งานวิ่ง Trail Run @ Sakaerat 2024 วิ่งสัมผัสมรดกโลกชีวมลฑลสะแกราช

       นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานในพิธีพร้อมคณะนายชนม์บันลือ วรรณธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา, นายสุรชิต แวงโสธรณ์ ผู้อำนวยการสถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช, หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และในพื้นที่ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน

       กิจกรรมการแข่งขันครั้งนี้ โดยจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๗ ณ สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

๑. เพื่อยกระดับระบบนิเวศทางการท่องเที่ยว ของจังหวัดนครราชสีมาให้โดดเด่น มีอัตลักษณ์เป็นที่ยอมรับ เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ และเชื่อมโยงมรดกโลกทรัพยากรธรรมชาติ ๑ ใน ๓ มรดกโลกที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา

๒. เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายให้กับประชาชน เชิงท่องเที่ยว

๓. เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครราชสีมา

๔. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้กับพื้นที่ อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัตนศรราชสีมา

        สำหรับ กิจกรรมงานวิ่ง Trail Run @ Sakaerat วิ่งสัมผัสมรดกโลกชีวมณฑลสะแกราช เป็นการแข่งขัน วิ่งในเส้นทางธรรมชาติ ๒ ระยะทาง ประกอบด้วย เส้นทางระยะ ๕ ก็โลเมตร และ ๑๐ กิโลเมตร โดยในระยะ ๑๐ กิโลเมตร จะเป็นการแข่งขันในเส้นทางวิบาก และสำหรับ ๒ ระยะทางนี้

          ได้เปิดให้นักวิ่งทุกคนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี โดยไม่เสียค่าสมัคร พร้อมกับ รางวัลในการแข่งขัน ระยะทาง ละ ๑๐ รางวัลรวมเป็น ๒๐ รางวัล และยังได้รับเสื้อวิ่ง พร้อมเหรียญรางวัล นอกจากนี้ คณะผู้ดำเนินการจัดกิจกรรม ยังจัดให้มีการประกวด การแต่งกายแฟนซี อีก ๒๐ รางวัล เป็นการสร้างสีสันภายในงานอีกด้วย

      ในการจัดกิจกรรม งานวิ่ง Trail Run @ Sakaerat วิงสัมผัสมรดกโลกชีวมณฑลสะแกราช คณะดำเนินการ มีความคาดหวังเป็นอย่างยิงว่า จะมีบริมาณของนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนดี มีการใสใจเรื่องการออกกำลังกายเชิงท่องเที่ยวมากขึ้นและในกิจกรรมครั้งนี้ มีผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า ๑,๕๐๐ คน

ตำรวจภูธรภาค 3 แถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดของกลาง ยาบ้า 2 ล้านเม็ด ไอซ์ 60 กก. อี 9,000 เม็ด

ตำรวจภูธรภาค ๓ โดย พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 (หน.กม) /รับผิดชอบ ศอ.ปส.(ยาเสพติด), พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ รอง ผบช.ภ.3 (หน.สส) และ นายณรงค์ วรหาญ ผอ.สำนักงาน ปปส.ภาค ๓ ,นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน และดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น และการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ ดำเนินการสืบสวนจับกุม ขยายผล เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดให้ได้ผลอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง
เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สส.ภ.๓, พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง, พ.ต.อ.ชลาสินธุ์ ชลาลัย, พ.ต.อ.เดชพล เปรมศิริ รอง ผบก.สส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน๑ บก.สส.ภ.๓, พ.ต.ท.ภูมิ ทองโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวน ๑ บก.อก.ภ.3 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก กก.สืบสวน ๑ บก.สส.ภ.๓

ร่วมกันจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ดังนี้
๑) นางประการ หรือ เตี้ย ช่วยแสง อายุ๔๑ ปี ภูมิลำเนา อ.บ้านผือ จว.อุดรธานี
๒) ด.ช.ป้อม (นามสมมติ) อายุ ๑๔ ปี ภูมิลำเนา อ.โขงเจียม จว.อุบลราชธานี
พร้อมด้วยของกลาง
๑) ยาบ้า บรรจุใส่ถุง รวมเป็นมัด ในกระสอบพลาสติก สีขาว จำนวน ๕ กระสอบ รวมจำนวนประมาณ ๑,๙๘๐,๐๐๐ เม็ด
๒) ยาอี ( Ecstasy) ชนิดเม็ดสีส้ม ปั้มรูปอุ้งตีนหมี จำนวนประมาณ ๙,๐๐๐ เม็ด
๓) สารไอซ์ บรรจุในถุงใส่ชาสีเขียวลายผลไม้ จำนวน ๖๐ ถุง น้ำหนักรวมประมาณ ๖๐ กิโลกรัม
๔) รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทา หมายเลขทะเบียน ผธ ๔๔๓๐ อุบลราชธานี จำนวน ๑ คัน
๕) โทรศัพท์มือถือ จำนวน ๒ เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า สารไอซ์และยาอี) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันพยายามจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า สารไอซ์ และยาอี) โดยผิดกฎหมาย”
สถานที่เกิดเหตุ บริเวณจุดกลับรถหน้าร้านธงฟ้ายายฉาตาคิด ถนนมิตรภาพ (ขาขึ้น) ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลาประมาณ ๐๖.๒๐ น.
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จะนำยาเสพติดข้ามฝั่งโขงมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลำเลียงเข้าสู่กรุงเทพฯ และกระจายยาเสพติดไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยจะลำเลียงผ่านพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในคืนวันที่ ๓ ตุลาคม 2564 จึงได้นำกำลังเฝ้าจุด และวางแผนเข้าจับกุม ต่อมาสามารถตรวจยึดยาเสพติดได้ที่บริเวณปากซอยไม่มีชื่อริมถนนมิตรภาพ (ขาล่อง) ฝั่งตรงข้ามเยื้องวัดใหม่บ้านดอน ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จว.นครราชสีมา ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้ขับรถหลบหนีในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม และสามารถติดตามจับกุมตัวได้บริเวณจุดกลับรถหน้าร้านธงฟ้ายายฉาตาคิด ถนนมิตรภาพ (ขาขึ้น) ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จว.นครราชสีมา และได้ทำการซักถามขยายผลรับว่าได้รับการว่าจ้างมาจากนายสนุ๊ก (ไม่ทราบชื่อจริง) ให้เป็นคนขับรถนำทางทีมขนยาเสพติด ในราคาเที่ยวละ ๖๐,๐๐๐ บาท โดย นางประการฯ เป็นคนขับ ส่วน ด.ช.ป้อม หลานชาย เป็นคนช่วยดูทาง และเป็นผู้ขานตัวเลขหลักกิโลเมตร เพื่อเช็คระยะห่างระหว่างรถนำกับรถที่ขนยาเสพติด ขณะขับรถนำรถขนยาเสพติด สังเกตเห็นการติดตามของเจ้าหน้าที่ จึงให้ทีมขนหลบเข้าซอยทิ้งของไว้ เพื่อขนถ่ายย้ายของเมื่อปลอดภัย เมื่อเข้าใจว่าปลอดภัยแล้วจึงขับรถเข้ามาตรวจสอบย้ายของ จึงถูกเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจพบและจับกุมตัวได้ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และชุดจับกุมจะได้ทำการสืบสวนขยายผลถึงเครือข่ายผู้ค้าที่เกี่ยวข้องต่อไป

กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีรับ – ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2

กองทัพภาคที่ 2 จัดพิธีรับ – ส่งหน้าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ระหว่าง พลเอก ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม รองเสนาธิการทหาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 กับ พลโท สวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2 ท่านใหม่ โดยได้ลงนามในเอกสารรับ-ส่งหน้าที่ฯ ณ ห้องประชุม 1 อาคารกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2
.
จากนั้นได้กระทำพิธีรับ – ส่งหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 2 ณ ลานหน้าสโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่ง พลเอก ธเนศฯ ได้กล่าวมอบหน้าที่และการบังคับบัญชา ส่งมอบธงประจำหน่วยให้กับ พลโท สวราชย์ฯ โดยมีหมู่ธงเกียรติยศ จากหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 81 หมู่ธง และคณะข้าราชการกองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ร่วมในพิธีฯ
.
พลเอก ธเนศฯ รองเสนาธิการทหาร กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารของชาติ นับเป็นเกียรติ และความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิต ที่ได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตลอดระยะเวลาของการทำงานรับใช้ประเทศชาติ และดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 มีความมุ่งมั่นในการทำให้กองทัพภาคที่ 2 มีความมั่นคง เข้มแข็ง มีเอกภาพ สามารถหยัดยืนอย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเป็นสถาบันหลัก ที่พร้อมดูแลความมั่นคงปลอดภัยและแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติตลอดจนเป็นที่พึ่งพาของพี่น้องประชาชน ในทุกๆ สถานการณ์ และเชื่อมั่นว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ท่านใหม่ ซึ่งเป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ ที่จะนำพากองทัพภาคที่ 2 ไปสู่การพัฒนาในทุกๆ ด้าน พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ และภารกิจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อรักษาและเสริมสร้าง รักษาผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนจะปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา กำกับดูแล กำลังพลให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต มีความรักสามัคคี ภายใต้จิตสำนึกและอุดมการณ์ของความเป็นทหารอาชีพ อย่างเต็มความสามารถ
.
พลโท สวราชย์ฯ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า พร้อมที่จะปฏิบัติราชการในตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 อย่างเต็มขีดความสามารถ และพร้อมที่จะปฏิบัติงานร่วมกับเพื่อนทหารทุกนายอย่างจริงจัง และจริงใจ เพื่อให้ กองทัพภาคที่ 2 เป็นหน่วยที่มีศักยภาพ ในการปฏิบัติภารกิจทุกรูปแบบ ให้ปรากฏผลสัมฤทธิ์ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกองทัพ และประเทศชาติต่อไป

การประชุมเสวนากำหนดแนวทางการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการป้องกันอุบัติเหตุในการจราจร และพิธีลงความร่วมมือ (IMOU)

การประชุมเสวนากำหนดแนวทางการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินและการป้องกันอุบัติเหตุในการจราจร และพิธีลงความร่วมมือ IMOU)ตาม “โครงการบูรณาการความร่วมมีอระหว่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมากับ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย Safety Zoneในจังหวัดนครราชสีมา”
วันจันทร์ที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.ณ ห้องประชุมลำตะคอง ขั้น3 โรงแรมแคนทารี ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมืองอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
โดย ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศลายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ท่าน พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา สบ ๙ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3.และท่านผู้มีเกียรติ ทุกท่าน

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา /กับตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในวันนี้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองใหญ่ มีศักยภาพในทุกๆ ด้าน ครบทั้งทรัพยากรทางธรรมชาติและภูมิอากาศที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาเมืองการดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นภารกิจหนึ่งที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน/ ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้เล็งเห็นความสำคัญในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนความเชื่อมั่นในการลงทุน ซึ่งเศรษฐกิจจะพัฒนาได้ต้องเชื่อมั่นในความปลอดภัยเป็นอันดับแรก
วัตถุประสงค์ของโครงการ
๑.เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล /นโยบายของจังหวัดนครราชสีมา นโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๓ และนโยบายของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
๒.เพื่อบูรณาการการทำงานด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนทั่วไป / และประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา โดยถือประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ
๓.เพื่อสร้างความเข้มแข็งในระบบรักษาความปลอดภัย ให้มีความพร้อมสามารถป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ปัญหาทางสังคม ที่อาจจะเกิดขึ้น /ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมและมีมาตรฐานในระดับสากล
๔.เพื่อสร้างความตระหนักด้านการรักษาความปลอดภัย ในองค์กรพร้อมเตรียมรับการเข้าสู่ยุคประเทศไทย ๔.๐ / โดยสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดงบประมาณ ดำเนินการ ดังนี้
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ จำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ครอบคลุม ๑๐ อำเภอ
นำร่อง ได้แก่

(๑) อำเภอปากช่อง

(๒) อำเภอด่านขุนทด

(๓) อำเภอสีคิ้ว
(๔) อำเภอสูงเนิน

(๕) อำเภอเมือง
(๖) อำเภอโนนสูง
(๗) อำเภอคง
(๘) อำเภอโนนแดง

(๙) อำเภอสีดา
(๑๐) อำเภอบัวลาย
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕ จำนวน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และ พ.ศ.๒๕๖๖จำนวน ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ครอบคลุมพื้นที่ ๓๒ อำเภอ รวม ๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ดังนั้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีความปลอดภัย โดยการลดโอกาส ลดปัจจัยเสี่ยง และความล่อแหลมต่อการเกิดอาชญากรรมในเขตพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องปรามอย่างเป็นรูปธรรม/และบังเกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพ ตานโยบายรัฐบาล และนโยบายจังหวัดนครราชสีมา /ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา จึงได้จัดทำโครงการบูรณาการความร่วมมือ/ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กับตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เพื่อกำหนดพื้นที่ปลอดภัย(Safety Zone) ในจังหวัดนครราชสีมา โดยแบ่งภารกิจในการดำเนินงาน/ ตามความถนัดและเหมาะสมอีกด้วย

เฝ้าระวังสถานการณ์มวลน้ำ สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเชียงไกร(26-27กย.64)

ล่าสุด เช้าวันนี้ (27 ก.ย.64) ระดับน้ำในอ่างฯ ลดลง 30 ซม. (เริ่มลดลงเวลา 1:00) และเหลือถึงระดับสันทำนบดิน อ่างฯ 60 ซม.
หมายถึง ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 400-500 ลบ.ม.ต่อวินาที < (ลดลง/น้อยกว่า) ปริมาณน้ำที่ไหลออกจากทุกช่องทาง (ช่อง river outlet ซ้าย/ขวา , กาลักน้ำ /สูบน้ำ ,รถสูบซิ่ง ,ทางระบายน้ำฉุกเฉินขวา (Emergency Spillway) ,และช่องบ่อก่อสร้าง ประตูระบายน้ำ( Service Spillway)
• จึงยังไม่ต้องตัดคันทำนบดินอ่างฯ จุดอื่นเพิ่มการระบายอีก

ระดับน้ำในอ่างฯ ทรงตัวและลดลง ทำให้ ไม่เกิดล้นข้ามทำนบดินสันของอ่าง ในลักษณะพังทลาย หรือเขื่อนแตก
สามารถบริหารน้ำออกอ่างฯให้มากกว่าหรือเท่ากับน้ำเข้าอ่างฯ รักษาความปลอดภัยเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ พ้นวิกฤติ และบรรเทาความเสียหายด้านท้ายน้ำ
ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ยังคงไหลลงมาจากตอนบน ห้วยสามบาท ที่ไหลลงมาอย่างต่อเนื่องต่อไป
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำเชียงไกรในวันที่26 กันยายน 2564
.
อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนบน อ.ด่านขุนทด มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 9.029 ล้าน ลบ.ม. หรือ 141.95 % ที่ระดับเก็บกัก (8.40 ล้าน ลบ.ม.)
เมื่อวานน้ำไหลลงอ่าง 12.79 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกผ่านทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Emergency Spillway) 11.194 ล้าน ลบ.ม.
แนวโน้มทรงตัวแล้วลดลง
อ่างเก็บน้ำห้วยปราสาทใหญ่ อ.ด่านขุนทด มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 9.029 ล้าน ลบ.ม. หรือ 103.78 % ที่ระดับเก็บกัก (8.70 ล้าน ลบ.ม.)
เมื่อวานน้ำไหลลงอ่าง 2.069 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออก –
แนวโน้มเพิ่มขึ้น ล้นทางระบายน้ำฉุกเฉิน

อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่าง อ.โนนไทย มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 41.96 ล้าน ลบ.ม. หรือ 151.49 % ที่ระดับเก็บกัก(27.70 ล้าน ลบ.ม.)
เมื่อวานน่ำไหลลงอ่างฯ 9.925 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำออกทั้งหมด 4.487 ล้าน ลบ.ม.
แนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

อ่างเก็บน้ำหนองกก อ.พระทองคำ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 2.97 ล้าน ลบ.ม. หรือ 117.96 % ที่ระดับเก็บกัก (2.50 ล้าน ลบ.ม.)
เมื่อวานน้ำไหลลงอ่าง ล้าน 0.045 ลบ.ม. ระบายน้ำออกผ่านทางระบายน้ำฉุกเฉิน (Emergency Spillway) 0.219 ล้าน ลบ.ม.
แนวโน้มทรงตัวแล้วลดลง
ปริมาณน้ำในลุ่มน้ำที่เกิดจากปริมาณน้ำฝน 50 -150 มม. ที่ตกในลุ่มน้ำจากอิทธิพลพายุโซนร้อน”เตี้ยนหมู่”
มีปริมาณน้ำท่า ไม่น้อยกว่า 50 ล้าน ลบ.ม. รวมกับลำน้ำสาขาต่างๆ และปริมาณน้ำในพื้นที่ที่ค้างอยู่ โดยที่อ่างเก็บน้ำทั้งหมด ทั้งขนาดกลางและขนาดเล็ก เกินความจุทั้งหมดแล้ว ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งลุ่มน้ำ

/โครงการชลประทานนครราชสีมา

งานแถลงข่าวและเปิดตัวนักกีฬา นครราชสีมา คิวมินซี วีซี

งานแถลงข่าวและเปิดตัวนักกีฬา นครราชสีมา คิวมินซี วีซี Nakhonratchasima QminC VC ชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ณ ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1 – 15 ตุลาคม 2564 ส่งแรงใจเชียร์ผ่านหน้าจอทีวี ถ่ายทอดสดช่อง 36 PPVT HD
นายวัชรพงษ์ โตมรศักดิ์ ประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ผู้สนับสนุน และสื่อมวลชน ว่า ด้วยผู้ใหญ่ใจดีที่ปรึกษาอย่างเช่น ท่านวิเชียร จันทรโณทัย นายกสมาคมแห่งจังหวัดนครราชสีมา ทุกภาคส่วน รวมไปถึงสปอนเซอร์ทุกท่าน ในการแข่งขันครั้งนี้เป้าหมายคือ “เชียร์โคราช เพื่อชาติไทย” นั่นคือสัญลักษณ์ที่เราจะประกาศว่า เราอยากมอบความสุขในการแข่งขันครั้งนี้ โดยจะทำลำดับการแข่งขันให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทีมชายและทีมหญิง ขณะที่ทุกคนหวาดพวากับเรื่องโควิด-19 ทุกคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้านไปไหนมาไหนลำบาก แต่ถ้ามีวอลเลย์บอลที่แข่งขันในจังหวัดนครราชสีมา มีผู้ใหญ่ใจดี มีสปอนเซอร์หลายท่านให้การสนับสนุนช่วยกัน ผมบอกกับนักกีฬาของเราและคุณแม่ปทุมว่า การแข่งขันครั้งนี้จะไม่มีคนดูในสนาม

แต่นอกสนามจะมีคนไทยและคนโคราชที่ได้เชียร์และชมผ่านพีพีทีวี 36 สิ่งที่เราทำได้ในวันนี้ก็คือมอบความสุข ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยได้ดึงเอานุศรา มือเซ็ตมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมหญิง ทั้งๆ ที่ทีมเราก็พร้อมอยู่แล้ว และเช่นเดียวกับนักกีฬาทีมชายที่เราก็ได้ดึงเอานักกีฬาทีมชาติที่มีความสามารถในทีมต่างๆ เข้ามาร่วมเสริมทีมเพิ่มความแข็งแกร่ง เป้าหมายหลักคือ แชมป์ เพื่อให้ความสุขกับทุกๆ ท่าน
นายวิเชียร จันทรโณทัย นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาและที่ปรึกษาสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว กล่าวเสริมว่า ในอดีตที่ท่านมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เราก็ร่วมกับสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ว่าเราอยากเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรแห่งเอเชียขึ้นมาเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดนครราชสีมา และก็เป็นการเปิดจังหวัดนครราชสีมา สร้างฐานะให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองกีฬา ครบถ้วน สมบูรณ์ เราต้องการให้มีแมทช์กีฬาต่างๆ ในทุกระดับ เพื่อให้สมเป็นเมืองแห่งกีฬา หลังจากนั้นผมก็ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่จังหวัดชัยภูมิ ในระหว่างที่เราดีลงานกับสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา เราอาจจะขายบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ร้อยละ 25 แต่สถานการณ์โควิด-19 เรายังเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม ดังนั้นค่าเข้าชมจากการจำหน่ายบัตรจึงเป็นไปไม่ได้เลย แต่ด้วยความกรุณาจากท่านผู้ว่ากอบชัย ท่านรองชรินทร์ และท่านสาธารณสุขจังหวัด รวมถึงท่านประธานสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมาที่ไม่ถอดใจเลย ไม่ถอย หลายปัญหาผมคิดว่าขอยกเลิกได้ไหม ขอไม่เอาได้ไหม ผมกลัวจะพูดตรงนั้นออกมาหลายครั้งเวลารับโทรศัพท์ เวลาพูดคุยเพราะว่าปัจจุบันมันเกิดปัญหาหลายประการมาตลอด จนมาถึงวันนี้ผมเห็นถึงความเหน็ดเหนื่อย ความต่อสู้และความตั้งใจของทุกฝ่าย ผมยังคิดว่าถ้าทางท่านประธานจัดงานบอกว่าไม่เอาแล้ว ผมก็คงจะถอดใจ ถอดผ้า ยกผ้าขาว ไม่เอาแล้วเช่นกัน ผมคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมาอยากให้เกิดการแข่งขันครั้งนี้จริงๆ ทุกภาคส่วน ในนามนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครราชสีมาขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์สโมสรแห่งเอเชียขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ถ้าพูดถึงกีฬาวอลเลย์บอลแล้ว จังหวัดของเราก็เป็นเมืองแห่งกีฬาวอลเลย์บอลของประเทศไทยอยู่แล้ว เราเคยจัดกีฬาวอลเลย์บอลระดับประเทศ ระดับเอเชีย เรามีนักกีฬาที่มีชื่อเสียงที่เป็นลูกหลานชาวโคราช ติดทีมชาติก็หลายคน เรามีเกียรติประวัติมาแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้จังหวัดนครราชสีมา ทีมงานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เราจะสามารถจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลครั้งนี้ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง บับเบิลไม่แตก ขอให้ทุกท่านมั่นใจ เราพูดคุยรายละเอียดทุกเรื่องเพื่อสร้างความมั่นใจในการจัดการแข่งขันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นักกีฬา คณะเจ้าหน้าที่ทุกท่านปลอดภัย การถ่ายทอดทางทีวีเป็นไปอย่างราบรื่น เราพร้อมจะจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์แห่งเอเชียไปด้วยกัน ในทุกๆ ระดับ
นายฐานธิษณ์ ยืนยงเตชะหิรัณ ประธานกรรมการบริษัท เทรา ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด กล่าวว่า โดยส่วนตัวมีความสัมพันธ์กับนักกีฬาวอลเลย์บอลและคณะกรรมการสโมสรมานานกว่า 15 ปี ปีนี้ผมเชื่อว่าทางสโมสรวอลเลย์บอลนครราชสีมา ซึ่งมีศักยภาพเยอะ แบรนด์ของเราเป็นแบรนด์น้องใหม่ แลผมหวังว่าปีนี้สโมสรเราคงจะได้แชมป์

ชาวพุทธร่วมใจโครงการของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ช่วยเหลือ พี่น้องผู้ประสบภัย จากโควิด19

วันที่ 15 ก.ย.64 เวลา 10.00 – 11.00 น. พุทธสมาคม จว.น.ม./หน่วยเผยแพร่ศีลธรรมทางพระพุทธศาสนา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับวัดสุทธจินดา วรวิหาร โดย ท่านพระครูอุดมธีรคุณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์จินดาวรวิหาร เจ้าคณะอำเภอฝ่ายธรรมยุตปากช่อง เป็นผู้แทนฝ่ายสงฆ์ และ พันเอก นเรศ พิลาวรรณนายกสมาคมพุทธสมาคมจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการ พร้อมนางเอมอร ศรีกงพาน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาและคณะกรรมการร่วม พร้อมภาคีเครือข่าย. แจกถุงยังชีพ (ข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของที่จำเป็นในการดำรงชีพประจำวัน) ณ โรงเรียนวัดสุทธจินดา จำนวน 80 ชุด
ในโอกาสนี้วัดสุทธจินดา วรวิหาร /ด้วยจะนำอาหารกล่อง จำนวน 100 กล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 19 (โควิด-19) ตามโครงการของสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ให้วัดมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีประชาชนชุมชนหนองบัวรอง ชุมชนหลังวัดวัดสุทธจินดาร่วม จำนวน80 คนที่เดินทางมารับสิ่งของ นอกจากนั้นยังมีการแจกของจัด ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เป็นแนวทางที่หลาย ๆ คนจะต้องปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม ในช่วงไวรัสโควิด-19ออกมาระบาดแล้วเปลี่ยนชีวิตเราไปอีกนาน ..และก่อนการรับแจกสิ่งของ ตรวจวัดอุณภูมิความร้อนบนร่างกาย และพ่นแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ตามรายชื่อของแต่ละชุมชนอีกด้วย

ข่าวประชาสัมพันธ์ “งานแถลงข่าวโคราชกรีนบ็อกซ์” วันที่ 10 กันยายน 2564 เวลา 16.00-17.00 น. ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

“ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาจับมือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดจังหวัดนครราชสีมา องค์กรภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนชวนนับถอยหลังกับมาตรการเปิดเมืองด้วยแนวคิด “โคราชกรีนบ็อกซ์”
วันนี้(10 กันยายน 2564) เวลา 16.00 น. นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธานในงานแถลงข่าวเผยแนวทางดำเนินการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” กับมาตรการเปิดเมือง120วันของรัฐบาลพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในจังหวัดแล้ว เชื่อมั่นว่าชาวโคราชพร้อมร่วมใจ
เพราะจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นในทรัพยากรทางการท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนปีละ 9 ล้านกว่าคนในปี 2562 เห็นใจว่าผู้ประกอบการทุกคนล้วนได้ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นาน เป็นสิ่งที่เราทุกคนเผชิญอยู่อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทั้งยังส่งผลอย่างมากต่อสภาพเศรษฐกิจ และสังคม

ตลอดจนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครราชสีมาอยากให้ทุกคนกลับมาต่อวงจรเศรษฐกิจให้ได้ ที่ผ่านมาจังหวัดนครราชสีมามีมาตรการในการบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยของประชาชนในทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตามด้วยความเข้มแข็งของภาคีเครือข่ายภาคเอกชนของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความตั้งใจในการกำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้กับพนักงานในสถานประกอบการ รวมถึงการกำหนดให้มีโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์”ขึ้นมาเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางไมซ์ที่จะเดินทางมายังจังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากอำเภอปากช่องก่อนแล้วค่อยขยายไปยังอำเภออื่นๆ จังหวัดนครราชสีมาก็ต้องขอขอบคุณและความร่วมมือของภาคเอกชน จังหวัดนครราชสีมาก็มีความยินดีและพร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมนี้ ที่ตั้งอยู่บนมาตรการที่รัฐบาลกำหนด
นอกจากนี้ดร.วัชรี ปรัชญานุสรณ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดนครราชสีมาเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือในการวางแผนโครงการเป็นอย่างดี ซึ่ง “โคราชกรีนบ็อกซ์” หมายถึง พื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาที่มีความปลอดภัยและคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม หวังช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องฟื้นตัวโดยเร็วจากการท่องเที่ยว มั่นใจสถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวในโครงการ “โคราชกรีนบ็อกซ์” มีมาตรการหลายชั้นรัดกุม เน้นทั้งผู้ให้บริการที่ต้องมีการตรวจATKทุก7วัน เพื่อความปลอดภัยในด้านการท่องเที่ยว ป้องกันการติดเชื้อ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมั่นใจได้ว่า มาเที่ยวในโครงการโคราชกรีนบ็อกซ์แล้วจะได้รับความปลอดภัยจากการเดินทาง”

น้ำท่วมเขตพื้นที่อำเภอปักธงชัย

วันนี้ 9 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. นายบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย พร้อมด้วยปลัดอำเภอและสมาชิก อส.ร่วมบูรณาการกับ สภ.ปักธงชัย ทหารพรานค่ายปักธงชัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจนท.มูลนิธิพุทธธรรม (ฮุก 31) ลงพื้นที่เฝ้าระวังและตรวจสอบสถานการณ์น้ำ พร้อมให้การช่วยเหลือในการขนย้ายสิ่งของ และการอพยพประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่บ้านใหม่สะแกราช ม.15 ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

ชาวบ้านได้ย้ายข้าวของออกมาจากสถานที่ไปยังพื้นที่สูงและขอให้ประชาชนทุกคนปลอดภัย

ที่มา/ภาพ
หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานนครราชสีมา FB.อาตี๋สอง (ลูกข่ายสว่างเมตตาธรรมสถาน)

หน่วยกู้ภัยฮุก 31

หน่วยกู้ภัยสว่างเมตตาโคราช

ทหารพรานค่ายปักธงชัย

สถานีตำรวจภูธรปักธงชัย

ฝ่ายปกครองอำเภอปักธงชัย

หนังสือพิมพ์อรัญนิวส์โพสต์

ชมรมข่าวเฉพาะกิจเพื่องานสาธารณภัย

ข่าว

นาย ชนาเทพ คะแนนสิน รองหัวหน้าศูนย์ข่าวนครราชสีมา

สิทธิ์ศักดิ์ บุญสมบัติ
หัวหน้าศูนย์ข่าวนครราชสีมา

คำแมน ศิริวาริน
รองบก.ภาคอีสาน

ธวัชชัย เครือบสูงเนิน (ป้องกัน1) บก.ข่าวภาคอีสาน รายงาน

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร มอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร มอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19

เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ณ ศูนย์เรียนรู้ ๑๙ บ้านโนนสวรรค์ ตำบลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พันโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ,นายพิเย็น ภักดีสุวรรณ หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฟผ. ,ดร.อำไพพรรณ สิงห์สกุล ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระเครื่อง จ.ขอนแก่น ,นายสุขุม กาญจนกัณโห ที่ปรึกษานักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน , นายพีรพล แสงสุนีย์ ที่ปรึกษาสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สภท.56ปี) ,นางสาวพิมพ์ธนัญญา ธนาพัชร์จิรกุล ผู้บริหารโรงแรมอัญชันลากูน่า ขอนแก่น พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน และทีมนักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น ร่วมมอบสิ่งของให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ตำบลพระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายวินัย ทองทัพ กำนันตำบลพระลับ พร้อมทีมบริหาร และฝ่ายปกครองตำบลพระลับ เป็นตัวแทนรับมอบ

นโท พิสิษฐ์ ชาญเจริญ นายกสมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน กล่าวว่า สมาคมเครือข่ายสื่อมวลชน ภาคอีสาน ได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และทีมนักสื่อสารสร้างสรรค์ ภาคอีสาน จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตร ได้ร่วมกันรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ ได้แก่ พัดลมติดผนัง หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ กระเป๋าผ้า หมวก และน้ำดื่ม มามอบให้กับศูนย์แบ่งปัน 19 พอเพียง ตำบลพระลับ เพื่อนำไปใช้ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำบลพระลับ ในการปฏิบัติหน้าที่ทุ่มเท เสียสละ และทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถ ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

จากนั้น นายวินัย ทองทัพ กำนันตำบลพระลับ ได้นำคณะเยี่ยมชม Food Bank การก่อสร้างน้ำตก เพื่อบำบัดน้ำเสีย ตามแนวความคิดทำน้ำเสียให้เป็นเงิน โดยได้รับความอนุเคราะห์ และความร่วมมือจากหน่วยงาน ส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เข้ามาให้คำแนะนำ คำปรึกษา ในการปรับปรุงพื้นที่หนองอีเลิง ซึ่งเป็นแหล่งรับน้ำทิ้ง น้ำเสีย ของเมืองขอนแก่น ให้เป็นน้ำดี ก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำชี โดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ท่านได้พระราชทาน เป็นกรอบแนวคิด ซึ่งมุ่งให้ทุกคนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น จนเกิดความยั่งยืน