียรติ โชว์ผลงานกวาดล้างยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 สกัดจับลอบขนกัญชา 500 กก. หลบด่านเข้ารีสอร์ทไม่รอด มูลค่ากว่า 10 ล้าน


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมือง นครราชสีมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) พร้อม พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 ,พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผบก.ฯ และ พ.ต.อ.ปวริศ บุญ สุทธิ รอง ผบก.ฯ ,พ.ต.อ.ปราโมทย์ สิมหลวง ผกก.สภ.หินดาด จว.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมแถลงผลจับกุมนายดี หรือตี การุญ อายุ 42 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 14 หมู่ที่ 5 ต.โพนบก อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และนายไพทูรย์ หรือทูน ฝอยทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 10 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่งน้ำหนักประมาณ 500 กิโลกรัม และ รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำหมายเลขทะเบียน ฒฮ 5005 กรุงเทพมหานคร เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลให้หยุดยั้งและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายkเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบในช่วง ระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดห้วงวันที่ 1 -4 กุมภาพันธ์  2562

 

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ฯ รอง ผบ.ตร. ( ปป.) เผยพฤติการณ์ของคดีว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.ปราโมทย์ สิมหลวง ผกก.สภ.หินดาด ได้รับ คำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดในพื้นที่รับผิดชอบ หลังสืบทราบว่า จะมีขบวนการลักลอบขนกัญชามา จาก จ.นครพนม ใช้เส้นทางผ่านพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา จึงได้ร่วมกันตั้งจุดตรวจบนถนนสาย 2256 ถนนสายชัยบาดาล-ด่าน ขุนทด บริเวณหน้าวัดเขาบารมี หมู่ที่ 10 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากตำรวจที่ทำหน้าที่ตรวจการส่วนหน้าสังเกตรถที่เลี้ยวเข้าจอดก่อนถึงจุดตรวจ พบว่ามี ชายไทย 2 คน ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีดำหมาย เข้าไป จอดและเข้าพักที่ห้องหมายเลข 10 ภายใน รีสอร์ทชมวิว หมู่ที่ 2 ต.ห้วยบง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย จนท.แสดงตัวเข้าตรวจสอบ และตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 500 แท่ง น้ำหนัก 500 กิโลกรัม บรรจุอยู่ใน กระสอบปุ๋ย ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 12 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ที่กระบะด้านหลังรถยนต์


จากนั้นได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ดำเนินการขยายผลจับกุมเครือข่ายขบวนการลักลอบขนกัญชารายนี้ สามารถจับกุมนายประกรชัย หรือโก้ ไกรรัตน์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ที่ 5 ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ทำหน้าที่เป็นคนขับรถนำหน้า และจับกุมนายฐานทัพ หรือขอน วะกะกัณฑ์ อายุ 42ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 2 ต.นามะเขือ อ.ปลา ปาก จ.นครพนม ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานทางโทรศัพท์กับรถขนกัญชา พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้สีเทา หมายเลข ทะเบียน กร 2801 ระยอง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หินดาด เพื่อดำเนินการสืบสวนและขยายผลทำลายายเครือข่าย ขบวนการค้ายาเสพติดให้สิ้นซากต่อไป จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้าง รับมาจากนายทุนชาวลาวเดินทางมาจาก จ.นครพนม นำไปส่งให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพฯ เพื่อรอขนลำเลียงส่งออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตามหากกัญชาอัดแท่งจำนวนนี้ถูกส่งออกนอกประเทศจะมีมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท

นอกจากยังมีผลการจับกุมผู้ค้ายาบ้า ของตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ของกลางยาบ้า จำนวน639,353 เม็ด และตำรวจภูธรจังหวัด บุรีรัมย์ ยาบ้า 101,990 เม็ด

>ชมคลิปและอ่านข่าวเพิ่มเติม<<

มหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียนโคราช สร้างสีสันการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่

งานมหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียนโคราช สร้างสีสันการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่ คาดกระตุ้นเศรษฐกิจ เงินสะพัดหลายสิบล้าน

                    นายณรงค์ ปลิวกระโทก หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลตำบลด่านเกวียน เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 8ว่า ภายใต้การนำของ นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน ได้กำหนดจัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา(มหกรรมเครื่องปั้นดินเผา) ประจำปี 2562 ที่ บริเวณหมู่บ้านชุมชนหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ตำบลด่านเกวียน อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนอย่างแพร่หลาย จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในระหว่างวันที่ 10 – 14 กุมภาพันธ์ 2562

                โดยภายในงานมหกรรมเครื่องปั้นดินเผาบ้านด่านเกวียน จะมีการแข่งขันปั้นอ่างใหญ่ การแข่งขันปั้นเร็ว (ครกน้อยคอยเธอ) การแข่งขันเหยียบดินกินปลา (จับปลาไหลใส่กระบอก)พร้อมทั้งชมวิถีชีวิตชุมชนและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น การเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้านกับเครื่องปั้นดินเผา ชมความสวยงามของขบวนแห่ที่แสดงออกถึงวัฒนธรรมอันดีงาม ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการท่องเที่ยววิถีชีวิตชุมชน ร่วมไปถึงการแสดงจากศิลปินที่มีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ,มนต์แคน แก่นคูณ ,เพชรดาราพันธ์ ,ลิเกวรต้อ และการออบูรแสดงสินค้าเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม “ด่านเกวียน” เป็นหมู่บ้านริมฝั่งแม่น้ำมูล ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นเส้นทางการค้าระหว่างโคราชกับเขมร ชาวด่านเกวียนมีอาชีพทำนาทำไร่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล และเริ่มเรียนรู้การทำเครื่องปั้นดินเผาจากชาวข่า (ชาวเขาเผ่าหนึ่งตระกูลมอญ-เขมร เป็นชนพื้นเมืองเดิมที่มีถิ่นฐานอาศัยอยู่แถบลุ่มแม่น้ำโขง) ในยุคแรกของการทำเครื่องปั้นจะทำไว้ใช้ในครัวเรือน เช่น โอ่ง ไห ครก ฯลฯ ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์มาเป็นเครื่องประดับ ของตกแต่งบ้านและจัดสวน ตลอดจนเป็นสินค้าส่งออกไปขายยังต่างประเทศ ด้วยคุณสมบัติของดินด่านเกวียนเมื่อเผาออกมาแล้วมีลักษณะเป็นสีสัมฤทธิ์ ที่มีเอกลักษณ์ของความเป็นเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน นอกจากนั้น หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ได้รับเลือกจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดตั้งให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP เมื่อต้นปี 2548 หนึ่งใน 4 แห่งของประเทศ

>ชมภาพ<<