เงียบเหงา!!หลังผู้ว่าสั่งปิดแหล่งน้ำและงดเล่น ฝ่าฝืนปรับ 100,000 บาท

ผู้ว่าโคราชประกาศลงเล่นน้ำแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติปรับ100,000บาท!!

หลังจากที่  นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ  หลังประกาศสั่งปิดทั้งจังหวัด  เอาจริงหากพบมีการลักลอบเปิดให้ ปชช.เล่นน้ำ ลงโทษทันที

ที่ผ่านมานายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  พร้อมด้วยนายสุรศิษฐ์  อินทกรอุดม  นายอำเภอสูงเนิน  ลงพื้นที่ตรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หลังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วยเชื้อโควิด-19 เพิ่ม เป็น 13 ราย จึงมีมาตรการเพิ่มเติมออกมาตรการสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะลงพื้นที่สำรวจแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แก่งวังเณร  และแก่งวังคาวบอย  ม.2  และ ม.3 ต.มะเกลือเก่า  อ.สูงเนิน  ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว 2  ใน 5 สถานที่ ที่ทางจังหวัดนครราชสีมา สั่งปิดเพิ่มเติม  โดยจากการตรวจสอบพบว่าร้านค้าต่างๆให้ความร่วมมือปิดการจำหน่ายสินค้า ทุกร้านค้า รวมทั้งปิดป้ายประกาศห้ามลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าวตามมาตรการของทางจังหวัด

 

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา  กล่าวว่า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของของไวรัสโควิด-19 ได้ใช้อำนาจตามความในมาตรา25(1) แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกาศปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวได้แก่ 1.แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแก่งวังเณร ม.2 ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน  2.แหล่งท่องเที่ยงทางธรรมชาติ แก่งวังคาวบอย  ม.3  ต.มะเกลือเก่า  อ.สูงเนิน  3.แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ท่าไทรลานหิน  ม.3  ต.สูงเนิน  อ.สูงเนิน  4.เขื่อนกุดหิน  ม.8  ต.โคราช  อ.สูงเนิน  และ  5.แหล่งท่องเที่ยงทางธรรมชาติ  น้ำผุด  ม.16  ต.หมูสี  อ.ปากช่อง  หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ประกาศ ณ วันที่ 28 มีค.2563

ขณะเดียวกันยังได้สั่งการให้นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบพื้นที่ที่มีแหล่งท่องเที่ยงทางน้ำทุกแห่ง และประกาศสั่งปิดทันทีเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

พ่อเมืองโคราช ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริการในสุกรระดับจังหวัด รูปแบบเฉพาะหน้าที่ (Functionl Exercise) ของจังหวัดนครราชสีมา 

พ่อเมืองโคราช ตั้งวอร์รูมเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริการในสุกรระดับจังหวัด รูปแบบเฉพาะหน้าที่ (Functionl Exercise) ของจังหวัดนครราชสีมา 

ที่ผ่าน วันที่ 16 กันยายน นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกการซักซ้อมแผนเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมอหิวาต์แอฟริกาในสุกรระดับจังหวัด รูปแบบเฉพาะหน้าที่ (Functionl Exercise) ของจังหวัดนครราชสีมา ที่โรงแรมจอมสุรางค์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีนายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ 32 อำเภอ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเอกชนผู้เลี้ยงสุกรจำนวนกว่า 200 คน รับฟังการชี้แจงให้ความรู้เรื่องแผนการเตรียมความพร้อมและแนวทางเวชปฏิบัติของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรและจัดกลุ่มระดมความคิดเห็นพร้อมจัดการฝึกอบรมซ้อมแผน

นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เผยว่า โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นโรคระบาดในสุกร เกิดจากเชื้อไวรัส อาการตายเฉียบพลัน มีไข้สูง ผิวหนังมีจุดเลือดออกเป็นรอยช้ำ เฉพาะใบหู ท้อง ขาหลัง ระบบหายใจแห้ง อัตราป่วย 100 % ตาย 30-100 % ไม่มีวัคซีนป้องกันแต่ไม่ติดต่อในมนุษย์ จังหวัดนครราชสีมา มีการผลิตสุกรมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยมีจำนวนสุกร 441,597 ตัว โรงฆ่าสุกร 48 แห่ง อัตราการผลิต 3,865 ตัวต่อวัน มีการเคลื่อนย้ายสุกรเข้ามาในพื้นที่ 108,774 ตัว และเคลื่อนย้ายออก 200,395 ตัว สถานการณ์ปัจจุบันแม้นยังไม่พบการระบาดในประเทศไทย แต่พบการระบาดในประเทศกัมพูชาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ดังนั้น  จึงต้องให้ความสำคัญหากเกิดการระบาดจะทำให้เกิดความสูญเสียด้านเศรษฐกิจอย่างมหาศาล โดยยกระดับแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าประเทศไทย เช่นจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (War Room) เฝ้าระวังและควบคุมโรค ฯ การประเมินซักซ้อมแผน เพื่อทดสอบและประเมินขีดความสามารถรวมทั้งกำหนดบทบาทที่ใช้เผชิญกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การประชาสัมพันธ์และให้องค์ความรู้ สร้างความเข้าใจและสร้างความตระหนักให้ผู้เลี้ยงสุกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อสร้างเครือข่ายเป็นแนวร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้  ผู้ว่ายังได้ฝากความห่วงใยไปยังพี่น้องเกษตรกรที่เลี้ยงสุกร ให้เข้มแข็งและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ผู้ว่าโคราชต้อนรับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ

ผู้ว่าโคราชต้อนรับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฏร  พร้อมจัดสัมมนาเรื่องการมีส่วนร่วมของเกษตรกรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาข้าวโพด  และมันปะหลัง 

วันที่  9  กันยายน  2562  เวลา 08.30 น. ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา     นายวีระกร คำประกอบ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องข้าวโพด  และมันสำปะหลัง สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา การมีส่วนร่วมของเกษตรกร ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาข้าวโพดและมันสำปะหลัง เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาพืชเศรษฐกิจข้าวโพดและมันสำปะหลัง รวมทั้งเพื่อให้เกษตรกรและหน่วยงาน        ที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมองต่างๆ ด้านสภาพ     การดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาข้าวโพดและมันสำปะหลัง

โดยผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วย นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะอนุกรรมาธิการ นายพรชัย อำนวยทรัพย์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการ    นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อนุกรรมาธิการ และนายสุชาติ ภิญโญ อนุกรรมาธิการ รวมทั้งรับฟังปัญหา    ของเกษตรกรในด้านต่างๆ เช่น ด้านราคา โรคระบาด น้ำ ดิน พันธุ์พืช จากตัวแทนเกษตรกร และปัญหาของผู้ประกอบการโรงแป้งมัน ลานมัน และนายกสมาคมการค้าพืชไร่ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมตอบ   ข้อซักถาม ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคเกษตรกร หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมสัมมนาจำนวน 450 คน

สำหรับการสัมมนา “การมีส่วนร่วมของเกษตรกรร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาข้าวโพดและมันสำปะหลัง” เป็นภารกิจที่สำคัญ ซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 73 บัญญัติว่า “รัฐพึงจัดให้มีมาตรการหรือกลไกที่ช่วยให้เกษตรกรประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพสูง มีความปลอดภัย โดยใช้ต้นทุนต่ำและสามารถแข่งขันในตลาดได้ และพึงช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากไร้ ให้มีที่ทำกินโดยการปฏิรูปที่ดินหรือวิธีอื่นใด”       และจากคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562 ซึ่งมีนโยบายเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาในการดำรงชีพของประชาชน และการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรม เป็นต้น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการ        เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องข้าวโพด และ มันสำปะหลัง เพื่อพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องข้าวโพด         และมันสำปะหลังทั้งระบบ การสัมมนาในวันนี้ จึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญสำหรับเกษตรกรและหน่วยงาน   ที่เกี่ยวข้อง ที่จะให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวโพด    และมันสำปะหลัง และเป็นเสียงสะท้อนกลับไปสู่รัฐบาลในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหา

การจราจรในจังหวัดนครราชสีมา

วันที่  16 สิงหาคม  2562 ณ หอประชุมเปรม  ติณสูลานนท์  ศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย  นายจรัสชัย  โชคเรืองสกุล รองผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา  และคณะกรรมการเข้าประชุมเพื่อหารือขอเสนอแนะรูปแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรในจังหวัดนครราชสีมา  โดยมีหน่วยงานทางภาครัฐ  ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

สืบเนื่องด้วย  นายศักดิ์สยาม  ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  เมื่อวันอาทิตย์ที่  4  สิงหาคม 2562 เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา  ตอนที่  34  (คลองไผ่) และตอนที่  40  ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อกับทางหลวงชนบท  เลข  นม. 1120  ณ  สำนักงานโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมา  และลงตรวจติดตามโครงการในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา   ในการนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีข้อสั่งการกรณีการแก้ไขปรับแบบก่อสร้างจุดตัดทางรถไฟโครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่มาบกระเบา – ชุมชนถนนจิระ (สัญญาที่ 2 คลองขนานจิต – ชุมทางถนนจิระ) ช่วงผ่านตัวเมืองนครราชสีมา  บริเวณสะพานข้ามแยกโรงแรมสีมาธานี  อำเภอเมือง  จังหวัดนครราชสีมาของการรถไฟแห่งประเทศไทย  โดยให้จังหวัดนครราชสีมาแต่งตั้งคณะกรรมการจากผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสมาชิกสภาสมาชิกผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  องค์กรภาคเอกชนและผู้แทนภาคประชาชน  ได้ร่วมกันพิจารณาเสนอรูปแบบแนวทางการก่อสร้างทางรอดบริเวณถนนสืบศิริ  หรือแยกโรงแรมสีมาธานี  เพื่อดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับของโครงการรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูงผ่านบริเวณดังกล่าว โดยให้ได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

 

พ่อเมืองโคราช  ร่วมพิธีพุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว” และสืบสานประเพณีลอยกระทง  กับครูบากฤษณะ  ประจำปี 2561

พ่อเมืองโคราช  ร่วมพิธีพุทธาภิเษก “น้ำมนต์กลางหาว” และสืบสานประเพณีลอยกระทง  กับครูบากฤษณะ  ประจำปี 2561

เมื่อวันที่  22  พฤศจิกายน  2561 ที่ผ่านมา  ณ อาศรมสวนพฤกษศาสตร์ ต.โตนด    อ.โนนสูง  จ.นครราชสีมา  ได้จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกน้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ “น้ำมนต์กลางหาว”     และร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง  โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมอันดี  ประเพณีไทยโบราณลอยกระทง

โดยได้รับเมตตาจาก หลวงปู่คูณ  วรปัญโญ    วัดบัญลังค์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์   และได้รับเกียรติจาก นายวิเชียร  จันทรโณทัย  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส  พร้อมด้วย  นางณัฏฐินีภรณ์  จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และ นายสุรศิษฐ์ อินทกรอุดม นายอำเภอโนนสูง พร้อมคณะ เข้าร่วมในงานครั้งนี้

ภายในงานได้มีพิธีพุทธาภิเษกน้ำพระพุทธมนต์จันทร์เพ็ญ “น้ำมนต์กลางหาว”     และร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง และ วัตถุมงคล  รุ่น    หนุนดวงเรียกทรัพย์ วาระพิเศษโดยมี เกจิชื่อดัง  5 รูป  ประกอบด้วย ครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ  ,หลวงปู่คูณ  วรปัญโญ    วัดบัญลังค์  , ครูบาแบ่ง  ฐามุตตา   วัดโตนด,  ครูบาไพรวัลย์   วัดบ้านไร่โคกสูง และ หลวงปู่โชค สำนักสงฆ์  หลวงปู่โชคไชยมงคล  ร่วมประกอบพิธี

 

ทั้งนี้ นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ด้วย  นางณัฏฐินีภรณ์  จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา และคณะ ได้มอบกระเช้าสุขภาพและผลไม้ ถวายพระครูสังฆรักษ์สุรเดช   อินทวัณโณ  พร้อมทั้งร่วมพิธีเสริมสิริมงคลในพิธีอีกด้วย

 

ผู้ว่าเปิดอบรมจริยธรรมหนุนนำชีวิต

             ‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

‘นายวิเชียร จันทรโณทัย’  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการเปิดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย

                วันที่ 31 กรกฎาคม 2561 เวลา 15.30 น. ที่ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ตำบลหนองแจ้งใหญ่ อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ ณ สำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง  อ.บัวใหญ่ ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 4 สิงหาคม 2561 โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานคุมประพฤติอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและอำเภอบัวใหญ่ และถือว่าเป็นโครงการนำร่องขัดเกลาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติดแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนและผู้ถูกคุมประพฤติจำนวน 35 คน เข้าอบรมในโครงการนี้ หวังให้โอกาสกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

นอกจากนี้ ทางผู้ว่าวิเชียร จันทรโณทัย ยังได้มอบเงินทุนสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูยาเสพติดที่ยากจนจำนวน 20,000 บาท  จำนวน 3 ทุน และทุนเพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงสุกรอีก 3,000 บาทจำนวน 1 ทุน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2561

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การแพร่ระบาดของยาเสพติดของเยาวชนยอมรับว่ามีมาก ซึ่งทางจังหวัดเราเองและทางตรวจทหารรวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ช่วยกันปราบปรามอย่างเต็มที่  ซึ่งก็มีหลายโครงการที่เรารณรงค์ อาทิ โครงการหมู่บ้านสีขาว โครงการบำบัดยาเสพติด แต่กระนั้นจำนวนผู้ติดยาเสพติดก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง และปัจจุบันนี้ราคายาเสพติดถือว่ามีราคาถูกมาก แต่เดิมราคาเม็ดละ 200-300 บาท ปัจจุบันราคาไม่กี่สิบบาท และยังมีการให้สินเชื่อเมื่อถูกจับยังสามารถยึดคืนมาได้อีก ตรงนี้เราเป็นห่วงมากจึงต้องปราบปรามให้จริงจัง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ขึ้นบัญชีจำนวน 33 หมู่บ้านที่เป็นเขตมียาเสพติดมากเราก็ต้องเน้นหนักเฝ้าระวังไม่ให้ยาเสพติดรุกลามไปอีก เราจึงจัดอบรมโครงการนำร่องแห่งแรกในจังหวัดนครราชสีมา ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ และได้รับพระกรุณาธิคุณจาก ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ องค์ประธานโครงการทูบีนัมเบอร์วันร่วมสนับสนุนครั้งนี้อีกด้วย เพื่อหวังให้โอกาสแก่ผุ้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดกลับเป็นคนดีคืนสู่สังคม

ทางด้าน  พระอาจารย์เทวฤทธิ์ มมธิโร เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์บ้านตลุกยาง ให้สัมภาษณ์ว่า การที่จัดโครงการนำเยาวชนที่ติดยาเสพติดอบรมจริยธรรมตามโครงการ ‘ค่ายวิถีธรรม หนุนนำชีวิต’ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเล็งเห็นว่าทางผุ้หักผุ้ใหญ่ยังเห็นความสำคัญและยังให้โอกาสและเมตตาเขาอยู่ ทั้งนี้ ทางหน่วยงานราชการยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และทางสำนักสงฆ์เองก็ยินดีที่จะรับผู้ติดยาเสพติดและเยาวชนที่หลงผิดในการอบรมเพื่อหลุดพ้นจากสิ่งเสพติดและกลับคืนสู่สังคมอย่างมีความสุขต่อไป

ผู้ว่าโคราช สมัครเป็นอาสา…ในวันครบรอบ 30 ปี ฮุก31

 เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 61 ที่ ณ วิหารเซ็งหงั่มตั่งมูลนิธิพุทธธรรม31 นครราชสีมา นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานงานครบรอบ 30 ปี มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) โดยมี นาย ประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นาย อุทัย มิ่งขวัญ อดีต ส.ส.นครราชสีมา และ รองนายก อบจ.นครราชสีมา นาย วัชรพล โตมรศักดิ์ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พร้อมด้วย คณะผู้บริหารมูลนิธิพุทธธรรมธรรม31นครราชสีมา คณะผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และมูลนิธิ สมาคมและประชาชนทั่วไป สโมสรกีฬาจักรยานจังหวัดนครราชสีมา ร่วมสนับสนุนกิจกรรม สำหรับวัตถุประสงค์ ในการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อหารายได้จัดซื้ออุปกรณ์กู้ภัย และเป็นกองทุนสวัสดิการอาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจต่ออาสาสมัครกู้ภัยฮุก 31 ที่มีจิตอาสาตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือสังคมตลอดมา ได้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถมีมาตรฐาน ทั้งในภาวะปกติและภาวะเกิดภัยพิบัติภัย ในโอกาสครบรอบ30ปีมูลนิธิพุทธธรรม31นครราชสีมา (ฮุก31) 


ด้าน นาย วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวว่า ตนเองนอกจากจะมาร่วมงานกิจกรรมในวันนี้ โดยเฉพาะในช่วงเช้าซึ่งได้มีกิจกรรม งานปั่นจักรยานการกุศลในโครงการ “ปั่นสู้ กู้ภัย ใจเกินร้อย” แล้ว ยังมีความต้องการที่จะสมัครเป็นอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ของ มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) อีกด้วย เนื่องจากตนมองว่ามูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา ( ฮุก 31 ) เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เป้นอย่างดี โดยเฉพาะกับพี่น้องประชาชนผู้ที่ต้องประสบเหตุการณ์และภัยพิบัติต่าง ๆ ได้อย่างทันถ่วงทีในหลายเหตุการณ์ ซึ่งนอกจากการทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตนเองยินดีมากที่ได้สมัครเป็นอาสาสมัคร ฯ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทหน้าที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ดังนั้น ตนเองมีความภูมิใจมากที่ได้เข้าร่วม ฯ เป็นอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ในครั้งนี้
ในการจัดกิจกรรม ปั้นสู้ เพื่อกู้ภัยใจเกินร้อยครั้งนี้ ได้ยอดรวมของเงินค่าสมัครและอื่น ๆ เบื้องต้น 1,151,000 บาท
ขอบคุณภาพ/ข้อมูล : มูลนิธิพุทธธรรม 31 นครราชสีมา (ฮุก31)