ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกจิชื่อดังแห่งเมืองโคราช บริจาคเงิน 1 แสน ร่วมสร้างโรงพยาบาลโนนสูง

ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกจิชื่อดังแห่งเมืองโคราช บริจาคเงิน 1 แสน ร่วมสร้างโรงพยาบาลโนนสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงพยาบาลโนนสูง อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา นายอนันต์ศักดิ์ วุฒิสิงห์ชัย นายอำเภอโนนสูง ได้เป็นประธานในพิธี ทอดผ้าป่ามหากุศล เพื่อหารายได้สมทบทุนจัดซื้อวัสดุครุภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้มีความพร้อมในการให้บริการผู้ป่วย โดยมีครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกจิชื่อดังแห่งเมืองโคราช ร่วมบริจาคเงินส่วนตัวจำนวน 1 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีชาวบ้าน ภาครัฐและเอกชน ทำบุญในครั้งนี้อีกด้วย

            นายแพทย์อนุพงศ์ ชาวคอนไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโนนสูง เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาโรงพยาบาลโนนสูงได้ให้บริการผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก สถานที่ในการให้บริการค่อนข้างคับแคบ โดยเฉพาะตึกผู้ป่วยในที่ต้องรับผู้ป่วยเข้านอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ 80 ราย ทำให้เกิดความแออัดจำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อการให้บริการ จากปัญหาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณจำนวน 40 ล้าน เพื่อใช้ในการสร้างตึกผู้ป่วยหลังใหม่ 3 ชั้น โดยได้เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2560 ปัจจุบันได้ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากยังขาดวัสดุครุภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์อีกจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดกิจกรรมหารายได้ในรูปแบบต่างๆ เช่นการจำหน่ายของที่ระลึก การปั่นจักรยาน การทำวัตถุมงคลสำหรับเช่าบูชา ล่าสุดได้ทำการทอดผ้าป่ามหากุศล จำนวน 9,999 กอง กองละ 999 บาท

            อย่างไรก็ตาม หากประชาชนท่านใด ต้องการที่จะร่วมทำบุญใหญ่กับทางโรงพยาบาลโนนสูง เพื่อหาทุนซื้อวัสดุครุภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ สามารถติดต่อได้ที่โรงพยาบาลโนนสูงได้โดยตรง

>ชมคลิปภาพบรรยากาศ<<

โคราช!!! สร้างลูกนิมิตยักษ์ ใหญ่สุดในประเทศ

พระโคราช สร้างลูกนิมิตยักษ์ใหญ่สุดในประเทศ หวังแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน ให้ประชาชนเข้าวัดมากขึ้น เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบพระสงฆ์และประชาชน ที่อยู่ในวัดหนองบัว ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ได้ช่วยกันเตรียมงานบุญปิดทองฝังลูกนิมิต เพื่อฉลองอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งใช้งบประมาณ 18 ล้านบาท แทนที่หลังเก่าซึ่งชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยมีการจัดงานในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 ทั้ง 10 วัน 9 คืน ซึ่งภายในงานจะมีการจัดงานมหรสพสมโภชตลอดงาน

ทั้งนี้ วัดหนองบัว ยังสร้างสีสัน เรียกเสียงฮือฮาให้กับชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัด โดยทำลูกนิมิตยักษ์ขนาด เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร สูง 4 เมตร ซึ่งชาวบ้านผู้เฒ่าผู้แก่ได้ลองไปล้อมวงโอบร่วมนับ 10 คน ถือว่าเป็นลูกนิมิตยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศก็ว่าได้ หวังเพียงสร้างจุดสนใจ จุดดึงดูดให้คนเข้าวัดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน และวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่ชอบถ่ายภาพ ชอบเซลฟี่ ซึ่งหลังจากวัดสร้างลูกนิมิตใหญ่ยักษ์ขึ้นคาดว่าจะมีประชาชนเข้าวัดเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้รอบๆภายในวัดยังมีการสร้างแลนด์มาร์ค จุดเช็คอิน สวนดอกไม้พร้อมทั้งการตกแต่งภายในวัดในสวยงามตามยุค 4.0 ให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย

ด้าน พระณรงค์ฤทธิ์ มหาปรกฺกโม เลขานุการวัดหนองบัว พร้อมด้วย พระมหาอาทิตย์ อภิวจโน หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์วัด เปิดเผยว่า การทำลูกนิมิตยักษ์ เพื่อต้องการให้เป็นสัญลักษณ์ และเอกลักษณ์วัด บอกความหมายผ่านภาพ ผ่านสิ่งที่เห็น ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ บ่งบอกถึงความร่วมไม้ร่วมมือ ความสามัคคี เพราะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ จึงคิดทำลูกนิมิตยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดขึ้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์ (เอเทค) ชาวบ้าน พระภิกษุสามเณร ได้ร่วมกันทำขึ้นมา ซึ่งมีความสูง กว้าง 4 เมตร สูง 4 เมตร ด้านในจะเป็นโครงเหล็กบุด้วยกระดาษอย่างดี ทาสีลงรักปิดทอง โดยจะมีงานปิดทองฝังลูกนิมิต ผูกพัทธสีมา ทั้ง 9 ลูก ในวันที่ 28 ธันวาคม 61 ถึง 6 มกราคม 62 จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธา ร่วมสร้างมหากุศลบุญครั้งยิ่งใหญ่ด้วยกัน

ชมคลิปเพิ่ม

ปศุสัตว์โคราชพร้อมรับมือโรคสัตว์ในช่วงฤดูหนาว

ชาวปศุสัตว์โคราชพร้อมรับมือโรคสัตว์ช่วงฤดูหนาว

                 นครราชสีมา –  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ทำปศุสัตว์ในพื้นที่อำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ต่างเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ภัยหนาวที่กำลังเริ่มต้นขึ้นในช่วงนี้กันอย่างพร้อมเพรียง ด้วยการเตรียมกักตุนฟืนไฟเพื่อไว้ก่อไฟให้สัตว์ผิงให้ความอบอุ่นในช่วงที่อากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งเกิดใหม่ และลูกสัตว์ขนาดเล็ก  เนื่องจากในห้วงอากาศหนาวทำให้สัตว์มีภูมิต้านทานโรคต่ำ อาจจะเจ็บป่วยเป็นโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจและโรคปากและเท้าเปื่อย นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมกาบมะพร้าวเอาไว้ก่อควันไฟเพื่อไล่แมลงให้แก่สัตว์เลี้ยง เพราะอาจจะเป็นพาหนะนำโรคต่างๆมาสู่สัตว์เลี้ยงได้ง่าย

               ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปศุสัตว์อำเภอครบุรี ก็ส่งเจ้าหน้าที่ออกรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคในสัตว์ช่วงหน้าแล้ง โดยเฉพาะโรคปากเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบ อย่างเช่นโค กระบือ เนื่องจากมีความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ง่ายในช่วงนี้ พร้อมกับแนะนำให้เกษตรกรนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคตามวงรอบเพื่อตัดวงจรความเสี่ยงที่จะเกิดโรคในสัตว์เลี้ยง อีกเตรียมจัดหาวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมาจัดเตรียมไว้ให้แก่เกษตรกรที่ต้องการนำไปเพิ่มภูมิต้านทานให้แก่สัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าหนาวนี้ด้วย

คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ร่วมกันจัดอบรมคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชน

ที่โรงแรมสบายโฮเทล คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ร่วมกันจัดอบรมคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชน โดยมีนายสุวีร์ ตรียุทธนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน เนื่องด้วยระเบียบกระทรวงยุติธรรม ว่าด้วยคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชนสำหรับสถานพินิจ พ.ศ. 2554ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและ เยาวชนสำหรับสถานพินิจ เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้อำนวยการสถานพินิจและช่วยเหลือกิจการสถานพินิจ เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความ ควบคุมดูแลของสถานพินิจ อันจะเป็นผลให้การดำเนินการของสถานพินิจ บรรลุตาม วัตถุประสงค์ เกิดผลดีแก่ระบบการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟูเด็กและเยาวชนโดยรวม และ เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งคณะกรรมการสงเคราะห์ จึงจัดให้มีการอบรมครั้งนี้ขึ้น

 

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนงาน ยุติธรรมและบทบาทหน้าที่ของกรรมการสงเคราะห์ในการดำเนินงานซึ่งจะเกิดประโยชน์ ต่อเด็กและเยาวชนการอบรมครั้งนี้ มีผู้ที่ผ่านการคัดสรรของคณะกรรมการสรรหากรรมการ สงเคราะห์ที่จะเสนอชื่อเพื่อแต่งตั้งจากรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเข้าร่วมการอบรม รวมทั้งสิ้น ๖๕ ราย และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ด้วย การอบรม ประกอบด้วย การบรรยาย การประชุมและแบ่งกลุ่มระดมความคิด  ซึ่งการอบรม ครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมารับรู้ปัญหาและมาร่วมกันคิดออกแบบการให้ ความช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดของจังหวัดนครราชสีมา ให้เหมาะสม กับสภาพปัญหาของเด็กและเยาวชนแต่ละราย กอรปกับเพื่อแก้ไขปัญหาเด็ก และเยาวชนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้  คณะกรรมการสงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3 ได้ร่วมกันเลือกประธานท่านใหม่  ตามวาระ โดยได้มีการเสนอชื่อผู้เข้ารับการเลือกตั้ง  ประกอบด้วย  1. นายอภิชาต  ติยวัฒน์  2. นายวรภพ  จำนงจิตร  3. นางสมใจ  อินทรทรัพย์  และนายธวัช  และจากการโหวตเสียงในที่ประชุม ปรากฏว่า เป็นเอกฉันท์ ให้  นายอภิชาต  ติยวัฒน์   ดำรงตำแหน่งประธาน สงเคราะห์เด็กและเยาวชน สำหรับสถานพินิจฯ นครราชสีมา และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เขต 3

โคราชเปิดให้ลงทะเบียน “อุ่นไอรัก” วันแรก สุดคึกคัก

โคราช เปิดให้ลงทะเบียน “อุ่นไอรัก” วันแรก สุดคึกคัก  ที่บริเวณหน้าโถงศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ประชาชนจำนวนมากเดินทางมารอต่อแถวเพื่อร่วมลงทะเบียนในกิจกรรมปั่นจักรยาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ (Bike UnAiRak) ของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีการเปิดให้ลงทะเบียนวันแรก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมลงทะเบียนกิจกรรมในครั้งนี้และคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นักปั่นจักรยานที่มารอต่อคิวร่วมกิจกรรม สำหรับกิจกรรมปั่นจักรยาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ (Bike UnAiRak)

       ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา จะมีขึ้นในวันที่ 9 ธันวาคม 2561 โดย เริ่มจากสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา วิ่งไปตามถนนสาย 304 ราชสีมา-ปักธงชัย เข้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และกลับมายังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รวมระยะทาง 28 กิโลเมตร

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาจะเริ่มเปิดให้ประชาชนร่วมลงทะเบียนร่วมกิจกรรม ปั่นจักรยาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์(Bike UnAiRak) ของจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 เวลา 08.30-16.00น ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 15,000 คน ประชาชนสามารถเดินทางสมัครลงทะเบียนร่วมกิจกรรมได้ที่ศาลากลางจังหวัดฯหรือที่ว่าการอำเภอทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1111

ชาวนาโคราช ร่วมแรงสามัคคีตากข้าวพื้นถนน ไม่จ้างคนงานลดต้นทุน เร่งเก็บผลผลิตหนีฝนหลงฤดู

  ชาวนาโคราชสุดช้ำใจพิษภัยแล้ง ร่วมแรงสามัคคีตากข้าวพื้นถนน ไม่จ้างคนงานลดต้นทุน เร่งเก็บผลผลิตหนีฝนหลงฤดู

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ บ้านโคกพะงาด ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ต่างนำข้าวที่พึ่งเก็บเกี่ยวผลผลิตมาตากกับผ้าเขียวบนถนนกลางหมู่บ้านเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร โดยมีผ้าดางหรือตาขายเขียวรองพื้นพร้อมกับผ้าใบเตรียมไว้ปกคลุมป้องกันฝน หลังจากในช่วงนี้ พบมีฝนหลงฤดูตกลงมาเป็นระยะ

จากการสอบถาม นางสมจิตร ศรีสุขกลาง อายุ 60 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ในปีนนี้ฝนไม่ค่อยดี ชาวนาได้ข้าวไม่ค่อยมาก มีเพียงชาวนาที่มีที่นาติดลำน้ำที่ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย บางรายได้เพียงพอทำข้าปลูก หรือทำพันธุ์ข้าวในปีหน้า เกษตรกรส่วนใหญ่จึงต้องหาทางลดต้นทุนการผลิต ไม่สามารถจ้างคนงานมาทำได้ทุกอย่างเหมือนทุกปี จึงต้องอาศัยความสามัคคีในหมู่บ้าน ขอแกรงมาช่วยกันทำช่วยกันตากข้าว รีบทำแต่ละเจ้าให้เสร็จโดยไม่ได้มีการว่าจ้างกันแต่อย่างใด ใครเป็นเจ้าภาพก็ลงทุนซื้อของมาเลี้ยงกันไปเพื่อให้สามารถตากได้เร็วขึ้นเสร็จไวขึ้น เพื่อจะให้ชาวนารายอื่นมาตากต่อ และยังเป็นการลดต้นทุนด้วย เนื่องจากไม่สามารถจ้างได้ทุกอย่างเพราะในปีนี้ได้ข้าวไม่มากจากพิษภัยแล้งจึงไม่มีเงินที่จะไปจ้างคนงานเพราะข้าวที่ได้ไมมากพอที่จะนำไปขายบางรายได้เพียงพอได้เป็นพันธุ์ข้าวในปีต่อไปเท่านั้น

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีฝนหลงฤดูตกบ่อยครั้ง จึงต้องใช้ถนนกลางหมู่บ้านที่มีความร้อนมากในช่วงกลางวันเป็นที่ตากข้าวจะได้แห้งเร็ว ๆ และขอแรงจากเพื่อนบ้านมาช่วยกันตากมาช่วยกันเกลี่ยเพื่อกลับเมล็ดข้าวที่ตากไว้เพื่อให้แห้งเร็ว ๆ จะได้รีบเก็บได้ทันก่อนถูกฝนตกใส่เสียหายอีก

https://www.youtube.com/watch?v=j4OyPAIaxX0&feature=youtu.be

 

 สาวเชียงใหม่บุกถิ่นเมืองย่าโมสร้างสวนสตอเบอรี่เป็นจุดเชคอินให้เข้าชมเชลฟี่ฟรีหารายได้จากขายของฝากทำเงินช่วงไฮท์ซีซั่น

สาวเชียงใหม่บุกถิ่นเมืองย่าโมสร้างสวนสตอเบอรี่เป็นจุดเชคอินให้เข้าชมเชลฟี่ฟรีหารายได้จากขายของฝากทำเงินช่วงไฮท์ซีซั่น ส่งเสริมการขายด้วยวิธีการทันสมัยให้ลูกค้าเชคอินโพสภาพแถมต้นสตอเบอรี่กลับบ้านฟรี

ที่ อ.วังน้ำเขียว  จ.นครราชสีมา เมื่อเข้าฤดูหนาว พบว่ามีหลายจุดทำการจัดสร้างสวนดอกไม้ต่าง ๆ เตรียมนักท่องเที่ยว รวมทั้งสวนสตอเบอรี่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ถูกสร้างขึ้นมารองรับนักท่องเที่ยวถือเป็นอีกสถานที่ยอดนิยมอีกอย่างที่ถือเป็นผลิตภัณฑ์นำเข้ามาสร้างชื่อให้ อ.วังน้ำเขียว เนื่องจากเจ้าของสวนส่วนใหญ่เป็นชาวเชียงใหม่

สวนสตอเบอรี่ อิชิโกะ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่เขตพื้นที่ หมู่ 3 ต.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ตั้งอยู่ติดถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขาเข้าตัวเมืองนครราชสีมา เป็นอีกหนึ่งจุดเชคอินที่ถูกสร้างขึ้นให้เป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้แวะถ่ายภาพรวมทั้งทำกิจกรรมเก็บลูกสตอเบอรี่เป็นของฝากซึ่งในช่วงนี้ที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวพบว่ามีนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางแวะเที่ยวชมเก็บภาพเป็นที่ระลึกร่วมทั้งซื้อสตอเบอรี่กลับเป็นของฝากกันไม่ชาดสาย

จากการสอบถาม นางจันทิมา ธรรมชาติอุดม อายุ 27 ปี ชาวตำบลแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าของสวนสตอเบอรี่ อิชิโกะ บอกว่า สตอเบอรี่ ถือเป็นผลิตผลที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่ ต่อมาได้มีการนำออกไปเผยแพร่ยังพื้นที่อื่นโดยเฉาะพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม รวมทั้งวังน้ำเขียว ก็เป็นจุดหนึ่งที่มีชาวเชียงใหม่ที่มีความรู้ในการปลูกสตอเบอรี่มาตั้งหลักปักฐานทำสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีมีรายได้จากการขายสตอเบอรี่จากสวนและของฝากที่เป็นผลิตภัณฑ์จากสตอเบอรี่จากเชียงใหม่ จำบวก น้ำสตอเบอรี่ ไวน์สตอเบอรี่ และสินค้าอื่น ๆ

วิธีการทำสวนสตอเบอรี่ ตนจะทำการต้นกล้าที่เชียงใหม่กล้าไว้ตั้งแต่ช่วยเดือนเมษายนจนถึงสิหาคมจะขนย้ายมาลงปลูกในกระถางที่วังน้ำเขียวช่วงเดือนกันยายน เพื่อให้ออกผลทันช่วงหน้าหนาว โดยลงทุนทั้งหมดทั้งเช่าที่ ที่จัดสวน ตกแต่งสวน รวมทั้งซื้อของที่เป็นของฝากไว้จำหน่ายต้องลงทุนไป 4-5 แสนบาท หากไม่มีอะไรผิดพลาดหรือยังมีนักท่องเที่ยวมามากเหมือนทุกปีจะมีกำไรจากการทำสวนสตอเบอรี่เกือบเท่าตัว โดยในช่วงนี้ก็เริ่มมีผลออกและสามารถเปิดให้เข้าเที่ยวชมฟรีได้แล้ว

โดยส่วนใหญ่จะให้เข้าถ่ายภาพฟรี และสามารถเก็บสตอเบอรี่สด ๆ จากต้นมาซื้อเป็นขอบฝากกลับบ้านได้ขีดล่ะ 60 บาท โดยในช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ มาเที่ยวที่สวนนี้เชคอินและโพสต์ในเฟสฯ จะมีต้นกล้าสตอเบอรี่ขนาดเล็กเป็นของฝากให้ฟรี ๆ ด้วย 1 ต้น

โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา จัดกิจกรรม  OPEN HOUSE

โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา จัดกิจกรรม  OPEN HOUSE   โดยเป็นการเปิดบ้านเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้การใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท 

ทั้งนี้โรงเรียนนานาชาติ แองโกล สิงคโปร์  นครราชสีมา ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิร่วมกตัญญู มาให้ความรู้ในเรื่องการช่วยเหลือตนเอง และคนอื่น โดยมีการจัดฐานการให้ความรู้ทั้งสิน  7 ฐาน

สำหรับภายในพื้นที่โรงเรียนจะมีทั้งโรงอาหาร โรงจอดรถ  สระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ห้องดนตรี ห้องวิทยาศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์เป็นต้น ตั้งเป้ารับนักเรียนเทอมแรก 400 คน เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น อนุบาล–ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) เบื้องต้นเป็นโรงเรียนไปกลับก่อน และอนาคตอาจพัฒนาเป็นโรงเรียนประจำ

นอกจากนี้โรงเรียนนานาชาติ “แองโกล สิงคโปร์” ยังมีกิจกรรมให้เด็กๆได้ทำควบคู่หลักสูตรการสอน ให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น “การร้องเพลง แสดงละครเวที และศิลปะ” ที่จะสามารถสร้างจินตนาการ สุนทรีย์ด้านต่างๆได้ ไม่เครียดกับการเรียนมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่สบายใจได้ว่า ลูกๆจะเป็นคนเก่งทั้งด้านวิชาการและ สามารถทำกิจกรรมทางด้านศิลปะได้อย่างกลมกลืน

โรงเรียนนานาชาติ “แองโกล สิงคโปร์” ตั้งบนที่ดิน 11 ไร่ข้างซิตี้ลิงค์คอนโดของกลุ่มทุนท้องถิ่น บริษัท คลังคาซ่า จำกัด ใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท ซึ่งสถานที่ตั้งโรงเรียนสามารถเข้า-ออกได้ 3 ทางทั้งถนนมิตรภาพติดโชว์รูมนิสสันผ่านถนนมานะศิลป์ หรือเข้าทางถนนบายพาสข้างโฮมโปร และถนนสุรนารี2 ผ่านถนนพันธ์สายเชื้อ เป็นโรงเรียนนานาชาติสมบูรณ์แบบแห่งแรกกลางใจเมืองโคราช ก่อนถึงห้างเดอะมอลล์โคราช

 

ลมหนาวนี้เพิ่มแลนด์มาร์ค-ติดไฟ ให้อารมณ์โรแมนติก เที่ยวสะพานไม้ร้อยปี โคราช

สะพานไม้ 100 ปี ครบุรี จัดเตรียมแหล่งท่องเที่ยวต้อนรับหน้าหนาว แอ่วเก็บตะวันที่สะพานไม้ร้อยปี ลมหนาวนี้เพิ่มแลนด์มาร์ค-ติดไฟ ให้อารมณ์โรแมนติก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สะพานไม้ร้อยปี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านโคกกระชาย หมู่ที่ 1ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ทางอาสาสมัครของชาวบ้านโคกกระชาย ได้นำไฟมาประดับประดาสะพานไม้อายุกว่า 100 ปีที่ทอดผ่านทุ่งนาข้าวเขียวขจีระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร พร้อมกับปรับปรุงเพิ่มเติมจุดชมวิวและจุดแลนด์มาร์คไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพื่อต้อนรับเทศกาลท่องเที่ยวปลายฝนต้นหนาวและเทศกาลออกพรรษาที่กำลังจะมาถึงนี้  โดยขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมสะพานไม้ร้อยปีที่ประดับประดาไฟเพิ่มความสวยงามกันอย่างคึกคักโดยเฉพาะในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังจะตกติด  เนื่องจากมีความสวยงามอย่างมาก

สำหรับสะพานไม้ร้อยปีแห่งนี้ เป็นสะพานไม้เก่าแก่ที่มีความสำคัญบอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิม เนื่องจากเป็นสะพานที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้สัญจรไปมาหาสู่พร้อมลำเลียงผลผลิตทางการเกษตรมาแต่ช้านานในอดีต และยังคงสภาพเช่นเดิมมานานกว่า 100 ปีแล้ว ด้วยความรักสามัคคีของชาวบ้านที่ช่วยกันดูแลรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้คงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน จึงถือเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสำคัญและดูแลรักษามาไว้เป็นอย่างดี

และยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน  วิวทิวทัศน์ของสะพานไม้ยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ที่ขณะนี้กำลังทอดยาวผ่านท้องทุ่งนาข้าวเขียวขจีที่กำลังจะตั้งท้องออกรวงด้วยความอุดมสมบูรณ์ ยิ่งเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับสะพานไม้แห่งนี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ  อีกทั้งสถานที่จุดนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของอำเภอครบุรี    ที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมมาท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก